คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5
5
คิมเบอร์ลี่เดินออกมาจากนอกร้านได้ไม่ไกลนัก ใบหน้าที่แสดงออกดูเรียบเฉย แต่ภายในใจกลับรู้สึกอดโกรธไม่ได้ หญิงสาวคนนั้นเป็นใครถึงได้ทำกับเธออย่างนี้...
เหอะ ! ก็แฟนของ ‘ คุณปริญ ’ ว่าที่เจ้านายของหล่อนในวันเสาร์นี้...
แค่เห็นว่าแฟนของหล่อนไม่ชอบหน้าเธอ ก็เลยหาเรื่อง...ไร้สาระสิ้นดี...
“ จะไปไหน ! ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างตัวของคิมเบอร์ลี่พร้อมกับข้อมือข้างที่ว่างจากการสะพายกระเป๋ากล้องถ่ายรูปถูกใครคนหนึ่งจับไว้ หญิงสาวชะงักไปพอหันไปมองก็แทบหยุดคำด่าที่เตรียมจะหลุดออกมาด้วยความโกรธไม่ได้ แต่ก็ทำได้เพียงสลัดมือออกแรงๆบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
“ กลับบ้าน ” หญิงสาวตอบเสียงห้วน ก้าวเดินต่อเรื่อยๆไม่แม้แต่จะมองหน้าชายหนุ่มข้างๆแม้แต่น้อย
“ นี่เธออย่าหยิ่งนักได้ไหม ? ”
ปริญเดินตาม รีบถามขึ้นด้วยความรำคาญ คิมเบอร์ลี่ฟังแล้วยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ หมดความอดทน หยุดก้าวเดินต่อแล้วหันมาบอกชายหนุ่มที่เดินตามมา
“ นี่ถ้าคุณจะตามมาเยาะเย้ย หรือว่าจะตามมาว่าฉัน ฉันว่าคุณกลับไปซะดีกว่า ” ปริญยืนฟังนิ่ง สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงของหญิงสาวที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ “ อ่อ...หรือที่แฟนคุณทำกับฉันมันยังไม่พอ คุณเลยจะตามมาส่งสายตาดูถูกฉันแบบนั้นต่อ ”
“ มิ้งค์ไม่ใช่แฟนฉัน ” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ
“ ใช่ไม่ใช่ก็เรื่องของคุณ ”
คิมเบอร์ลี่บอกแค่นั้นพร้อมกับเดินหนี ปริญเริ่มรำคาญแต่ก็ยังเดินตามไปต่อ
“ บ้านเธออยู่แถวไหน ” หญิงสาวไม่ตอบ ตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไปราวกับไม่สนใจว่ามีชายหนุ่มเดินอยู่ด้วย
“ เดี๋ยวฉันไปส่ง ”
“ ไม่ต้องค่ะ ฉันกลับของฉันเองได้ ไม่ลำบากคุณดีกว่า ” หญิงสาวบอกออกมาในที่สุด ปริญชะงักไปต้องยอมจำใจพูดต่อ
“ นี่ ! อย่างเรื่องมากนักได้ไหม ฉันรู้นะว่าเธอรู้ว่าฉันตามมาทำไม อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย ”
คิมเบอร์ลี่ได้ยินแล้วหยุดเดินทันที พยายามตั้งสติผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ภายในใจบอกกับตัวเองให้ใจเย็น
“ ถ้างั้นคุณกลับไปเสียเถอะค่ะ อย่าทำมาเป็นดีด้วยทั้งที่ในใจคุณไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเสียนิดเดียวเลยดีกว่า เพราะมันไม่ได้ทำให้ฉันซึ้งหรือรู้สึกดีกับมันเลยแม้แต่น้อย ! ”
