ตอนที่ 26 : Young Master : Chapter 21
แรงกอดรัดจากวงแขนแกร่งในช่วงเวลาก่อนหน้านี้แปรเปลี่ยนกลับมาเป็นอ้อมกอดหลวมๆที่ไทเลอร์กอดรั้งคนตัวขาวไว้ในอ้อมกอด คำพูดมากมายก่อนหน้าที่ไทเลอร์ร้องขอกับเลสลีย์นั้นยังคงไม่มีแม้แต่คำตอบหลุดออกมาจากกลีบปากสวยสักคำเดียว ครั้นจะให้ไทเลอร์คะยั้นคะยอและเร่งรัดให้อีกฝ่ายพูดมันก็คงไม่ใช่เรื่อง อีกอย่างการกระทำและสิ่งที่ทั้งคู่นั้นแสดงออกมามันก็มากพอแล้วที่จะยืนยันได้ว่าความรู้สึกที่ตรงกันของทั้งคู่นั้นมันไม่ใช่เรื่องโกหกหรือเรื่องที่คิดไปเองเพียงคนเดียว
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ทรูอัลฟ่าหนุ่มยังคงหยุดยืนนิ่งให้เจ้าของกลุ่มผมสีสว่างนั้นได้ซบแอบอิงอยู่ที่หน้าอกกว้าง จากหยาดน้ำตาที่เคยพรั่งพรูราวกับฝนที่กำลังโปรยปรายไม่ยอมหยุดและเสียงสะอื้นฮักที่ไม่ต่างจากลมที่พัดหวนกระทบกับต้นไม้ที่กีดขวางก็พลันเลือนหายไปหมด หลงเหลือก็แต่เพียงอัลฟ่าแดนเหนือที่เอาแต่หลับตานิ่งซบอยู่กับอกของไทเลอร์
"ที่ฉันพูดเมื่อครู่ นายไม่ต้องตอบฉันก็ได้ รู้ใช่ไหม.."
ฝ่ามือใหญ่ซึ่งผ่านการเปื้อนเลือดในช่วงเวลาหลายวันที่ล่วงเลยมานี้ เฝ้าคอยลูบเรือนผมสีสว่างของอีกฝ่ายอย่างเบามือพลางกระซิบบอกประโยคที่พอจะทำให้อีกฝ่ายไม่ต้องคิดอะไรให้มาก
"ไม่กลัวว่าฉันจะปฏิเสธนายบ้างหรือไง.."
"งั้นนายก็ควรรู้ไว้ว่าคนของนายพยายามเก่งไม่แพ้ใครหรอกเลสลีย์..."
คำหวานที่ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ จากไทเลอร์นั้นทำให้คนที่กำลังหลับตาสงบอารมณ์รวบรวมสติของตัวเองที่กระจัดกระจายจนแทบประกอบไม่ได้ เพราะความเสียใจก่อนหน้านั้นลืมตาขึ้นมาในทันทีแต่ก็ยังคงไม่ได้เงยหน้ามองทรูอัลฟ่าหนุ่มเสียทีเดียว ดวงตาคู่สวยที่ยังคงมีร่องรอยแดงช้ำจากการร่ำไห้เสมองพื้นห้องเงียบๆ ก่อนที่ริมฝีปากระเรื่อจะขยับเอื้อนเอ่ยคำพูดที่ทำให้ไทเลอร์นั้นหยุดฝ่ามือที่กำลังลูบเรือนผมนุ่มไปในทันที
"อย่าพยายามเลยไทเลอร์.."
คำตอบที่คล้ายจะปฏิเสธของคนที่ยังเอาแต่ก้มหน้า ยังคงสร้างความวิตกกังวลให้กับทรูอัลฟ่าหนุ่มที่ไม่ค่อยจะแสดงอาการอะไรได้อย่างดี ร่างขาวในอ้อมกอดไม่แม้แต่จะมองหน้าของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เลยด้วยซ้ำในตอนนี้
"มันไม่มีโอกาสเหลือให้ฉันเลยหรือ"
ช่วงแขนขาวที่กอดรอบเอวสอบของไทเลอร์นั้นผ่อนแรงลงจนแทบไม่เหลือความรู้สึกโอบกอดให้ได้สัมผัส ระยะห่างที่เกิดขึ้นจากการที่เลสลีย์คนเล็กใช้มือดันอีกฝ่ายให้ออกห่างจากตัวเอง จนเกิดระยะที่สามารถทำให้ไทเลอร์ได้มองเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนในระดับสายตานั้นยังคงฉายชัดถึงร่องรอยความปวดร้าวที่อีกฝ่ายได้ลิ้มรสมันก่อนหน้านี้
"มีครั้งแรกก็ย่อมต้องมีครั้งต่อไป.. หรือไม่จริง"
"จริงหรือไม่จริง คำตอบทุกอย่างก็ล้วนอยู่ที่ใจนาย หากยังเชื่อใจฉันอยู่ก็คงไม่มีอะไรต้องให้กังวล.." ความสงบของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่ยังคงแฝงความดุดันในตัวนั้นแสดงออกมาอย่างเช่นในทุกครั้งดังที่เคยเป็น "มันอยู่ที่นายเลือกไม่ใช่ฉัน.."
"ฉันไม่มีโอกาสอะไรให้นายทั้งนั้น"
"อืม.."
