ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Best Friend

    ลำดับตอนที่ #14 : My Best Friend 12 : ด้ายแดง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 56
      0
      4 พ.ค. 56

    ว่ากันว่า...

     

    ที่ปลายนิ้วก้อยข้างหนึ่งของเราจักมี

     

    "เส้นด้ายสีแดง" ที่มองไม่เห็นผูกเชื่อมโยง

     

    กับปลายนิ้วก้อยของคู่รักที่แท้จริงของเราไว้

     

    ใครคนนั้น... แม้จะอยู่ห่างกันแสนไกลเพียงใด

     

    สักวันหนึ่งด้ายแดงจักนำพาคนทั้งสอง

     

    มาพบกัน เพื่อรักกันไปชั่วชีวิต...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    My Best Friend 12

    ด้ายแดง

     

    “ได้โปรด...ได้โปรดอย่าหายไปนะ”

     

     

    เด็กสาวผมดำยาวสลวยเดินเข้าห้องน้ำหญิง พร้อมด้วยเด็กสาวผมน้ำตาลและเด็กหนุ่มผมทอง เด็กสาวในลุดนักเรียนสีดำเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้ากระจก

     

    “พิธีกรรมนี้ต้องทำคนเดียว...”เอวาพูดลอยๆ

     

    “ระวังตัวด้วยล่ะ ถ้ารู้อะไรหรืออยากให้ช่วยให้รีบตะโกนบอกนะ เข้าใจไหม”เมก้าเงยหน้าพูดกับสนสภาพสะบักสะบอม

     

    “ห่วงตัวเองก่อนเถอะน่า...”สนมองเขาอย่างนึกระอาใจ  “ยังไงก็ไม่รอดกลับมาอยู่แล้วล่ะ.........”

     

    ประโยคหลังเธอพึมพำให้ตัวเองได้ยินคนเดียว

     

    “โชคดีนะ”

     

    เอวาโบกมือก่อนจะปิดประตูห้องน้ำหญิง สนพยักหน้ารับให้เอวา ก่อนจะกลับมาสนใจกระจกเงาตรงหน้า

     

    “ฟู่....เอาล่ะนะ” เด็กสาวพ่นลมหายใจ ก่อนจะตั้งสมาธิมองกระจกอย่างแน่วแน่

     

     

    Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary..!!”

     

    สนหลับตาท่องคำว่าบลัดดี้แมรี่13ครั้ง ก่อนจะลืมตาดูภาพบนกระจกเงา

     

    วูม...ม..

     

    “!!!!!!”

     

    ได้ผล.. ภาพบนกระจกไหวเป็นระลอกคลื่นเหมือนผิวน้ำ ดวงตาสีกาแฟเพ่งมองเข้าไปในกระจกเพื่อมองภาพหญิงสาวในกระจกให้ชัด แต่ภาพของเธอยังเลือนอยู่และกำลังจางลงเรื่อยๆ อาจเพราะไม่มีพลังมากพอจะปรากฏตัว จนสนเริ่มกังวลว่าเธอจะไม่ได้คำตอบ

     

    เธอจึงตัดสินใจทำเรื่องที่โง่ที่สุดในชีวิต..

     

    Bloody Mary! I killed your baby!!!!!

     

    ราวกับเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ก็คำต้องห้าม ภาพในกระจกเริ่มเด่นชัดขึ้นมา ระลอกคลื่นบนผิวกระจกสงบลง เหลือเพียงภาพของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดดำปรากฏอยู่

     

    “เธอเรียกฉันมาใช่มั้ย...”

     

    เสียงแหบพร่าของหญิงสาวดังก้องออกมาทั้งๆที่เธอยังไม่ขยับปาก ทำให้สนหลุดออกจากภวังค์ เธอพยักหน้าแล้วเพ่งดูในตัวเธอ เพื่อหาคำตอบที่ต้องการ

     

    “อะ.....อะไรเนี่ย”

     

    สิ่งที่สนเห็นคือความว่างเปล่า เธอไม่เห็นอะไรเลยนอกจากสีดำ เด็กสาวผมดำเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีเพราะภาพบนกระจกไหวอีกครั้ง สนค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองบลัดดี้แมรี่อีกครั้ง

     

    “ถ้าไม่เห็นอะไรหมายความว่าเราอาจจะตายเลยไม่เห็นอนาคต” เสียงเอวาแว่วเข้ามาในหัวสน เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

     

    “ก....ก....กะ..กะ...”

