ตอนที่ 27 : [SPECIAL] Mad Dog : No Title
Note : เป็นพาร์ทที่เกี่ยวเนื่องจากตอนที่ 19 นะคะ (ช่วงตอนอยู่โรสต์)
“ไม่ใช่ไม่อยากรัก แต่ฉันกลัวเหลือเกินว่าความรักของฉัน มันจะทำร้ายคุณหนูเข้าสักวันหนึ่ง”
“พอแล้ว”
“ทำไม…”
“นายจะฆ่าเราหรือไงไทเลอร์”
ความว้าวุ่นภายในใจของคุณหนูเยลเวอร์ตันที่เกิดจากคำพูดของไทเลอร์ ส่งผลทำให้เจ้าตัวได้แต่ก้มหน้างุดอยู่กับแผ่นอกแกร่งของทรูอัลฟ่า อาการที่รวม ๆ แล้วเรียกว่าความขัดเขินซึ่งเกิดอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้ เพียวโอเมก้าตัวเล็กจะรับมือกับมันไหวได้อย่างไรกัน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทั้งคู่นอนอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่ครั้งแรกที่ร่างกายของเราแนบชิดจนสามารถส่งผ่านไออุ่นได้ แต่มันเป็นครั้งแรกที่ไทเลอร์เอ่ยพูดในสิ่งที่ทำให้หัวใจของเธียร์เต้นผิดจังหวะ
มือเล็กที่วางทาบอยู่บนอกของคนตาดุ รับรู้ได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นถี่ไม่แพ้กันของไทเลอร์ แม้เจ้าตัวจะยังตีสีหน้าเรียบเฉยก็ตามแต่
แต่อย่างน้อยอวัยวะที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างหัวใจ ก็ทำให้เธียร์รับรู้ได้ว่าไม่ใช่แค่ตัวเองที่เป็นเช่นนี้ อาการที่ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไร มันช่างชวนให้ผิวแก้มร้อนฉ่าราวกับผลไม้ที่กำลังสุกงอมได้ที่
“หลบหน้าฉันแบบนี้ แล้วจะคุยกันรู้เรื่องได้อย่างไรกันคุณหนู” เจ้าของผิวสีเข้มเอ่ยถามคนที่เอาแต่ซุกใบหน้าลงกับอกตัวเอง ก่อนที่จะกระชับกอดคนตัวเล็กกว่าให้ได้นอนในท่าที่สบายตัว วงแขนใหญ่ไม่ได้กอดรัดช่วงเอวบางของอีกฝ่ายแน่น มีก็แต่เพียงสัมผัสของวงแขนที่พาดทับช่วงเอวก็เท่านั้น
“แบบนี้ก็รู้เรื่อง..” คนตัวขาวเถียงอู้อี้กับอกแกร่ง แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นาน เจ้าตัวก็ต้องละใบหน้าออกจากอกของทรูอัลฟ่า เมื่อปลายนิ้วร้อนแตะสัมผัสบริเวณช่วงหลังคอตัวเอง จนทำให้รู้สึกร้อนวาบบริเวณจุดสำคัญที่โอเมก้าหวงมันหนักหนา
ตำแหน่งของการผูกพันธะมักจะไวต่อความรู้สึกมากกว่าส่วนอื่นอยู่เสมอ และยิ่งอยู่ใกล้กับคู่แห่งโชคชะตาเช่นนี้ มันก็ยิ่งตอบสนองต่อสัญชาตญาณอยู่เสมอ
“น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้หยิบปลอกคอมาให้คุณหนู”
ปลอกคอที่เธียร์เคยได้รับมันมาจากแมดส์ ถูกทิ้งไว้ที่ฮาร์เดนเจอร์ในวันที่ทรูอัลฟ่าพาตัวคุณหนูเยลเวอร์ตันออกมาจากนรกนั่น ปลอกคอที่เป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่คุณหนูเยลเวอร์ตันได้รับมาจากคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ชาย เครื่องป้องกันที่เธียร์ควรได้สวมใส่เพื่อปกป้องตัวเอง กลับถูกหยิบยื่นมาจากคนแปลกหน้าที่พึ่งพบเจอกันได้ไม่นาน
“เราเองก็ลืมนึกถึงมัน..” วินาทีนั้นใครกันจะมีเวลาไปนึกถึง สถานการณ์ที่กำลังวุ่นวายและเร่งรัดการตัดสินใจ ทั้งความโกลาหลทั้งความกลัวที่เข้าครอบงำ มันผสมปนเปกันไปหมด จนเกินกว่าที่เธียร์จะนึกถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้
“มันอันตราย” แมดส์ ไทเลอร์ ขยับมือออกห่างจากจุดไวสัมผัสของโอเมก้า ก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามาใกล้กับเจ้าของดวงตาสุกใส “ต่อให้อยู่กับฉัน มันก็ยังถือว่าอันตราย”
ดวงตานักล่าประสานสายตาเข้ากับดวงตาใส มันไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับคุณหนูเยลเวอร์ตัน เพราะการกระทำของไทเลอร์กลับทำให้เธียร์แทบหลอมละลายดั่งเทียนที่ถูกจุด
ความร้อนของไฟมีหรือจะไม่หลอมละลายเทียนให้กลายเป็นของเหลว แมดส์เองก็เช่นกัน..