รอยยิ้มเล็กๆ ยังคงประดับที่มุมปากหนาแต่กลับดูขมขื่นเสียจนไม่น่าเชื่อว่ามันจะอยู่บนใบหน้าของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่แสนจะแข็งแกร่ง ดวงตาคมที่เคยจ้องมองใบหน้ารูปสลักนั้นแสร้งเลื่อนมองผนังห้องด้านหลังอีกฝ่ายแทน
"เสียใจหรือ?"
เสียงนุ่มเอ่ยถามคนที่ไม่มองหน้าตัวเองอย่างเช่นทุกทีแต่ก็ไม่ได้รับประโยคตอบรับใดๆกลับมาจากอีกฝ่ายนอกเสียจากความเงียบ ลาดไหล่กว้างที่ผึ่งผายแม้จะดูหนักแน่นสักแค่ไหนแต่สันกรามที่ขึ้นนูนเพราะแรงขบกัดของฟันนั้นก็ดูชัดเจนเสียจนคนมองสังเกตได้
"รสชาติของความผิดหวังมันเป็นแบบนี้นี่เองสินะ..." ไทเลอร์ตอบแค่นั้นก่อนจะแค่นยิ้มออกมาน้อยๆ พลางเลื่อนสายตากลับมามองคนตัวขาวตรงหน้า
"เหมือนกับที่นายเคยเจ็บเพราะอาร์ธใช่หรือเปล่า" แอชเชอร์ยังคงเอ่ยถามต่อ "แบบไหนเจ็บกว่ากัน..."
"สำหรับอาร์ธมันไม่ได้เรียกว่าความเจ็บปวด แค่ความรู้สึกดีๆ ที่ยังไม่ได้พัฒนาเป็นรัก มันเทียบไม่ได้กับนายหรอกแอช"
"....."
"นายคนที่ฉันมีสิทธิ์แต่กลับรักษาไว้ไม่ได้"
"แต่นายก็ยังรักษาฉันไว้ได้ไม่ใช่หรือ"
"หมายความว่ายังไงเลสลีย์"
"ที่ฉันไม่ให้โอกาสนาย ก็เพราะนายได้มันไปแล้วต่างหาก"
“นายไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม” ไทเลอร์ถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ถ้าฉันล้อเล่น ฉันคงไม่ยืนอยู่ตรงนี้หรอกไทเลอร์” อัลฟ่าแดนเหนือตอบพลางเอื้อมมือไปจับฝ่ามือของทรูอัลฟ่าหนุ่มมาจับไว้เบาๆ “ต่อให้นายไม่อ้อนวอน ยังไงเสียฉันก็คงปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่าจริงๆแล้วมันเป็นอย่างไร”
“ฉันเข้าใจว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนายที่จะต้องเป็นคนแดนใต้”
“ถ้าเมื่อก่อนฉันก็คงเป็นอย่างที่นายพูดจริงๆ แต่ตอนนี้..”
“....”
“เหตุผลพวกนั้นมันคงไม่มีความหมายอะไรกับฉันมากไปกว่าความรู้สึกของตัวเอง”
ความภาคภูมิใจของการเป็นเลสลีย์และการเป็นคนของแดนเหนือนั้นแม้จะยากที่จะละทิ้ง แต่ทั้งเหตุผลและความรู้สึกของแอชเชอร์ เลสลีย์ ในตอนนี้ก็ไม่สามารถที่จะเห็นแก่ตัวเพื่อตัวเองและทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อนได้อีกต่อไป
เชส ไทเลอร์ ยังคงยืนฟังอีกฝ่ายเงียบๆพลางก้มลงมองมือของตัวเองที่ถูกอีกฝ่ายจับไว้เบาๆ พอได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมาแบบนี้ก็กลับทำให้ไทเลอร์ไม่สามารถคิดคำพูดอื่นใดออกมาได้อีก
“เป็นแอชเชอร์ ไทเลอร์ก็คงไม่แย่เท่าไหร่หรอกจริงไหม?”
