ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ของขวัญจากฟากฟ้า
    สายลม
.แห่งความทรงจำ
แนะนำตัวละคร
              เมธาล  ชายหนุ่มอายุ  22  เป็นคนสุภาพอบออุ่น  ใบหล่อเหลาออกแนวหวาน  รูปร่างสูงโปร่ง    เจ้าชายของสาวๆทั่วทั้งมหาวิทยาลัย    มีความทรงจำที่เลวร้ายคือไม่สามารถช่วยชีวิตของคนที่รักได้  เขาจึงกลับกลายมาเป็นคนเย็นชา  และคบกับผู้หญิงอยู่หลายคนเพื่อ  ทำให้ลืมเรื่องราวที่ผ่านมาได้      จนเด็กสาวที่น่ารักราวตุ๊กตาฝรั่งคนหนึ่ง  ถูกสายลมพัดพามาอยู่กับเขา   
              ความรู้สึกงดงามจึงก่อตัวขึ้น    และมันคงจะเป็นไปด้วยดี  ถ้าฟ้าไม่เล่นตลก  ส่งผู้หญิงที่มีใบหน้าท่าทางคล้ายคนที่เขารัก  เข้ามาในชีวิต
              เมธาลจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไรดี  เมื่อความรักครั้งเก่าเรียกให้เขากลับไป  แต่เขารู้ดีว่า ถ้าเขาปล่อยมือของตุ๊กตาตัวนี้  เธอจะต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
              ความจริงแล้ว  คนที่เขารักคือใครกันแน่
             
              มีนฮัน  ชายหนุ่มอายุ  23  ปี    ลูกครึ่งเกาหลี - ไทย  เป็นคนหน้าตาหล่อมากๆ  ถึงจะตี๋ไปนิดก็ตาม  รูปร่างสูงใหญ่เพราะชอบออกกำลังกาย  เรียกได้ว่าเป็นคาสโนว่าระดับเซียนเลยทีเดียว  ไม่ว่าจะเดินไปไหน  รูปหน้าที่ออกแนวตี๋อินเตอร์  และหุ่นราวนายแบบของเขา  ดึงดูดสายตาสาวๆไปทั่ว  มีแฟนมาแล้วไม่ต่ำว่า  20  คน
              อยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย  คนภายนอกมองว่า  เขาเป็นคาสโนว่า  เป็นหัวหน้าแก๊งมอเตอร์ไซด์ดำที่เก่งกาจ  แต่ความจริงแล้ว  มีนฮันเป็นคนอ่อนไหวมาก 
              ความทรงจำของเขา  ผูกติดอยู่กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง  ที่เคยเจอกันเมื่อสิบกว่าปีก่อน  เด็กผู้หญิงคนนั้นและเขาต่างก็มีสร้อยรูปพระจันทร์เหมือนกัน  และสร้อยเส้นนี้เองที่จะช่วยยืนยันว่า  เด็กผู้หญิงที่เขาตามหา  เป็นใคร      เขากำลังตามหาหัวใจของตัวเอง  ที่หล่นหายไปในอดีต
              แล้วโชตชะตาก็พลิกผันให้เขาต้องมา  รู้จักกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนตุ๊กคาฝรั่งอย่างไรอย่างนั้น  ยายตุ๊กตาตัวนี้  ทั้งห้าวและดื้อรั้น  อีกทั้งทำให้ชีวิตคาสโนวาอย่างเขา  วุ่นวายไปหมด
 
              พลอยนภา  หญิงสาวอายุ 21  ปี  เป็นคนสวยมาก  เธออยู่แต่ในกรอบที่มารดาเป็นผู้ขีดเส้นไว้ให้  มีความทรงจำที่เจ็บปวดคือ    ความยากลำบาก  ผู้เป็นพ่อที่ชอบใช้กำลัง ตบตี แย่งเงินไปจากแม่  เธอต่อสู้ดิ้นรนมาตลอดเวลาด้วยความขมขื่น  จนหัวใจมืดดำ
              พอเจอ  นีรา  เด็กสาวที่มีทุกอย่างเหนือกว่า  เลยคิดจะแย่งชิง  เอามาให้หมดทุกอย่าง 
              โชตชะตาพัดพาเธอให้มาเจอกับเมธาลและมีนฮัน
              เมธาลเป็นคนสุภาพ  ทำให้เธอมีความสุขเวลาอยู่ใกล้  ทั้งเขายังบอกอีกว่า  เธอเหมือนคนรักที่ตายไปของเขา  ไม่ยากเลยที่เธอจะดึงเขามาจาก นีรา  เพื่อทำให้นีราเจ็บปวดปางตาย เพราะนีรารักเมธาลมาก 
              ฝ่ายมีนฮัน  เขาเป็นผู้ชายที่หล่อร่ำรวยและมีเส่ห์มากเหลือเกิน  บังเอิญเธอได้รู้ความลับที่สำคัญอย่างหนึ่งของเขา  คือเรื่องเด็กผู้หญิงในวันวานและสร้อยรูปพระจันทร์  ตอนนี้ สร้อยรูปพระจันทร์อยู่ในมือของเธอแล้ว  จะได้มาจากไหนไม่สำคัญหรอก  แต่ว่า เธอจะสวมรอยเป็นเจ้าของสร้อยเส้นนี้  เพื่อ  ทำให้มีนฮันรักเธอให้ได้  แล้วใช้เขาเป็นเครื่องมือทำร้ายนีรา
              นีรา ..เราสองคนเอาชีวิตมาแลกกันเถอะนะ  เธออย่ามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกเลย 
           
              นริศรา  หรือ นีรา ( นางเองจอมรั้น )  หญิงสาวอายุ 19  ปี เพิ่งเรียนจบ  จากโรงเรียนมัธยมในกรุงโซล  ประเทศเกาหลี  เป็นคนน่ารัก  เหมือนตุ๊กตาฝรั่ง    นิสัยก้าวร้าย  ใจดำ  ชอบใช้กำลัง    และไม่เคยเชื่อมั่นเรื่องความรัก  เพราะมีความทรงจำที่เลยร้าย
              ผู้เป็นบิดาของเธอ  คือเจ้าพ่อแห่งฮ่องกงที่ยิ่งใหญ่  ร่ำรวยและหน้าตาดี  จึงมีสาวๆเข้ามามากมาย  แม่ของเธอจึงฆ่าตัวตายด้วยการกรีดข้อมมือตัวเอง  และใส่ยาพิษในขนมบังคับให้เธอทานตั้งแต่ยังเด็ก  ถึงแม้เธอจะรอดตาย    มันก็ไม่ได้ต่างอะไรนักเพราะหลังจากที่แม่จากโลกใบนี้ไป  หัวใจดวงน้อยของนีราก็ปิดตาย  เธอกลายเป็นคนเกลียดความรักตั้งแต่นั้นมา   
              แล้วเวลาก็นำพาให้เธอได้มาเจอกับผู้ชายใจดีอย่างเมธาล  น่าแปลก ..ที่หัวใจของเธอเปิดรับเขาอย่างง่ายดาย  ในบ้านหลังเล็กที่อบอุ่นนั้น  เวลาแต่ละนาที มีความหมายเหลือเกิน
              แต่พ่อกำลังตามหาตัวเธออยู่  เพื่อให้ไปแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง  ไอ้ผู้ชายเฮ็งซวยคนนั้น  ต้องไม่ได้ตายดีแน่ๆ คอนดูนะ  ถ้าเจอหน้าจะอัดให้น่วมเลย
             
              ฟารุท  ชายหนุ่มอายุ  26  ปี  ใบหน้าคนเข้ม  คล้ายเจ้าชายอียิปต์  หัวใจของเขามีเพื่อนางฟ้าองค์น้อยคนเดียว  นั่นคือ  นีรา  เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับนีรา  ในฐานะบอดี้การด์  ที่มีทั้งความจงรักภักดิ์ดีและหัวใจที่งดงาม 
              ต่อหน้าคนอื่น  ฟารุทเป็นคนเย็นชา  ดุ  และ แทบไม่เคยยิ้ม  เป็นมือขวาของเจ้าพ่อบ่อนกาสิโนชื่อดัง  ไม่เคยแพ้ใคร  แต่สำหรับนีราแล้ว  ฟารุทกลับอ่อนโยน  และยอมแพ้นีราในทุกๆเรื่อง    มีสาวๆหลายรายต้องการครอบครองหัวใจของเขา  พวกหล่อนหลงไหลในหน้าตาและชื่อเสียงเงินทอง  อำนาจที่เขามีอยู่ 
              แต่หัวใจของเขา  มีเพื่อนางฟ้าองค์น้อยเท่านั้น  แม้จะเป็นการทรยศในความเชื่อใจของเธอ  เพราะนีราไว้วางใจและรักเขาเหมือนพี่ชาย  หัวใจของเขากลับรู้สึกไปมากกว่านั้น  ไม่รู้ว่าเขาจะห้ามใจตัวเองได้อีกนานเท่าไร  ที่จะห้ามตัวเองไม่ให้แตะต้องนีรา
              ภูอินทร์  วาภากิจเจริญ  บิดาของนีรา    เป็นเจ้าพ่อแห่งวงการกาสิโนชื่อดัง  ยึดติดอยู่ในเงินทองและอำนาจ  จนเผลอทำร้ายครอบครัวของตัวเอง 
              กรองแก้ว  มารดาของพลอบนภา  ผู้หญิงที่ร้ายกาจ  มักใหญ่ใผ่สูง  ทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน  แม้กระทั่งวางแผนทำลายครอบครัวของนีรา
              ระสา  หญิงสาวจิตใจดี  ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมอันเลวร้ายได้  หัวใจที่ดีงามของเธอสามารถทำให้นีราเปิดใจยอมรับได้อย่างง่ายดาย
              เอมมวลี หรือ เอมมี่  สาวสวยเปนี้ยวจี๊ด  ที่ชอบโปรยเสน่ห์ล้อเล่นกับความรัก  มีความเชื่อที่ว่าผู้ชายก็เหมือนกันหมดชอบทำร้ายผู้หญิง  เธอจึงพยายามแก้แค้นบ้าง  ด้วยการทำให้ผู้ชายเสียน้ำตา    แต่ก็ใจอ่อนแอบหลงรักเมธาล  เป็นคู่กัดกับนีรา
              แต่สุดท้ายเรื่องราวกับตาลปัด  กลายเป็นคู่ซี้กันได้ไง
              โจ  ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่    ผมสั้นเกรียน  หน้าตาดี  เข้มแข็งและไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งใด หัวหน้าแก๊ง  มังกร  เป็นคู่อริกับแก๊งมอเตอร์ไซด์ดำ  ที่สำคัญ  เขากำลังตามแก้แค้นมีนฮันอยู่เพราะพี่ชายของโจ  ต้องเสียชีวิตในสนาแข่งคราวที่ลงแข่งกับมีนฮัน
              โจตกหลุมรักตุ๊กตาฝรั่งนีราตั้งแต่แรกเจอ  เลยพยายามทำทุกทางแย่งเธอมาจากมีนฮันให้ได้   
                                                                   
(  บทนำ  ตอนที่  1  ) 
              (  เมธาล ..ความรักก็คงเหมือนกับกับของขวัญล้ำค่า  ที่ถูกส่งมาจากฟากฟ้า 
              ก็ไม่รู้ว่า  เด็กสาวคนนี้  เจ้าของดวงตากลมโตสีน้ำเงิน  น่ารักราวตุ๊กตาฝรั่ง  จะใช่ของขวัญจากฟากฟ้าหรือเปล่า  เพราะอยู่ดีๆ  ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าดาวสวย    เธอก็เข้ามาแอบในรถของเขา
              ซ้ำร้ายยังใช้บ้านของเขาเป็นที่หลบภัยอีกด้วย
              คนที่เคยใจร้ายกับความรักอย่างเขา  กลับไม่สามารถใจร้ายกับเธอได้เลย 
              ไม่รู้เพราะอะไร  ) 
ตอนที่ 1    ของขวัญจากฟากฟ้า
              สายลมแห่งฤดูหนาวพัดพาเอาความอ้างว้างมาเยือน
              สิ่งที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความเดียวดายนี้  พัดพามาจากไหนกัน 
              สายลมนี้คงเดินทางมาไกล  ผ่านพ้นระยะทางและผู้คนมามากมาย  ทั้งรอยยิ้ม น้ำตา เสียงหัวเราะ  เรื่องราวที่น่าจดจำ  ไม่น่าจดจำ    ความทรงจำที่น่าหลงไหลและแสนเจ็บปวด    ก็เหมือนชีวิตคนที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา
              ในบางครั้งก็เดินทางไปเจอกับความสุข  บางครั้งก็เดินไปเจอกับความเศร้า ..อย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 
              คงมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้ทุกชีวิตบนโลกใบนี้    มีวันคืนแห่งความหมาย  มีแสงสว่างในวันที่ท้องฟ้ามืดมน  สิ่งนั้นคือความรัก 
              ในความอ้างว้างว่างเปล่าของสายลมนี้  อาจมีบางครั้ง  เขาหวังว่าจะมีสักครั้งที่มีความรักแอบซ่อนมาด้วย  เขาหวังว่า  สายลมจะพัดพาความรักมา  ร่วงรินสู่หัวใจ
              เมธาล กระชับแจ็กเก็ตเมื่อเดินออกมาจากร้านอาหารกึ่งผับร้านหนึ่งในย่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของนักท่องราตรี    ความจริงแล้วเพื่อนๆยังนั่งสนุกต่ออยู่ภายในแต่ที่เขาบอกลาก่อนเพราะไม่ค่อยชอบสถานที่แบบนี้เลย  ทั้งแอลกอฮอล์และควันบุหรี่มันทำให้รู้สึกเวียนหัว  ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอร้องจากรุ่นพี่ที่กำลังจะจบการศึกษาๆเขาไม่มีทางเหยียบย่างเข้ามาในนี้อย่างแน่นอน 
              รอบตัวเวลานี้สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเรียกลูกค้านักเที่ยวทั้งหลาย  แสงไฟหลากสีเคล้ากับเสียงเพลงดังแว่วมาจากในร้านดึงดูดผู้คนให้มารวมตัวกันที่นี่  ใครหลายคนยังไม่ยอมกลับบ้าน  ยังคงปล่อยตัวเองกับความสุขอันจอมปลอมฉาบฉวยที่น่าหลงใหล
              คงเป็นเพราะในบางครั้งบ้านก็ไม่ใช่ที่ๆจะหาความสุขความอบอุ่นอย่างได้เลย  หลายคนจึงยอมที่จะบินเข้าหาแสงไฟที่สวยงามเหล่านี้  แม้รู้ดีว่าทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาก็ต้องกลับไปเหงาเช่นเคย
              เมธาลก้าวมาหยุดลงที่รถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่สีดำ  มือหนาเอื้อมไปเปิดประตู  ก่อนที่จะแทรกตัวเข้าไปอะไรบางอย่างสะกิดหัวใจของเขาให้มองไปเบื้องบน 
              ท้องฟ้ายามนี้เต็มไปด้วยลำแสงของดวงดาว    น่าแปลกดีที่วันนี้มองเห็นดาวได้ชัดกว่าทุกคืน  ทั้งๆที่หลายคืนมานี้ทั้งหมอกควันต่างบดบังความงามเอาไว้เสียจนเกือบหมดสิ้น 
            จักรวาลนี้กว้างใหญ่ไพศาลสักเพียงใดกัน  มันไม่มีที่สิ้นสุดใช่ไหม    เขาเองก็เป็นเพียงแค่คนๆหนึ่งที่เป็นจุดเล็กๆในห้วงจักรวาล  เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังรอคอยบางสิ่งบางอย่างมาช่วยทำให้ชีวิตที่ขาดหายถูกเติมเต็ม  ทำให้วันคืนที่อ้างว้างไม่ต้องเงียบเหงาอีกต่อไป
ดาวดวงหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า  สำแสงสีนวลพุ่งเป็นทางยาวก่อนที่จะหายวับไปในความมืดมิด
       
