คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1
1
“ สวัสดีค่ะ ”
เสียงดังขึ้นจากทางหน้าเคาเตอร์ ทำให้พนักงานที่ประจำตำแหน่งต้อนรับอยู่ทางด้านล่างของโรงแรมเงยหน้าขึ้น พนักงานคนเดิมคลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนเอ่ยปากถามหญิงสาวแปลกหน้า
“ สวัสดีค่ะ เอเอ็นโฮเทลยินดีต้อนรับค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ ” หญิงสาวพยักหน้าเบาๆยืนยันก่อนรีบบอก
“ คือ...ฉันชื่อคิมเบอร์ลี่ค่ะ เป็นช่างภาพที่คุณธีรนนท์จ้างให้มาถ่ายสถานที่ รบกวนคุณช่วยติดต่อเขาให้หน่อยได้ไหมคะ ”
“ ได้ค่ะ สักครู่นะคะ ”
คิมเบอร์ลี่ยิ้มให้แทนคำตอบ พนักงานรีบยกหูโทรศัพท์ต่อสายหาผู้ที่หญิงสาวต้องการพบทันที คิมเบอร์ลี่ที่ยืนรอจึงได้แต่กวาดสายตาไปทั่วบริเวณโรงแรมอย่างสนใจ
ด้านล่างของโรงแรมดูกว้างขวาง สมกับที่เธอได้ยินชื่อเสียงของโรงแรมนี้มาไม่น้อย พื้นที่ส่วนมากถูกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธ์พามองดูสวยงามและเย็นตา แถมยังมีม้านั่งสีขาวหรือสีฟ้าอ่อนๆตัดกับสีดอกไม้บริเวณจุดต่างๆด้วย ใกล้ๆมีทางเดิมเชื่อมออกไปอีกบริเวณหนึ่ง ซึ่งหญิงสาวคาดว่าน่าจะเป็นห้องอาหารและคาเฟ่ขายของต่างๆที่โรงแรมส่วนมากมักมีกัน หญิงสาวได้แต่พึมพำกับตนเองในใจว่าให้ตายยังไงคงไม่มีวาสนาได้พักที่นี่ เพราะจากที่เคยได้ยินเรื่องราคาห้องพักที่สูงลิ่วพอๆกับความหรูของห้องพักเธอก็ได้แต่ส่ายหน้ากับตัวเองเบาๆ
“ คุณคิมเบอร์ลี่คะ ติดต่อคุณธีรนนท์ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณธีรนนท์บอกว่าขอให้คุณไปรอที่ห้องที่จะจัดงาน คุณบีมขอเก็บเอกสารที่ยังเคลียอยู่แป๊ปเดียวแล้วจะรีบตามลงมาค่ะ เดี๋ยวดิฉันพาคุณไปเอง เชิญค่ะ ”
คิมเบอร์ลี่พยักหน้าเข้าใจก่อนเดินตามพนักงานไปยังสถานที่ที่พนักงานบอก เมื่อมาถึงพนักงานคนเดิมก็รีบขอตัวกลับไปประจำยังเคาเตอร์ต่อ หญิงสาวจึงได้แต่เอ่ยขอบคุณและหันหน้ากลับมามองยังสถานที่จัดงานซึ่งเป็นที่ทำงานของเธอ
บริเวณที่เธอยืนอยู่ เป็นห้องโถงกว้าง ทาสีฟ้าอ่อนดูเย็นตา ทางขวามือเป็นกระจกใสทำให้สามารถมองเห็นบรรยากาศด้านนอกได้ชัด เห็นถึงสวนหย่อมร่มรื่นที่ดูก็รู้ว่าผู้ออกแบบและตกแต่งคงตั้งใจทำมันขึ้นมาให้ผู้ที่มองต้องอมยิ้มตามดังเช่นเธอนี้
มือเรียวเอื้อมมือคว้ากล้องที่ห้อยอยู่ที่คอฉับพลันราวกับเป็นเรื่องปกติที่ถ้าเห็นมุมหรือสิ่งที่ประทับใจแล้วมักหยิบกล้องคู่ใจขึ้นมาถ่ายภาพตรงหน้า
“ เธอเป็นใคร แล้วเข้ามาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง ”
ยังไม่ทันที่นิ้วของคิมเบอร์ลี่จะกดลงที่ปุ่มชัตเตอร์ด้วยซ้ำ เสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นมาจากทางเข้าก่อน หญิงสาวหยุดการกระทำของตนเองลง ก่อนจะหันหน้ามาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียง บอกด้วยเสียงนิ่งพร้อมอมยิ้มส่งให้
“ ฉันชื่อคิมเบอร์ลี่ค่ะ ”
ชายหนุ่มตรงหน้าเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เงยหน้าขึ้นมองเพดานอย่างใช้ความคิด ก่อนจะแสะยิ้มเมื่อก้มลงมาเผชิญหน้ากับเธอโดยตรง ซึ่งหญิงสาวมองยังไงก็สัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตรของชายหนุ่ม