“นี่เรียกว่าเป็นคำบอกรักที่ไม่มีคำว่ารักหรือเปล่า” หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ว่าก่อนจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายที่กุมมือขาวแทน
“นายอยากฟังหรือ” แอชเชอร์ถามอย่างลองเชิง แต่มีหรือว่าไทเลอร์จะปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดลอยไป
“มากกว่าคำว่าอยากเสียอีก”
คนตัวขาวคลี่ยิ้มบางๆแบบที่ไทเลอร์ไม่เคยได้เห็น จนกลายเป็นว่าหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ในตอนนี้นั้นกำลังมึนเมาไปกับรอยยิ้มสวยของอัลฟ่าผิวสีหิมะ
“ฉันไม่รู้ว่ามันจะเรียกว่ารักได้หรือเปล่า ที่ฉันรู้ตอนนี้ก็คือความรู้สึกที่อยากยืนอยู่ข้างๆนาย”
เพราะอย่างน้อยความรู้สึกดีๆที่มีอยู่ตอนนี้มันก็มากพอที่จะเหนี่ยวรั้งให้แอชเชอร์อยู่ที่เดอะฮิลล์ได้
"แม้จะต้องแลกมาด้วยการเป็นคนของแดนใต้น่ะหรือ"
"ฉันไม่ได้แลกมันเพื่อตัวเอง แต่ที่ฉันยอมก็เพราะนาย"
"แค่นี้ฉันยังหลงนายไม่พอหรือ ถึงต้องทำให้ฉันใจเต้นแรงเพราะคำพูดพวกนี้อีก" ไทเลอร์ว่าก่อนจะขยับเข้าไปสวมกอดคนตัวขาวอีกครั้งด้วยความมั่นใจที่มากขึ้นจนแทบไม่เหลือความกังวลใดๆทั้งสิ้น
"ไม่ต้องกอดฉันแน่นขนาดนี้ก็ได้ ฉันไม่หายไปไหนหรอกน่า"
"ที่กอดก็เพราะคิดถึง.." ทรูอัลฟ่าหนุ่มไม่ได้โกหกแต่อย่างใด ช่วงเวลาที่เจ้าตัวต้องเข้าไปในแบล็คฟอเรสต์ทั้งที่ยังพะวงถึงเรื่องของแอชเชอร์นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิดที่จะเลิกคิดได้ง่ายๆ "ไม่ได้นอนกอดนายมาตั้งหลายวัน ไม่เห็นใจกันบ้างหรือ"
"ก็ให้กอดแล้วนี่ไง" มือขาวยกขึ้นลูบแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายช้าๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองคนที่เอาแต่กอดตัวเองไม่ยอมปล่อย
"จูบได้ไหม.." คนผิวสีแทนเข้มเอ่ยถามอย่างไม่อายปากกับคู่ชีวิตของตน ใบหน้างดงามที่เฝ้าคิดถึง ไหนจะริมฝีปากหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มลองมันนับครั้งไม่ถ้วน
ริมฝีปากบางที่แนบจูบลงบนริมฝีปากหนาค้างไว้คงเป็นคำตอบที่ชัดเจนสำหรับไทเลอร์ในตอนนี้จนแทบไม่ต้องเอ่ยถามอะไรอีก แม้จะรู้สึกโทษตัวเองที่เป็นเหตุผลซึ่งทำให้ตาสวยคู่นี้แดงช้ำ แต่ไทเลอร์เองก็รู้สึกดีใจเช่นกันที่ตัวเองยังสามารถรักษาอีกคนไว้กับตัวเองได้
สัมผัสเย็นเยียบของวัตถุบางอย่างที่ถูกสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของแอชเชอร์โดยที่เจ้าตัวไม่ทันได้ตั้งตัว ย่อมทำให้คนตัวขาวได้แต่มองการกระทำของไทเลอร์เงียบๆ
หากจำไม่ผิด แหวนที่ถูกสวมใส่บนนิ้วเรียวของแอชเชอร์นั้นคงเป็นแหวนที่เจ้าตัวมักจะเห็นไทเลอร์สวมใส่หรือไม่ก็ใส่ห้อยคอเป็นสร้อยติดตัวอยู่เสมอ
"นับตั้งแต่นี้ไป นายคือแอชเชอร์ ไทเลอร์ และเป็นคนของแดนใต้"
"เป็นคนของไทเลอร์ด้วย"
คนตัวขาวเสริมยิ้มๆ จนคนฟังนั้นอดยกยิ้มตามด้วยไม่ได้
"ย่อมเป็นตามที่นายว่าเลยคนดี"
หลังมือขาวถูกยกขึ้นมาจรดจูบอีกครั้งโดยที่สายตาของทั้งคู่ยังคงสอดประสานและทอดมองกันและกัน ความรู้สึกอบอุ่นที่แทรกเข้ามาแทนที่ความหนาวเหน็บที่เคยเกาะกินจิตใจนั้นช่วยปลอบประโลมความรู้สึกที่ถูกบั่นทอนทีละน้อย
ทิฐิที่เคยตั้งมันไว้เสียงสูงก็กลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของตัวเองเพียงเพราะความรู้สึกที่ถูกนำเข้ามาใช้ประกอบกับเหตุผล
"พูดดีๆแบบคนอื่นเขาก็เป็นนี่นา"
"เก็บไว้พูดกับนายคนเดียวนี่ไง" หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ยังไม่วายพูดจาออดอ้อนเอาใจคนของตัวเอง
"เชื่อได้ด้วยหรือคนเจ้าเล่ห์แบบนาย คงมีแต่ฉันที่ตามไม่ทัน"
"งั้นก็จงภูมิใจไว้เสียว่าคนอย่างฉันทำได้ทุกอย่างก็เพื่อนาย"
"จะพูดย้ำให้ฉันจำได้ขึ้นเลยหรือไงกัน" เจ้าของเสียงนุ่มว่าในขณะที่ยกมือของตัวเองขึ้นมาดูแหวนที่ทรูอัลฟ่าเจ้าของกลิ่นไม้ซีดาร์นั้นเป็นคนสวมใส่ให้ตัวเอง
"ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ยิ่งดี"
"ท่าจะบ้า!"
"แหวนนี้มันสำคัญสำหรับฉันมาก.. ฝากนายช่วยดูแลแทนฉันด้วยนะแอช"
"หากสำคัญก็ไม่ควรเอามันมาให้ฉัน" คนตัวขาวแย้งเข้าให้
"แต่สิ่งที่สำคัญกว่าแหวนนี่ มันก็คือนาย..."