              คำพูดของใครคนหนึ่งดังสะท้อนอยู่ในหัวใจ  นานมาแล้วใครคนนั้นเคยบอกกับเขาว่า 
\"  ความรักก็คือของขวัญล้ำค่า  ที่ถูกส่งมาจากฟากฟ้า  ในสักวันหนึ่งของขวัญชิ้นนั้นก็จะมาสู่มือเรา  และถ้าวันนั้นมาถึงของให้รักษาของขวัญชิ้นนั้นด้วยทั้งหมดของลมหายใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม  \"
              เมื่อไรฟ้าจะส่งของขวัญล้ำค่านั้นมาให้เขา  โลกใบนี้ยาวไกลเหลือเกิน  แล้วอย่างนี้บนโลกกลมๆใบนี้จะมีความรักรอเขาอยู่ไหม ..เมื่อไรถึงจะตามหาจนเจอเสียที
คนที่รอคอย  อยู่ไกล  ถึงสุดขอบฟ้านั้นหรือเปล่า
             
            เมื่อเบนสายตาจากเบื้องบนก็แลเห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งแต่งตัวดูดีด้วยเชิ๊ตสีดำ    เหมือนกับว่ากำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่ด้วยท่าทีร้อนรนใจ  หนึ่งในนั้นที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเพราะแต่งกายทีโดดเด่นด้วยสูทสีเทาและลักษณะที่น่ายำเกรงมองมาทางเขาเหมือนกำลังไตร่ตรองอะไรบางอย่างอยู่เพียงครู่เดียว  ชายหนุ่มคนนั้นก็ละความสนใจแล้วเดินไปทางอื่นโดยมีชายกลุ่มนั้นตามไปไม่ห่าง  เมธาลตัดสินใจก้าวขึ้นรถมุ่งหน้ากลับบ้าน  ทิ้งความเคลือบแคลงใจเอาไว้ตรงนั้น
              การจารจรบนท้องถนนไม่วุ่นวายเหมือนตอนกลางวัน  ขับรถกลางคืนก็สบายอย่างนี้นี่เองไม่ต้องมีใครมาแย่งพื้นที่บนถนนไป  รถสีดำคันเล็กมุ่งหน้าเลียบชานเมือง เพื่อมุ่งหน้าสู่บ้านหลังเล็ก  บ้านสองชั้นสีครีมที่เป็นของขวัญจากพ่อแม่เนื่องจากเขาสามารถเอ็นท์ทรานเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้ตามที่ตั้งใจ  ความภาคภูมิใจแต่มันก็ต้องแลกกับการเดินทางไกล ..ต้องห่างจากท้องฟ้าที่เคยคุ้น  เพราะเขาเป็นเด็กต่างจังหวัด  ..     
              เหนือสุดของประเทศไทยคือจังหวัดเชียงราย    ดินแดนที่อากาศหนาวเย็นและอบอวลไปด้วยกลิ่นไอของธรรมชาติ  เขาเกิดและเติบโตขึ้นที่นั่น
              บ้านพักหลังเล็กอยู่แถบชานเมือง    มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่อาศัยอยู่  จะมีเพื่อนก็คงเป็นเพียงความเงียบเหงา  ที่เข้ามาปลุกเขาแต่เช้าถึงในห้องนอน 
              ความคิดที่ล่อลอยไปไกลกลับคืนมาอีกครั้งเมื่อมีเสียงสวบสาบดังมาจากเบาะหลัง  ด้วยความแปลกใจทำให้เขาเงยหน้าขึ้นไปมองทางกระจกก็ต้องตกใจเมื่อมองเห็นร่างหนึ่งผุดขึ้นมาจากกองผ้าคลุมรถผืนโตที่เพิ่งส่งซักและไปรับมาเมื่อบ่ายนี้  อารามตกใจทำให้เหยียบเบรกกระทันหัน  ทำให้ทั้งคนขับและคนแปลกหน้าต่างหัวคะมำไปข้างหน้าอย่างไม่เป็นท่า
                                                                            ..
              เมธาลยืนกอดอกมองผู้หญิงตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาสีน้ำเงินอย่างพิจารณา  ตาสีนิลมองจับไปที่ใบหน้าขาวผ่องของเธอราวกับอาจารย์จอมเฮี๊ยบที่กำลังจับผิดเด็กดื้อก็ไม่ปาน  เด็กสาวคนนี้คงอายุน้อยกว่าเขาไม่กี่ปี    ดวงตากลมโตสีน้ำเงินกับริมฝีปากชมพูทำให้ใบหน้าขาวนวลนั้นมีเสน่ห์น่ามอง  ยิ่งเส้นผมน้ำตาลเข้มหยิกเป็นลอนสวยที่ยาวลงมาถึงกลางหลังนั่นด้วยแล้วทำให้เจ้าตัวดูเหมือนตุ๊กตาฝรั่งไม่มีผิด
              ที่เขายอมพาเธอมาที่นี่ก็เพราะเจ้าตัวอ้างว่ามีคนคอยตามทำร้าย  ซึ่งเขาเองในตอนนั้นเชื่อสนิทใจเพราะเมื่องลองนึกถึงท่าทางน่ากลัวของชายกลุ่มนั้นมันก็น่าจะเป็นจริงอย่างว่า  แต่ตอนนี้ชักเริ่มสงสัยเสียแล้ว  ไม่รู้ว่าจะเป็นสิบแปดมงกุฎหรือเปล่า    ท่าทางแสบไม่ใช่เล่นๆเลยเพราะที่เธอเข้ามาอยู่ในรถของเขาได้ก็เพราะใช้กุญแจผีเปิดเข้ามาเพราะก่อนลงจากรถเขาตรวจดูอย่างรอบครอบแล้ว    ไม่มีทางที่เขาละสะเพร่าลืมที่จะปิดล๊อคกุญแจก่อนออกจากรถเด็ดขาด
\" นี่นายน่ะ  มองอะไรนักหนา  หน้าเราเหมือนผีมากหรือไง  \"  เมื่อหมดความอดทน  นีราแขวะเขาทันที  คิ้วเรียวงามขวดมุ่นอย่างไม่ชอบใจ  ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยให้ใครหน้าไหนมามองจ้องหน้าอย่างนี้เกินสิบวินาทีเลยนะ  ไม่อย่างนั้นจะอยู่ในข้อหาท้าทายประมาณว่าอยากมีเรื่อง  แต่อีตานี่จ้องเธอเป็นสิบๆนาทีแล้ว    นี่ถ้าไม่เห็นว่าต้องพึ่งพาละก็ ..
\" เธอก็เล่าความจริงมาเสียทีสิ  ไม่อย่างนั้นฉันจับส่งตำรวจ \"
\" จะบ้าหรือไง  เราเล่าให้นายฟังตั้งหลายรอบแล้วนะ  ก็บอกแล้วไงว่ามาตามหาพี่สาวที่ทำงานกรุงเทพฯ  แล้วไปสมัครงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งจนรู้ว่าถูกหลอกไปทำงานที่ .อาบ  อบ  นวด  แล้วตอนนี้ก็ไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท  ไม่รู้ถนนหนทาง  กลับบ้านก็ไม่ได้เพราะที่นาถูกยึด  พ่อแม่ก็  ไปอยู่ไหนแล้วไม่รู้ตอนนี้  \" เธอจีบปากจีบคอเล่า  ความจริงแล้วละครวิทยุที่แม่บ้านชอบฟังเวลาทำงานในครัวนี่ก็มีประโยชน์เหมือนกัน    ต่อไปนี้จะไม่ว่าหรือแกล้งอะไรอีกแล้ว สาธุ
              เขามองดูชุดราตรียาวสีชมพูจางที่เธอสวมใส่ ดูคล้ายเจ้าหญิงในนิทานที่เคยได้ฟังเมื่อตอนเป็นเด็ก
              เจ้าหญิงแสนสวยที่มีดวงตางดงามราวกับเอาดวงดาวทั้งฟ้ามารวมอยู่ด้วยกัน  ชุดที่เธอสวมใส่ไม่ต่างจากชุดของนางฟ้าแสนสวยมันฟูฟ่องละซ้อนทับกันเป็นชั้นๆราวกับกลีบดอกไม้
                บางทีเด็กสาวคนนี้อาจจะร่วงมาจากท้องฟ้าพร้อมดาวดวงนั้นก็ได้  เป็นเจ้าหญิงที่พลัดหลงมาจากเทพนิยาย
\" ถ้านายลำบากใจ  ปล่อยให้เราไปตายเอาดาบหน้าก็ได้  ล่าก่อน  \"  เห็นเขาเงียบไปเลยชักใจคอไม่ดี  หรือว่ากำลังจะหาทางไล่กันแน่
\"  เดี๋ยว  ไม่ต้องไปไหน  ฉันอนุญาตให้เธออยู่ที่นี่ก็ได้ ..แต่ว่าแค่ชั่วคราวนะ  ถ้าเจอพี่สาวเธอต้องไปจากที่นี่ทันที  \" 
\"  จริงๆ  นะ  นายให้เราอยู่ที่นี่  ดีใจจัง  \"  ได้ผลกะอยู่แล้วว่าอีตานี่ต้องใจอ่อนเหมือนหน้าตาแน่ๆ  ท่าทางซื่อๆอย่างนี้จะมารู้ทันอะไรกับคนอย่างนีรา  เธอยิ้มเจ้าเล่ย์อย่างผู้ชนะ
\" อย่าดีใจนักเลย  จำไว้ว่าแค่ชั่วคราวเท่านั้น  ฉันไม่อยากหาเรื่องเดือดร้อนมาใส่ตัวหรอก  ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็วุ่นวายมากพอแล้ว \"  เขาบอกเสียงแข็งๆ 
\" รู้แล้วน่า ไม่ต้องย้ำหรอก  ใครว่าเราจะอยู่ที่นี่ไปจนตายล่ะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวด้วยว่าเราจะเป็นขโมย  รับรองได้ \" 
\" จะลองเชื่อดูสักครั้ง  แต่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่เธอต้องเชื่อฟังและอย่าสร้างความรำคาญให้เด็ดขาด  ไม่อย่างนั้น \" 
\" ไม่ต้องขู่หรอกน่า  เราโตแล้วรู้ดีว่าต้องทำตัวยังไง \" นีราไม่ยอมฟังจนจบประโยค  เธอแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ 
\"ที่นี่มีห้องนอนสองห้องอยู่ชั้นบนห้องครัวห้องน้ำอยู่ชั้นล่างเธออยู่ห้องเล็กก็แล้วกัน  แล้ว ..\"
              เมธาลอธิบายพร้อมกับชี้ไปที่ห้องชั้นบนและกำลังจะพาไปดูรอบบ้านแต่ปรากฏว่าพอหันมาอีกทีคนตัวเล็กก็ไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิมอีกแล้ว  ร่างบางเดินดูโน่นนี้ไปทั่วอย่างกับว่าสนิทกับเจ้าของบ้านมานานนับปี  ชักจะไม่แน่ใจเสียแล้วว่าคิดผิดหรือถูกที่ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาอยู่ในบ้าน  เด็กสาวคนนี้อาจเป็นสิบแปดมงกุฎ    อาจเป็นเด็กใจแตกแอบหาเงินในทางผิดๆและหนีออกจากบ้าน 
              แต่ก็อย่างว่าเขามันคนใจอ่อนดึกดื่นอย่างนี้ การที่ต้องให้ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่น่ารักราวกับตุ๊กตาฝรั่งออกไปเดินเร่ร่อนกลางถนนคงไม่ดีแน่    และเรื่องบางเรื่องมันก็หาเหตุผลไม่ได้เอาเสียเลย  แค่หัวใจรู้สึกก็พอแล้ว  อย่างที่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเธอไม่ใช่ศัตรู    เท่านี้มันก็มากเกินพอแล้วที่จะให้เธออาศัยอยู่ที่นี่  แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าต่อกันก็ตาม   
              นีราเดินดูรอบบ้าน  ท่าทางเขาจะเป็นคนรักสะอาดมากเลยทีเดียว  ข้าวของถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ใจกลางห้องคือโซฟาสีน้ำเงินบุกำมะหยี่  อยู่ในส่วนของห้องนั่งเล่น  ภาพวาดทะเลหลายต่อหลายภาพแขวนไว้ตรงผนัง  อย่างน้อยก็รู้แล้วว่ามีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือทะเล  เขาและเธอชอบทะเลเหมือนกัน    จัดบ้านได้น่าอยู่ทีเดียว  แต่รู้สึกว่าเขาจะชอบสีโทนเข้มเป็นพิเศษ  แถมยังไม่มีเครื่องประดับน่ารักๆมีสีสันบ้างเลย  ถึงจะสวยแต่สวยอย่างเศร้าๆอย่างไรไม่รู้
              ในอีกมุมหนึ่งชั้นวางของที่สูงเกือบ 2  เมตรวางกั้นอาณาเขตของห้องครัวเอาไว้      ห้องครัวเล็กแต่สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบ  รอยยิ้มพราวปรากฏอยู่บนใบหน้าขาวนวล  บ้านหลังนี้แหละบ้านในฝันของเธอ      ถึงมันจะไม่ใช่บ้านที่ดีที่สุดหนำซ้ำยังมีเจ้าของเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักไม่กี่ชั่วโมง  แต่ก็ยังดีกว่าที่จะต้องเร่ร่อนอย่างไม่มีจุดหมาย  ร่างบางหมุนตัวกลับไปก็พบว่ามีสายตาของเขามองดูอย่างจับผิด  เธอได้แต่ยิ้มแหยๆส่งไป   
              อีตาบ้านี้ถ้าไม่ถือว่าต้องพึ่งพาละก็  ฉันจะอาละวาดนายให้บ้านแตกไปเลย    แต่จะว่าแล้ว  นายก็หล่อไม่เบาเลยเหมือนกัน แต่ว่าหน้าหวานไปหน่อย    ผู้ชายอะไรสวยกว่าเธอเสียอีก    แล้วดูสิตัวสูงชะมัดเลยไม่น่าจะต่ำกว่า  180  เซนติเมตรแน่ๆ    กิริยาท่าทางยังกับเป็นเจ้าชายก็ไม่ปาน  ไม่ว่าจะนั่งยืนเดิน  ดูดีไปเสียหมด  19  ปีของชีวิตยังไม่เคยทีผู้ชายคนไหนที่ได้รับคำชมจากเธอถึงเพียงนี้  แม้จะเป็นเพียงถ้อยคำที่ได้ยินเพียงคนเดียวก็ตาม  นีราพยายามสลัดความฟุ้งซ่านออกไปจากสมอง 
                                    อย่าลืมว่า  ความรัก สำหรับเรามันได้ตายลงไปแล้ว
                                                                            ..
              สำแสงสีทองส่องผ่านฝ้าม่านโปร่งสีขาวมาจนถึงในห้องนอน  ร่างบางที่อยู่บนเตียงขนาดสามฟุตครึ่งบิดขี้เกียจไปมา    เช้าแล้วหรือนี่  ในที่สุดก็ผ่านพ้นไปได้อีกคืน  เธอยังคงมีลมหายใจอยู่  นีรากลั้นใจลุกจากเตียงนอนทั้งที่ความจริงอยากนอนจนถึงเที่ยงวันตามปรกติแต่ว่า  ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอไม่ใช่ที่ๆจะมาทำอะไรตามใจได้    อย่างน้อยก็ต้องลุกขึ้นมาดูความเป็นไปที่เกิดขึ้นของเจ้าของบ้าน        เมื่อคืนเธอคงคุยกับเขาจนหลับไปคาหน้าจอทีวี   
หมายความว่าเขาอุ้มเธอเข้ามานอนในห้องนี้อย่างนั้นหรือ ?
              แปลก .เพราะอะไรถึงไม่รู้สึกกลัวเลยนะทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  เธอเองก็ไม่ต่างอะไรจากนกหลงทางที่หนีมาเพื่อหาที่พึ่งพา  ถ้าเขาจะทำร้ายเธอมันก็ง่ายนิดเดียว .แต่เขาไม่ทำ 
              นีรากวาดสายตาไปรอบห้องเพราะเมื่อคืนความง่วงทำให้เธอไม่ทันได้สังเกตุอะไร  ห้องนี้คงเป็นห้องรับรองแขก  และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมาพักนานแล้วเธอรู้ได้ถึงความว่างเปล่าเงียบเหงา  เตียงนอนมีผ้าคลุมสีน้ำเงิน  ชั้นวางของขนาดเล็กสีเทามีตุ๊กตาเซรามิกสีขาวสะอาดตาวางเรียงรายนับสิบตัวแลดูหม่นเศ้รา  ไม่มีชีวิตชีวา มันคงสวยมากกว่านี้ถ้าเพียงแต่เจ้าของบ้านจะเพิ่มเต็มสีสันให้บ้านหลังนี้บ้าง
              ร่างบางลุกจากเตียงนอนแล้วเดินไปที่หน้าต่างค่อยๆคลี่ผ้าม่านสีขาว  เมื่อสัมผัสได้ถึงแสงนวลที่สาดส่องมาดวงตากลมโตก็ต้องหยีเล็กลงทันที  ก่อนที่จะปรับระดับสายตาให้ชินกับความสว่างจ้านั้นได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน  ภาพแรกที่เห็นคือมองดูสวนดอกไม้ที่จัดไว้อย่างสวยงามและลงตัว 
              ไม่ใช่สิ มันไม่ใช่สวนดอกไม้  สิ่งที่เธอเห็นอยู่คือต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว  ที่ไร้สีสันใดๆต่างหาก  อืม
              น่าเสียดายถ้าเกิดว่ามีดอกไม้สวยๆมาประดับอยู่ด้วย  มันคงสวยมากขึ้นกว่านี้เป็นกอง  หรือว่า  เจ้าของบ้านเกลียดความงามของดอกไม้อย่านั้นหรือ  ดูเหมือนว่าเขาจะจงใจให้บ้านไม่มีความอ่อนโยนหรืองดงามใดหลงเหลือไว้เลย
              มือบางรูดผ้าม่านปิดไว้ตามเดิมแล้วมาจากชั้นบนเพื่อเข้าห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน  ได้กลิ่นอาหารลอยมาแตะจมูก 
              จู่ๆก็เกิดคำถามขึ้นมาในหัวใจตัวเอง  ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงดีกับเธอจังนะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  เป็นเพียงเพื่อนร่วมโลกคนหนึ่งเท่านั้น  และในขณะเดียวกันสิ่งใดที่ทำให้เธอวางใจในตัวเขา ถึงเพียงนี้  ทั้งๆที่ตลอดชีวิตของเธอต้องคอยระแวดระวังคนอื่นไปเสียหมด
              ก็อย่างว่าบางเรื่องก็หาเหตุผลไม่ได้เสียด้วย  เหตุผลร้อยข้อคงไม่มีความสำคัญถ้าหากว่าหัวใจไม่ได้รู้สึกตามนั้น  เช่นเดียวกันแม้ไม่มีเหตุผลสักข้อแต่หัวใจรู้สึกได้  เหมือนที่เธอรู้สึกได้ว่าเขาปลอดภัย  ก็เชื่อสนิทใจเลยทีเดียว
\" ตื่นแล้วเหรอ  เมื่อคืนหลับสบายไหม \" เมธาลเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่านีราเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็ก      โต๊ะอาหารทรงกลมมีเก้าอี้ล้อมรอบสี่ตัว    ตั้งอยู่ในมุมของห้องครัว  เขาจับจองไว้แล้วตัวหนึ่ง  ข้าวต้มกุ้งและนมแก้วโตเพิ่งดื่มหมดไปเมื่อครู่ 
\" ฉันมีเรียนเช้า  จะกลับมาก็คงค่ำๆ  ถ้าหิวก็เปิดดูของในตู้เย็นตามสบายเลยนะ  \"
\" ..\"
\"  เลิกทำตัวเป็นคนแปลกหน้าต่อกันได้แล้ว  อย่าลืมว่าเรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน  จนกว่าเธอจะตามหาพี่สาวเจอ \"  เป็นอันว่าเขาต้องเป็นฝ่านเปิดการสนทนาขึ้นมาอีกครั้งเพราะดูเหมือนตุ๊กตาตัวเล็ก  จะเกิดอาการประหม่าขึ้นมาจนเห็นได้ชัด  เธอคงกำลังลังเลในแววตาจึงเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม  ถ้าเกิดมาสามารถดึงมันออกมาได้คงกลายเป็นคำถามหลายสิบข้อเลยทีเดียว
\" นายทำอาหารเองเหรอ น่ากินจัง  \"  เป็นคำทักทายที่ไม่ค่อยเอาไหนนักหรอก เธอรู้
\"  ใช่  อยู่คนเดียวก็ต้องหัดช่วยเหลือตัวเองอย่างนี้แหละ  พูดอย่างกับว่าตัวเองไม่เคยทำอาหาร  \"
\" ใครว่าล่ะ  ไม่ค่อยถนัดเท่านั้นเอง  \"  ความหมายก็คือไม่ถนัดอะไรเลยสักอย่าง 
              นีราเธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้างแล้ว  ใบหน้าขาวนวลชะโงกมองอาหารในจาน  ข้าวต้มร้อนๆหอมกรุ่นทีเดียว ชักจะหิวขึ้นมาแล้วเมื่อคืนกินมาม่าไปแค่ซองเดียวเอง    ในส่วนหนึ่งแล้วอดที่จะรู้สึกแปลกๆไม่ได้ที่ต้องอยู่กับคนแปลกหน้าอย่างนี้    แต่ทำไงได้มาถึงขั้นนี้แล้ว
\"  เธอต้องการอะไรเพิ่มไหม  ตอนเย็นฉันจะซื้อมาให้  \" 
\"  ขอเป็นเสื้อผ้าได้ไหม  ชุดของนายตัวใหญ่มากๆเลยนะ  ดูสิ  \"  เสื้อนอนตัวหลวมโคร่งถ้าอยู่บนตัวของเขาก็คงพอดี  แต่พอมันอยู่บนตัวเธอเสื้อนอนตัวเดิมก็ยาวลงมาเกือบถึงเข่าเลยทีเดียว  ส่วนกางเกงผ้าแพรนี่ก็ต้องพับปลายขึ้นมาถึงสามตลบ   
อีตานี่ตัวโตชะมัดเลย    หรือไม่ก็เธอเองหากล่ะที่ตัวเตี้ย  เห็นทีจะเป็นข้อหลังมากกว่า
\"  งั้น ฉันจะหาเสื้อผ้ามาให้สักสองสามชุดก็แล้วกัน    ไปล่ะ  \"
\"  อื้อ  \" นีราจัดการลากเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุดแล้วนั่งลงไป    มือเรียวนั้นกำลังจะตักข้าวต้มเข้าปากแต่แล้วก็ต้องชะงัก
\" ดูแลตัวเองด้วย  อย่าออกไปเพ่นพ่านข้างนอกให้พวกนั้นเห็นเข้าล่ะ  ถ้าใครมากดกริ่งเรียกก็อย่าเปิดรับ  \"  เมธาลลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าและตำราเรียนที่วางอยูบนโซฟา  อดไม่ได้ที่จะหันไปสั่งคนตัวเล็กอีกครั้ง 
              เมื่อคืนเขาพยายามค้นหาความจริงจากเธอแต่ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมเลย  นีราดูดีกว่าที่จะเป็นเด็กบ้านนอกจนๆคนหนึ่ง  ไม่ว่าจะวิธีการพูดจาหรือท่าทางออกจะคล้ายพวกคุณหนูที่มีแต่คนคอยเอาใจมากกว่า    เอาแต่ใจอย่างร้ายกาจเสียด้วย  หวังว่ากลับมาถึงบ้านแล้วคงไม่เห็นบ้านโล่งๆเพราะถูกยกเค้าหรอกนะ
\" ไม่ต้องห่วงหรอกน่า  เราไม่ใช่เด็กเสียหน่อย  \"  นีราอ้อมแอ้มในลำคอ  มันเป็นครั้งแรกที่มีใครก็ไม่รู้บอกให้เธอดูแลตัวเอง    ผู้ชายคนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากคนแปลกหน้าที่พบเจอกันเพียงชั่วข้ามคืนแต่ความรู้สึกวางใจกลับมากมายอย่างบอกไม่ถูก  เธอสัมผัสได้ถึงความเอื้ออาทร  ในท่าทางอ่อนโยนนั้น      ดวงตาคู่สวยนั้นเรื้อนไปด้วยน้ำตา   
พ่อจะเป็นห่วงเธอบ้างไหมนะหรือว่ากำลังมีความสุขอยู่กับครอบครัวใหม่  ลืมลูกดื้อคนนี้ไปแล้ว   
\" เอ่อ เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป \" 
\" มีอะไรหรือเปล่า \"
\" เราอยากรู้ว่า  ทำไม  นายถึงไว้ใจให้เราอยู่ในบ้านหลังนี้  ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย \"
\" ก็คงเหมือนกับที่ \"  เขาส่งยิ้มที่อ่อนโยนให้เธอ  \"  เหมือนกับที่เธอวางใจฉันอย่างไงล่ะ \"
              นีรายิ้มให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ  ความจริงเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังยิ้ม  เมื่อคืนนี้เธอตั้งกำแพงล้อมรอบตัวเอง  กำแพงที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติต่อคนแปลกหน้า  ภายในนั้นมันอึดอัดเหลือเกิน  ระหว่าเธอและเขามีม่านหมอกสีเทากั้นอยู่ 
              แต่มันไม่สำคัญอะไรนักเพราะสิ่งที่เธอคิดในเวลานี้ก็มีเพียงแต่ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งให้พ้นจากคนที่จะมาพาตัวไป  ต้องการที่จะอยู่ในโลกอีกใบ  ที่ห่างไกลจากความจริงที่หนีมา 
              บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคนแปลกหน้าแท้ๆ  แต่ทำไมถึงได้รู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน  ขอให้ฉันได้อยู่ที่นี่อย่างมีรอยยิ้มบ้างได้ไหม  เธอมองตามร่างสูงที่เพิ่งก้าวพ้นตัวบ้านออกไป 
              \" ขอบใจนายมากที่ให้เราได้อยู่ที่นี่  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลข้อใดก็ตาม  ก็ขอบใจจริงๆที่ไม่ไล่เราไปให้พ้นๆ \"
                                                                             
