คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ยกที่4 : หลบหมัด
ยกที่4 : หลบหมัด
Men’ Part
“มันยากตรงไหนวะ มึงก็เอาค่าที่หาได้จากตอนแรกมารวมกันกับอันสุดท้าย มันก็ได้คำตอบเท่ากับ 192 ไง”
“มึงอ่านโจทย์ดีๆดิ๊การ์ด มันไม่ต้องรวม!”
“มึงคนสอน?”
“กูคนเรียน?!”
“งั้นมึงก็ดูเฉลยที่อาจารย์บอกดิ๊!”
“...”
“ไง คำตอบอ่ะ อาจารย์เฉลยว่าไง?”
“...192 = =”
“กูบอกแล้ว...เถียงกูอีกอ่ะ!”
พักรบครับ...ศึกหนักกว่าคือสอบปลายภาค!!!!!!!
ไอการ์ดคงทนเห็นความโง่บรมในฟิสิกส์ของผมไม่ได้อ่ะครับ มันเลยต้องผันตัวมาเป็นติวเตอร์ให้ผม =3=
ส่วนไอมีน...
...ตอนไอวิชติวน่ากลัวกว่าการ์ดเป็นร้อยเท่าครับ ตอนแรกมันงอแงจะขอติวกับไอการ์ดด้วย...แต่แน่นอนว่าไอวิชลากตัวไปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ วันนี้วันอาทิตย์ ผมยังไม่เห็นแม้แต่เงาขี้เล็บมันเลย = =
อ่า...
รู้นะครับว่าสงสัย ว่าต่อจากตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง...
‘หลงเหรอ...โต๊ะเราอยู่ข้างบนนะ อย่าลืมสิ’
ตอนได้ยินคำพูดนี้ผมแทบทรุด...ไอการ์ดเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อก่อน...มันเก่งไปซะทุกเรื่องจนน่าโมโห
มันรู้ตลอดว่าผมคิดอะไร รู้สึกยังไง...
มันรู้แน่ๆว่าผมรู้สึกยังไง...มันยังพูดแบบนี้...
ผมหายใจเข้าและหายใจออกช้าๆ...ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ข้างผมแล้ว มีนก็ช่วยอะไรผมไม่ได้
มีแต่ผมคนเดียว...มีแค่เราคนเดียว...
จะหัวอ่อนฟังมันทุกอย่างเหมือนเดิมตามที่ใจหนึ่งต้องการ หรือจะยืนด้วยขาตัวเอง ทำตามใจอีกด้านของตัวเองบ้างล่ะเม่น...
...มึงทนมาสี่ปี มึงจะยอมให้มันกลับมามีผลต่อจิตใจง่ายๆแบบนี้เหรอวะ...
...ขี้เกียจจะคิดแล้ว...
‘ไม่เป็นไร ...เพราะกูไม่สนใจแล้ว’ ผมยิ้มให้การ์ด ยิ้มอย่างสดใสที่สุดเท่าที่จะสดใสได้’ไม่สนใจทั้งมึงทั้งเหตุผลนั่นแหละ…’
ผมจะไม่สนแล้ว!!!
‘...สี่ปีที่ผ่านมากูรักแต่มึง...แล้วกูจะเอาเวลาไหนไปหาคนใหม่วะเม่น’
บอกตรงๆว่าผมก็รักมัน รอแต่มัน...สี่ปี ผมมีแค่มัน...
แต่ผมแค่น้อยใจ มันบอกว่าผมไม่พร้อมจะฟังเหตุผล...ผมรักแต่มันมาเจ็ดปีตั้งแต่ม.1 หนึ่งในสามของชีวิตผม ผมมองแค่มัน รอแค่มัน ผมยังไม่พร้อมอีกเหรอวะ?!
ต้องให้ผมไปพัฒนาอะไรอีก ถึงจะพร้อมเท่าที่มันต้องการ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
‘มึงก็พูดแต่ปากป่ะวะ...มีน้ำมาคั่นเวลาด้วยนี่?!’
‘ถามกูยัง ว่ากูรักน้ำมั้ย?’ มันพูดพลางเหลือบตาหน่อยๆ เหมือนไม่อยากจะตอบ
‘กูควรถาม? ไม่รักแล้วคบทำไม?! แล้วพอกูถามมึงก็บอกว่ากูไม่พร้อมจะฟังเหตุผลอยู่ดีป่ะ’ ผมพูด มองไอการ์ดที่ตักเนื้อที่มันหั่นแล้วใส่จานผม
‘...รอมึงปิดเทอมเดี๋ยวกูจะพามึงไปเจอคำตอบถึงที่เลยจริงๆ’
‘ไปไหน =”=’ ผมถาม
‘ไปเจอคำตอบไง...’
