ตอนที่ 24 : Mad Dog : Chapter 21
Note : เนื้อหาในตอนนี้มีส่วนคาบเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเรื่อง Young Master นะคะ
กลิ่นคาวอ่อน ๆ ที่ลอยเจือจางอยู่ภายในห้อง ทำให้เจ้าของผิวเข้มที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องขมวดคิ้วนิด ๆ ก่อนที่จะใช้หลังมือถูจมูกของตัวเอง เพื่อไล่กลิ่นภายในห้องที่ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ได้ว่ามันมาจากการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในเชิงนั้น ภายในห้องนอนของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์หลงเหลือแค่เพียงอัลฟ่าจากแดนเหนือ แน่นอนว่า เชส ไทเลอร์ นั้นออกไปทำธุระข้างนอกตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ทิ้งไว้ก็แต่เพียงคนของตัวเองที่ยังนอนหลับสนิท
ดวงตาคมของทรูอัลฟ่าหนุ่มไล่มองผิวกายขาวซีดที่โผล่พ้นจากผ้าผืนใหญ่ เผยให้เห็นรอยแดงที่เกิดจากการขบกัดและบรรจงจูบจนขึ้นรอยช้ำ ต่อให้ไม่เห็นร่างกายของเลสลีย์ทั้งหมดในตอนนี้ แมดส์ ไทเลอร์ เองก็มั่นใจเสียเหลือเกินว่าภายใต้ผ้าห่ม มันคงเต็มไปด้วยร่องรอยแดงช้ำซึ่งอยู่บนร่างกายของอัลฟ่าแดนเหนือ
กลิ่นไม้สนซีดาร์ของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ถูกกลบด้วยกลิ่นไม้หอมไหม้ เมื่อทรูอัลฟ่าผิวเข้มจงใจที่จะไม่ปกปิดกลิ่นประจำตัวของตัวเอง มิหนำซ้ำยังตั้งใจปล่อยกลิ่นของตัวเองออกมาเพื่อปลุกให้คนที่กำลังนอนหลับได้ตื่นขึ้นมา
คิ้วได้รูปที่ขมวดเข้าหากันเมื่อถูกรบกวนการนอน หลังจากฝ่ามือใหญ่แตะลงบนลาดไหล่เปลือยเปล่า เปลือกตาสีอ่อนเปิดขึ้นช้า ๆ พลางกะพริบตาเพื่อให้ดวงตาได้ปรับแสง และทันทีที่สายตาของเจ้าตัวได้ปรับสภาพจนคุ้นเคย มันก็ย่อมทำให้เจ้าตัวเห็นใบหน้าที่ปกปิดอยู่เกินครึ่งของเจ้าของกลิ่นไม้หอมที่รบกวนตัวเองอย่างเต็มตา
“ไง…”
แมดส์ ไทเลอร์ เอ่ยทักทายคนที่เบิกตากว้าง เมื่อเห็นตัวเองก่อนจะตบท้ายด้วยรอยยิ้มเย็น ความหวาดกลัวที่ฉายชัดในดวงตาของเลสลีย์ มันกำลังทำให้แมดส์รู้สึกสนุกราวกับได้สวมบทบาทการเป็นผู้ล่าอีกครั้ง
“นาย..”
เชื้อสายของเลสลีย์กระถดตัวหนีเจ้าของดวงตาดุ แต่ด้วยสภาพที่ไม่เอื้ออำนวยของเจ้าตัวก็ย่อมทำให้อีกฝ่ายดูทุลักทุเลไม่น้อย และแฝดไทเลอร์คนพี่เองก็ให้ความช่วยเหลือเจ้าตัวด้วยการกระชากข้อเท้าเล็กของอีกฝ่าย เพียงแค่ออกแรงหยิบมือก็สามารถทำให้เลสลีย์แทบจะขยับตัวไปไหนไม่ได้
ใบหน้างดงามที่ใครต่างชื่นชม แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาอย่างชัดเจน เมื่อความรู้สึกเจ็บที่สะโพกของตัวเองนั้นแล่นร้าวขึ้นมาจนชาดิก แต่มันก็คงไม่ได้ช่วยให้แมดส์เห็นใจอีกฝ่ายแต่อย่างใด
“ครั้งที่แล้วนายทำฉันไว้แสบมากนะเจ้าหนู..” แมดส์เอ่ยเสียงติดเย้า “รอยที่คอนายสวยดีนี่” ดวงตาร้ายกาจไล่มองลำคอระหงที่ประดับไปด้วยรอยแดง ก่อนที่จะไล่ขึ้นมามองใบหน้าของคนที่จ้องหน้าตัวเองเขม็ง
“ต้องการอะไร..” เลสลีย์ยังคงพยายามที่จะสะบัดการเกาะกุมที่ข้อเท้าของตัวเองออก แต่มันก็ไร้ประโยชน์เมื่อทรูอัลฟ่าผิวเข้มไม่มีท่าทีที่จะโอนอ่อนให้ง่าย ๆ
“อย่าถามอะไรโง่ ๆ”
“นายก็เห็นว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นยังไง” เลสลีย์ยอกย้อนอีกฝ่ายอย่างไม่กลัว
“ไม่มีทางที่ฉันจะยอมให้พวกแดนเหนือมาเกี่ยวข้อง…” ยังไม่ทันที่ แมดส์ ไทเลอร์ จะได้พูดจบ เลสลีย์คนเล็กก็เอ่ยคำพูดที่ชวนเรียกรอยยิ้มแสยะจากนักฆ่าหนุ่ม
“อย่าใจแคบนักเลย ไม่เห็นหรือว่าน้องชายนายหวงฉันมากแค่ไหน” รอยยิ้มบาง ๆ ของเลสลีย์มันช่างกวนประสาทแมดส์สิ้นดี
ท่าทางอวดดีและยโสเช่นนี้ มันย่อมไม่แปลกที่จะทำให้แฝดพี่ของเชสนั้นไม่ถูกชะตากับเจ้าตัว
“มันจะสักแค่ไหนกันเชียว” แมดส์ ไทเลอร์ กระชากเอาผ้าที่ปิดใบหน้าของตัวเองออก จนเผยให้เห็นรอยยิ้มเย็น ใบหน้าที่ถอดแบบมาเช่นเดียวกัน แต่กลับให้ความรู้สึกแตกต่างที่ชัดเจน
ทั้งอันตรายและไม่น่าไว้วางใจ..
ชั่ววินาทีที่ผ้าผืนใหญ่ที่เคยปกคลุมร่างกายของเลสลีย์ถูกดึงออก ก่อนที่ร่างขาวจะถูกดึงลงมาจากเตียง เจ้าของร่างกายเปลือยเปล่าที่ถูกเปิดเผยต่อหน้านักฆ่าหนุ่ม ไม่มีแรงแม้แต่จะยืนด้วยซ้ำ แต่ที่มีแน่ ๆ ก็คือฝีปากของเจ้าตัวที่กล้าจะลับฝีปากกับแมดส์
แม้ว่าร่างกายของเลสลีย์จะดูสวยงามมากแค่ไหน แมดส์ ไทเลอร์ ก็สามารถมองข้ามมันราวกับเป็นภาพที่เห็นได้ปกติ ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าถือดีนั่นอย่างชั่งใจ ก่อนที่เท้าของเจ้าตัวจะจงใจเขี่ยช่วงขาเรียวของเลสลีย์
ทางด้านคนที่นั่งกอดเข่าของตัวเองก็กัดริมฝีปากแน่นเพราะความเจ็บปวด คราบคาวที่ถูกปล่อยทิ้งไว้และยังไม่ได้เอาออก ค่อย ๆ ไหลย้อนออกมาตามจีบเนื้อสีช้ำ ภายใต้สายตาของผู้บุกรุกที่กระทำเรื่องหยาบคาย
“ยอมเชสมันขนาดนี้เชียว”
แมดส์เอ่ยถามอย่างไม่ยากจะเชื่อ สายตาของเจ้าตัวที่มองเลสลีย์อย่างเหยียดหยาม มันสะท้อนภาพของใครบางคนที่เคยมองตัวเองด้วยสายตาเช่นนี้เมื่อนานมาแล้ว
เพศรองที่แข็งแกร่งเช่นพวกเขาไม่สมควรที่จะกระทำเรื่องเช่นนี้เลยสักนิด อะไรกันที่ทำให้ เชส ไทเลอร์ เลือกอัลฟ่าแดนเหนือมาเป็นคนของตัวเอง
อดีตมันไม่เคยสอน เชส ไทเลอร์ เลยหรืออย่างไรกัน..
“มากกว่ายอมก็คงต้องเรียกว่าเต็มใจ” จนตรอกเสียขนาดนี้ยังอวดดีไม่เลิก เชื่อเขาเลยจริง ๆ ว่าเลสลีย์ไม่เคยจะยอมก้มหัวให้ใคร ขาเรียวจงใจแยกออกจากกันเพิ่มมากขึ้น จนทำให้นักฆ่าหนุ่มเห็นร่างกายอันสมควรละอายอย่างชัดเจน “หรือนายไม่เห็นว่าสิ่งที่อยู่ในร่างกายของฉันมันคืออะไร”
“น่าไม่อาย”
“ใครกันแน่ที่น่าไม่อาย ไม่ใช่คนที่บุกรุกเข้ามาอย่างนายกันหรือ”
“นายนี่มันปากดีกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก” แมดส์ดุนลิ้นเข้ากับกระพุ้งแก้มตัวเองอย่างเหลืออด กับท่าทางของเลสลีย์ที่ไม่มีแววว่าจะหยุดจองหอง
บางที แอชเชอร์ เลสลีย์ อาจจะไม่รู้จัก แมดส์ ไทเลอร์ จนทำให้กล้าทำในสิ่งที่ยั่วยุอารมณ์ของเจ้าตัว
“ส่วนนายเองก็หยาบคายไม่แพ้กับที่ฉันคิดไว้เช่นกัน แมดส์ ไทเลอร์”
“ก็น่าเสียดายที่ฉันกับเชสมันคนละขั้วกัน”
“นี่มันยิ่งกว่าสวรรค์กับนรกเสียอีก” เป็นคำตอบที่พูดออกมาได้ดีนี่เลสลีย์.. เปรียบเทียบเสียจนแมดส์เห็นภาพมันอย่างชัดเจนเชียวล่ะ
“หรือนายอยากลองลงนรกไปพร้อมกับฉันดีล่ะ”
เจ้าของแววตาดุร้ายย่อตัวลงมาอยู่ในระดับเดียวกับแอชเชอร์ ก่อนจะบีบคางคนอวดดีแน่น ความท้าทายที่แอชเชอร์คงไม่รู้ตัวว่ามันคือความผิดมหันต์ที่แสดงออกไปให้คนอย่าง แมดส์ ไทเลอร์ ได้เห็น จะนำมาซึ่งความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
“น่าเสียดายที่ฉันมีความสุขกับสวรรค์บนดินกับน้องชายนายมากกว่า”
คำพูดสองแง่สองง่ามที่เอ่ยต่อปากต่อคำกับแฝดคนพี่นั้นชวนให้แมดส์อดลอบเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเองช้า ๆ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ แมดส์ ไทเลอร์ เห็นอะไรบางอย่างทับซ้อนบนใบหน้าของเลสลีย์
ทั้งที่คนตรงหน้าไม่มีอะไรที่เหมือนกับใครอีกคนเลยสักนิด ความสับสนในใจที่มีเป็นทุนเดิมทำให้ทรูอัลฟ่าผิวเข้มตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะหาคำตอบให้ชัดเจน
“แล้วไอ้สวรรค์บนดินของนาย มันช่วยนายให้พ้นจากนรกแบบฉันในตอนนี้ได้ไหมล่ะ”
มือใหญ่กระชากที่ไหล่ได้รูป จนทำให้เสียงนุ่มทุ้มร้องหวีดลั่นกับการกระทำที่เกินคาดหมาย ก้อนเนื้อในอกนั้นบีบรัดและเต้นถี่ระรัวไปพร้อม ๆ กับอาการชาที่แล่นริ้วตามร่างกายจนเย็นวาบไปทั้งตัว
กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งภายในริมฝีปากร้อนจากการถูกกระแทกบดจูบอย่างแรงทำให้คนที่ถูกบังคับนั้นทั้งออกแรงผลักและแรงต่อต้านที่จะผลักไสคนที่กำลังล่วงเกินตัวเองด้วยแรงทั้งหมดที่มีของตัวเอง
ความเป็นทรูอัลฟ่าของแมดส์นั้นกดดันและข่มคนที่อยู่ในสถานะต่ำกว่าจนเนื้อตัวขาวนั้นสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะความหวาดกลัว
“หมอนั่นมันน่าจะรู้ดีว่าฉันเกลียดอะไรมากที่สุด”
และเจ้าตัวเองก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดข่มขวัญอัลฟ่าจากแดนเหนือง่าย ๆ
รสจูบที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและการต่อต้าน ให้ความรู้สึกที่น่ารำคาญสิ้นดี กลิ่นประจำตัวของอัลฟ่าแดนเหนือที่แม้จะเป็นกลิ่นดอกไม้เฉกเช่นเดียวกับคุณหนูเยลเวอร์ตัน ก็กลับไม่ได้ทำให้แมดส์นั้นรู้สึกชมชอบที่จะได้กลิ่น
กลิ่นหอมหวานอ่อน ๆ ที่เข้ากันได้ดีกับ เธียร์ เยลเวอร์ตัน ไม่ว่ากี่ครั้งที่ได้สูดดมมันก็ชวนให้เลือดในกายสูบฉีดอยู่เสมอ
แต่ไม่ทันที่ แมดส์ ไทเลอร์ จะได้พูดอะไรกับ แอชเชอร์ เลสลีย์ ต่อ แรงกระชากจากทางด้านหลังพร้อมกับเสียงสบถที่ไม่เห็นหัวกัน ก็ทำให้เจ้าตัวรับรู้ถึงการมาถึงของ เชส ไทเลอร์ อันที่จริงจะพูดว่าแมดส์รับรู้ได้ตั้งแต่เจ้าตัวเดินเข้ามาในบ้านก็คงจะถูก
เสียงฝีเท้าและกลิ่นไม้สนซีดาร์ที่เข้าประสาทสัมผัสของแมดส์ มีหรือจะหลุดรอดจากสัมผัสของนักฆ่าจากแดนใต้ไปได้
“ไอ้บัดซบเอ๊ย”
แรงกระชากไม่น้อยจากน้องชายฝาแฝดทำให้หมาบ้าเสียหลักไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้เจ้าตัวเสียหลักล้ม ยิ้มแสยะที่ถูกส่งให้กับหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์และการกระทำก่อนหน้าของเจ้าตัว ก็ทำให้เชสโมโหไม่น้อย
“ทักทายกันได้ดีนี่น้องชาย”
แมดส์ทักทายน้องชายฝาแฝดของตัวเองที่ไม่ได้เจอกันมานาน ด้วยน้ำเสียงที่กวนประสาทและยั่วยุให้หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์สติแตก
“อย่ามาล้ำเส้นกันดีกว่าน่าแมดส์..” เชส ไทเลอร์ สะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไม่น้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นหลังจากควบคุมตัวเองได้ ในขณะเดียวกันพี่ชายฝาแฝดของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ก็ยังคงไม่มีท่าทีเดือดร้อนแต่อย่างใด ทั้งที่การกระทำของตัวเองนั้นมันช่างหยามหน้าน้องชายเสียเหลือกิน
ท่าทางไม่ต้อนรับ แมดส์ ไทเลอร์ ของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ มันก็ไม่ได้ผิดคาดจากที่เจ้าตัวคิดไว้เสียเท่าไหร่
“ถือหรือ?” แมดส์เอ่ยถามเสียงเรียบ ในขณะที่ดวงตาดุของเจ้าตัวยังคงจับจ้องไปยังคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของน้องชายตัวเองอย่างไม่คิดจะวางตา “แต่ก็น่าเสียดายที่ฉันไม่สนใจ”
เลสลีย์ก็แค่เหยื่อที่ถูกล่าวซึ่งแมดส์ไม่มีวันจะแยแสมัน
“ฉันรู้ว่าสิ่งที่นายทำมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น..” เชสกดเสียงเข้มขึ้น ในขณะที่ฝ่ามือใหญ่ก็ยังคงกุมฝ่ามือของคนด้านหลังไว้แน่นจนคนผิวขาวก้มลงมองที่ฝ่ามือของตัวเอง
ปกป้องกันเสียจนคนมองหัวเราะเบา ๆ ในลำคอกับความรักที่มันผิดที่ผิดทาง
“ดี… ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาพูด” หมดเวลาที่ แมดส์ ไทเลอร์ เย้าหยอกเหยื่อให้ตายใจเสียที
“ไม่ว่าเหตุผลของใครหน้าไหนก็หยุดฉันไม่ได้” น้องชายฝาแฝดเอ่ยตอบเสียงเข้ม
“แล้วฉันดูใช้เหตุผลงั้นสิ”
แมดส์ย้อนกลับคำพูดของแฝดน้องตัวเองด้วยท่าทีของคนเหนือกว่า ก่อนจะสลับมองใบหน้าของน้องชายและอัลฟ่าแดนเหนือที่ร่ำลือกันให้หนาหู
สง่าและงดงามไม่ผิดอย่างที่ใครพูด แม้จะอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงเสียขนาดนั้นแต่อัลฟ่าก็ยังคงเป็นอัลฟ่า
“อย่ายุ่งกับคนของฉัน”
“ยากไป.. ฉันทำให้ไม่ได้”
จนถึงตอนนี้นักฆ่าหนุ่มก็ยังไม่เห็นเหตุผลที่มากพอในการให้เชื้อสายของเลสลีย์ได้อยู่ในแดนใต้..