              โรงแรมห้าดาวริมน้ำแห่งนี้    มีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆของเมืองไทย    ด้วยการทัศนีย์ภาพที่สวยงามติดแม่น้ำ  และบริเวณโดยรอบถูกโอบกอดด้วยสีเขียวของแมกไม้ใบหญ้าราวกับเป็นอาณาจักรเล็กๆอีกแห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพ    \"  เดอะสยาม บาหลี โฮเทล \"  เป็นที่ร่ำลือมานานนับสิบปี
              ภาพเบื้องหน้าคือตึกสีขาวสูงตระหง่านไม่ต่ำกว่า  15  ชั้น  ความยิ่งใหญ่และงดงามของมันสะกดใครต่อใครเอาไว้อย่างง่ายดาย  สถาปัตยกรรมบาหลีผสมกับความอ่อนช้อยของไทยที่ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้  มันกลับทำให้โรงแรมแห่งนี้สะดุดตาและโดดเด่นอย่างน่าประหลาด  ดวงไฟขนาดเล็กนับหมื่นพันแขวนระโยงระยางลงมาจากชั้นบนสุดของตัวตึก  ทำให้ดูสวยแปลกตายิ่งในยามที่มีเพียงแสงจากพระจันทร์ของค่ำคืนนี้   
              พนักงานในส่วนหน้าทุกคนสวมใส่ชุดไทยที่เป็นเอกลักษณ์  ดูอ่อนช้อยงดงามน่ารัก  บวกกับทุกส่วนของโรงแรมไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้ที่กว้างขวาง  ห้องพักสุดหรู  ห้องอาหารไทย  ฝรั่งเศล  จีน  ฯลฯ  ต่างขึ้นชื่อในเรื่องความสะอาดอร่อย  ห้างสรรพสิ้นค้าขนาดกลางที่ปิดตลอด 24 ชั่วโมง  ฟิตเนตชั้นดี  สนามออกกำลังกาย    ผับ  บาร์  คาเฟ่  ทุกสิ่งทุกอย่างที่พรั่งพร้อม 
              ภูอินทร์  วาภากิจเจริญ  ใช้เวลานานนับสิบปี  เนรมิตอาณาจักรที่งามเหมือนฝันนี้ขึ้นมา
              เมื่อสามสิบปีก่อนครอบครัวของเขาจัดได้ว่าเป็นครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยนัก  บิดามารดาเป็นทำธุรกิจค้าขายเล็กๆน้อยๆ    จนกระทั่งเขาเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ  เริ่มเล่นการพนัน  ได้บ้างเสียบ้างจนผันตัวเองมาเป็นเจ้ามือ  เริ่มจากบ่อนเล็กๆ และตัดสินใจลงทุนกับเพื่อนชาวฮ่องกงถือว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ไม่พลาดผิดเพราะส่งผลให้เขากลายเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการพนักที่ทรงอำนาจในเวลาเพียง  5  ปี    ในชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างทั้ง  ชื่อเสียง เงินทอง อำนาจ  ที่มากมายมหาศาลเกินกว่าที่คนวัยเดียวกันจะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้
              แต่เมื่อวันที่เขาได้รู้ว่านีรภัทรผู้เป็นภรรยาตั้งท้อง  ความคิดที่จะครอบครองอำนาจอยู่ที่ฮ่องกงไปจนวันสุดท้ายก็เปลี่ยนไป  เขาเริ่มมองหาธุรกิจอื่นที่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตที่สงบสุข  เพื่อไม่ให้เด็กที่กำลังจะเกิดมาต้องตกอยู่ในอันตรายในฐานะที่เป็นลูกสาวของเจ้าพ่อ  และธุรกิจโรงแรมเป็นสิ่งที่เขาหมายตาเอาไว้    เขาฝากฝังกิจการในฮ่องกงกับลูกน้องที่ไว้ใจได้และเดินทางมาเมืองไทย  เริ่มทำธุรกิจโรงแรม
              สิ่งที่เขาวาดฝันเอาไว้ก็คือ  การใช้ชีวิตที่สงบสุขกับครอบครัว  แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วคนที่เคยมีอำนาจ บารมี อยู่ในมือ  กลับไม่สามารถที่จะวางสิ่งเหล่านั้นลงได้ 
              เขาเริ่มหวนกลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง  แต่ไม่ใช่บ่อนการพนัก เป็นเพียง  ดิสโก้  บาร์  ผับ สถานเริงรมย์  ที่มีนับไม่ถ้วนทั่วเมืองไทย
\" ถ้าคิดจะเป็นใหญ่ต้องตัดความอ่อนแอให้หมดไปจากใจ  จะต้องไม่รู้สึก \"  เจ้าพ่อฮ่องกงรุ่นใหญ่คนหนึ่งเคยบอกเขาเอาไว้อย่างนี้
              อำนาจและเงินทอง ต้องแลกกับการสูญเสียอะไรไปมากมายขนาดนี้เชียวหรือ 
            ทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าเวลานี้มันเป็นของเขา  ที่ต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตไขว่คว้ามา  แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสักคน  ที่มาชื่นชนยินดีในความสำเร็จนี้ด้วย   
              เสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาเรียกให้เขากลับคืนสู่โลกของความจริงอีกครั้ง  แม้ไม่ต้องหันกลับไปมองก็พอจะรู้ว่าผู้ที่มาเยือนคือใคร
            ฟารุท เด็กน้อยจากทะเลที่เขาขอตัวมาจากเดนตัลอดีตมือขวา  ที่รับใช้และจงรักภักดีกับเขามานานตั้งแต่เริ่มสร้างตัว    การช่วยชีวิตเขาให้รอดพ้นจากกระสุนปืนทำให้เดนตัลต้องกลายเป็นคนพิการ  ดวงตาข้างหนึ่งของเดนตัลมืดบอด  เขาจึงให้เงินก้อนโตเพื่อให้เดนตัลและครอบครัวจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่    เดลตันใช้เงินส่วนหนึ่งลงทุนทำร้านอาหารริมทะเลและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่นั่น 
              3  ปีผ่านไป เขาเดินทางไปเยี่ยมลูกน้องคนสนิท    ลูกชายคนเล็กของเดนตัลโตขึ้นมาก    เขาสัมผัสได้ทันที่ว่าเด็กคนนี้มีความสามารถ    จากประกายในดวงตานั้นแกร่งกล้า  เขาจึงขอตัวเด็กคนนี้มาตั้งแต่วันนั้น    ซึ่งฟารุทอายุเพียง  7  ขวบ  สิ่งต่างๆที่ฟารุทได้รับคือสิ่งที่ดีที่สุด  ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา    หรือแม้แต่ธุรกิจที่เขามีอยู่ทุกอย่าง    ต่างก็ถูกแบ่งปันให้ฟารุท
             
              ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่เขาไว้วางใจมากที่สุด    เป็นทั้งมือขวา    และเป็นหลานบุญธรรมที่มีอภิสิทธ์รองลงมาจากเขาเลยทีเดียว   
              เมื่อเติบโตขึ้นฟารุทผิดจากผู้เดนตัลเป็นพ่อแทบเรียกได้ว่าอย่างสิ้นเชิง    เพราะเดนตัลมีรูปร่างและหน้าตาดุดัน  แต่ลูกชายกลับเป็นชายหนุ่มรูปงาม  ร่างกายสูงใหญ่  ผิวสีแทนและใบหน้าคมเข้มราวกับเจ้าชายอีหยิปต์   
              อีกทั้งฟารุทยังเป็นคนที่สามารถใกล้ชิดลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาได้  ลูกสาวผู้ดื้อรั้นและเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ   
              สิ่งที่เขาแน่ใจก็คือคนที่จะไม่มีทางทำร้ายนริศราได้เลย  มีเพียงแค่สองคน  คือเขาและฟารุท
\" ได้เรื่องยังไงบ้าง \"  เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยถามผู้ที่เพิ่งมาถึง 
\"  ยังไม่มีใครตามตัวคุณหนูเจอเลยครับแต่คิดว่าคงอยู่ภายในกรุงเทพ  ไม่ไกลจากนี้นัก \" ฟารุทตอบด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดี  สามวันแล้วที่นริศราหายตัวไปจากบ้าน  ความจริงมันก็มาจากความผิดของเขาด้วยที่ใจอ่อน  จนเธอหาโอกาสหนีหายไป  ความผิดของเขา  ที่คอยตามใจเธอมาตั้งแต่เด็กจนเคยชิน  จะทำใจแข็งไม่ได้สักครั้งเดียว  รอบตัวอันตรายมากเพียงใดสำหรับเด็กสาวคนหนึ่งที่ไม่คุ้นเคยกับเมืองไทย  และเป็นลูกสาวเจ้าพ่อที่มีศัตรูรอบด้าน  เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลยเพราะความเป็นห่วง    และการตามหาตัวเธอแทบพลิกแผ่นดิน
\" แกช่วยบอกฉันทีสิ  ว่าจะจัดการกับลูกสาวคนนี้ยังไง  ทั้งหัวดื้อ  ก้าวร้าว  อวดดี  และ ไม่เคยเชื่อฟังใครเลย \"
\" บางทีคุณหนูอาจต้องการเรียกร้องอะไรบางอย่าง  ก็เลยแสดงท่าทางก้าวร้าวออกไป \" น้ำเสียงนั้นที่แฝงไว้ด้วยความยำเกรง  แม้จะเป็นหลานแต่ก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน  เขาเจียมตัวในข้อนี้เสมอ
\" เขาขาดอะไรไปบ้าง  ชีวิตของเขามีทุกอย่างเพียบพร้อม  มากเกินไปเสียด้วยซ้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ  ก็จะมากองอยู่ตรงหน้าทันที  อะไรกันแน่ที่เขาต้องการ \"  ภูอินทร์โพล่งออกมาด้วยอารมณ์ขุ่นมัว  ลูกสาวของเขาเคยบ่นอยากได้รถสปอรต์ยี่ห้อดังราคานับสิบล้านเพียงแค่เปิดเจอในแมกกาซีน  เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการให้ลูกน้องหามาเร็วที่สุดไม่สนใจว่าจะเสียเงินทองไปมากเท่าใด  เพื่อให้เธอพอใจ  แต่พอเอาเข้าจริงๆ  เมื่อได้มาเธอกลับไม่ยอมที่จะแตะต้องมันด้วยซ้ำ  ปรายตามองรถยี่ห้อดังที่บ่นอยากได้เมื่อสองสามวันก่อนอย่างไร้ค่า  ราวกับเศษผงฝุ่น
\" สิ่งที่คุณหนูต้องการ  อาจมีค่ามากกว่าที่เงินจะซื้อก็ได้นะครับ  ผมว่าท่านควรให้เวลาเธอบ้างที่จะอยู่คนเดียว  ทบทวนเรื่องราวหลายๆอย่างเพียงลำพัง \" 
\" แต่แกก็รู้  ว่าข้างนอกไม่ปลอดภัย  ถ้าพวกนั้นได้ตัวยายหนูไป  \" ผู้ที่ได้ชื่อเจ้าพ่อใหญ่หันมาเผชิญหน้ามือขวาของตัวเองด้วยความกังวลใจ
\" ผมเชื่อว่าคุณหนูจะต้องปลอดภัย  ไม่ยอมให้ใครมารังแกฝ่ายเดียวแน่ๆ \"  ฟารุทพยายามให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจขึ้น    \" คุณอาไม่ต้องกังวลให้มากนักหรอกครับ  คนของเราต้องได้ข่าวคุณหนูเร็วๆนี้เรากระจายกำลังทั่วกรุงเทพแล้ว  ยังไงซะ  ก็ต้องตามตัวกลับมาจนได้ \"
              คุณภูอินทร์เพ่งมองคนตรงหน้า  ฟารุทเป็นมือขวาที่เก่งกาจที่สามารถก้าวขึ้นมาและยืนหยัดในวงการนี้อย่างรวดเร็ว  กับอายุเพียง 26  ปี  ก็เป็นหัวหน้าที่สามารถควบคุมลูกน้องนับร้อยพันได้  นิสัยส่วนตัวฟารุทเป็นคนเย็นชา  ห้าวหาญ  เด็ดขาด 
              แต่ก็ยังคงมีจุดอ่อนนั่นคือลูกสาวของเขา  นริศราทำให้คนเข้มแข็ง  แกร่งกล้าอย่างฟารุทกลายเป็นคนอ่อนแอคนในชั่วพริบตา  หลานชายของเขาคนนี้จะใจอ่อนและลืมทุกอย่างถ้าเพียงแต่เธอร้องขอ  ความจงรักภักดีที่มากมายเกินกว่าใครจะมีได้  บางครั้งมันก็ส่งผลร้าย  ถ้าคิดจะจับตัวนริศรา  ระดับหัวหน้าอย่างฟารุทแล้วมันง่ายนิดเดียว  เขารู้  หลายชายคนนี้ของเขา ..จงใจปล่อยเธอไป 
\"ฉันรู้ว่าแกรักและเป็นห่วงยายหนูมาก  แต่อย่าอย่าใจอ่อนจนปล่อยให้ยายหนูต้องไปเผชิญอันตรายข้างนอก    แกอย่าตามใจยายหนูจนเกิดเรื่อง \" 
              ฟารุทก้มหน้าเงียบเพราะสำนึกในความผิดของตัวเอง  สามวันก่อน  ในรถคันนั้น  เขาเปิดโอกาศให้เธอหนีไปได้  เพราะรู้ว่าคุณหนูของเขาต้องการเวลาเพื่อที่จะทบทวนเรื่องราวมากมาบลำพัง  เมื่อหวนคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องหนีออกจากบ้าน  เขาก็กล้าที่จะพูดในบางอย่างทั้งๆที่รู้ว่าอีกคนหนึ่งไม่อยากรับฟัง
\" คุณอาครับ .ผมต้องขอประทานโทษครับ  ถ้าสิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ไม่เหมาะสม  คุณหนูอาจเข้าใจและยอมรับหาก คุณอายอมวางมือจากวงการนี้และ \"
\" แกก็อยู่แวดวงนี้มานานแล้ว น่าจะรู้ดี  วงการนี้  เข้ามาแล้วใช่ว่าจะออกไปได้ง่ายๆ  ถ้าฉันถอนตัวไปตอนนี้  ก็จะไม่ปลอดภัยสำหรับทุกคน  มีคนมากมายที่พร้องจะดับบารมีเราอยู่ทุกเวลา  ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม  ถึงเราจะวางมือแต่มีใครอีกหลายคนที่ไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นเพราะขาดผลประโยชน์ไปด้วย  ถ้าไม่มีอำนาจไม่มีเงินทอง  ใครจะปกป้องเราได้  \"  เสียงเข้มดังขึ้นมาทันที    ภูอินทร์จ้องหน้าคนหนุ่มตรงหน้าเขม็ง  แต่ก็ต้องอ่อนลงเมื่อมองเห็นหน้าเซียวของเขา  ขอบตาคล้ำอย่างคนอดนอนก็เดาได้ว่า  ฟารุทแบกภาระ  ความหนักหน่วงหลายเรื่องเอาไว้ 
\" ไปได้แล้ว  แกเองก็พักผ่อนบ้าง  อย่ามัวแต่ห่วงนังเด็กดื้อนั้นจนตัวเองไม่สบาย  กลับไปพักที่บ้านซะ ..แล้ว อย่าลืมโทรนัดคุณกรองแก้วให้ออกมาทานข้าวกับฉันด้วย \" 
\" ..ครับคุณอา \" 
              ฟารุทถอยออกมาเงียบๆ  ไม่ลืมสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่บริเวณสวนของโรงแรมนั้นดูแลความปลอดภัยของเจ้านายใหญ่ให้ดี  แม้จะอยู่ในสถานที่ๆเป็นของตัวเองก็ใช่ว่าจะปลอดภัย  ก่อนที่จะพาตัวเองเดินเข้าสู่ตัวโรงแรม 
            \"  โทศัพท์หา คุณกรองแก้ว  เมื่อนึกถึงคำสั่งสุดท้ายของผู้เป็นอาก็ทำให้อดนึกถึงนริศราไม่ได้  ..ที่จริงแล้ว  เขานึกถึงเธออยู่ทุกนาทีต่างหาก \"
              หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เธอต้องหนีออกจากบ้าน ก็ด้วยข้อนี้  นีราพยายามขัดขวางการแต่งงานใหม่ของพ่อ    เธอไม่ชอบว่าที่แม่เลี้ยงและลูกสาวของหล่อน  ตั้งแต่สองคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านก็ทะเลาะมีเรื่องราวกันแทบทุกวัน  นริศราอาละวาดขว้างปาข้าวของจนคนในบ้านเองก็กลัวและหนีกระเจิง  มีเพียงเขาที่กล้าเข้าใกล้เธอแม้จะเจอกับพายุอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ   
              คงเป็นเพราะคุณภูอินทร์  ผู้เป็นพ่อของเธอ  แม้จะย่างเข้าวัย 44  ปีแล้วแต่เขายังดูหนุ่มแน่นกว่าคนวัยเดียวกัน  ร่างกายแข็งแรง  ภูมิฐาน  มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม  อีกทั้งพรั่งพร้อมไปด้วยเงินทอง  อำนาจ  ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ต่างเต็มใจก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา 
              แต่มีเพียงกรองแก้วที่สามารถเข้ามาใกล้ได้มากที่สุด    คุณหนูของเขาเลยเกิดอาการไม่พอใจขึ้นมา  เขาเองก็เช่นกันอาจเป็นเพราะว่าในส่วนลึกแล้วเขามีความรู้สึกลางๆว่า ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ใช่คนดีนัก    ก่อนนั้นเขารู้จักกรองแก้วในฐานะพนักงานห้องเสื้อของคุณนีรภัทรภรรยาคนแรกของคุณภูอินทร์    มารดาของนริศรา 
              แต่วันนี้  กรองแก้วก้าวหน้าขึ้นมาเป็น ว่าที่ภรรยาคนใหม่ของภูอินทร์แล้ว    มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คุณหนูของเขาไม่อาจทำใจยอมรับได้  เธอเลยหนีไปแบบนั้น
\" คุณหนู .  ป่านนี้แล้วจะเป็นยังไงบ้าง  ทำอะไรอยู่  กินข้าวหรือยังแล้วมีใครดูแลบ้างไหม  ผมขอโทษ    ไม่น่าปล่อยให้คุณหนูไปเลยในวันนั้น  ผมสัญญาว่าจะปกป้องคุณหนูด้วยชีวิต  ไม่ต้องกลัวหรอกนะ  ไม่ว่ายังไงก็ตาม  ฟารุทคนนี้ก็จะอยู่เคียงข้างคุณหนูตอดไป \"
              มันเป็นเรื่องมหัสจรรย์เหลือเกินสำหรับเขาที่ฟ้าส่งเด็กผู้หญิงคนนี้มาอยู่บนโลก  ในขณะที่เขามีชีวิตอยู่ 
                                นริศราคือของขวัญล้ำค่า
                                                                   