“ คิมเบอร์ลี่ไหน ฉันไม่รู้จัก ” ชายหนุ่มบอกหน้านิ่ง หญิงสาวยังไม่ทันได้โต้ตอบอะไรชายหนุ่มตรงหน้าก็พูดต่อ “ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรเข้ามาในห้องนี้ อ้อ...หรือว่าเป็นแม่บ้านคนใหม่ที่มาทำงาน ”
หญิงสาวถอนหายใจเบาๆกับความคิดที่คิดไปเองของชายหนุ่ม ก่อนเอ่ยปากบอก
“ ฉันไม่ใช่แม่บ้านของที่นี่ ”
“ ถ้าเธอไม่ใช่แม่บ้านของที่นี่แล้วเข้ามาในห้องนี้ทำไม ” ชายหนุ่มชะงักไปนิดกับคำตอบของหญิงสาวก่อนถามด้วยน้ำเสียงติดแข็งอย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวเริ่มขัดใจขึ้นบ้าง แต่ก็ยังคงพูดด้วยเสียงราบเรียบเช่นเดิม
“ ถ้าอย่างนั้นขอโทษด้วยแล้วกันค่ะ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้ ”
คิมเบอร์ลี่ยังคงไม่บอกเหตุผลที่แท้จริงของชายหนุ่ม เพราะคิดว่าถึงจะอธิบายไปอย่างไร ชายหนุ่มผู้พูดจาด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรกับเธอคงจะไม่เข้าใจอยู่ดี คิมเบอร์ลี่เตรียมจะก้าวเท้าเดินแต่เสียงทุ้มต่ำของเขาก็ดังขัดขึ้นก่อน
“ เดี๋ยว ! ” หญิงสาวเงยหน้ามองอย่างสงสัย
“ เข้ามาแล้วอยู่ดีๆพอไล่ก็จะเดินออกไป...ชื่อเสียงเรียงนามก็มาจากไหนไม่รู้...เธอกำลังทำให้ฉันสงสัยว่าเธอเข้ามาดูลาดเลาทำเรื่องอะไรไม่ดี หรือไม่ก็เข้ามาขโมยของ ”
“ ขโมย ? ” หญิงสาวทวนคำว่าขโมยเบาๆกับตนเองอย่างไม่เชื่อหู ผู้ชายตรงหน้าที่หน้าตาจัดว่าดี แต่งตัวดูมีภูมิฐาน ตัดสินคนเพียงแค่ไม่รู้ว่าเธอมาจากไหนเองหรือ และด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนจัดว่านิ่งเสียทีเดียว ทำให้คำพูดที่จะพูดขึ้นมาอีกทีเพื่อปฏิเสธต้องกลืนลงไปในลำคอเมื่อชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้เสียก่อนแล้วพูดขึ้น
“ กล้องนี่ก็ดูราคาแพง ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบกล้องที่คล้องอยู่ที่คอหญิงสาวขึ้นดู ก่อนเลื่อนสายตาขึ้นไปพูดต่อ “ ไม่รู้หยิบมาจากบนโต๊ะแถวๆนี้หรือเปล่า ”
“ คุณเข้าใจผิด ” หญิงสาวเริ่มเดือดบ้าง แต่ก็ยังควบคุมอารมณ์ได้ดียกมือขึ้นไปจับมือชายหนุ่มออก “ กรุณาให้เกียรติกันด้วยค่ะ ”
ชายหนุ่มตรงหน้าแสะยิ้มอย่างไม่เชื่อถือ ทำเอาคิมเบอร์ลี่ได้แต่หันหน้าหนีไปสงบอารมณ์ซึ่งจะทำให้เธอจะระเบิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ ฉันเป็นช่างภาพที่คุณธีรนนท์จ้างมาทำงาน ”
หญิงสาวบอกเสียงราบเรียบ ชายหนุ่มตรงหน้าแทบจะไม่เชื่อหูตนเองที่ได้ยิน กวาดสายตามองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างประเมิน
“ หน้าซื่อๆอย่างเธอนี่นะช่างภาพ ” ชายหนุ่มบอกด้วยสายตาติดเหยียดนิดๆ คิมเบอร์ลี่แทบจะอยากเดินชนไหล่เขาหนีออกไปเลยทีเดียว แต่ก็สงบไว้และโต้ตอบ
“ ถ้าคุณคิดแบบนี้ ใครบนโลกที่คุณมองผ่านๆก็เป็นช่างภาพสำหรับคุณไม่ได้ ” หญิงสาวบอกเสียงนิ่งไม่หลบตาจนทำให้ชายหนุ่มตรงหน้ารู้สึกหมั่นไส้ไม่น้อย “ ...สงสัยช่างภาพในความคิดคุณคงแต่งตัวหรูๆ แต่งหน้าจัดๆ คนๆนั้นถึงจะไม่ได้รับคำดุถูกจากคุณ...ฉันขอตัวค่ะ ”
คิมเบอร์ลี่บอกพร้อมกับก้าวเดินหนีไปข้างหน้า แต่เสียงของชายหนุ่มก็ยังคงดังมาอย่างหาเรื่องอีกอยู่ดี
“ นี่ยัยบ้า ! เธอคิดว่าเธอใหญ่มาจากไหนถึงมาประชดฉันแบบนี้ ? ”
หญิงสาวชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเดินต่อทันที ได้แต่ถอนหายใจยาวพลางบอกตัวเองในใจว่าใจเย็นๆคิมเบอร์ลี่ ชายหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวยังคงยืนนิ่งไม่ตอบก็รีบเดินอ้อมมาข้างหน้าหญิงสาวที่หยุดยืนอยู่ทางหน้าประตู
“ อ่อ...หรือทำตัวหยิ่งๆ ลึกลับๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ บอกไว้ก่อนนะว่าหน้าตาซื่อๆอย่างเธอฉันไม่เคยแม้แต่อยากจะชายตามอง ”
หญิงสาวถึงจุดเดือดทันที ความไม่พอใจเริ่มเผยให้เห็นทางสีหน้าได้ชัดขึ้น ชายหนุ่มได้ใจที่ยั่วอารมณ์หญิงสาวได้รีบพูดต่อด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความกวนประสาทอย่างเห็นได้ชัด
“ หรือว่าจะสนใจดี...หน้าตาอย่างเธอนี่แปลกใหม่ ไม่ค่อยเห็นบนท้องถนน ”
จะบ้าตาย ! หญิงสาวได้แต่คิดคำนี้อยู่ในหัว ไล่เลียงคำพูดที่จะมาโต้ตอบกลับเค้า แต่เมื่อเห็นว่าเถียงไปก็ไร้ประโยชน์จึงได้แต่บอกตัวเองให้นิ่งเข้าไว้ และบอกกลับไปด้วยเสียงเย็นๆ
“ พูดจบรึยังคะ ฉันไม่มีเวลามายืนฟังคุยพูดอะไรเรื่อยเปื่อยได้นาน ” ยิ้มกวนประสาทบนใบหน้าของชายหนุ่มหุบลงทันที ภาพตรงหน้าทำให้คิมเบอร์ลี่ที่หน้านิ่งมานานแทบจะหลุดขำออกมา
“ ยิ้มอะไรหะ ? ”
ชายหนุ่มถามน้ำเสียงหาเรื่อง หญิงสาวรีบกลับมานิ่งก่อนเดินเลี่ยงผ่านไปทันที ชายหนุ่มสบถกับตัวเองอย่างไม่พอใจเบาๆ ก่อนรีบเดินตามพลางตะโกนเรียก
“ นี่ ! เดินหนีทำไม ฉันเป็นถึงรองบริษัทของบริษัทนี้ เธอจะมาเดินหนีง่ายๆอย่างนี้ไม่ได้ ”
หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆกับความเอาแต่ใจและปากเสียของชายหนุ่ม ที่มองผ่านๆดูอย่างกับเด็กที่เรียกร้องความสนใจไม่มีผิด
“ อ้าว ! คิมมาแล้วเหรอ ทำไมเดินออกมาล่ะ ” ธีรนนท์ที่เดินลงมาเห็นหญิงสาวกำลังจะเดินผ่านไปพอดี พอเลื่อนสายตาไปมองข้างหลังก็เห็นชายหนุ่มที่เดินตามมาติดๆก็รีบทักขึ้นอีก
“ ไอหมาก ! แกจะรีบไปไหนวะ ”
ปริญไม่ตอบยังคงเดินจ้ำอ้าวเข้าไปหาหญิงสาวที่ยืนหยุดรอธีรนนท์อยู่ทันที ธีรนนท์เห็นว่าโอกาสกำลังเหมาะรีบเดินเข้าไปหวังจะแนะนำหญิงสาวรุ่นน้องให้เพื่อนสนิทรู้จักเช่นกัน
“ ไอหมาก น้องคนนี้ไงที่ฉัน... ”
“ ฉันรู้แล้ว ! ” ปริญขัดเพื่อนทันทีทั้งที่ธีรนนท์ยังพูดไม่จบ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นที่เห็นสายตาของปริญมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
“ เฮ้ย ! มีอะไรอะไรวะ ทำไมแกถึงมองหน้าน้องเค้าแบบนั้น ”
ธีรนนท์ก้าวเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างเพื่อนพร้อมเอ่ยถาม
“ แกฟังไว้เลยนะไอบีม ” ปริญบอกทั้งที่ไม่ได้มองหน้าเพื่อนหนุ่ม แต่กลับก้าวเข้าไปยืนหน้าหญิงสาวแทนพร้อมกับพูดเสียงดังใส่หน้าของหญิงสาวให้ได้ยินชัดๆ
“ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่มีวันให้ยัยช่างภาพปากดีของแกคนนี้ทำงานให้ฉันแน่ๆ ! ”
.............................................................................
นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศิลปินหรือนักแสดงเสียหาย
หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ ^^
ความคิดเห็น