“ถึงจะเป็นพี่แต่ก็ใช่ว่านายจะมาก้าวก่ายชีวิตฉันได้”
“แกเคยรับรู้อะไรด้วยหรือเชส..”
“….”
“ไม่ต้องให้ฉันเล่นบทพี่ชายก็ดี..”
“....”
“เพราะถ้าได้เป็นตัวของฉันเอง มันคงทำอะไรได้ง่ายขึ้น”
เป็นหมาบ้าอย่างที่ใครตราหน้ามันก็ถูกแล้ว..
หลังจากที่แมดส์พูดจบ หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ก็พุ่งเข้าใส่พี่ชายของตัวเอง มีดในมือของเชสที่จ่อเข้าที่ลำคอของแมดส์ ไทเลอร์ ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาที ยังคงไม่ได้ทำให้แมดส์ตกใจแต่อย่าง สีหน้าเรียบนิ่งและแววตาที่ยังเฉยชา แม้ความตายจะอยู่ตรงหน้า นั่นคือสิ่งที่เป็นเรื่องน่าอันตรายของแมดส์
หมาบ้าที่ไม่เคยกลัวตาย และกล้าได้กล้าเสียเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
ปลายมีดคมนั่นก็เริ่มที่จะกดเข้าหาผิวเนื้อบริเวณลำคอของ แมดส์ ไทเลอร์ อย่างไม่ลังเล จนลือดสีสดไหลออกมาตามรอยที่คมมีดบาดผิวเนื้อ ความเจ็บแสบที่แล่นริ้วยังคงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับหมาบ้า จนทำให้เจ้าตัวเอ่ยประโยคเจ็บแสบให้หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์หลุดการควบคุมตัวเองในทันที
“พวกโอเมก้ามันคงไม่ถึงใจเท่าอัลฟ่าแบบนั้นใช่หรือเปล่า..”
พลั่ก!
“ถ้าพูดแล้วมันย้อนเข้าหาตัวเอง ก็หุบปากซะ”
นอกจากจะไม่สะทกสะท้านแล้ว แมดส์กลับหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ กับคำพูดของแฝดน้อง เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าคนเป็นน้องจะรู้อะไรมา เพราะสำหรับแมดส์ในตอนนี้ เลสลีย์คือเป้าหมายเดียวที่เจ้าตัวอยากจะกำจัด โดยไม่ต้องรับค่าจ้างใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะพวกแดนเหนือที่ตามล่าตัว หรือจะเป็นหัวหน้าหน่วยกลางที่จงเกลียดจงชังเลสลีย์คนเล็ก
“มันก็คงทั้งนายและฉันไม่ใช่หรือ?”
“แมดส์…”
“นายก็รู้ ว่าความสัมพันธ์ของเลสลีย์กับไทเลอร์มันซับซ้อนแค่ไหน”
แฝดพี่เอ่ยด้วยระดับเสียงที่พอให้ได้ยินกันเพียงสองคน ก่อนจะมองข้ามไหล่ของน้องชายไปที่อัลฟ่าตัวขาวที่ยืนมองทั้งคู่ด้วยท่าทางที่ตื่นกลัวอยู่เต็มที
เรื่องที่ต่างฝ่ายต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ คำพูดของแมดส์ทำให้เชสผ่อนแรงลงอย่างไม่น่าเชื่อ ดวงตาคมของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เต็มไปด้วยความวูบไหว เมื่อนึกย้อนถึงเรื่องราวในอดีตที่ฉุกคิดขึ้นมา
ทรูอัลฟ่าหนุ่มผู้มาใหม่ยกแขนของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะออกแรงดันแฝดน้องของตัวเองออกด้วยแรงไม่น้อย มันมากพอจะทำให้เชสถอยหลัง แมดส์ไม่ได้ตอบโต้น้องชายของตัวเองด้วยความรุนแรงแต่อย่างใด นอกเสียจากจะทิ้งคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายนิ่งเงียบและทบทวนตัวเอง
“ทั้งเป็นคนแดนเหนือ ทั้งเป็นพวกตระกูลเลสลีย์ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นกัน..”
แมดส์เดินชนไหล่ของคนเป็นน้องด้วยความตั้งใจ ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวขาวอวดดีกับตัวเองก่อนหน้านี้ เป็นอีกครั้งที่แมดส์ไล่มองแอชเชอร์ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างจาบจ้วง
“....”
“ว่างั้นไหม?”
ทุกอย่างที่เป็น แอชเชอร์ เลสลีย์ มันช่างต้องห้ามสิ้นดี..
ฝ่ามือหยาบของแมดส์ตบเบา ๆ ที่แก้มขาวของอดีตอัลฟ่าแดนเหนือ ทั้งยังตบท้ายด้วยรอยยิ้มเย็น และดวงตาเรียบนิ่งอย่างท้าทาย ก่อนเจ้าตัวจะเดินเลี่ยงออกไปนอกห้องแล้วปล่อยให้แฝดน้องของตัวเองนั้นได้อยู่กับอัลฟ่าของตัวเอง
รอยยิ้มบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นหลังจากที่เดินออกมาจากบ้านพักของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ คงไม่มีใครได้เห็นมันนอกจากเจ้าตัวที่รับรู้ถึงความบิดเบี้ยว ที่ยังเกาะกินจิตใจของตัวเองอย่างไม่มีวันจางหาย
การปรากฏตัวของ แมดส์ ไทเลอร์ ในเดอะฮิลล์ สร้างความตกใจให้กับคนในเดอะฮิลล์ จนเป็นที่พูดถึงกันไปทั้งหน่วย ใบหน้าที่เหมือนกับ เชส ไทเลอร์ แต่มองเพียงปราดเดียวก็สามารถรับรู้ได้ว่าทรูอัลฟ่าผิวเข้มที่มีร่างกายกำยำ ไม่มีทางใช่หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่ใครคุ้นเคยกันดี
“ฉันนึกว่านายจะไม่โผล่มาแล้วเสียอีก” คำทักทายของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงสวยเอ่ยทักผู้ที่เดินเข้ามาใหม่ ใบหน้าที่ถอดแบบมาพิมพ์เดียวกับหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ มีร่องรอยของบาดแผลที่สดใหม่เสียจนไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ก็พอทำให้ รีส เบลเลอมอนท์ รู้ว่า แมดส์ ไทเลอร์ นั้นไปฟัดกับใครที่ไหนมา
“พี่ชายคนโตหวังดีส่งข่าวให้กันทั้งที หากไม่มาคงจะเสียน้ำใจน่าดู” ประโยคที่เอ่ยกระทบกระแทกของแมดส์ เป็นเรื่องที่เบลเลอมอนท์ค่อนข้างคุ้นชิน จนไม่ถือสาอะไรกับความปากไม่ดีของน้องชาย
ไม่ว่าจะครั้งไหนที่เจอกัน ไอ้หมอนี่มันก็ยังปากดีเหมือนเคย..
“ไม่ใช่ว่ารู้อยู่ก่อนแล้วหรอกหรือ?” แมดส์ ไทเลอร์ ไม่ใช่คนโง่ที่จะยอมให้พี่ชายคนโตปั่นหัวได้ง่าย ๆ
“อะไรทำให้นายคิดแบบนั้น” หากเทียบกันแล้วในสามพี่น้องไทเลอร์คนที่ยากจะรับมือที่สุดก็คงต้องยกให้ แมดส์ ไทเลอร์ แต่ถ้าเป็นเรื่องสร้างความวุ่นวายและน่าปวดหัวก็คงจะต้องยกให้กับผู้ปกครองฟลัม ผู้ซึ่งชื่นชอบการเดิมพันและความเสี่ยงมากที่สุด
“ฉันแค่รู้สึกว่ามันมีอะไรที่มากกว่านั้น หรือนายว่าไม่จริง?” เบลเลอมอนท์ว่า “ดูท่าแล้วก็คงไปป่วนเชสมาแล้วล่ะสิ ถึงได้มีแผลกลับมาแบบนี้”
“เรียกว่าป่วนได้ไหมฉันก็ไม่แน่ใจ แต่แค่คิดว่าคงสนุกน่าดูถ้าทำให้เชสมันดิ้นพล่านได้”
“เป็นพี่น้องก็ควรจะรักกัน” คนที่อายุมากที่สุดเอ่ยพลางยกยิ้มแสยะที่ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าหมายถึงอะไร
“งั้นก็คงต้องรักเมียน้องชายตัวเองด้วยอย่างนั้นหรือ” ความหมายโดยนัยของแมดส์ ทำให้รีสหุบยิ้มโดยฉับพลัน “ไม่ยิ้มต่อล่ะพี่ชาย…” เหตุการณ์คุ้น ๆ ที่เหมือนจะเคยเกิดขึ้นกับครอบครัวของไทเลอร์ มันน่าสะอิดสะเอียดสิ้นดี
“ไม่มีใครตั้งใจให้มันเกิดขึ้น..”
“ฉันฟังคำพวกนี้มันมากเกินพอแล้วรีส” แมดส์ตอบอย่างไม่ต้องคิด
“แล้วจู่ ๆ ทำไมนายถึงไปที่ฟลัมกัน”
“ไม่ใช่เรื่องของนาย”
“ที่ฉันถามก็เพราะอยากให้นายพูดเอง ไม่ใช่ให้ฉันต้องเปิดปากพูดก่อน” รีสเอ่ยเสียงเรียบ
“ถ้ามันไม่จำเป็น ให้ตายฉันก็ไม่มีทางกลับไปเหยียบที่นั่น”
การปรากฏตัวของ แมดส์ ไทเลอร์ ที่ฟลัมในช่วงที่ รีส เบลเลอมอนท์ ไม่อยู่ มีหรือที่จะไม่ถูกรายงานจากลูกน้องที่ส่งข่าวคราวมาบอกอยู่เป็นระยะ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่อยู่ ๆ เชส ไทเลอร์ จะไปอยู่ที่ฟลัม ทั้งที่ผู้ปกครองฟลัมเดินทางมาหาเจ้าตัวยังเดอะฮิลล์ เพียงแค่นั้นก็ทำให้พี่ชายคนโตของไทเลอร์ รับรู้ถึงการมีตัวตนอีกครั้งของน้องชายคนรอง
“คงเป็นเรื่องจำเป็นน่าดู ถึงทำให้นายยอมกลืนคำพูดตัวเองลงได้”
“….” แววตาของแมดส์ที่มองหน้ารีส ทำให้ผู้ปกครองฟลัมรับรู้ถึงอารมณ์ของอีกฝ่ายในทันที
“เป็นยังไงบ้างล่ะกับการได้เจอคนแดนเหนือ” รีส เบลเลอมอนท์ พยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนาก่อนที่จะได้คุกรุ่นไปมากกว่านี้
“ไม่ผิดจากที่ร่ำลือ” แมดส์ว่า “เสียดายที่เป็นอัลฟ่า เพราะถ้าเกิดเป็นโอเมก้าคงจะสนุกกว่านี้” ริมฝีปากแห้งผากถูกลอบเลียด้วยลิ้นอย่างย่ามใจ
“แอชเชอร์ไม่ได้แย่ขนาดที่นายคิดหรอกนะแมดส์”
“ฟังดูแล้วท่าทางนายเองก็ดูจะชอบใจเด็กนั่นนะรีส” ไทเลอร์แฝดพี่เอ่ยเสียงเรียบ พลางมองใบหน้าของเบลเลอมอนท์ที่ยังคงประดับด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ
“หรือนายจะปฏิเสธว่าไม่น่าสนใจ”
“อวดดีและจองหองอย่างนั้นน่ะหรือ”
“อ่า.. ฉันลืมไปเสียสนิทว่าน้องชายของฉันคนนี้เกลียดอะไร”
“อย่าเล่นลิ้นนัก”
รีสส่ายหัวน้อย ๆ กับคำพูดที่หาเรื่องของแมดส์ ไทเลอร์
“นายรู้ดีว่าอะไรก็ขวางเชสไม่ได้เหมือนที่ไม่มีใครเคยขวางนายได้”
“รู้อย่างนี้ฉันน่าจะฆ่าตัวปัญหานั่นไปตั้งแต่ตอนที่หมอนั่นมันไม่อยู่”
“ฉันเดาไม่ผิดจริง ๆ ที่คิดว่าเป็นนาย” รีสอดชื่นชมลางสังหรณ์ของตัวเองอย่างเสียไม่ได้ ทั้งการกระทำที่อุกอาจและไหนจะคำบอกเล่าของเลสลีย์ หากลองคิดดูดี ๆ มันก็ชี้นำไปที่ แมดส์ ไทเลอร์ แทบทั้งนั้น
“ขนาดนั้นเชียว..”
