ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Best Friend

    ลำดับตอนที่ #19 : My Best Friend 17 : ปะทะกันอีกครั้ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 81
      0
      25 พ.ค. 56

    My Best Friend 17

    ปะทะกันอีกครั้ง

     

    “ไม่น่าให้อภัยเลยจริงๆ”

     

     

    “ ไม่มีเวลาแล้ว... ”

     

    “อะไรนะ!?..”

     

    ไรส์กระชากคอเสื้อร่างเงาขึ้นมาแล้วตะคอกถาม ร่างหน้าเหมือนคิดส่ายหน้าดวงตาสีแดงทับทิมของปลอมจ้องเข้าไปในดวงตาของเด็กสาวราวกับต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง

     

    “หมายความว่าไงที่ว่าไม่มีเวลาน่ะ...” ไรส์ถามซ้ำอีกครั้ง

     

    “ยื่นหูมาสิ...”

     

    ไรส์จึงปล่อยมือที่จับเสื้อแล้วเอียงหูฟังอย่างตั้งใจ ร่างเราก้มลงกระซิบกระซาบบางอย่าง ดวงตาสีอำพันของเด็กสาวเบิกกว้างจนแทบฉีกขาด มือบางปิดปากตัวเองราวกับมีเรื่องสะเทือนใจ คิดตัวจริงชะโงกหน้ามองด้วยความสงสัย

     

    “ทำได้ไหมล่ะ...ถ้าทำได้ล่ะก็เธอจะเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่าทันที” ร่างเงาจับไหล่มองไรส์อย่างคาดคั้น

     

    “ไม่...” ไรส์หลุบตามองลงพื้น

     

    “มองหน้าผมแล้วคิดสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเธอ!” ร่างเงาออกแรงบีบไหล่ของเด็กสาวจนเธอรู้สึกเจ็บแต่ก็ยังไม่ยอมมองหน้าของเขา

     

    “นายเชื่อได้แค่ไหน ทำไมถึงต้องมาบอกฉัน...แล้วทำไมไม่ทำเองถ้ารู้ขนาดนั้นแล้ว” ไรส์ตอบเสียงสั่นครือ

     

    “ผมทำเองไม่ได้ คุณก็รู้... คุณเป็นคนเดียวที่ทำได้ขอร้องล่ะ เพื่อทุกคน..”

     

    “...”  ไรส์กัดริมฝีปากจนเลือดซิบ

     

    “ทำไมต้องเป็นฉันด้วย...ไม่ยุติธรรมเลย” เธอพึมพำกับตัวเอง คิดตัวจริงทำท่าจะเข้ามาแทรก แต่ไรส์ก็สะบัดหัวขึ้นมองร่างเงาก่อนจะเอ่ยออกมา

     

    “ได้ ฉันตกลง...”

     

    คิดและร่างเงาประสานตากันตอนมันเงยหน้าขึ้นมา มันก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะหายไป คิดรีบเข้าไปดูอาการไรส์ เขาผงะด้วยความตกใจ

     

    “....ไรส์?”

     

    ใบหน้าของเด็กสาวกำลังยิ้มอย่างเจ็บปวด ของเหลวเอ่อล้นในดวงตาสีอำพันที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ความเกลียดชัง ความริษยา

     

    ...และความโศกเศร้า

     

    ไรส์ยืนขึ้น... ประกายทั้งหมดในดวงตาหายไป หยดน้ำใสเอ่อล้นออกมาจากดวงตา เธอหันไปมองเด็กหนุ่มผมทองก่อนจะยัดบางอย่างลงในมือให้

     

    “เอ้า... เอานี่ไปแล้วโทรบอกพวกนาโนให้ตามมาที่ห้องประชาสัมพันธ์นะ” คิดรับโทรศัพท์สีชมพูบานเย็นมาจากไรส์แล้วถามกลับ

     

    “แล้วเจ้าจะไปไหนล่ะ คุคุ”

     

    “....”ไรส์มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วถอนหายใจ ไรส์เช็ดน้ำตาด้วยแขนเสื้อก่อนจะพูดเสียงหนักแน่นแต่เจ็บปวด

     

    “ไปจบเรื่องนี้... รีบๆมาล่ะ ฉันจะพาพวกนายกลับบ้าน”

     

    “แต่ว่า...”

