คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4
4
คิมเบอร์ลี่ตื่นนอนในช่วงเช้าของวันเพื่อไปรับดอกมะลิที่แม่จะนำมาร้อยเป็นพวงมาลัยที่สวนเป็นปกติของทุกวันที่อยู่บ้าน สายๆในขณะที่กำลังวุ่นอยู่กับการเลือกภาพให้ลูกค้าที่จ้างหญิงสาวไปถ่ายเมื่อประมาณสองวันก่อนเสียงเพลงจากโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ดังขึ้น หญิงสาวมองชื่อแสดงปลายสายว่า ‘ พี่ติ๊ก ’ รุ่นพี่ที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็แปลกใจเล็กน้อยแต่ก็รีบกดรับ
“ สวัสค่ะพี่ติ๊ก ”
“ สวัสดีจ้ะน้องคิม ไมได้โทรมานานเลย ” ปลายสารพูดเสียงสดชื่น หญิงสาวจึงได้แต่อมยิ้มในขณะที่กำลังถือสายอยู่ “ วันนี้ตอนค่ำๆ คิมว่างรึเปล่า ? ”
“ ว่างค่ะ พี่ติ๊กมีอะไรรึเปล่าคะ ” หญิงสาวถามออกไป
“ พอดีที่ร้านพี่กำลังจะปรับปรุงพวกป้ายรายชื่ออาหาร ป้ายโปรโมตใหม่หมด พี่เลยกะว่าจะจ้างน้องคิมให้มาช่วยถ่ายรูปให้สักหน่อยนะจ้ะ พอดีเดี๋ยวพรุ่งนี้จะส่งไปให้ร้านเค้าทำแล้ว ”
“ ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวสักประมาณหกโมงเย็นคิมจะเข้าไปที่ร้านนะคะ ”
หญิงสาวบอกแค่นั้น ฟังพี่ติ๊กพูดอีกนิดหน่อยก็วางสายลง นึกดีใจที่มีงานให้ทำ อย่างน้อยก็น่าจะพอมีรายได้และนำมาช่วยค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้บ้าง
คิมเบอร์ลี่มาตรงเวลาเป๊ะ หกโมงเย็นหญิงสาวก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นบนชั้นสามของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง คิมเบอร์ลี่มองป้ายชื่อหน้าร้านเมื่อมั่นใจว่าไม่ผิดแน่ก็เดินเข้าไป
ภายในร้านค่อนข้างกว้างแต่ถูกจัดแต่งได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ที่เรียกว่าเป็นโซฟาถูกจัดแต่งกันดูเข้าชุดและแยกเป็นส่วนๆให้ความเป็นส่วนตัวได้อย่างชัดเจน ที่ผนังของร้านถูกทาเป็นสีส้มอ่อนๆตัดกับแสงไฟสีขาวภายในร้านดูสบายตา และยังมีภาพเมนูอาหารขนาดใหญ่ติดโชว์อยู่ที่ผนังอีกด้วย
คิมเบอร์ลี่เห็นพี่ติ๊กของเธอเดินจากเคาวเตอร์และยิ้มมาแต่ไกล ยังไม่ทันที่พี่ติ๊กจะเข้าถึงตัวด้วยซ้ำสายตาหญิงสาวก็ไปสะดุดกับโต๊ะลูกค้าตัวหนึ่งที่อยู่ทางขวามือในขณะที่เธอกำลังจะเดินผ่าน
ปริญมากับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอไม่คุ้นหน้าและมั่นใจว่าไม่เคยเจอหรือรู้จักกันมาก่อน หญิงสาวคนนั้นที่คิมเบอร์ลี่คาดว่าน่าจะเป็นแฟนของปริญเธอว่าจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยเลยทีเดียว ใบหน้าคมอยู่ภายใต้เครื่องสำอางที่ถูกตกแต่งจัดจ้านเข้ากับบุคลิก ไหนจะชุดที่หญิงสาวใส่ที่เป็นเดรสสีแดงสดและสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเกินสองคืบ ยังไม่รวมรองเท้าส้นสูงสีดำที่สูงจนคิมเบอร์ลี่คิดว่าถ้าเธอใส่คงเดินต่อไม่รอดตั้งแต่ก้าวสองก้าวเป็นแน่ และไหนจะผมยาวเลยบ่าลงมาเล็กน้อยที่หญิงสาวผู้นั้นย้อมให้เป็นสีทองทั้งหัวพร้อมกับดัดเป็นลอนใหญ่ๆอีก
คิมเบอร์ลี่มัวแต่พิจารณาการแต่งตัวของหญิงสาวตรงหน้าจนไม่ทันมองว่าสายตาของปริญหันมาเจอกับเธอเช่นกัน ชายหนุ่มแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นหญิงสาวที่นี่ แต่พอสายตาของคิมเบอร์ลี่เลื่อนมาสบเข้าก็รีบแสะยิ้มส่งๆอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนักใส่ทันที คิมเบอร์ลี่จึงได้แต่ถอนหายใจและเดินเลี่ยงไป
“ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอคะหมาก เมื่อกี้มิ้งค์เห็นเค้ามองคุณแล้วคุณก็ยังทำหน้าไม่พอใจใส่เค้าอีก ”
ปริญชะงักมองตามร่างหญิงสาวที่ว่าจนเธอหายเข้าไปในห้องครัวที่อยู่หลังเคาวเตอร์ของร้าน นึกขึ้นได้จึงรับหันมาตอบหญิงสาวตรงหน้า
“ เปล่า ไม่มีอะไร...พอดีผู้หญิงคนนั้นผมไม่ค่อยชอบหน้านิดหน่อย ” ปริญตอบราวกับว่าเป็นเรื่องไร้สาระก่อนจะหันไปสนใจกับอาหารของตนเองต่อ
“ ให้มิ้งค์จัดการให้ไหมคะ ? รับรองว่าน่าจะถูกใจคุณ ”
มิ้งค์พูดพลางส่งยิ้มร้ายยืนยัน ปริญเงยหน้าขึ้นมามองแล้วแสะยิ้ม ไม่คิดจะห้าม พลางพยักหน้าน้อยๆ
“ ตามใจ... ”
ผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่าได้กว่าคิมเบอร์ลี่จะไล่ถ่ายรูปอาหารญี่ปุ่นนับสิบที่ทยอยส่งออกมาจากในครัวเสร็จ หญิงสาวลาพร้อมกับรับเงินค่าจ้างที่พี่ติ๊กยืนยันว่าจะให้เสร็จสรรพก็บอกลาเตรียมเดินทางกลับสู่จุดมุ่งหมายคือบ้านของเธอ
คิมเบอร์ลี่เดินออกมาจากห้องครัวตรงสู่ทางออกของร้าน แต่อยู่ดีๆเสียงแหลมแต่เฉียบขาดก็ดังขึ้นข้างตัวขณะที่เธอกำลังจะเดินผ่านโต๊ะของปริญเสียก่อน
“ เดี๋ยวก่อน ! ”
เท้าของคิมเบอร์ลี่หยุดชะงักทันที เธอไม่แม้แต่จะหันไปมองจึงได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆรอฟังธุระของคนที่เรียกเธอไว้
“ หมากเค้าบอกฉันว่าไม่ค่อยชอบหน้าเธอ ” มิ้งค์ หญิงสาวที่คิมเบอร์ลี่คิดไว้ว่าเป็นแฟนของปริญพูดขึ้นพร้อมกับเดินมาหยุดยืนตรงหน้า
“ ฉันเลยรู้สึกหมั่นไส้เธอแทนหมากขึ้นมา ”
หญิงสาวว่าพร้อมกับชำเลืองมองไปทางแฟนหนุ่มหวังจะพูดเอาใจซึ่งเธอคิดว่าชายหนุ่มก็เห็นดีเห็นงามด้วย ซึ่งปริญก็ได้แต่นั่งมองนั่งจุดยิ้มขึ้นที่มุมปากไม่คิดจะห้ามแม้แต่น้อย
ซ่า !
