รักแรกของโสมสุดา ( First Love of the Swallow 小燕的初恋 ) - นิยาย รักแรกของโสมสุดา ( First Love of the Swallow 小燕的初恋 ) : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    รักแรกของโสมสุดา ( First Love of the Swallow 小燕的初恋 )

    ภาคสองของชีรียส์ไตรภาคชุด "ตำนานบุหรงลายัง" อันเป็นเหตุการณ์ในช่วงที่โสมสุดายังเรียนอยู่ที่ปีนังและสิงคโปร์ ได้เคยพบรักกับหนุ่มชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง คบหาดูใจกันอยู่หลายปี

    ผู้เข้าชมรวม

    1,313

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    15

    ผู้เข้าชมรวม


    1.31K

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    8
    จำนวนตอน :  12 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  29 ก.ย. 67 / 23:27 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    รักแรกของโสมสุดา

    ( First Love of the Swallow 小燕的初恋 )  


    บทประพันธ์ของ ศรีวริญ

    คาแรกเตอร์ตัวละคร รักแรกของโสมสุดา

     

    โสมสุดา ศรีตรัง 小燕 Xiǎo yàn ( เติ้งเสี่ยวเยี่ยน แปลว่านกนางแอ่นน้อยแซ่เติ้ง ) เพื่อนบางคนเรียกว่า ซูด้า นักเรียนหญิงโรงเรียนคอนแวนต์ อายุราว 18 ปี ตาโต ผมเปีย หน้าตาสวยหวานน่ารัก เป็นลูกสาวของขุนพิทักษ์ทวยหาญ หรือหมอหลง ตกหลุมรักและคบหากับหลี่หงหมินตั้งแต่อยู่มัธยมปลายจนเรียนจบมหาวิทยาลัย  ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทั้งย่าของหลี่หงหมินที่ไม่ชอบโสมสุดา จนผ่านพ้นอุปสรรคแล้ว กำลังจะแต่งงานกัน แต่..........

    หลี่หงหมิน ( Lihóngmín คำว่าหงหมิน แปลว่า รักคนจีน ) ชื่อเล่นว่า ลีอง (Leónในภาษาสเปน แปลว่า สิงห์ ) ชายหนุ่มเชื้อสายเปอรานากัน สัญชาติอังกฤษ (เพราะตอนนั้นสิงคโปร์ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ) รูปหล่อสูง 180 ซม. อายุราว 23 เป็นนักกีฬาบาสเกตบอล นักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นหัวหน้าชมรมอาสากู้ภัย ลูกชายคนโตของหลี่จื้อโหย่วกับคุณนายใหญ่  

    หลี่ จิง จิง 李精精 (Li jīng jīng คำว่า จิง แปลว่า ดี ประณีต) เด็กสาวญอนยา ลูกสาวคนเล็กของหลี่จื้อโหย่วกับคุณนายรอง อายุราว 17 ผมบ๊อบ มีรสนิยมแบบหญิงรักหญิง (เป็นเลสเบี้ยน) นิสัยนักเลง ชอบเป็นหัวโจก เป็นคู่กัดกับโสมสุดา ภายหลังเป็นเพื่อนรักกัน

    หลี่จื้อซาน  李紫山Li zǐshān ) ลูกชายคนรองของหลี่จื้อโหย่ว อันเกิดจากคุณนายรอง ถูกแม่ยุแหย่ให้ช่วงชิงการครอบครองกิจการจากพ่อ เขาหลงรักเว่ยถิงถิงข้างเดียว

    หลี่จื้อโหย่ว 李志友 (Lizhìyou คำว่าจื้อโหย่ว แปลว่า เครื่องหมายแห่งมิตรภาพ) คหบดีชาวเปอรานากัน   ( บ้าบ๋า ย่าหยา ) ในสิงคโปร์ เป็นคนมีน้ำใจกว้างขวาง รักเพื่อนฝูง มีคฤหาสน์สไตล์เปอรานากัน ที่เชิงเขา เอ็มเมอรัลฮิลล์ ( The Emerald Hill 翡翠山) ใกล้ถนนออชาร์ด และยังมีกิจการค้าเครื่องเทศ ยาสมุนไพร โรงงานผลิตยาหม่อง โรงงานแป้งมัน โรงผลิตเบียร์ บริษัทรับจ้างขนส่งสินค้า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ  

    เว่ย ถิง ถิง 魏婷婷 (Wèitíngtíng คำว่าถิง แปลว่า สง่างาม) ลูกสาวของ เว่ยเชียน อายุราว 21 นักศึกษามหาวิทยาลัย  นิสัยเอาแต่ใจตัว เป็นคุณหนูไฮโซ ตกหลุมรักหลี่หงหมินมานานแล้ว คอยขัดขวางความรักของโสมสุดากับหงหมิน   

    เว่ยเชียน 魏千 (Wèi qiān คำว่าเชียน แปลว่า จำนวนพัน ในที่นี้หมายถึงพันหน้า ) หุ้นส่วนทางการค้า ของหลี่จื้อโหย่ว นิสัยเจ้าเล่ห์ หน้าไหว้หลังหลอก หน้ายิ้มใจเชือดคอ มีธุรกิจมืด โยงใยกับเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองที่ทุจริต   

     หวง หู่ ลิ 黄虎力 ( Huánghǔlì  คำว่า หู่ แปลว่า เสือ ลิ แปลว่า แรง รวมกันคือ แรงเหมือนเสือ ) ลูกน้องมือขวาของเว่ยเชียน หลงรักเว่ยถิงถิงข้างเดียว ภายหลังถูกถิงถิงหลอกให้ไปฆ่าโสมสุดา

     กาวิต้า ปรีวาล ( Kavita Prewal ) เด็กสาวชาวอินเดียฮินดู ลูกสาวแขกขายผ้าในกรุงรัตนสีมา มาเรียนคอนแวนต์ที่โรงเรียนเซนต์มารีอา ห้องเดียวกับโสมสุดา เป็นเพื่อนรักกับโสมสุดา ชอบเรียกโสมสุดาว่า ซูด้า

