คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : My Best Friend 8 : Relegate
My Best Friend
8
Relegate ; ผลักไส
“ เออ เอาที่หล่อนสบายใจเถอะ
”
โลกสีขาวทอดยาวออกไป
ราวกับถูกหิมะถม
เด็กสาวคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น
สีสันโดดเด่นเหมือนถูกทอดทิ้ง ไม่ว่าจะสีของเนื้อ เส้นผม ริมผีปาก
กระทั่งลูกตาก็ดูโดดขึ้นมา ถ้าจะให้เทียบก็คงนึกถึงตัวละครภาพสีบนหน้ากระดาษสีขาว
เธอยืนอยู่อย่างไร้ชีวิต
ราวกับเป็นตุ๊กตา หรือไม่ก็มนุษย์ที่ลืมวิธีหายใจ ดวงตาสีอำพันมองตรงไปข้างหน้า
ก่อนจะขยับวูบไหวเมื่อสังเกตบางอย่าง
ที่ปลายสายตา
มีร่างสีขาวนั่งจมอยู่กับพื้นที่เหมือนหิมะ สีนั้นกลมกลืนจนแทบแยกไม่ออกว่าร่างนั้นเป็นของจริงหรือภาพลวงตาหรือความฝัน?
เธอเคลื่อนไหวเข้าใกล้ร่างนั้นเหมือนถูกดูด ดวงตาที่หลับพริ้มไม่รู้ตัวกลับมีสัมผัสแห่งชีวิตชุ่มชื่นมากกว่าเด็กสาวผมน้ำเงินเสียอีก
ร่างที่มีบรรยากาศอบอุ่นคล้ายเทพธิดาเชื้อเชิญให้เอื้อมมือไปสัมผัส
“..!”
พริบตาที่มือเกือบจะแตะโดนเส้นผมสีขาวโพลน
เธอก็ลืมตาคู่นั้นขึ้น ดวงตาสีทองหม่นแฝงประกายอ่อนโยนกะพริบสองสามครั้ง
แพขนตาสีขาวทำให้ผู้ที่ถือวิสาสะเอื้อมมือไปแตะต้องมนตร์สะกด เด็กสาวผมขาวยืดตัวขึ้น
ผิวสีขาว เส้นผม กระทั่งดวงตาดูกลมกลืนราวกับสถานที่นี้ถูกสร้างมาเพื่อเธอ
เป็นตัวตนที่อยู่เหนือการทำความเข้าใจ เด็กสาวนั้นเอียงคอเล็กน้อย
เมื่อเข้าถึงความเข้าใจว่าคนตรงหน้าคือใคร เธอก็ระบายยิ้มที่อ่อนโยน ความอบอุ่นแผ่ออกมาจากใบหน้านั้นกุมหัวใจของคนผมน้ำเงินเข้าอย่างจัง
มือขาว ๆ
ยื่นไปที่แก้มของเธอ
“.....ไรส์”
“!!!”
ก่อนเป้าหมายของมันจะเปลี่ยนไปเป็นลำคอ
มือสีขาวขยุ้มลำคอของไรส์ไว้อย่างจัง ความประสงค์ร้ายแผ่ออกมาจากมือเล็กข้างนั้น
เรี่ยวแรงมหาศาลนั้น ต่อให้เธอใช้สองมือก็แกะมือข้างเดียวของเธอไม่ออก เธอเริ่มดิ้นรนเมื่อขาดอากาศหายใจ
เด็กสาวผมขาวยิ้มอย่างอ่อนโยน
ไม่มีความมุ่งร้ายแผ่ออกมาเลยสักนิด
“ถ้าฉันบีบคอ.. เธอก็จะตายสินะ”
“อุ่ก..แค่ก แค่ก!! ...แค่ก!”
ว่าแล้วมือขาว ๆ ก็ผละไปทำให้ไรส์เสียหลักล้มลง
เธอกุมลำคอที่มีรอยแดงไว้แล้วสำลักอากาศ
เด็กสาวสีขาวกุมมือนั่งพับเพียบอย่างเรียบร้อย มองเธอด้วยแววตาที่ไม่เปลี่ยนไป
ทว่าหากอ่านบรรยากาศได้ คงจะต้องพบความสมเพชอย่างแน่นอน
น้ำเสียงที่อ่อนโยนถักทออย่างไพเราะ
“อา แต่ว่ายังไม่ได้
เธอยังตายไม่ได้นะ รักษาตัวด้วย”
“ก..แก....เป็น.....ใคร?”
