ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    RE;My Best Friend

    ลำดับตอนที่ #8 : My Best Friend 8 : Relegate

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 61


    My Best Friend

    8

    Relegate ; ผลักไส

    “ เออ เอาที่หล่อนสบายใจเถอะ ”

     

     

     

    โลกสีขาวทอดยาวออกไป ราวกับถูกหิมะถม

     

    เด็กสาวคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น สีสันโดดเด่นเหมือนถูกทอดทิ้ง ไม่ว่าจะสีของเนื้อ เส้นผม ริมผีปาก กระทั่งลูกตาก็ดูโดดขึ้นมา  ถ้าจะให้เทียบก็คงนึกถึงตัวละครภาพสีบนหน้ากระดาษสีขาว

     

    เธอยืนอยู่อย่างไร้ชีวิต ราวกับเป็นตุ๊กตา หรือไม่ก็มนุษย์ที่ลืมวิธีหายใจ ดวงตาสีอำพันมองตรงไปข้างหน้า ก่อนจะขยับวูบไหวเมื่อสังเกตบางอย่าง

     

    ที่ปลายสายตา มีร่างสีขาวนั่งจมอยู่กับพื้นที่เหมือนหิมะ สีนั้นกลมกลืนจนแทบแยกไม่ออกว่าร่างนั้นเป็นของจริงหรือภาพลวงตาหรือความฝัน? เธอเคลื่อนไหวเข้าใกล้ร่างนั้นเหมือนถูกดูด ดวงตาที่หลับพริ้มไม่รู้ตัวกลับมีสัมผัสแห่งชีวิตชุ่มชื่นมากกว่าเด็กสาวผมน้ำเงินเสียอีก ร่างที่มีบรรยากาศอบอุ่นคล้ายเทพธิดาเชื้อเชิญให้เอื้อมมือไปสัมผัส

     

    “..!”

     

    พริบตาที่มือเกือบจะแตะโดนเส้นผมสีขาวโพลน เธอก็ลืมตาคู่นั้นขึ้น ดวงตาสีทองหม่นแฝงประกายอ่อนโยนกะพริบสองสามครั้ง แพขนตาสีขาวทำให้ผู้ที่ถือวิสาสะเอื้อมมือไปแตะต้องมนตร์สะกด เด็กสาวผมขาวยืดตัวขึ้น ผิวสีขาว เส้นผม กระทั่งดวงตาดูกลมกลืนราวกับสถานที่นี้ถูกสร้างมาเพื่อเธอ เป็นตัวตนที่อยู่เหนือการทำความเข้าใจ เด็กสาวนั้นเอียงคอเล็กน้อย เมื่อเข้าถึงความเข้าใจว่าคนตรงหน้าคือใคร เธอก็ระบายยิ้มที่อ่อนโยน ความอบอุ่นแผ่ออกมาจากใบหน้านั้นกุมหัวใจของคนผมน้ำเงินเข้าอย่างจัง

     

    มือขาว ๆ ยื่นไปที่แก้มของเธอ

     

    “.....ไรส์”

     

    !!!”

     

    ก่อนเป้าหมายของมันจะเปลี่ยนไปเป็นลำคอ มือสีขาวขยุ้มลำคอของไรส์ไว้อย่างจัง ความประสงค์ร้ายแผ่ออกมาจากมือเล็กข้างนั้น เรี่ยวแรงมหาศาลนั้น ต่อให้เธอใช้สองมือก็แกะมือข้างเดียวของเธอไม่ออก เธอเริ่มดิ้นรนเมื่อขาดอากาศหายใจ

     

    เด็กสาวผมขาวยิ้มอย่างอ่อนโยน ไม่มีความมุ่งร้ายแผ่ออกมาเลยสักนิด

     

    “ถ้าฉันบีบคอ.. เธอก็จะตายสินะ”

     

    “อุ่ก..แค่ก แค่ก!! ...แค่ก!”

     

    ว่าแล้วมือขาว ๆ ก็ผละไปทำให้ไรส์เสียหลักล้มลง เธอกุมลำคอที่มีรอยแดงไว้แล้วสำลักอากาศ เด็กสาวสีขาวกุมมือนั่งพับเพียบอย่างเรียบร้อย มองเธอด้วยแววตาที่ไม่เปลี่ยนไป ทว่าหากอ่านบรรยากาศได้ คงจะต้องพบความสมเพชอย่างแน่นอน น้ำเสียงที่อ่อนโยนถักทออย่างไพเราะ

     

    “อา แต่ว่ายังไม่ได้ เธอยังตายไม่ได้นะ รักษาตัวด้วย”

     

    “ก..แก....เป็น.....ใคร?”