     หม่อมหลวงบุญเหลือ อุทัยวงศ์ ราชสกุลจากสยาม เพื่อนร่วมชั้นของโสมสุดา กำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก บิดามีภรรยาหลายคน นิสัยเรียบร้อยน่ารัก

     ซิสเตอร์แอนนา ครูประจำชั้นของโสมสุดา นิสัยโอบอ้อมอารี

    ซิสเตอร์ซูซี่ ครูประจำชั้นของหลี่จิงจิง นิสัยขี้อิจฉา ขี้โกง

     ซิสเตอร์จินต้า หัวหน้าสำนักแม่ชีลับ ในป่าช้าท้ายโรงเรียน ชอบทำตัวลึกลับ เป็นอาจารย์คนแรกที่สอนวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวแบบปันจักสีลัตให้แก่โสมสุดา

     มากาเร็ต บราวน์  นักข่าวสาวชาวอังกฤษ แห่งหนังสือพิมพ์เมอไลอ้อนเดลี่ ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิของแรงงานสตรี   เป็นแรงบันดาลใจให้โสมสุดา เลือกเรียนวิชาเอกทางด้านหนังสือพิมพ์

    หลิวอาซ่าน 劉阿善 ทอมบอย นักเรียนรุ่นพี่ของโสมสุดาและหลี่จิงจิง หลี่จิงจิงหลงรักเขา แต่เขาชอบมาติดพันโสมสุดา

    เดวิด จาง      張大衛    นักศึกษาแพทย์ วิทยาลัยการแพทย์คิงเอ็ดเวิร์ดที่เจ็ด the King Edward VII College of Medicine เป็นพื่ชายของเพื่อนโสมสุดา หลงรักโสมสุดา คบหากับโสมสุดาช่วงที่หล่อนตีตัวออกห่างหลีหงหมินเพื่อเปิดทางให้เว่ยถิงถิง

    หลีก่วงเหยา   ( 李廣夭  Li guǎng yāo ) เด็กชายอายุประมาณ 13 ปี ลูกของกุลียากจนที่อาศัยเรือเป็นบ้าน ริมแม่น้ำสิงคโปร์ ใกล้สะพานเคเวอนัฟ บิดาถีบสามล้อ และรับจ้างขนส่งสินค้าระหว่างเรือไปยังรถบรรทุกหรือสถานที่ใกล้ ๆ แถวนั้น ส่วนมารดาขายบุหรี่ ขนม และหนังสือพิมพ์ที่แผงใกล้ ๆ กันนั้นภายหลังเมื่อเติบใหญ่ได้เป็นผู้นำคนสำคัญของประเทศสิงคโปร์

    เรื่องย่อ   รักแรกของโสมสุดา

    ( First Love of the Swallow 小燕的初恋 ) 

     

    โดย         ศรีวริญ ( เดิมนามปากกา แป้นเหย้า   )

    作者     班耀   

    Author     Panyao

    ******************* เปลี่ยนนามปากกาใหม่ เป็น " ศรีวริญ " วันที่ 23 มีนาคม 2563 *******************

    ท่านใดสนใจนำนิยายเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็นบทละคร บทภาพยนตร์ ผมยินดี แต่ขอให้แจ้งผมทราบก่อน ติดต่อผมได้ที่ 0652971955 ศรัณยพัชร์ ยังธรรมาภิมุข  ผมไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ แต่ขอให้ลงเครดิตไว้ในไตเติ้ลละคร ว่าบทประพันธ์โดย ศรีวริญ เท่านี้ก็ชื่นใจแล้ว ขอบคุณครับ

     

     เรื่องย่อ  รักแรกของโสมสุดา  ( ย่อจาก 172 หน้า เหลือ 8 หน้า A4 )

