ยอดรักเลือดกบฏ ( Daughter of the rebel 叛軍的女兒)
ภาคแรกของซีรี่ย์สไตรภาคชุด"ตำนานบุหรงลายัง" นิยายแนวพีเรียดย้อนยุคช่วงปี ค.ศ.1901-1937 ในเมืองสมมติ ได้เค้าโครงจากเหตุการณ์กบฏ ร.ศ.130 การชิงอำนาจ กู้บัลลังก์ ผจญภัย บู๊ แฟนตาซี หวานบ้างบางคราว
ผู้เข้าชมรวม
2,212
ผู้เข้าชมเดือนนี้
12
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คาแรกเตอร์ตัวละคร
ร.อ.ขุนพิทักษ์ทวยหาญ (หมอหลง ศรีตรัง) นายแพทย์ทหารหนุ่มนักเรียนนอก เชื้อสายจีนฮกเกี้ยน ซึ่งต้นตระกูลมาจากเมืองตรัง ประเทศสยาม เป็นบุคคลเด็ดขาด เข้มแข็ง สุภาพอ่อนโยน และเป็นบุคคลที่มีความซื่อสัตย์ โอบอ้อมอารี อันเป็นนิสัยของแพทย์ทั่วไป เป็นผู้นำขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย เตรียมก่อการขอพระราชทานรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนแปลงการปกครองสุวรรณสีมาให้เป็นประชาธิปไตย แต่แผนแตกถูกจับได้ ภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ เป็นบิดาของโสมสุดา
ร.อ.หลวงสินาดโยธาเทพ (เยี่ยม ยงอยู่) หนึ่งในผู้ร่วมก่อการ เป็นคนที่ไม่น่าไว้วางใจ นิสัยโลเล พูดจาไม่แน่นอน ไม่จริงใจ เป็นคนน่ากลัว ชอบให้ร้ายป้ายสี ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ลอบปลงพระชนม์เจ้าเหนือหัว แต่เกิดกลัวความผิด นำเรื่องไปฟ้องฝ่ายเจ้านาย ภายหลังได้เลื่อนยศปูนบำเหน็จความดีความชอบเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เป็นบิดาของร.ต.ไมตรี
ร.ต. ไมตรี ยงอยู่ ร.น. นายทหารเรือหนุ่ม ผู้มีแนวคิดแบบนิตินิยม มีทัศนคติว่า ธาตุแท้ของมนุษย์นั้นชั่วร้าย ต้องใช้กฎหมายและระเบียบที่เข้มงวดเข้าควบคุม จึงจะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย แต่ก็รักความยุติธรรม ต่อต้านการใช้อำนาจเพื่อกอบโกยของบิดาและพวกพ้อง ภายหลังเปลี่ยนแนวคิดไปเป็นธัมมนิยม
โสมสุดา ศรีตรัง สาวสวย ใบหน้ากลมรูปไข่ ผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีน้ำตาล ผิวขาวเหลืองเพราะมีเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนจากพ่อ และตากลมโต จมูกโด่งแบบแขกขาวเพราะมีเชื้อสายชาวสิมจากแม่ เป็นนักเรียนนอก จบการศึกษาจากโรงเรียนคอนแวนต์ในปีนัง และมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ เชื่อมั่นศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย เสรีนิยม มีทัศนะต่อธาตุแท้ของมนุษย์ว่าบริสุทธิ์ ดีงาม แต่ต้องกลายเป็นชั่ว เพราะสิ่งแวดล้อมทางสังคม อาชีพเป็นนักหนังสือพิมพ์ นักเขียนคอลัมน์ลงหนังสือต่าง ๆ มักเขียนวิจารณ์ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองหลายครั้ง จนเกือบสังเวยชีวิตเพื่อปลายปากกาอยู่บ่อย ๆ