เด็กสาวไม่ตอบคำถามของไรส์ที่เพิ่งพ้นจากอาการปางตายของการขาดอากาศ
ริมฝีปากของเธอระบายยิ้มอ่อนโยนเช่นเคย เสียงอันไพเราะเอื้อนทำนองฟังดูทรงพลัง
“I know you, I walked
with you once upon a dream
(ฉันรู้จักเธอ
ฉันเคยเดินเคียงข้างเธอครั้งหนึ่งในฝัน)
I know you, that look
in your eyes is so familiar a gleam
(ฉันรู้จักเธอ
ประกายแสงในดวงตาเธอช่างคุ้นเคย)
And I know it's true
that visions are seldom all they seem
(และฉันรู้ว่ามันคือเรื่องจริง
ที่ว่าทิวทัศน์ที่เห็นคือสิ่งที่พวกเขาอยากให้เป็น)”
“เธอ....”
แสงสีขาวโอบล้อมโลกทั้งใบเข้ามากะทันหัน
สติที่ถูกดึงจนตึงแทบจะขาดหายไปในทันที
แต่ไรส์ประคองมันไว้ได้ก่อนจะถูกช่วงชิงความคิดไป เด็กสาวสีขาวยิ้มอ่อนโยนไม่เปลี่ยนแปลง
ก่อนจะทิ้งคำพูดหนึ่งไว้ก่อนถูกกลืนหายไป
“เธอคงจะลืมฉันไปแล้ว
เพราะงั้นจำให้ขึ้นใจนะครั้งนี้ ฉันน่ะ......”
ซ่า!!
เด็กสาวทะลึ่งพรวดขึ้นมา
ไขว่ขว้าอากาศหายใจ โผล่หัวออกมาจากสระน้ำ ร่างกายส่วนบนตัวมีหยดน้ำเกาะจนชุ่ม
ท่อนล่างก็แช่อยู่ในน้ำ เสี้ยวหน้านั้นดูตื่นตระหนก
ดวงตาสีอำพันขยายกว้าง บรรยากาศที่อยู่รอบ ๆ คือความมืดเงียบ ๆ ที่โอบล้อมเอาไว้ ความเข้าใจขาดหายไปชั่วขณะ
แต่สมองของเธอเรียกความทรงจำกลับคืนอย่างรวดเร็ว
“ไรส์ระวัง!!!!!”
“ฟัก!! อ่อก.......”
จ๋อม ซ่า!!
ไรส์สบถ ในพริบตาที่ความทรงจำชัดเจน
เสียงของผู้ชายและสัมผัสของน้ำก็ตามมา เส้นผมสีน้ำเงินลอยอยู่ในน้ำเหมือนสิ่งมีชีวิต
มือของเด็กสาวปัดป่ายไปคว้าข้อมือผอม ๆ ไว้ เธอดึงแขนของเด็กสาวที่กดหัวเธอลงน้ำแล้วออกแรงกระชากลง
ร่างทั้งสองจมหายไปในสระน้ำ
ซ่า!
น้ำกระเพื่อมเบา ๆ
แล้วก็นิ่งไป ราวกับกลืนกินร่างของทั้งคู่ไปแล้ว เด็กหนุ่มผมดำยุ่ง ๆ ทำท่าร้อนใจ
การเคลื่อนไหวแฝงไปด้วยความลังเล เขากำลังชั่งใจว่าจะโดดตามลงไปช่วยดีไหม
ทว่าดวงตาสีดำเทาเหลืองมองที่ผิวน้ำแล้วกลืนน้ำลาย
สีสันไหวพลิ้วเคลื่อนอยู่ในน้ำ
สิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวในน้ำต้องเป็นสัตว์น้ำแน่ ๆ แต่ว่า...