     

    เด็กสาวไม่ตอบคำถามของไรส์ที่เพิ่งพ้นจากอาการปางตายของการขาดอากาศ ริมฝีปากของเธอระบายยิ้มอ่อนโยนเช่นเคย เสียงอันไพเราะเอื้อนทำนองฟังดูทรงพลัง

     

    “I know you, I walked with you once upon a dream

    (ฉันรู้จักเธอ ฉันเคยเดินเคียงข้างเธอครั้งหนึ่งในฝัน)

    I know you, that look in your eyes is so familiar a gleam

    (ฉันรู้จักเธอ ประกายแสงในดวงตาเธอช่างคุ้นเคย)

    And I know it's true that visions are seldom all they seem

    (และฉันรู้ว่ามันคือเรื่องจริง ที่ว่าทิวทัศน์ที่เห็นคือสิ่งที่พวกเขาอยากให้เป็น)

     

    “เธอ....”

     

    แสงสีขาวโอบล้อมโลกทั้งใบเข้ามากะทันหัน สติที่ถูกดึงจนตึงแทบจะขาดหายไปในทันที แต่ไรส์ประคองมันไว้ได้ก่อนจะถูกช่วงชิงความคิดไป เด็กสาวสีขาวยิ้มอ่อนโยนไม่เปลี่ยนแปลง ก่อนจะทิ้งคำพูดหนึ่งไว้ก่อนถูกกลืนหายไป

     

    “เธอคงจะลืมฉันไปแล้ว เพราะงั้นจำให้ขึ้นใจนะครั้งนี้ ฉันน่ะ......” 

     

     

    ซ่า!!

     

     

    เด็กสาวทะลึ่งพรวดขึ้นมา ไขว่ขว้าอากาศหายใจ โผล่หัวออกมาจากสระน้ำ ร่างกายส่วนบนตัวมีหยดน้ำเกาะจนชุ่ม ท่อนล่างก็แช่อยู่ในน้ำ  เสี้ยวหน้านั้นดูตื่นตระหนก ดวงตาสีอำพันขยายกว้าง บรรยากาศที่อยู่รอบ ๆ คือความมืดเงียบ ๆ ที่โอบล้อมเอาไว้ ความเข้าใจขาดหายไปชั่วขณะ แต่สมองของเธอเรียกความทรงจำกลับคืนอย่างรวดเร็ว

     

    “ไรส์ระวัง!!!!!

     

    “ฟัก!! อ่อก.......

     

    จ๋อม ซ่า!!

     

    ไรส์สบถ ในพริบตาที่ความทรงจำชัดเจน เสียงของผู้ชายและสัมผัสของน้ำก็ตามมา เส้นผมสีน้ำเงินลอยอยู่ในน้ำเหมือนสิ่งมีชีวิต มือของเด็กสาวปัดป่ายไปคว้าข้อมือผอม ๆ ไว้ เธอดึงแขนของเด็กสาวที่กดหัวเธอลงน้ำแล้วออกแรงกระชากลง ร่างทั้งสองจมหายไปในสระน้ำ

     

    ซ่า!

     

    น้ำกระเพื่อมเบา ๆ แล้วก็นิ่งไป ราวกับกลืนกินร่างของทั้งคู่ไปแล้ว เด็กหนุ่มผมดำยุ่ง ๆ ทำท่าร้อนใจ การเคลื่อนไหวแฝงไปด้วยความลังเล เขากำลังชั่งใจว่าจะโดดตามลงไปช่วยดีไหม ทว่าดวงตาสีดำเทาเหลืองมองที่ผิวน้ำแล้วกลืนน้ำลาย

     

    สีสันไหวพลิ้วเคลื่อนอยู่ในน้ำ สิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวในน้ำต้องเป็นสัตว์น้ำแน่ ๆ แต่ว่า...