เสียงน้ำจากแก้วน้ำทรงสูงถูกสาดเข้าไปบนใบหน้าของคิมเบอร์ลี่อย่างเต็มแรงเหวี่ยงของแฟนสาวของปริญ คิมเบอร์ลี่ยืนนิ่งไม่โต้ตอบ ใช้มือไล่ปัดน้ำออกจากผมและใบหน้าอย่างใจเย็นไม่สนใจลูกค้าโต๊ะอื่นๆที่พากันตกใจและหันมามองเธอเป็นตาเดียว ปริญทีเห็นเหตุการณ์ชะงักไปเล็กน้อยอย่างแอบตกใจและยิ่งเห็นถึงความใจเย็นและไม่มีแม้แต่คำพูดสักคำหลุดออกมาจากปากหญิงสาวก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก
“ น้องคิม ! เป็นอะไรมากไหม ”
พี่ติ๊ก เจ้าของร้านผู้ที่จ้างเธอมาวันนี้ รีบถลาเข้ามาหาหญิงสาวพลางถามขึ้นอย่างร้อนรนและตกใจ พลางมองไปที่มิ้งค์ซึ่งยืนถือแก้วน้ำท่าสะใจอยู่และเตรียมจะเข้าไปว่าเต็มที่
“ คิมไม่เป็นอะไร อย่าให้เป็นเรื่องเลยค่ะ ”
คิมเบอร์ลี่บอกเสียงนิ่งพร้อมกับชำเลืองตามองไปที่ปริญซึ่งยืนนิ่งมองอยู่
“ คิมขอตัวนะคะพี่ติ๊ก ”
คิมเบอร์ลี่บอกพร้อมกับยกมือไหว้และเตรียมจะเดินออกไป แต่มิ้งค์ก็ยังมิวายทำมาเป็นยืนขวางรวมถึงส่งสายตาที่มองยังไงก็เห็นถึงความดูถูก คิมเบอร์ลี่จ้องมองใบหน้าสวยคมตรงหน้านิ่งอย่างไร้ความรู้สึกก่อนจะเดินเลี่ยงไป
มิ้งค์หันกลับมาเตรียมจะยิ้มให้ปริญแต่ก็เห็นชายหนุ่มยืนสบถอะไรบางอย่างกับตัวเองเบาๆและทำท่าจะเดินจากไป หญิงสาวตกใจจึงรีบคว้าเข้าที่แขนไว้ก่อน
“ นี่หมากจะไปไหนคะ ”
“ จะกลับแล้ว ” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบติดรำคาญ
“ กลับได้ไงคะ เราเพิ่งทานกันได้ไม่นานเองนะ ” หญิงสาวถามเสียงหวาน ปริญเงยหน้ามองเพดานกรอกตาไปมาอย่างเบื่อๆ ก่อนจะก้มลงหยิบกระเป๋าสตางค์ที่พกอยู่ตลอด หยิบเงินจำนวนหนึ่งขึ้นมามากพอสมควร
“ ถ้ามิ้งค์อยากจะกิน มิ้งค์อยู่กินต่อแล้วหารถกลับเองแล้วกัน ส่วนผมจะกลับแล้ว ขอตัว ”
ปริญบอกแล้ววางเงินไว้บนโต๊ะพลางเดินเร็วเลี่ยงไป ปล่อยให้มิ้งค์ได้แต่ยืนมองโวยวายเสียงดังตามหลัง พอเห็นสายตาของคนที่มองมาโดยรอบจึงได้แต่ก้มหน้าอย่างอับอายและนั่งลงอย่างสงบแต่โดยดี
.................................................................................
นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศิลปินเสียหาย
หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ ^^
ความคิดเห็น