"ฉันไม่ได้ต้องการสิ่งของแทนใจอะไรทั้งนั้นเลยไทเลอร์" ยิ่งอีกฝ่ายบอกว่ามันสำคัญก็ยิ่งทำให้แอชเชอร์รู้สึกว่ามันมากเกินกว่าที่ตนเองจะรับไว้ได้
"อย่างน้อยนายก็ควรมีสิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันในการเป็นคนของไทเลอร์.. สถานะของนายที่ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนมันจะเป็นตัวยืนยันอีกแรงหนึ่งที่ทำให้คนในหน่วยต่างยอมรับ"
"แต่ว่า.."
"ฉันทำทุกอย่างเพื่อนายอย่างที่คู่ชีวิตคนหนึ่งพึงจะได้รับ"
"....."
"อย่าคิดว่ามันจะมากเกินไปสำหรับนายเลยแอช เพราะถ้าเทียบกันจริงๆแล้วนายเองก็สมควรได้รับเกียรติที่มากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ"
นายน้องจากตระกูลเก่าแก่ของแดนเหนือย่อมไม่ใช่บุคคลธรรมดาที่ไทเลอร์จะสามารถข้ามผ่านได้ เพราะต่อให้อีกฝ่ายนั้นจะไม่มีอำนาจในแดนเหนือแล้ว
แต่ใครๆ ต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่อีกฝ่ายถูกหล่อหลอมและเติบโตมานั้นมันสูงค่าเกินกว่าที่จะได้รับการเหยียบย่ำ
"งั้นนายก็ควรรู้ว่าว่าฉันเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะสูงส่งเหนือนายเลยเชส.." มือขาวลูบเบาๆที่ตามโครงหน้าคมของอีกฝ่ายในขณะที่ยังคงขยับริมฝีปากเอ่ยในสิ่งที่ตนคิด "แค่นี้มันก็มากเกินพอแล้ว"
"อย่าน่ารักไปมากกว่านี้เลยคนดี"
"....."
"แค่นี้ฉันก็ไปไหนไม่รอดแล้วแอช..."
"รักแค่ฉันก็พอ"
รอยยิ้มที่งดงามยิ่งกว่าดอกไม้ที่กำลังผลิบานรับฤดูที่กำลังเปลี่ยนแปลงชวนให้หัวใจของทรูอัลฟ่าหนุ่มเต้นถี่ระรัว ราวกับเด็กหนุ่มที่พึ่งสัมผัสประสบการณ์ความรักเป็นครั้งแรก
ระยะห่างที่เหลือน้อยลงทุกทีแต่ก็ไม่ได้สร้างความอึดอัดให้กับทั้งคู่ คงเป็นเรื่องราวดีๆในวันที่แอชเชอร์พานพบเรื่องเสียใจจนต้องเสียน้ำตา
"กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่นคงจะดีกว่ามายืนกอดฉันอยู่แบบนี้นะไทเลอร์" แอชเชอร์เอ่ยขึ้นเมื่อไทเลอร์นั้นดูไม่มีท่าทีที่จะออกห่างจากตัวเองเลยสักนิด
"ช่วยยิ้มให้ฉันสักครั้งได้หรือเปล่า.."
"อารมณ์ไหนกันเนี่ย" คนตัวขาวถึงกับเลิกคิ้วถามทรูอัลฟ่าหนุ่มที่เอ่ยขออะไรแปลกๆจากตัวเอง
"ฉันชอบรอยยิ้มของนาย"
"...."
"ชอบเหลือเกินในทุกครั้งที่นายมีความสุข"
และแน่นอนว่าหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ก็ได้รับรอยยิ้มหวานจากนายน้อยตัวขาวจนสมใจอยาก ทั้งดวงตาและริมฝีปากที่ยิ้มไปพร้อมกันนั้นหากใครได้เห็นก็คงจะต้องตกหลุมรักเป็นแน่
"ถ้าพอใจแล้วก็ไปอาบน้ำเสีย เดี๋ยวฉันจะเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้"
"แล้วภรรยาคนนี้จะช่วยสามีอาบน้ำไม่ได้หรือ"
"!!!!"
"ร่างกายมันปวดเมื่อยไปหมด"
วาจาออดอ้อนที่เกินจริงจากปากไทเลอร์นั้นใครก็ต้องดูออกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ร่างกายแข็งแรงแบบนี้น่ะหรือจะล้าเพียงเพราะการออกไปทำงานเพียงไม่กี่วัน
ไม่มีทางเสียหรอก..
นอกเสียจากว่าเชส ไทเลอร์ นั้นกำลังจะออดอ้อนเพื่อที่จะให้อีกฝ่ายเอาใจ
.
.
.
.
แสงไฟสลัวในห้องน้ำที่คุ้นเคยไม่ได้ช่วยให้แอชเชอร์นั้นเคยชินกับการที่จะต้องเข้าไปพร้อมกับไทเลอร์เลยสักนิด แทบจะเรียกได้ว่าตรงกันข้ามเสียจนได้แต่หยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำเสียด้วยซ้ำ
"ทำไมไม่เดินเข้ามาล่ะ"
เจ้าของแผ่นหลังกว้างที่เนื้อตัวเปลือยเปล่าก้าวลงไปนั่งอยู่ในบ่อน้ำอุ่นเอ่ยค้านเมื่อเห็นคนตัวขาวยังยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู และไม่มีท่าทีที่จะเดินเข้ามาเสียที
"ถ้าจะถอดเสื้อผ้าก็ควรบอกกันเสียก่อนไหมเชส.."