    โสมสุดา หรือต่อไปในเรื่องจะเรียกหล่อนในชื่อภาษาจีนว่าเติ้งเสี่ยวเยี่ยน ลูกสาวของขุนพิทักษ์ทวยหาญ เดินทางมาเรียนมัธยมที่โรงเรียนคอนแวนต์ในเกาะปีนัง ประเทศมาลายา ( มาเลเซียปัจจุบัน ) หล่อนมีเพื่อนสนิทคือหม่อมหลวงบุญเหลือราชนิกุลจากสยาม และกาวิต้า ลูกสาวแขกขายผ้า จากประเทศสุวรรณสีมา บ้านเกิดของเสี่ยวเยี่ยน ในขณะที่มีกลุ่มเด็กเกเรที่มีหลี่จิงจิงเป็นหัวหน้าแก๊ง คอยหาเรื่องกลั่นแกล้งเสี่ยวเยี่ยนและเพื่อนอยู่เสมอ ทั้งยังมีครูซูซี่ที่ให้ท้ายหลี่จิงจิง เนื่องจากไม่ถูกกันกับครูแอนนา เพราะครูแอนนามีผลงานโดดเด่นกว่าและเป็นตัวเก็งในการชิงตำแหน่งแม่อธิการ
    ต่อมาเสี่ยวเยี่ยนได้ไปพบซิสเตอร์จินต้าโดยบังเอิญที่ป่าช้าท้ายโรงเรียน ซึ่งเป็นที่อาศัยของคณะภคินีลับ หรือแม่ชีในคณะคาเมไลท์ อันมีวัตรปฏิบัติในการปลีกวิเวก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสังคมภายนอก โดยซิสเตอร์จินต้าได้ช่วยชีวิตเสี่ยวเยี่ยนไว้จากการถูกต้นไม้ใหญ่ล้มใส่ ด้วยการเคลื่อนไหวที่ว่องไวรวดเร็ว ท่านได้ถ่ายทอดวิชาปันจักสีลัตโบราณซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษในสมัยอาณาจักรมัชปาหิตให้แก่เสี่ยวเยี่ยนเพื่อเอาไว้ใช้ป้องกันตัว และเสี่ยวเยี่ยนก็ใช้เวลาเรียนเพียงสองเดือนกว่าก็สำเร็จขั้นที่ 4  นับแต่นั้น เมื่อหลี่จิงจิงคิดจะแกล้งพวกเสี่ยวเยี่ยนคราใด ก็จะถูกตอบโต้อย่างเหนือชั้น เช่นการสะท้อนพลังที่หลี่จิงจิงแกล้งผลักถ้วยน้ำซุปบนมือของหม่อมหลวงบุญเหลือจนเกือบหก แต่เสี่ยวเยี่ยนสะท้อนพลังจนน้ำแกงกระฉอกใส่หน้าหลี่จิงจิงได้ เป็นต้น 
    ซิสเตอร์แอนนาถูกใส่ร้ายว่าคบหากับครูผู้ชายอีกโรงเรียนหนึ่ง แต่เสี่ยวเยี่ยนก็ช่วยหาทางคลี่คลายจนครูแอนนาพ้นข้อกล่าวหาได้
    เสี่ยวเยี่ยนได้พบกับหลี่หงหมิน พี่ชายของหลี่จิงจิงในงานแข่งขันกีฬาบาสเก็ตบอลที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในปีนัง โดยที่พวกเสี่ยวเยี่ยนและเพื่อนๆ ต้องไปแสดงระบำตาลีกีปัสบนเวทีในช่วงพักครึ่งเวลา ซึ่งหลี่หงหมินก็รู้สึกต้องตาต้องใจในความสวยน่ารักของเสี่ยวเยี่ยนจนตะลึงตาค้าง และเสี่ยวเยี่ยนก็มีโอกาสช่วยหลี่หงหมินให้พ้นจากการถูกฝ่ายที่แพ้การแข่งขันทำร้าย โดยหล่อนใช้วิชาการต่อสู้ที่เรียนมาล้มคู่ต่อสู้ในพริบตา และปฐมพยาบาลให้หลี่หงหมิน ขณะเดียวกันหลี่หงหมินก็มีเว่ยถิงถิง ว่าที่คู่หมั้นติดตามเป็นเงาตามตัว
    ต่อมาเสี่ยวเยี่ยนสามารถสืบทราบการทุจริตของครูซูซี่ในการจัดซื้อวัสดุโรงเรียน จนเรื่องรู้ไปถึงคณะบริหารโรงเรียนและตั้งกรรมสอบผู้เกี่ยวข้อง ในขณะที่ผลการพิจารณายังไม่ทราบผล ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายแรลลี่ที่เชิงเขาปีนังฮิลล์ พวกนักเรียนหญิงไปกางเต็นท์ เดินป่า และมีกลุ่มชายฉกรรจ์จับพวกเสี่ยวเยี่ยนและหลี่จิงจิงไปกักขังไว้ในบ้านหลังหนึ่ง และพยายามจะข่มขืนหลี่จิงจิง แต่เสี่ยวเยี่ยนใช้อุบายล่อให้พาเธอเข้าไปในห้อง แล้วเสี่ยวเยี่ยนก็ทำให้คนร้ายสลบไปทีละคน ๆ จนหมดแก๊งและช่วยปล่อยเพื่อน ๆ ให้รอดพ้น จนแจ้งตำรวจจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊ง คนร้ายซัดทอดว่าคนบงการคือครูซูซี่ ทำให้ครูซูซี่ถูกจับดำเนินคดีข้อหาจ้างวานฆ่าไปด้วย นับแต่นั้น หลี่จิงจิงก็หันมาเป็นเพื่อนรักกับเสี่ยวเยี่ยน
    ย่าหยก ย่าของหลี่หงหมิน ต้องการให้หลานชายแต่งงานกับเว่ยถิงถิง ลูกสาวเจ้าสัวเว่ยเชียน แต่หลี่หงหมินบ่ายเบี่ยงว่ายังไม่พร้อม อยากจะทำงานไปก่อน ในขณะที่หลี่จื้อซาน น้องชายของหลี่หงหมินก็แอบหลงรักเว่ยถิงถิง แต่ถิงถิงไม่เล่นด้วย 