“วิธีฆ่าคนโดยที่ทำให้มือตัวเองเปื้อนเลือดน้อยที่สุด มันทำให้ฉันนึกถึงนาย”
“มือฉันเปื้อนเลือดมาพอแล้ว” คำพูดของรีสสะกิดใจคนฟังอย่างแมดส์ จนทำให้เจ้าตัวตีสีหน้าเรียบนิ่ง
“มันไม่สายเกินกว่าที่นายจะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ”
“ฉันเคยต้องการ จนวันนี้ไม่เคยต้องการมันอีกแล้ว”
“ให้ตายสิ..”
“นายไม่จำเป็นต้องมาเดือดร้อนเรื่องของฉันหรอกเบลเลอมอนท์”
“อย่าลืมว่านายเองก็เป็นเบลเลอมอนท์”
“ขนาดไทเลอร์ฉันยังรังเกียจเกินกว่าที่จะใช้ นายคิดหรือว่าเบลเลอมอนท์จะเป็นสิ่งที่ฉันยอมรับ”
“….”
“เลิกพูดถึงเรื่องนี้กันได้แล้ว ฉันไม่อยากจะเสวนา” แมดส์ว่า “ความตั้งใจของนายจริง ๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่”
“ตั้งใจ?”
“เรียกฉันมาที่นี่ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าฉันเกลียดพวกเลสลีย์มากแค่ไหน มันหมายความว่ายังไง”
ผู้ปกครองฟลัมยกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจในคำถาม ก่อนที่ผิวปากเบา ๆ พลางเอนตัวลงกับเบาะพิงหลังด้วยท่าทีสบาย ๆ
“ขวางไปก็เท่านั้น ไร้ประโยชน์เปล่า ๆ ”
“คนอย่างฉันไม่ทำแค่ขวาง นายก็รู้..”
“จะเรียกนายมา หรือปล่อยให้นายมาเอง ค่ามันก็เท่ากันอยู่ดี เพราะยังไงเสียหมาบ้ามันก็คือหมาบ้า”
“จะมาเป็นคนแดนใต้กันดื้อ ๆ แบบนี้มันง่ายไป”
“จะเล่นอะไรก็อย่าลืมนึกถึงขีดความอดทนของเชสเสียล่ะ” ผู้ปกครองฟลัมเอ่ยเตือนแมดส์ด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม
“รอดูก็แล้วกัน”
“นายนี่มันเลือดเย็นไม่เปลี่ยน”
“ฉันรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”
“ถึงจะเป็นโอเมก้า แต่นายอย่าลืมว่ายังไงเขาก็คือเยลเวอร์ตัน”
เจ้าของใบหน้าเฉยชาตวัดสายตามองพี่ชายต่างพ่อของตัวเอง เมื่อได้ยินชื่อใครอีกคนหลุดออกมาจากปากของผู้ปกครองฟลัม
“โอเมก้าก็คือโอเมก้า” แมดส์เอ่ยอย่างไม่ยี่หระ สายตาจริงจังของเจ้าตัวที่มองจ้องผู้ปกครองฟลัม ไม่ได้ทำให้รีสหยุดสิ่งที่ตัวเองกำลังพูดแต่อย่างใด
ยิ่งเห็นการตอบสนองของแมดส์ที่ดูหงุดหงิดและงุ่นง่าน มันก็ยิ่งทำให้คนอย่างเบลเลอมอนท์ชอบอกชอบใจ เสียจนอยากจะเห็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เพียวโอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์ ที่ติดสอยห้อยตาม แมดส์ ไทเลอร์ ไปยังฟลัม คงเป็นคนสำคัญไม่น้อยที่ทำให้หมาบ้ายอมกลืนน้ำลายตัวเอง
“อย่าพลาดขึ้นมาก็แล้วกัน”
ทรูอัลฟ่าผิวเข้มจ้องมองใบหน้าพี่ชายของตัวเองอย่างไม่วางตา ในขณะที่นิ้วมือของเจ้าตัวนั้นเคาะลงกับโต๊ะตรงหน้าช้า ๆ การกระทำที่ชวนให้ประสาทเสียด้วยความเงียบ ยังคงเป็นเรื่องที่แมดส์ถนัดเป็นอย่างดี
แต่ทว่าเสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านนอกก็ทำให้บทสนทนาของทั้งคู่เป็นอันต้องจบลง ก่อนที่จะต้อนรับผู้มาใหม่ซึ่งเปิดประตูเข้ามาภายในห้องด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
เชส ไทเลอร์ ปิดประตูห้องเสียงดังลั่นตามอารมณ์ที่คุกรุ่น ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยปากพูดกับคนเป็นพี่ชายอย่างไม่ลังเล
“จะเอายังไงก็ว่ามา”
“ใจร้อนอะไรขนาดนั้น…”
“….”
“คนที่ทำผิดกฎสมควรได้รับโอกาสด้วยหรือ?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นหัวหน้าหน่วยหรือเพราะไม่ใช่พี่มีชายช่วยหนุนหลัง ความรักงี่เง่าของนายมันก็ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้”
“มันไม่มีความยุติธรรมที่ไหนหรอกแมดส์”
“งั้นก็โชคดีแล้วล่ะที่พี่ชายคนนี้รักความยุติธรรมมาก ๆ ”
“....”
“มากเสียจนอดไม่ได้ที่จะต้องจัดการอะไรให้มันถูกต้อง”
“อย่าสอดเรื่องของฉัน”
“ให้สอดเรื่องคนของนายฉันก็ทำได้นะเชส”
“ปัญหามันจบไปนานแล้ว นายเองก็ควรจะจบเสียที” แฝดน้องอดไม่ไหวที่จะต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
“ลองให้ฉันใช้คนร่วมกับนายดูสิ เผื่อมันจะเป็นทางออก” แมดส์ ไทเลอร์ ก็พูดยั่วโมโหน้องชายไปเรื่อย คำพูดที่เจ้าตัวพูดออกไปนั้นไม่มีความจริงที่สามารถเชื่อได้เลยสักนิด
“อยากตายนักใช่ไหม..”
“ถ้าได้ลองลากเลสลีย์ลงนรกกับฉันสักครั้งก็น่าสนใจไม่หยอก”
แว่วเสียงถอนหายใจของเบลเลอมอนท์ที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายคงคร้านที่จะห้ามการมีปากเสียงกันของน้องชายทั้งสองคน
“อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทน..” เชสเอ่ยบอกคนเป็นพี่ ในขณะที่คนฟังนั้นเอาแต่ยิ้มเหยียด
“เท่าที่เห็นก็ดูนายจะอดทนไม่ได้อยู่แล้วนี่เชส” แฝดพี่ตบเข้าที่อกของน้องชายหนัก ๆ พลางเอ่ยประโยคที่ทำให้หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์กัดฟันกรอด “มันจะข่มได้สักเท่าไหร่กันเชียว”
เชส ไทเลอร์ ที่อดทนและใจเย็นได้กับแทบทุกเรื่อง กลับร้อนเป็นไฟเพราะความรักงี่เง่าพวกนี้..
“พอกันทั้งคู่” เบลเลอมอนท์เอ่ยขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นมาแยกแฝดทั้งคู่ออกจากกัน แน่นอนว่ามันก็ทำให้ เชส ไทเลอร์ หัวเสียไม่น้อย “ประเด็นมันอยู่ที่นายเกลียดเลสลีย์มากกว่านะแมดส์”
“จะให้ฉันยอมรับได้ยังไงกัน คนแดนเหนือมันเปลี่ยนมาเป็นคนแดนใต้กันได้ง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“แมดส์..” รีสเอ่ยชื่อของแฝดคนพี่เสียงเข้ม
“มันยอมรับยากว่ะเชส”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง” หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เอ่ยถามแฝดพี่ที่เอาแต่มองหน้าตัวเองด้วยสายตาว่างเปล่า
“ได้ข่าวว่าอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า เดอะฮิลล์จะมีการฝึกประจำหน่วย…” รอยยิ้มร้ายกาจของ แมดส์ ไทเลอร์ ค่อย ๆ เผยออกมายามที่เจ้าตัวพูด “ทำไมไม่ลองเอาอัลฟ่านั่นลงไปร่วมการฝึกด้วยล่ะเชส..”
“....”
“ถ้าเลสลีย์เอาชนะฉันได้ ฉันก็จะยอมรับ แบบนี้มันน่าสนใจพอไหม..”
เชส ไทเลอร์ สบตากับแฝดพี่นิ่งในขณะที่ฝ่ามือหนากำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ทางด้านเบลเลอมอนท์เองก็ได้แต่มองเชสอย่างประเมินว่าเจ้าตัวตกหลุมพราง แมดส์ ไทเลอร์ หรือเปล่า และมันก็เป็นตามคาดของรีสอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
“ทำไมฉันต้องทำตามข้อเสนอของนาย ในเมื่อเห็นอยู่ชัด ๆ ว่านายได้เปรียบ”
“ก็ลองคิดดูว่ามันคุ้มไหม”
“อันที่จริงมันควรเป็นฉันกับนายมากกว่าหรือเปล่าแมดส์”
แมดส์ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อได้ยินคนเป็นน้องชายพูดออกมาเช่นนั้น
“ไม่เข็ดหรือ?” แมดส์เลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อน้องชายของตัวเองเอ่ยออกมาแบบนั้น “ครั้งที่แล้วเราอาจจะเสมอกัน แต่ฉันคิดว่าครั้งนี้มันคงไม่มีทางเป็นแบบนั้นอีก”
“ใครจะรู้ บางทีฉันอาจจะชนะนายก็ได้”
“มั่นใจขนาดนั้นเชียว” แมดส์รู้ดีว่าจุดอ่อนในการต่อสู้ของเชสคืออะไร
“นายมั่นใจหรือว่าจะเอาชนะฉันได้”
คงเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากสำหรับการตัดสินใจว่าฝ่ายไหนจะแพ้ ฝ่ายไหนจะชนะเพราะทั้งเชสและแมดส์ต่างก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยสักนิด
“ถ้าฉันชนะนายต้องส่งเลสลีย์กลับแดนเหนือ แต่ถ้าฉันแพ้ฉันจะไม่ขวางอะไรพวกนายสองคน” แมดส์ยื่นข้อเสนออย่างมั่นใจ
“ขอโทษ..” เชสเอ่ยออกมาสั้น ๆ “นายต้องขอโทษแอชเชอร์ด้วย”
“ข้อแลกเปลี่ยนหนึ่งต่อหนึ่ง มันไม่มากไปหน่อยหรือถ้าจะเพิ่มเป็นสอง” แมดส์เอ่ยอย่างไม่คิดจะยอมรับข้อตกลงที่เชสเพิ่มขึ้นมา
“ย่อมได้..”
“ฉันไม่ออมมือให้นายหรอกนะเชส”
“นางเองก็อย่าตุกติกให้ฉันต้องพลั้งมือ”
เกรงว่าคนที่พลั้งมือมันอาจจะเป็น แมดส์ ไทเลอร์ ต่างหาก..
“ภาวนาให้ฉันไม่พลั้งมือเล่นกับคนของนายแรง ๆ ก่อนถึงวันชิงธงดีกว่า”
“อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทนกับนายอีกครั้ง”
“ยังไงก็อดทนให้ได้ตลอดก็แล้วกันล่ะน้องชาย..”
เพราะในตอนนี้ แมดส์ ไทเลอร์ เองก็นับถอยหลัง รอวันที่จะเข้าร่วมการฝึกของเดอะฮิลล์จะแย่
ในที่สุดวันแข่งขันชิงธงประจำหน่วยป้องกันเดอะฮิลล์ก็มาถึง ทรูอัลฟ่าเจ้าของผิวเข้มไล่ความขบเมื่อยตามร่างกายของตัวเองอย่างเกียจคร้าน หลังจากที่เจ้าตัวใช้ชีวิตอยู่ในเดอะฮิลล์ ท่ามกลางความสนใจของคนในหน่วย เจ้าตัวเพียงแค่มองดูความเป็นไปของคนในหน่วยที่ขมักขเม้นในการซ้อมต่อสู้ เพื่อสังเกตอะไรหลาย ๆ อย่างไว้เป็นประโยชน์กับตนเอง
ทั้งเส้นทางบนภูเขาขนาดย่อมที่ถัดออกไปจากหน่วยป้องกัน ก็ถูกแมดส์สำรวจเสียจนหมด ในขณะที่ใครต่อใครต่างสนใจอยู่กับการฝึกซ้อม
แมดส์ ไทเลอร์ เป็นคนฉลาดและรู้จักเอาตัวรอด แต่นั่นก็เป็นวิธีการใช้ความฉลาดของตัวเองที่แตกต่างกับ เชส ไทเลอร์ อย่างชัดเจน
แฝดน้องที่เอาตัวรอดบนความถูกต้อง คงไม่มีทางเหมือนแฝดพี่ที่เอาตัดรอดทุกวิถีทาง..
การแข่งขันในวันนี้ยังคงใช้กฎกติกาเดิมอย่างเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาของเดอะฮิลล์ โดยมีการแบ่งเป็นฝั่งป้องกันและฝั่งจู่โจม และในครั้งนี้ เชส ไทเลอร์ ก็อยู่ในตำแหน่งฝ่ายป้องกัน และฝั่งจู่โจมก็คงหนีไม่พ้น แมดส์ ไทเลอร์ ที่ยังคงยืนรวมกลุ่มอยู่กับฝั่งของตัวเอง
ขึ้นชื่อว่าการแข่งขันแล้ว อัลฟ่าและเบต้าในหน่วยต่างให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบของตัวเอง เกินกว่าที่จะสนใจเดิมพันลับ ๆ ของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์และพี่ชายฝาแฝด
เจ้าของดวงตาดุคมไล่กวาดมองคนที่อยู่ในฝั่งของตัวเองอีกครั้ง แม้จะไม่ได้หยุดสายตาไว้ที่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่สายตาที่ชวนให้สงสัยของหนึ่งในนั้น ก็ทำให้แมดส์หมายหัวอัลฟ่าคนนั้นไว้ในทันที
เริ่มเกมเมื่อใด.. อัลฟ่าโชคร้ายที่ถูกหมายหัวนั่น คงต้องได้ถูกกำจัดออกจากเกมเป็นคนแรก
เสียงกลองที่ดังเป็นจังหวะระรัวและเสียงคึกโครมที่ดังขึ้นเรียกขวัญกำลังใจจากทั้งสองฝั่งนั้น ทำให้ภายในหน่วยป้องกันก้องไปด้วยเสียงเฮของอัลฟ่าและเบต้าซึ่งต่างพร้อมใจกันตะโกนออกมา เพื่อข่มขวัญฝั่งตรงข้ามของตัวเองให้ได้ขวัญผวากันเล่น ๆ
คนที่มีดวงตาร้ายกาจแม้จะไม่ได้พูดอะไรในตอนนี้ แต่ทว่าสายตาของเจ้าตัวก็ยังคงจ้องมองเลสลีย์คนเล็กอย่างไม่วางตา
เจ้าของผิวขาวซีดที่ยืนอยู่ข้างน้องชายของเขา ดูท่าทางจะกังวลไม่น้อย จนแสดงทุกอย่างผ่านสายตาและการกระทำ เจ้าตัวหลบสายตาของแมดส์ทันทีที่บังเอิญสบสายตาคู่ดุ มีก็แต่เลสลีย์คนโตที่ยังกล้ามองหน้าไทเลอร์คนกลาง แน่นอนว่าแมดส์จำดีว่าอีกฝ่ายโผล่มาที่เดอะฮิลล์เมื่อไม่กี่วันก่อน ด้วยสภาพที่ดูไม่ได้เสียเท่าไหร่
อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งพี่ทั้งน้องเช่นนี้ มันก็ย่อมง่ายเหลือเกินที่จะกำจัดพวกเลือดสกปรกออกไปให้พ้นทาง
หลังจากที่ฟังเบลเลอมอนท์ย้ำเตือนถึงกติกาของการชิงธงในครั้งเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาอันสมควรที่เกมการแข่งขันจะได้เริ่มขึ้นเสียที ฝนที่ตกลงมาโปรยปรายอยู่ตลอด ไม่ได้ช่วยดับความพลุ่งพล่านในตัวของ แมดส์ ไทเลอร์ ที่กำลังเพิ่มขึ้นแม้แต่น้อย
“ไม่ต้องร่ำลากันขนาดนั้นหรอกมั้ง ก็แค่เกมมันคงไม่ตายหรอก”
แมดส์อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา เมื่อเห็นท่าทีอาลัยอาวรณ์ของเลสลีย์ที่มีต่อน้องชายของตัวเอง ก่อนจะตบบ่าแฝดผู้น้องของตัวเองหนัก ๆ พลางเลื่อนสายตามาจดจ้องที่อัลฟ่าตัวขาวอย่างคนเหนือกว่า
“เดอะฮิลล์คงได้อยู่ไม่สุขแน่เพราะการมาเยือนของนาย..”