     

    เด็กหนุ่มมองสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายปลาในสระน้ำ พวกมันกระจายอยู่เต็มสระอย่างเป็นระเบียบ ครีบสีแดงขยับไหวตามสายน้ำ แต่ไม่มีทีท่าว่าพวกมันจะขยับตัวเลย ราวกับกำลังเฝ้าสังเกตการณ์... ใช่ ด้วยดวงตาคู่นั้น ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ราวกับถูกจับตรึง

     

    ดวงตาของมนุษย์ขนาดใหญ่บนลำตัวปลากลอกไปมา ทว่าเป็นดวงตาที่เรียบเฉยไร้ชีวิต นั่นเป็นส่วนที่ทำให้ปลาพวกนั้นดูน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเอาชิ้นส่วนของคนตายไปแปะบนสิ่งมีชีวิต แค่มองก็รู้สึกถึงความหวาดกลัวอย่างรุนแรงจนไม่สามารถขยับแล้ว มันคือความบิดเบี้ยวอย่างไม่ต้องสงสัย ใบหน้าของเด็กหนุ่มบิดเบี้ยว ที่จริงแล้วเขาอยากจะวิ่งหนีไปตอนนี้เลย แต่ขาไม่ขยับ และใจก็รู้ดีว่าหากเปิดประตูสุ่มสี่สุ่มห้าอาจจะเรื่องไม่คาดคิดได้

     

    เหมือนที่ไรส์เปิดประตูห้องเก็บของแล้วมาโผล่ที่สระน้ำแห่งนี้..

     

    ซ่า!

     

    “ฮ่า! ... ฮึฮึ......”

     

    แต่แล้วเขาก็ต้องผละถอยหลังเมื่อร่างเด็กสาวอีกคนที่ถูกลากลงไปใต้น้ำโผล่หัวขึ้นมา เธอเป็นคนที่โจมตีไรส์จากข้างหลังเมื่อไรส์มาถึงด้วยการผลักลงไปในสระน้ำ โชคดีที่ไรส์ตั้งตัวทันและดึงร่างของเด็กสาวคนนั้นตามลงน้ำไปได้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรนัก เพราะชั่วอึดใจต่อมาเธอก็โดนจับเอาหัวกดน้ำจนเหมือนจะสลบไปรอบหนึ่ง ตอนนั้นเขาได้แต่มองเด็กสาวทั้งสองที่สู้กันในน้ำ เพราะพวกเธอเหมือนจะไม่รับรู้เลยว่ามีพวกปลาประหลาดอยู่ร่วมในนั้นด้วย

     

    เด็กสาวคนนั้นถีบตัวแบบกึ่งวิ่งในน้ำ มุ่งหน้ามายังขอบสระ เธอตั้งใจจะขึ้นมาโดยไม่ใช้บันไดจึงตรงเข้ามาหาเด็กหนุ่มทันที ขาที่แข็งอยู่เมื่อกี้ถูกสัญชาติญาณสั่งให้ถอยกลับทันที ไรส์ยังไม่ขึ้นมา อย่าบอกนะว่า...

     

    เขานึกไปถึงเรื่องที่เคยได้ยินนาโนบอกว่าไรส์เคยจมน้ำขึ้นมา

     

    จ๋อม ซ่า

     

    “.....!!”

     

    เด็กสาวในชุดนักเรียนของมารีอาน่าคอนแวนต์ที่ขึ้นจากน้ำมาแล้วครึ่งตัวชะงัก เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่างที่แผ่นหลัง มือข้างหนึ่งโผล่ออกมาจากน้ำ กำเส้นผมสีหยกไว้แน่น พริบตาต่อมาใบหน้าของเด็กสาวที่มีรอยข่วนจนเลือดซิบก็โผล่ขึ้นมา เธอยิ้มแบบที่มองก็รู้ว่ากำลังโมโหสุด ๆ

     

    “จะไปไหนล่ะธัญญ์ ลากฉันลงสระน้ำ แต่จะขึ้นจากน้ำก่อนเนี่ยเสียมารยาทนะ”

     

    “กรี๊ด!!”

     

    ธัญญ์กรี๊ดออกมาเมื่อถูกกระชากผมจนหน้าหงาย เด็กสาวเสียหลักตกลงไปในน้ำ เธอดิ้นจนผมหลุดเป็นกระจุกแต่ไรส์ก็ไม่ยอมปล่อยมือง่าย ๆ เธอกระชากผมสีหยกนั่นแรงขึ้นอีก แม้จะถูกหยิกหรือข่วนจนเลือดอาบกว่าเดิมก็ไม่ปล่อย

     

    “เอาล่ะ นี่มันเรื่องอะไรน่ะธัญญ์ ฉันไปทำอะไรให้เธอโกรธรึไง?”

     

    “เจ๊ไรส์ปล่อยนะ!!! ปล่อยฉัน!!”

     

    “ตอบฉันก่อนสิ อ่า ล้างหน้าหน่อยไหม?”

     

    ซ่า!!!