    เสี่ยวเยี่ยนมีโอกาสได้พบหลี่หงหมินโดยบังเอิญอีกหลายครั้ง ซึ่งการได้เห็นความเสียสละเพื่อทำงานอาสาสงเคราะห์กู้ภัยของหลี่หงหมินก็ทำให้เสี่ยวเยี่ยนประทับใจในตัวเขา จากที่เคยคิดว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ ความรู้สึกของหล่อนก็เริ่มเปลี่ยนไป
    ช่วงปิดเทอม หลี่จิงจิงชวนพวกเสี่ยวเยี่ยนไปเที่ยวบ้านของเธอที่สิงคโปร์ และนั่นทำให้หลี่หงหมินมีโอกาสได้ใกล้ชิดเสี่ยวเยี่ยนมากขึ้น ด้วยการพากลุ่มสาว ๆ พวกนี้ไปเที่ยวชมสวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ ที่มีสวนกล้วยไม้นานาชนิดอันสวยงามตระการตา นั่นยิ่งทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งรักในหัวใจน้อยๆ ของเสี่ยวเยี่ยนที่มีต่อหลี่หงหมินเริ่มจะเติบโตขึ้นโดยไม่รู้ตัว
    ย่าของหลี่หงหมินซักถามถึงชื่อแซ่ปู่ย่าตายาย จนทำให้รู้ว่าที่แท้ ปู่ของเสี่ยวเยี่ยนคือคนรักเก่าของย่าหยกที่ไปแต่งงานกับย่าของเสี่ยวเยี่ยน ทอดทิ้งให้ย่าหยกต้องอกหักเสียใจ แต่ย่าหยกเก็บความลับนี้ไว้ไม่บอกใคร เพียงหาโอกาสแก้แค้นกับเสี่ยวเยี่ยนอยู่คนเดียวเงียบ ๆ และยังคงเร่งรัดให้หลี่หงหมินแต่งงานกับเว่ยถิงถิง
    หลี่จื้อโหย่ว พ่อของหลี่หงหมิน ไม่ค่อยชอบลูกชายคนนี้เพราะหงหมินไม่สนใจกิจการของทางบ้าน กลับไปสนใจงานพัฒนาสังคม ซึ่งจื้อโหย่วเห็นว่าไร้สาระ จึงโปรดปรานหลี่จื้อซาน ลูกชายคนรองที่เกิดจากคุณนายรองมากกว่า เพราะจื้อซานช่วยดูแลกิจการของพ่อได้เป็นอย่างดี จนคุณนายใหญ่แม่ของหลี่หงหมินก็ไม่สบายใจ ได้ตักเตือนลูกชายให้เอาใจใส่กิจการของพ่อบ้าง
    เสี่ยวเยี่ยนมีโอกาสได้ช่วยชีวิตกุ้ยซิม ลูกสาวของอาเตียง สาวใช้ในบ้านตระกูลหลี่ให้รอดพ้นจากน้ำมือพวกมาเฟียที่จะจับกุ้ยซิมไปค้าประเวณี และเจ้าสัวหลี่ก็อนุญาตให้กุ้ยซิมทำงานรับใช้ในบ้านกับแม่ของหล่อน
    หวงหู่ลิส่งคนมาตามเก็บพวกเสี่ยวเยี่ยนขณะไปเที่ยวไชน่าทาวน์ในสิงคโปร์ เพื่อแก้แค้นที่หล่อนสอดเข้ามาขัดขวางการจับตัวกุ้ยซิม แต่ลูกน้องหวงหู่ลิกลับถูกพวกเสี่ยวเยี่ยนซ้อนแผนรุมสกรัมแทบปางตาย หวงหู่ลิแค้นมาก
    เสี่ยวเยี่ยนได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์เมอไลอ้อนเดลี่ ซึ่งมากาเร็ต บราวน์ นักหนังสือพิมพ์และนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีและเด็ก ทำให้เสี่ยวเยี่ยนเกิดแรงบันดาลใจอยากจะเป็นนักข่าวสาวเหมือนมากาเร็๖ เผื่อว่าสักวันเธอจากสามารถสืบหาข่าวของขุนพิทักษ์ทวยหาญผู้เป็นบิดาได้บ้าง
    เมื่อเปิดเทอม เสี่ยวเยี่ยนกลับไปเรียนที่ปีนัง ก็ได้ฝึกปันจักสีลัตจากแม่ชีจินต้าต่ออีกจนสำเร็จขั้นที่ 5
    หลี่จื้อซานใช้ความใกล้ชิดเริ่มจะจับเนื้อต้องตัวกุ้ยซิม ในขณะที่หล่อนขึ้นไปเสริฟของว่างบนห้อง แต่ยังไม่ถึงขั่นเกินเลยไปนัก หล่อนเองก็พึงพอใจในตัวเขาเช่นกัน
    หลี่หงหมินส่งจดหมายรักไปหาเสี่ยวเยี่ยน หล่อนเปิดอ่านแล้วก็โดนเพื่อนแซว จนหล่อนเอียงอาย
    เสี่ยวเยี่ยนกับเพื่อน ๆ สอบเทอมสุดท้ายเสร็จ เป็นอันสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม เป้าหมายต่อไปของพวกหล่อนคือเรียนต่อมหาวิทยาลัย เสี่ยวเยี่ยนและหลี่จิงจิงไปเรียนต่อที่สิงคโปร์ หม่อมหลวงบุญเหลือกลับสยาม กาวิต้ากลับไปช่วยพ่อแม่ขายผ้าที่สุวรรณสีมา โดยไม่ได้เรียนต่อ
    เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย หลี่จิงจิงถูกนักศึกษาหญิงที่เป็นทอมพยายามจะลวนลาม แต่เสี่ยวเยี่ยนใช้วิชาการต่อสู้เข้าขัดขวางไว้ได้ หลังจากนั้นกลุ่มสาวทอมก็ผูกใจเจ็บ หาเรื่องกลั่นแกล้ง หลี่จิงจิงเสมอ เธอจึงขอให้เสี่ยวเยี่ยนสอนวิชาการต่อสู้ให้เธอ แต่เสี่ยวเยี่ยนบอกว่า วิชานี้แม่ชีจินต้าบอกให้ถ่ายทอดได้เฉพาะจากแม่สู่ลูกหรือลูกบุญธรรมเท่านั้น เธอจึงจนใจไม่รู้จะสอนเพื่อนอย่างไร หลี่จิงจิงก็ตัดพ้อว่าคงเป็นเวรกรรมที่เธอเคยแกล้งคนอื่น บัดนี้กรรมตามสนอง