เชส ไทเลอร์ จับมือแฝดพี่ที่บีบไหล่ของเจ้าตัวออกด้วยแรงที่ไม่แพ้กัน หลังจากที่เอ่ยประโยคแฝงความหมายโดยนัย ซึ่ง แมดส์ ไทเลอร์ เองก็ขบกรามแน่นไม่แพ้กันกับการตอกกลับของน้องชาย เจ้าตัวไม่มีเวลาเอาคำพูดของน้องชายมาขบคิดต่อ นอกเสียจากจะเมินเฉย และสนใจเรื่องน่าสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้
สายตาของสองพี่น้องที่ฟาดฟันอย่างไม่มีใครยอมใครย่อมทำให้คนที่ลอบมองนั้นแอบกลืนน้ำลายไปตามๆกัน
“เตรียมใจไว้ให้ดีล่ะเลสลีย์..”
แมดส์ ไทเลอร์ เอ่ยบอกอดีตอัลฟ่าแดนเหนือก่อนที่จะเดินกลับไปทางฝั่งของตัวเอง หลังจากทิ้งประโยคที่ไม่ต่างจากการไม่ยอมรับคนจากตระกูลเลสลีย์เข้ามาเป็นคนของไทเลอร์
เสียงฝีเท้าที่ย่ำลงบนพื้นดินเฉอะแฉะ พร้อมกับการปรากฏตัวของทรูอัลฟ่าผิวสีเข้มที่กำลังเดินกวาดตามองรอบ ๆ ตัวเอง เพื่อจัดการกับทุกคนที่จะเข้ามาขวางทางตัวเอง รอยเลือดจากบาดแผลที่ถากบริเวณข้างแก้มซึ่งเจ้าตัวไม่ได้สนใจ มันได้มาจากการต่อสู้เมื่อครู่ก่อนหน้า ซึ่งอัลฟ่าที่เป็นคนสร้างบาดแผลไว้บนใบหน้าคมก็นอนเจ็บอยู่แถว ๆ นั้น หลังจากที่โดนนักฆ่าหนุ่มจัดการจนไม่มีแรงลุกขึ้นมาสู้
หยาดน้ำที่เปียกชุ่มทำให้เสื้อผ้าที่แมดส์สวมใส่แนบไปตามร่างกายแข็งแรง อวดให้เห็นร่างกายกำยำที่ผ่านการใช้กำลังมาอย่างหนัก เส้นผมสีอ่อนถูกเสยไปด้านหลังเพื่อไม่ให้บดบังการมองเห็นของตัวเอง
พลั่ก
แมดส์ ไทเลอร์ เบี่ยงตัวหลบในทันที เมื่อหางตาของเจ้าตัวนั้นเห็นอันตรายที่กำลังจะพุ่งเข้ามาทำร้ายตัวเอง เท้าของนักฆ่าหนุ่มอัดเข้าที่กลางหลังของเบต้าใจกล้านั่นอย่างไม่ลังเล ก่อนที่จะยืนมองอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับตัวเองอย่างใจเย็น
หมาบ้าที่พึ่งเริ่มคลั่งยังคงใจเย็นมากพอที่จะหยอกล้อกับเหยื่อ แม้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะไม่ปล่อยเหยื่อให้รอดไปไหนก็ตาม
แรงไม่น้อยที่พุ่งเข้าใส่พร้อมกับอาวุธมีคมที่ตั้งใจจะใช้แทงเข้าที่ร่างกายของไทเลอร์ กลับถูกเจ้าของมือใหญ่หักข้อมือได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่มีดเล่มเล็กจะร่วงหล่นไปที่พื้นและโดนแตะจนออกไปไกล
“มีแรงแค่นี้หรือ?”
เจ้าของรอยยิ้มเย็นเอ่ยถามอัลฟ่าตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่จะค่อย ๆ เพิ่มแรงมากขึ้นจนหมอนั่นร้องโอดครวญด้วยความเจ็บ
แน่นอนว่าแมดส์นั้นรำคาญเสียงของอีกฝ่ายเกินกว่าที่จะทนฟังได้ เจ้าตัวจึงเลือกที่จะจัดการทำให้อีกฝ่ายนั้นหุบปากไปสักพักใหญ่ แทนที่จะสร้างบาดแผลได้เลือดให้กับมัน
“น่ารำคาญเสียจริง..”
แมดส์ ไทเลอร์ สะบัดไหล่ของตัวเองน้อย ๆ พลางใช้เท้าเขี่ยร่างของอัลฟ่าตรงหน้าให้พ้นทางตัวเอง
เวลาที่ล่วงเลยไปพักใหญ่ ย่อมทำให้คนในเกมนั้นเหลือน้อยลงไปทุกที จนแมดส์นั้นเริ่มเปลี่ยนทิศทางการก้าวเดินของตัวเอง ไปยังอีกทิศหนึ่งซึ่งอยู่นอกเส้นทางการแข่งขันในเกม
ถ้าคนอย่าง แมดส์ ไทเลอร์ อยากจะเอาชนะ กฎกติกาพวกนั้นคงเป็นเรื่องที่โยนทิ้งไปได้เลย..
เส้นทางที่จะทำให้ แมดส์ ไทเลอร์ ขึ้นไปบนยอดเขา และถึงสถานที่ที่ปักธงของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว ถูกนำมาใช้อย่างที่นักฆ่าหนุ่มไม่คิดจะสนวิธีการได้มาซึ่งชัยชนะของตัวเอง
ทุกอย่างมันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เส้นทาง.. เพราะยังไงเสียสุดท้ายแล้วคนที่จะต้องต่อสู้กับแมดส์มันก็คือหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ คนไหวพริบดีอย่างเชสย่อมรับรู้ถึงความผิดปกติเป็นแน่
แต่ก็น่าเสียดายที่วันนี้ไหวพริบของหมอนั่นมันคงจะทำงานไปเสียหน่อย ถึงทำให้ แมดส์ ไทเลอร์ ขึ้นมายังจุดที่ ลูอิส เชอร์ชิล รักษาธงของฝั่งนั้นอยู่เพียงคนเดียว
เสียงสบถเบา ๆ ของเชอร์ชิลดังขึ้น เมื่อเจ้าตัวหันมาเห็น แมดส์ ไทเลอร์ ที่เดินเข้ามาด้วยท่าทีสบาย ๆ ผิดกับรังสีอันตรายที่แผ่ออกมาของเจ้าตัว
“คิดว่าตัวเองจะรักษาธงนี่ได้สักเท่าไหร่กันเชอร์ชิล..”
แมดส์เอ่ยถามอัลฟ่าตัวสูงใหญ่ที่ตั้งท่าพร้อมต่อสู้กับตัวเอง โดยที่ไม่ลืมส่งรอยยิ้มแสยะให้กับอีกฝ่าย
“ถ้าคิดว่าจะเอาธงนี่ไปได้ ก็ลองดู..”
“ใจกล้าดีนี่เชอร์ชิล..”
ชั่ววินาทีที่เจ้าของดวงตาดุกำลังยิ้มให้กับเชอร์ชิล ร่างกายกำยำของเจ้าตัวก็พุ่งเข้าใส่อัลฟ่าตัวสูง จนทำให้อีกฝ่ายเสียหลักเพราะแรงกระแทกที่โถมไปทั้งตัว แผ่นหลังของลูฟกระแทกเข้ากับโขดหินใหญ่ด้านหลัง จนทำให้เจ้าตัวส่งเสียงร้องครางในลำคอเพราะความเจ็บปวด ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะสะบัดไปตามแรงกระแทกของหมัดที่ซัดลงบนโหนกแก้ม จนรู้สึกร้าวไปทั้งใบหน้า
“อึก..”
เชอร์ชิลใช้แรงของตัวเองดันหมาบ้าที่เริ่มอาละวาดออก ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบขาของอีกฝ่ายที่หมายจะเตะอัดลำตัวของตัวเอง แต่ความรู้สึกมึนไม่น้อยที่ได้รับมาก่อนหน้าจากการถูกต่อยซ้ำ ๆ สองครั้งติด ก็ทำให้เชอร์ชิลหลบไม่พ้นเป็นครั้งที่สอง ต่อให้มีโอกาสสวนหมัดใส่แมดส์ได้ มันก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายเลิกโจมตัวเจ้าตัวเลยสักนิด
พลั่ก!
หมัดหนักที่กระแทกเข้าที่ช่วงท้องทำให้เชอร์ชิลทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นเพราะความจุก ก่อนที่จะถูกฝ่าเท้าของแมดส์นั้นยันเข้าที่หน้าอกจนเจ้าตัวล้มลงนอนกับพื้น เลือดสีสดไหลออกจากบาดแผลที่เกิดจากการปริแตก จนเหนอะหนะไปหมด เมื่อพยายามลุกขึ้นมาอีกครั้งก็ถูกเตะตัดขาจนล้มลงไป สีข้างที่ถูกเตะอัดอีกรอบเป็นผลทำให้ลูฟนอนขดตัวนิ่ง และไอโขลกออกมาพร้อมกับเลือดในปาก
“ฉันบอกนายแล้วไงว่าอย่าตุกติก”
ในขณะที่แมดส์กำลังเดินวนรอบ ๆ ตัวของเชอร์ชิล เสียงทักที่ดังขึ้นก็ทำให้เจ้าตัวหันกลับมาเผชิญหน้ากับหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ ก่อนจะยกยิ้มกว้าง ฝ่ามือสีแทนปาดคราบเลือดที่เลอะตามมือและใบหน้าของตัวเองออกลวก ๆ พลางก้าวเดินเข้ามาหาแฝดน้องอย่างใจเย็น ร่องรอยบาดแผลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นคงเป็นตัวบ่งบอกความบ้าคลั่งของ แมดส์ ไทเลอร์ ที่กระทำต่อคนในหน่วยเดอะฮิลล์ได้เป็นอย่างดี
“ฉันทำมันลงไปหรือ?” แมดส์ยังไม่วายกวนประสาท “แต่ก็ยังดีนะที่นายฉลาดพอจนนึกขึ้นได้”
“แล้วคือหรือว่าฉันจะยอมให้นายขึ้นไปบนนั้นง่าย ๆ ”
“ก็มาลองดู”
การต่อสู้ในครั้งนี้ อย่าหวังเลยว่า แมดส์ ไทเลอร์ จะออมมือให้กับ เชส ไทเลอร์ เหมือนครั้งก่อน ๆ ที่พวกเขาเคยพบกัน
“นายต่างหากที่ต้องกลับไป..”
สิ้นสุดคำพูดของเชส ทรูอัลฟ่าหนุ่มต่างก็พุ่งเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร หมัดหนัก ๆ ของ เชส ไทเลอร์ กระแทกเข้าที่ใบหน้าแฝดพี่ของตัวเองก่อนจนทำให้ได้เปรียบ ก่อนที่แมดส์จะใช้แรงทั้งหมดผลักตัวแฝดน้องกระแทกเข้ากับลำต้นของต้นไม้ใหญ่ด้านหลัง จนได้ยินเสียงกระดูกที่ลั่นขึ้นเพราะแรงกระแทก
“อั่ก..”
แฝดน้องร้องออกมาด้วยเสียงไม่เบานักเมื่อ แมดส์ ไทเลอร์ บีบเข้าที่ลำคอของเจ้าตัวจนใบหน้าของเชสแดงก่ำ มือใหญ่กำรอบคอของน้องชายฝาแฝดด้วยแรงไม่น้อย หลังจากที่เชสนั้นปักมีดลงบนไหล่ของแมดส์เข้าไปเต็มแรง แต่ดูท่าทางแล้วมันคงไม่สามารถหยุดความบ้าคลั่งของหมาบ้าในตอนนี้ได้
“ปอดแหกเหมือนเคย..” เชสมีโอกาสที่จะปักมีดลงบนจุดอื่น แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็กลับปักในจุดที่ทำให้แมดส์ผิดหวังเหลือเกิน จนถึงตอนนี้แมดส์ก็ยังไม่เห็นความเด็ดขาดของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์แม้แต่น้อย
“เลิกบ้าสักที!”
“มันก็แค่การแข่งขันที่เดิมพันด้วยคนของนายก็เท่านั้น..”
เมื่อแมดส์พูดจบ เชสก็ตัดสินใจกระแทกหัวของตัวเองชนเข้ากับอีกฝ่ายอย่างแรง จนทำให้หมาบ้านั่นผงะถอยออกไปเพราะความเจ็บที่หน้าผากที่ได้รับแรงกระแทก ต่างฝ่ายต่างหอบหายใจหนักไม่แพ้กัน เพราะความเหนื่อยจากการออกแรงและใช้กำลังอย่างมาก
หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์สะบัดหัวไล่ความมึนงงที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเล็กน้อย ก่อนจะใช้โอกาสนี้พุ่งตัวเข้าใส่แมดส์และซัดหมัดลงไปที่ใบหน้าของแฝดพี่อีกครั้ง ด้วยกำลังที่มากพอกันทั้งคู่ทำให้ต่างฝ่ายต่างล้มลุก พลัดกันขึ้นคร่อมทับพลัดกันแลกหมัดจนสภาพนั้นเละเทะไม่ต่างกันเพราะสภาพพื้นดินที่เฉอะแฉะ
แมดส์ ไทเลอร์ ถ่มเลือดในปากของตัวเองลงพื้นอย่างลวก ๆ ในขณะที่เจ้าตัวหยัดตัวลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง มีดซึ่งปักอยู่บนไหล่ถูกดึงออกมาถือไว้ในมือของแมดส์ ก่อนที่หมาบ้าซึ่งกำลังคลั่งได้ที่จนแทบบ้า จะสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่ถูกแมดส์อัดเข้าที่สีข้างจนกองอยู่กับพื้น
“จะให้พี่ชายคนนี้ทำยังไงต่อไปดีล่ะ..”