แนะนำตัวละคร
              เมธาล  ชายหนุ่มอายุ  22  เป็นคนสุภาพอบออุ่น  ใบหล่อเหลาออกแนวหวาน  รูปร่างสูงโปร่ง    เจ้าชายของสาวๆทั่วทั้งมหาวิทยาลัย    มีความทรงจำที่เลวร้ายคือไม่สามารถช่วยชีวิตของคนที่รักได้  เขาจึงกลับกลายมาเป็นคนเย็นชา  และคบกับผู้หญิงอยู่หลายคนเพื่อ  ทำให้ลืมเรื่องราวที่ผ่านมาได้      จนเด็กสาวที่น่ารักราวตุ๊กตาฝรั่งคนหนึ่ง  ถูกสายลมพัดพามาอยู่กับเขา   
              ความรู้สึกงดงามจึงก่อตัวขึ้น    และมันคงจะเป็นไปด้วยดี  ถ้าฟ้าไม่เล่นตลก  ส่งผู้หญิงที่มีใบหน้าท่าทางคล้ายคนที่เขารัก  เข้ามาในชีวิต
              เมธาลจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไรดี  เมื่อความรักครั้งเก่าเรียกให้เขากลับไป  แต่เขารู้ดีว่า ถ้าเขาปล่อยมือของตุ๊กตาตัวนี้  เธอจะต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
              ความจริงแล้ว  คนที่เขารักคือใครกันแน่
             
              มีนฮัน  ชายหนุ่มอายุ  23  ปี    ลูกครึ่งเกาหลี - ไทย  เป็นคนหน้าตาหล่อมากๆ  ถึงจะตี๋ไปนิดก็ตาม  รูปร่างสูงใหญ่เพราะชอบออกกำลังกาย  เรียกได้ว่าเป็นคาสโนว่าระดับเซียนเลยทีเดียว  ไม่ว่าจะเดินไปไหน  รูปหน้าที่ออกแนวตี๋อินเตอร์  และหุ่นราวนายแบบของเขา  ดึงดูดสายตาสาวๆไปทั่ว  มีแฟนมาแล้วไม่ต่ำว่า  20  คน
              อยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย  คนภายนอกมองว่า  เขาเป็นคาสโนว่า  เป็นหัวหน้าแก๊งมอเตอร์ไซด์ดำที่เก่งกาจ  แต่ความจริงแล้ว  มีนฮันเป็นคนอ่อนไหวมาก 
              ความทรงจำของเขา  ผูกติดอยู่กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง  ที่เคยเจอกันเมื่อสิบกว่าปีก่อน  เด็กผู้หญิงคนนั้นและเขาต่างก็มีสร้อยรูปพระจันทร์เหมือนกัน  และสร้อยเส้นนี้เองที่จะช่วยยืนยันว่า  เด็กผู้หญิงที่เขาตามหา  เป็นใคร      เขากำลังตามหาหัวใจของตัวเอง  ที่หล่นหายไปในอดีต
              แล้วโชตชะตาก็พลิกผันให้เขาต้องมา  รู้จักกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนตุ๊กคาฝรั่งอย่างไรอย่างนั้น  ยายตุ๊กตาตัวนี้  ทั้งห้าวและดื้อรั้น  อีกทั้งทำให้ชีวิตคาสโนวาอย่างเขา  วุ่นวายไปหมด
 
              พลอยนภา  หญิงสาวอายุ 21  ปี  เป็นคนสวยมาก  เธออยู่แต่ในกรอบที่มารดาเป็นผู้ขีดเส้นไว้ให้  มีความทรงจำที่เจ็บปวดคือ    ความยากลำบาก  ผู้เป็นพ่อที่ชอบใช้กำลัง ตบตี แย่งเงินไปจากแม่  เธอต่อสู้ดิ้นรนมาตลอดเวลาด้วยความขมขื่น  จนหัวใจมืดดำ
              พอเจอ  นีรา  เด็กสาวที่มีทุกอย่างเหนือกว่า  เลยคิดจะแย่งชิง  เอามาให้หมดทุกอย่าง 
              โชตชะตาพัดพาเธอให้มาเจอกับเมธาลและมีนฮัน
              เมธาลเป็นคนสุภาพ  ทำให้เธอมีความสุขเวลาอยู่ใกล้  ทั้งเขายังบอกอีกว่า  เธอเหมือนคนรักที่ตายไปของเขา  ไม่ยากเลยที่เธอจะดึงเขามาจาก นีรา  เพื่อทำให้นีราเจ็บปวดปางตาย เพราะนีรารักเมธาลมาก 
              ฝ่ายมีนฮัน  เขาเป็นผู้ชายที่หล่อร่ำรวยและมีเส่ห์มากเหลือเกิน  บังเอิญเธอได้รู้ความลับที่สำคัญอย่างหนึ่งของเขา  คือเรื่องเด็กผู้หญิงในวันวานและสร้อยรูปพระจันทร์  ตอนนี้ สร้อยรูปพระจันทร์อยู่ในมือของเธอแล้ว  จะได้มาจากไหนไม่สำคัญหรอก  แต่ว่า เธอจะสวมรอยเป็นเจ้าของสร้อยเส้นนี้  เพื่อ  ทำให้มีนฮันรักเธอให้ได้  แล้วใช้เขาเป็นเครื่องมือทำร้ายนีรา
              นีรา ..เราสองคนเอาชีวิตมาแลกกันเถอะนะ  เธออย่ามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกเลย 
           
              นริศรา  หรือ นีรา ( นางเองจอมรั้น )  หญิงสาวอายุ 19  ปี เพิ่งเรียนจบ  จากโรงเรียนมัธยมในกรุงโซล  ประเทศเกาหลี  เป็นคนน่ารัก  เหมือนตุ๊กตาฝรั่ง    นิสัยก้าวร้าย  ใจดำ  ชอบใช้กำลัง    และไม่เคยเชื่อมั่นเรื่องความรัก  เพราะมีความทรงจำที่เลยร้าย
              ผู้เป็นบิดาของเธอ  คือเจ้าพ่อแห่งฮ่องกงที่ยิ่งใหญ่  ร่ำรวยและหน้าตาดี  จึงมีสาวๆเข้ามามากมาย  แม่ของเธอจึงฆ่าตัวตายด้วยการกรีดข้อมมือตัวเอง  และใส่ยาพิษในขนมบังคับให้เธอทานตั้งแต่ยังเด็ก  ถึงแม้เธอจะรอดตาย    มันก็ไม่ได้ต่างอะไรนักเพราะหลังจากที่แม่จากโลกใบนี้ไป  หัวใจดวงน้อยของนีราก็ปิดตาย  เธอกลายเป็นคนเกลียดความรักตั้งแต่นั้นมา   
              แล้วเวลาก็นำพาให้เธอได้มาเจอกับผู้ชายใจดีอย่างเมธาล  น่าแปลก ..ที่หัวใจของเธอเปิดรับเขาอย่างง่ายดาย  ในบ้านหลังเล็กที่อบอุ่นนั้น  เวลาแต่ละนาที มีความหมายเหลือเกิน
              แต่พ่อกำลังตามหาตัวเธออยู่  เพื่อให้ไปแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง  ไอ้ผู้ชายเฮ็งซวยคนนั้น  ต้องไม่ได้ตายดีแน่ๆ คอนดูนะ  ถ้าเจอหน้าจะอัดให้น่วมเลย
             
              ฟารุท  ชายหนุ่มอายุ  26  ปี  ใบหน้าคนเข้ม  คล้ายเจ้าชายอียิปต์  หัวใจของเขามีเพื่อนางฟ้าองค์น้อยคนเดียว  นั่นคือ  นีรา  เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับนีรา  ในฐานะบอดี้การด์  ที่มีทั้งความจงรักภักดิ์ดีและหัวใจที่งดงาม 
              ต่อหน้าคนอื่น  ฟารุทเป็นคนเย็นชา  ดุ  และ แทบไม่เคยยิ้ม  เป็นมือขวาของเจ้าพ่อบ่อนกาสิโนชื่อดัง  ไม่เคยแพ้ใคร  แต่สำหรับนีราแล้ว  ฟารุทกลับอ่อนโยน  และยอมแพ้นีราในทุกๆเรื่อง    มีสาวๆหลายรายต้องการครอบครองหัวใจของเขา  พวกหล่อนหลงไหลในหน้าตาและชื่อเสียงเงินทอง  อำนาจที่เขามีอยู่ 
              แต่หัวใจของเขา  มีเพื่อนางฟ้าองค์น้อยเท่านั้น  แม้จะเป็นการทรยศในความเชื่อใจของเธอ  เพราะนีราไว้วางใจและรักเขาเหมือนพี่ชาย  หัวใจของเขากลับรู้สึกไปมากกว่านั้น  ไม่รู้ว่าเขาจะห้ามใจตัวเองได้อีกนานเท่าไร  ที่จะห้ามตัวเองไม่ให้แตะต้องนีรา
              ภูอินทร์  วาภากิจเจริญ  บิดาของนีรา    เป็นเจ้าพ่อแห่งวงการกาสิโนชื่อดัง  ยึดติดอยู่ในเงินทองและอำนาจ  จนเผลอทำร้ายครอบครัวของตัวเอง 
              กรองแก้ว  มารดาของพลอบนภา  ผู้หญิงที่ร้ายกาจ  มักใหญ่ใผ่สูง  ทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน  แม้กระทั่งวางแผนทำลายครอบครัวของนีรา
              ระสา  หญิงสาวจิตใจดี  ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมอันเลวร้ายได้  หัวใจที่ดีงามของเธอสามารถทำให้นีราเปิดใจยอมรับได้อย่างง่ายดาย
              เอมมวลี หรือ เอมมี่  สาวสวยเปนี้ยวจี๊ด  ที่ชอบโปรยเสน่ห์ล้อเล่นกับความรัก  มีความเชื่อที่ว่าผู้ชายก็เหมือนกันหมดชอบทำร้ายผู้หญิง  เธอจึงพยายามแก้แค้นบ้าง  ด้วยการทำให้ผู้ชายเสียน้ำตา    แต่ก็ใจอ่อนแอบหลงรักเมธาล  เป็นคู่กัดกับนีรา
              แต่สุดท้ายเรื่องราวกับตาลปัด  กลายเป็นคู่ซี้กันได้ไง
              โจ  ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่    ผมสั้นเกรียน  หน้าตาดี  เข้มแข็งและไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งใด หัวหน้าแก๊ง  มังกร  เป็นคู่อริกับแก๊งมอเตอร์ไซด์ดำ  ที่สำคัญ  เขากำลังตามแก้แค้นมีนฮันอยู่เพราะพี่ชายของโจ  ต้องเสียชีวิตในสนาแข่งคราวที่ลงแข่งกับมีนฮัน
              โจตกหลุมรักตุ๊กตาฝรั่งนีราตั้งแต่แรกเจอ  เลยพยายามทำทุกทางแย่งเธอมาจากมีนฮันให้ได้   
                                                                   
(  บทนำ  ตอนที่  1  ) 
              (  เมธาล ..ความรักก็คงเหมือนกับกับของขวัญล้ำค่า  ที่ถูกส่งมาจากฟากฟ้า 
              ก็ไม่รู้ว่า  เด็กสาวคนนี้  เจ้าของดวงตากลมโตสีน้ำเงิน  น่ารักราวตุ๊กตาฝรั่ง  จะใช่ของขวัญจากฟากฟ้าหรือเปล่า  เพราะอยู่ดีๆ  ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าดาวสวย    เธอก็เข้ามาแอบในรถของเขา
              ซ้ำร้ายยังใช้บ้านของเขาเป็นที่หลบภัยอีกด้วย
              คนที่เคยใจร้ายกับความรักอย่างเขา  กลับไม่สามารถใจร้ายกับเธอได้เลย 
              ไม่รู้เพราะอะไร  ) 
ตอนที่ 1    ของขวัญจากฟากฟ้า
              สายลมแห่งฤดูหนาวพัดพาเอาความอ้างว้างมาเยือน
              สิ่งที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความเดียวดายนี้  พัดพามาจากไหนกัน 
              สายลมนี้คงเดินทางมาไกล  ผ่านพ้นระยะทางและผู้คนมามากมาย  ทั้งรอยยิ้ม น้ำตา เสียงหัวเราะ  เรื่องราวที่น่าจดจำ  ไม่น่าจดจำ    ความทรงจำที่น่าหลงไหลและแสนเจ็บปวด    ก็เหมือนชีวิตคนที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา
              ในบางครั้งก็เดินทางไปเจอกับความสุข  บางครั้งก็เดินไปเจอกับความเศร้า ..อย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 
              คงมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้ทุกชีวิตบนโลกใบนี้    มีวันคืนแห่งความหมาย  มีแสงสว่างในวันที่ท้องฟ้ามืดมน  สิ่งนั้นคือความรัก 
              ในความอ้างว้างว่างเปล่าของสายลมนี้  อาจมีบางครั้ง  เขาหวังว่าจะมีสักครั้งที่มีความรักแอบซ่อนมาด้วย  เขาหวังว่า  สายลมจะพัดพาความรักมา  ร่วงรินสู่หัวใจ
              เมธาล กระชับแจ็กเก็ตเมื่อเดินออกมาจากร้านอาหารกึ่งผับร้านหนึ่งในย่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของนักท่องราตรี    ความจริงแล้วเพื่อนๆยังนั่งสนุกต่ออยู่ภายในแต่ที่เขาบอกลาก่อนเพราะไม่ค่อยชอบสถานที่แบบนี้เลย  ทั้งแอลกอฮอล์และควันบุหรี่มันทำให้รู้สึกเวียนหัว  ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอร้องจากรุ่นพี่ที่กำลังจะจบการศึกษาๆเขาไม่มีทางเหยียบย่างเข้ามาในนี้อย่างแน่นอน 
              รอบตัวเวลานี้สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเรียกลูกค้านักเที่ยวทั้งหลาย  แสงไฟหลากสีเคล้ากับเสียงเพลงดังแว่วมาจากในร้านดึงดูดผู้คนให้มารวมตัวกันที่นี่  ใครหลายคนยังไม่ยอมกลับบ้าน  ยังคงปล่อยตัวเองกับความสุขอันจอมปลอมฉาบฉวยที่น่าหลงใหล
              คงเป็นเพราะในบางครั้งบ้านก็ไม่ใช่ที่ๆจะหาความสุขความอบอุ่นอย่างได้เลย  หลายคนจึงยอมที่จะบินเข้าหาแสงไฟที่สวยงามเหล่านี้  แม้รู้ดีว่าทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาก็ต้องกลับไปเหงาเช่นเคย
              เมธาลก้าวมาหยุดลงที่รถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่สีดำ  มือหนาเอื้อมไปเปิดประตู  ก่อนที่จะแทรกตัวเข้าไปอะไรบางอย่างสะกิดหัวใจของเขาให้มองไปเบื้องบน 
              ท้องฟ้ายามนี้เต็มไปด้วยลำแสงของดวงดาว    น่าแปลกดีที่วันนี้มองเห็นดาวได้ชัดกว่าทุกคืน  ทั้งๆที่หลายคืนมานี้ทั้งหมอกควันต่างบดบังความงามเอาไว้เสียจนเกือบหมดสิ้น 
            จักรวาลนี้กว้างใหญ่ไพศาลสักเพียงใดกัน  มันไม่มีที่สิ้นสุดใช่ไหม    เขาเองก็เป็นเพียงแค่คนๆหนึ่งที่เป็นจุดเล็กๆในห้วงจักรวาล  เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังรอคอยบางสิ่งบางอย่างมาช่วยทำให้ชีวิตที่ขาดหายถูกเติมเต็ม  ทำให้วันคืนที่อ้างว้างไม่ต้องเงียบเหงาอีกต่อไป
ดาวดวงหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า  สำแสงสีนวลพุ่งเป็นทางยาวก่อนที่จะหายวับไปในความมืดมิด
       