ขุนโจรจางไห่จูหรือมุกทะเล
สาวหัวหน้าโจรสลัดเชื้อสายของจางเป๋าจ่าย อดีตจอมโจรน่านน้ำกวางตุ้งก่อนสมัยสงครามฝิ่น อาศัยบนเกาะหัวกะโหลกในทะเลอันดามัน ออกปล้นเรือสินค้าแถบช่องแคบมะละกาเพื่อเอาทรัพย์สิน ปกติมักสวมหน้ากากงิ้วปกปิดใบหน้าที่แท้จริง ไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นหญิง
เจ้าร่มฟ้ามหาราชัน พระราชาธิบดีแห่งพระราชอาณาจักรสุวรรณสีมา ทรงปกครองด้วยพระราชหฤทัยเมตตา แต่ไม่เด็ดขาด โอนอ่อนผ่อนตามพระราชโอรสคือเจ้าแสนฟ้า จนบ้านเมืองวุ่นวาย
เจ้าแสนฟ้าดาหงัน โอรสของเจ้าร่มฟ้า มีนิสัยเสเพล เอาแต่ใจตัวเอง ชอบคนประจบประแจง แต่ก็เกรงใจพระญาติคือ เจ้าชายดูรี
เจ้าชายดูรี บากาซาตู กรมพระยาเฉลิมเมือง พระอนุชาต่างพระมารดาของเจ้าร่มฟ้า ทรงสำเร็จวิชากฎหมายจากยุโรป เฉลียวฉลาด รักความยุติธรรม มีเมตตาต่อพสกนิกร แต่ไม่มักใหญ่ใฝ่สูง มักปลอมพระองค์เป็นสามัญชนไปเที่ยวในชนบท
เจ้าหมื่นฟ้าปาดี อนุชาต่างพระมารดาของเจ้าแสนฟ้า ครองราชย์ต่อจากเจ้าแสนฟ้า
เจ้าค้ำฟ้ากระยาหงัน โอรสของเจ้าหมื่นฟ้า กษัตริย์หนุ่มผู้ทรงมีความคิดก้าวหน้า รักประชาชนมากยิ่งกว่าพระองค์เอง
จอมพลสดมภ์ พิฆาตศัตรู ( ชม การะบุหนิง ) บุคลิก เจ้าเล่ห์ ขี้ระแวง อดีตทหารคนสนิทของหลวงสินาดโยธาเทพ รับใช้ใกล้ชิดจนเจ้านายไว้วางใจ ได้เลื่อนยศตำแหน่งตามลำดับ
บุหงา การะบุหนิง น้องสาวของจอมพลสดมภ์ จิตใจดี อ่อนโยน อาชีพพยาบาล เติบโตมาพร้อมกับไมตรี แอบรักไมตรีอย่างคนรัก แต่ไมตรีรักเธอเหมือนน้องสาว
มหันต์ มณีจักรแก้ว ชายวัย38 มือขวาของจอมพลสดมภ์ เป็นคนทะเยอทะยาน ใจเย็นพอ ๆ กับเลือดเย็นเป็นตัวร้ายที่สุดของนิยายเรื่องนี้ ถ้าเทียบกับพระยากำแหงหาญและ จอมพลสดมภ์ เพราะมหันต์แต่เดิมเป็นพ่อพระในสายตาประชาชน เป็นนักไกล่เกลี่ยความขัดแย้งตัวยง เป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่สื่อมวลชนยกย่อง และเป็นโฆษกรัฐบาลหน้าหยก
หลี่ จิง จิง สาวนักฆ่ามืออาชีพ จบวิชาการต่อสู้สำนักเดียวกับโสมสุดา แต่เพราะต้องการนำเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยเรื้อรัง จึงยอมทำทุกอย่าง ฝีมือเหนือกว่าโสมสุดา มาเป็นบอดี้การ์ดให้มหันต์
เนเลม่า นักรบมนุษย์กินคนจากเผ่าไปย่า บนเกาะปาปัวนิวกินี มีวิชาไสยศาสตร์ เก่งทางยิงธนู ใช้หอกและลูกดอกอาบยาพิษ เมื่อล่าศัตรูได้ก็จะกินสมองและตับไตไส้พุงของเหยื่อเพื่อครอบงำวิญญาณ เป็นบอดี้การ์ดของมหันต์
ดร.บุญดี บันลือทรัพย์สกุล ชายวัย50ต้น ๆ มีที่มาลึกลับ เป็นผู้นำขบวนใต้ดินที่เรียกตัวเองว่า เสรีสีมา เพื่อปฏิบัติการต่อต้านกองทัพจักรวรรดิไดเกียวที่ยกพลเข้ามาใช้ประเทศสุวรรณสีมาเป็นฐานสร้างความร่วมมือกับนาซีเพื่อยึดครองโลก