     

    “แค่ก! แค่ก ๆๆ...อุ๊ก!”

     

    ว่าจบเธอก็กระชากหัวเด็กสาวกดลงไปในน้ำแล้วกระชากกลับขึ้นมา “คงเข้าใจแล้วใช่ไหมว่ากดหัวลงน้ำเนี่ยไม่สนุกเลยนะ เอาล่ะทีนี้จะบอกได้รึยังว่าทำไมต้องเหวี่ยงฉันลงน้ำด้วย?”

     

    “อึก... อ...อ๊า!! อ๊าาาาาาาาาาาาา!!!!!!”

     

    “เฮ้ย! จะร้องทำไมยัยธัญญ์ โอ๊ย! เจ็บนะว้อย!!”

     

    จู่ ๆ ธัญญ์ก็แผลงฤทธิ์ด้วยการกรีดร้องลั่นแล้วก็ดิ้นรน ทั้งกัดแล้วก็ข่วนคนที่ล็อคแขนเธออยู่ ท้องแขนของไรส์เกิดแผลสดใหม่ขึ้น เลือดไหลซิบจากปากแผลนั่น ยิ่งธัญญ์ดิ้นทำให้น้ำในสระถูกปากแผลก็ยิ่งแสบ ไรส์เริ่มวางแผนว่าอยากจะสับก้านคอให้ธัญญ์สลบจึงยกมือขึ้น

     

    “หยุดก่อนไรส์!”

     

    เสียงของเด็กหนุ่มร้องขัด เขาหอบหายใจทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ออกแรงเท่าเธอที่อยู่ในสระทำให้ไรส์หรี่ตามอง เธอเบ้หน้าให้คนที่อยู่สูงกว่าตัวเอง

     

    “หืม อะไรล่ะภูมิ? นายก็เห็นว่ายัยนี่สติแตกไปแล้ว ฉันไม่สนหรอกนะว่าเพื่อนสนิทของยัยนี่อย่างเอวาจะโกรธน่ะ”

     

    “ช่างเรื่องนั้นก่อน ขึ้นมาจากน้ำเดี๋ยวนี้!!!!”

     

    “หา?.....”

     

    พลันสังหรณ์ร้ายก็วูบไหวผ่านไป ความรู้สึกเย็น ๆ ลูบไล้แผ่นหลังทำให้ขนลุกซู่ ไรส์นิ่งค้าง เผลอปล่อยมือจากธัญญ์ แต่ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจเด็กสาวผมหยกอีกแล้ว เธอค่อย ๆ หันหลังไปช้า ๆ ดวงตาสีอำพันเบิกกว้าง

     

    ฝูงปลาสีสันสดใสว่ายมารวมตัวกัน สีที่ชวนให้นึกถึงลางร้ายนั้นแผ่กว้าง เท่าที่กะด้วยตา น่าจะมีเกือบร้อยตัว ปลาตัวใหญ่และปลาตัวเล็ก พวกมันสะบัดครีบ ดวงตาของมนุษย์จ้องเขม็งมาที่เธอ

     

    ราวกับตื่นขึ้นมาด้วยกลิ่นของเลือด

     

    นั่นเป็นลางร้ายอย่างชัดเจน ไม่ต้องรอให้ภูมิพูดเร่งอีกครั้ง ไรส์ก็รีบถีบตัวขึ้นจากน้ำทันที เธอหันไปมองธัญญ์ที่จ้องมองสัตว์ประหลาดนั้นอย่างเหม่อลอย ไรส์จิ๊ปากแล้วทิ้งร่างกลับลงไปในน้ำอีกครั้ง

     

    ยัยบ้าธัญญ์ เหม่ออะไรวะเนี่ย!

     

    ไรส์สบถในใจเมื่อเด็กสาวผมหยกไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัว เธอเดินเร็ว ๆ ในน้ำ ก่อนที่มือจะไปคว้าคอธัญญ์มาก็มีเสียงขานทำนองดังขึ้นก่อน

     

    “โพงพางเอ๋ย ปลาเข้าลอด ปลาตาบอด ไม่ไหนไม่รอด.... โพงพาง

    ปลาเป็นหรือปลาตาย?”

     

    เสียงลึกลับนั้น.. แม้ว่าไรส์จะหันมองรอบ ๆ ก็หาที่มาไม่ได้ เธอทำใจหันไปมองฝูงปลาข้างหน้า ดวงตาที่สงบนิ่งยังจ้องมอง พวกมันไม่ขยับสักนิดเลย เพราะรู้สึกโล่งใจขึ้นมานิดหน่อย ไรส์จึงจับมือธัญญ์แล้วรีบพาไปขอบสระน้ำ

     

    “ปลา..เป็น.....”

