[dangerous love] รักที่สุดแล้วนายตัวแสบ ตอน 1-2 - นิยาย [dangerous love] รักที่สุดแล้วนายตัวแสบ ตอน 1-2 : Dek-D.com - Writer
×

    [dangerous love] รักที่สุดแล้วนายตัวแสบ ตอน 1-2

    ทำไมเด็กผู้หญิงอย่างฉันต้องเจอแต่เรื่องผิดหวังนะ ทั้งเคยคบกับคนที่ไม่ได้ชอบ เคยคบกับผู้หญิงและโดนหักอกด้วย T___T ทำไม'เบล'ต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ยยยย พอแล้วนะเบล ความรักอ่ะ ไม่.เอา.แล้ว !!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    144

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    144

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 56 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    นานแค่ไหน ที่ตื่นมาก็คิดถึงหน้าเธอ นานแค่ไหน ที่ฉันไม่ได้ฝันถึงคนไหนนอกจากเธอ ไม่รู้ว่านานแค่ไหน นานแค่ไหน ที่เผลอแอบคอยมองหาเธอ
    นานแค่ไหน ที่ตาฉันไม่ได้มองคนไหนนอกจากเธอ ไม่รู้ว่านานแค่ไหน

    How long that I’ve loved you 

    ที่ฉันรักเธอไม่รู้เมื่อไหร่ ที่ทั้งหัวใจ ฉันมีเพียงแต่เธอ

     How long will I love you ไม่รู้ว่าวันนั้นจะนานเท่าไหร่ แต่เวลาแห่งความรัก
    ที่ในใจของฉัน คงไม่หยุดเดิน

     

     

    intro.

    ความรัก...สำหรับคนหลายๆคนแล้วมันหมายถึงได้หลายอย่างทั้งความหวัง ความสุข ความทุกข์ มีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จ และคนที่ต้องพบกับความผิดหวังและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยที่คนเหล่านั้นยังหวังไว้เสมอว่าจะต้องมีสักวันนึงที่คนที่ใช่นั้นจะต้องมาถึงแต่ก็มีหลายคนที่รีบร้อนที่จะได้คความรักเหล่านั้นมา หนึ่งในนั้นคือผู้หญิงผมซอยสั้นสีน้ำตาล ตลอดตั้งแต่เธอย่างก้าวเข้ามาในโลกของเด็กมัธยมเธอได้ประสบกับเหตุการ์ณด้านความรักหลายอย่าง ทั้งการรักคนในเพศเดียวกัน การเสี่ยงคบกับคนที่ตัวเองไม่ได้ชอบ หรือแม้กระทั่งการที่ต้องแอบรักเพื่อนสนิทตัวเองเป็นเวลา2ปีกว่าๆที่ทำให้เธอแทบจะบ้าตาย จนวันหนึ่งเธอพร้อมที่จะยอมแพ้กับความรักจะตัดสินใจที่จะไม่เข้ามาในโลกแห่งความรักครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแต่แล้วกลับมีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาในชีวิตของเธอ และเรื่องราวทุกอย่างก็ได้ถูกเริ่มใหม่อีกครั้ง

    “Hey Little Shooting Star, please tell me is this the right thing to do?”

    =============================================================

    “สั่งใจอย่าไปดิ้นรนให้คนมันไม่รักกัน ~ ฮึกก...มันเหมือนยิ่งพยายามก็ยิ่งทรมาน~ ฮึก”

    เสียงใสแบบสะอึกสะอื้นของเด็กผู้หญิงคนนึงดังลั่นห้องนอนสีชมพูของเธอ เธอเดินโซซัดโซเซไปรอบห้องและทิ้งตัวลงบนเตียงพร้อมกับเอาหน้าซุกหมอนพร้อมกับ...

    “อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา !!!! TOT” กรีดร้องค่ะ

    ผู้หญิงคนนี้ก็คือฉันเองแหละ =..= ไม่ต้องเดาก็คงจะรู้ว่า...สถานะตอนนี้คือเพิ่งโดนหักอกมาค่ะจากเพื่อนสนิทด้วย ToT ทำไมกันทำไม ชีวิตของเบลท่านนี้ถึงตกอับแบบนี้นะ ฉันกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงซักพักก็ต้องลุกขึ้นมาสั่งน้ำมูกออก ยี้! รังเกียจน้ำมูกตัวเองจังT//T โดยเฉพาะมันเป็นน้ำมูกของคนเพิ่งอกหัก...โฮฮฮฮฮฮฮฮ ก็แหงล่ะใครเค้าจะมารักกับฉันล่ะ?ผมก็สั้นสีน้ำตาลคาราเมลแบบทอม T__T หน้าตาก็ไม่ดียังกะโจร T__T แต่นิสัยดี (เอ๊ะ?) เบลเครียดค่ะ U____U ก็อย่างที่พูดนั้นแหล่ะ ความเป็นผู้หญิงของฉันมันไม่ค่อยมีอ่ะนะ ผมก็สั๊นสั้น จริงๆแล้วเคยยาวเท่าบ่านะแต่ตอนนี้มีแฟนอยู่ พอเลิกกับแฟนแล้วก็ตัดฉับเลยง่ะ เลยทำให้มีหญิงมาติดเฉยเลยด้วย =///= เหออออ พูดแล้วก็เครียด ชีวิตฉันมันจะมีคนดีดีที่จะเข้ามาบ้างไหมเนี่ย 

    ฉันเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อความที่ฉันนั่งอ่านเมื่อสิบนาทีที่แล้วแล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    “ไม่เอาแล้วหล่ะความรัก...และก็...ถึงขนาดส่งข้อความมาปฏิเสธแบบนี้นายคงไม่ชอบฉันจริงๆสินะ...บาซู...”

     

    1.

    “เบลลลลลล จะไปกันแล้วน้าาาา”

    เสียงแหกปากดังลั่นของพี่โบพี่สาวสุดที่ร้ากกกกกกกกก(ประชด)ของฉันดังมาจากข้างล่าง แหม...ไม่ต้องตะโกนก็ได้นะ ฉันรู้เวลาของฉันดีนะยะ == ว่าพวกเราจะต้องออกไปกันแล้วน่ะ ทำไมพี่โบชอบเห็นฉันเป็นเด็กอยู่เรื่อยหนิ == อุ้ย! มัวแต่บ่นเยอะต้องรีบนี่นาเดี๋ยวพ่อว่า

    ฉันก้าวขาฉับฉับออกจากบ้านไปเพื่อขึ้นรถตู้สีขาวที่จอดรออยู่หน้าบ้าน เพราะกางเกงยีนสามส่วนและเสื้อเชิ๊ตตัวใหญ่จึงทำให้ฉันวิ่งได้ง่ายขึ้นจะรอช้าอะไรหล่ะโกยตีนหมาสิ

    ครืดดดดด~ แต่พอฉันเปิดประตูไปกลับเห็นสายตาทั้งสามมองมาแบบอาฆาตนิดนิดน่ะสิทำเอาฉันรีบแก้ตัวไม่ทัน

    “แหะแหะ โทดที พอดีมัวแต่เลือกรองเท้า ^__^;” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มให้กับสายตาพิฆาตของพ่อ 

    เลือกอะไรล่ะ ฉันก็ใส่รองเท้าแตะคู่โปรดของฉันนั้นแหล่ะแต่เพราะแค่เล่นเกมเพลินต่างหากหล่ะ พอพ่อเห็นฉันก็ถอนหายใจแล้วก็นั่งปกติแบบไม่ใส่ใจฉันเท่าไหร่ ส่วนพี่โบก็นั่งหัวเราะคิกคักที่พ่อเมินใส่ฉัน ฮึ่มมม! ไอ้พี่บ้า == .. ส่วนแม่น่ะหรอ ก็นั่งมองไล่ตั้งแต่หัวฉันยันเท้าน่ะสิทำไมน่ะเหรอ...ก็...

    “เบล...นี่พวกเรากำลังไปดูคอนเสิร์ตการกุศลที่เพื่อนของพ่อลูกได้ขึ้นแสดงเลยนะ แต่งตัวให้มันเรียบร้อยหน่อยสิ! แล้วก็ไอ้เสื้อเชิ้ตแบบผู้ชายแบบนั้นอ่ะหยุดใส่ได้แล้ว หัดทำตัวเป็นผู้หญิงบ้างสิ!”

    “ค่า ค่า ค่า เรารีบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ ? ไปกันเถอะ ! พี่เผือกออกรถเลยนะคะ ^ ^;” ฉันทำเป็นเปลี่ยนเรื่องแล้วบอกให้พี่เผือก พี่คนขับรถของบ้านให้ออกรถ แหงล่ะใครจะฟังแม่บ่นต่อกันล่ะ -___-” 

    พอพี่เผือกมั่นใจแล้วว่าฉันลงไปนั่งกับเบาะแล้วเรียบร้อย รถก็เริ่มเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายปลายทาง จริงๆแล้วคอนเสิร์ตที่ฉันจะไปดูน่ะก็แค่คอนเสิร์ตเล็กๆที่รวมคนแก่ๆไว้เท่านั้นแหล่ะ =^= แล้วบังเอิญว่าเพื่อนสนิทพ่อได้ขึ้นไปแสดงพวกฉันเลยต้องไปดูเป็นมารยาท ... แต่อยากอยู่บ้านเล่นเกมมากกว่าหง่ะ

    “เบล แล้วพรุ่งนี้...จะซ้อมวงไหม”

    พ่อฉันถามด้วยน้ำเสียงโมโนโทนแบบคนไร้อารมณ์ เอิ่ม...อย่าถามด้วยน้ำเสียงน่ากลัวแบบนั้นสิ == 

    “ซ้อมสิคะ ปกติ up2u ก็ซ้อมพรุ่งนี้อยู่แล้วนะ”