"พูดอย่างกับนายไม่เคยเห็นอย่างนั้นล่ะ" ไทเลอร์เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ พลางเอี้ยวใบหน้ากลับมามองคนตัวขาว "มาเถอะ ยังไงนายก็ต้องเห็นอยู่แล้ว"
"อายฉันสักนิดก็ไม่มี"
"คนเป็นสามีภรรยากันยังต้องเขินอายเรื่องแบบนี้อีกหรือ" ทรูอัลฟ่าหนุ่มถามย้อนจนคนตัวขาวนิ่งเงียบ
"ใครจะคุ้นชินง่ายเหมือนนายกัน"
"เดี๋ยวก็ชิน..."
อดีตคนที่เคยเป็นอัลฟ่าแดนเหนือสาวเท้าลงไปหยุดนั่งบริเวณขอบบ่อซึ่งมีพื้นที่มากพอให้สามารถนั่งได้อย่างสบาย แต่ถึงอย่างนั้น...
"อาบน้ำพร้อมกับฉันไหมคนดี.." ฝ่ามือใหญ่ของทรูอัลฟ่าหนุ่มเลื่อนมาจับมือขาวที่กำลังวักน้ำไล่ชำระร่างกายแข็งแรง พร้อมทั้งบีบนวดช่วงลาดไหล่กว้างด้วยน้ำหนักแรงที่ทำให้คนผิวเข้มผ่อนคลายความเมื่อยล้าที่สะสมมานานนับหลายวัน
"ฉันอาบไปแล้วไทเลอร์..."
"แต่นายจะเปียกเอา"
"ถ้านายไม่แกล้งฉันก็คงไม่เปียกหรอก.." แค่เห็นสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมาที่ตนก็พอทำให้แอชเชอร์รับรู้ถึงความคิดของอีกฝ่าย แต่ก็ดูว่าจะไม่ทันวงแขนแข็งแรงที่โอบกระชากร่างกายของตัวเองให้ลงไปอยู่ด้วยกันเสียจนคนที่พึ่งจะอาบน้ำไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้นเปียกปอนตามไปด้วย
"เปียกซะแล้ว.."
คำพูดที่แสนจะรู้สึกผิดนั้นช่างขัดกับหน้าตาเจ้าเล่ห์ของไทเลอร์เสียเหลือเกิน น้ำอุ่นที่กระทบกับผิวขาวก็พานทำให้เนื้อตัวของแอชเชอร์เริ่มจะขึ้นสีอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่นั่งทับอยู่บนหน้าขาของทรูอัลฟ่าหนุ่ม
"ให้มันได้อย่างนี้สิไทเลอร์"
"คิดถึงกลิ่นหอมๆ ของนายจะแย่" ไทเลอร์ไม่ได้พูดเปล่าเพราะจมูกได้รูปของเจ้าตัวเองนั้นก็กดลงดมความหอมของกลิ่นกุหลาบดามัสก์ที่ตัวเองชมชอบหนักหนา
มือขาวบีบลาดไหล่กว้างหนักเมื่อรู้สึกวาบหวิวไปกับสัมผัสร้อนที่รินริดบริเวณซอกคอของตัวเอง ต่อให้เบี่ยงหน้าหนีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นการเปิดทางให้เจ้าของใบหน้าคมนั้นได้ซุกไซ้ผิวเนื้ออ่อนของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
"ไทเลอร์.."
"ไม่มากกว่านี้ ฉันสัญญา"
ถึงจะพูดแบบนั้นออกมา แต่แอชเชอร์นั้นก็รับรู้ถึงความร้อนผ่าวที่ดุนดันอยู่ตรงสะโพกของตัวเองอย่างชัดเจน
"มั่นใจหรือว่านายอดทนได้น่ะเชส.."
คนตาสวยถามอย่างหยอกเย้า พลางไล่มองใบหน้าดุคมที่กำลังสะกดกลั้นความรู้สึกที่กำลังปะทุของตัวเองในขณะที่มีร่างกายของแอชเชอร์แนบชิดอยู่บนร่างกาย
แววตาร้ายกาจของคนตัวขาวที่ท้าทายนั้นคงเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาได้สำหรับอารมณ์ของแอชเชอร์...
“นายไม่จำเป็นต้องแบบนี้เลยแอช..” เสียงแหบต่ำของคนที่เปลือยเปล่าแช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำอุ่นขนาดใหญ่นั้นเอ่ยบอกเจ้าของผิวขาวจัดที่กำลังขยับร่างกายอยู่บนตักของตัวเอง เนื้อผ้าบางเบาที่เมื่อเปียกน้ำนั้นก็พาทำให้แนบชิดติดไปกับผิวนวลเนียนเสียจนกลายเป็นภาพที่ยากจะละสายตา
“นายเหนื่อยไม่ใช่หรือ..” คนที่นั่งอยู่ด้านบนเอ่ยถามในขณะที่มือเรียวสวยนั้นยังคงบีบนวดลาดไหล่กว้างของทรูอัลฟ่าหนุ่มจนได้รับเสียงครางฮึมฮัมอย่างพอใจออกมาจากลำคอ
“ทำแบบนี้ยิ่งเหนื่อยกว่าเดิม นายก็รู้ดี”
“มันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือสำหรับพวกทหารที่กลับมาจากการทำงาน”
“ฉันไม่ต้องการให้นายเหมือนกับคนพวกนั้น..”