     

    ธัญญ์จ้องมองดวงตาพวกนั้น แล้วก็พึมพำเหมือนละเมอ พวกปลาหยุดสะบัดครีบตอบสนองคำพูดนั้น เป็นสัญญาณร้ายมากกว่าดี ไรส์ตัดสินใจใช้กำลังฉุดกระชากธัญญ์ไปจากตรงนั้นทันที และลางสังหรณ์ของเธอก็ถูกต้อง ฝูงปลาสะบัดครีบเข้าใส่ด้วยความเร็วน่ากลัว ที่ปากเกิดรอยปริขึ้น แล้วปากของมนุษย์ก็แหวกออกมาจากรอยแยกนั้น ปลาตัวใหญ่อ้าที่กว้างกว่าตัวมันเอง ไรส์คิดอย่างร้อนรนว่าขนาดของขากรรไกรนั่น หากมาถึงตัวคงจะบั่นคอขาดได้ในครั้งเดียว โชคดีที่ปลาตัวใหญ่พวกนั้นว่ายน้ำอย่างเชื่องช้า กะเอาแล้วเธอคงจะไปถึงฝั่งก่อนแน่นอน

     

    “ธัญญ์! โว้ย ให้ความร่วมมือหน่อยสิวะ! จะตายห่ากันหมดอยู่แล้ว มือไม่พายก็อย่าเอาเท้าราน้ำ!!!” 

     

    เพราะต้องวิ่งคนเดียวก็ลำบากพอแล้ว ดังนั้นเมื่อธัญญ์แสดงปฏิกิริยาต่อต้านด้วยการกัดแขนของไรส์และพยายามจะว่ายน้ำไปหาฝูงปลาอย่างบ้าคลั่ง ไรส์คิดว่าควรลงข้อสรุปไว้ ณ ตอนนี้ได้แล้วว่าธัญญ์นั้นเสียสติไปเรียบร้อย เธอฝืนดึงร่างของเด็กสาวไปอย่างทุลักทุเล เมื่อใกล้ถึงขอบสระก็ตะโกนออกไป

     

    “ภูมิ!! รับหน่อย!”

     

    “ห..หะ รับอะไร? อ๊ะ! เฮ้ย!!! โยนขึ้นมาแบบนี้เลยหรอ! เดี๋ยวธัญญ์ก็เป็นแผลหรอก!?”

     

    “แกจะห่วงแผลถลอกหรือชีวิต!! ดึงขึ้นไปเลย! โว้ย ยัยธัญญ์ อย่าดึงผมสิวะ!!!”

     

    เกิดความวุ่นวายขนาดย่อมขึ้นเมื่อไรส์ดันตัวธัญญ์ออกจากสระน้ำโดยเจ้าตัวไม่ยินยอม ทำให้ต้นขาของเธอถูกขอบสระครูดเป็นรอดยาว เลือดไหลซึมออกจากแผลนั้นหยดลงน้ำ พวกปลาตัวเล็กยิ่งสะบัดครีบอย่างดุเดือดราวกับกระหายในเลือดนั้น เสียงน้ำถูกแหวกกระจายทำให้ไรส์รีบดึงตัวเองขึ้นจากน้ำ แต่เพราะออกแรงมากเกินไปทำให้แขนขาหมดแรง

     

    อ๊ะ... ซวยขนานแท้แล้วมั้ง?

     

    เมื่อหันไป ปลาตัวเล็กก็พุ่งเข้ามาอยู่ในระดับสายตา หากปัดไม่ทัน ลูกตาคงถูกกัดไปแน่ ๆ ไรส์รีบรวบรวมเรี่ยวแรงปีนขึ้นไปบนขอบสระอีกครั้ง เงาดำทาบทับเข้ามา แล้วมือผอม ๆ ก็เอื้อมมาหา ดวงตาสีอำพันมองเจ้าของมือนั้น

     

    “ฮึ....ฮึฮึ.....”

     

    ซ่า!