    “อืม”

    อย่าแค่ อืม ได้ม้ายยยย == มันทำให้ฉันเครียดเหมือนกับว่าพ่อกำลังไม่พอใจอะไรซักอย่างนั้นแหล่ะ อ้อ! แต่พูดถึงวงฉันยังไม่เคยบอกเลยว่าฉันเล่นกีต้าเป็นและตอนนี้อยู่ในวงของโรงเรียนด้วย ฝีมือฉันมันก็ไม่ได้ดีเลิศนะ ส่วนใหญ่เล่นเอาสนุกมากกว่าและอีกอย่าง...มันดูเท่ใช่มั้ยล่ะที่จะเป็นผู้หญิงคนเดียวในวงน่ะ ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ =v= วงของเรามีด้วยกัน 4 คน และง่ายๆเลย ผู้ชาย 3 ผู้หญิง (ที่ไม่เหมือนผู้หญิง) 1 โดยประกอบด้วย นักร้อง กีต้า เบส และ กลอง

    นักร้อง: บาซู

    บาซูหนุ่มน้อยน่าตาดี ตาโตแบบน่ารักนิดนิด ผิวขาวแบบหนุ่มจีน แต่หน้านายนี่ไม่จีนเลยหล่ะ ข้อเสียคงมีแค่อย่างเดียวคือเตี้ยไปหน่อยแต่ก็ถือว่ามาตรฐานสำหรับเด็กไทยนะ == มีนิสัยขี้เล่นและปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นได้ง่าย จึงทำให้เวลาที่พวกเราแสดงบาซูจะเป็นคนทำให้คนดูสนุก บอกตรงๆว่าวงเราดูดีเพราะหมอนี่เลยล่ะ หน้าที่ของบาซูคือร้องเพลง บอกได้เลยว่าบาซูเสียงดีมากกกกกกกกกก มากมากของมาก ฉันเป็นคนนึงล่ะที่หลงใหลกับเสียงของบาซู แค่ร้องเพลงทีสาวก็กรี้ดตายละ สถานะของฉันกับบาซูคือเพื่อนสนิท สนิทแบบ ’เคย’สนิทเว่อร์ ! แต่ฉันดันเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อน่ะสิ U____U อ๊ะ! ไม่เล่าดีกว่า มันเป็นอดีตไปแล้วนะถึงแม้ปัจจุบันพวกเราจะเข้าหน้ากันไม่ติด แต่เรื่องซ้อมวงหมอนั่นก็มาซ้อมอยู่ดี

    มือกลอง: ซัมเมอร์

    เป็นคนอบอุ่นสมชื่อเลยล่ะซัมเมอร์อ่ะ == เนื่องจากเป็นคนค่อนข้างตัวใหญ่แต่ไม่อ้วนนะ กล้ามทั้งนั้นอ่ะ ถ้าฉันโดนต่อยคงได้เจ็บไปหลายวัน ซัมเป็นคนคิดเรื่องที่จะตั้งวงเองเพราะงั้นหากไม่มีซัมวันนี้ก็คงไม่มีup2uหรอก แต่ถ้าให้พูดตามตรงกี่ครั้งแล้วที่วงเกือบถูกยุบเพราะหมอนี่ == ชอบเอาแต่ใจถ้าไม่อยากซ้อมก็จะไม่ซ้อม เอะอะอะไรอะไรก็บอกว่าตัวเองเก่งไม่ต้องซ้อม ทำเอาฉันเกือบลมจับไข้ขึ้นเลยล่ะ แต่ซัมก็มีข้อดีที่ว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษสูง เป็นคนที่ไว้ใจได้ เป็นผู้ชายคนนึงที่มีกลิ่นหอมที่สุดด้วยเป็นคนสะอาดงั้นแหล่ะ และถ้าซัมรักใครซัมจะยอมทำทุกอย่างให้จริงๆเลยล่ะ -..- ที่รู้นี่ไม่ใช่อะไรนะเพราะเคยมีช่วงนึงซัมเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้อยู่ดีๆก็มาบอกรักและคอยหยอดคำหวานๆตลอด ทำเอาฉันเกือบอ้วกไปหลายทีแต่สุดท้ายฉันก็ปฏิเสธไปแล้วหมอนั่นก็หายไปพักนึงเลย ไม่ใช่ความผิดฉันนะ == 

    มือเบส: วินเนอร์ (ชื่อฉันมันปกติที่สุดในวงป่ะเนี่ย)