มันเป็นเรื่องปกติอย่างที่แอชเชอร์พูดจริงๆสำหรับทหารที่กลับมาจากการทำงานซึ่งยากลำบาก คงจะปฏิเสธได้ยากว่าเซ็กส์พวกนั้นมันช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดที่สะสมได้ไม่มากก็น้อยสำหรับใครหลายคน แต่คงไม่ใช่สำหรับหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่มักจะเฉยชากับเรื่องพวกนี้จนมักจะถูกกล่าวหาว่าตายด้าน
ต่อให้เดอะฮิลล์ไม่มีโอเมก้า ก็ใช่ว่าเบต้ากับอัลฟ่าที่อยู่ด้วยกันในหน่วยนั้นจะเมินเฉยต่อกันสักเท่าไหร่กันเชียว ไม่ใช่ไม่รู้ แต่เพราะรู้ว่าเรื่องพวกนี้มันยากที่จะห้ามถึงทำให้ไทเลอร์ยอมละเลยและมองข้ามผ่านมันไปหากมันไม่ได้มากพอจนเกินงาม
เพราะคนในหน่วยเองก็ต่างรู้กฎเหล็กของที่นี่ดีเช่นกัน แทบจะเป็นส่วนน้อยเลยเสียด้วยซ้ำที่จะแหกกฎที่ถูกตั้งไว้ แม้จะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแต่ก็ใช่ว่าจะยอมให้เกิดความผิดพลาดขนาดที่จะก่อกำเนิดชีวิตอีกหนึ่งชีวิต ถ้าหากเป็นเช่นนั้นไทเลอร์เองก็จำเป็นต้องปลดบุคคลที่เป็นปัญหานั้นออกจากหน่วยอย่างไม่ลังเล
และมันคงจะไม่ดีสักเท่าไหร่สำหรับการใช้ชีวิตในหน่วยเดอะฮิลล์โดยที่มีสิ่งมีชีวิตตัวน้อยอยู่ในท้อง
“นายก็รู้ว่าคนพวกนั้นมันเทียบกับฉันไม่ได้สักนิด..”
“ไม่มีใครดีได้เท่านายหรอกแอช..”
CUT
ฉากที่หายไปสามารถหาได้ที่ไบโอ @ninezexsky เหมือนเดิมค่ะ
สัมผัสบางเบาที่แตะลงบนไหล่ขาวคนของที่กำลังนอนหลับพักผ่อนเพราะความอ่อนเพลียของร่างกายที่สูญเสียพลังงานไปอย่างมากมาย สร้างความรบกวนให้กับแอชเชอร์ได้ไม่น้อยจนเปลือกตาสีอ่อนของคนที่นอนซุกตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่นั้นต้องเปิดตาขึ้นมามองสิ่งที่กำลังสร้างความรบกวนให้กับตนเอง
ความอบอุ่นจากเจ้าของกลิ่นไม้ซีดาร์ที่เคยโอบกอดเจ้าตัวในก่อนหน้านี้เลือนรางหายไปจนเหลือแค่เพียงกลิ่นบางเบาที่ยังติดอยู่กับข้าวของเครื่องใช้
แต่ที่แปลกและทำให้หัวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันก็คงเป็นเพราะ..
กลิ่นไม้ป่าที่ร่างขาวไม่เคยได้กลิ่นมาก่อนนั้นชวนให้รู้สึกถึงความลึกลับและซับซ้อนจากเจ้าของกลิ่นนี้
"ไง..."
คำทักทายแสนสั้นที่หลุดออกมาจากคนแปลกหน้าทำให้คนที่พึ่งลืมตาตื่นนั้นยกมือขยี้ตาของตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ตาสวยไล่มองดวงตาที่ฉายแววดุร้ายของอีกฝ่ายเพียงชั่วครู่ก็ทำให้จดจำได้ทันทีว่าเคยพบเจอมาแล้วครั้งหนึ่ง ใบหน้าที่เห็นเพียงครึ่งเดียวแต่ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่จะจดจำได้กำลังปรากฏอยู่ตรงหน้าแอชเชอร์
"นาย..."