แมดส์เอ่ยถามก่อนจะเดาะลิ้นอย่างชอบใจที่เห็น เชส ไทเลอร์ นอนหมอบอยู่กับพื้น จนแทบไม่มีแรงเหลือลุกขึ้นมาสู้กับตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นเชสเองก็ยังคงพยายามที่จะฝืนลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับแฝดพี่ของตัวเอง
ท่าทางน่าสมเพชของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ในตอนนี้ มันทำให้แมดส์อยากจะหัวเราะดังลั่นให้สมกับความอวดดีของเจ้าตัวเสียจริง
“ก็เลือกเอาว่านายจะลงไปพร้อมกับธงนี่หรือจะลงไปมือเปล่า แล้วเอาตัวโอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์นั่นกลับไป”
รอยยิ้มของ แมดส์ ไทเลอร์ ที่ประดับอยู่บนใบหน้า ถึงกับค่อย ๆ หุบยิ้มลงเพราะคำพูดของ เชส ไทเลอร์ ที่เอ่ยถึงใครบางคนซึ่งสะกิดใจของหมาบ้าเป็นอย่างมาก
“!!!”
โอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์
เชส ไทเลอร์ เหยียดยิ้มหยันให้กับ แมดส์ ไทเลอร์ ที่ขบกรามแน่นจนได้ยินเสียงดังกรอด ๆ ยามที่เชสเอ่ยถึงบุคคลที่สามซึ่งก็คงจะกระตุกต่อมโมโหของเจ้าตัวได้เป็นอย่างมาก
“พวกอัลฟ่าข้างล่างที่อยู่ในเดอะฮิลล์คงลุกเป็นไฟน่าดูกับการที่ได้เจอคุณหนูโอเมก้านั่น..”
รอยยิ้มแสยะของ เชส ไทเลอร์ ทำให้แมดส์นั้นโกรธจนตัวสั่น เพราะหากเป็นอย่างที่เชสว่า นั่นก็เท่ากับว่าคุณหนูเยลเวอร์ตันที่สมควรจะอยู่โรสต์นั้นเดินทางมาเดอะฮิลล์ โดยไม่สนใจคำพูดของเจ้าตัวที่เคยห้ามไว้..
“เชส!”
แมดส์ ไทเลอร์ ไม่สามารถสะกดกลั้นใบหน้าของตัวเองให้เรียบเฉยได้เช่นเดิม สีหน้าเกรี้ยวกราดแสดงออกมาอย่างเต็มที่ เมื่อเจ้าตัวปะติปะต่อเรื่องทั้งหมดได้ในทันทีที่แฝดน้องของตัวเองพูดจบ
“คนที่โรสต์คือคนของฉัน แล้วมันจะแปลกอะไรที่พวกเขาจะยินดีที่จะเอาโอเมก้าที่นายฝากไว้มาที่นี่”
เสียงสบถด่าหยาบคายนับไม่ถ้วนหลุดออกจากปาก แมดส์ ไทเลอร์ โดยที่เจ้าตัวไม่สามารถควบคุมความบ้าคลั่งในตัวเองได้ มันทั้งโกรธ ทั้งโมโห ที่ชัยชนะตรงหน้าซึ่งกำลังจะเป็นของตัวเองกำลังจะหายไปในพริบตา เพราะเพียวโอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์ที่อยู่ด้านล่าง
ทั้งที่กลัวพวกอัลฟ่าแปลกหน้าจะเป็นจะตาย แต่ทำไมคุณหนูเยลเวอร์ตันถึงได้เลือกขัดคำสั่งของแมดส์ และพาตัวเองมาในที่ที่ตัวเองไม่ชอบเช่นนี้!
“ไอ้เวรเอ๊ย!”
“คุณหนูเยลเวอร์ตันที่ฉันว่า มันสำคัญกับนายพอไหมล่ะแมดส์...”
มีดที่อยู่ในมือของ แมดส์ ไทเลอร์ นั้นถูกขว้างปักลงที่พื้นอย่างแรง สายตาดุคมของแฝดพี่ตวัดกลับมามองน้องชายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
คำพูดคำจาที่แดกดันและไล่ต้อนตัวเอง ทำให้หมาบ้าเริ่มจะสติแตกไปมากกว่าเดิม
“ฉันก็มีของสำคัญของฉัน นายเองก็เหมือนกัน จริงไหม?”
“....”
“ถ้าแอชจะต้องกลับไรเนอร์ ฉันเองก็จะส่งเยลเวอร์ตันกลับฮาร์เดนเจอร์เช่นกัน”
“....”
หมาบ้าในตอนนี้กำลังถูกตีกรอบล้อมเข้ามาเรื่อย ๆ จนไม่สามารถอาละวาดได้อย่างเช่นเคย เพราะถูกตลบหลังจากคนเป็นน้องชาย ด้วยเรื่องที่ทำให้เจ้าตัวเลิกสนใจเกมชิงธงและเดิมพันพวกนี้
“นายจะลองแลกกับฉันไหมล่ะ”
คำถามที่แสนท้าทายคนฟัง จากปาก เชส ไทเลอร์ กระตุ้นความโกรธของแมดส์ให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก ฝ่ามือที่เปื้อนเลือดของเจ้าตัวกำเข้าหากันแน่น จนเห็นเส้นเลือดปูดโปนอย่างชัดเจน
“ว่าไงล่ะแมดส์ รู้แบบนี้แล้วยังอยากจะลองแลกกับฉันอยู่อีกไหม” คนถูกเร่งรัดการตัดสินใจยังคงจ้องใบหน้าน้องชายฝาแฝดเขม็ง “ป่านนี้ข้างล่างคงจะปั่นป่วนกันน่าดูเพราะการมาของเยลเวอร์ตัน นายคิดว่างั้นไหม?”
“ฉลาดในการเอาตัวรอดไม่เปลี่ยน” แมดส์กัดฟันพูดเสียงเข้ม
“ถึงขนาดที่ทำให้คนอย่างนายยอมให้อยู่ใกล้ตัว มันคงเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาน่าดู..”
เรียกว่าหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ขยี้คำพูดของตัวเองได้ถูกจังหวะเป็นอย่างมาก เพราะปฏิกิริยาของแมดส์ที่แสดงออก มันก็แสนชัดเจนว่าให้ความสนใจกับอะไรมากกว่ากันในตอนนี้
ความสัมพันธ์ของ แมดส์ ไทเลอร์ และ เธียร์ เยลเวอร์ตัน ที่ยังไม่ชัดเจน มันย่อมเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดเมื่อต้องตัดสินใจเลือก
“อย่าวุ่นวายเรื่องของฉัน”
“แล้วใครกันที่แส่เรื่องของฉันก่อน” เชสตอกกลับด้วยใบหน้าที่ไม่ได้มีความล้อเล่น
“….”
“โทษตัวเองที่พลาดก็แล้วกัน :)”
แมดส์ถ่มเลือดในปากตัวเองทิ้งอีกครั้ง ก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าตัวเองด้วยความหงุดหงิด ในขณะที่ใบหน้ายังคงฉายแววของความหงุดหงิดอย่างปิดไม่มิด
“มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือว่าเยลเวอร์ตันสำคัญกับฉันขนาดนั้น”
ทั้งที่เป็นคนเอ่ยถามเชส แต่แมดส์เองก็ต้องย้อนกลับมาถามตัวเองเช่นกัน ว่าทำไมตัวเองถึงร้อนรนได้เช่นนี้ เมื่อได้ยินชื่อของคุณหนูเยลเวอร์ตันเข้ามาเกี่ยวในบทสนทนา
“หากไม่สำคัญจริง ๆ จะทำให้นายสติหลุดได้ขนาดนี้หรือ..”
รอยยิ้มเย้ยหยันของเชสยังคงปั่นประสาทคนที่กำลังร้อนเป็นไฟให้เดือดพล่าน แมดส์เกลียดสายตาที่มองตัวเองเหมือนรู้ทันของเชสเหลือเกินในตอนนี้
“ฉันยังต้องเก็บโอเมก้านั่นไว้ต่อรองอีกเยอะ”
แมดส์ ไทเลอร์ คงจะยอมให้ เธียร์ เยลเวอร์ตัน ถูกส่งตัวกลับฮาร์เดนเจอร์ในตอนนี้ไม่ได้…
“ก็หวังว่าสิ่งที่นายพูดจะเป็นเรื่องจริง”
“ขู่ฉันหรือ?”
“นี่ฉันทำแบบที่นายว่าไปหรือ”
พลั่ก!
ผลจากการยียวนและกวนประสาทของเชส จึงทำให้หมัดหนัก ๆ ของแมดส์ซัดเข้าที่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างเต็มแรงอีกครั้ง เพื่อระบายความบ้าคลั่งของตัวเอง ก่อนที่นักฆ่าหนุ่มจะหุนหันพลันแล่นลงไปทางด้านล่างโดยไม่สนใจธงที่ตัวเองตั้งใจจะขึ้นมาเอามันในตอนแรก
เสียงหอบหายใจจากการวิ่งด้วยความเร็ว และความโมโหที่สร้างความร้อนรนในใจ ย่อมทำให้ แมดส์ ไทเลอร์ ไม่แม้แต่จะสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว นอกเสียจากตรงดิ่งลงไปข้างล่าง เพื่อไปดูให้เห็นกับตาว่าสิ่งที่ เชส ไทเลอร์ พูดนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า
เพราะถ้าหากเป็นเรื่องจริง.. แมดส์ ไทเลอร์ ก็อาจคาดเดาตัวเองได้เช่นกันว่าจะสามารถควบคุมตัวเองได้หรือเปล่า
หมาบ้าที่กำลังคลั่ง มันย่อมกัดคนอื่นไม่เลือก นั่นคือเรื่องจริง..
กลิ่นอายของหน่วยป้องกันเดอะฮิลล์ที่เต็มไปด้วยทหารซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ เพศรองที่มีแต่อัลฟ่าและเบต้าเช่นนี้ มีแต่จะทำให้คุณหนูเยลเวอร์ตันระแวงกับสายตาของทุกคนที่จ้องมอง
ฝ่ามือที่ถูกยื่นมาตรงหน้าทำให้คุณหนูเยลเวอร์ตันลังเลเล็กน้อยที่จะจับมือของเบต้าหนุ่ม รถม้าที่หยุดลงหลังจากเดินทางมาถึงที่เดอะฮิลล์ ทำให้เธียร์อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวการเผชิญหน้ากับอัลฟ่าในหน่วยป้องกันเดอะฮิลล์
“ไม่ต้องกลัวนะคุณหนู..” ราเชล สแตนลีย์ เอ่ยบอกคนตัวขาวที่มีท่าทีสับสน เมื่อตัวเองยื่นฝ่ามือไปให้อีกฝ่ายจับ เพื่อลงมาจากรถม้าที่เป็นพาหนะในการเดินทางมายังเดอะฮิลล์ในครั้งนี้
“พวกเขาจะไม่ทำอะไรเราใช่ไหม..” เธียร์ เยลเวอร์ตัน อดถามไม่ได้ เมื่อความกังวลลึก ๆ ในใจของเจ้าตัวมันกำลังตะโกนบอกเจ้าตัวว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับตัวเอง
“พวกเราไม่ได้ป่าเถื่อนอย่างที่คุณหนูคิด..” รอยยิ้มละมุนจากริมฝีปากของเบต้าหนุ่ม สร้างความมั่นใจให้กับคุณหนูเยลเวอร์ตันมากขึ้น มือขาวเอื้อมมาจับมือของราเชล ก่อนที่จะขยับตัวเพื่อลงมาจาดรถม้าขนาดกลาง ผิวสีน้ำนมโผล่พ้นเสื้อแขนยาวสีเข้ม ก่อนที่จะถูกเนื้อผ้าปิดบังความนวลตาดั่งเดิม เมื่อเจ้าตัวก้าวลงมาหยุดยืนบนพื้นได้เรียบร้อย ใบหน้าเกินกว่าครึ่งที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้หมวกคลุม ยิ่งสร้างความสนใจให้กับทหารในเดอะฮิลล์ที่กำลังรอคอยผู้ชนะในการชิงธงประจำหน่วยซึ่งอีกไม่นานก็คงกลับลงมา
เธียร์ เยลเวอร์ตัน ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองสภาพแวดล้อมรอบข้าง เจ้าตัวยังคงบีบมือของราเชลแน่น เมื่อรับรู้ถึงสายตาหลายคู่ที่กำลังจดจ้องมาที่ตัวเอง
ความงดงามที่ไม่สามารถถูกปิดบังได้ ย่อมเป็นเรื่องที่ใครก็อยากจะใคร่เห็นในความงามนั้น..