ขุนหลวงมะลังคะ เป็นหัวหน้าเผ่าลัวะในยุคที่พระนางจามเทวีทรงเสด็จมาจากละโว้ มะลังคะได้ยินกิตติศัพท์ความงามของพระนาง จึงส่งคนไปสู่ขอ มะลังคะหลงกลถูกพระนางทำลายวิชาอาคม และเอาช้างคู่บารมีขับไล่ จนทัพของมะลังคะแตกพ่าย หนีเข้าป่าลึกด้านเหนือของดอยสุเทพ จนหลงเข้าไปในดินแดนลับแลบังบดที่อยู่เหนือกาลเวลา ซึ่งเป็นสถานที่อันฤาษีวาสุเทพสร้างไว้กักขังพวกลัวะ จนล่วงเลยมาถึงยุคสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เจ้าค้ำฟ้าเอาศิวะลึงค์ปักบนฐานโยนีลึงค์ในปราสาทขอม พวกเขาก็พ้นคำสาปของฤาษีวาสุเทพ ได้วิชาอาคมกลับคืน ออกมาช่วยพวก ดร.บุญดี โสมสุดา และไมตรี ( ช่วงที่หนีเข้าไปลี้ภัยในชนบทบ้านป่า ) ทำการรบกับจอมพลสดมภ์ จุดเด่นของพวกนี้คือมีวิชาอยู่ยงคงกระพัน มีอาคมล่องหนหายตัวได้ เก่งมวยโบราณ และการใช้ดาบเจิง
ม่านทิพย์ สาวชาวป่าเชื้อสายไทดำผสมไทลื้อ ซึ่งมะลังคะไปพบในป่า หลังจากพ่อแม่ของเธอถูกชาวบ้านบูชายัญ หลังจากกล่าวหาว่าเป็นปอบ และม่านทิพย์หนีจากการไล่ล่าจนได้รับการช่วยเหลือจากมะลังคะ แล้วร่วมเดินทางมากับขบวนการเสรีสีมาจนไปถึงหุบเขาปีศาจ ม่านทิพย์มีจุดเด่นที่ขับลำเพลงพื้นเมือง และฟ้อนรำได้ ทำอาหารเก่ง มะลังคะรักหล่อนมาก
นาคินมณี บุตรชายของมะลังคะและนางม่านทิพย์ เมื่อปฏิสนธิมีพญานาคมาเข้าฝันของนางม่านทิพย์และมอบแก้วสว่างใสให้ดวงหนึ่ง จึงตั้งชื่อลูกคนนี้ว่า นาคินมณี แปลว่า แก้วของนาค เด็กคนนี้มีฤทธิ์มาแต่กำเนิดมีอาวุธคู่กายที่รับจากฤาษีคือ คทาทองหัวเพชร และสัตว์พาหนะคือ นพสีห์ ที่ปกติจะแปลงร่างเป็นกระจง
เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยปราบพวกฝรั่งโซวาเซีย
ดม เด่นดัง บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เกาหัว ลูกครึ่งมอญอินเดีย เป็นคนสองบุคลิก บางครั้งเป็นนักวางแผนอย่างฉลาดขั้นเทพ บางครั้งก็ทำอะไรเพี๊ยน ๆ ติงต๊อง หลุดโลก
กวิตา ปรีวัล (Kavita Prewal )
สาวชาวอินเดีย นับถือศาสนาฮินดู เป็นเพื่อนสนิทของโสมสุดา อาชีพช่วยพ่อแม่ค้าขายผ้า ภายหลังได้แต่งงานกับบุคคลสูงศักดิ์
ตาแย้ม ชายพื้นเมืองชาวสิม นับถือศาสนาพุทธ หัวล้าน พุงพลุ้ย ชอบนุ่งโสร่ง ห้อยพระเครื่องเต็มคอ อาชีพถีบสามล้อ สถานที่ชอบสิงสถิตคือร้านกาแฟฮกกี่ ชอบอ่านหนังสือพิมพ์แม้จะอ่านไม่ค่อยออกเพราะเรียนน้อย
บังยวน ชายพื้นเมืองชาวสิมเชื้อสายมาเลย์ นับถือศาสนาอิสลาม ไว้เครา สวมหมวกกะปิเยาะห์ อาชีพทำสวนมะพร้าวและเลี้ยงวัวนม ส่งน้ำนมโคสดขายให้ร้านกาแฟฮกกี่ ชอบวิเคราะห์วิจารณ์ข่าวจากหนังสือพิมพ์ เป็นคู่หูของตาแย้ม ซึ่งสองคนนี้มีฉายาสองสิงห์ขี้โม้ประจำสภากาแฟ