กายขาวกระถดตัวหมายจะหนีเจ้าของดวงตาร้ายกาจแต่ทว่าร่างกายของคนที่กำลังเจ็บเสียดเพราะความสัมพันธ์แสนลึกซึ้งก่อนหน้านี้ย่อมช่วยเหลือตัวเองได้น้อยกว่ายามปกติ จนเป็นเหตุให้เจ้าของผิวสีผิวแทนเข้มไม่ต่างจากเชส ไทเลอร์นั้นสามารถกระชากข้อเท้าเล็กของคนตัวขาวได้อย่างง่ายดาย
เสียงหลุดร้องที่ออกมาจากริมฝีปากสวยจากแรงฉุดรั้งที่ทำให้เจ็บร้าวไปทั่วสะโพกไม่ได้ทำให้เจ้าของเรือนผมที่ถอดแบบเดียวมากับเชส ไทเลอร์ นั้นเห็นใจแต่อย่างใด
"ครั้งที่แล้วนายทำฉันไว้แสบมากนะเจ้าหนู"
เสียงเย็นที่กระซิบลอดไรฟันเอ่ยบอกคนตัวขาวที่กำลังตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด
"รอยที่คอนายสวยดีนี่"
ไม่ว่าจะเป็นรอยช้ำที่เกิดจากคอที่ถูกบีบก่อนหน้า หรือ จะเป็นรอยแดงช้ำที่เกิดจากเชส ไทเลอร์ เมื่อตัดกับผิวขาวซีดนั่นก็ชวนให้น่ามองไม่หยอก
"ต้องการอะไร" ขาเรียวพยายามที่จะสะบัดการเกาะกุมแต่ก็ดูุจะไม่เป็นผลเมื่อมือใหญ่ที่จับข้อเท้านั้นเพิ่มแรงบีบที่มากขึ้นจนแอชเชอร์นั้นต้องกัดฟันข่มความเจ็บปวด
แรงมากมายขนาดนั้นหากลงแรงอีกเพียงนิดเดียวก็คงจะทำให้เจ้าของข้อเท้าเล็กนั้นได้เจ็บตัวเป็นแน่
"อย่าถามอะไรโง่ๆดีกว่า"
"นายก็น่าจะเห็นอยู่นี่ว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นยังไง"
"ไม่มีทางที่ฉันจะยอมรับพวกแดนเหนือเข้ามาเกี่ยวข้อง.."
"อย่าใจแคบนักเลย.. ไม่เห็นหรือว่าน้องชายนายหวงฉันมากแค่ไหน" ความตื่นตระหนกของคนตัวขาวถูกกดลงไปให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่เจ้าตัวจะตั้งสติพูดคุยกับบุคคลอันตรายที่ไม่ได้อันตรายแค่เพียงคำพูดอย่างเดียวดั่งเช่นเบลเลอมอนท์
เพราะ แมดส์ ไทเลอร์ ต่างหากคือตัวอันตรายที่แท้จริง
"มันจะสักแค่ไหนกันเชียว" มืออีกข้างของทรูอัลฟ่ากลิ่นไม้ป่าที่ไม่สามารถระบุได้กระชากผ้าที่ปิดบังใบหน้าเกือบครึ่งของตัวเองออกจนเผยให้เห็นใบหน้าดุคมที่แม้จะถอดแบบอย่างเช่นฝาแฝดมาสักเท่าไหร่ แต่ทั้งแววตาและกลิ่นอายของความเป็นตัวตนก็แตกต่างกันอย่างชัดเจนเสียจนสามารถแยกออกได้
ก่อนที่ผ้าห่มผืนใหญ่ที่เคยปกคลุมร่างกายขาวนั้นจะถูกปัดกระชากออกไปให้พ้นทางและฉุดรั้งให้คนตัวขาวนั้นลุกออกมาจากเตียง แต่สุดท้ายคนที่ยังคงไร้เรี่ยวแรงที่ขานั้นก็ต้องนั่งทรุดลงกับพื้นอย่างหมดท่าต่อหน้าแฝดคนพี่ของตระกูลไทเลอร์ ภาพเรือนร่างขาวเนียนของอดีตอัลฟ่าแดนเหนือที่สวมใส่เพียงเสื้อตัวโคร่งของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์นั้นแทบไม่ได้ทำให้แมดส์ ไทเลอร์ ชมชอบเฉกเช่นน้องชายสักนิด
เท้าที่ถูกสวมด้วยรองเท้าหนักนั้นจงใจเขี่ยขาเรียวของคนที่นั่งกอดเข่าปกปิดร่างกายของตัวเองจนสุดท้ายขาเรียวนั้นก็แยกออกกว้างจนเผยให้เห็นจีบเนื้อที่แดงช้ำและปิดไม่สนิทที่ยังคงขับคราบน้ำสีขุ่นที่ถูกปลดปล่อยมาในกายขาวสองถึงสามครั้งก่อนหน้าออกมาเรื่อยๆ
การกระทำที่แสนหยาบคายของแมดส์ ไทเลอร์ นั้นทำให้อัลฟ่าตัวขาวถึงกับกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ ทั้งเท้าของอีกฝ่ายที่ใช้แตะสัมผัสร่างกายของเขา ทั้งแววตาหยามเหยียดที่ทอดมองเหมือนเขาเป็นแค่พวกของไร้ค่า
"ยอมเชสมันขนาดนี้เชียว"
"มากกว่ายอมก็คงต้องเรียกว่าเต็มใจ" คนตัวขาวว่าพลางขยับร่างกายให้อีกฝ่ายได้เห็นชัดๆ "หรือนายไม่เห็นว่าสิ่งที่อยู่ในร่างกายฉันมันคืออะไร"
"น่าไม่อาย"
"ใครกันแน่ที่น่าไม่อาย ไม่ใช่คนที่บุกรุกเข้ามาอย่างนายหรือ"
"นายนี่มันปากดีกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก"
"ส่วนนายเองก็หยาบคายไม่แพ้กับที่ฉันคิดไว้เช่นกันแมดส์ ไทเลอร์"