    ‘ธรรมดา’ คำเดียวจบ == วินเนอร์เป็นสมาชิกใหม่ของวงเราจึงทำให้ฉันไม่ค่อยสนิทด้วย == แต่ถึงจะไม่สนิทฉันก็พูดได้ว่าหมอนี่เป็นคนที่ธรรมดามากไม่เห็นจะเป็นวินเนอร์ตามชื่อเลย วินเนอร์เป็นคนตัวเล็ก (แต่ก็สูงกว่าฉันนะ ==) ตัวขาว ผมดำสั้น จมูกโด่งและตาตี่โคดดดด หาลูกกะตาไม่เคยเจออ่ะค่ะ ==^ แต่ก็ต้องพูดเลยนะว่าหมอนี่ก็หล่อในระดับนึง หล่อแบบหนุ่มจีนอ่ะ เพื่อนฉันคนนึงชื่อทับทิมยังทั้งรักทั้งหลงหมอนี่อยู่เลยด้วย ฉันก็ยังไม่เข้าใจถึงทุกวันนี้ว่ามันน่าให้หลงตรงไหน อีกอย่างวินเนอร์เป็นขี้อายกับผู้หญิงมาก คุยกับผู้หญิงไม่กี่คนในชั้นเอง แม้แต่ฉันยังคุยน้อยเลยเพราะฉะนั้นยัยทิม...เธอหวังไปเถอะ

    ตอนนี้คอนเสิร์ตเริ่มไปได้ซักพักแล้วล่ะคงอีกแป้ปนึงคงจบแล้วล่ะ -____- ฉันเบื่อจะตายอยู่แล้วเนี่ยโชว์สุดท้ายเป็นโชว์ของเด็ก มีเด็กประมาน50คนมายืนรวมกันบนเวทีและร้องเพลงบ้าอะไรก็ไม่รู้ เอาตรงๆฉันขนลุกเลยอ่ะ -____-; เสียงแสบแก้วหูเวอร์ หืมมม แต่เด็กบางคนแอบหน้าตาดีนะเนี่ย ~ ดูอย่างน้องคนนั้นสิเหมือนดาราเด็กของจีนเลยอ่ะ ~ ขอกรี้ดเด็กแป๊ป ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่

    และโชว์ก็จบแบบอลังการมากกกกกกกก แบบทำเอาฉันเกือบหลับเลยล่ะ ~__~ เฮ้อออ เบื่อจัง อยากให้มีเพื่อนมาด้วยจัง จะได้เม้าท์แตก U__U เนื่องจากคนเยอะมากจึงทำให้พวกเราเดินได้ค่อนข้างช้า ฮึ่มมมม เดินกันเร็วๆหน่อยสิฉันอยากกลับบ้านจะตายอยู่ละ ! ไปทางด้านขวาดีกว่าถึงมันจะอ้อมแต่ก็น่าจะเร็วกว่าด้วย -..- 

    “ป๊า ม๊า! เบลไปอีกทางนะ เดินช้าๆแล้วหงุดหงิด!” แล้วก็หันขวับ ! เดินฉับฉับ ! 

    “เจอกันที่จอดรถแล้วกันนะลูก”

    แม่ตะโกนกลับมาส่วนฉันก็รีบเดินจ้ำจ้ำไปที่ทางออกที่แทบจะไม่มีคนเดินออกเลย คงเป็นเพราะมันห่างกับที่จอดรถละมั้ง -___- และฉันก็สังเกตุเห็นคนกลุ่มใหญ่ๆกลุ่มนึงยืนขวางประตูอยู่ ฮึ่ย! คนจะรีบไปอยู่นะ เอ == แต่เด็กที่อยู่ในกลุ่มนั่นหน้าตาคุ้นๆนะ... 

    “!!!!!!” ทันทีที่น้องคนนั้นหันมาให้เห็นหน้าชัดๆ

    นั่นมันเด็กคนที่ฉันแอบกรี้ดบนเวทีหนิ O____O/// กรี้ดดดด~ นี่มันพรมหลิขิตป่ะเนี่ย ~ โอ้ยน่ารักจัง...แต่หน้าคุ้นคุ้นจริงๆนะ ฉันแอบยืนดูแป้ปนึงก็สังเกตุอะไรเข้าให้ คะ...คนที่ยืนคุยกับน้องคนนั้นอยู่...ไม่ล้อกันเล่นใช่มั้ยเนี่ย ฉันออกมาจากซอกหลืบที่แอบอยู่พร้อมกับเดินจ้ำจ้ำไปหาคนกลุ่มนั้นโดยทันที พร้อมกับเงื้อมือออกมาก

    ก็หมอนั่นคือ...

    “วินเนอร์ !!!! ><~”

    ป้าปปปปปป ! 

    “โอ้ยยยย ==; หืออ ? เบลลล =()=!!?”