    ไม่กี่วันหลังจากนั้น สองสาวก็ได้ไปพบสามีภรรยาคู่หนึ่ง เป็นนักแสดงปาหี่ขายยาจากเมืองจีน และมีพวกมาเฟียเจ้าถิ่นมาเรียกค่าคุ้มครองจากสองสามีภรรยานั้น และทำท่าจะพังข้าวของที่ใช้ในการแสดง พวกหลี่จิงจิงและเสี่ยวเยี่ยนก็พยายามจะเข้าไปช่วย แต่สองนักแสดงปาหี่ก็ยอมควักเงินที่มีติดตัวเพียงน้อยนิดเพื่อไม่อยากสร้างศัตรูกับใคร ทั้งที่ฝีมือของพวกเขาสามารถล้มพวกนั้นได้อย่างสบาย แล้วหลี่จิงจิงก็พาสองคนนั้นไปฝากเข้าทำงานกับญาติที่โรงงานผลิตยาหม่องตราแมว สองสามีภรรยาจึงตอบแทนบุญคุณด้วยการถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวให้หลี่จิงจิงและเสี่ยวเยี่ยน โดยเสี่ยวเยี่ยนได้เรียนมวยหย่งชุนจากอาจารย์หญิง และหลี่จิงจิงเรียนมวยเส้าหลินจากอาจารย์ชาย
    ทางมหาวิทยาลัยจัดทัวร์ทัศนศึกษาไปเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวฮินดูบนเกาะใกล้สิงคโปร์ ซึ่งหลี่หงหมินและเสี่ยวเยี่ยนก็ไปด้วย ทำให้ทั้งสองมีโอกาสทำความรู้จักใกล้ชิดมากขึ้นไปอีก แต่วันรุ่งขึ้นเมื่อคณะเดินทางโดยสารเรือไปอีกเกาะหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุเรือชนกัน ทำให้เสี่ยวเยี่ยนจมน้ำหมดสติ หลี่หงหมินช่วยหล่อนขึ้นจากน้ำและช่วยผายปอด เสี่ยวเยี่ยนฟื้นขึ้นนึกว่าหลี่หงหมินจะลวนลาม จึงตบแก้มเขา เมื่อเพื่อน ๆ บอกว่าชายหนุ่มเป็นคนช่วยชีวิตหล่อน เสี่ยวเยี่ยนจึงรู้สึกผิดและขอโทษเขา เหตุการณ์นี้ทำให้เสี่ยวเยี่ยนค่อย ๆ มีความรู้สึกดี ๆ กับหลี่หงหมินโดยไม่รู้ว่านั่นคือ รัก
    หลี่จิงจิงและเสี่ยวเยี่ยนร่ำเรียนวิชาการต่อสู้จากอาจารย์ปึงและอาจารย์เล็ก จนหมดวิชาที่จะสอน นับแต่นั้นก็ไม่มีใครจะกล้ามาลวนลามหลี่จิงจิงอีก
    เสี่ยวเยี่ยนและหลี่หงหมินได้ไปพบเด็กชายคนหนึ่ง ขณะไปเที่ยวแถวสะพานเควานอฟ แม่น้ำสิงคโปร์ เด็กคนนั้นชื่อหลีก่วงเหยา เป็นลูกกรรมกรยากจนที่อาศัยเรือเป็นบ้าน ส่วนแม่ของเด็กก็เป็นแม่ต้าขายบุหรี่และขนมอยู่ใกล้ๆ สะพานนั้น
    เมื่อหลี่หงหมินเอาเวลาไปขลุกอยู่กับเสี่ยวเยี่ยนบ่อยๆ จนห่างเหินไปจากเว่ยถิงถิง คุณหนูเว่ยจึงส่งคนไปสืบข่าวของเสี่ยวเยี่ยน และส่งคนไปลอบสาดน้ำกรดใส่หล่อน ขณะที่เสี่ยวเยี่ยนไปสมัครเข้าฝึกงานที่สำนักหนังสือพิมพ์ของมากาเร็ต แต่ก็รอดมาได้หวุดหวิด
    หลี่หงหมินยังคงตามติดเสี่ยวเยี่ยน และพากันไปเยี่ยมครองครัวของหลีก่วงเหยา ในขณะที่เว่ยถิงถิงก็ไปปรึกษาย่าหยก ๆ จึงออกอุบายให้เว่ยถิงถิงใช้มารยาหญิง หลอกเสี่ยวเยี่ยนว่าหล่อนมีอะไรกับหลี่หงหมินแล้ว แต่เขาไม่รับผิดชอบ เพื่อให้เสี่ยวเยี่ยนตีตัวออกห่าง เว่ยถิงถิงก็ทำตามแผน และได้ผล เสี่ยวเยี่ยนเห็นถิงถิงบีบน้ำตาอ้อนวอนแล้วก็ใจอ่อน จึงรับปากจากเลิกติดต่อกับหลี่หงหมิน
    เสี่ยวเยี่ยนไปเมืองมะละกา เพื่อหนีความช้ำใจ ก็ได้พบกับเดวิด จาง พี่ชายของโซเฟีย เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย เดวิดเป็นนักศึกษาวิทยาลัยแพทย์คิงส์เอ็ดเวิร์ดที่เจ็ด เมืองสิงคโปร์ เสี่ยวเยี่ยนได้พบความจริงว่า อากงของโซเฟีย ก็เคยแอบรักอาม่าของเสี่ยวเยี่ยนเช่นกัน และรู้จักประวัติของย่าหยกเป็นอย่างดี หลังจากนั้นเดวิดกับเสี่ยวเยี่ยนก็เริ่มคบกัน จนหลี่หงหมินมาเห็นทั้งสองคน ก็เข้าใจไปเองว่า สาเหตุที่เสี่ยวเยี่ยนตัดสัมพันธ์กับตนเพราะเดวิดนี่เอง จึงพูดประชดว่าเสี่ยวเยี่ยนคงอยากเป็นเมียหมอจะได้มีเงินใช้มาก ๆ ทำให้หล่อนรู้สึกเจ็บร้าวในใจ แต่ก็เก็บความรู้สึกไว้ และปฏิเสธเขาไปอย่างเย็นชาว่าที่ผ่านมาไม่เคยตกลงจะเป็นคนรักกันสักหน่อย