แป๊ะหลี ชายวัยกลางคน เชื้อสายจีน เจ้าของร้านกาแฟฮกกี่ อาชีพรองคือเจ้ามือหวยจับยี่กี และปล่อยเงินกู้ ไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากเงิน แต่ก็ชอบทำบุญช่วยศพไร้ญาติ คนยากจน
ยายมะ หญิงพื้นเมืองชาวสิม แม่ค้าข้าวแกงหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์เกาหัว เป็นคู่ปรับของ บ.ก.ดม เพราะดมชอบกินแล้วแปะ แต่รักโสมสุดาเหมือนลูกสาวแท้ ๆ เป็นที่ปรึกษาและปรับทุกข์ของโสมสุดาเป็นประจำ
ชะอม เด็กสาวรุ่นดรุณี อายุประมาณ 18 หลานสาวคนโตของยายมะ เป็นคนรสนิยมสูง สวนทางกับฐานะการเงิน ชอบแต่งตัวสวยงามตามสมัยนิยม
มะเหมี่ยว เด็กหญิงอายุประมาณ 6 ขวบ หลานสาวคนเล็กของยายมะ จะมีบทบาทสำคัญในช่วงกลาง ๆ เรื่อง เมื่อได้รับอำนาจวิเศษจากเทพเจ้าให้ทำการใหญ่เพื่อชาติบ้านเมือง
กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1912 ขุนพิทักษ์ทวยหาญ ( หลง ศรีตรัง ) นายแพทย์ทหารยศร้อยเอก นำพาคณะทหารก่อการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศสุวรรณสีมา จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่แผนแตก เพราะมีคนในกลุ่มทรยศนำแผนไปบอกฝ่ายราชสำนัก พวกหมอหลงถูกจับ ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต ส่วนคนทรยศคือ หลวงสินาดโยธาเทพ กลับได้อวยยศเป็นพระยากำแหงหาญ มีอำนาจยิ่งใหญ่คุมกองทัพทหาร และอำนาจการเมืองในเวลาต่อมา
ระหว่างถูกจำคุก หมอหลงให้ลูกเมียหนีไปอาศัยอยู่กับญาติที่เมืองกันตัง ในประเทศสยาม หลังจากนั้นก็มีข่าวว่าไฟไหม้คุก หมอหลงหายตัวไปจากที่นั้นและไม่มีใครได้ทราบข่าวคราวของเขาอีกเลย
( ระหว่างตอนที่ 1 กับ ตอนที่ 2 ระยะเวลาห่างกัน 20 ปี ผู้เขียนจะแยกไปเขียนเป็นภาคพิเศษต่างหาก ในชื่อเรื่องว่า รักแรกของโสมสุดา )
20 ปีต่อมา โสมสุดา ลูกสาวของหมอหลง นางเอกของเรื่อง กลับมาหลังจากจบการศึกษาที่ประเทศสิงคโปร์ ก็ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วได้ช่วยชีวิตไมตรี พระเอกของเรื่องโดยบังเอิญ ด้วยการถีบให้เขาพ้นจากอันตราย และเพื่อต้องการตามหาบิดา หล่อนจึงไปสมัครเป็นนักข่าวของสำนักหนังสือพิมพ์เกาหัวเยอะเป้า ซึ่งที่แท้เป็นสาขาของสำนักข่าวกรองสหรัฐอโรมา แล้วปลอมตนเป็นสายลับไปสืบข่าวการทุจริตของพระยากำแหงหาญ และเธอก็ได้รู้ความจริงว่า ที่แท้แล้ว ไมตรี ราชนาวีหนุ่ม ก็คือลูกของพระยากำแหง ผู้ทำให้พ่อของหล่อนติดคุกนั่นเอง
พระยากำแหงหาญก่อการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองได้สำเร็จ และได้รับพระราชทานรัฐธรรมนูญจากพระเจ้าหมื่นฟ้าปาดี กษัตริย์แห่งสุวรรณสีมา พระยากำแหงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีขึ้นเป็นหุ่นเชิดแทนเขา