    ฉันเดินเข้าไปพร้อมกับตบเข้าให้ที่ท้องหมอนั่นเต็มๆ ทำเอาหมอนั่นร้องเสียงหลงแล้วพอหันมามองหน้าฉันก็ทำหน้าเหวอใส่เลย อืมม ดี == นานๆทีจะเห็นหมอนี่ทำหน้าแบบแปลกๆ แต่ไม่เห็นต้องทำท่าโอเวอร์อย่างกับเห็นผีเลยนี่ -*- แต่หนูน้อยคนนั้นเดินออกไปแล้วอ่ะ T^T 

    “วินเองก็มาดูคอนเสิร์ตนี่เหมือนกันด้วยเหรอ -_- ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าวินมีรสนิยมแบบนี้”  ฉันพูดพร้อมกับทำหน้าแบบกวนตีนไปนิดนิดใส่หมอนี่ 

    ก็แหม~ ปกติไม่สนิทกันอยู่แล้วฉันอยากจะสนิทให้มันมากขึ้นหน่อยน่ะสิ ที่เรียกว่าวินน่ะไม่ใช่อะไรนะ ก็ชื่อวินเนอร์มันยาวอ่ะ ==

    “เปล่า วินมาดูญาติวินแสดงน่ะ -*-” 

    หน้าหมอนี่บอกชัดเจนเลยว่าโดนบังคับมา หืมมมม แทนตัวเองด้วยชื่อตัวเองงั้นเหรอ ~ น่ารักจังหมอเนี่ย 55555555 ... ไม่...ฉันหมายถึง แปลกน่ะ == 

    “อ๊ะ! ฉันต้องไปละ ^__^ ฝากบ๊ายบายญาตินายด้วยนะ ฝากบอกด้วยว่าญาตินายน่ารักมากวันนี้ ฮิฮิ เจอกันที่โรงเรียนนะ” ฉันบอกแล้วก็รีบวิ่งออกมา หมอนั่นก็พยักหน้าธรรมดาแล้วก็เดินตามกลุ่มตัวเองไป หู้ยยย ! ไม่นึกนะเนี่ยว่าจะเจอวินเนอร์ที่นี่ ตกใจหมดเลยแต่ที่หมอนั่นแต่งตัวน่ะ มันคือแฟชั่นเหรอ == ช่างเหอะ ขี้เกียจคิดไปนอนในรถดีกว่า ฮ้าววววว !~ 

    ตึ่งตึงตึ้ง ~ ... หืม == ใครทัก whatsapp มานะ ~ ?

    -1 notification from whatsapp- 

    เอ ... อีตาวินเนอร์หนิ ?

    ‘WINNERS: เมื่อกี้ลืมบอกว่าคอนเสิร์ตนี้เหมาะกับเบลมากนะ :)’ 

    ‘Bellelyly: ห้ะ?’  หืมมมม == อะไรของหมอนั่นน่ะ จะชมหรืออะไรหรือเป็นมุข อ๊ะ ตอบกลับมาละ

    ‘WINNERS: ก็มันเป็นคอนเสิร์ตของคนแก่นี่นา :)’

    “!!!!!!” อึ้งค่ะ...

    อี~ตา~วินนนนนนนนนนน == ถ้าทางฉันจะได้ลากตัวปัญหาเข้ามาในชีวิตแสนสงบสุขของฉันเพิ่มอีกคนแล้วล่ะ ==; 

    2.

    “โอ้ยยยยย ! ไอ้เอ๋ออ ! ก็บอกแล้วว่าตรงนี้เล่นอย่างนี้ ! จังหวะแบบนี้ ! เนี่ย 1 2 และเข้าอ่ะ”

    “...ค่ะ T^T” เสียงฉันพูดแบบหงอยหงอย TT

    ตอนนี้คือเวลาซ้อมของวงเราและฉันก็กำลังโดนด่าอยู่ จากใครซะอีกหล่ะ! ก็อีตาวินเนอร์น่ะแหล่ะ ตอนนี้ฉันเป็นคนเดียวที่ยังเล่นท่อนนี้ไม่ได้ซักที ก็มันยากอ่ะ T____T โอ้ยเห็นวินเนอร์ก็เครียดอ่ะ หมอนั่นจากที่ทำหน้านิ่งๆกลับทำหน้าบึ้งตึงและนั่งกุมขมับอยู่มุมห้องโน้นนน TT 

    “หืมมม ? แล้วพวกเธอมาสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ? ^^”

    “ห้ะ ? =*=”

    ซัมเมอร์พูดขณะที่ควงไม้กลองแล้วยิ้มแบบเจ้าเล่ห์มา หมอนี่ต้องการจะสื่ออะไรเนี่ย? แต่มันก็จริงอ่ะ ช่วงนี้ฉันกับวินเนอร์สนิทกันมากขึ้น...ไม่สิต้องพูดว่ากัดกันมากขึ้นมากกว่า ไหนวันก่อนเล่นไพ่กันก็กัดกันแทบจะตายเพราะหมอนั่นดันเล่นโกงฉัน พอฉันเล่นโกงกลับก็โวยใส่แล้วหาว่าฉันเป็นคนแก่ขี้บ่น ฮึ่มมม แล้วจะไม่ให้ฉันบ่นได้ไงอ่ะ แล้วไหนจะโดนคนอื่นแซวว่าเหมือนสามีภรรยาทะเลาะกันด้วยก็ยิ่งทำให้ฉันโมโหมากขึ้นแล้วไปวีนหมอนั่นน่ะสิ 

    “เหอะ! สนิทกับเบลเนี่ยนะ ? ก็เหมือนมีเพื่อนผู้ชายเพิ่มมาคนนึงเท่านั้นแหล่ะ -_-”

    ปิ้ดดดด ! ผู้ชายงั้นเหรอ ?

