คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CH 3 " ปกป้อง " (100%)
“คู่สุดท้าย ย... ลี ซองมิน และ โจว คยูฮยอน” ถึงกับเงียบกริบทันทีที่เสียงประกาศดังขึ้น เพราะสายตาของ โจว คยูฮยอน มันช่าง น่ากลัว แล้วเย็นชามาก
“ซองมิน นายได้เจอกับผู้ชายสุดหล่อคนนั้นด้วย แต่จะไหวหลอ นายถนัดแต่ด้านรักษานิ ชั้นกลัวแทนนายจังเลยซองมิน T ^T” ดงเฮพูดพลาง ตัวสั่นพร้อมกับพยายามจะช่วยเพื่อนโดยการไปบอกกรรมการว่าซองมินไม่มีเวทย์ทางด้านต่อสู้เลย แต่หารู้ไม่ดงเฮเอ่ย ชั้นมีเวทย์มากมายพอที่จะทำให้นายอึ้ง เยอะแยะเลย อีกอย่างที่ชั้นไม่สู้ใช่ว่าชั้นสู้ไม่เป็นนะ เจ้าปลาบ้า !!
“ไม่ต้องหลอกดงเฮ !! รอดูเอาละกันเนอะ ^^ เราต้องได้อยู่ด้วยกันสิ ไฟท์ติ้ง !!”
ซองมินบีบแก้มดงเฮพร้อมกับเดิน ขึ้นเวทีไปประจันหน้า คยูฮยอนผู้ซึ่งน่ากลัวที่สุดในตอนนี้
“ไงสาวน้อย ไหวหรือป่าวเอ่ยดูท่าไม่มีอะไรมาสู้เลยนะนั่น” คยูฮยอน พูดขึ้นทักซองมินที่ยืนมองหน้าทันทีที่ขึ้นเวที
“ชั้นไม่ใช่สาวน้อย ตาบ้า แล้วชั้นจะคอยดูว่าน้ำหน้ายั่งนายจะทำอะไรชั้นได้มั้ย ฮึ !”
ซองมินพูดพลางกอดอก อย่างมั่นไส้ในคำพูดของอีกฝ่าย
“เริ่มได้ !!” คำๆนี้ที่ทั้งสองรอคอยเริ่มขึ้น ทั้งคู่กลับหายไปบนเวที ทั้งสองฝ่าย
แต่ถ้าลองเงยขึ้นดูบนท้องฟ้า ร่างทั้งสองนั้น กลับมีปีกงอกออกมาจากกลางหลังของทั้งสอง ซึ่งของซองมินนั้นเป็นปีกสีขาวบริสุทธิ์สวยงาม ส่วนของคยูฮยอนนั้นเป็นสีดำเงาวับ ที่น่าหลงใหล แต่ยังไม่ทันที่ผู้ชมจะยืนชมความชื่นชมได้มากนัก ร่างของคยูก็กระโจนเข้าหาซองมินจนแถบมองไม่ทัน
“คิดว่าชั้นกลัวนายเหรอ โจวคยูฮยอน หึหึ” ซองมินไม่ว่าเปล่า พลางยิ้มแสยะให้แล้วหายไปอยู่ข้างหลังคยูฮยอนทันที
“ว้าว.. น่ารักแล้วยังดุด้วยแหะ น่าสนใจเหมือนกันนะ ลีซองมิน” คยูค่อยๆหันมาพลางสะบัดปีกให้โดนร่างของซองมินที่อยู่ด้านหลัง ร่างทั้งร่างของซองมินกระเดนไปข้างหลังทันที
คยูฮยอนแสยะยิ้มแต่ไม่ทันไร ร่างทั้งร่างของคยูก็แข็ง ขยับไปไหนไม่ได้ จากนั้นก็โดนขาของซองมินฟาดลงมาเต็มกลางหลัง ทำให้คยูฮยอน ร่วงสู่พื้นทันที
“ ลุกขึ้นมาสู้กันต่อสิ พ่อสุดหล่อ หึ ! อย่าเพิ่งยอมแพ้นะ เพราะมันยังแค่เริ่มเท่านั้นแหละ ” ซองมินพูดไป ยิ้มไปแต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้น่ารักแบบทุกทีมันกลับน่ากลัว จนทุกคนที่ชมอยู่คิดว่าเป็นคนละคนกัน ขนาดดงเฮที่เคยเห็นมาแล้วก็ยังไม่ชินกับรอยยิ้มนี่ของซองมินสักที
ในขณะที่ซองมินมีช่องโหว่ ร่างของคยูฮยอนก็พุ่งเข้ามาจับแก้มอย่างรวดเร็ว
“ โอ๊ะโอ ไวกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย อย่างนี้สิค่อยน่าสนใจหน่อย เฮ้ คิบอมคนนี้ทั้งน่ารัก ทั้งเก่งอย่างที่นายเดาไว้เลยวะ ” ไม่พอยังตะโกนบอกเพื่อนสนิทตัวเองที่อยู่ด้านล่าง คล้ายๆว่าพวกเขาก็ประเมินทั้งซองมินและดงเฮอยู่เช่นกัน ซองมินที่ตอนนี้ เลือดขึ้นหน้า ทั้งเขิน และก็โกรธ มันก็จริงถูกชมต่อหน้าสาธารณะชนขนาดนี้เป็นใคร ใครก็เขิน
“ เออก็บอกแล้ว ! ” คิม คิบอม เอ่ยขึ้นตอบรับกับเสียงเพื่อนแต่ก็ต้องหันไปข้างๆเมื่อเจอร่างบางที่ตนประเมินอยู่อีกคนมาอยู่ข้างๆ เขา
“ ซองมินเพื่อนชั้นไม่มีทางแพ้เพื่อนนายหลอก คิม คิบอม ” ดงเฮพูดทำแสงเข้มกลบเกลือนความเขินทั้งหมดไว้ ก็กว่าจะหาช่องโหว่ของคิบอมคนนี้แล้วเดินมาอยู่ข้างๆนี่มันยากนิหนา