เกิดเหตุโจรสลัดชุกชุมในน่านน้ำอันดามัน ทางกองทัพเรือ มอบหมายให้ไมตรี เป็นแม่ทัพไปปราบโจรสลัดผู้สวมหน้ากากงิ้วในเวลาออกปล้น นามว่า จางไห่จู ทายาทรุ่นที่ 4 ของ จางเป๋าจ่าย ขุนโจรชื่อดังในสมัยสงครามฝิ่น และไมตรีก็กลยุทธทำให้จางไห่จูมาติดกับ เกิดการต่อสู้กันบนเรือ ปลายดาบของไมตรีไปสะกิดหน้ากากของจางไห่จูหลุดออก จึงพบว่าที่แท้ จางไห่จู เป็นสาวน้อยสุดสวย ขณะที่ไมตรีกำลังตะลึง นางโจรก็แทงดาบสวนเข้าที่หัวไหล่ของไมตรีบาดเจ็บ พอดีว่าลูกเรือของไมตรีเผลอทำคบไฟตกใส่ถังดินปืน ไมตรีจึงพาจางไห่จูโดดลงจากเรือก่อนจะระเบิด แล้วไปพักค้างบนเกาะหัวกะโหลก จนทั้งคู่ได้เสียกัน แต่จางไห่จูตีจากไปหลังจากนั้น
ต่อมา ไมตรีได้พบกับโสมสุดาซึ่งปลอมตัวมาในชื่อ ไมล่า นักร้องชนะเลิศการประกวด เธอได้บรรจุเข้ารับราชการเป็นนักร้องประจำวงดนตรีของกรมการบันเทิง ไมตรีจึงอาศัยฐานะลูกชายของท่านผู้นำ ขอตัวไมล่าไปร้องเพลงในงานเลี้ยงของกองทัพเรือบนเรือสำราญ ทั้งคู่ก็เริ่มสนิทสนมกัน จนกระทั่งได้ไปล่องเรือเที่ยวที่ชายทะเล ไมตรีกับไมล่าก็ร้องเพลงบนเรือ พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ จนไมตรีหลงรักไมล่าหัวปักหัวปำ แต่ยังไม่ทันมีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน
ความลับของไมล่าว่าที่แท้เป็นโสมสุดา ถูกเปิดเผยโดย ชะอม หรือต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรส หลังจากเธอได้เป็นนางงามจากเวทีประกวดและได้เป็นนางเอกภาพยนตร์ โดยโรสวางแผนกับพันเอกสดมภ์ ลูกน้องคนสนิทของพระยากำแหงให้โสมสุดาหลุดปากพูดเองในโปโลคลับว่าที่แท้ไมล่า คือโสมสุดา
แม้จะรู้ว่าที่แท้ไมล่าคือโสมสุดา ลูกสาวหมอหลง แต่ไมตรีก็ยังรักและตามตื๊อเธออยู่เรื่อยมา ในขณะที่มีนายตำรวจหนุ่มเข้ามาติดพันโสมสุดาเช่นกัน ไมตรีก็ควงบุหงา น้องสาวของพันเอกสดมภ์ ซึ่งเธอเคยเรียนหนังสือโรงเรียนเดียวกับไมตรีมาตั้งแต่ชั้นประถม มาประชดโสมสุดา
เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง มีการลอบยิงพระยากำแหงถึงสองครั้ง และในครั้งที่สองนั้น ไมตรีเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์ทั้งหมด ฝ่ายพระยากำแหงมองว่า เกิดจากน้ำมือของพวกโสมสุดานั่นเอง ซึ่งไมตรีก็เชื่อตามบิดา จนพูดกระทบกระเทียบใส่โสมสุดา ขณะที่หล่อนไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลว่าต้องการมาดูว่าเขาตายหรือไร แม้โสมสุดาจะอธิบายอย่างไรเขาก็ไม่ฟัง โสมสุดาจึงโกรธไมตรี และหนีไปปีนัง