     

    “ไม่มีแต่ ไปหาพวกนาโนให้เร็วที่สุดแล้วพามา โอเคนะ!” ไรส์วิ่งขึ้นไปชั้นสาม คิดวิ่งตามขึ้นไปแต่ก็ไม่เห็นไรส์อีกแล้ว เขาจึงต้องทำตามที่ไรส์ขออย่างช่วยไม่ได้

     

     

    ฉันจะไปทำให้ทุกอย่างจบลง..

     

    เงื่อนไขที่ทำค้างไว้ ฉันจะเป็นคนทำให้ลุล่วงเอง

     

    แม้จะต้องหายไปอย่างไร้ค่าก็ตาม...

     

     

    .................................................................................

     

     

    “อะ!!!!!!

     

    แตงโมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งในห้องเรียน พี่นิธานและคนอื่นๆมองแตงโม นิธานเปิดปากพูดกับแตงโมเป็นคนแรก

     

    “ตื่นแล้วหรอ เป็นอะไรรึเปล่าแตงโม เหงื่อออกเยอะเลยนี่?”

     

    “อืม...คงจะ....ฝันร้าย...นิดหน่อย...น่ะค่ะ” แตงโมเสยผมสีม่วงอมชมพูที่มาปรกหน้าขึ้นแล้วหลับตาเหมือนกำลังคิดถึงฝันร้ายนั่น

     

    “ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างตื่นก็ดีแล้วแตงโม...รีบไปหาไรส์กันต่อเถอะ”

     

    ฟุ่บ...

     

    นิธานฉุดมือให้แตงโมลุกขึ้นยืน แต่เด็กสาวกลับเข่าอ่อนทรุดลงไปที่เดิม รุ่นพี่หัวฟ้าจึงย่อตัวลงไปในระดับเดียวกับเด็กสาว ดวงตาสีม่วงอะมิทิสต์ของแตงโมดูเลื่อนลอยและอ่อนล้า น้ำใสๆไหลลงมาตามแก้มเนียนใส แตงโมกอดร่างกายที่สั่นเทิ้มของตัวเองไว้แน่น เสียงสะอื้นเล็กๆดังลอดออกมาจากลำคอบาง

     

    “เฮ้ย!! แตงโมเป็นอะไร!!!?” ตองวิ่งเข้ามาดู

     

    “ฉ...ฉันไม่เป็นไร..” แตงโมพูดทั้งๆที่ยังก้มหน้าทรุดตัวอยู่ที่พื้น ดวงตาสีม่วงอะมิทิสต์ยังคงมีน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด

     

    ฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

     

    ทุกครั้งจะต้องมีคนตายไป มีเด็กผมสีขาวคนนั้นและมีตัวเราที่ทำอะไรไม่ได้เสมอ

     

    มันช่างเป็นฝันที่โหดร้ายเสียจริง..

     

    หมับ!

     

    “ว้าย!

     

    ร่างของแตงโมลอยขึ้นมาจากพื้น จนเธอต้องเกาะไหล่คนที่ช้อนตัวเธอขึ้นมาด้วยกลัวว่าจะตก รุ่นพี่นิธานที่กำลังอุ้มตัวแตงโมในท่าเจ้าสาวยิ้มให้เด็กสาวในอ้อมแขน แตงโมหน้าแดงร้องลั่นแทบไม่เป็นคำ

     

    “พี่นิธาน!เอ่อ หนูเดินเองได้ค่ะ!! อีกอย่างตัวหนูหนักด้วย...”

     

    แตงโมละล่ำละลักพูดเสียงดังแต่ประโยคหลังเสียงแผ่ว..