“ หึ ” คิบอมหัวเราะแค่นี้ ก็เกือบทำเอาดงเฮแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะความหล่อมันพุ่งชนเข้าหัวใจดงเฮเต็มๆ
“ เตรียมตัวรับมือให้ดีๆ หละ เจ้าสาวของชั้น ลีซองมิน ” คยูพูดจบร่างของคยูฮยอนก็หายไปพริบตา
ทางด้านซองมินเองก็ตกใจไม่น้อยกับการหายตัวไวเกินนักเวทย์ทั่วไปจะทำได้แต่เจ้าตัวก็เตรียมตัวตั้งรับไว้อย่างดี
“ แค่การหายตัวไปของนายไม่ได้ทำให้ ลีซองมินคนนี้กลัวแม้แต่น้อยหลอกนะ พ่อคนเพ้อเจ้อคยูฮยอน ” ซองมินพูดขึ้น แล้วเริ่มร่ายวงเวทย์อาคม ป้องกันขึ้นมารอบๆตัว ซึ่งการร่ายวงเวทย์ครั้งนี้ ทำให้ใครหลายๆคนตกใจเพราะการจะร่ายวงเวทย์ด้วยท่าทางที่สบายๆ น้อยคนนักที่จะทำได้แถมยังร่ายไวเสียกระไรนี่
“ ตูม !!! ” เสียงการปะทะระหว่างพลังของคยูฮยอนที่กระทบกับวงเวทย์ของ
ซองมิน ดังขึ้น แรงปะทะนั่นรุนแรงเกินไปจนทำให้เกิดลมกระจายออกไปทั่วบริเวณลานประลอง ทุกคนตกใจกับการปะทะที่รุนแรงขนาดนี้กันใหญ่ ตามมาด้วยเสียงฮือฮาพูดคุยถึงการใช้เวทย์ของทั้งสอง ที่ดูจากอายุแล้วไม่น่าเก่งได้ขนาดนี้
“ หึ ! ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเวทย์แข็งแกร่งขนาดนี้ ” คยูว่าเสร็จก็บินไปรอบๆ วงเวทย์ของ
ซองมิน พร้อมพุ่งเข้ามาโจมตีเรื่อยๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“ มัวแต่ป้องกันอยู่นั่นแหละคุณเจ้าสาว ทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้วหรือไงจ๊ะ ” คยูก็สรรหาวิธีต่างๆที่ทำให้ร่างเล็กอารมณ์ขึ้น แต่ใจลึกๆก็รอดูการต่อสู้ของอีกฝั่ง
“ ชั้นคิดว่าชั้นไม่จำเป็นต้องแสดงเวทย์พร่ำเพื่อ แบบใครบางคนก็แค่นั้น ” ซองมินพูดจบร่างทั้งร่างของคยูก็หยุดนิ่ง พร้อมกับใบหน้าของซองมินที่พุ่งเข้ามาในระยะที่ใกล้มาก
“ พร้อมรับมือชั้นคืนรึยังคุณชายโจว คิคิ ” พูดไปแสยะยิ้มไป จากนั้นซองมินก็ร่ายเวทย์บางอย่างซึ่งทำให้ท้องฟ้าก้อนเมฆหมุนวนเป็นวงกลมคล้ายๆน้ำวน
น่ากลัวแหะ นี่คือสิ่งที่คยูฉุดคิดมาแว็บนึง
“ ทำไมร่างกายมันไม่ขยับละเนี่ย หึ ! ” คยูพยายามให้ร่างของตนหลุดพ้นจากเวทย์ตรึงของซองมิน
พลันทันใดนั้นแสงก็พุ่งตรงลงมาจากท้องฟ้าใส่ร่างของคยูฮยอนเต็มที่ ทำให้เกิดควันฟุ้งกระจายบดบังร่างของทั้งสองบนลานประลองทันที
“ อ๊ะ !! ” ซองมินอุทานขึ้นเหมือนโดนโอบเอวเบาๆ จากร่างสูงที่คิดว่าน่าจะโดนตรึงอยู่
“ ปล่อยฉันนะ !! ” ซองมินพูดเสร็จเหวี่ยงร่างของคยูฮยอนออกไป เป็นผลให้ร่างของร่างสูงกระเดนขึ้นฟ้า แต่คยูฮยอนตั้งตัวได้พุ่งลงมาพร้อมกับรอบตัวมีออร่าดำมืด ที่น่ากลัว ใส่ร่างซองมินแต่กลับไม่โดนเพราะว่าร่างเล็กนั้นก็ไวพอๆกันจากนั้นทั้งสองก็สู้กันอย่างดุเดือด ไม่มีใครยอมใคร จนหมดเวลา
“ หมดเวลาคู่นี้ต่อสู้กันได้เป็นคู่ปิดด่านแรกที่น่าชื่นชมมาก แต่เราก็ไม่สามารถรู้ว่าใครแพ้ใครชนะ เพราะทั้งสองยังคงยืนกันได้อยู่นะครับ ฉะนั้น คลาส S สำหรับ โจว คยูฮยอนและลี ซองมิน ครับบบ ” กรรมการพูดจบเสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือก็ดังขึ้นทันที เพราะการต่อสู้ของทั้งสองนั้นดุเดือดและน่าลุ้นมากกว่าคู่อื่นๆ จริงๆ