“มันจะฟังดูน่าเกลียดหรือเปล่า ถ้าเราจะบอกว่าเราไม่เคยกลัวว่านายจะทำแบบนั้นกับเรา”
“เอาอะไรมาไว้ใจฉันขนาดนั้น” คนผิวเข้มยกยิ้มจาง ๆ เมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นขมวดคิ้วเข้าหากันจนยุ่ง ยามที่ถูกทรูอัลฟ่าย้อนถาม
“เราเชื่อใจนาย เพราะการกระทำของนาย”
“….”
“เราไม่รู้ว่านายต้องอดทนมากแค่ไหน แต่เราขอบคุณมากจริง ๆ ”
เธียร์ เยลเวอร์ตัน ลอบกัดริมฝีปากล่างของตัวเองด้วยความประหม่า พลางเสสายตาลงมายังปลายคางของอีกฝ่ายแทนที่จะสบตา
“อย่ากัด..”
นิ้วหัวแม่มือของทรูอัลฟ่าหนุ่มบดคลึงกลีบปากสีระเรื่อของเพียวโอเมก้า เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวนั้นมักจะติดนิสัยกัดปากตัวเองอยู่เสมอ
สัมผัสนุ่มหยุ่นของริมฝีปากที่รับรู้ได้จากปลายนิ้ว ทำให้สายตาคมจดจ้องมองกลีบปากสวยอย่างไม่วางตา จูบหวาน ๆ ของเจ้าดอกแม็กโนเลียยังคงตราตรึงในความทรงจำของแมดส์อยู่เสมอ สัมผัสเงอะงะชวนให้อดหยอกล้ออย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้จักตอบสนองเสียเมื่อไหร่
ไม่จำเป็นต้องเคี่ยวกรำให้เจ้าดอกแม็กโนเลียช่ำชอง…
เพราะแค่นี้ เธียร์ เยลเวอร์ตัน ก็สามารถทำให้ก้อนเนื้อในอกของไทเลอร์เต้นผิดจังหวะได้..
ความบริสุทธิ์อันหอมหวานของเจ้าดอกแม็กโนเลีย ยังคงสมควรถูกปกป้องมากกว่าที่จะทำลาย
“คุณหนู..”
แมดส์ ไทเลอร์ เอ่ยเรียกคนตัวขาวเสียงเข้ม เมื่อริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้นแตะสัมผัสลงบนสันกรามของตัวเอง ก่อนที่เจ้าตัวจะผละออกไป และชิงนอนหันหลังหนีทรูอัลฟ่าหนุ่ม ทั้งที่พึ่งทำในสิ่งที่สร้างความตกใจให้กับแมดส์ไม่น้อย
“จะทดสอบความอดทนฉันหรือ?”
คนที่นอนหันหลังหนีเงียบไม่ยอมตอบ พลางหลับตาหนีทรูอัลฟ่าหนุ่ม เธียร์เองก็ตกใจตัวเองไม่น้อยเหมือนกันที่ทำอะไรแบบนั้นออกไป ถ้าให้เลือกว่าบนใบหน้าของไทเลอร์มีอะไรที่ทำให้เธียร์ไม่สามารถหยุดมองได้ เจ้าตัวก็คงตอบได้อย่างไม่ลังเลเลยว่ามันคือสันกรามของอีกคน
กรอบหน้าที่ชัดเจน รวมไปถึงสันกรามคม ไล่ลงมาจนถึงช่วงลำคอของอีกฝ่ายที่สามารถเห็นลูกกระเดือกอย่างชัดเจน มันเป็นสิ่งที่ทำให้เพียวโอเมก้าไม่สามารถหยุดมองได้
การกระทำที่ไวกว่าความคิดเมื่อครู่ ก็ช่างน่าอายเหลือเกินสำหรับคุณหนูเยลเวอร์ตัน
ไทเลอร์เงียบไปพักหนึ่งเมื่อไม่ได้คำตอบจากคนตัวขาว เพียวโอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์ดูท่าจะตื่นตกใจไม่น้อย ถึงได้มีปฏิกิริยาเช่นนี้ออกมา คนที่สมควรจะตกใจอย่างแมดส์กลับกลายเป็นคนที่ได้แต่ขมวดคิ้วเข้าหากัน
เส้นผมสีเข้มของคุณหนูเยลเวอร์ตันยังคงคลอเคลียใบหน้าน่ารัก แม้จะไม่เป็นทรงเพราะเจ้าตัวขยับยุกยิกไปมา แต่มันก็ยังคงดูน่าเอ็นดูไม่น้อย
“อะ..”
คนตัวขาวสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาทันที เมื่อสัมผัสร้อนจัดแตะลงบนลาดไหล่ขาว มิหนำซ้ำยังกดแช่ไว้จนทำให้เลือดในร่างกายสูบฉีด
เมื่อเอี้ยวใบหน้าหันไปมองก็ทำให้เจ้าตัวเห็นว่าทรูอัลฟ่าข้างกาย ยังคงแตะริมฝีปากร้อนจัดของตัวเองไว้บนไหล่ของตัวเอง เส้นผมของไทเลอร์ทำให้เธียร์รู้สึกจั๊กจี้ จนต้องขยับตัวหนีอีกฝ่าย
“ทำตัวให้มันเป็นเด็กดีหน่อยคุณหนู..”
“ไทเลอร์!” คนตัวขาวแหวเข้าให้ ก่อนจะย่นคอเมื่อจมูกโด่งไล่มาจนถึงต้นคอของตัวเอง แม้จะเป็นแค่เพียงลมหายใจที่รินรด แต่มันก็อันตรายเหลือเกินสำหรับเธียร์
“ดูเหมือนว่าฉันคงต้องสอนอะไรคุณหนูอีกหลายอย่าง”
“ไม่ต้องสอนเราก็ได้” คนตัวขาวเถียงก่อนจะเบะปากคว่ำ เมื่อทรูอัลฟ่าที่สวมกอดตัวเองจากด้านหลัง ดูจะไม่ยอมห่างจากตัวเองง่าย ๆ
“ดื้อ..”
เสียงทุ้มต่ำที่กระซิบคำสั้น ๆ ข้างใบหูนิ่ม เล่นเอาเพียวโอเมก้าร้องครางฮือในลำคอด้วยความขัดใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะหัวสมองของเจ้าตัวนั้นเอาแต่จดจำคำพูดของอีกฝ่าย
“ฮื้อ..”
ไทเลอร์หัวเราะเบา ๆ ในลำคอเมื่อเห็นเพียวโอเมก้าแสดงท่าทีแบบนั้น
“เราไม่ใช่เด็กเสียหน่อย..” เธียร์ยังคงพยายามที่จะเถียงคนตัวโต
“ฉันอาจจะอายุห่างกับคุณหนู กว่าที่คุณหนูคิดก็ได้...”
นับ ๆ ดูแล้วก็ไม่ใช่ช่วงอายุที่ใกล้เคียงกันสักเท่าไหร่ หรือต่อให้ไม่ใช่ช่วงอายุ เธียร์ เยลเวอร์ตัน ก็ยังคงห่างจากคนที่มากประสบการณ์อย่างแมดส์อยู่ดี
“….” เธียร์ลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ และยอมสงบปากสงบคำ เพื่อฟังอีกฝ่าย
“คุณหนูอยากรู้ไหม..”
เธียร์มั่นใจว่าอีกฝ่ายอายุมากกว่าตัวเองแน่ ๆ แต่เท่าที่คิดมันก็คงจะห่างกันไม่เท่าไหร่
“เราเป็นเด็กดื้อก็ได้…” คุณหนูเยลเวอร์ตันว่าเสียงหงอย ก่อนที่จะบีบแขนของอีกคนแน่น เมื่อริมฝีปากร้อนทาบทับลงบนต้นคอ จนทำให้เจ้าตัวต้องเชิดหน้าขึ้น
ริมฝีปากที่ขบเม้ม และใช้ฟันคมเกี่ยวผิวเนื้ออ่อนเบา ๆ สร้างความรู้สึกเจ็บนิด ๆ ให้กับคนตัวขาว รอยแดงจาง ๆ เกิดขึ้นเมื่อริมฝีปากหยักผละออกมาจากต้นคอขาว ก่อนจะใช้สายตาพิจารณารอยที่เกิดขึ้นจากฝีมือตัวเอง
ผิวขาวราวกับน้ำนมของเธียร์ ช่างขึ้นรอยแดงช้ำง่ายเสียจริง..
“นอนได้แล้ว เด็กดื้อ..”
หาก ราเชล สแตนลีย์ อยากหาคำตอบนักว่าเพียวโอเมก้าที่มากับเขาอยู่ในสถานะไหน ก็คงต้องใช้ไหวพริบและการสังเกตของเจ้าตัวดูเสียหน่อย และ แมดส์ ไทเลอร์ เองก็เชื่อว่าร่องรอยที่ต้นคอของเธียร์ก็คงไม่รอดพ้นสายตาของเบต้าหนุ่มที่มักลอบมองเจ้าตัวอยู่บ่อยครั้ง
“คืนนี้คงจะหนาวน่าดู..”
หรือมันอาจจะร้อนสำหรับคุณหนูเยลเวอร์ตันกันนะ?
HASHTAG #maddogmn
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ความละมุนนี้