หญิงสาวบอกเสียงนิ่งใบหน้าไม่มีร่องรอยของความเป็นมิตร ก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ไป ปริญเห็นแล้วหัวเสีย หงุดหงิดขึ้นมา กว่าจะรู้ตัวลิฟต์ตัวที่คิมเบอร์ลี่เข้าไปก็ปิดลงเสียแล้ว
ปริญบ่นกับตัวเองเบาๆ เท้ารีบก้าวเข้าไปที่ลิฟต์ตัวข้างๆที่เปิดขึ้นพอดี พอมาถึงชั้นล่างปริญตาไวเห็นหลังของหญิงสาวที่เค้ากำลังตามกำลังจะเดินออกจากประตูห้างอยู่ไกลๆ ชายหนุ่มชั่งใจอยู่ ใช้เวลาไม่นานก็รีบเดินแกมวิ่งไปทางโรงจอดรถของห้างด้วยความรีบเร่ง
ปริญขับรถออกมาจากทางออกของห้าง สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณตามจุดประสงค์เพื่อหาใครสักคน ไม่นานสายตาก็พลันไปหยุดลงที่หญิงสาวซึ่งกำลังยืนรอรถแท็กซี่อยู่ตรงทางเดิมริมฟุตบาทเหมือนคราวที่เค้าเห็นหญิงสาวยืนรอรถอยู่ที่หน้าบริษัทเมื่อวาน
ปริญที่เห็นจึงไม่รอช้า รีบขับรถไปเทียบทันที คิมเบอร์ลี่ส่ายหน้าเบาๆอย่างอดรำคาญไม่ได้เมื่อเห็นปริญเลื่อนกระจกรถลงและพูดขึ้น
“ ขึ้นรถ ! ฉันจะไปส่งบ้าน ”
หญิงสาวหันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่ใส่ใจ ปริญไม่สนใจรีบพูดต่อ
“ ขึ้นรถได้สักที เธออยากให้คนอื่นเค้ารำคาญนักรึไง ? ”
ปริญพูดพร้อมกับชำเลืองมองผ่านไหล่ของหญิงสาวไปทางหลัง คิมเบอร์ลี่ชะงักรีบหันกลับไปมองก็เห็นผู้คนที่นั่งยืนรอรถอยู่แล้วมองมาที่เธอเป็นตาเดียว...
หนี...
คิมเบอร์ลี่คิดแค่นั้นก่อนก้าวเดินเลี่ยงไปตามริมฟุตบาท ปริญสบถรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันกับตัวเองอีกครั้งพลางขับรถตาม
“ จะเรียกร้องความสนใจอะไรนักหนาหะ ! อยากให้คนอื่นเค้ามองนักรึไง ”
ปริญบังคับพวงมาลัยให้รถเคลื่อนที่ช้าๆ เปิดกระจกทางฝั่งข้างคนขับลง พลางตะโกนบอก
“ ฉันว่าคุณกลับไปเถอะ ”
หญิงสาวบอกส่งๆพร้อมกับเดินหนีไปอีก ในใจเริ่มเดือดขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ปริญฟังแล้วหมั่นไส้ ความอยากเอาชนะจากที่ไหนไม่รู้มาจ่อรออยู่จนทำให้ปริญหยุดรถและเปิดประตูเดินออกไป
“ กับแค่ขึ้นรถฉันแล้วให้ฉันไปส่งนี่มันจะตายนักรึไง ”
ปริญบอกพร้อมกับคว้าเข้าที่ข้อมือของหญิงสาวทันทีเมื่อก้าวถึงตัว คิมเบอร์ลี่หันมามองหน้าของชายหนุ่มที่อยู่สูงกว่าเธอเล็กน้อย ก่อนพูดขึ้นพลางบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของชายหนุ่ม
“ คุณกำลังทำให้ฉันเริ่มหมดความอดทนกับคุณมากขึ้นทุกที ” หญิงสาวบอกอย่างใจเย็น ปริญได้ยินจึงได้แต่หันหน้าเลี่ยงไปแสะยิ้มอย่างไม่เชื่อถือ
“ ส่วนฉันหมดไปนานแล้วไอความอดทนกับเธอน่ะ ” ปริญบอกขณะมือยังคงจับที่ข้อมือของหญิงสาวยื้อยุดฉุดกันอยู่อย่างนั้น “ ถ้าเธอไม่ยอมขึ้นรถไปดีๆ ฉันก็มีวิธีของฉันเอง ”