“เอาหละทีนี้ก็รู้กันแล้วว่าใครอยู่คลาสไหนกันแล้ว บททดสอบต่อไปของพวกคุณคือ พวกคุณจะต้องเดินทางเข้าสู่ป่าแห่งการหลับใหล เพื่อเดินทางไปให้ถึงปราสาทของโรงเรียนเพราะเราต้องการนัดเรียนที่มีประสิทธิภาพในทุกๆด้าน โดยการเดินทางเข้าป่าไปจนถึงตัวโรงเรียนนั้น มีกำหนดการเดินทาง ครึ่งวันเท่านั้น ก่อนเที่ยงคืนของวันนี้ นักเรียนทุกคนต้องอยู่ห้องโถงใหญ่ของโรงเรียนแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่ถึงเจ้าจะไม่ได้รับบางสิ่งที่ทางโรงเรียนเรามอบให้ ถือว่าเข้าใจกันดีแล้วนะ อ่อลืมไปอีกอย่างการเข้าป่านั้นอาจพบเจอนักเรียนคนอื่นๆอาจเกิดการต่อสู้ขึ้นได้ นักเรียนสามารถลุยเดี่ยวหรือจับกลุ่มไปก็ได้เพื่อความรวดเร็วในการไปถึงปราสาทของโรงเรียน ขอให้ทุกคนโชคดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า การแข่งขันนี้ชั้นชอบจริงๆ ชั้นจะรอบพบทุกคนที่ห้องโถงนะ” พูดจบนายท่านก็หายไปทันใด นักเรียนทุกคนต่างทั้งเริ่มวิ่งมุ่งเข้าป่าบ้างจับกลุ่มบ้างเพื่อเดินหน้าเข้าสู่ป่าแห่งการหลับใหล
“ด๊อง เรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทันการเอา” ซองมินรีบจับมือดงเฮแล้วหายตัวไปทันที ทำเอาสองหนุ่มที่ยืนมองยกยิ้มมุมปากเหมือนคิดอะไรได้
“ชั้นเราว่าคงต้องตามสองคนน่ารักคนนั้นไปแล้วหละวะ” คยูฮยอนกลอกมองไปทางร่างบางทั้งสงที่หายตัวไป
“แล้วแต่มึงเลยแล้วกันคยู ชั้นยังไงก็ได้ หึหึ” คิบอมว่าเสร็จก็กางปีกออก พร้อมทั้งคยูฮยอน
เนื่องจากหลังการประลองเสร็จสิ้นไปเหล่านักเรียนที่เห็นพลังของทั้งสี่คนนั้น บางคนก็เฉยเมย บางคนก็ปลาบปลื้ม บางคนก็หมั่นไส้ ซึ่งทำให้ทั้งสี่ตกเป็นเป้าหมายของทุกๆคนในโรงเรียนเกือบหมดแล้วโดยที่ทั้งสี่ไม่ได้รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
ณ ป่าแห่งการหลับใหล
“ด๊องระวังตัวด้วยนะ มินคิดว่าป่านี่คงไม่ได้ผ่านไปง่ายๆหลอก” พูดไปทั้งๆที่ทั้งสองกำลังวิ่งอย่างรวดเร็วผ่านป่าแห่งการหลับใหล
“ด๊องรู้แล้วหนา มินมินก็” ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะหันหน้ามองทางอย่างเต็มที่แรงลมก็พัดกระโจนใส่ทั้งสองอย่างหนักทำเอาทั้งสองต้องหยุดชะงักการวิ่งทันที
“พลั๊ก !!!” ร่างบางทั้งสองกระเด็นไปข้างหลังทันทีที่ยกมือขึ้นบังลมที่ปะทะเข้ากับตัวเอง
ทางด้านซองมินและดงเฮหลังจากโดนพลักกระเดนทั้งสองต่างทรงตัวกลางอากาศและเหยียบลำต้นไม้ดันร่างตัวเองที่กระเดนมา เพื่อลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย พลางถามไถ่กันว่าเป็นอะไรมั้ย
“ว่าไงสองหนุ่มหน้าหวานที่น่าหมั่นไส้” เสียงเล็กๆของผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มที่ซองมินและดงเฮต่างก็เพิ่งสังเกตว่าพวกเธอนั้นได้รวมกลุ่มกันประมาณ 5 6 คน แต่ทำไมต้องทำร้ายพวกเขาหละ
“พวกเรารีบไม่มีเวลามาพูดคุยกับพวกเธอหลอกนะ” ดงเฮที่เป็นคนอารมณ์ร้อนต่างหัวเสียกับการกระทำที่ไร้มารยาทของคนกลุ่มนี้
“ก็ไม่มีอะไรมากพวกเราแค่จะมาทำให้พวกเธอไปถึงปราสาทในสภาพที่ดูไม่ได้ยังไงหละ” และก็เป็นอีกหนึ่งสาวที่พูดแล้วเดินออกมา
“หึ คิดว่าทำได้ก็เข้ามา” ดงเฮนั้นยังคงพูดไปเพราะตนและเพื่อนตัวเองก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมาย ซึ่งซองมินนั้นกำลังประเมินคนกลุ่มๆนี้อยู่ว่าจะหาทางหนียังไงดี
“ปากเก่งนักนะ ลี ดงเฮ !!” พูดจบมีดนับพันก็ปรากฏลอยอยู่ร่างของผู้หญิงที่พูดขึ้นมา พร้อมกับพุ่งมาใส่ร่างบางทั้งสองอย่างรวดเร็ว