    “อะไรยะ ! ฉัน.ไม่.ใช่.ผู้.ชาย.นะ !!!!! =*=” ฉันพูดพร้อมกับเน้นๆคำว่า ผู้ชาย

    “ไม่ใช่แต่ก็เหมือน (-v- ) =” 

    หมอนั่นพูดพร้อมกับหันหน้าไปอีกทางแล้วเบ้ปากนิดหน่อยเหมือนกับว่าให้ฉันหยุดเถียงซะทีเพราะเถียงยังไงก็ไม่มีทางชนะอยู่แล้ว หนอยยยย ! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าธาติแท้จะเป็นแบบนี้ ! =*= ยัยทิมชอบไปได้ไงเนี่ยยยยยยยย !? 

    “...จะซ้อมมั้ยเนี่ย... เบล เธอก็รีบรีบเล่นเถอะ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว”

    เสียงบาซูพูดขึ้น บาซูพูดกับฉันทั้งทั้งที่ไม่หันมามองหน้าฉันด้วยซ้ำ ตาของหมอนั่นไม่แม้แต่จะมองมาเลยด้วย แปล๊บบบ ! เอาอีกแล้วไง...น้ำตาจะไหลอีกแล้ว... ไม่เอานะเบล ! เข้มแข็งไว้สิ !

    “นะ...นั่นสินะ ^^; เอาล่ะซ้อมกันต่อเถอะนะ ...” ฉันพูดแบบตะกุกตะกัก แง~ TT แล้วจะให้ทำไงอ่ะ T__T

    “...”

    ทั้งห้องเงียบไปอย่างกับผิดปกติ ฮึ้ยยย T.T บรรยากาศแย่อีกแล้ว จะทำให้บรรยากาศมาคุไปขนาดไหนเนี่ยบาซู ชักจะไม่อยากซ้อมแล้วอ่ะแต่ก็เลิกไม่ได้อีกเพราะวันพฤหัสนี้มีแสดงกับงานโรงเรียนอีกง่ะ T___T 

    “ตามนั้นแหล่ะเบล บาซูเขาหงุดหงิดเพราะเธออ่ะ วินก็อยากกลับบ้านจะตายละ ! เล่นให้ได้สิ !”

    วินเนอร์กอดอกแล้วก็บ่นบ่นบ่นใส่ฉัน ฮึ่มมมม =*= เพราะนายมัวแต่จู้จี้จุกจิกกับฉันนั่นแหล่ะถึงเป็นแบบนี้ ! 

    “รู้แล้วน่า !! งั้นเริ่มใหม่ตั้งแต่แรกนะ เอ้า ! 1,2,...” ฉันบอกจังหวะแล้วพวกเราก็เริ่มเล่นกันใหม่

    แต่ว แต่ว แต่ว~

    เสียงดนตรีผ่านไปเรื่อยๆ ทุกคนดูตั้งใจเล่นตามปกติแต่ใจฉันมันไม่เลยอ่ะ ฮึ่มม เครียดจริงจังอ่ะ จะต้องทำยังไงให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมเนี่ย ...

    • 3 วันผ่านไป-

    อีกหนึ่งชั่วโมงก็จะต้องแสตนบายแล้ว -////- ให้ตายสิจะมีครั้งไหนมั้ยที่ฉันไม่ตื่นเต้นก่อนขึ้นแสดงน่ะ พวกเรา up2u ‘ทุกคน’ ก็ ‘ควร’ ที่จะนั่งกันอยู่ที่โรงอาหารเพื่อรอทางทีมงานเรียกตัวไปแต่อีตาซัมเมอร์ดันหายไปไหนก็ไม่รู้สิ == และยังมี ‘แขกที่ไม่ได้รับเชิญ’ มานั่งอยู่ด้วยอีก

    “เมเปิ้ลลลล ~ กินอะไรยังให้เค้าไปซื้ออะไรให้มั้ย ? <3”

    เดี๋ยวสิ == ให้อิโมติคอนรูปหัวใจนั่นมันอะไรน่ะ !! -[]-” ฮึ่มฮึ่มฮึ่ม หงุดหงิดหงุดหงิด ! 