ปริญพูดจบก็รีบทำบางอย่างยืนยันคำพูดโดยการรีบช้อนตัวของหญิงสาวขึ้นเหนือพื้น คิมเบอร์ลี่เบิกตากว้างอย่างตกใจ คำพูดหลุดออกมารัวเร็วจนฟังไม่ชัด
“ นี่คุณทำบ้าอะไร ! ปล่อยฉันลง ! ”
ปริญไม่สนใจคำพูดที่ฟังไม่ได้ศัพท์ของหญิงสาว ไม่สนใจคนรอบข้างที่มองมายังชายหนุ่มที่อุ้มหญิงสาวคนหนึ่งอย่างสนใจ แต่กลับรีบพาหญิงสาวที่เค้าอุ้มอยู่เดินตรงไปยังรถฝั่งคนข้างคนขับ เปิดประ ตู วางหญิงสาวลงบนพื้นและดันร่างของหญิงสาวเข้าไปทันที
“ นี่... ! ”
“ เงียบ ! ”
ปริญขัดขึ้นพร้อมกับใช้นิ้วชี้ไปที่หน้าหญิงสาวเป็นเชิงขู่เมื่อเห็นว่าคิมเบอร์ลี่เตรียมจะส่งเสียงออกมาต่อ พอเห็นว่าหญิงสาวชะงักไปจึงถอยออกมาและปิดประตูรถลง แต่ยังไม่ทันได้เดินอ้อมไ ปทางฝั่งคนขับดี หญิงสาวก็รีบผลักประตูออกมาเสียก่อนจนทำให้ปริญยิ่งโมโหรีบเดินกลับอ้อมไปที่ประตูฝั่งที่เค้าเพิ่งเดินออกมา
รีบคว้าที่ข้อมือหญิงสาวที่กำลังจะเดินหนีและดันให้เข้าไปนั่งตามเดิมต่อ แต่คราวนี้ปริญกลับไม่ยอมถอยออกมาง่ายๆ ชายหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งจับที่ประตูรถฝั่งที่เปิดออก อีกข้างจับขึ้นไปที่ด้านบนของรถเหนือศีรษะของหญิงสาว โน้มตัวลง เลื่อนหน้าไปใกล้หญิงสาวมากขึ้นทำเหมือนวันแรกที่เจอกัน ยิ่งเห็นใบหน้าประหม่า หวาดๆ ของหญิงสาว ปริญยิ่งนึกสนุกอยากแกล้งขึ้นมาทันที
“ ถ้าเธอขัดคำสั่งฉันอีกเธอคิดว่าเธอจะโดนอะไร ”
ชายหนุ่มบอกพร้อมกับทำหน้าตาไม่น่าไว้ใจใส่พร้อมกับมองไปทั่วใบหน้า ของหญิงสาว คำพูดที่จ่ออยู่ปากของหญิงสาวเตรียมจะด่าจึงต้องย้อนกลับลงคอไปเสียก่อน
“ คราวที่แล้วเธอก็ปากดีอย่างนี้แหละ... ” ปริญบอกเสียงนิ่ง แทบจะหลุดขำเมื่อเห็นใบหน้าและสายตาของหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่านิ่งมาตลอดของเธอตอนนี้
“ เพราะฉะนั้นถ้าเธอไม่นิ่ง...บอกไว้ก่อนว่าฉันความอดทนต่ำ... ”
ปริญบอกแค่นั้นก็รีบยืดตัวกลับมายืนตามเดิมพลางปิดประตูลงและอ้อมไปทางฝั่งคนขับโดยที่คิมเบอร์ลี่ไม่แม้แต่จะเอามือไปเปิดประตูดังเดิมดั่งที่ตั้งใจไว้แต่น้อย กลับนั่งนิ่งๆเลี่ยงหน้าหันไปมองนอกกระจก พลางคิดในใจว่าหลงกลของผู้ชายคนนี้เข้าอีกเสียแล้ว ปริญที่ก้าวเข้ามานั่งในฝั่งคนขับจึงได้แต่หันไปมองแล้วยิ้มเยาะ พลางพูดประโยคหนึ่งในใจกับตัวเอง...
นึกว่าจะแน่...
.......................................................................................
นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศิลปินหรือนักแสดงเสียหาย
หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ ^^
ความคิดเห็น