“กริ้ง แกร๊ง กริ้ง กริ้ง !!” เสียงมีดนับพันกระทบกับวงเวทย์ป้องกันของซองมินที่ร่ายอย่างรวดเร็วก่อนที่จะมาถึงตัวพวกเขา
“พวกเราไม่ได้อยากต่อสู้ให้เสียเวลา เชิญหลีกทางให้พวกเราด้วย” ซองมินพูดแล้วเดินออกมาบังร่างของดงเฮซึ่งดงเฮก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะทั้งคู่รู้ว่าใครมีสติในการป้องกันมากกว่า
“อย่ามาทำเป็นคนดีเลย ลีซองมิน คิดจะจับคยูฮยอนงั้นสินะ” คยูฮยอน?? คนไหนอ่อคนที่เขาสู้ด้วยตอนลานประลองนั่นเอง หึ พวกผู้หญิงเหล่านี้ใช้อะไรคิดเนี่ย
“แล้วอย่าหาว่าพวกชั้นไม่เตือนละกันนะ” ซองมินพูดจบก็ยกยิ้มขึ้นบริเวณรอบๆเย็นขึ้นอย่างรวดเร็ว
“คิดว่าพวกชั้นจะกลัวพวกแกหลอแค่สองคนคิดว่าจะชนะพวกชั้นได้หลอ !!” กลุ่มผู้หญิงที่เริ่มตื่นตระหนกกับความเย็นที่เย็นขึ้นเร็วเกินไป แต่ก็ต้องใจดีสู้เสือสาว(?)ที่น่ารักทั้งสองเพราะความหมั่นไส้
“มึงคิดว่าเขาจะสู้ไหวหลอวะ” จู่ๆคิบอมก็พูดขึ้น ถึงทั้งสองจะเก่งแค่ไหนแต่ถ้าโดนรุมตั้ง 6 คนขนาดนี้ ร่างบางทั้งคู่อาจจะสู้ไม่ไหวก็ได้
“หึ มึงรอดูไปเถอะคิบอม บางทีสองคนนั้นอาจเข้าขากันเสียยิ่งกว่าพวกเราก็เป็นได้” คยูพื้นจบก็ฉุดเพื่อนตัวเองนั่งลงแล้วแอบดูทั้งคู่อยู่ในระยะที่คิดว่าจับไม่ได้
“ซองมินไหวมั้ยให้ชั้นสู้คนเดียวก็ได้นะ นายคอยซัพพอร์ตชั้นพอก็ได้” ดงเฮที่กำลังกระซิบซองมินเพื่อบอกถึงวิธีการสู้ของทั้งสอง
“บ้าหลอด๊อง พวกนั้นมีตั้งหกคน นายคนเดียวก็ไม่ไหวหลอก ถึงชั้นจะช่วยนายแต่กว่าเราจะถึงปราสาทแล้วอีกอย่างถ้าเราเจอคนหมั่นไส้เราตลอดทางนายจะเดินไหวจนถึงปราสาทหลอ” พูดจบทั้งสองก็ยิ้มอย่างรู้กันแล้วมองกลุ่มผู้หญิงกลุ่มนั้นที่เกาะกลุ่มป้องกันทุกด้าน
พอคุยอะไรกันเรียบร้อยแล้วร่างก็ดงเฮก็หายไปทันที เหลือเพียงซองมินที่เดินไปหากลุ่มนักเรียนหญิงพร้อมกับความเย็นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นักเรียนกลุ่มนั้นต่างปล่อยเวทย์ออกมาเพื่อกันไม่ให้ซองมินเดินเข้ามาใกล้กลุ่มตนเอง แต่ก็โดนซองมินปัดออกได้อย่างง่ายดาย
“นี่มินจี เราทำอะไรยัยซองมินนั่นไม่ได้เลยนะ ขืนปล่อยเวทย์แบบนี้ไปเรื่อยๆ จะไปไม่ถึงปราสาทเอานะ !!” เพื่อนในกลุ่มของเธอพูดขึ้นเพราะเขาเธอไม่สามารถทำอะไรซองมินได้เลย
“คิดจะเล่นกับพวกชั้นเองนะ หึหึ” ซองมินพูดเสร็จก็ร่ายวงเวทย์ที่ทำให้ร่างของกลุ่มมินจีแข็งกระด้างและขยับไม่ได้
“ด๊อง ฝากต่อด้วย ” ยิ้มแล้วเดินหันหลังให้พวกมินจี
“ไม่มีปัญหาเลยมินมิน เอาหละนี่ชั้นถือว่ามินมินขอหลอกนะดังนั้นชั้นจะไม่ทำอะไรพวกเธอ” พูดจบดงเฮ ก็บินรอบๆกลุ่มมินจี จากนั้นดงเฮก็ร่ายเขตอาคมน้ำ ขึ้นมาขังพวกผู้หญิงที่กล้าต่อกรพวกเขา
“พวกเธอจะไปไหนไม่ได้คงประมาณ ชั่วโมงนึงได้มั้งนะ ถ้าชั้นจำเวทย์นี้ไม่ผิด ไปแล้วน๊าบ๊ายบาย พวกลิ่วล้อ” ดงเฮพูดเสร็จวิ่งไปหาซองมินที่กำลังเก็บของ
“ไปกันเถอะมินมิน”
“อ๊ะ นาฬิกาเวทย์มนต์ที่แม่ชั้นให้มาไปตกอยู่ไหนกันนะ ด๊องช่วยมินหาหน่อยสิ” ซองมินทำท่าเหมือนจะร้องไห้เพราะของของตัวเองหาย ทั้งสองที่กำลังวุ่นวายกับการหาของอยู่นั้นจู่ๆก็เกิดเสียงการต่อสู้ขึ้นระแวกนั้นขึ้น เอาอีกแล้วเหรอเนี่ย
“พลั๊ก !!” ทันใดก็มีร่างผู้ชายสองร่างกระเดนมาทางซองมินและดงเฮที่กำลังงวนกับการหานาฬิกาซึ่งสร้างความตกใจให้ทั้งสองฝ่าย
“เฮ้ย/เอ้ย !!”