‘กูไม่ไป’ ผมพูด
‘กูจะทำให้มึงไป!’
ผมมองไอการ์ดที่วางช้อนลงแล้วมองหน้าผมนิ่ง เหมือนจะยืนยันคำพูดที่เพิ่งพูดออกมา...
ถามว่าผมแคร์มั้ย...
‘ทำได้ก็ตามใจ!!!’
ไม่เลย!!!!!!!
...ผมขอมองมันดิ้นรนกับท่าทีของผมอีกนานก็แล้วกัน...
แต่อาทิตย์นี้ขอพักยกก่อน...มันกำลังจะสอบ ต้องการคนช่วยชีวิต!
ผมเล่นตัวไม่ได้ เข้าใจตรงกันนะ!!!
“ที่โน้นสอนฟิสิกส์ด้วยเหรอวะ” ผมถามไอการ์ดที่นั่งดูดโกโก้อยู่ข้างผม
“เหอะ! ไม่สอนว่ะ...แต่อ่านแล้วง่าย พอจะสอนมึงได้อ่ะ...” การ์ดยิ้ม ...เอาตรงๆมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเท่าไหร่ ยังยิ้มง่าย คุยเก่ง...
“แล้วทำไมไม่กินกาแฟอ่ะ...เมื่อก่อนกูกินโกโก้ล่ะบ่นกูจัง ว่ากินอะไรเหมือนเด็ก”
“ก็มึงไม่ชอบกลิ่นกาแฟนี่ กูจำได้ กูเลยกินโกโก้ไง มึงได้กินด้วย =w=”
...ไหมล่ะ ไม่ดีต่อหัวใจไหมล่ะ?...
“แล้วนี่มาอยู่ตั้งสามสี่อาทิตย์ ค่าโรงแรมไม่แพงตายเลยรึไงวะ”
“โรงแรมของลุงอ่ะ พักฟรีไม่ต้องเสียเงิน =w= “ กูล่ะหมั่นไส้พวกบ้านรวย...
ผมเหลือบมองชีทภาษาอังกฤษที่วางอยู่ข้างๆตัว...จิ๊บหายละ!
วิชาต่อไปภาษาอังกฤษ! เป็นวิชาที่ผมโคตรเกลียด แต่แม่ม...เผือกเป็นวิชาภาษาบ้านพ่อของไอการ์ด!!!!
มันไม่ได้เป็นลูกครึ่งนะครับ แต่ที่เรียกวิชาภาษาบ้านพ่อเนี่ย เพราะไอการ์ดมันโคตรเก่งภาษาอังกฤษ!
เวลาไอการ์ดติววิชานี้โดยเฉพาะติวให้คนโง่วภาษาแบบผมแล้วด้วยเนี่ย หึ! วิชก็วิชเหอะ...ยังต้องสยบต่อไอห่านที่นั่งดูดโกโก้อยู่ข้างๆผมเลย
...ผมยังจำความสยองตอนมันติวอังกฤษให้ผมตอนม.ต้นได้ไม่ลืมเลือน...
...ขอเปลี่ยนไปเรียนกับไอไนท์แทนได้มั้ยวะเนี่ย...
แต่ไอการ์ดมันเฝ้าผมทั้งวันมาตั้งสองสามวันละ ทำไงดีวะเนี่ย...ผมเกาหัวแกรก
“เป็นไร?” มันถาม...ผมมองหน้าไอการ์ดหน่อยๆ
เอาวะ หนีเป็นหนี! อิสระรอกูอยู่!!!
ถึงมึงจะเป็นผู้มีพระคุณก็เหอะนะการ์ด แต่กูทนมองหน้ามึงมาสองวัน สยองจนกูอยากจะบีบคอตัวเองตาย ขอกูไปที่ชอบๆแบบที่ไม่ต้องมีมึงพ่วงไปด้วยเหอะ...
อีกอย่าง...กูไม่อยากเจอความผวาเวลามึงสอนตอนม.ต้นอีกแล้ว...สุมาเต๊อะ!!!!