     

    “ไม่เป็นไรๆแค่นี้เอง สบายมาก...รีบไปต่อเถอะ” นิธานเดินตามกลุ่มที่ทุกคนยิ้มแหยๆให้ นาโนเดินนำหน้า ตามด้วยโคน ปัญญา เมก้า เอวา ตองและนิธานตามมาติดๆ

     

    “เรากำลังจะไปไหนครับ?” เด็กชายปัญญาช้อนตามองพี่ๆใสแป๋ว

     

    “ตึกใหญ่...ไปหาพี่ไรส์ไงล่ะ” ตองยิ้มบางๆให้เด็กชาย ปัญญาก็ยิ้มแย้มขึ้น ตองจึงอดไม่ได้ที่จะลูบหัวหนูน้อยเบาๆ

     

    “พี่สาวใจดีจังครับ” ปัญญายิ้ม

     

    “คงงั้นมั้ง”ตองยิ้มแห้งๆ

     

    Rrrrrrrrrr..rr..r

     

    “อ๊ะ...ไรส์?” เอวากดรับสายโทรศัพท์ “ฮัลโหลไรส์? ตอนนี้อยู่ไหน”เอวากรอกเสียงถามกลับไป

     

    [ไม่ใช่ไรส์...เราคิดเอง คุคุ]สำเนียงกวนประสาทดังออกจากลำโพงโทรศัพท์ เอวาทำตาโตแล้วถามกลับ

     

    “หา!!!คิดหรอ” เอวาร้อง ทุกคนจึงหันมามองด้วยความตกใจระคนสงสัย

     

    [แล้วได้ยินเป็นพะแนงหมูรึไง คุคุ] คิดถามด้วยน้ำเสียงชวนเท้ากระตุก เอวาสะกดอารมณ์ พยายามทำหน้าให้ดูปกติที่สุดแล้วตอบกลับไป

     

    “อ่า....แล้วไรส์ไปไหนล่ะ”

     

    [ไม่รู้สิคุคุ เขาให้ข้าน้อยมาถามว่าพวกเจ้าอยู่ไหน]

     

    “อ้าว! แล้วแยกกันทำไมล่ะ!! ทำไมไม่ห้ามไว้”

     

    [แหม่ ก็พอวิ่งตามไปแล้วไรส์ก็หายไปแล้วนี่คุคุ.. ]

     

    “เฮ้อ..โอเค งั้นนายอยู่ไหนล่ะ พวกเราจะไปหา” เอวาส่ายหน้าอย่างเอือมระอาแล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

    [อา ไม่รู้สิคุคุ....ตรงบันไดในตึกไหนสักที่นี่แหละ]

     

    “อืม...คงจะเป็นตึกใหญ่ล่ะมั้ง”เอวาทำท่าครุ่นคิด “เอ๊ะ!แล้วไรส์ไม่ให้ไดอารี่นายไว้หรอ!!”เอวานึกขึ้นได้ถึงสมุดสีแดงที่ไรส์ถือตลอดจึงร้องถาม

     

    [ไม่นี่คุคุ นอกจากโทรศัพท์แล้วไม่ได้ฝากอะไรไว้เลย…]

     

    “งั้นหรอ...งั้นแค่นี้นะ เดี๋ยวไปหา”เอวากดตัดสาย

     

    “คิดหรอเอวา..? ” โคนเข้ามาถามเป็นคนแรก เอวาพยักหน้าช้าๆ คนอื่นๆที่เหลือยกเว้นนิธานกับปัญญาหน้าซีด

     

    “เป็นไปได้ไง ก็..คิด ต..ตายไปแล้ว..”ตองปิดปาก

     

    “งั้นเรารีบไปดูด้วยตาตัวเองกันเถอะครับ ถ้าเจอตัวเดี๋ยวก็รู้เองว่าตายไม่ตาย”เมก้าออกความเห็น ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

     

    “แล้วพ่อบ้านเดินไหวไหม แผลเป็นไงบ้าง” เอวามองแผลบนแผ่นหลังของเด็กหนุ่ม

     

    “ครับ ตอนนี้มันไม่ค่อยเจ็บแล้ว เลือดคงจะเริ่มแข็งตัวแล้วล่ะ”เมก้าส่ายหน้า

     

    “อืม งั้นก็ไปต่อกันได้แล้ว..อ๊ะ”

     

    นาโนเดินนำทุกคนไปที่ประตู แมวดำกระโดดจากจากอ้อมแขนของนาโน มันวิ่งหนีไปนอกห้อง จากนั้นก็มีเสียงของมีคมและเสียงแมวร้องตามมา

     

    ฉัวะ!แง๊วววววว!!!!!

     

    ตุบ...

     

    !!!