    กุ้ยซิมตกเป็นเมียหลี่จื้อซาน แต่เขาบอกให้หล่อนเก็บความลับนี้ไว้ ไม่ให้ใครรู้
    หลี่หงหมินยังคงหาทางตามตื๊อเสี่ยวเยี่ยน แต่หล่อนปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชา และบอกว่ารักเดวิด ทั้งที่ในใจหาได้รักไม่
    เดวิดจาง เสี่ยวเยี่ยน ได้พบกับหลี่หงหมินที่ไปช่วยก่อสร้างอาคารเรียนให้บนเกาะแห่งนั้น ตามโครงการอาสาพัฒนาของมหาวิทยาลัย ในกิจกรรมรอบกองไฟ หลี่หงหมินก็ยิ่งช้ำใจ เมื่อเห็นเสี่ยวเยี่ยนใกล้ชิดกับเดวิด
    ในงานวันเกิดของย่าหยก หญิงขรายังคงคะยั้นคะยอให้หลี่หงหมินแต่งกับถิงถิง แต่เขายังคงบ่ายเบี่ยง หลี่จื้อโหย่วจึงกำหนดให้เขาแต่งกับถิงถิงเมื่อเรียนจบปริญญาตรีในอีกหนึ่งปีข้างหน้า
    มากาเร็ตบอกเสี่ยวเยี่ยนว่ามีคดีฆาตกรรมนักร้องสาวชื่อจูดี้ แห่งไซซีไนต์คลับของเว่ยเชียน และมอบภารกิจให้เสี่ยวเยี่ยนไปสืบ เนื่องจากแม่ของจูดี้ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตายอย่างที่ตำรวจสรุปคดี เสี่ยวเยี่ยนจึงปลอมตัวเปลี่ยนชื่อเป็น หงลี่ เข้าไปสมัครงานเป็นคนทำความสะอาดในคลับแห่งนั้น จนสืบทราบว่า จูดี้เคยคบหากับตำรวจชื่อสตีเฟน เลา และเสี่ยวเยี่ยนยังได้อาศัยสิ่งประดิษฐ์ของเดวิด จาง เข้าไปแอบติดตั้งไว้ในห้องทำงานของเว่ยเชียนเพื่อบันทึกเสียงการสนทนาของงพวกนั้น 
    กุ้ยซิมตั้งท้องกับหลี่จื้อซาน แต่เขาไม่รับผิดชอบ แม่ของกุ้ยซิมโกรธมาก ไล่ตีลูกสาว จนย่าหยกมาพบจึงเรียกมาถาม แต่แกล้งทำเป็นเห็นใจ แล้ววางแผนให้เว่ยถิงถิงพากุ้ยซิมไปกินจับซาไท้เป้า คือน้ำซุปรังนกผสมสมุนไพรที่มีส่วนผสมของตังกุยมากเกินไป จนภายหลังกุ้ยซิมแท้งลูก และตกเลือดอย่างรุนแรง หลี่หงหมินพาส่งโรงพยาบาล แล้วซักถามแม่ของกุ้ยซิม จึงรู้ว่าเว่ยถิงถิงมีส่วนรู้เห็น เขาจึงโทรไปคาดคั้นให้ถิงถิงตอบ แต่หล่อนปฏิเสธ เขาจึงไปถามย่าหยก ยายแก่ก็แกล้งทำเป็นเสียใจ และมอบเงินจำนวนหนึ่งให้แม่ของกุ้ยซิมเป็นค่ารักษา
    เสี่ยวเยี่ยนกับเดวิดสืบรู้ความลับของเว่ยเชียนจากอุปกรณ์บันทึกเสียง และนำไปให้มากาเร็ตฟัง แล้ววางแผนจับกุมตัวสตีเฟน โดยให้นายตำรวจชั้นสูง สั่งสตีเฟนไปคุ้มกันนักการทูตที่เข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วเสี่ยวเยี่ยนปลอมตัวเป็นผีจูดี้ไปหลอกเขาที่โรงแรมนั้น จนสตีเฟนเผลอพูดออกมาว่าถูกเว่ยเชียนบังคับให้ฆ่าจูดี้ ในการนี้ ผู้การเจิ้ง นายตำรวจระดับผู้กำกับมีส่วนช่วยเหลือมากาเร็ตและเสี่ยวเยี่ยนในการทำแผนจับสตีเฟน แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น ก็มีข่าวว่าสตีเฟนกินยาตายในห้องขังแล้ว และผู้การเจิ้งก็โดนสั่งย้ายไปประจำการที่ปีนัง
    เสี่ยวเยี่ยนกับเดวิดไปเยี่ยมป้าหวัง แม่บ้านของไซซีไนต์คลับ ซึ่งเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และได้พบว่ากุ้ยซิมก็มารักษาอาการแท้งลูกที่นี่ด้วย เสี่ยวเยี่ยนจึงอาสาไปสืบหาความจริงร่วมกับเดวิด โดยเสี่ยวเยี่ยนวางแผนไปล่อซื้อน้ำซุปแบบเดียวกับที่ถิงถิงสั่งให้กุ้ยซิมกิน จากร้านเดียวกัน แล้วเดวิดนำตัวอย่างน้ำซุปไปให้ห้องแลปวิเคราะห์หาสารประกอบจนรู้ว่ามีปริมาณตังกุยมากเกินไป จนมีฤทธิ์ในการขับเลือดทำให้แท้งบุตรได้
    ต่อหน้าหลี่หงหมิน เสี่ยวเยี่ยนก็แกล้งทำเป็นสนิทสนมใกล้ชิดกับเดวิด แต่เมื่อลับตาหลี่หงหมิน หล่อนก็ทำตัวธรรมดา เพราะในใจยังมีหลี่หงหมินอยู่
    เสี่ยวเยี่ยนนำเรื่องน้ำซุปไปบอกหลี่จิงจิง ว่าถิงถิงอยู่เบื้องหลัง หลี่จิงจิงจึงไปบอกพี่ชาย หลี่หงหมินทราบเรื่องก็พยายามจะขอเสี่ยวเยี่ยนให้กลับมาคบหากันเหมือนเดิม แต่หล่อนขอเวลาคิดดูก่อน หลี่หงหมินคิดไปว่าเสี่ยวเยี่ยนลังเลเพราะรักเดวิด จึงพูดประชดประชันหล่อนว่าเอาเรื่องถิงถิงขอให้เลิกกับเขามาเป็นข้ออ้าง ที่แท้หล่อนก็รักหมอมากกว่า 