     

    เหงื่อเม็ดเล็กๆหยดลงมาตามใบหน้าขาวซีด สนพูดตะกุกตะกักก่อนจะตะโกนลั่น ส่งสัญญาณ ให้เอวาที่อยู่ข้างนอกได้ยิน

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดด!!! เอวา!!!!!!!!!!

     

     

     

    “สน...สน!!!” เอวาที่ยืนรออยู่แล้ว เมื่อได้ยินสัญญาณจึงพุ่งตัวเข้ากระแทกประตูอย่างแรง หวังจะพังเข้าไปให้ได้

     

    แต่ประตูไม้ไม่ยอมพังง่ายๆ

     

    “ฮึ่ย..! สน...เป็นไงบ้าง.....”

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!อ๊าาาา!!!!!!ปล่อยนะ โอ๊ย!กรี๊ดดดดดด!!!!!!!!!”

     

    เสียงเด็กสาวกรีดร้องหลังบานประตูทำให้เอวายิ่งร้อนรน เธอยิ่งกระแทกประตูแรงขึ้นเพื่อเข้าไปหาสนให้ได้

     

    “คุณ..คุณหนูครับ ระวังด้วยนะครับ....”เมก้าร้องเตือนเอวาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง เพราะประตูกำลังสั่นทำท่าจะพังลงมา

     

    “ฮึ่ย...ย๊ากกกกกกกก!!”เอวาพุ่งตัวเข้าชนประตูสุดแรง

     

    โครม!!

     

    ประตูไม้หลุดออกมาจากวงกบประตูปลิวไปติดผนังอีกด้าน เอวารีบวิ่งเข้าไปหาเด็กสาวผมดำ แต่เจอต้องตะลึงกับภาพตรงหน้า

     

    “ปล่อยฉัน..อึก..”

     

    สนจับสิ่งที่รัดคอเธออยู่ให้มันคลายออก แม้จะไร้ประโยชน์เท่าใดก็ตาม เส้นผมสีดำที่ยาวออกมานอกกระจกยิ่งรัดลำคอของเด็กสาวแน่นขึ้นจนเธอแทบขาดอากาศตาย

     

    “สน!! ปล่อยสิวะ!ฮึ่ย!!” เอวาช่วยดึงเส้นผมที่รัดคอสนออกอีกแรง

     

    “เอวา.. ฟังให้ดีนะ ฉันไม่เห็นอะไรเลย นอกจากสีดำ เพราะฉันอาจจะตายที่นี่ เธอออกไปซะ ยังไงฉันก็ต้องตายอยู่แล้ว”สนกัดฟันพูดกับเด็กสาวผมสีน้ำตาล “อย่าให้มันสูญเปล่า ขอร้องล่ะเอวา”

     

    “ถ้าจะตายก็ตายพร้อมกันสิ.. ฉันไม่ยอมให้เธอมาตายตอนนี้หรอก!!”เอวาไม่ยอมแพ้

     

    “เกะกะน่ารำคาญ.. ออกไป!!!!

     

    เส้นผมสีดำตวัดใส่เอวาเหมือนแส้ จนเธอปลิวออกนอกห้องน้ำ เอวาร้องโอดโอยเมื่อร่างของเธอกระเด็นติดกำแพง เด็กสาวผมน้ำตาลลุกขึ้นมาใหม่ตั้งท่าจะวิ่งเข้าไปช่วยสนอีกรอบ แต่คราวนี้มันไม่ง่ายนัก

     

    ปัง!!

     

    ประตูไม้ลอยกลับมาติดวงกบอีกครั้ง เอวาจึงติดจะพังเข้าไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ว่าเธอจะใส่แรงขนาดไหน ประตูก็ไม่ยอมพัง

     

    “ไอ้บ้าเอ๊ย!!!! เปิดสิวะ!” เอวาทั้งกระแทกทั้งทุบทั้งเตะเพื่อให้ประตูเปิดออก

     

    แต่มันไม่มีประโยชน์

     

    “ไปกันเถอะครับคุณหนู...”

     

    เมก้ายืนขึ้นช้าๆด้วยท่าทีสงบผิดปกติจนเอวาแปลกใจ เด็กหนุ่มผมทองรีบเดินลงบันไดทั้งยังกระชากแขนให้เอวาเดินตามจนเธอแทบตกบันได

     

    “ช้าๆหน่อยสิเมก้า!ฉันจะตกบันไดอยู่แล้วนะ!!”เอวาร้อง สะบัดมือจากการเกาะกุมของเขา  “ทำไมนายต้องทิ้งสนด้วยล่ะ! สนอาจจะรอดถ้าเราช่วยเธอนะ!!”ดวงตากลมโตสีคาราเมลจ้องเด็กหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ

     

    “ผมเคยสัญญาใช่มั้ยว่าจะปกป้องคุณหนูจนกว่าผมจะตายน่ะ...”