"ก็น่าเสียดายที่ฉันมันคนละขั้วกับเชส"
"นี่มันยิ่งกว่าสวรรค์กับนรกเสียอีก"
"หรือนายอยากลองลงนรกไปพร้อมกับฉันดีล่ะ"
เจ้าของแววตาดุร้ายย่อตัวลงมาอยู่ในระดับเดียวกับแอชเชอร์ก่อนที่จะเอื้อมมือมาบีบคางได้รูปของคนอวดดีแน่น ความท้าทายที่แอชเชอร์คงไม่รู้ตัวว่ามันคือความผิดมหันต์ที่แสดงออกไปให้คนอย่างแมดส์ ไทเลอร์ ได้เห็นจะนำมาซึ่งความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
"น่าเสียดายที่ฉันมีความสุขกับสวรรค์บนดินกับน้องชายนายมากกว่า"
คำพูดสองแง่สองง่ามที่เอ่ยต่อปากต่อคำกับแฝดคนพี่นั้นชวนให้แมดส์อดไม่ได้ที่จะลอบเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเองช้าๆ
"แล้วไอ้สวรรค์บนดินของนาย มันช่วยนายให้พ้นจากนรกแบบฉันตอนนี้ได้ไหม"
แรงกระชากที่ไหล่ได้รูปจากน้ำมือของบุคคลลึกลับที่ตามหาตัวจับได้ยากทำให้เสียงนุ่มทุ้มร้องหวีดลั่นกับการกระทำที่เกินคาดหมาย ก้อนเนื้อในอกนั้นบีบรัดและเต้นถี่ระรัวไปพร้อมๆ กับอาการชาที่แล่นริ้วตามร่างกายจนเย็นวาบไปทั้งตัว
กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งภายในริมฝีปากร้อนจากการถูกกระแทกบดจูบอย่างแรงทำให้คนที่ถูกบังคับนั้นทั้งออกแรงผลักและแรงต่อต้านที่จะผลักไสคนที่กำลังล่วงเกินตัวเองด้วยแรงทั้งหมดที่มีของตัวเอง
ความเป็นทรูอัลฟ่าของแมดส์นั้นกดดันและข่มคนที่อยู่ในสถานะต่ำกว่าจนเนื้อตัวขาวนั้นสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะความหวาดกลัว
"หมอนั่นมันน่าจะรู้ดีว่าฉันเกลียดอะไรมากที่สุด"
ฝาแฝดที่เติบโตด้วยกันมาในช่วงระยะเวลาหนึ่งย่อมต้องรู้จักนิสัยของกันและกันเป็นอย่างดี และแมดส์ ไทเลอร์ เองก็ไม่เชื่อหรอกว่าน้องชายตัวเองจะหลงลืมสิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
"ไอ้บัดซบเอ๊ย!"
แรงกระชากจากทางด้านหลังของคนที่พึ่งเข้ามาใหม่นั้นเหวี่ยงร่างกายของคนที่กำลังคุกคามแอชเชอร์ออกอย่างแรงก่อนที่เจ้าของบ้านตัวจริงที่พึ่งกลับเข้ามาในบ้านนั้นจะร้อนรนเข้าไปหาคนตัวขาวที่กระถดตัวหนีจนแผ่นหลังชิดขอบเตียง สภาพเจ้าของผิวสีหิมะที่ถูกเปิดเผยจนเห็นร่างกายนั้นทำให้ทรูอัลฟ่าหนุ่มก่อเกิดอารมณ์คุกรุ่นในใจจนยากที่จะดับ ยิ่งเห็นว่าใครที่เป็นคนทำให้เกิดเหตุการณ์ซึ่งอุกอาจนี่ก็ยิ่งทำให้เชสแทบอยากจะเข้าไประบายความโมโหทั้งหมดที่มีใส่อีกฝ่าย
แต่มันก็ทำไม่ได้เพราะคนที่กำลังแสยะยิ้มน่าเกลียดนั่นคือพี่ชายฝาแฝดของตัวเอง...
กลิ่นไม้ซีดาร์ของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์นั้นย่อมไม่มีผลต่อทรูอัลฟ่าเช่นเดียวกันอย่างแมดส์ ไทเลอร์ มันจึงทำให้ไม่แปลกที่เจ้าตัวจะกล้าทำอะไรได้ขนาดนี้
อันที่จริงแล้วคนอย่าง แมดส์ ไทเลอร์ สามารถเลือดเย็นได้มากกว่าที่ใครจะคาดคิดไว้เสียอีก
เพราะไม่อย่างนั้นเจ้าตัวก็คงจะไม่ใช่นักฆ่าฝีมือดีที่ใครต่างก็ต้องการตัวอยากจะเรียกใช้..
"ทักทายกันได้ดีนี่น้องชาย"
HASTAG #youngmastermn
เบลเลอมอนท์ว่าตัวปั่นแล้ว คนนี้อะตัวทำลายชัดๆ คือคุณแมดส์น่ะเค้าก็เป็นแบบนี้ล่ะคับ...
ปล.อาจจะกลับมาอีกทีประมาณวันที่10เดือนหน้านะคับ แล้วก็ข่าวดีก็คืออาจจะเปิดพรีเล่มในช่วงกลางเดือนหน้าหรือสิ้นเดือนนะงับ หยอดกระปุกรอกันได้เลยงับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เเมดส์นายหยาบคายมาก อย่าเข้ามาใกล้ลูกชั้นเลยนะ ออกไป!! เเล้วสองพี่น้องนี่จะเอายังไงกันต่อนิ๊
คือรุนแรงมาก คิดไว้อยุ่แล้วว่ามันน่ากัวแปลกๆ ละคือนายแมดจิงๆ;ㅡ;
นายแมดเกินไปแล้วมั้ย!!!!