ยังไม่ทันที่ร่างทั้ง 4 จะได้พูดคุยกัน ก็มีลำแสงเวทย์มนต์ยิงมาทางพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้งสี่เกือบกระโดดหลบกันแทบไม่ทัน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมถึงเจอแต่เรื่องวุ่นวายตลอดเลยพวกชั้นเนี่ย ตาบ้านายทำบ้าอะไรเนี่ยทำให้พวกชั้นพลอยโดนลูกหลงไปด้วย” ซองมินที่บ่นไปหลบไปลำแสงเวทย์มนต์ที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
“ชั้นอยากให้มันเกิดเรื่องซะที่ไหนหละ ยัยบ้าอยู่ดีๆพวกนั้นก็เล่นยิงเวทย์ประหลาดใส่พวกชั้น พวกชั้นยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ” คยูฮยอนเองก็เช่นกันตอบไปทั้งๆที่ตัวเองก็กระโดดหลบลำแสงเหล่านั้นอยู่
“ตอนสู้กับชั้นเก่งนักเก่งหนา กะอิแค่เวทย์ธรรมดาๆ แบบนี้ทำไมยังให้เขารู้ช่องว่างหละ เฮ้ออ” ซองมินยังคงไม่หยุดบ่นไปทั้งๆที่ตัวเองหลบไปหาทางโต้กลับไปด้วย
“หยุดบ่นแล้วมาช่วยกันคิดเถอะว่าจะทำไงต่อไป ดูดิ ยิงมากันอยู่นั่นแหละ ไม่เหนื่อยกันมั้งหรือไง แล้วคิบอมกับเพื่อนเธอเป็นไงมั้งหละหนะ เฮ้ย ไอ่บอม เป็นไงมั้งวะ ปลอดภัยนะ” คยูฮยอนพูดไปหันถามเพื่อนตัวเอง
“เออ สบายดี แต่อีกคนนี่สิ ดูท่าจะได้แผลท่าทางแปลกๆ” คิบอมไม่ว่าเปล่าแล้วกระโดดไปหาดงเฮ พาไปหลบอยู่หลังต้นไม้เพื่อไม่ให้โดนลำแสงเหล่านั้นเพราะแผลที่ดงเฮโดนนั้นคือตรงข้อเท้าซึ่งยากต่อการหลบเป็นอย่างมาก
“ไม่เป็นไรนะ เธอหนะ” คิบอมถามดงเฮที่เบ้หน้า เพราะอาการปวดข้อเท้าเพราะลำแสงนั่นไม่ใช่ลำแสงธรรมดา
“อื้ม ไม่เป็นไรหลอก เดี๋ยวซองมินก็ช่วยได้ ง่ายไปเลยเรื่องแค่นี้ เมื่อซองมินอยู่ด้วย” ดงเฮยิ้มกลับคิบอมเพราะไม่เป็นไรจริง แต่รอยยิ้มนั้นก็ทำให้คิบอมใจสั่นวูบไปเสี้ยวหนึ่ง
“โอเค งั้นชั้นไปช่วยพวกคยู กับเพื่อนเธอก่อนนะ เดี๋ยวได้แผลกันหมด ดูแลตัวเองด้วยหละ” คิบอมพูดเสร็จกำลังจะกระโดดออกไป ต้องชะงัก
“เป็นห่วงชั้นหลอ เขินจัง ฮิฮิ” ดงเฮว่าแซวเข้าให้ แต่ในใจเจ้าตัวก็อยากให้เป็นแบบนั้น
“หึหึ อะไรทำให้เธอคิดแบบนั้นกันลีดงเฮ” คิบอมพูดเสียงนิ่งแต่ปากนี่ยกยิ้มขึ้น นั่นยิ่งทำให้ดงเฮ เขิลเข้าไปใหญ่
“ดูแลตัวเองด้วยนะ นายอะ !!” ดงเฮตะโกนไล่หลังคิบอมไป พยายามคิดหาทางช่วยเพื่อนๆตัวเอง
ทางด้านคยูฮยอนและซองมิน เมื่อคิบอมมาเห็นก็ถอนหายใจทันที เพราะตัวเองรีบมาช่วยเต็มสุดกำลัง แต่กลับมาโดดเถียงกันไปๆมาๆ ราวกับลำแสงเหล่านั้นไม่ได้เป็นอะไรที่ยุ่งยากสำหรับทั้งสอง
“นี่ตาบ้าเอาเวลามาเถียงชั้นไปจัดการพวกนั้นสิ มายุ่งอะไรกับชั้นเยอะแยะ ชั้นดูแลตัวเองได้” ซองมินพูดพลางลำคาญเต็นทนเพราะคยูก็แสนจะกวนโอ๊ยซองมินซะเหลือเกิน แทนที่จะเข้าไปบุกคนพวกนั้นกับมาช่วยตัวเองปัดป้องลำแสงที่พุ่งมาหาซองมิน
“นี่คุณเจ้าสาว ผมไม่ใช่คนชอบใช้กำลังนะคร๊าบบบ กรุณามองผมใหม่ด้วยหละ” คยูฮยอนโต้กลับแล้วอ้อมไปจับมือซองมินเพราะลำแสงพุ่งตรงหาซองมิน ทั้งหมด เพื่อให้ทั้งคู่หลบทันทำให้ร่างทั้งสองนอนทับกันอยู่บนพื้น
“อ๊ะ !!” ตลอดแหละปากก็ต้องชนปากสิเนอะ เอาแล้วไง ลีซองมินเอ้ยย ซวยแล้วๆ
พอได้สติซองมินรีบเด้งตัวขึ้นทันทีที่ลำแสงพุ่งเข้าหาทั้งสองอีกรอบ จะให้ซองมินร่ายวงเวทย์ก็คงไม่ทันเพราะมันใกล้มาก อิตาคยูฮยอนก็นอนยิ้มกริ่มไม่ลุกขึ้นซะที อะไรเนี่ย ลีซองมินจะบ้าตายแล้วนะ