     

    เด็กหนุ่มผมทองหันกลับมามองหน้าของเด็กสาวผมน้ำตาล ในดวงตาสีรัตติกาลของเขาดูเจ็บปวดจนเอวารู้สึกได้ แต่เธอทำได้เพียงพยักหน้าเพราะไม่กล้าพูดอะไรมากกว่านั้น

     

    “นั่นแหละครับ....ผมน่ะ..”

     

    “อยู่นี่เองเด็กๆ.....”

     

    เสียงทุ้มขัดจังหวะบทสนทนาของทั้งสอง ร่างชายหนุ่มผมดำยาวเจ้าของกรงเล็บแหลมคม ที่เอวามั่นใจว่าเพิ่งขังเขาไว้แน่นหนาแล้วกำลังยืนจังก้าอยู่บนบันได เมก้าไม่ใช้เวลาทำความเข้านานนัก เขาก็กระชากแขนให้เอวาวิ่งตามเขามาอีกครั้ง

     

    “จะหนีไปไหนนนนนนนน!!ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!” มันกระโดดจากบันไดมาดักหน้าเมก้ากับเอวา

     

    “หลบไป!!!!!!”เด็กหนุ่มผมทองตะคอกใส่มัน ใบหน้าของเมก้าบิดเบี้ยวด้วยความโมโห เขายกมือขึ้นมากันเอวาจากชายหนุ่มตรงหน้า

     

    “ไม่เอาน่าพ่อหนุ่ม ฉันแค่ต้องล่าเหยื่อตามคำสั่งเท่านั้นเอง”มันว่า “ส่งเด็กผู้หญิงคนนั้นมาดีกว่า เธอต้องถูกกำจัดนะ”

     

    “ไม่!!!

     

    เมก้าอาศัยจังหวะที่มันเผลอลากเอวาผ่านออกมา เขาลากเอวาตัดกลางห้องไปยังประตูบานเดียวในห้อง

     

    แกร๊ก!

     

    ประตูถูกล็อคอย่างที่เมก้าคิด เมก้าดึงเอวาหลบกรงเล็บแหลมที่ตวัดเข้าใส่ของชายหนุ่ม เขามองไปรอบห้องเพื่อมองหากลไกที่จะทำให้ประตูเปิด

     

    “นั่น...” เขาเห็นเชือกผูกเป็นบ่วงกลางห้องและปุ่มสีแดงสองปุ่มที่อีกมุมหนึ่งของห้อง

     

    “ม..ม..เมก้า..”เด็กสาวผมน้ำตาลมองเขา ดวงตาสีรัตติกาลของเด็กหนุ่มฉายแววบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ

     

    แต่เธอรู้สึกสังหรณ์ใจว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น...

     

    “รออยู่ตรงนี้นะครับ... พอผมให้สัญญาณแล้วก็เปิดประตูเลยนะครับ”เมก้ายิ้มบางๆให้เธอ เอวาพยักหน้ารับงงๆ ก่อนเมก้าจะพุ่งไปอีกมุมของห้อง

     

    “เมก้า!!!”เอวาร้องลั่นเพราะชายหนุ่มผมดำกำลังวิ่งตามและจะตวัดกรงเล็บใส่เขา

     

    “ยุ่งไม่เข้าเรื่องนะไอ้หนู”มันว่าพลางง้างกรงเล็บแหลมขึ้นเหนือหัวแต่เมก้าไม่แม้แต่จะหันมาสนใจ

     

    “ฮึ่ย..”

     

    เมก้ารู้สึกเจ็บแผลเก่าขึ้นมา แต่เขาก็มาถึงปุ่มสีแดงทั้งสองแล้ว ป้ายเก่าๆเหนือมันทำให้เมก้ากัดฟันแต่เขาก็กดปุ่มแรกทำให้ประตูอัตโนมัติเลื่อนเปิด

     

    “เมก้า!”เอวายังไม่ยอมออกไป เมก้าจึงตะโกนลั่นจนเอวาตกใจ

     

    “ออกไปสิวะ!!!จะรอให้ตายก่อนรึไง!!!