              คำพูดของใครคนหนึ่งดังสะท้อนอยู่ในหัวใจ  นานมาแล้วใครคนนั้นเคยบอกกับเขาว่า 
\"  ความรักก็คือของขวัญล้ำค่า  ที่ถูกส่งมาจากฟากฟ้า  ในสักวันหนึ่งของขวัญชิ้นนั้นก็จะมาสู่มือเรา  และถ้าวันนั้นมาถึงของให้รักษาของขวัญชิ้นนั้นด้วยทั้งหมดของลมหายใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม  \"
              เมื่อไรฟ้าจะส่งของขวัญล้ำค่านั้นมาให้เขา  โลกใบนี้ยาวไกลเหลือเกิน  แล้วอย่างนี้บนโลกกลมๆใบนี้จะมีความรักรอเขาอยู่ไหม ..เมื่อไรถึงจะตามหาจนเจอเสียที
คนที่รอคอย  อยู่ไกล  ถึงสุดขอบฟ้านั้นหรือเปล่า
             
            เมื่อเบนสายตาจากเบื้องบนก็แลเห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งแต่งตัวดูดีด้วยเชิ๊ตสีดำ    เหมือนกับว่ากำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่ด้วยท่าทีร้อนรนใจ  หนึ่งในนั้นที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเพราะแต่งกายทีโดดเด่นด้วยสูทสีเทาและลักษณะที่น่ายำเกรงมองมาทางเขาเหมือนกำลังไตร่ตรองอะไรบางอย่างอยู่เพียงครู่เดียว  ชายหนุ่มคนนั้นก็ละความสนใจแล้วเดินไปทางอื่นโดยมีชายกลุ่มนั้นตามไปไม่ห่าง  เมธาลตัดสินใจก้าวขึ้นรถมุ่งหน้ากลับบ้าน  ทิ้งความเคลือบแคลงใจเอาไว้ตรงนั้น
              การจารจรบนท้องถนนไม่วุ่นวายเหมือนตอนกลางวัน  ขับรถกลางคืนก็สบายอย่างนี้นี่เองไม่ต้องมีใครมาแย่งพื้นที่บนถนนไป  รถสีดำคันเล็กมุ่งหน้าเลียบชานเมือง เพื่อมุ่งหน้าสู่บ้านหลังเล็ก  บ้านสองชั้นสีครีมที่เป็นของขวัญจากพ่อแม่เนื่องจากเขาสามารถเอ็นท์ทรานเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้ตามที่ตั้งใจ  ความภาคภูมิใจแต่มันก็ต้องแลกกับการเดินทางไกล ..ต้องห่างจากท้องฟ้าที่เคยคุ้น  เพราะเขาเป็นเด็กต่างจังหวัด  ..     
              เหนือสุดของประเทศไทยคือจังหวัดเชียงราย    ดินแดนที่อากาศหนาวเย็นและอบอวลไปด้วยกลิ่นไอของธรรมชาติ  เขาเกิดและเติบโตขึ้นที่นั่น
              บ้านพักหลังเล็กอยู่แถบชานเมือง    มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่อาศัยอยู่  จะมีเพื่อนก็คงเป็นเพียงความเงียบเหงา  ที่เข้ามาปลุกเขาแต่เช้าถึงในห้องนอน 
              ความคิดที่ล่อลอยไปไกลกลับคืนมาอีกครั้งเมื่อมีเสียงสวบสาบดังมาจากเบาะหลัง  ด้วยความแปลกใจทำให้เขาเงยหน้าขึ้นไปมองทางกระจกก็ต้องตกใจเมื่อมองเห็นร่างหนึ่งผุดขึ้นมาจากกองผ้าคลุมรถผืนโตที่เพิ่งส่งซักและไปรับมาเมื่อบ่ายนี้  อารามตกใจทำให้เหยียบเบรกกระทันหัน  ทำให้ทั้งคนขับและคนแปลกหน้าต่างหัวคะมำไปข้างหน้าอย่างไม่เป็นท่า
                                                                            ..
              เมธาลยืนกอดอกมองผู้หญิงตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาสีน้ำเงินอย่างพิจารณา  ตาสีนิลมองจับไปที่ใบหน้าขาวผ่องของเธอราวกับอาจารย์จอมเฮี๊ยบที่กำลังจับผิดเด็กดื้อก็ไม่ปาน  เด็กสาวคนนี้คงอายุน้อยกว่าเขาไม่กี่ปี    ดวงตากลมโตสีน้ำเงินกับริมฝีปากชมพูทำให้ใบหน้าขาวนวลนั้นมีเสน่ห์น่ามอง  ยิ่งเส้นผมน้ำตาลเข้มหยิกเป็นลอนสวยที่ยาวลงมาถึงกลางหลังนั่นด้วยแล้วทำให้เจ้าตัวดูเหมือนตุ๊กตาฝรั่งไม่มีผิด
              ที่เขายอมพาเธอมาที่นี่ก็เพราะเจ้าตัวอ้างว่ามีคนคอยตามทำร้าย  ซึ่งเขาเองในตอนนั้นเชื่อสนิทใจเพราะเมื่องลองนึกถึงท่าทางน่ากลัวของชายกลุ่มนั้นมันก็น่าจะเป็นจริงอย่างว่า  แต่ตอนนี้ชักเริ่มสงสัยเสียแล้ว  ไม่รู้ว่าจะเป็นสิบแปดมงกุฎหรือเปล่า    ท่าทางแสบไม่ใช่เล่นๆเลยเพราะที่เธอเข้ามาอยู่ในรถของเขาได้ก็เพราะใช้กุญแจผีเปิดเข้ามาเพราะก่อนลงจากรถเขาตรวจดูอย่างรอบครอบแล้ว    ไม่มีทางที่เขาละสะเพร่าลืมที่จะปิดล๊อคกุญแจก่อนออกจากรถเด็ดขาด
\" นี่นายน่ะ  มองอะไรนักหนา  หน้าเราเหมือนผีมากหรือไง  \"  เมื่อหมดความอดทน  นีราแขวะเขาทันที  คิ้วเรียวงามขวดมุ่นอย่างไม่ชอบใจ  ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยให้ใครหน้าไหนมามองจ้องหน้าอย่างนี้เกินสิบวินาทีเลยนะ  ไม่อย่างนั้นจะอยู่ในข้อหาท้าทายประมาณว่าอยากมีเรื่อง  แต่อีตานี่จ้องเธอเป็นสิบๆนาทีแล้ว    นี่ถ้าไม่เห็นว่าต้องพึ่งพาละก็ ..
\" เธอก็เล่าความจริงมาเสียทีสิ  ไม่อย่างนั้นฉันจับส่งตำรวจ \"
\" จะบ้าหรือไง  เราเล่าให้นายฟังตั้งหลายรอบแล้วนะ  ก็บอกแล้วไงว่ามาตามหาพี่สาวที่ทำงานกรุงเทพฯ  แล้วไปสมัครงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งจนรู้ว่าถูกหลอกไปทำงานที่ .อาบ  อบ  นวด  แล้วตอนนี้ก็ไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท  ไม่รู้ถนนหนทาง  กลับบ้านก็ไม่ได้เพราะที่นาถูกยึด  พ่อแม่ก็  ไปอยู่ไหนแล้วไม่รู้ตอนนี้  \" เธอจีบปากจีบคอเล่า  ความจริงแล้วละครวิทยุที่แม่บ้านชอบฟังเวลาทำงานในครัวนี่ก็มีประโยชน์เหมือนกัน    ต่อไปนี้จะไม่ว่าหรือแกล้งอะไรอีกแล้ว สาธุ
              เขามองดูชุดราตรียาวสีชมพูจางที่เธอสวมใส่ ดูคล้ายเจ้าหญิงในนิทานที่เคยได้ฟังเมื่อตอนเป็นเด็ก
              เจ้าหญิงแสนสวยที่มีดวงตางดงามราวกับเอาดวงดาวทั้งฟ้ามารวมอยู่ด้วยกัน  ชุดที่เธอสวมใส่ไม่ต่างจากชุดของนางฟ้าแสนสวยมันฟูฟ่องละซ้อนทับกันเป็นชั้นๆราวกับกลีบดอกไม้
                บางทีเด็กสาวคนนี้อาจจะร่วงมาจากท้องฟ้าพร้อมดาวดวงนั้นก็ได้  เป็นเจ้าหญิงที่พลัดหลงมาจากเทพนิยาย
\" ถ้านายลำบากใจ  ปล่อยให้เราไปตายเอาดาบหน้าก็ได้  ล่าก่อน  \"  เห็นเขาเงียบไปเลยชักใจคอไม่ดี  หรือว่ากำลังจะหาทางไล่กันแน่
\"  เดี๋ยว  ไม่ต้องไปไหน  ฉันอนุญาตให้เธออยู่ที่นี่ก็ได้ ..แต่ว่าแค่ชั่วคราวนะ  ถ้าเจอพี่สาวเธอต้องไปจากที่นี่ทันที  \" 
\"  จริงๆ  นะ  นายให้เราอยู่ที่นี่  ดีใจจัง  \"  ได้ผลกะอยู่แล้วว่าอีตานี่ต้องใจอ่อนเหมือนหน้าตาแน่ๆ  ท่าทางซื่อๆอย่างนี้จะมารู้ทันอะไรกับคนอย่างนีรา  เธอยิ้มเจ้าเล่ย์อย่างผู้ชนะ
\" อย่าดีใจนักเลย  จำไว้ว่าแค่ชั่วคราวเท่านั้น  ฉันไม่อยากหาเรื่องเดือดร้อนมาใส่ตัวหรอก  ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็วุ่นวายมากพอแล้ว \"  เขาบอกเสียงแข็งๆ 
\" รู้แล้วน่า ไม่ต้องย้ำหรอก  ใครว่าเราจะอยู่ที่นี่ไปจนตายล่ะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวด้วยว่าเราจะเป็นขโมย  รับรองได้ \" 
\" จะลองเชื่อดูสักครั้ง  แต่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่เธอต้องเชื่อฟังและอย่าสร้างความรำคาญให้เด็ดขาด  ไม่อย่างนั้น \" 
\" ไม่ต้องขู่หรอกน่า  เราโตแล้วรู้ดีว่าต้องทำตัวยังไง \" นีราไม่ยอมฟังจนจบประโยค  เธอแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ 
\"ที่นี่มีห้องนอนสองห้องอยู่ชั้นบนห้องครัวห้องน้ำอยู่ชั้นล่างเธออยู่ห้องเล็กก็แล้วกัน  แล้ว ..\"
              เมธาลอธิบายพร้อมกับชี้ไปที่ห้องชั้นบนและกำลังจะพาไปดูรอบบ้านแต่ปรากฏว่าพอหันมาอีกทีคนตัวเล็กก็ไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิมอีกแล้ว  ร่างบางเดินดูโน่นนี้ไปทั่วอย่างกับว่าสนิทกับเจ้าของบ้านมานานนับปี  ชักจะไม่แน่ใจเสียแล้วว่าคิดผิดหรือถูกที่ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาอยู่ในบ้าน  เด็กสาวคนนี้อาจเป็นสิบแปดมงกุฎ    อาจเป็นเด็กใจแตกแอบหาเงินในทางผิดๆและหนีออกจากบ้าน 
              แต่ก็อย่างว่าเขามันคนใจอ่อนดึกดื่นอย่างนี้ การที่ต้องให้ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่น่ารักราวกับตุ๊กตาฝรั่งออกไปเดินเร่ร่อนกลางถนนคงไม่ดีแน่    และเรื่องบางเรื่องมันก็หาเหตุผลไม่ได้เอาเสียเลย  แค่หัวใจรู้สึกก็พอแล้ว  อย่างที่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเธอไม่ใช่ศัตรู    เท่านี้มันก็มากเกินพอแล้วที่จะให้เธออาศัยอยู่ที่นี่  แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าต่อกันก็ตาม   
              นีราเดินดูรอบบ้าน  ท่าทางเขาจะเป็นคนรักสะอาดมากเลยทีเดียว  ข้าวของถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ใจกลางห้องคือโซฟาสีน้ำเงินบุกำมะหยี่  อยู่ในส่วนของห้องนั่งเล่น  ภาพวาดทะเลหลายต่อหลายภาพแขวนไว้ตรงผนัง  อย่างน้อยก็รู้แล้วว่ามีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือทะเล  เขาและเธอชอบทะเลเหมือนกัน    จัดบ้านได้น่าอยู่ทีเดียว  แต่รู้สึกว่าเขาจะชอบสีโทนเข้มเป็นพิเศษ  แถมยังไม่มีเครื่องประดับน่ารักๆมีสีสันบ้างเลย  ถึงจะสวยแต่สวยอย่างเศร้าๆอย่างไรไม่รู้
              ในอีกมุมหนึ่งชั้นวางของที่สูงเกือบ 2  เมตรวางกั้นอาณาเขตของห้องครัวเอาไว้      ห้องครัวเล็กแต่สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบ  รอยยิ้มพราวปรากฏอยู่บนใบหน้าขาวนวล  บ้านหลังนี้แหละบ้านในฝันของเธอ      ถึงมันจะไม่ใช่บ้านที่ดีที่สุดหนำซ้ำยังมีเจ้าของเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักไม่กี่ชั่วโมง  แต่ก็ยังดีกว่าที่จะต้องเร่ร่อนอย่างไม่มีจุดหมาย  ร่างบางหมุนตัวกลับไปก็พบว่ามีสายตาของเขามองดูอย่างจับผิด  เธอได้แต่ยิ้มแหยๆส่งไป   
              อีตาบ้านี้ถ้าไม่ถือว่าต้องพึ่งพาละก็  ฉันจะอาละวาดนายให้บ้านแตกไปเลย    แต่จะว่าแล้ว  นายก็หล่อไม่เบาเลยเหมือนกัน แต่ว่าหน้าหวานไปหน่อย    ผู้ชายอะไรสวยกว่าเธอเสียอีก    แล้วดูสิตัวสูงชะมัดเลยไม่น่าจะต่ำกว่า  180  เซนติเมตรแน่ๆ    กิริยาท่าทางยังกับเป็นเจ้าชายก็ไม่ปาน  ไม่ว่าจะนั่งยืนเดิน  ดูดีไปเสียหมด  19  ปีของชีวิตยังไม่เคยทีผู้ชายคนไหนที่ได้รับคำชมจากเธอถึงเพียงนี้  แม้จะเป็นเพียงถ้อยคำที่ได้ยินเพียงคนเดียวก็ตาม  นีราพยายามสลัดความฟุ้งซ่านออกไปจากสมอง 
                                    อย่าลืมว่า  ความรัก สำหรับเรามันได้ตายลงไปแล้ว
                                                                            ..
              สำแสงสีทองส่องผ่านฝ้าม่านโปร่งสีขาวมาจนถึงในห้องนอน  ร่างบางที่อยู่บนเตียงขนาดสามฟุตครึ่งบิดขี้เกียจไปมา    เช้าแล้วหรือนี่  ในที่สุดก็ผ่านพ้นไปได้อีกคืน  เธอยังคงมีลมหายใจอยู่  นีรากลั้นใจลุกจากเตียงนอนทั้งที่ความจริงอยากนอนจนถึงเที่ยงวันตามปรกติแต่ว่า  ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอไม่ใช่ที่ๆจะมาทำอะไรตามใจได้    อย่างน้อยก็ต้องลุกขึ้นมาดูความเป็นไปที่เกิดขึ้นของเจ้าของบ้าน        เมื่อคืนเธอคงคุยกับเขาจนหลับไปคาหน้าจอทีวี   
หมายความว่าเขาอุ้มเธอเข้ามานอนในห้องนี้อย่างนั้นหรือ ?
              แปลก .เพราะอะไรถึงไม่รู้สึกกลัวเลยนะทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  เธอเองก็ไม่ต่างอะไรจากนกหลงทางที่หนีมาเพื่อหาที่พึ่งพา  ถ้าเขาจะทำร้ายเธอมันก็ง่ายนิดเดียว .แต่เขาไม่ทำ 
              นีรากวาดสายตาไปรอบห้องเพราะเมื่อคืนความง่วงทำให้เธอไม่ทันได้สังเกตุอะไร  ห้องนี้คงเป็นห้องรับรองแขก  และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมาพักนานแล้วเธอรู้ได้ถึงความว่างเปล่าเงียบเหงา  เตียงนอนมีผ้าคลุมสีน้ำเงิน  ชั้นวางของขนาดเล็กสีเทามีตุ๊กตาเซรามิกสีขาวสะอาดตาวางเรียงรายนับสิบตัวแลดูหม่นเศ้รา  ไม่มีชีวิตชีวา มันคงสวยมากกว่านี้ถ้าเพียงแต่เจ้าของบ้านจะเพิ่มเต็มสีสันให้บ้านหลังนี้บ้าง
              ร่างบางลุกจากเตียงนอนแล้วเดินไปที่หน้าต่างค่อยๆคลี่ผ้าม่านสีขาว  เมื่อสัมผัสได้ถึงแสงนวลที่สาดส่องมาดวงตากลมโตก็ต้องหยีเล็กลงทันที  ก่อนที่จะปรับระดับสายตาให้ชินกับความสว่างจ้านั้นได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน  ภาพแรกที่เห็นคือมองดูสวนดอกไม้ที่จัดไว้อย่างสวยงามและลงตัว 
              ไม่ใช่สิ มันไม่ใช่สวนดอกไม้  สิ่งที่เธอเห็นอยู่คือต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว  ที่ไร้สีสันใดๆต่างหาก  อืม
              น่าเสียดายถ้าเกิดว่ามีดอกไม้สวยๆมาประดับอยู่ด้วย  มันคงสวยมากขึ้นกว่านี้เป็นกอง  หรือว่า  เจ้าของบ้านเกลียดความงามของดอกไม้อย่านั้นหรือ  ดูเหมือนว่าเขาจะจงใจให้บ้านไม่มีความอ่อนโยนหรืองดงามใดหลงเหลือไว้เลย
              มือบางรูดผ้าม่านปิดไว้ตามเดิมแล้วมาจากชั้นบนเพื่อเข้าห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน  ได้กลิ่นอาหารลอยมาแตะจมูก 
              จู่ๆก็เกิดคำถามขึ้นมาในหัวใจตัวเอง  ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงดีกับเธอจังนะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  เป็นเพียงเพื่อนร่วมโลกคนหนึ่งเท่านั้น  และในขณะเดียวกันสิ่งใดที่ทำให้เธอวางใจในตัวเขา ถึงเพียงนี้  ทั้งๆที่ตลอดชีวิตของเธอต้องคอยระแวดระวังคนอื่นไปเสียหมด
              ก็อย่างว่าบางเรื่องก็หาเหตุผลไม่ได้เสียด้วย  เหตุผลร้อยข้อคงไม่มีความสำคัญถ้าหากว่าหัวใจไม่ได้รู้สึกตามนั้น  เช่นเดียวกันแม้ไม่มีเหตุผลสักข้อแต่หัวใจรู้สึกได้  เหมือนที่เธอรู้สึกได้ว่าเขาปลอดภัย  ก็เชื่อสนิทใจเลยทีเดียว
\" ตื่นแล้วเหรอ  เมื่อคืนหลับสบายไหม \" เมธาลเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่านีราเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็ก      โต๊ะอาหารทรงกลมมีเก้าอี้ล้อมรอบสี่ตัว    ตั้งอยู่ในมุมของห้องครัว  เขาจับจองไว้แล้วตัวหนึ่ง  ข้าวต้มกุ้งและนมแก้วโตเพิ่งดื่มหมดไปเมื่อครู่ 
\" ฉันมีเรียนเช้า  จะกลับมาก็คงค่ำๆ  ถ้าหิวก็เปิดดูของในตู้เย็นตามสบายเลยนะ  \"
\" ..\"
\"  เลิกทำตัวเป็นคนแปลกหน้าต่อกันได้แล้ว  อย่าลืมว่าเรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน  จนกว่าเธอจะตามหาพี่สาวเจอ \"  เป็นอันว่าเขาต้องเป็นฝ่านเปิดการสนทนาขึ้นมาอีกครั้งเพราะดูเหมือนตุ๊กตาตัวเล็ก  จะเกิดอาการประหม่าขึ้นมาจนเห็นได้ชัด  เธอคงกำลังลังเลในแววตาจึงเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม  ถ้าเกิดมาสามารถดึงมันออกมาได้คงกลายเป็นคำถามหลายสิบข้อเลยทีเดียว
\" นายทำอาหารเองเหรอ น่ากินจัง  \"  เป็นคำทักทายที่ไม่ค่อยเอาไหนนักหรอก เธอรู้
\"  ใช่  อยู่คนเดียวก็ต้องหัดช่วยเหลือตัวเองอย่างนี้แหละ  พูดอย่างกับว่าตัวเองไม่เคยทำอาหาร  \"
\" ใครว่าล่ะ  ไม่ค่อยถนัดเท่านั้นเอง  \"  ความหมายก็คือไม่ถนัดอะไรเลยสักอย่าง 
              นีราเธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้างแล้ว  ใบหน้าขาวนวลชะโงกมองอาหารในจาน  ข้าวต้มร้อนๆหอมกรุ่นทีเดียว ชักจะหิวขึ้นมาแล้วเมื่อคืนกินมาม่าไปแค่ซองเดียวเอง    ในส่วนหนึ่งแล้วอดที่จะรู้สึกแปลกๆไม่ได้ที่ต้องอยู่กับคนแปลกหน้าอย่างนี้    แต่ทำไงได้มาถึงขั้นนี้แล้ว
\"  เธอต้องการอะไรเพิ่มไหม  ตอนเย็นฉันจะซื้อมาให้  \" 
\"  ขอเป็นเสื้อผ้าได้ไหม  ชุดของนายตัวใหญ่มากๆเลยนะ  ดูสิ  \"  เสื้อนอนตัวหลวมโคร่งถ้าอยู่บนตัวของเขาก็คงพอดี  แต่พอมันอยู่บนตัวเธอเสื้อนอนตัวเดิมก็ยาวลงมาเกือบถึงเข่าเลยทีเดียว  ส่วนกางเกงผ้าแพรนี่ก็ต้องพับปลายขึ้นมาถึงสามตลบ   
อีตานี่ตัวโตชะมัดเลย    หรือไม่ก็เธอเองหากล่ะที่ตัวเตี้ย  เห็นทีจะเป็นข้อหลังมากกว่า
\"  งั้น ฉันจะหาเสื้อผ้ามาให้สักสองสามชุดก็แล้วกัน    ไปล่ะ  \"
\"  อื้อ  \" นีราจัดการลากเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุดแล้วนั่งลงไป    มือเรียวนั้นกำลังจะตักข้าวต้มเข้าปากแต่แล้วก็ต้องชะงัก
\" ดูแลตัวเองด้วย  อย่าออกไปเพ่นพ่านข้างนอกให้พวกนั้นเห็นเข้าล่ะ  ถ้าใครมากดกริ่งเรียกก็อย่าเปิดรับ  \"  เมธาลลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าและตำราเรียนที่วางอยูบนโซฟา  อดไม่ได้ที่จะหันไปสั่งคนตัวเล็กอีกครั้ง 
              เมื่อคืนเขาพยายามค้นหาความจริงจากเธอแต่ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมเลย  นีราดูดีกว่าที่จะเป็นเด็กบ้านนอกจนๆคนหนึ่ง  ไม่ว่าจะวิธีการพูดจาหรือท่าทางออกจะคล้ายพวกคุณหนูที่มีแต่คนคอยเอาใจมากกว่า    เอาแต่ใจอย่างร้ายกาจเสียด้วย  หวังว่ากลับมาถึงบ้านแล้วคงไม่เห็นบ้านโล่งๆเพราะถูกยกเค้าหรอกนะ
\" ไม่ต้องห่วงหรอกน่า  เราไม่ใช่เด็กเสียหน่อย  \"  นีราอ้อมแอ้มในลำคอ  มันเป็นครั้งแรกที่มีใครก็ไม่รู้บอกให้เธอดูแลตัวเอง    ผู้ชายคนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากคนแปลกหน้าที่พบเจอกันเพียงชั่วข้ามคืนแต่ความรู้สึกวางใจกลับมากมายอย่างบอกไม่ถูก  เธอสัมผัสได้ถึงความเอื้ออาทร  ในท่าทางอ่อนโยนนั้น      ดวงตาคู่สวยนั้นเรื้อนไปด้วยน้ำตา   
พ่อจะเป็นห่วงเธอบ้างไหมนะหรือว่ากำลังมีความสุขอยู่กับครอบครัวใหม่  ลืมลูกดื้อคนนี้ไปแล้ว   
\" เอ่อ เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป \" 
\" มีอะไรหรือเปล่า \"
\" เราอยากรู้ว่า  ทำไม  นายถึงไว้ใจให้เราอยู่ในบ้านหลังนี้  ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย \"
\" ก็คงเหมือนกับที่ \"  เขาส่งยิ้มที่อ่อนโยนให้เธอ  \"  เหมือนกับที่เธอวางใจฉันอย่างไงล่ะ \"
              นีรายิ้มให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ  ความจริงเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังยิ้ม  เมื่อคืนนี้เธอตั้งกำแพงล้อมรอบตัวเอง  กำแพงที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติต่อคนแปลกหน้า  ภายในนั้นมันอึดอัดเหลือเกิน  ระหว่าเธอและเขามีม่านหมอกสีเทากั้นอยู่ 
              แต่มันไม่สำคัญอะไรนักเพราะสิ่งที่เธอคิดในเวลานี้ก็มีเพียงแต่ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งให้พ้นจากคนที่จะมาพาตัวไป  ต้องการที่จะอยู่ในโลกอีกใบ  ที่ห่างไกลจากความจริงที่หนีมา 
              บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคนแปลกหน้าแท้ๆ  แต่ทำไมถึงได้รู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน  ขอให้ฉันได้อยู่ที่นี่อย่างมีรอยยิ้มบ้างได้ไหม  เธอมองตามร่างสูงที่เพิ่งก้าวพ้นตัวบ้านออกไป 
              \" ขอบใจนายมากที่ให้เราได้อยู่ที่นี่  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลข้อใดก็ตาม  ก็ขอบใจจริงๆที่ไม่ไล่เราไปให้พ้นๆ \"
                                                                             