     

    ซากแมวดำถูกโยนกลับมาหน้าประตูแทบเท้านาโน เด็กสาวผมสั้นสีดำก้าวถอยหลังอย่างระวังตัว ดวงตาสีดำของเธอวาวโรจน์ นาโนส่งเสียงถามเย็นเยียบผ่านไรฟัน

     

    “ใคร..”

     

    “หึหึ...ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

     

    ร่างสูงเจ้าของเส้นผมสีขาวและดวงตาสีแดงโลหิตเดินออกมาจากหลังกำแพงที่บดบังร่างกาย เขายกยิ้มมุมปากราวกับกำลังเยาะเย้ย นาโนหยิบกรรไกรออกมาจากกระเป๋าเสื้อทั้งสองข้างเพื่อตั้งรับมือ

     

    “ไม่เอาน่านาโน~ ฉันมาเพื่อเจรจาเอง” ปูนยิ้มน้อยๆสะบัดคราบเลือดบนมีดออก

     

    “พี่ชายทำอะไรน่ะครับ ทำไมต้องฆ่าเหมียวๆด้วย...” ปัญญาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ปูนชายตามองด้วยหางตาก่อนจะหัวเราะเบาๆในลำคอ

     

    “นั่นก็แค่ขู่ล่ะน่า... ความจริงฉันก็แค่จะมาฆ่าคนทรยศไงล่ะ”

     

    “นายจะทำอะไรใคร”ตองถาม กันปัญญาออกห่างอย่างระมัดระวัง

     

    “ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก~ คนๆนั้นก็คือ...

     

    “อย่าฆ่าเอวานะ!!!!!!!!ไม่งั้นฉันจะฆ่านาย!!!!!!

     

    เสียงของปูนถูกขัดด้วยเด็กสาวผมม่วงอมชมพู เธอลงมายืนอยู่บนพื้นและกำลังชี้หน้าปูนทั้งๆที่น้ำตาคลอเต็มดวงตาสีม่วงอะมิทิสต์

     

    “เห...รู้ได้ไงน่ะแตงโม?” ปูนถามสบายๆ

     

    “ฉันไม่จำเป็นต้องบอก แต่ฉันรู้....” ดวงตาตาแดงก่ำจ้องเด็กหนุ่มราวจะกินเลือดกินเนื้อ ในใจของเธอแปรปรวนราวกับพายุ

     

    “น่าสนใจดี แต่คงทำไม่ได้..”ปูนหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าเป้ เล็งไปยังเอวา

     

    ปัง!!ปัง!!ปัง!!

     

    กระสุนลอยเฉียดเอวาไปอย่างหวุดหวิดเพราะการกระโดดหลบของเจ้าตัว ปูนสบถก่อนจะโยนปืนทิ้งไปเพราะกระสุนหมด แล้วหยิบมีดสั้นออกมาแทน ใบมีดถูกหันเข้ามาเด็กสาวที่ขวัญกระเจิง

     

    “อย่าทำอะไรบ้าๆนะ...”

     

    ในตอนนั้นเอง... นาโนก็ใช้กรรไกรชี้หน้าปูนที่ไม่ทันระวังตัว ดวงตาสีดำเรียบเฉยมองหน้าปูนอย่างหาเรื่อง

     

    “พ..พี่ๆเขาไม่กลัวกันหรอครับ...”

     

    ปัญญากระซิบถามตองเบาๆ ตองมองไปทางอื่นก่อนจะตอบเสียงแผ่ว

     

    “ตอนที่เราอยู่โรงเรียนก็แบบนี้แหละ...เพราะงั้นตอนอยู่ที่นี่เลยไม่กลัวเท่าคนอื่นหรอก คนอื่นน่ะ ยังไงก็มองเราเป็นพวกผิดปกติอยู่แล้วล่ะ”

     

    “เอ๋...”

     

    แคร้ง!!

     

    “นาโน... อย่าทำให้เรื่องยุ่งยากแล้วส่งตัวเอวามาเถอะน่า”

     

    ทั้งคู่ประสานตากันในระยะประชิดเมื่อมีดและกรรไกรปะทะเข้าหากัน นาโนจ้องกลับด้วยดวงตาสีดำเรียบเฉย

     

    “โทษที เพื่อนสนิทที่สุดของฉันคือเอวา ดังนั้นถ้านายทำอะไรเอวาฉันคงจะปล่อยเอาไว้ไม่ได้หรอก”

     

    “งั้นหรอ ยังไงก็ไม่ได้จริงๆด้วยแฮะ” ปูนมองนาโนด้วยสายตาดูแคลน

     

    แคร้ง!!