    หลังจากหายป่วย กุ้ยซิมกับแม่ลาออกจากการเป็นคนรับใช้ที่บ้านตระกูลหลี่ แล้วไปทำงานที่มูลนิธิของมากาเร็ตตามคำชักชวนของเสี่ยวเยี่ยน
    หลี่หงหมินนำเรื่องที่ถิงถิงวางยากุ้ยซิมจนแท้ง และเรื่องพวกเว่ยเชียนฆ่าสตีเฟน ไปเล่าให้พ่อฟัง แต่พ่อเขาไม่เชื่อ และบอกว่าตระกูลเว่ยมีบุญคุณต่อตระกูลหลี่มาตั้งแต่รุ่นปู่ของหงหมินเสียอีก
    มีการรับสมัครแข่งขันเต้นรำของมหาวิทยาลัยชิงถ้วยพระราชทานและเงินรางวัล เสี่ยวเยี่ยนกับเดวิดก็เข้าสมัครด้วย ต่อมาหลี่หงหมินกับเว่ยถิงถิงก็สมัครตาม เพื่อหวังจะทำสงครามจิตวิทยากัน
    พ่อของหลีก่วงเหยาถูกตำรวจยัดเยียดข้อหาว่าขโมยของ และถูกจับไปขังที่โรงพัก เสี่ยวเยี่ยนจึงปลอมตัวไปสืบจนทำให้ตำรวจปล่อยพ่อของเด็กชายนั้นออกจากคุก แต่ตำรวจคนนั้นก็ถูกเสี่ยวเยี่ยนซ้อนแผนให้กินยาปลุกอารมณ์ และพยายามจะล่วงเกินถิงถิง ถิงถิงก็ให้คนซ้อมจนน่วม ทิ้งร่างไว้ข้างทาง จนเขาถูกลูกน้องตัวเองฆ่าตาย
    และแล้วคู่ของเสี่ยวเยี่ยน เดวิด กับคู่ของหลี่หงหมิน ถิงถิง ก็แข่งขันเต้นรำจังหวะสวิงกัน ถิงถิงพยายามหาทางเบียดให้เสี่ยวเยี่ยนเสียหลัก แต่เสี่ยวเยี่ยนมีวิชาป้องกันตัว จึงทรงตัวไว้ได้ แล้วกรรมก็ตามสนอง เมื่อส้นรองเท้าของถิงถิงหัก จึงเสียหลักล้มลงกับพื้น เป็นผลให้คู่ของเสี่ยวเยี่ยนชนะไปในที่สุด
    ช่วงปิดเทอม เสี่ยวเยี่ยนขอปลีกตัวจากเดวิดไปหาแม่ชีจินต้าที่ปีนัง เพื่อฝึกวิชาจนสำเร็จขั้นที่ 6 และแม่ชีเตรียมจะถ่ายทอดขั้นที่ 7 อันเป็นขั้นสูงสุดให้ แต่แม่ชีต้องถูกลงโทษสั่งย้ายไปประจำการที่แอฟริกาเสียก่อน ฐานที่เป็นนักบวชแต่ไปสอนวิชานอกรีตนอกรอยของคาธอลิคให้ฆราวาส 
    เว่ยถิงถิงพยายามเรียกร้องความสนใจจากหลี่หงหมิน แต่เขาก็ยิ่งทำตัวเหินห่าง ทำให้หล่อนเริ่มติดสุรา ทำตัวเสเพล เปิดโอกาสให้หลี่จื้อซานเข้าไปปลอบใจหล่อน 
    เสี่ยวเยี่ยนและหลี่จิงจิง ซักซ้อมวิชาด้วยกัน และเสี่ยวเยี่ยนได้คิดค้นผสมผสานวิชาปันจักสีลัตกับมวยหย่งชุนเข้าด้วยกัน แล้วเรียกมันว่า วิชานางแอ่นหยก
    ในคืนวันไหว้พระจันทร์ เดวิดขอความรักจากเสี่ยวเยี่ยน แต่หล่อนบอกว่ารักเขาเหมือนพี่ชายเท่านั้น เดวิดเสียใจมากจึงหนีไปเรียนต่อที่เยอรมัน แล้วไม่กลับมาอีกเลย จนเสี่ยวเยี่ยนได้ข่าวว่าเขาถูกพวกนาซีฆ่าตาย เพราะไม่ยอมผลิตอาวุธร้ายแรงให้พวกมัน เสี่ยวเยี่ยนเสียใจมาก คิดว่าเพราะตนเอง เดวิดถึงได้ตาย แต่โซเฟียก็ปลอบใจว่าไม่ใช่ความผิดของหล่อน
    หลี่หงหมินจบการศึกษาก็เข้าทำงานที่มูลนิธิของมากาเร็ต ขณะที่ถิงถิงไปทำงานที่บริษัทของบิดา
    เว่ยเชียนเป็นพวกองค์กรลับนามว่า Saint X ซึ่งทำธุรกิจผิดกฎหมาย ค้าอาวุธ ค้ามนุษย์ โดยมีเครือข่ายโยงใยหลายประเทศ และเว่ยเชียนก็เป็นหัวหน้าสาขาสิงคโปร์ ส่วนตัวประธานใหญ่ สวมหน้ากากสีทอง มิทราบว่าเป็นใคร
    ย่าหยกแสร้งทำเป็นป่วยหนัก และขอให้หลี่หงหมินรับปากจะแต่งกับถิงถิง เขาจึงยอมแต่งงาน และเตรียมจะจัดงานแต่งในอีกเดือนหนึ่งข้างหน้า
    ถิงถิงดีใจเตรียมตัดชุดเจ้าสาว หลี่จื้อซานก็เสียใจที่ถิงถิงจะแต่งกับพี่ชายตน หลี่จิงจิงนำข่าวไปบอกเสี่ยวเยี่ยน แต่เสี่ยวเยี่ยนแกล้งทำเป็นไม่เสียใจ แล้วพอดีหลีก่วงเหยามาบอกว่าเพื่อนของตนถูกคนร้ายจับตัวไป เสี่ยวเยี่ยนจึงออกไปสืบหา
    หลี่จื้อซานเขียนจดหมายปลอมว่าเป็นหลี่หงหมินล่อถิงถิงไปพบที่สวนสาธารณะ แล้วมอมยาสลบจับถิงถิงไปข่มขืนจนสำเร็จ เขาบอกจะรับผิดชอบและแต่งกับเธอ แต่ถิงถิงปฏิเสธและหนีออกมาทั้งน้ำตาที่เต็มไปด้วยความแค้น
    เสี่ยวเยี่ยนกับหลี่จิงจิง ปลอมตัวเป็นคนขายน้ำเต้าหู้เข้าไปช่วยพวกเด็ก ๆ เพื่อนของหลีก่วงเหยาให้รอดพ้นจากโรงงานผลิตยานรกได้ หลังจากต่อสู้กับยอดฝีมือของเว่ยเชียนหลายคน