    “ไม่เอาอ่ะ เราไม่หิวเท่าไหร่น่ะ :) อยู่กับบาซูดีกว่า เดี๋ยวก็ต้องขึ้นแสดงละนี่”

    ผู้หญิงรูปร่างผอมเพรียวแบบหุ่นนางแบบ ผิวคล้ำนิดนิด ตาโต จมูกโด่ง ปากเล็กน่ารัก นั่งไขว่ห้างข้างๆกับนักร้องหน้าใสของวงฉัน โดยที่ทั้งคู่นั่งตรงข้ามฉันกับวินเนอร์ที่มัวแต่นั่งเล่นเกมอยู่ ตานี่ไม่ดูบรรยากาศที่อยู่รอบรอบบ้างเลยเหรอ -__-^^ ฮึ่มมม แล้วคู่นั้นอะไรน่ะ? นั่งกระนุ๋งกระนิ๋งกันอยู่ได้ ปากบอกไม่ได้เป็นแฟนกันแต่หลักฐานมันคาตาอยู่ตรงนี้ชัดชัด == 

    “หืมมม ได้ข่าวว่าไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ใช่เหรอ (^ ^)? แต่นี่มันหลักฐานคาตาฉันเลยนะจ้ะ เมเปิ้ล บาซู ^^” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มกวนตีนพวกนั้นไป ถึงแม้ใจฉันตอนนี้อยากจะลุกขึ้นไปจับยัยเมเปิ้ลยัดลงโถส้วมก็ตามนะ แต่เป็นนางเอกต้องสงบใจเอาไว้ก่อนน่ะนะ ^^ 

    “กะ...ก็พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันจริงจริงนี่นา ^o^;”

    เมเปิ้ลตอบกลับมาแบบลุกลี้ลุกลน แล้วทำไมต้องเหงื่อตกด้วยล่ะยะ ยัยตอแหล ==; ฮึ่มม หงุดหงีดดดดด

    “แต่หลักฐานมันคาตาฉันหนิ ^^ พูดความจริงออกมาก็ไม่ตายหรอกจะโกหกทำไมน่ะ? เรียกร้องความสนใจ?” ฉันพูดพร้อมกับเอามือขึ้นมาเท้าคาง เหอะ ตอนนี้ฉันเหมือนนักสืบที่คอยจับผิดคนร้ายเลยล่ะ =..= 

    “มะ...ไม่ใช่นะ แหม ^^; วันนี้เบลดูแปลกๆนะ เป็นอะไรหรือเปล่า แหะแหะ” 

    วันนี้ฉันปกติมากเลยล่ะ ปกติโคดโคดดดดดดดเลยล่ะ -___-^ แล้วไอ้แหะแหะน่ะมันอะไรกัน คิดว่าแบ้วหรือไง? ไม่ใช่แล้วนะ == 

    “ก็บอกว่าหลักฐานมันคาตาฉันไง! ทำไมต่้องโกหกกันด้วย? อ๋อออ กลัวว่าจะจู๋จี๋กันแล้วมีคนแซวงั้นเหรอ ฮะฮะฮะฮะ บ้าเหรอ ? ไม่มีทางอ่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ยังดีกว่า...” แต่ก่อนที่ฉันจะจบประโยคของฉันก็มีเสียงทุ้มๆดังขึ้นมา

    “เบล...ฉันขอเตือนเธอนะ”

    บาซูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแบบไม่ค่อยพอใจทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก ละยิ่งกว่านั้นยังหันไปซุบซิบอะไรกับเมเปิ้ลก็ไม่รู้ผ่านมาแปปนึงทั้งคู่ก็ลุกออกพร้อมกันและเดินออกไป ทำเอาฉันตกใจจนใบ้กินเลยล่ะ ก่อนที่จะรีบตะโกนออกไป

    “นี่ ! ไปไหนกันน่ะอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ต้องแสดงล่ะนะ !!!! >0< นี่!!” ฉันตะโกนแต่ไม่ได้เสียงดังมากเพราะไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าทะเลาะกันอยู่

    แล้วสองคนนั้นก็ออกไปโดยไม่สนใจฉันเลยด้วยซ้ำ อะไรกันแบบนี้ฉันก็เหมือนเป็นตัวร้ายเลยน่ะสิ ฉันนี่โง่จริงจริงเลย T_____T

    ฉันเอาหน้าซุกลงบนโต๊ะ เฮ่อออ ชักอยากจะร้องไห้แล้วสิ T.T ร้องไห้ดีมั้ยแต่วินเนอร์นั่งอยู่ข้างๆจะให้ร้องยังไงล่ะ T__T กระซิกกระซิก ชวนตานี่คุยดีกว่า T_T

    “นี่...ฉันว่าพวกนั้นต้องเป็นแฟนกันแน่เลยอ่ะ นายคิดว่าไง?” ฉันเงยหน้าขึ้นมาพูดกับวินเนอร์ซึ่งกำลังเล่นเกมอย่างเมามัน

    “... (.___.) กึก กึก กึก กึก กึก อ๊ะ ! (=*=)!!!... โหหหห แพ้อีกละ!”