“การ์ด กูขอไปห้องน้ำแปปนะ” ผมพูด
“อือ...แล้วนั่นมึงจะถือชีทไปทำไม” ไอการ์ดดึงชีทในมือผมออก “เดี๋ยวก็เปียกน้ำหรอก”
“อ๋ออออ ลืมๆ ใจมาก เดี๋ยวมานะ!”
พูดเสร็จผมก็โกยอ้าวมาทางห้องน้ำแล้วหลบขึ้นห้องเลยครับ...
เกมส์แรกเริ่มได้!!!
ขอนอนซักยี่สิบนาทีก็ยังดี...ผมคิดพลางเปิดประตูห้อง
“อ้าว! มึงไม่ได้ไปติวแคลที่คณะเหรอวะ...”
“อือ...ไอไผ่มันติวจนเสร็จแล้วว่ะ เม่น กูขอไรหน่อยดิ” ไอบาสมองผมหน้าเครียด เกิดอะไรขึ้น?
“ได้ดิ มีไรป่ะวะ ทะเลาะกับไผ่เหรอ?” ผมถาม...นานๆทีจะเห็นไอบาสหน้าเครียดขนาดนี้
“มึงช่วยลงไปติวกับไอการ์ดให้เสร็จเลย!!! กูพนันกับไอไผ่ไว้ว่ามึงจะหนีติวอังกฤษของไอการ์ดมั้ย กูแม่มก็ใจปล้ำเข้าข้างมึงไม่ลืมหูลืมตาเลยเนี่ย เมื่อกี้ไอการ์ดโทรมาหากู บอกว่าถ้ามึงขึ้นมาก็บอกให้มึงกลับลงไปด้วย เหลืออีกหนึ่งวิชา...ภาษาอังกฤษใช่มะ?”
ผมพยักหน้าพร้อมยิ้มแหยๆให้ไอบาส
“มึงลงไปเหอะนะ กูไหว้ล่ะ ถ้ากูแพ้พนัน ไอไผ่จะให้กูไปนั่งติวอังกฤษกับไอการ์ดอ่ะ กูไม่เอานะเม่น เชี่ยการ์ดตอนติวอังกฤษแม่มน่ากลัวยิ่งกว่าหมาแถวบ้านกูอีก”
“เอ้า! ขนาดมึงยังกลัว แล้วกูไม่กลัวเหรอวะ” ผมโวย ไอบาสทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้ววิ่งมากอดขาผม
“เหอะนะ...กูขออออออออ เพื่อสวัสดิภาพช่องทางด้านหลังกูด้วยยยยยยย”
ผมร้องโอยเบาๆเมื่อได้ยินไอบาสพูดอย่างนั้น...
...นี่มึงมั่นใจในกูมากเกินไปละบาส พนันไอไผ่ไปเยอะขนาดนั้น!!!!!!!
เกมส์แรก...
...แพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม!!!
Card Part
ผมมองเม่นที่เดินกลับมาพร้อมหน้าบึ้งหน่อยๆ ขำนิดๆที่มันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะนั่งลงที่เดิม
...เกมส์แรก ชนะ...
“ห้องน้ำเต็ม?”
“เหอะ!!! แล้วทำไรอยู่...ฟังเพลงเป็นกับเขาด้วย!”
“ก็เห็นคนแถวนี้ชอบ เลยต้องฟังบ่อยๆ อยากรู้ว่ามันเพราะยังไง” ผมยื่นไอโฟนให้คนข้างๆดูหน้าจอ
LeeSSang(리쌍) _ Tears(눈물)
“ที่ฟังอ่ะ รู้ความหมายบ้างป่ะ?” เม่นเลิกคิ้วสูง
“ก็พอรู้บ้าง...” ผมตอบ “...เรียกร้องกันและกันมากเกินไป แค่ไม่เจอกันแปปเดียวก็พะว้าพะวงพอปล่อยมือ...”
ผมหยุด...มองเม่นหน่อยๆ
“พอปล่อยมือ แล้ว?” เม่นถาม ผมมองหน้าเม่นนิ่ง
“ติวต่อเหอะ...ภาษาอังกฤษนะ” ผมถือชีทแล้วคิด...
เพลงไม่ได้ตรงไปซะทุกอย่าง...แต่บางประโยค ก็โดนจนน่าตกใจ...
เม่นฟังมันวนไปมาอยู่สามปี ฟังทั้งๆที่รู้ความหมาย...
...ฟังเพราะชอบ หรือฟังเพื่อตอกย้ำตัวเองให้เจ็บกว่าเดิม...