     

    ธัญญ์หัวเราะในลำคอ เธอจิกเล็บลงบนหลังมือของไรส์ แล้วก็ผลักไรส์กลับลงไปในสระ น้ำสาดกระจาย มีกลิ่นคลอรีนคลุ้งขึ้นมา ภูมิตกใจการกระทำนั้น และตกใจมากกว่าเดิมที่ข้อมือผอม ๆ ข้างนั้นคว้าแขนเขาไว้แล้วจับเขาทุ่มลงน้ำ ลำพังพละกำลังของเด็กผู้หญิงไม่สามารถทุ่มร่างเขาลงไปในสระน้ำได้หรอก แต่เพราะความประมาทและการจู่โจมทีเผลอทำให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย

     

    “ฮึ...ฮึฮึ.....ฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึ.......อ๊า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!!!!!”

     

    เด็กสาวระเบิดเสียงหัวเราะเหมือนเสียสติไปแล้ว ปลายเล็บครูดไปบนปากแผลของตัวเองแล้วขูดเลือดออกมา ดวงตาสีหยกเบิกกว้างเหมือนสัตว์ป่า สำรากเสียงหัวเราะออกมาไม่หยุด

     

    “เออ เอาที่หล่อนสบายใจเถอะ”

     

    เมื่อไรส์รู้สึกว่าอีนี่มันเกินเยียวยาแล้วเลยตอบไปแบบส่ง ๆ เธอหันไปจดจ่อกับพวกปลาทันที มือเธอคว้าคอภูมิให้ว่ายไปที่บันไดขึ้นสระพร้อมกัน พอเป็นแบบนั้น ธัญญ์ก็หยุดหัวเราะทันที

     

    “ทำไมล่ะ...ทำไมล่ะ ทำไมล่าาาาาา ท..ทุกคนน่ะ ทุกคนจะต้องตายนะ! รีบ ๆ ตายซี่ ตายตอนนี้เลยซี่ อา ทุกคนจะตายไม่ใช่หรอ เพื่อน บอกแล้วนี่นา มันเป็นวิวรณ์นะ ห้ามขัดขืนนะ ยอมรับการลงทัณฑ์เถอะนะ?”

     

    เสียงของธัญญ์เปลี่ยนไปมาเหมือนมีคนพูดมากกว่าหนึ่งคน มือทั้งสองข้างขูดแก้มจนเลือดอาบ หยดสีแดงร่วงลงเป็นดวง ๆ บนพื้น ดวงตาสีหยกมองหยดเลือดชั่วครู่ ก่อนริมฝีปากจะแสยะกว้าง เธอจุ่มนิ้วลงไปในน้ำ ปลาตัวเล็กจำนวนหนึ่งว่ายเข้ามาหาเพราะกลิ่นเลือด พวกมันอ้าปากของมนุษย์แล้วกัดนิ้วของเธอ นิ้วก้อยผอม ๆ ข้อหนึ่งหายเข้าไปในปากปลา แต่ธัญญ์ไม่ได้ใส่ความเจ็บนั้น แล้วดึงปลาที่มีขนาดเท่าฝ่ามือขึ้นมา

     

    รอยยิ้มที่กุมความประสงค์ร้ายขยายกว้าง เธอขว้างปลาตัวนั้นไปทางเด็กสาวผมน้ำเงินที่อยู่ในสระ!

     

    “โอ๊ย!!!”

     

    เจ้าปลารีบคายนิ้วที่อยู่ในปากทันทีเมื่อเห็นเหยื่อใหม่ มันอ้าปากกว้างแล้วกัดใบหูซ้ายของไรส์เข้าไป เธอพยายามจะดึงมันออกแต่ยิ่งดึงปลาก็ยิ่งทิ้งขากรรไกรลงทึ้งใบหูของเธอแรงมากขึ้น ไรส์ส่งเสียงลอดไรฟัน แล้วกลั้นใจกระชากปลาตัวนั้นออกเต็มแรง

     

    “อั่ก..ขึก....!!”

     

    ไรส์ขว้างปลาตัวนั้นออกไป ความเจ็บปวดที่ถูกเนื้อตัวเองออกทำเอาน้ำตาเล็ด เลือดคาวคลุ้งไหลทะลักจากหูที่ถูกฉีกขาด เนื้อยุ่ย ๆ เหมือนสำลีลอยในน้ำ ทำให้น้ำนั้นดูแดงขึ้นทันตา เธอกุมหูข้างซ้ายที่ถูกกัดขาดไว้ ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าพวกปลากำลังรุมทึ้งหูของเธออยู่ ไรส์กัดฟันแล้วรีบขึ้นจากสระด้วยความช่วยเหลือของภูมิ

     

    เมื่อขึ้นจากสระได้ ทั้งสองคนก็รีบถอยห่างจากสระน้ำทันที เพราะกลัวว่าปลาพวกนั้นจะกระโดดขึ้นมาอีก ขอบคุณที่สามัญสำนึกของปลายังทำงานได้ดี พวกมันจึงไม่ขึ้นมาจากน้ำอย่างที่คิด พวกปลาสีแดงว่ายวนไปมาเหมือนไม่พอใจ

     

    “ร..ไรส์ หูเป็นยังไงบ้าง?”