    หลี่จื้อโหย่วเข้าประมูลรับสัมปทานพัฒนาที่ดินถนนออชาดเพื่อสร้างศูนย์การค้าตามที่เว่ยเชียนแนะนำ
    เว่ยเชียนโกรธแค้นที่โรงงานนรกถูกพวกเสี่ยวเยี่ยนบุกเข้าไปช่วยแรงงานเด็กหนีออกมาจนหมด ขณะที่มากาเร็ตพยายามกดดันตำรวจให้ไปสืบหาคนร้าย แต่ตำรวจบ่ายเบี่ยงไม่ให้หล่อนเข้าไปยุ่ง
    ถิงถิงลาพักผ่อนไปต่างประเทศชั่วคราว หลี่จื้อซานกระหยิ่มใจ นึกว่าเขาคงจะได้ครอบครองหล่อนในที่สุด
    โรงงานนรกของเว่ยเชียนถูกตำรวจสากลบุกเผาทำลายจนย่อยยับ เว่ยเชียนแค้นมากาเร็ตมาก
    หลี่หงหมินพยายามตามตื๊อขอคืนดีกับเสี่ยวเยี่ยน แต่หล่อนปฏิเสธ
    มากาเร็ตถูกคนหลอกนัดไปพบผู้การเจิ้ง  ที่แท้ถูกลวงไปฆ่า รุ่งเช้ามีคนนำศพมาทิ้งไว้หน้ามูลนิธิของหล่อน
    เสี่ยวเยี่ยนเสียใจต่อการตายของมากาเร็ตมาก จึงสาบานต่อศพแหม่มสาวว่าจะเอาผิดพวกเว่ยเชียนให้ได้
    พวกSaint X ยังคงมาข่มขุ่เสี่ยวเยี่ยน แม้ในงานศพมากาเร็ต
    เสี่ยวเยี่ยนและทีมงานมูลนิธินำสิ่งของไปแจกและเลี้ยงอาหารเด็กยากจนในชนบท หลี่หงหมินและถิงถิงก็ไปด้วย ถิงถิงเข้าไปคุยดีกับเสี่ยวเยี่ยนบอกว่าอยากจะทำบุญด้วย หลี่หงหมินก็แปลกใจที่ทั้งสองสาวคุยกันดีราวไม่เคยเป็นศัตรูมาก่อน
    พวกเสี่ยวเยี่ยนเตรียมตัวสอบเทอมสุดท้าย เสี่ยวเยี่ยนฝันไปว่ามีนกตัวใหญ่บินมาโฉบดวงแก้วไปจากมือ เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อน ๆ จึงพาหล่อนไปหาซินแสที่วัดจีน หมอดูทำนายว่าหล่อนจะต้องพลัดพรากจากคนรัก
    มีคนบ้ามายืนชี้ที่บริเวณโครงการก่อสร้างของหลี่จื้อโหย่วแล้วตะโกนว่า หายนะ ๆ จนพวกคนงานต้องมาไล่ให้ไป
    หลี่จื้อซานมากดดันเว่ยถิงถิงให้แต่งงานกับเขา หล่อนจึงวางแผนหลอกให้เขาไปพบ แล้วส่งคนขับรถไปเบียดรถเขาตกเหว เขาไม่ตายทันที แต่บาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาล ก่อนตายเขาบอกพ่อและพี่ชายว่าเว่ยถิงถิงส่งคนมาฆ่าเขา
    หลี่จื้อโหย่วโกรธแค้นเว่ยถิงถิงมาก จึงประกาศถอนหุ้นกับเว่ยเชียนทั้งหมด รวมทั้งยกเลิกแผนการแต่งงานของหลี่หงหมินกับถิงถิงด้วย ทำให้เว่ยเชียนแค้นเจ้าสัวหลี่เช่นกัน ย่าหยกก็เสียใจที่หลานตาย จึงยอมให้หลี่หงหมินแต่งงานกับเสี่ยวเยี่ยน
    หลี่หงหมินขอเสี่ยวเยี่ยนแต่งงาน เสี่ยวเยี่ยนเมื่อรู้ว่าถิงถิงบงการฆ่าจื้อซาน จนทางบ้านตระกูลหลี่ไม่ยอมรับตระกูลเว่ยแล้ว หล่อนจึงตอบตกลง
    หลี่จิงจิงและเสี่ยวเยี่ยนจบการศึกษา ในวันรับปริญญา ของสองสาว หลี่หงหมินก็ไปมอบช่อดอกไม้ด้วย เว่ยถิงถิงก็ไปตามตื๊อขอคืนดีกับหลี่หงหมิน แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ใยดี ถิงถิงก็คลุ้มคลั่ง และอาฆาตเสี่ยวเยี่ยนถึงขั้นจะเอาชีวิตหล่อนให้ได้
    ย่าหยกเปิดโอกาสให้เสี่ยวเยี่ยนเข้าไปเรียนรู้การเป็นภริยาที่ดีตามแบบชาวเปอรานากันทั้งการทำอาหารและงานเย็บปักถักร้อย และกุ้ยซิมกับอาเตียงก็ได้กลับมาทำงานที่บ้านตระกูลหลี่ ในฐานะสะใภ้คนหนึ่ง เพื่อดูแลคุณนายรองที่ป่วยกระเสาะกระแสะหลังจากจื้อซานตาย
    แก๊งลักพาเด็กสาวเพื่อนำไปขาย ถูกตำรวจสากลและเจ้าหน้าที่มูลนิธิของมากาเร็ตขัดขวางจับกุม เว่ยเชียนจึงส่งคนไปถล่มสำนักงานมูลนิธิจนระเบิดเป็นจุล พวกหลี่หงหมินที่กำลังประชุมอยู่ในนั้น ได้หนีตายออกมาทางประตูลับแทบไม่ทัน หลังจากนั้นเขาจึงต้องยุติบทบาทในงานของมูลนิธิไว้ชั่วคราว
    งานแต่งงานของหลี่หงหมินกับเสี่ยวเยี่ยนถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ มีแขกเหรื่อมาร่วมงานมากมาย และก่อนที่พิธีไหว้ฟ้าดินจะเริ่มขึ้น ก็มี..........

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น