“ติวมั้ยเนี่ย...กูทำใจนานนะ ติวอังกฤษกับมึงอ่ะ”
ผมมองเม่นที่พูดหยอกผมยิ้มๆ...
ผมรักรอยยิ้มนี้ขนาดไหน...ผมรอจะเห็นมันนานแค่ไหน ผมโหยหามันขนาดไหน
“เออ การ์ด มึงจำตอนมึงติวอังกฤษให้ไอบาสได้มั้ย..............แล้วก็นะ......................”
ผมฟังเสียงเม่น กลิ่นตัวที่หอมอ่อนๆ...กลิ่นแป้งที่เม่นใช้ประจำ เม่นไม่ชอบใช้น้ำหอม
เม่นยังคงพูดถึงเรื่องเก่าๆ หัวเราะไปกับเรื่องที่ตัวเองเล่า
ผมคิดถึงสิ่งเหล่านี้ขนาดไหน...
...ผมฝึกหนัก หนักจนอยากจะเลิก ท้อจนอยากถอยหลายครั้ง...
แต่ผมจะล้มไม่ได้ ผมถอยไม่ได้
ผมนั่งมองรูปคู่ที่ถ่ายกับเม่นทุกวัน ทุกคืน...ผมได้แต่ให้กำลังใจตัวเอง
ถ้าผมหยุดลงตรงนี้...ผมก็จะตั้งตัวไม่ได้ ผมจะปกป้องเม่นไม่ได้ ผมจะกลับไปหาเม่นไม่ได้!!!
ผมหยุดไม่ได้...ผมท้อใจจนต้องร้องไห้คนเดียวอยู่หลายครั้ง...
บางครั้งก็เหนื่อย ล้าจนอยากได้กำลังใจ...คุยกับแม่หรือพ่อ สิ่งที่พูดปิดท้ายอยู่ทุกครั้งก็มีแต่เรื่องหมั้นหมายกับลูกสาวของป้าอารีย์
อยากจะโทรไปหาเม่น ขอแค่ได้ยินเสียง ขอแค่ได้ยินเสียงที่คิดถึงเรียกชื่อซักครั้ง...ก็ไม่กล้า เสียใจจนต้องทุบอกตัวเอง ด่าตัวเองว่าโง่ตั้งกี่ครั้งที่ทิ้งมันออกมาโดยไม่บอกอะไรเลย
ปล่อยให้เม่นรอ...โดยไม่รู้อะไรเลย
ทำเม่นไว้เจ็บขนาดนี้...ทั้งเรื่องน้ำ ทั้งความงี่เง่าของตัวเอง...
จะมีหน้าโทรไปหาเม่นเพื่อขอกำลังใจ...ผมทำไม่ได้...ผมทำไม่ได้!!!
ในยามที่ทำได้แต่อดทน...มันก็ต้องอดทนเท่านั้น...ต้องอดทนและอยู่ด้วยตัวเองให้ได้!!!
“การ์ด...”
“...” ผมมองคนต้องหน้าที่มองหน้าผมแบบตื่นๆ
“ร้องทำไมอ่ะ ไม่สบายป่ะ ปวดหัวมั้ย” เม่นที่ดูลุกลี้ลุกลนเอาทิชชูเช็ดน้ำตาให้ผม
“เปล่า...ไม่เป็นไร เรียกกูอีกทีได้มั้ย” ผมถาม
“...การ์ด...มึงร้องทำไมอ่ะ การ์ด...น่ะ พอเรียกแล้วน้ำตามึงยิ่งไหลอ่ะ!” เม่นเช็ดน้ำตาผมเรื่อยๆ พลางพึมพำถามว่าเจ็บอะไรตรงไหน ไม่สบายรึเปล่า
ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองร้องตอนไหน
“...ขอบคุณ...”
ผมพูดเบาๆ
...ขอบคุณที่ไม่ท้อถอย...
...ผมได้รับรางวัลจากการอดทนนั้นแล้วครับ...
****************************
สงสารว่ะ 555555555555555
สงสารการ์ดอ่ะ หน่วงเกิ๊น เรื่องนี้...
เรื่องเม่นเป็นเรื่องที่กว่าจะลงตอนนึงนี่คิดแล้วคิดอีกอ่ะ
แต่เราชอบนะ มันรู้สึกอัดแน่นดีอ่ะ =3=
ยังไงก็ฝากคู่นี้ด้วยนะคะ ตอนหน้าสาวกวิชมีนเตรียมฟิน!!!=w=
ความคิดเห็น