     

    “เจ็บดิ ถามโง่ ๆ ”

     

    ภูมิเหงื่อตกเมื่อถูกด่ามาแทบจะทันที แต่ก็ไม่ว่าอะไรเพราะสีหน้าอีกฝ่ายที่ดูจะอดกลั้นการกรีดร้องตะโกนเอาไว้ ปากแผลยังมีเลือดไหลเป็นทาง ความเจ็บปวดและการเสียเลือดทำให้แผลนั้นร้อนอย่างกับไฟเผา ประสาทการได้ยินของหูซ้ายก็ขาดหาย ดูท่าว่าหูข้างนี้จะใช้การไม่ได้แล้ว แต่ไรส์ก็ไม่ได้คร่ำครวญอะไรกับเรื่องนั้น เธอหันไปมองธัญญ์อย่างเอาเรื่อง เด็กสาวผมหยกรับสายตาทิ่มแทงสีอำพันไว้ด้วยรอยยิ้ม

     

    “พูดตามตรงว่าฉันอยากต่อยหน้ามัน”

     

    “จ..ใจเย็นนะไรส์”

     

    “อืม แต่ฉันจะไม่ทำ เพราะมันไม่มีประโยชน์” ธัญญ์ที่แสยะยิ้มถูกใจเมื่อถูกบอกว่าจะโดนทำร้ายร่างกายหุบยิ้มทันที เธอทำหน้าบึ้งเหมือนเด็กอารมณ์เสีย “เอาล่ะ ทีนี้ก็ไสหัวไป...”

     

    “อ๊า! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!”

     

    “ธัญญ์!”

     

    “บ้าเอ๊ย! ลิ้นหรอ!!”

     

    จากที่ตอนแรกจะไล่ไป แต่เมื่อธัญญ์กรีดร้องแล้วล้มลงไปนอนชักกับพื้น เธอก็ต้องรีบพุ่งเข้าไป ฟองเลือดสีแดงไหลย้อยจากมุมปาก ไรส์สบถเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้พลางสอดชายเสื้อเข้าไปในปากเธอไม่ให้ทำร้ายร่างกายตัวเองไปมากกว่านี้ เลือดที่ไหลจากตัวของทั้งคู่ผสมกัน ธัญญ์นั้นเสียเลือดจากการกัดลิ้นและที่นิ้วก้อยทำให้เริ่มหมดแรง ดวงตาสีหยกเหลือกขึ้นก่อนจะสลบไปทั้งอย่างนั้น ไรส์เห็นว่าเธอสงบลงแล้ว จึงตั้งใจจะไปทำแผลของตัวเอง แต่ยังไม่ทันจะลุกขึ้น ก็หน้ามืดล้มลง

     

    “อ่า...ให้ตายสิ ใช้แรงเยอะแล้วก็เลือดออกขนาดนี้ อูย..ไม่ไหวแล้ว”

     

    ถึงไรส์จะมีแผลน้อยกว่าธัญญ์ แต่ปริมาณเลือดที่เสียไปมากกว่า เธอรับรู้ถึงสัญญาณอันตรายที่ข้ามขีดความปลอดภัยไปไกลแล้ว พยายามมองหาของที่จะห้ามเลือดได้รอบ ๆ

     

    “..ไ...ร.....นี่......ย่า....ห...ลับ....นะ.....”

     

    เสียงของเด็กหนุ่มผู้ร่วมชะตาอีกคนห่างไกลไปทุกที สติเริ่มค่อย ๆ เลือนหายไป ร่างของเธอล้มกระแทกลงบนพื้นที่นองไปด้วยเลือด

     

    ไม่ใช่—

     

    สัมผัสที่นุ่มนิ่มเกินกว่าจะเป็นพื้นแข็ง ๆ ทำให้ไรส์ฝืนลืมตาขึ้นมอง เด็กสาวคนหนึ่งนั่งพับเพียบอยู่ ผมหางม้าสีทองแกว่งไกว เธอคนที่คุ้นตามีสีหน้ากังวลเล็กน้อย ไรส์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมาอยู่ที่ตอนไหนและได้ยังไง

     

    ทว่าความรู้สึกโล่งใจทำให้เธอปล่อยตัว และทิ้งสติไปอย่างง่ายดาย

     

    ฝ่ายภูมิก็กำลังมองผู้มาใหม่ที่ข้ามมาจากประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยสีหน้าตะลึง เด็กหนุ่มที่มาพร้อมเด็กสาวผมหางม้าขยี้ผมสีส้มทองของตัวเอง เขามีสีหน้ายุ่งยากใจเมื่อมองร่างเด็กสาวที่สลบไปแล้วทั้งสอง

     

    “เมก้า!!”