“เพล้ง !!” เสียงคล้ายๆ แก้วแตก จากนั้นลำแสงเหล่านั้นก็แตกสลายไปเพราะเวทย์มนต์ของคิบอม ของดงเฮนั่นเอง โดยการแช่แข็งไหล่าลำแสงที่พุ่งมานั้นพร้อมกับทำลายลงในพริบตาอย่างง่ายดาย
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย ทั้งสองคนหนะ” คิบอมหันมาถามทั้งสอง
“อื้ม แล้วดงเฮหละ” ซองมินถามคิบอมขนาดที่ตัวเองพยายามหาตัวศัตรูด้วยพลังเวทย์
“อยู่หลังต้นไม้ต้นนั้น ไง ดูท่าจะได้แผลที่ข้อเท้าด้วย ชั้นถามว่าเป็นอะไรมั้ยบอก ว่าไม่ต้องห่วงมีนายอยู่ด้วยแล้ว สบายมาก ว่าแต่เธอถนัดเวทย์สายไหนกันแน่เนี่ย ขนาดพลังของไอ้คยูยังทำไรไม่ได้” คิบอมพูดพลางพยุงคยูฮยอนขึ้นมาแล้วถามซองมินเพราะเอ๊ะใจเรื่องที่ซองมิน สามารถตั้งรับเวทย์ของเจ้าคยูเพื่อนรักของตนได้
“ชั้นคิดว่าชั้นถนัดเวทย์ด้านรักษานะ ชั้นไปดูเพื่อนก่อนนะฝากจัดการพวกนั้นด้วยหละ ขอบคุณมาก” ซองมินพูดไปยิ้มไป เพราะตัวเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรเท่าทั้งสองเลยเรื่องของพละกำลังเจ้าตัวรู้ดี จากนั้นก็วิ่งไปหาดงเฮที่อยู่หลังต้นไม้
“ด๊องเป็นอะไรมากมั้ย โห่ลำแสงนี่ไม่ธรรมดานะเนี่ยดีนะที่ไม่โดนเข้าให้” ซองมินที่เห็นแลผตกใจมากเพราะมันเป็นลำแสงที่มีพิษร้ายแรงสามารถทำให้เป็นอัมพาตได้ระยะหนึ่ง
“มินมิน ด๊องพยายามหลบเต็มที่แล้วนะ แต่มันก็ไม่พ้น ฮึกฮึก” ดงเฮที่เจ็บจนทนไม่ไหวพอเห็นหน้าเพื่อนรักตัวเองเท่านั้นแหละต่อมน้ำตาแตกออกมาเลย
“โอ๋ๆ ด๊อง มินอยู่ทั้งคนแหม๋มาๆ เดี๋ยวมินมิน ช่วยเอง” ซองมินพูดก็ร่ายเวทย์ใส่ข้อเท้าของดงเฮ พลันแผล และอาการปวดก็หายไปทันที
“หายเจ็บยัง เจ้าเพื่อนขี้แย ฮะๆ” ทั้งคู่หัวเราะให้กันราวกับลืมสิ่งอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับทั้งสอง
“หึหึ มาหลบอยู่นี่นี่เองคนน่ารัก” จู่ๆก็มีกลุ่มนักเรียนชายกระโจนออกมา ประมาณ 3 -4 คน
ทั้งซองมินและดงเฮต่างเตรียมตั้งรับ ทั้งสองหันหลังชนกันพลางมองหาช่องทางหนี ที่ไม่ได้ต่อสู้กัน
“นี่มินมิน ทำไมเราถึงโดนลุมตลอดเลยเนี่ย ด๊องไม่เข้าใจ เฮ้ออ” ดงเฮไม่พูดเปล่าร่ายเวทย์ผสมผสานกันระหว่างน้ำและลม ทำให้เกิด กำแพงน้ำที่มีลมแหลมคมปกคลุมทั้งซองมินดงเฮ และกลุ่มผู้ชายเหล่านั้นเพื่อกันไม่ให้ใครออกจาก กำแพงนี้ได้
“มินก็ว่างั้นแหละด๊อง ว่าแต่ด๊องพร้อมนะ” ซองมินพูดแล้วทั้งคู่เตรียมตัวพร้อมสู้เต็มที่
“แหม๋ ๆ ๆ คนสวยถึงจะใช้เวทย์เก่งกาจแค่ไหน แต่จะสู้เรื่องพละกำลังของเราได้หรือจ๊ะ” พลันทันใดนั้น ทั้งสี่ก็กลายร่างเป็น สัตว์ประหลาดบ้าง ปีศาจบ้างมังกรบ้าง ทำให้ทั้งซองมินและดงเฮ เผลอตกใจไปเล็กน้อย
“หึหึ” ทั้งสองร่างบางยกยิ้มมุมปากพลางกระโดดขึ้นบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ยตามมันสองคนไปเร็ว !!” เหมือนลูกพี่ของกลุ่มจะสั่ง เหล่าคนกลุ่มนี้ก็แปลงร่างเป็นสัตว์ร้ายมีปีกแถมใหญ่โตเตรียมพุ่งชน แต่ก็ยังช้ากว่าทั้งสองร่างบางไปเยอะ
ซองมินรอจังหวะที่พุ่งเข้ามาใกล้ตัวเองจน จากนั้นจับที่เขาของร่างผู้ชายคนหนึ่งที่แปลงร่างเป็นมังกร เหวี่ยงลงพื้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ไม่พอก็ร่ายเวทย์บางอย่างเพียงแค่ซองมินชี้นิ้วลงเท่านั้นจากนั้นลำแสงนับร้อยก็พุ่งจากฟ้าตรงใส่ร่างของผู้ชายคนนั้น เสร็จไปหนึ่ง
ด้านดงเฮนั้นเรื่องความไว ไม่น้อยหน้าใครทั้งนั้น หลบการโจมตีของอีกฝั่งได้อย่างดิบดี พอได้จังหวะ ดงเฮร่ายเวทย์ อย่างรวดเร็วจากนั้นเพียงเสี่ยววินาที แรงดันของไฟก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินอย่างรวดเร็วโดนในคู่กรณีอีกฝ่ายอย่างจัง เสร็จไปอีกหนึ่ง