“พวกนายมาถึงที่นี่เร็วกว่าที่คิดนะ..” เสียงของผู้ที่เดินเข้ามาใหม่ เอ่ยทักคนข้างกายของคุณหนูเยลเวอร์ตัน ก่อนที่เบต้าหนุ่มจะพูดคุยกับอีกฝ่ายเล็กน้อย
“คงจะไม่ใช่เรื่องที่เราจะโอเอ้กันในตอนนี้” ราเชลตอบอัลฟ่าตาคมดุที่กำลังสำรวจคุณหนูเยลเวอร์ตันเงียบ ๆ
“ตามฉันมา.. นายท่านกำลังรอพวกนายอยู่”
ลาคลัน คาร์เตอร์ หรือคนสนิทของ รีส เบลเลอมอนท์ นั่นเองที่เป็นคนออกมาต้อนรับผู้มาเยือนจากโรสต์
“ไปกันเถอะคุณหนู”
ราเชล สแตนลีย์ ปล่อยมือของคุณหนูเยลเวอร์ตันออกด้วยความสุภาพ ก่อนที่จะผายมือให้อีกฝ่ายเดินตามหลังลาคลันไปก่อน โดยที่ตัวเองนั้นเดินตามหลังคนตัวขาว
เมื่อเข้ามาในหน่วยประจำการที่เป็นส่วนกลาง ทางเดินทอดยาวไปยังห้อง ๆ หนึ่ง มีแต่ความเงียบเชียบจนได้ยินเสียงลมหายใจ และเสียงส้นรองเท้าที่กระทบกับพื้นไม้เนื้อดี
แอ๊ด
บานประตูใหญ่ตรงหน้าถูกเปิดด้วยฝีมือของอัลฟ่าจากฟลัม เมื่อผู้มาใหม่เดินเข้าไปในห้องก็ทำให้สายตาของคนในห้องนั้นหันมาจดจ้องที่คุณหนูเยลเวอร์ตันในทันที อัลฟ่าผมสีเพลิงยกยิ้มเล็ก ๆ ด้วยความถูกอกถูกใจ ในขณะที่อัลฟ่าแดนเหนือนั้นจ้องเพียวโอเมก้าตาเขม็ง
เธียร์ เยลเวอร์ตัน ยังคงก้มลงมองพื้นห้องอย่างไม่กล้าที่จะสบตาคนในห้อง มือขาวเผลอกำเข้าหากันแน่นด้วยความประหม่า ไหนจะฝ่ามือที่ชื้นเหงื่อจนเย็นเยียบเองก็ด้วย หลังจากที่ขบคิดอยู่ชั่วครู่ เจ้าของผิวขาวก็ตัดสินใจดึงหมวกคลุมซึ่งปกปิดใบหน้าของตัวเองออกช้า ๆ ทั้งที่มือขาวสั่นไม่น้อย
ใบหน้าจิ้มลิ้มเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่อยู่ภายในห้องด้วยดวงตาใสซื่อ ไม่ต่างจากกวางตัวน้อยที่กำลังเผชิญหน้ากับราชสีห์ตัวใหญ่ เส้นผมสีแดงเพลิงอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งตรงตามคำบอกเล่าของราเชล ทำให้เธียร์รับรู้ได้ว่าคนที่กำลังยกยิ้มให้ตัวเองก็คือ รีส เบลเลอมอนท์ และเป็นผู้ที่เชื้อเชิญตัวเองมายังเดอะฮิลล์
เมื่อลากสายตาถัดไปจากเจ้าของผมสีแดง เธียร์ก็เป็นอันต้องหลบสายตาของใครคนนั้น เจ้าของผิวขาวซีดที่มีเส้นผมสีบลอนด์สว่างขับผิวขาวให้ดูขาวจัดขึ้นกว่าเดิม
ไม่น่าไว้ใจ.. นั่นคือสิ่งที่ เธียร์ เยลเวอร์ตัน พอจะนึกออก เมื่อได้พบกับอัลฟ่าผมสีเพลิงและอัลฟ่าผมสีสว่าง
“ได้พบกันสักทีนะคุณหนูเยลเวอร์ตัน”
เป็น รีส เบลเลอมอนท์ ที่สาวเท้าเดินเข้ามาหาคุณหนูเยลเวอร์ตัน พลางเอ่ยปากทักทายพร้อมกับยื่นมือไปด้านหน้าตามมารยาทที่สมควรทำ
“เป็นเกียรติของเยลเวอร์ตันมากกว่าที่ได้พบกับเบลเลอมอนท์..”
เธียร์เผลอก้าวถอยหลังจนแผ่นหลังของเจ้าตัวชนกับอกของราเชล คุณหนูเยลเวอร์ตันมักจะหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้อัลฟ่าที่ไม่คุ้นเคย แม้จะเอ่ยตอบไปเช่นนั้น แต่การที่เจ้าตัวไม่ยอมส่งมือไปให้กับผู้ปกครองฟลัม มันก็ทำให้ รีส เบลเลอมอนท์ เกิดอาการเก้อเขินไม่น้อยกับการถูกปฏิเสธที่จืดจางจากคุณหนูเยลเวอร์ตัน
เพราะนอกจากเบลเลอมอนท์จะไม่ถือโทษอีกฝ่ายแล้ว เจ้าตัวกลับรู้สึกเอ็นดูเพียวโอเมก้าตรงหน้าด้วยซ้ำ แม้จะถอยหลังหนีแต่ก็ยังมีสติมากพอที่จะตอบรับคำทักทายของเบลเลอมอนท์ พร้อมกับรอยยิ้มละมุนที่หวานซึ้งจนคนมองอดยิ้มตามอย่างช่วยไม่ได้
“อ่า.. ลืมคิดไปเสียสนิทว่าคุณหนูคงไม่ชินกับการเข้าใกล้อัลฟ่าอย่างเรา” รีสเอ่ยพลางเหลือบมองแอชเชอร์ที่ยังคงยืนนิ่งพิจารณาคุณหนูเยลเวอร์ตันอยู่เงียบ ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ “แต่คงไม่ใช่กับไทเลอร์…”
“เรา…” คุณหนูเยลเวอร์ตันพยายามจะอ้าปากบอกกับผู้ปกครองฟลัม แต่ก็ต้องกลืนคำพูดลงไปในลำคออย่างช่วยไม่ได้ เมื่อเจ้าตัวหันมาเห็นสายตาของอัลฟ่าอีกคนหนึ่งที่มองตัวเองด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“นายเป็นอะไรกับแมดส์”
คำถามที่แทรกบทสนทนาระหว่างคุณหนูเยลเวอร์ตันและผู้ปกครองฟลัมจากเจ้าของผิวขาวซีด มีหรือจะไม่ทำให้เพียวโอเมก้าที่กำลังตื่นคนนั้นสะดุ้งน้อย ๆ น้ำเสียงที่ใช้เอ่ยถามมันทั้งห้วนและกดดัน รวมไปถึงสายตาที่คาดคั้นนั่นก็ด้วยที่ทำให้เธียร์อกสั่นขวัญหาย
เธียร์ เยลเวอร์ตัน ไม่สามารถตอบคำถามของอีกฝ่ายได้ เพราะมันยากเกินกว่าที่เจ้าตัวจะพูดมันออกมาได้
“เราไม่ได้เป็นอะไรกับไทเลอร์ทั้งนั้น..” เธียร์ตัดสินใจตอบออกไปเช่นนั้น ก่อนจะพยายามสู้สายตาของอัลฟ่าผมสีสว่างเท่าที่ตัวเองจะสามารถทำได้
“ฉันคงคิดมากไป จนลืมไปเสียสนิทว่าคนอย่างแมดส์คงไม่น่าจะ..” ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้พูดจบ ผู้ปกครองฟลัมก็เอ่ยขัดขึ้นมาจนทำให้เจ้าตัวจิ๊ปากเสียงดัง ในขณะที่คุณหนูเยลเวอร์ตันได้แต่ย้อนคิดคำพูดในประโยคก่อนหน้าของอีกฝ่ายด้วยใจที่สั่นระรัว
“เจอนายก็ดีแล้วราเชล ฉันว่าจะคุยกับนายเรื่องแร่ที่โรสต์อยู่พอดี” อัลฟ่าผมสีเพลิงเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย พลางส่งสายตาแกมบังคับให้เบต้าหนุ่มนั้นต้องเออออตกลงกับตัวเอง ก่อนที่จะส่งสายตาปรามอัลฟ่าแดนเหนือที่กำลังไล่ต้อนคุณหนูเยลเวอร์ตัน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าโอเมก้าตรงหน้านั้นมีความสัมพันธ์รูปแบบไหนกับแมดส์
“เรื่องแร่หรือ?”
“คุยที่นี่คงไม่สะดวกเท่าไหร่ ฉันว่าไปคุยที่ห้องทำงานคงจะดีกว่า” รีส เบลเลอมอนท์ มัดมือชกราเชลในทันที
เบต้าหนุ่มก้มมองโอเมก้าตัวขาวที่คว้ามือตัวเองไปจับไว้แน่นด้วยความกระอักกระอ่วนใจ แค่การที่ราเชลละเมิดคำสั่งของ แมดส์ ไทเลอร์ นั่นก็ว่าเป็นความคิดที่ผิดมหันต์แล้ว นี่ยังจะต้องปล่อยเยลเวอร์ตันไว้กับคนอื่นอีก หากเรื่องถึงหูแมดส์ขึ้นมา คนที่น่าจะซวยมากที่สุด มันก็คงหนีไม่พ้นเป็น ราเชล สแตนลีย์
“แต่ว่าคุณหนู..” เบต้าหนุ่มพยายามจะโต้แย้ง แต่ก็ไม่สามารถสู้กับผู้ปกครองฟลัมได้
“นายคิดว่าแอชเชอร์จะทำอะไรเยลเวอร์ตันหรือ?”
ทันทีที่คุณหนูเยลเวอร์ตันได้ยินชื่อเรียกของอัลฟ่าผมสีสว่าง มันก็ทำให้เจ้าตัวจดจ้องอีกฝ่ายด้วยความสนใจในทันที
แอชเชอร์ เลสลีย์ คืออัลฟ่าผมสีสว่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้น่ะหรือ..
รูปลักษณ์สง่างามอย่างเช่นอัลฟ่าชั้นสูงจากตระกูลเก่าแก่ ใบหน้ารูปสลักที่ประกอบกันอย่าลงตัวบนใบหน้า แม้กระทั่งเส้นผมสีบลอนด์สว่างเองก็เข้ากันได้ดีกับผิวขาวซีด ยังไม่นับดวงตาเรียวที่ฉายแววถือดีของเจ้าตัว
ไม่ผิดแน่… เป็นคน ๆ นี้แน่นอนที่ทำให้ แมดส์ ไทเลอร์ ดั้นด้นมาจนถึงเดอะฮิลล์
“เราอยู่ได้ ราเชล..” โอเมก้าแดนใต้เอ่ย ก่อนจะปล่อยมือออกจากราเชลพลางยกยิ้มเล็ก ๆ ที่มักจะมอบให้ใครต่อใครได้เห็นอยู่เสมอ
“แน่ใจหรือว่าจะ..”
“ฉันมีมารยาทพอที่จะรับแขก ราเชล” เจ้าของผิวขาวจัดเอ่ยเสียงเรียบ โดยที่ยังจ้องเพียวโอเมก้าไม่วางตา “แขกพิเศษแบบนี้จะไม่ให้ต้อนรับอย่างดีได้อย่างไร”
“จะทำอะไรก็คิดดูดี ๆ ล่ะเลสลีย์..” รีส เบลเลอมอนท์ เอ่ยบอกเลสลีย์ ก่อนจะตบท้ายด้วยรอยยิ้มกวนประสาทที่ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็น่ารำคาญ
คล้อยหลังจากที่ทั้งรีสและราเชลออกไปด้านนอก ในห้องก็หลงเหลือแค่เพียงอัลฟ่าเจ้าของกลิ่นดอกดามัสก์และเพียวโอเมก้าเจ้าของกลิ่นดอกแม็กโนเลีย คนต่างถิ่นในยามนี้ดูกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามที่จะยกยิ้มให้กับแอชเชอร์เพื่อลดความกังวลของตัวเอง
“นายคงเดินทางมาเหนื่อย ๆ นั่งพักเสียก่อนสิ” คำเชื้อเชิญของแอชเชอร์ทำให้คนที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่บริเวณกลางห้องมองตามมือขาวที่ผายไปยังเก้าอี้ซึ่งว่างอยู่
“ขอบคุณ..” เธียร์เอ่ยขอบคุณเสียงเบา ก่อนที่จะเดินไปนั่งตามคำเชื้อเชิญของอัลฟ่าแดนเหนือ แม้จะรู้ว่าถูกจ้องมองด้วยสายตาของอัลฟ่าแดนเหนือ แต่เธียร์ก็ไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่านี้ นอกจากที่จะนั่งนับหนึ่งถึงสิบเพื่อข่มความตื่นตระหนกภายในจิตใจของตัวเอง
อัลฟ่าต่างแดนและแปลกหน้ากำลังแสดงท่าทีคุกคามเพียวโอเมก้าตัวขาวด้วยท่าทีปกติ การกระทำของเจ้าตัวอาจจะไม่ชัดเจนเท่าสายตาที่เอาแต่จดจ้องและพิจารณา
“ตื่นคนหรือ? ถึงได้ดูกระวนกระวายขนาดนี้..”
อัลฟ่าแดนเหนือหัวเราะในลำคอ เมื่อเห็นอีกฝ่ายแอบสะดุ้งน้อย ๆ จนดูเหมือนกระต่ายที่กำลังตื่นกลัว
“ที่นี่มีแต่อัลฟ่าเต็มไปหมด ตั้งแต่เข้ามาคนพวกนั้นเอาแต่มองเรา..” เธียร์เอ่ยตอบเสียงเบา ในขณะที่ยังหลบสายตาของอัลฟ่าแดนเหนือ แม้แอชเชอร์จะไม่ได้สร้างความรู้สึกกดดันได้เทียบเท่าแมดส์แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเป็นอัลฟ่านั้นไม่ใช่เรื่องที่โอเมก้าจะคุ้นชินง่าย ๆ
“แต่ก็ใจกล้าไม่เบานี่ที่กล้าเข้ามาที่นี่” อัลฟ่าแดนเหนือเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนสนทนา ในขณะที่เจ้าตัวนั้นทำเพียงแค่ทิ้งตัวลงนั่งบริเวณริมโต๊ะไม้ตัวใหญ่ซึ่งเป็นโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าคุณหนูเยลเวอร์ตัน “เดอะฮิลล์มักไม่ต้อนรับโอเมก้า นายก็น่าจะรู้ดี”
ไม่ใช่แค่เดอะฮิลล์หรอกที่ไม่ต้อนรับคุณหนูเยลเวอร์ตัน ไม่ว่าจะที่ไหนก็ไม่มีใครต้อนรับคุณหนูเพียวโอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์ทั้งนั้น..
“มันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ และที่เรามาก็เพราะเห็นสมควรกับสิ่งที่ราเชลพูดไม่ใช่…”
“แล้วรู้บ้างไหมว่าหมอนั่นมาทำอะไรที่นี่” ยังไม่ทันที่เธียร์จะได้พูดจบ อีกฝ่ายก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน จนคนฟังยอมเงยหน้าขึ้นมามอง
“เราก็พอรู้มาบ้างจากราเชล..” โอเมก้าแดนใต้ตอบได้ไม่เต็มเสียงนัก “แล้วก็รู้ด้วยว่าไทเลอร์กำลังจะสร้างความเดือดร้อนให้กับนายน่ะเลสลีย์”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายจะสำคัญกับหมอนั่นมากแค่ไหน เพราะฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่เหมือนกันว่าคนแบบหมอนั่นจะห่วงนาย”
คนฟังสะอึกไปไม่น้อยเมื่อได้ยินแบบนั้นจากปากของแอชเชอร์ ฝ่ามือขาวของคุณหนูเยลเวอร์ตันถึงกับบีบหน้าขาของตัวเองแน่น ยิ่งอีกฝ่ายพูดแบบนี้ มันก็ยิ่งตอกย้ำถึงการกระทำต่าง ๆ นานาที่ไทเลอร์ทำกับคุณหนูเยลเวอร์ตัน
“ไทเลอร์ไม่เคยห่วงเราอยู่แล้ว มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร”
บางทีเขาอาจจะเป็นแค่อะไรสักอย่างที่ไม่มีความหมายอะไรกับคนอย่าง แมดส์ ไทเลอร์ เลยก็ได้..
ดวงตาที่เคยดูสดใสก่อนหน้าของเธียร์ กลับดูเศร้าจนจับใจเมื่อเอ่ยเช่นนั้นออกไป รอยยิ้มขมขื่นที่พยายามฝืนยิ้มให้กับอัลฟ่าแดนเหนือมันก็ช่างกล้ำกลืนเหลือทน
“แต่นายก็ยังเป็นห่วงหมอนั่น จนกล้าเข้ามาที่นี่อย่างนั้นน่ะหรือ”
“เราแค่ไม่อยากให้เขาเจ็บตัว..” เธียร์ว่า “หวังว่าเขาคงจะไม่ได้ทำร้ายนายหรอกใช่ไหม..”