     

    เด็กหนุ่มใส่อารมณ์จนเอวารีบทำตามอย่างว่าง่าย เมื่อเธอออกมาแล้วเมก้ากดอีกปุ่มทำให้ประตูเลื่อนปิดและไม่ยอมเปิดอีกแล้ว

     

    “เมก้า!!!”เอวาทุบกระจกอย่างเอาเป็นเอาตาย

     

    “สาวน้อย..ดูให้ดีนะ”

     

    ชายผมดำจิกหัวเมก้าให้มากลางห้อง ขณะที่เมก้ากำลังพิมพ์ข้อความอะไรบางอย่างในโทรศัพท์โดยไม่สนใจรอบข้าง มันใช้เชือกคล้องรอบคอของเด็กหนุ่มผมทอง ก่อนจะดึงเชือกทำให้ร่างของเมก้าลอยขึ้นจากพื้น

     

    “อั่ก...อึก..” เขายังไม่ยอมปล่อยโทรศัพท์ นิ้วเรียวกดปุ่มส่งข้อความก่อนจะหันไปมองเด็กสาวที่ยืนอยู่อีกฝั่งของประตู

     

    Rrrrrrr..r….rr

     

    เอวากดรับข้อความเข้าด้วยมือที่สั่นระริก

     

    หัวข้อ:คุณหนู

     

    ผมขอโทษที่ออกไปพร้อมคุณหนูไม่ได้

    สิ่งที่เราได้ตอนชนะเกมคือ

    รู้ได้ว่าอีกคนจะตายตอนไหนและตายแทนได้

    มีวิญญาณมาบอกตอนที่เราอยู่หน้าห้องน้ำ

    ผมขอโทษ

     

    ผมรักคุณหนูนะครับ

     

    จากพ่อบ้าน

     

    แปะ..

     

    ดวงตาสีคาราเมลกลมโตรื้นไปด้วยของเหลวสีใส มันไหลลงมาตามใบหน้าขาวใส เด็กสาวผมน้ำตาลทรุดตัวลง ขาทั้งสองข้างหมดแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ

     

    “ไม่...ไม่...”เอวาพึมพำน้ำตาไหลไม่ยอมหยุด

     

    “ไม่จริงใช่มั้ย...ไม่จริง ไม่จริง......”

     

    วันนั้นที่ผมสาบานว่าจะปกป้องคุณหนู

    ผมจะไม่มีวันลืมเพื่อที่จะทำให้สิ่งที่สัญญาไว้เป็นจริง

    เพราะต้องการที่จะช่วยเหลือเธอออกไป

    ถ้าด้ายแดงเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมเราไว้ในตอนนี้

    ผมก็ขอเป็นคนกระชากมันให้ขาดเอง..

     

     

    ความรักมักเป็นโศกอนาฏกรรม

    ..เหมือนเรื่องนี้..

    แม้แต่ด้ายแดงบางๆที่เชื่อมเราเอาไว้

    มันก็ไม่มีอีกแล้ว

    ได้โปรด...ได้โปรดอย่าหายไปนะ

     

     

    “นี่น่ะจริงแท้แน่นอนเลยสาวน้อย...ดูนี่สิ” ฆาตกรที่เพิ่งแขวนคอเมก้า ชูกล้ามเนื้อสีแดงบนกรงเล็บที่ควรจะทำงานในอกซ้ายให้เอวาดู ดวงตาสีคาราเมลเบิกกว้างก่อนเธอจะร้องลั่น

     

    “ไม่!!!!!ไม่!!เอาเขาคืนมานะ เอาคืนมา!!!!!!!!”เด็กสาวปิดหน้าร้องไห้อย่างสิ้นหวัง

     

    “ถ้าอยากแก้แค้นก็ต้องไปฆ่าเพื่อน...อ..อั๊ก!!อ่อก!

     

    เอวาเงยหน้ามองร่างผมดำที่บิดตัวไปมาท่าทางทรมานด้วยความสงสัย กรงเล็บเปื้อนเลือดจับกระจกก่อนร่างมันจะระเบิดเหมือนคิด เอวาผงะถอยหลังด้วยความกลัว

     

    แอ๊ด!ปัง!!