หลังจากเพื่อนตัวเองล้มลงไปถึงสองคนอย่างรวดเร็ว ก็เรียกพวกมาอีกล้อมทั้งสองที่ไม่มีทางหนีอย่างแน่นอน เพราะทั้งบนดินและ ท้องฟ้าต่างเต็มไปด้วยเหล่า นักเรียนคลาส D ทั้งหมด รวมถึงสองคนที่เพิ่งล้มลงไปเมื่อกี้ด้วย ซึ่งทั้งซองมินและดงเฮลืมคิดถึงเรื่องการฟื้นฟูตัวเองและพละกำลังของคลาสๆนี้ ไปเลย
“หึหึ แบบนี้จะหนีไปไหนรอดมั้ยจ๊ะ สาวน้อยจะไปกับพวกเราดีๆ หรือต้องให้เราใช้กำลัง” พูดพร้อมสั่งลูกน้องจับตาดูและเตรียมตัวตั้งรับเพราะร่างบางทั้งสองนั้นไม่ได้จัดการได้ง่ายๆเลย
“ด๊อง คิดว่าไหวมั้ย” ซองมินหันถามเพื่อนตัวเองพร้อมหันหลังชนกันอีกครั้ง
“ไหวสิมินมิน เราออกจะเข้าขากันยิ่งกว่าอะไรดี พร้อมมั้ยมินมิน” ดงเฮพูดพร้อมกับจับมือเพื่อนตัวเอง ทั้งสองหลับตาลง พร้อมกับ เหล่ากลุ่มนักเรียนคลาส D พุ่งเข้ามาหาทั้งสองอย่างรวดเร็ว
“ตึง !!!!” จู่ๆก็มีแรงระเบิดเกิดขึ้นรอบๆตัวร่างบางทั้งสองคน ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
“เหอะๆ เป็นผู้ชายซะเปล่านะพวกนายเนี่ย” เสียงของคยูฮยอนนั่นเอง และพลังนั่นก็ด้วย
“หายดีแล้วหลอดงเฮ” คิบอมบินลงมาพอถึงพื้นข้างดงเฮก็ถามขึ้น ดงเฮเขิลลล
“อะ... อื้ม ซองมินรักษาให้แล้ว” ดงเฮตอนนี้เขิลจนแทบจะทรุดอยู่แล้ว อ๊ากก คิม คิบอมบ้า บ้า บ้า
“ดูท่าจะได้แผลนะ พ่อคนปากเก่ง” ซองมินเห็นก็รู้แล้วว่าใครได้แผลอะไรยังไงมาบ้างเพราะตัวเอง หมกมุ้นด้านการรักษาแบบที่สุด แค่เห็นท่าทาง และซองมินนั่นสามารถตรวจสอบคนทางพลังเวทย์ได้
“ไม่เป็นไรสบายมากแค่นี้เอง หึหึ ว่าแต่ เป็นห่วงกันรึไง” คยูฮยอนพอเท้าแตะถึงพื้นก็หันมาตอบพร้อมยิ้มให้กับซองมิน แล้วทำท่าทางว่าไม่เป็นไร แต่ถึงจะไม่เป็นไร สภาพยั่งงี้ เจอเหล่าคน คลาส D ใช่ว่า 4 คนจะต้านไหว
“หึ !! คยูฮยอนลูกชายตระกูลโจว ที่ถูกขนานนามว่า ตระกูลปีศาจ คิบอม ลูกชายตระกูลคิม หรือเรียกอีกอย่างว่านักรบเวทย์มนต์ ไม่ยักรู้ว่ารู้จักการปกป้องคนอื่นด้วย” คำพูดของนักเรียนคนนึงทำเอาซองมินและดงเฮตกใจกับท่าทางที่เปลี่ยนไป จากเมื่อกี้
“อย่าพูดให้เสียเวลาเลยดีกว่า เจ้าพวกใช้กำลังแต่ปัญญาแทบจะไม่มีแบบพวกเจ้า !!” ว่าเสร็จทั้งคยูและคิบอม สยายปีกออกแล้วพุ่งเข้าหากลุ่มนักเรียนคลาส D นับ 20 คน เหลือเพียงซองมินและดงเฮที่ยังยืนนิ่งมองการต่อสู้ที่ดุเดือด
ทั้งคยูและคิบอมต่างร่ายเวทย์ที่น่ากลัว ซัดเข้าใส่พวกปีศาจ ที่แปลงร่างมา แต่พละกำลังและการฟื้นฟูของเหล่านักเรียนกลุ่มนี้ มันเยอะเกินจนทำให้ทั้งสองพลาดท่าโดนซัดกระเดนมาทางซองมินและดงเฮที่ยืนมองอยู่ แต่ทั้งสองก็ยังพุ่งเข้าโจมตีอย่างไม่ยั้ง คยูนั้นตอนนี้ร่ายเวทย์บางอย่างทำให้ร่างกายตัวเองมีออร่าสีดำรอบๆตัวแถมการเคลื่อนไหวและการโจมตีก็เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนคิบอมนั้นดาบนับพันลอยอยู่บนร่างพร้อมฟาดฟันเหล่านักเรียนกลุ่มนั้นอย่างไม่หยุดหย่อนซึ่งทั้งคู่ต่างสู้เหมือนแบบไม่คิดชีวิตตัวเองเลย ทำให้ซองมินและดงเฮ ตกลงกันว่าควรเข้าไปช่วย