ขอให้มันไม่เกิดอะไรร้ายแรงกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเถอะ..
แต่ทว่าคำขอของเธียร์กลับไม่มีทางเป็นจริง เมื่อเจ้าตัวได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยประโยคถัดไปออกมา..
ประโยคที่ทำให้ก้อนเนื้อในอกของ เธียร์ เยลเวอร์ตัน กำลังถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็น
“แล้วนายว่าการที่หมอนั่นจูบฉันมันสามารถเรียกว่าเป็นการทำร้ายได้หรือเปล่า..”
“….”
เธียร์ได้แต่เงียบและกลืนน้ำลายลงไปในลำคอที่แห้งผากของตัวเองอย่างฝืนทน ขอบตาสวยเริ่มร้อนผ่าว บ่งบอกสัญญาณของน้ำตาที่ใกล้จะไหลรินออกมาจากดวงตาอยู่รอมร่อ
“จูบ..”
โอเมก้าตัวขาวพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เหม่อมองพื้นห้อง เธียร์เม้มปากตัวเองแน่น ก่อนจะหันกลับมาสบตากับอัลฟ่าผิวขาวด้วยดวงตาที่เริ่มแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าสิ่งที่คนตรงหน้าพูดออกมามันคือเรื่องจริง..
นั่นก็หมายความว่าการกระทำของ แมดส์ ไทเลอร์ ที่เคยทำให้ เธียร์ เยลเวอร์ตัน หวั่นไหว มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องหลอกฝันใช่หรือเปล่า…
ความรู้สึกที่มันยังคงพังซ้ำแล้วซ้ำเล่า วนเวียนอยู่ในแทบทุกวันของชีวิตคุณหนูเยลเวอร์ตัน จนแทบไม่เหลืออะไรให้เสียได้อีก
“ถ้าตอนนั้นเชสไม่เข้ามา ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะหยุดแค่นั้นไหม..”
เธียร์ เยลเวอร์ตัน ไม่ได้โง่เกินกว่าจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังสื่อมันคืออะไร
“นั่นสินะ..”
ทุกอย่างที่รู้สึก มันคงเป็นเธียร์เองหรือเปล่าที่ยังหลอกตัวเอง หากตัดใจเสียตั้งแต่ตอนนั้น เขาเองก็คงไม่ต้องเจ็บปวดเฉกเช่นในตอนนี้
“เท่าที่รู้มาจากเบลเลอมอนท์ นายเองก็คงจะลำบากไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะในตอนนี้”
“นายรู้?”
“ฉันว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่สำหรับโอเมก้าอย่างนายที่จะอยู่กับทรูอัลฟ่าแบบนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้าเราถูกควบคุมด้วยสัญชาตญาณ..” สัมผัสจากปลายนิ้วมือเรียวของอัลฟ่าแดนเหนือ ทำให้ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธียร์เชิดขึ้นรับสายตาของอีกฝ่ายที่กำลังจ้องมอง ก่อนที่เจ้าของใบหน้ารูปสลักจะโน้มใบหน้าลงไปใกล้เสียจนได้ยินเสียงลมหายใจ “อย่างเช่นถ้าตอนนี้ฉันจูบนายขึ้นมา..”
เธียร์รู้สึกได้เลยว่าตัวเองกำลังสั่นน้อย ๆ เพราะคำพูดของอัลฟ่าแดนเหนือ ทั้งสายตาที่จ้องมองมาที่ตัวเองและการกระทำที่เกินกว่าจะคาดเดา มันกำลังทำให้เธียร์หวาดกลัวคนตรงหน้า… แต่คุณหนูเยลเวอร์ตันก็ยังฝืนใจของตัวเองให้สู้กับอัลฟ่าตรงหน้า แทนที่จะทนเงียบเฉยเหมือนก่อนหน้า
“นายพูดถูก… เราควบคุมมันไม่ได้”
เขายอมรับว่ามันยากที่เราจะควบคุมสัญชาตญาณของตัวเอง ยอมรับแล้วจริง ๆ ว่าทุกอย่างมันก็แค่สัญชาตญาณ เปลือกตาสีอ่อนปิดลงในทันที เมื่อแอชเชอร์โน้มใบหน้าลงเข้าไปใกล้ จนริมฝีปากบางนั้นแตะที่เส้นผมสีเข้มซึ่งปรกใบหน้าจิ้มลิ้ม
ลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดหน้าผากเนียนมีหรือจะไม่ทำให้เพียวโอเมก้าจากแดนใต้ตัวแข็งทื่อ..
“มาพนันกันดีไหมล่ะเยลเวอร์ตันว่า แมดส์ ไทเลอร์ จะเลือกอะไรระหว่างกำจัดฉันหรือเลือกนาย”
“….”
“หรือไม่อย่างนั้น นายก็เลือกเอาว่าอยากเป็นอิสระจาก แมดส์ ไทเลอร์ กันดีเยลเวอร์ตัน”
เธียร์ไม่อยากคาดหวังในคำตอบหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกแล้ว.. เขามันคิดน้อยเกินไปเองที่ตอบรับคำเชิญของเบลเลอมอนท์โดยไม่ไตร่ตรอง
“เราก็พึ่งเข้าใจก็วันนี้จริง ๆ ว่าประโยชน์ของเราคงมีค่าแค่เป็นตัวต่อรอง”
สุดท้ายแล้วเขาเองก็เป็นเพียงตัวต่อรองที่ใครต่างก็สามารถหยิบมาใช้ประโยชน์ได้อย่างตามใจชอบ ค่าความเป็นคนของเขามันมีค่าเพียงแค่หมากตัวหนึ่งในเกม
ไม่เคยเลยจริง ๆ ไม่เคยมีใครที่จะมองเห็นว่าความรู้สึกของเขามันมีค่า..
“แต่จะว่าไป นายเองก็น่ารักไม่หยอกนะเยลเวอร์ตัน”
สัมผัสบางเบาจากริมฝีปากที่แตะลงบนเส้นผม แม้จะไม่โดนหน้าผากขาวแต่มันก็มากพอที่จะทำให้คุณหนูเยลเวอร์ตัน ผลักตัวออกจากอีกฝ่ายจนกระถดตัวชิดกับพนักพิงของเก้าอี้
“นายไม่ควรทำแบบนี้กับเรา”
เธียร์ เยลเวอร์ตัน เอ่ยด้วยน้ำเสียงติดสั่น ก่อนจะมองหาทางให้ตัวเองหนีออกจากห้องนี้ แต่ทว่ามันก็กลับไร้หนทางเหลือเกิน เมื่อเลสลีย์คนเล็กนั้นขวางทางอยู่
“แล้วสิ่งที่หมาบ้านั่นทำกับฉัน มันเรียกว่าสมควรหรืออย่างไร..”
เสียงเอะอะโวยวายจากทางด้านนอกที่เกิดขึ้นจนลอดเข้ามาให้คนในห้องได้ยิน ทำให้แอชเชอร์ขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความรำคาญ ก่อนที่จะเดินไปตรงหน้าต่างเพื่อมองลงไปยังด้านล่าง ซึ่งเป็นต้นเหตุของเสียงดังที่เกิดขึ้น
ภาพของทรูอัลฟ่าผิวเข้มที่อยู่ในสภาพสะบักสะบอมจากการต่อสู้ เหวี่ยงเบต้าหนุ่มจากโรสต์ลงกับพื้นอย่างแรง จนทำให้ ราเชล สแตนลีย์ นั้นไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวลุกขึ้น อัลฟ่าแดนเหนือจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นหมาบ้านั้นกำลังอาละวาด จนไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปห้าม
ยังไม่ทันทีที่เจ้าตัวจะได้ทำอะไร เพียวโอเมก้าตัวเล็กที่เดินตามมาดูก็รีบวิ่งหุนหันพลันแล่นออกไป โดยไม่ฟังเสียงห้ามของแอชเชอร์
“นายออกไปแบบนั้นไม่ได้นะเยลเวอร์ตัน!”
สาเหตุที่ทำให้หมาบ้ามันคลั่งก็คือคุณหนูเยลเวอร์ตัน หากเจ้าตัวออกไปให้เห็นตอนนี้ เชื่อเถอะว่าหมาบ้ามันไม่มีทางหยุดคลั่งอย่างแน่นอน
ทันทีที่ แมดส์ ไทเลอร์ เลือกออกมาจากการแข่งชิงธง โดยไร้ซึ่งสิ่งที่เจ้าตัวตั้งใจจะไปเอามันมาให้ได้ในมือ นั่นก็เท่ากับว่าการแข่งขันในครั้งนี้ เป็นหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่ได้รับชัยชนะ เพราะคนที่ออกจากเกมก่อนย่อมถือว่าเป็นการยอมแพ้
ในเวลานี้หมาบ้าอย่างแมดส์ไม่ได้คิดสนใจเรื่องแพ้ชนะแต่อย่างใด ในหัวของทรูอัลฟ่าหนุ่มมีแต่เรื่องของคุณหนูเยลเวอร์ตันจนเต็มหัวไปหมด ยิ่งเมื่อเจ้าตัวกลับเข้ามาในเดอะฮิลล์แล้วเห็น ราเชล สแตนลีย์ กำลังเดินพูดคุยอยู่กับ รีส เบลเลอมอนท์ มันก็ย่อมชัดเจนว่าอีกฝ่ายนั้นเลือกที่จะขัดคำสั่งที่แมดส์เคยได้พูดไว้
ดวงตาของราเชลเบิกโพลงอย่างตกใจ ยามที่เจ้าตัวหันมาเห็น แมดส์ ไทเลอร์ ที่เดินอาด ๆ เข้ามาในเดอะฮิลล์ ด้วยสภาพที่ไม่น่าดูนัก ทั้งหัวคิ้วที่แตก มุมปากที่มีเลือดไหลซิบ หรือ แม้กระทั่งรอยช้ำบนใบหน้าก็ยิ่งทำให้แมดส์ดูน่าเกรงขามมากกว่าปกติ
รังสีอันตรายที่แผ่ออกมารอบตัว ทำให้ทุกคนต่างหลบทางให้กับ แมดส์ ไทเลอร์ อย่างไม่กล้าที่จะเข้าไปขวาง
รอยยิ้มของ รีส เบลเลอมอนท์ ที่ส่งให้กับแมดส์ มันเป็นคำตอบที่แสนชัดเจนจนทำให้ทรูอัลฟ่าหนุ่มได้แต่คาดโทษผู้ปกครองฟลัมเอาไว้ก่อน พละกำลังมหาศาลของทรูอัลฟ่าหนุ่มย่อมกระชากตัวของเบต้าจากโรสต์ได้อย่างง่ายดาย และเบลเลอมอนท์เองก็ยกมือสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง
อัลฟ่าผมสีเพลิงปล่อยให้แมดส์ได้ทำอะไรตามใจชอบ โดยที่เจ้าตัวนั้นเลือกยืนดูอยู่เงียบ ๆ เพื่อรอเวลาสนุกที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ยามที่หมากในเกมที่เจ้าตัวเลือกใช้นั้นออกมาพบเจอกับหมาบ้าที่กำลังคลั่ง
“ฉันเตือนนายแล้วนะสแตนลีย์..”
แมดส์ ไทเลอร์ เอ่ยเสียงเย็นเยียบ ก่อนจะเหวี่ยงตัวของเบต้าหนุ่มลงไปกับพื้น เพียงแค่น้ำเสียงของ แมดส์ ไทเลอร์ มันก็ทำให้ราเชลไม่กล้าที่จะขยับไปไหน แม้จะเตรียมใจมาบ้างแล้วก็ตามว่าสุดท้ายตัวเองจะต้องเจอกับอะไร
แต่การรับมือกับหมาบ้ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด ไม่ว่าจะเตรียมรับมือมาแค่ไหน
พลั่ก
“ฉันอยากฆ่านายตอนนี้เลยด้วยซ้ำ”
ราเชลถ่มเลือดที่กลบปากตัวเองลงกับพื้น ก่อนจะเงยหน้ามองทรูอัลฟ่าผิวเข้มที่เอ่ยประโยคร้ายกาจออกมา แววตาที่เลือดเย็นของแมดส์มันไม่ได้ล้อเล่นเลยสักนิดกับสิ่งที่พูด
“ฉันทำในสิ่งที่ควรจะทำ” ราเชล สแตนลีย์ เอ่ยตอบด้วยความสัตย์จริง “ถ้าคุณหนูเยลเวอร์ตันไม่สำคัญ นายจะเดือดร้อนทำไม”
“!!!”
คนถูกจี้ใจดำกระชากคอเสื้อของราเชลขึ้นมาในชั่ววินาที ก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่ายซ้ำ
“พูดใหม่อีกทีสิ” แมดส์ ไทเลอร์ เอ่ยเสียงรอดไรฟันในขณะที่ถามเบต้าตรงหน้าตัวเอง
“จะทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่น ทั้งที่ความสัมพันธ์ของตัวเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แบบนี้มันควรจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ” ราเชลเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่อึดอัดแทนคุณหนูเยลเวอร์ตัน แม้เพียวโอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์จะไม่เคยบอกเล่าโดยตรง แต่ทุกครั้งที่พูดถึง แมดส์ ไทเลอร์ สีหน้า ท่าทาง และแววตาของอีกฝ่ายมันกลับแสดงออกมาอย่างชัดเจน
“ความสัมพันธ์บ้าบออะไรกัน!”
ปากพูดอย่างหนึ่ง แต่มือที่กระชากคอเสื้อของราเชลเสียจนเส้นเลือดปูดโปน มันก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือว่าสิ่งที่เบต้าหนุ่มพูดมันถูกแค่ไหน
“อีกอย่างฉันก็แค่เสนอทางเลือก”
“….”
“และคนที่ตัดสินใจมาที่นี่มันก็คือเยลเวอร์ตัน”
“!!!”
หลังจากนั้น ราเชล สแตนลีย์ เองก็ไม่มีโอกาสได้พูดอะไรออกไปอีก เพราะหมัดหนัก ๆ ที่ซัดลงบนริมฝีปากของเจ้าตัวอย่างแรง จนใบหน้าหล่อนั้นบวมช้ำเพราะการถูกทำร้าย ต่อให้จะป้องกันตัวได้ในบางครั้ง แต่เจ้าตัวก็ไม่สามารถเอาชนะทรูอัลฟ่าที่กำลังคลั่งได้
“พอได้แล้วแมดส์!”
เธียร์ เยลเวอร์ตัน ตะโกนห้ามคนที่กำลังทำร้ายร่างกาย ราเชล สแตนลีย์ เสียงดังลั่น ทั้งที่เจ้าตัวไม่ใช่คนที่ชอบส่งเสียงดังหรือตะคอกใส่ใคร
“หยุดอยู่ตรงนั้น..”