    หมอนี่ == เล่นเกมเพลินจนไม่ฟังฉันเลยเหรอเนี่ย

    “วินเนอร์ !!!!~”

    “หะ...อะไร? เมื่อกี้คุยกับวินเหรอ ==” 

    ให้ตายสิ == ถ้าต้องอยู่กับหมอนี่ทั้งวันฉันต้องเป็นโรคประสาทตายแน่เลย T^T

    “ก็ใช่น่ะสิ == ฉันถามว่านายคิดว่าบาซูกับเมเปิ้ลเป็นแฟนกันหรือเปล่า”

    “แล้วจะไปยุ่งกับพวกนั้นทำไมล่ะ =*=”

    “...==”

    อ๋ออออ ~ จะด่าว่าฉันเสือกสินะ =*= ฮึ่มมมม ! ให้ตายสิ! ไม่น่าขอความคิดเห็นจากหมอนี่ตั้งแต่แรกเลย !! 

    “เอออออ == โอเค ! ฉันก็แค่เห็นว่าสองคนนั้นเดินออกไปด้วยกันแล้วตอนนี้ก็คงไป สวีทที่ไหนแล้วก็ไม่รู้เท่านั้นแหล่ะ เฮอะ ! =^=” ฉันพูดพร้อมกับกอดอกและสะบัดหน้าเหมือนพวกคุณหนูอารมณ์เสียแบบนั้นแหล่ะ

    “(‘ ‘)” ชิ้งงงง

    “หืมมม นายมองอะไรนะ” ทำไมหมอนั่นจ้องหน้าฉันไม่เลิกเนี่ย ==

    “(‘ ‘)...เปล่า”

    “แล้วมองหน้าฉันทำไม?” 

    “ก็แค่คิดว่าเธอกำลังอิจฉาเมเปิ้ลอยู่น่ะ”

    “...!”

    ฉึกกกกก ! โอ้ยยย TT คำพูดของนายมันโคดบาดจิตใจฉันเลยล่ะ ToT 

    “ว่าไง ? อิจฉาอ่ะเด่! ฉันได้ยินอยู่หรอกที่เธอประชดเมเปิ้ลน่ะ ^^ การพูดการจา      แบบนั้นน่ะมันอิจฉาชัดๆ” 

    “...อืมมม ก็คงจะเป็นแบบนั้น (._.)” ฉันพูดพึมพัมกับตัวเอง

    “ห้ะ ?”

    “...เปล่า ไม่มีอะไรไปกันเถอะ จะถึงเวลาแล้วด้วย -__- นายก็หยุดเล่นเกมนั้นเถอะ == เห็นแล้วรำคาญ...” ฉันตอบแบบหงุดหงิดแล้วก็เดินออกมาเลย ฮึ่มมม หมอนั่นเกือบจะเข้าใจผิดแล้วไงว่าฉันชอบบาซูน่ะ == เอ๊ะ แต่ว่าฉันก็เคยชอบจริงๆหนิแล้วทำไมต้องหงุดหงิดด้วย โว้ยยยย งงตัวเองวุ้ย == 

    “(^___^)” ชิ้งงงง .... ฉันคิดไปเองหรือเปล่าว่ามีคนมองฉันอยู่ ? = = รู้สึกเสียวๆจากด้านหลังแฮะแต่พอหันหลังไปดูก็เจอบุคคลที่ฉันไม่คิดว่าจะนั่งอยู่ตรงนั้น

    “ซัมเมอร์...นายนั่งอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนแล้วน่ะ ==” ฉันพูดอย่างเอือมระอากับผู้ชายคนนึงที่นั่งยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ข้างหลังโต๊ะของฉันอยู่ไม่ไกล ให้ตายสิหมอนี้อยู่มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย 

    “ก็นานพอที่จะเห็นอะไรดีดีเยอะเลยน่ะ ^^”

    “ดีดี?” อะไรที่ว่าดีดี ? ฮึ้ยยย หงุดหงิดชะมัด! ยิ้มแบบนี้อีกละ เกลียดวิธีการยิ้มของหมอนี่ที่สุดเลย == ยิ้มเหมือนกับรู้อะไรสักอย่างมาอย่างนั้นแหล่ะ ฮึ้ยยยย

    “อ้าว? ซัมเมอร์นายมานั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ =*=” วินเนอร์เพิ่งสังเกตุเห็นซัมเมอร์นั่งอยู่ข้างหลังเหมือนกับฉันเลยทำหน้าแปลกใจไม่ใช่น้อย ซัมเมอร์หัวเราะออกมานิดหน่อยพร้อมกับเดินนำหน้าพวกฉันไปก่อน

    “จ้าจ้า ฉันขี้เกียจพูดเยอะเพราะงั้นไปที่เวทีกันเถอะ จะถึงเวลาแล้วด้วย”

    “อืม / โอเค” ฉันกับวินเนอร์ตอบพร้อมกันแล้วก็เดินตามซัมเมอร์ไปอย่างโดยดี

    เฮ้อออ T^T แต่นึกถึงเรื่องบาซูกับเมเปิ้ลทีไรแล้วน้ำตาจะไหลทุกทีเลยง่ะ ช่างเหอะตอนนี้ต้องรีบตัดใจให้ได้ ! สู้สู้สิเบล !

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น