พระยากำแหงให้คนไปจับกุมเจ้าชายดูรี ผู้ให้การสนับสนุนสำนักข่าวเกาหัวไปจำคุก ถอดฐานันดรศักดิ์ให้เป็นนักโทษชาย แต่หลังจากนั้น พลเอกสดมภ์ก็ยึดอำนาจของพระยากำแหง แล้วจับไปขังคุกที่เดียวกับเจ้าชายดูรี และพระจ้าหมื่นฟ้ากับราชินีฟาติมาก็สวรรคตในเวลาต่อมา สดมภ์แต่งตั้งตัวเองเป็นจอมพลสดมภ์
เจ้าค้ำฟ้า กษัตริย์หนุ่มผู้สืบทอดราชบัลลังก์จากพระบิดา เสด็จกลับจากประเทศอังกฤษ ได้พบรักกับ กาวิต้าขณะไปไหว้เทพเจ้า ไมตรีได้รู้ความจริงจากปากพ่อว่า สดมภ์อยู่เบื้องหลังก่อสถานการณ์วุ่นวายในบ้านเมือง หาใช่โสมสุดา เขาสำนึกผิด จึงคิดจะไปตามง้อโสมสุดาที่ปีนัง แต่ทางการสั่งห้ามเข้าออกประเทศ ฝ่ายบุหงาก็บอกให้ไมตรีรู้ว่าหล่อนหลงรักเขามานานแล้ว แต่ไมตรีบอกว่าเขารักเธอเหมือนน้องสาวเท่านั้น
เมื่อรัฐบาลอนุญาตให้เข้าออกแล้ว เขาก็ไปตามหาโสมสุดาตามจดหมายที่มอบภารกิจให้เขาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในเกาะปีนัง และแต่ละจุดที่ไปก็จะมีจดหมายอีกฉบับบอกภารกิจของจุดต่อไป จนกระทั่งเขาได้พบโสมสุดา นั่นเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าไมตรีมีความจริงจังจริงใจต่อโสมสุดาเพียงใด แล้วเขาและเธอก็เดินทางกลับประเทศ
เมื่อกลับไปถึง ไมตรีก็พบว่าพ่อของตนป่วยหนัก ถูกย้ายออกจากคุกไปโรงพยาบาล พระยากำแหงได้ขออโหสิกรรมต่อโสมสุดาก่อนตนจะสิ้นใจตาย สำนักข่าวเกาหัวถูกเผา บรรณาธิการดม ฝากจดหมายไว้ว่าจะมีหัวหน้าคนใหม่มา ชื่อว่าดร.บุญดี จะนำขบวนการเสรีสีมา ต่อต้านพวกพระยากำแหง และอาณาจักรไดเกียวขณะที่สดมภ์จับเจ้าค้ำฟ้าไปขังไว้ ทั้งไมตรีและโสมสุดายังหาทางเข้าไปไม่ได้ กาวิต้าได้รับของวิเศษจากเทพเจ้าเพื่อนำไปช่วยเจ้าค้ำฟ้าออกมา แล้วไมตรีกับโสมสุดาก็พาเจ้าค้ำฟ้าออกเดินทางไปตามหาดร.บุญดี จนพบแล้วยังได้ปลดปล่อยขุนหลวงมะลังคะ หัวหน้าเผ่าลัวะสมัยพระนางจามเทวี ให้พ้นออกจากดินแดนบังบด ผ่านทางประตูมิติในปราสาทขอม โดยเจ้าค้ำฟ้าใช้แท่งผลึกศิวลึงค์ที่กาวิต้าให้มาเป็นกุญแจเปิดมิติ
หลังจากนั้นพวกเขาก็นำทัพเดินทางไกล ได้ผจญภัยต่อไปโดยจะได้พบความมหัศจรรย์มากขึ้นเรื่อย ๆ มะลังคะได้เจอสาวชาวป่าชื่อม่านทิพย์ ภายหลังมีลูกด้วยกันชื่อ นาคินมณี ผู้เรืองฤทธิ์ แล้วสดมภ์ถูกระเบิดตายบนเรือหลวงแมนเชสเตอร์ เพราะมหันต์ไม่ยอมไปช่วยกลับสั่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดใส่ พวกเจ้าค้ำฟ้าไปตั้งฐานทัพที่หุบเขาปีศาจ เกิดสงครามครั้งใหญ่ที่มีต่างชาติมาช่วยพวกมหันต์ รวมถึงหลี่จิงจิง สาวนักฆ่า ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของโสมสุดา เหตุการณ์จะลงเอยอย่างไร โปรดติดตามอ่านได้ ณ บัดนี้ครับ
ผลงานอื่นๆ ของ ศรีวริญ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ศรีวริญ
ความคิดเห็น