แมดส์ ไทเลอร์ เอ่ยสั่งคนที่กำลังจะเดินเข้ามาตัวเองเสียงแข็ง ดวงตาคมกริบตวัดมองคุณหนูเยลเวอร์ตันที่เดินออกมาพร้อม ๆ กับ แอชเชอร์ เลสลีย์ ด้วยความหัวเสีย
ยิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ปกปิดใบหน้าของตัวเอง จนทำให้ใครต่อใครได้เห็น มันก็ยิ่งทำให้แมดส์นิ่งขึ้นจนน่ากลัว
“เราเป็นคนอยากมาที่นี่เอง ไม่เกี่ยวกับราเชล” เธียร์ไม่แม้แต่จะฟังคำพูดของแมดส์แต่อย่างใด เจ้าตัวดึงดันที่จะเดินเข้ามาหาหมาบ้า ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่เฝ้าจับตามองการกระทำทั้งหมด
“นายต่างหากที่ต้องหยุด..”
“คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงมาสั่งฉัน”
คำพูดของแมดส์ทำให้เธียร์สะอึกไปไม่น้อย เจ้าตัวละความสนใจจากคนที่โมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ก่อนที่จะก้มลงไปช่วยพยุงตัวของราเชลให้ลุกขึ้นยืน แม้จะทุลักทะเลมากแค่ไหนก็ตาม และการกระทำของเยลเวอร์ตันที่แสดงออกต่อเบต้าหนุ่ม ก็ทำให้ไทเลอร์คนรองกัดฟันกรอด
“อย่างน้อยเราก็เป็นคนที่ทำให้นายออกมาจากเกมงี่เง่านั่นได้..” เพียวโอเมก้าตัวขาวเงยหน้าขึ้นมาบอกคนที่โมโหจนหน้าแดงจัด “จริงไหม..”
“แล้วใครอนุญาตให้นายมาเดอะฮิลล์กัน!” แรงกระชากไม่น้อยที่ข้อแขน ทำให้เธียร์ถูกดึงแยกออกมาจากราเชล จนเป็นผลทำให้เบต้าหนุ่มลงไปนอนกองกับพื้นเหมือนเดิม
“นายบอกเราว่าให้รอแต่นายก็ไม่ได้ห้ามเรามาเดอะฮิลล์เสียหน่อย!” เธียร์ขึ้นเสียงใส่แมดส์ด้วยความไม่ชอบใจ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทีที่จะฟังกันเลยสักนิด
“เธียร์!”
แมดส์ ไทเลอร์ เรียกชื่อจริงของคนที่เถียงตัวเองให้ลั่นเพราะความฉุนจัด และก็น่ากลัวเหลือเกินว่าข้อมือเล็กของคนตัวบางนั้นจะหักคามือแมดส์เข้าในอีกไม่ช้า หากหมาบ้านั่นยังเอาแต่บีบแขนอีกฝ่ายแน่นเสียขนาดนั้น
“ถ้าเราไม่มาที่นี่ เราจะรู้หรือว่านายกำลังทำเรื่องพวกนี้”
“มันไม่เกี่ยวกับนาย…”
หมาบ้าตัวนี้นี่มันใจร้ายกับคนที่เป็นห่วงตัวเองจริง ๆ
“ถ้าเรารู้ว่านายจะยังเป็นแบบนี้ วันนั้นเราจะไม่เชื่อนายอีกไทเลอร์!”
“แล้วฉันขอให้นายเชื่อหรือ…”
เธียร์จ้องหน้าคนตาดุด้วยความรู้สึกอึดอัดที่มันท่วมท้นในใจของตัวเองตอนนี้ คำพูดร้ายกาจของไทเลอร์ มันยังคงทำร้ายคนฟังได้เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
ไม่ว่าจะเพราะโทสะหรือเพราะอะไร.. แมดส์ ไทเลอร์ ก็ควรจะคิดถึงความรู้สึกของเขาบ้าง..
ทำไมความหวังดีของเธียร์ มันถึงกลับเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายไม่เคยเข้าใจ ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา มันเป็นเขาที่พยายามจะเข้าใจอีกฝ่าย
พยายามเข้าใจทั้งที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเข้าใจ… เขาคิดแค่ว่าสักวันหนึ่งคนตรงหน้าจะยอมเปิดใจให้กันบ้าง
ดวงตาใสที่แดงก่ำเพราะหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ ฝืนจ้องมองใบหน้าของแมดส์อีกครั้ง ทั้งที่เธียร์นั้นไม่อยากจะมองหน้าอีกฝ่ายสักนิดในตอนนี้
“คนอย่างนายมันก็ไม่น่าคาดหวังอะไรอยู่แล้วตั้งแต่แรก”
“….”
“ขนาดความเป็นห่วงของเรานายยังมองข้าม”
“…”
“หรือเพราะความเป็นห่วงของเรา มันคือการสร้างความเดือดร้อนให้นายกันแน่”
แมดส์ ไทเลอร์ กระชากคนตัวขาวออกมาจากกลุ่มคนที่ยืนจ้องมองพวกเขาทั้งคู่ โดยที่ทรูอัลฟ่าหนุ่มนั้นเมินเฉยต่อเสียงร้องขอให้ปล่อยตัวเองจากเพียวโอเมก้า จวบจนขายาวนั้นก้าวมาหยุดเดินบริเวณที่เงียบ ๆ ซึ่งไร้ผู้คน
“ฉันไม่เคยขอร้องให้นายมาคาดหวังอะไรในตัวฉัน”
สรรพนามที่เปลี่ยนไป พร้อม ๆ กับแววตาของไทเลอร์ที่แปรเปลี่ยนจากความโกรธมาเป็นความเฉยชา จนทำให้คนถูกมองรู้สึกหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ
ทำไมต้องคาดหวังว่าเขาจะต้องเป็นเช่นไร.. นานแค่ไหนแล้วที่ความคาดหวังพวกนั้นมันทำลายตัวตนของเขา
สิ่งที่ เธียร์ เยลเวอร์ตัน พูดมันทำให้แมดส์ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้หลาย ๆ อย่าง มากกว่าความโกรธที่เขาโกรธเพราะเยลเวอร์ตันทำให้ตัวเองไม่สามารถอยู่ในเกมการแข่งขันได้ต่อ มันก็คือความโกรธจากเพราะความคิดน้อยเกินไปของเจ้าตัว
คุณหนูเยลเวอร์ตันไม่ใช่คนที่จะไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบอย่างเช่นคนปกติ พวกคนทางฝั่งฮาร์เดนเจอร์เองก็ยังคงตามหาตัวของคุณหนูเยลเวอร์ตันไม่เลิก หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป คนที่จะเดือดร้อนมากที่สุดมันก็คือคุณหนูเยลเวอร์ตัน ไหนจะอัลฟ่าในเดอะฮิลล์ที่ไม่สามารถไว้ใจได้ก็เช่นกัน
แม้จะสนใจอยู่กับเพียวโอเมก้า แต่ก็ใช่ว่าแมดส์จะไม่เห็นสายตาของอัลฟ่าในหน่วยที่จ้องมองคุณหนูเยลเวอร์ตัน ราวกับสัตว์ที่เจอเหยื่ออันโอชะ
“ทุกอย่างที่ฉันพูดไป นายไม่เคยคิดจะฟังเลยใช่ไหม..” น้ำเสียงของแมดส์ดูน่ากลัวกว่าครั้งไหน ๆ ที่เธียร์เคยได้ยิน..
“ถ้าคิดว่าการที่เรามาที่นี่มันคือการช่วยเลสลีย์ นายคิดผิดแล้วล่ะไทเลอร์”
“….”
“ถ้าความเป็นห่วงของเรามันทำให้นายรู้สึกแย่ขนาดนั้น ต่อไปนี้เราจะไม่ห่วงนายอีก”
“ห่วงหรือ?” แมดส์หัวเราะออกมาราวกับเยาะเย้ยในสิ่งที่เธียร์พูด ในขณะที่ดวงตาของเจ้าตัวไม่ได้ยิ้มตามริมฝีปากเลยสักนิด
“….”
“ในเมื่อไม่คิดจะฟังกัน มันก็ไม่มีความหมายที่ฉันจะต้องทำอะไรเพื่อนาย”
แมดส์ ไทเลอร์ พูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ทั้งที่ในใจของเจ้าตัวนั้นกำลังโมโหคนตรงหน้าเป็นอย่างมาก
ถ้าจะพูดความรู้สึกของหมาบ้าในตอนนี้ มันก็คงเปรียบได้กับความรู้สึกผิดหวังในตัวของคนตรงหน้า ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้คุณหนูเยลเวอร์ตันโผล่มาที่นี่ มันก็ย่อมเกี่ยวข้องกับเลสลีย์
ความรู้สึกที่เหมือนกับในวันนั้น มันกลับมาหลอกหลอนคนที่ฝังใจกับเหตุการณ์ทำนองนี้ ทั้งที่เขาทำทุกอย่างก็เพื่อคนอื่น ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่สุดท้ายสายตาของทุกคนที่มองมายังเขา มันก็กลับเต็มไปด้วยความรังเกียจ
แม้กระทั่งคนที่ควรจะเชื่อใจเขามากที่สุด ก็กลับเป็นคนที่ทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวท่ามกลางผู้คนมากมาย
เขาเกลียดสายตาที่มองตัวเองอย่างผิดหวัง เกลียดคำเป็นห่วงที่สุดท้ายแล้วมันคือการทำร้ายเขา เกลียดทุกอย่างที่ไม่เคยเข้าข้าง และมอบโอกาสให้คนอื่นได้เข้าใจ
ยังไงเสีย แมดส์ ไทเลอร์ ก็ไม่เคยได้รับความเห็นอกเห็นใจจากใคร ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน รวมไปถึงใครก็ตามที่เข้ามาข้องเกี่ยวในชีวิตของตัวเอง
ไม่ใช่ไม่เคยพูด ไม่ใช่ไม่เคยไม่อธิบาย แต่เพราะสิ่งที่เขาเคยทำมันคือความสูญเปล่า คำพูดของเขามันจะดูมีน้ำหนักได้อย่างไร ในเมื่อคนที่ควรจะรับฟังนั้นไม่คิดจะเข้าใจ
มันก็น่าสมเพชดีเหมือนกันที่คุณหนูเยลเวอร์ตันเป็นคนหนึ่งซึ่งเหมือนกับใครอีกหลายคน…
“นายมันไม่ได้ต่างจากคนอื่นสักเท่าไหร่หรอกเยลเวอร์ตัน..”
ความรู้สึกที่มันเคยมีก่อนหน้านี้ที่แมดส์รู้สึกกับอีกฝ่าย กลับลดลงจนกลายเป็นศูนย์ และดูว่าจะไม่มีทีท่าที่จะเพิ่มขึ้นมาได้อีกง่าย ๆ
“อึก..” คนฟังได้แต่กัดปากตัวแน่น เมื่อไม่สามารถที่จะห้ามก้อนสะอื้นที่ตีขึ้นมาในลำคอของตัวเองได้อีกต่อไป คำพูดที่ไร้เยื่อใย และการกระทำที่กลับมาเฉยชาของแมดส์ มันทำให้เธียร์รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน
เพียวโอเมก้าตัวขาวรู้สึกว่าตัวเองถูกอีกคนผลักไสออกมา ทั้งที่เข้าไปใกล้อีกฝ่ายได้มากขึ้น จนแทบจะสัมผัสตัวตนของเจ้าตัวได้แล้ว
แมดส์ ไทเลอร์ ที่ทำให้เขาตกหลุมรัก กำลังจะกลายเป็น แมดส์ ไทเลอร์ คนที่เขาไม่รู้จัก
“เมื่อไหร่ที่ฉันพานายไปถึงกรีนเลค นายจะได้อิสระของนายคืน โดยที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องอะไรกับฉันอีก เธียร์ เยลเวอร์ตัน”
คำพูดที่เด็ดขาดของแมดส์ซึ่งเป็นสิ่งที่เธียร์ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากอีกฝ่าย มันช่างใจร้ายกับคุณหนูเยลเวอร์ตันเหลือเกิน และการที่ แมดส์ ไทเลอร์ เอ่ยออกมาเช่นนี้ มันคงไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะหายไปจากชีวิตเขาหรอกใช่ไหม…
“สนุกมากไหมที่เอาความรู้สึกของเรามาล้อเล่น..”
คนที่น้ำตาไหลเปียกปอนบนใบหน้าเอ่ยถามทรูอัลฟ่าผิวเข้มตรงหน้าด้วยความอัดอั้นในใจ สิ่งที่เธียร์ได้รับรู้จากอัลฟ่าแดนเหนือ มันช่างเจ็บปวดสิ้นดีเมื่อนึกถึง
“….”
“เราไม่ใช่สิ่งของที่นายจะทำอะไรกับเราก็ได้นะไทเลอร์..”
คนที่สะอื้นฮักเอ่ยเสียงสั่น ก่อนที่จะใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกดึงไว้เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของตัวเองลวก ๆ จนใบหน้าขาวนั้นแดงก่ำไปหมด
“….” แมดส์ ไทเลอร์ ยังคงนิ่งเงียบและไม่พูดอะไรออกมาสักคำ นอกเสียจากจะยืนมองเจ้าดอกแม็กโนเลียที่กำลังร่ำไห้ด้วยความเฉยชา
“ถึงเราจะเป็นแค่โอเมก้า แต่นายก็ไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับเรา ทั้งกับเลสลีย์เองก็ด้วย”
“ฉันทำอะไร?” ทรูอัลฟ่าผิวเข้มเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ จนได้รับคำตอบจากเพียวโอเมก้าตัวขาว
“ตอนนายจูบกับเลสลีย์ มันดีกว่าตอนที่นายจูบเราไหมไทเลอร์..”
ใบหน้าน่ารักของคุณหนูเยลเวอร์ตันบิดเบี้ยว เพราะคำพูดที่เปรียบเสมือนมีดกรีดไปตามผิวกายของเจ้าตัว ในขณะที่ดวงตาคู่สวยซึ่งพร่าเลือนไปด้วยสีใสยังคงจ้องมองใบหน้าคมทั้งน้ำตา
“….”
“สะ สุดท้ายนายเอง ฮึก มันก็ไม่ได้ต่างจากอัลฟ่าพวกนั้นเลยสักนิด..”
แม้ดอกแม็กโนเลียสีบริสุทธิ์จะยังไม่ถูกเด็ดดม แต่ทว่าฝ่ามือที่สัมผัสกับกลีบดอกด้วยความรุนแรง ก็ย่อมทำให้ดอกไม้งามได้รับความบอบช้ำซึ่งเกิดจากความตั้งใจ
ต่อให้ต้นแม็กโนเลียจะทนต่อความหนาวเหน็บได้มากสักแค่ไหน แต่เมื่อยามใดที่ถูกกองเพลิงเผาไหม้ มันก็ย่อมยืนต้นตายอย่างที่ไม่สามารถหาทางเอาตัวรอดได้ และแมดส์เองก็เปรียบเหมือนกับไฟที่พร้อมจะเผาผลาญดอกไม้ดอกงามอยู่ทุกเมื่อ
HASHTAG #maddogmn
TALK : เลือกทีมกันเอานะคะ y-y
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะ ไรท์สู้ๆน๊าาา