     

    “อ่า...หวัดดีภูมิ ตอนแรกก็จะถามแหละว่าเป็นไรไหม แต่เลือดสาดกระจายแบบนี้น่าจะเป็นคำถามล่อเท้ามากกว่าแสดงความเป็นห่วง ก่อนอื่นก็...ทำแผลก่อนละกัน”

     

    เมก้าเบือนหน้าหนีจากกองเลือด เขารวบรวมสติพยายามไม่สนใจกลิ่นคาวคลุ้งจากบาดแผลของทั้งคู่แล้วเดินไปหาเด็กสาวผมทอง ภูมิเพิ่งสังเกตว่าเขาพกกล่องสีดำมาด้วย ดูจากรูปร่างแล้ว ต้องเป็นกล่องพยาบาลแน่ ๆ เขายื่นกล่องนั้นให้คนที่นั่งให้ผู้บาดเจ็บนอนหนุนตัก

     

    “ฝากด้วยนะตอง เดี๋ยวเราไปทแผลหธัญญ์ก่อน”

     

    “อื้อ.. จะพยายามนะ”

     

    ทั้งสองแยกกันไปทำแผลให้คนเจ็บโดยที่ภูมิได้แต่นั่งมองเพราะไม่มีอะไรให้ช่วย ดวงตาสีดำนั้นทำได้เพียงมองไปยังสระน้ำด้วยความหวาดระแวง ผิวน้ำสีดำเงียบสนิท พวกปลาสงบลงราวกับไม่เคยมีตัวตน ทว่า.. ด้วยสัญชาติญาณเร้นลับบางอย่าง ภูมิรู้สึกว่าพวกมันยังไม่ไปไหน

     

     

    ----------------

     

     

    ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกที่ถูกลืม!!”

     

    โลกนี้ถูกเรียกว่า ███████████ นั่นสินะ โลกที่ถูกทอดทิ้งก็ไม่ใช่ชื่อที่ผิดนักหรอก เพราะโลกใบนี้█████จาก██████ ของที่อยู่ในนี้ก็เป็นของที่ไม่มีใครต้องการ

     

    ที่นี่เวลาถูกหยุดเอาไว้ ดวง████สีขาวถูกแช่แข็ง ทั้งที่ส่องแสงแรงกล้าแต่ก็รูสึกราวกับว่านั่นเป็นเพียงภาพเขียนเล่นบนอากาศ

     

    โลกสี███แผ่กว้างออกไปไม่สิ้นสุด สีสันนั้นคล้ายกับดวงดาวที่แห้งตาย

     

    แล้วก็เป็นสีแห่งความสิ้นหวัง ที่เลือดหลั่งละเลงเต็มพื้น

     

    ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่อาจให้อภัยได้ ฉันจะ█████แทนพวกเธอ กุมมือเพื่อน ๆ ที่เหลือกันเพียง คนไว้แล้วพวกเราก็มุ่งหน้าไป█████ แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าโลกนี้คืออะไรแล้วจากปากของ████ ทว่าพวกเราไม่มีทางจะถอยกลับไปได้อีก

     

    นี่คงเป็นความปรารถนาของใครบางคน คนที่███████กับโศกนาฏกรรมและความทุกข์ ████น้ำตาของคนอื่นด้วย█████

     

    ทว่าเมื่อมองไปข้างหลัง ██████ของพวกเราก็เป็นสีแดง

     

    ██████ได้เลือนหายไปจนหมดแล้ว

     

    คนทรยศ— ██████ ต่อไป เพราะว่าทุกคน████████ ต่อให้ร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้งก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงนั้นได้ นี่คือเกมที่พวกเราเข้าร่วม หากแพ้█████จะ█████████

     

    แต่หากชนะ จะมีวันพรุ่งนี้รออยู่ใช่ไหม?


     

     ----------------

    ASHLEY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×