     

    “หึ จะว่าไปอยู่โรงเรียนก็ยังไม่เคยสู้กันให้รู้ผลจริงๆจังๆสักครั้งเลยนี่นา” นาโนถอยกลับมาตั้งหลักก่อนจะพูดกับเพื่อนๆข้างหลังโดยไม่หันกลับไปมอง

     

    “ไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันจะประมือกับหมอนี่เอง”

     

    “เอ๋ พี่นาโนไปด้วยกันเถอะครับ!” แม้นั่นจะเป็นประโยคขอร้องของเด็กชายปัญญา นาโนก็ส่ายหน้าปฏิเสธ ทำให้คนคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างทนไม่ได้

     

    “ไม่... ฉันจะถ่วงเวลาเอง นาโนนั่นแหละไป”

     

    ชิ้ง...

     

    “ตอง...”

    มีสั้นอีกเล่มถูกดึงออกมาจากประเป๋าเสื้อ เด็กสาวผมทองชี้มันไปยังเด็กหนุ่มผมขาว ปูนมองหน้าตองและตองก็มองกลับด้วยดวงตาที่ยาวจะอ่าน

     

    “ไม่น่าให้อภัยเลยจริงๆ คนที่ทรยศเนี่ย”

     

    สายตาเย็นชาของเด็กสาวนาม ตอง มองหน้าปูน เธอไม่ได้สื่อถึงคนทรยศที่เพื่อนต้องการให้พวกเธอฆ่า

     

    แต่เธอกำลังสื่อถึงคนที่ทรยศความเชื่อใจของพวกเธอ

     

    “เอ้าเข้ามาสิ....”ตองเป็นฝ่ายเอ่ยก่อย

     

    “หึ...น่าแปลกใจดีนี่ ไม่นึกว่าตองที่เรียบร้อยขนาดนั้น จะกล้าจับมีดมาสู้กับฉันด้วย...”ปูนยกยิ้มเยาะมุมปาก

     

    “เพราะนายคิดจะฆ่าเอวานั่นแหละ”

     

    การต่อสู้ของทั้งสองกำลังจะเริ่มขึ้น...






     


     “อนาโตมี่เน่า ขอโทษค่ะ” ไรเตอร์ผู้ตกวิชาศิลปะก้มหัวขอโทษอยู่หลังฉาก

    โย่วๆเย้ คราวนี้มีรูปประกอบด้วยแหละ//วิ่งไปวิ่งมา 
    ขอบคุณทุกท่านที่ยังติดตามด้วยนะคะ ใกล้จะจบแล้วล่ะค่ะ...มั้ง? =w=;;

     

     ตอบคอมเม้นท์

    ความคิดเห็นที่ 32 (จากตอนที่ 18)    
    อืม แฮปปี้เอ็นดิ้ง... เหรอ...
    อาหนังสือ - สอบตกภาษาไทยเรื่องการอ่านแหงๆ
    //ป้อนคำสั่งทำลายตนเองให้อาหนังสือ
    ดีเคด - ใครคือเพื่อน งั้นหรือ...
    มิคุ - ไม่รู้ค่า
    ผม -แต่จะว่าไปก็น่าสงสารคนที่สร้างโลกอีกมิติน่ะ...
    ปล. น่านำไปแจม...
    ผล - ขอเถอะ... อย่าครอส....
    PS.  KIG future. Now, time to change the world by the novel.
    Name : bbsaver< My.iD > ดูเน็ตเวิร์คอื่นๆ ของ bbsaver [ IP : 125.26.254.117 ] 
    Email / Msn: jettanutdekd(แอท)gmail.com ส่งข้อความลับ
    วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 / 20:18

     

    WB : คนสร้างอีกโลกน่าสงสารมากค่ะ//ซับน้ำตาเทียม
    แต่ไรท์จะส่งตรงความดราม่าให้คุณอีกค่ะ //ทำหน้าคนชั่วในคราบคนดี

     

     

     

    Velen
    tine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×