              โรงแรมห้าดาวริมน้ำแห่งนี้    มีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆของเมืองไทย    ด้วยการทัศนีย์ภาพที่สวยงามติดแม่น้ำ  และบริเวณโดยรอบถูกโอบกอดด้วยสีเขียวของแมกไม้ใบหญ้าราวกับเป็นอาณาจักรเล็กๆอีกแห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพ    \"  เดอะสยาม บาหลี โฮเทล \"  เป็นที่ร่ำลือมานานนับสิบปี
              ภาพเบื้องหน้าคือตึกสีขาวสูงตระหง่านไม่ต่ำกว่า  15  ชั้น  ความยิ่งใหญ่และงดงามของมันสะกดใครต่อใครเอาไว้อย่างง่ายดาย  สถาปัตยกรรมบาหลีผสมกับความอ่อนช้อยของไทยที่ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้  มันกลับทำให้โรงแรมแห่งนี้สะดุดตาและโดดเด่นอย่างน่าประหลาด  ดวงไฟขนาดเล็กนับหมื่นพันแขวนระโยงระยางลงมาจากชั้นบนสุดของตัวตึก  ทำให้ดูสวยแปลกตายิ่งในยามที่มีเพียงแสงจากพระจันทร์ของค่ำคืนนี้   
              พนักงานในส่วนหน้าทุกคนสวมใส่ชุดไทยที่เป็นเอกลักษณ์  ดูอ่อนช้อยงดงามน่ารัก  บวกกับทุกส่วนของโรงแรมไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้ที่กว้างขวาง  ห้องพักสุดหรู  ห้องอาหารไทย  ฝรั่งเศล  จีน  ฯลฯ  ต่างขึ้นชื่อในเรื่องความสะอาดอร่อย  ห้างสรรพสิ้นค้าขนาดกลางที่ปิดตลอด 24 ชั่วโมง  ฟิตเนตชั้นดี  สนามออกกำลังกาย    ผับ  บาร์  คาเฟ่  ทุกสิ่งทุกอย่างที่พรั่งพร้อม 
              ภูอินทร์  วาภากิจเจริญ  ใช้เวลานานนับสิบปี  เนรมิตอาณาจักรที่งามเหมือนฝันนี้ขึ้นมา
              เมื่อสามสิบปีก่อนครอบครัวของเขาจัดได้ว่าเป็นครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยนัก  บิดามารดาเป็นทำธุรกิจค้าขายเล็กๆน้อยๆ    จนกระทั่งเขาเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ  เริ่มเล่นการพนัน  ได้บ้างเสียบ้างจนผันตัวเองมาเป็นเจ้ามือ  เริ่มจากบ่อนเล็กๆ และตัดสินใจลงทุนกับเพื่อนชาวฮ่องกงถือว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ไม่พลาดผิดเพราะส่งผลให้เขากลายเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการพนักที่ทรงอำนาจในเวลาเพียง  5  ปี    ในชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างทั้ง  ชื่อเสียง เงินทอง อำนาจ  ที่มากมายมหาศาลเกินกว่าที่คนวัยเดียวกันจะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้
              แต่เมื่อวันที่เขาได้รู้ว่านีรภัทรผู้เป็นภรรยาตั้งท้อง  ความคิดที่จะครอบครองอำนาจอยู่ที่ฮ่องกงไปจนวันสุดท้ายก็เปลี่ยนไป  เขาเริ่มมองหาธุรกิจอื่นที่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตที่สงบสุข  เพื่อไม่ให้เด็กที่กำลังจะเกิดมาต้องตกอยู่ในอันตรายในฐานะที่เป็นลูกสาวของเจ้าพ่อ  และธุรกิจโรงแรมเป็นสิ่งที่เขาหมายตาเอาไว้    เขาฝากฝังกิจการในฮ่องกงกับลูกน้องที่ไว้ใจได้และเดินทางมาเมืองไทย  เริ่มทำธุรกิจโรงแรม
              สิ่งที่เขาวาดฝันเอาไว้ก็คือ  การใช้ชีวิตที่สงบสุขกับครอบครัว  แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วคนที่เคยมีอำนาจ บารมี อยู่ในมือ  กลับไม่สามารถที่จะวางสิ่งเหล่านั้นลงได้ 
              เขาเริ่มหวนกลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง  แต่ไม่ใช่บ่อนการพนัก เป็นเพียง  ดิสโก้  บาร์  ผับ สถานเริงรมย์  ที่มีนับไม่ถ้วนทั่วเมืองไทย
\" ถ้าคิดจะเป็นใหญ่ต้องตัดความอ่อนแอให้หมดไปจากใจ  จะต้องไม่รู้สึก \"  เจ้าพ่อฮ่องกงรุ่นใหญ่คนหนึ่งเคยบอกเขาเอาไว้อย่างนี้
              อำนาจและเงินทอง ต้องแลกกับการสูญเสียอะไรไปมากมายขนาดนี้เชียวหรือ 
            ทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าเวลานี้มันเป็นของเขา  ที่ต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตไขว่คว้ามา  แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสักคน  ที่มาชื่นชนยินดีในความสำเร็จนี้ด้วย   
              เสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาเรียกให้เขากลับคืนสู่โลกของความจริงอีกครั้ง  แม้ไม่ต้องหันกลับไปมองก็พอจะรู้ว่าผู้ที่มาเยือนคือใคร
            ฟารุท เด็กน้อยจากทะเลที่เขาขอตัวมาจากเดนตัลอดีตมือขวา  ที่รับใช้และจงรักภักดีกับเขามานานตั้งแต่เริ่มสร้างตัว    การช่วยชีวิตเขาให้รอดพ้นจากกระสุนปืนทำให้เดนตัลต้องกลายเป็นคนพิการ  ดวงตาข้างหนึ่งของเดนตัลมืดบอด  เขาจึงให้เงินก้อนโตเพื่อให้เดนตัลและครอบครัวจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่    เดลตันใช้เงินส่วนหนึ่งลงทุนทำร้านอาหารริมทะเลและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่นั่น 
              3  ปีผ่านไป เขาเดินทางไปเยี่ยมลูกน้องคนสนิท    ลูกชายคนเล็กของเดนตัลโตขึ้นมาก    เขาสัมผัสได้ทันที่ว่าเด็กคนนี้มีความสามารถ    จากประกายในดวงตานั้นแกร่งกล้า  เขาจึงขอตัวเด็กคนนี้มาตั้งแต่วันนั้น    ซึ่งฟารุทอายุเพียง  7  ขวบ  สิ่งต่างๆที่ฟารุทได้รับคือสิ่งที่ดีที่สุด  ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา    หรือแม้แต่ธุรกิจที่เขามีอยู่ทุกอย่าง    ต่างก็ถูกแบ่งปันให้ฟารุท
             
              ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่เขาไว้วางใจมากที่สุด    เป็นทั้งมือขวา    และเป็นหลานบุญธรรมที่มีอภิสิทธ์รองลงมาจากเขาเลยทีเดียว   
              เมื่อเติบโตขึ้นฟารุทผิดจากผู้เดนตัลเป็นพ่อแทบเรียกได้ว่าอย่างสิ้นเชิง    เพราะเดนตัลมีรูปร่างและหน้าตาดุดัน  แต่ลูกชายกลับเป็นชายหนุ่มรูปงาม  ร่างกายสูงใหญ่  ผิวสีแทนและใบหน้าคมเข้มราวกับเจ้าชายอีหยิปต์   
              อีกทั้งฟารุทยังเป็นคนที่สามารถใกล้ชิดลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาได้  ลูกสาวผู้ดื้อรั้นและเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ   
              สิ่งที่เขาแน่ใจก็คือคนที่จะไม่มีทางทำร้ายนริศราได้เลย  มีเพียงแค่สองคน  คือเขาและฟารุท
\" ได้เรื่องยังไงบ้าง \"  เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยถามผู้ที่เพิ่งมาถึง 
\"  ยังไม่มีใครตามตัวคุณหนูเจอเลยครับแต่คิดว่าคงอยู่ภายในกรุงเทพ  ไม่ไกลจากนี้นัก \" ฟารุทตอบด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดี  สามวันแล้วที่นริศราหายตัวไปจากบ้าน  ความจริงมันก็มาจากความผิดของเขาด้วยที่ใจอ่อน  จนเธอหาโอกาสหนีหายไป  ความผิดของเขา  ที่คอยตามใจเธอมาตั้งแต่เด็กจนเคยชิน  จะทำใจแข็งไม่ได้สักครั้งเดียว  รอบตัวอันตรายมากเพียงใดสำหรับเด็กสาวคนหนึ่งที่ไม่คุ้นเคยกับเมืองไทย  และเป็นลูกสาวเจ้าพ่อที่มีศัตรูรอบด้าน  เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลยเพราะความเป็นห่วง    และการตามหาตัวเธอแทบพลิกแผ่นดิน
\" แกช่วยบอกฉันทีสิ  ว่าจะจัดการกับลูกสาวคนนี้ยังไง  ทั้งหัวดื้อ  ก้าวร้าว  อวดดี  และ ไม่เคยเชื่อฟังใครเลย \"
\" บางทีคุณหนูอาจต้องการเรียกร้องอะไรบางอย่าง  ก็เลยแสดงท่าทางก้าวร้าวออกไป \" น้ำเสียงนั้นที่แฝงไว้ด้วยความยำเกรง  แม้จะเป็นหลานแต่ก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน  เขาเจียมตัวในข้อนี้เสมอ
\" เขาขาดอะไรไปบ้าง  ชีวิตของเขามีทุกอย่างเพียบพร้อม  มากเกินไปเสียด้วยซ้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ  ก็จะมากองอยู่ตรงหน้าทันที  อะไรกันแน่ที่เขาต้องการ \"  ภูอินทร์โพล่งออกมาด้วยอารมณ์ขุ่นมัว  ลูกสาวของเขาเคยบ่นอยากได้รถสปอรต์ยี่ห้อดังราคานับสิบล้านเพียงแค่เปิดเจอในแมกกาซีน  เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการให้ลูกน้องหามาเร็วที่สุดไม่สนใจว่าจะเสียเงินทองไปมากเท่าใด  เพื่อให้เธอพอใจ  แต่พอเอาเข้าจริงๆ  เมื่อได้มาเธอกลับไม่ยอมที่จะแตะต้องมันด้วยซ้ำ  ปรายตามองรถยี่ห้อดังที่บ่นอยากได้เมื่อสองสามวันก่อนอย่างไร้ค่า  ราวกับเศษผงฝุ่น
\" สิ่งที่คุณหนูต้องการ  อาจมีค่ามากกว่าที่เงินจะซื้อก็ได้นะครับ  ผมว่าท่านควรให้เวลาเธอบ้างที่จะอยู่คนเดียว  ทบทวนเรื่องราวหลายๆอย่างเพียงลำพัง \" 
\" แต่แกก็รู้  ว่าข้างนอกไม่ปลอดภัย  ถ้าพวกนั้นได้ตัวยายหนูไป  \" ผู้ที่ได้ชื่อเจ้าพ่อใหญ่หันมาเผชิญหน้ามือขวาของตัวเองด้วยความกังวลใจ
\" ผมเชื่อว่าคุณหนูจะต้องปลอดภัย  ไม่ยอมให้ใครมารังแกฝ่ายเดียวแน่ๆ \"  ฟารุทพยายามให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจขึ้น    \" คุณอาไม่ต้องกังวลให้มากนักหรอกครับ  คนของเราต้องได้ข่าวคุณหนูเร็วๆนี้เรากระจายกำลังทั่วกรุงเทพแล้ว  ยังไงซะ  ก็ต้องตามตัวกลับมาจนได้ \"
              คุณภูอินทร์เพ่งมองคนตรงหน้า  ฟารุทเป็นมือขวาที่เก่งกาจที่สามารถก้าวขึ้นมาและยืนหยัดในวงการนี้อย่างรวดเร็ว  กับอายุเพียง 26  ปี  ก็เป็นหัวหน้าที่สามารถควบคุมลูกน้องนับร้อยพันได้  นิสัยส่วนตัวฟารุทเป็นคนเย็นชา  ห้าวหาญ  เด็ดขาด 
              แต่ก็ยังคงมีจุดอ่อนนั่นคือลูกสาวของเขา  นริศราทำให้คนเข้มแข็ง  แกร่งกล้าอย่างฟารุทกลายเป็นคนอ่อนแอคนในชั่วพริบตา  หลานชายของเขาคนนี้จะใจอ่อนและลืมทุกอย่างถ้าเพียงแต่เธอร้องขอ  ความจงรักภักดีที่มากมายเกินกว่าใครจะมีได้  บางครั้งมันก็ส่งผลร้าย  ถ้าคิดจะจับตัวนริศรา  ระดับหัวหน้าอย่างฟารุทแล้วมันง่ายนิดเดียว  เขารู้  หลายชายคนนี้ของเขา ..จงใจปล่อยเธอไป 
\"ฉันรู้ว่าแกรักและเป็นห่วงยายหนูมาก  แต่อย่าอย่าใจอ่อนจนปล่อยให้ยายหนูต้องไปเผชิญอันตรายข้างนอก    แกอย่าตามใจยายหนูจนเกิดเรื่อง \" 
              ฟารุทก้มหน้าเงียบเพราะสำนึกในความผิดของตัวเอง  สามวันก่อน  ในรถคันนั้น  เขาเปิดโอกาศให้เธอหนีไปได้  เพราะรู้ว่าคุณหนูของเขาต้องการเวลาเพื่อที่จะทบทวนเรื่องราวมากมาบลำพัง  เมื่อหวนคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องหนีออกจากบ้าน  เขาก็กล้าที่จะพูดในบางอย่างทั้งๆที่รู้ว่าอีกคนหนึ่งไม่อยากรับฟัง
\" คุณอาครับ .ผมต้องขอประทานโทษครับ  ถ้าสิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ไม่เหมาะสม  คุณหนูอาจเข้าใจและยอมรับหาก คุณอายอมวางมือจากวงการนี้และ \"
\" แกก็อยู่แวดวงนี้มานานแล้ว น่าจะรู้ดี  วงการนี้  เข้ามาแล้วใช่ว่าจะออกไปได้ง่ายๆ  ถ้าฉันถอนตัวไปตอนนี้  ก็จะไม่ปลอดภัยสำหรับทุกคน  มีคนมากมายที่พร้องจะดับบารมีเราอยู่ทุกเวลา  ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม  ถึงเราจะวางมือแต่มีใครอีกหลายคนที่ไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นเพราะขาดผลประโยชน์ไปด้วย  ถ้าไม่มีอำนาจไม่มีเงินทอง  ใครจะปกป้องเราได้  \"  เสียงเข้มดังขึ้นมาทันที    ภูอินทร์จ้องหน้าคนหนุ่มตรงหน้าเขม็ง  แต่ก็ต้องอ่อนลงเมื่อมองเห็นหน้าเซียวของเขา  ขอบตาคล้ำอย่างคนอดนอนก็เดาได้ว่า  ฟารุทแบกภาระ  ความหนักหน่วงหลายเรื่องเอาไว้ 
\" ไปได้แล้ว  แกเองก็พักผ่อนบ้าง  อย่ามัวแต่ห่วงนังเด็กดื้อนั้นจนตัวเองไม่สบาย  กลับไปพักที่บ้านซะ ..แล้ว อย่าลืมโทรนัดคุณกรองแก้วให้ออกมาทานข้าวกับฉันด้วย \" 
\" ..ครับคุณอา \" 
              ฟารุทถอยออกมาเงียบๆ  ไม่ลืมสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่บริเวณสวนของโรงแรมนั้นดูแลความปลอดภัยของเจ้านายใหญ่ให้ดี  แม้จะอยู่ในสถานที่ๆเป็นของตัวเองก็ใช่ว่าจะปลอดภัย  ก่อนที่จะพาตัวเองเดินเข้าสู่ตัวโรงแรม 
            \"  โทศัพท์หา คุณกรองแก้ว  เมื่อนึกถึงคำสั่งสุดท้ายของผู้เป็นอาก็ทำให้อดนึกถึงนริศราไม่ได้  ..ที่จริงแล้ว  เขานึกถึงเธออยู่ทุกนาทีต่างหาก \"
              หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เธอต้องหนีออกจากบ้าน ก็ด้วยข้อนี้  นีราพยายามขัดขวางการแต่งงานใหม่ของพ่อ    เธอไม่ชอบว่าที่แม่เลี้ยงและลูกสาวของหล่อน  ตั้งแต่สองคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านก็ทะเลาะมีเรื่องราวกันแทบทุกวัน  นริศราอาละวาดขว้างปาข้าวของจนคนในบ้านเองก็กลัวและหนีกระเจิง  มีเพียงเขาที่กล้าเข้าใกล้เธอแม้จะเจอกับพายุอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ   
              คงเป็นเพราะคุณภูอินทร์  ผู้เป็นพ่อของเธอ  แม้จะย่างเข้าวัย 44  ปีแล้วแต่เขายังดูหนุ่มแน่นกว่าคนวัยเดียวกัน  ร่างกายแข็งแรง  ภูมิฐาน  มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม  อีกทั้งพรั่งพร้อมไปด้วยเงินทอง  อำนาจ  ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ต่างเต็มใจก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา 
              แต่มีเพียงกรองแก้วที่สามารถเข้ามาใกล้ได้มากที่สุด    คุณหนูของเขาเลยเกิดอาการไม่พอใจขึ้นมา  เขาเองก็เช่นกันอาจเป็นเพราะว่าในส่วนลึกแล้วเขามีความรู้สึกลางๆว่า ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ใช่คนดีนัก    ก่อนนั้นเขารู้จักกรองแก้วในฐานะพนักงานห้องเสื้อของคุณนีรภัทรภรรยาคนแรกของคุณภูอินทร์    มารดาของนริศรา 
              แต่วันนี้  กรองแก้วก้าวหน้าขึ้นมาเป็น ว่าที่ภรรยาคนใหม่ของภูอินทร์แล้ว    มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คุณหนูของเขาไม่อาจทำใจยอมรับได้  เธอเลยหนีไปแบบนั้น
\" คุณหนู .  ป่านนี้แล้วจะเป็นยังไงบ้าง  ทำอะไรอยู่  กินข้าวหรือยังแล้วมีใครดูแลบ้างไหม  ผมขอโทษ    ไม่น่าปล่อยให้คุณหนูไปเลยในวันนั้น  ผมสัญญาว่าจะปกป้องคุณหนูด้วยชีวิต  ไม่ต้องกลัวหรอกนะ  ไม่ว่ายังไงก็ตาม  ฟารุทคนนี้ก็จะอยู่เคียงข้างคุณหนูตอดไป \"
              มันเป็นเรื่องมหัสจรรย์เหลือเกินสำหรับเขาที่ฟ้าส่งเด็กผู้หญิงคนนี้มาอยู่บนโลก  ในขณะที่เขามีชีวิตอยู่ 
                                นริศราคือของขวัญล้ำค่า
                                                                   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น