“ด๊อง มินมิน ว่า เราเข้าไปช่วยเถอะ ท่าทางสองคนนั้นจะเริ่มเหนื่อยแล้วนะ ดูสิจัดการไปเท่าไหร่ก็ไม่เป็นอะไรเลย” ซองมินว่าเสร็จก็หายตัวไปอยู่ข้างๆคยูฮยอน ส่วนดงเฮนั้นยืนร่ายเวทย์บางอย่างขึ้นมาจู่ๆ ก็มีมังกรสี่ธาตุโผล่มาจากทั้งฟ้า สร้างความตกใจให้ทั้งคยูและคิบอม เพราะเวทย์แบบนี้หาได้ยากมากในปัจจุบัน นั่นคือ การอัญเชิญสัตว์เทพมาช่วยต่อสู้นั่นเอง
“นี่นายอย่าทำตัวป่าเถื่อน แล้วก็หยุดใช้เวทย์แบบบ้าห่ำได้มั้ย มันไม่ได้ดีต่อร่างกายนายนะ !!” ซองมินว่าเข้าให้ขนาดตัวเองร่ายเวทย์ ฟื้นฟูร่างของคยูและคิบอมอย่างรวดเร็ว จนทั้งคู่ตกใจอีกครั้งเพราะเป็นการรักษาขั้นสูงสุดที่หาได้ยากมากที่นักเวทย์จะทำได้
“หึ !! แล้วถ้าไม่มีไอ่คนบ้าระห่ำคนนี้ใครจะปกป้องเธอได้กันห๊ะ ยัยบ้า ดูพวกมันสิ ถึกยิ่งกว่าอะไรดี ชั้นซัดมันไปไม่รู้กี่ครั้ง ก็ไม่เป็นอะไร”
ทั้งคู่ก็เริ่มเถียงกันอีกครั้งปากก็ด่ากันไปแต่การกระทำนั้นต่างปัดป้องและโต้กลับอย่างชำนาญ สร้างความหงุดหงิดให้เหล่านักเรียนคลาส D ได้เป็นอย่างดี
ขนาดที่ทั้งคู่กำลังเถียงกันอยู่นั้นจู่ก็มีเขาใหญ่ยักษ์พุ่งตรงมาทางทั้งคู่ทั้งซองเกือบหลบไม่ทันแต่เหตุการณ์ไม่ขาดฝันก็เกิดขึ้น
“เพล้ง !!” เสียงเหมือนเขาไปกระทบโดนอะไรพอดูดีๆแล้วมันคือ นาฬิกาของซองมิน!!
“เอาแล้วไง พวกนั้นไม่รอดแน่” ดงเฮพูดพลางมองดูเหตุการณ์กับคิบอมที่เข้าขากันต่อสู้กันดีมาก สร้างความงุนงง กับคนข้างตัวเองอย่างมาก
“ทำไมหรือ เกิดอะไรขึ้น เฮ้ๆ ทำไมจู่ๆป่าก็เงียบแบบนี้ละ เห้ยไอ้คยู เป็นไรมั้ยวะ” คิบอมถามดงเฮ ตกใจในสิ่งหลายๆอย่างที่กำลังเกิดขึ้น
“กูไม่เป็นไร แต่กูคิดว่า พวกนั้นน่าจะไม่รอดวะ ฮ่าๆ” คยูที่เห็นท่าทางของร่างบางข้างกายที่เปลี่ยนไปแล้ว
“นี่ชั้น งง ไปหมดแล้ว ทำไมทุกคน เกิดอะไรขึ้น” คิบอมที่ตอนนี้อาการอยากรู้จัดกำเริบ
“ก็นาฬิกานั้นซองมินรักมาก เพราะเป็นของต่างหน้าของแม่ซองมิน ซึ่งตอนนี้มันแตกเพราะพวกนั้นดันทำมันแตกไงหละ นายนี่เข้าใจไรยากจริง คยูฮยอนดูแปปเดียวยังรู้เลย” ดงเฮเหน็บเข้าให้ รอดูการต่อสู้ของซองมินซึ่งหาดูได้ยาก
“ไม่คิดไปช่วยเพื่อนตัวเองหรือไงดูสิ ปล่อยให้คยูสู้อยู่คนเดียว” ดงเฮว่าพลางสะกิดแขน คิบอม
“แล้วนายไม่ไปช่วยซองมินหรือไง เห็นว่าไม่ถนัดการต่อสู้ไม่ใช่หรือ” คิบอมที่ยังไม่รู้เช่นเดียวกับดงเฮ ขนาดที่ทั้งคู่กำลังจะกระโดดเข้าไปช่วยเพื่อนตัวเองนั้น
พลันทันดันนั้นก็มีแสงระยิบระยับ เต็มทั่วพื้นที่ป่าบริเวณที่พวกเขาอยู่ซึ่งมันสวยงามมาก ทำให้ทุกคน เผลอมองตามรวมทั้งกลุ่มนักเรียนที่มาทำร้ายพวกเขาด้วย
“สวยดีแฮะ หิงห้อยพวกนี้มาทำอะไรที่นี้เวลานี้ ไม่เหมาะเอาเสียเลย” คยูที่ยืนชื่นชมกับแสงระยิบระยับนั้นเอ่ยขึ้นถามซองมินโดยไม่รู้เลยว่า จะเกิดอะไรขึ้นอีก
**T T" หายไปนานเลย นานมากๆ ฮ๋าๆ เพิ่งจะได้แตะคอมก็วันนี้ งานเยอะแทบจะทับหัวอยู่แล้ว กลับมาแล้วน๊าาา า จะพยายามอัพให้ได้ทุกวันน๊า เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ด้วยนะจ๊ะ >______,<
ปล.ถ้าพิมพ์ อะไรยังไง ขอประทานอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ > /l\<"
5 55 มาแค่นี้ก่อน ช่วงนี้ไม่ว่างเอาซะเลย ขอโทษด้วยน๊าา... ทั้งร้อน ง่วง งานเยอะ และขี้เกียด (อย่าฆ่ากันน๊าา >____,<")
*ไม่อยากให้อ่านแล้วซีเรียสในเรื่องเล็กๆน้อยๆที่จินตนาขึ้นนะคะ ขอให้อ่านสนุก สุดท้ายแล้วอยากให้ช่วยเม้นแนะนำ ว่าสนุกมั้ย น่าเบื่ออะไรตรงไหน หรืออ่านแล้วงง อะไรยังไงก็บอกนะ จะได้แก้ไข 5 55 ขอบคุณมากๆนะคะที่กดเข้ามาอ่านกัน :")
ความคิดเห็น