     

    กลุ่มคนหกคนรีบปิดประตู ทั้งหมดหอบหนักๆอาจเป็นเพราะกำลังหนีอะไรบางอย่างมาก็ได้  เด็กสาวสี่คนหันมาเห็นเอวาพอดี

     

    “เอวา!!!!”เด็กสาวผมดำวิ่งตรงเข้าหาเอวา ก่อนจะย่อตัวลงในระดับเดียวกัน

     

    “เอวา!เป็นอะไรไหม!!”ตองเข้าไปถามเป็นคนที่สอง เอวาส่ายหน้า

     

    “แล้วเมก้ากับคนที่สนอะไรนั่นล่ะ”แตงโมถาม แต่เหมือนจะไปสะกิดแผลใจเอวาเข้า เด็กสาวผมน้ำตาลเริ่มร้องไห้อีกครั้ง นาโนจึงลูบหัวปลอบใจเอวา แตงโมมองผ่านกระจกเล็กๆตรงบานประตูเธอจึงเข้าใจสิ่งที่เอวาเจอมา

     

    “มันบอกว่า..ถ้าอยากแก้แค้นต้องฆ่าเพื่อน...ฮึก”เอวาสะอื้น

     

    “.....”นิธานมองศพของเด็กหนุ่มผมทองบนบ่วงแขวนคออย่างสลดใจ

     

    “แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดี...”โคนถาม ส่วนปัญญาที่อยู่ข้างเธอนิ่งเงียบ

     

    “...แน่นอน..”ตองพึมพำ

     

    “อะไรนะตอง?”โคนถาม

     

    “ฉันจะไม่มีวันให้อภัยไอ้หน้าไหนก็ตามที่มันทำแบบนี้กับเราแน่นอน”


















     

    บทนี้พาดพิงความรักเต็มๆเลยค่ะ..
    ฮ่าๆ...เมื่อวานบ้านเราเน็ตไม่ดีน่ะค่ะเลยมาอัพไม่ได้....วันนี้ก็ปวดหัวแต่ก็ยังกระเสือกกระสนมาอัพ...อาจจะดูแปลกๆนะคะเพราะกำลังปวดหัว... พอล่ะ ยิ่งพิมพ์ยิ่งพูดไม่รู้เรื่อง... ขอให้ทุกท่านที่ยังตามอ่านมีความสุขนะคะ...//ตาย



    ตอบคอมเม้นท์ 


     
    ความคิดเห็นที่ 22    
    สวัสดีค่ะ (;
    เราไรท์จาก 
     ❃ M I S S.. P O R M I S E ❃ [ YAOI ] นะค่ะ
    เราจะมาบอกว่า เราแปะแบนเนอร์ให้แล้วนะค่ะ เย้เย้ ><
    ขอบคุณที่แลกแบนเนอร์กับเรานะค่ะ//โค้ง 


    K O N S O U / ; ?

    PS.  I am B2UTY. มันคงจะเป็นความบังเอิญ.. <3
    Name : konsou/;?< My.iD > ดูเน็ตเวิร์คอื่นๆ ของ konsou/;? [ IP : 58.9.193.132 ] 
    Email / Msn: chocolate_valentine(แอท)hotmail.co.th ส่งข้อความลับ
    วันที่: 1 พฤษภาคม 2556 / 22:37

    WB : ขอบคุณที่ขึ้นให้นะคะ..//โค้ง

    ความคิดเห็นที่ 21 (จากตอนที่ 13)    
    Don't worry. I support ALL alive and fun fiction (แปลเองเด๋อ)
    แล้วก็ เอาแล้วไง แมรี่มาหาเลย...
    ถาม - เด็กคนนั้นที่บอกว่าตอนหน้าเธอก็ตายแล้ว คือเมดเกอร์ของโลกMy best friend หรือเปล่าครับ
    โคน - แปลว่า...
    อาหนังสือ - เขากำลังถามว่า เด็กคนนั้นคือไรท์เตอร์ของนิยายเรื่องนี้ใช่ไหม
    แมรี่(จากเกม อีฟ) - ใครเรียกร้อง
    ผม - ผิดที่เฟ้ย

    PS.  KIG future. Now, time to change the world by the novel.
    Name : bbsaver< My.iD > ดูเน็ตเวิร์คอื่นๆ ของ bbsaver [ IP : 125.26.235.166 ] 
    Email / Msn: jettanutdekd(แอท)gmail.com ส่งข้อความลับ
    วันที่: 1 พฤษภาคม 2556 / 19:03

     
    WB : อ้าว แมรี่ มาได้ไงน่ะ//ขยี้ตา
    อ้อ เด็กคนนั้นไม่ใช่เราหรอกค่ะ สบายใจได้ ..//หัวเราะแห้งๆ


    ไรท์ขอตัวไปนอนล่ะค่ะ...//แพลงกิ้ง

    Velen
    tine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×