เด็กหนุ่มมองสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายปลาในสระน้ำ
พวกมันกระจายอยู่เต็มสระอย่างเป็นระเบียบ ครีบสีแดงขยับไหวตามสายน้ำ
แต่ไม่มีทีท่าว่าพวกมันจะขยับตัวเลย ราวกับกำลังเฝ้าสังเกตการณ์... ใช่ ด้วยดวงตาคู่นั้น
ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ราวกับถูกจับตรึง
ดวงตาของมนุษย์ขนาดใหญ่บนลำตัวปลากลอกไปมา
ทว่าเป็นดวงตาที่เรียบเฉยไร้ชีวิต
นั่นเป็นส่วนที่ทำให้ปลาพวกนั้นดูน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเอาชิ้นส่วนของคนตายไปแปะบนสิ่งมีชีวิต
แค่มองก็รู้สึกถึงความหวาดกลัวอย่างรุนแรงจนไม่สามารถขยับแล้ว
มันคือความบิดเบี้ยวอย่างไม่ต้องสงสัย ใบหน้าของเด็กหนุ่มบิดเบี้ยว
ที่จริงแล้วเขาอยากจะวิ่งหนีไปตอนนี้เลย แต่ขาไม่ขยับ
และใจก็รู้ดีว่าหากเปิดประตูสุ่มสี่สุ่มห้าอาจจะเรื่องไม่คาดคิดได้
เหมือนที่ไรส์เปิดประตูห้องเก็บของแล้วมาโผล่ที่สระน้ำแห่งนี้..
ซ่า!
“ฮ่า! ... ฮึฮึ......”
แต่แล้วเขาก็ต้องผละถอยหลังเมื่อร่างเด็กสาวอีกคนที่ถูกลากลงไปใต้น้ำโผล่หัวขึ้นมา
เธอเป็นคนที่โจมตีไรส์จากข้างหลังเมื่อไรส์มาถึงด้วยการผลักลงไปในสระน้ำ โชคดีที่ไรส์ตั้งตัวทันและดึงร่างของเด็กสาวคนนั้นตามลงน้ำไปได้
แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรนัก
เพราะชั่วอึดใจต่อมาเธอก็โดนจับเอาหัวกดน้ำจนเหมือนจะสลบไปรอบหนึ่ง
ตอนนั้นเขาได้แต่มองเด็กสาวทั้งสองที่สู้กันในน้ำ เพราะพวกเธอเหมือนจะไม่รับรู้เลยว่ามีพวกปลาประหลาดอยู่ร่วมในนั้นด้วย
เด็กสาวคนนั้นถีบตัวแบบกึ่งวิ่งในน้ำ
มุ่งหน้ามายังขอบสระ เธอตั้งใจจะขึ้นมาโดยไม่ใช้บันไดจึงตรงเข้ามาหาเด็กหนุ่มทันที
ขาที่แข็งอยู่เมื่อกี้ถูกสัญชาติญาณสั่งให้ถอยกลับทันที ไรส์ยังไม่ขึ้นมา
อย่าบอกนะว่า...
เขานึกไปถึงเรื่องที่เคยได้ยินนาโนบอกว่าไรส์เคยจมน้ำขึ้นมา
จ๋อม ซ่า
“.....!!”
เด็กสาวในชุดนักเรียนของมารีอาน่าคอนแวนต์ที่ขึ้นจากน้ำมาแล้วครึ่งตัวชะงัก
เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่างที่แผ่นหลัง มือข้างหนึ่งโผล่ออกมาจากน้ำ
กำเส้นผมสีหยกไว้แน่น พริบตาต่อมาใบหน้าของเด็กสาวที่มีรอยข่วนจนเลือดซิบก็โผล่ขึ้นมา
เธอยิ้มแบบที่มองก็รู้ว่ากำลังโมโหสุด ๆ
“จะไปไหนล่ะธัญญ์
ลากฉันลงสระน้ำ แต่จะขึ้นจากน้ำก่อนเนี่ยเสียมารยาทนะ”
“กรี๊ด!!”
ธัญญ์กรี๊ดออกมาเมื่อถูกกระชากผมจนหน้าหงาย
เด็กสาวเสียหลักตกลงไปในน้ำ เธอดิ้นจนผมหลุดเป็นกระจุกแต่ไรส์ก็ไม่ยอมปล่อยมือง่าย
ๆ เธอกระชากผมสีหยกนั่นแรงขึ้นอีก แม้จะถูกหยิกหรือข่วนจนเลือดอาบกว่าเดิมก็ไม่ปล่อย
“เอาล่ะ
นี่มันเรื่องอะไรน่ะธัญญ์ ฉันไปทำอะไรให้เธอโกรธรึไง?”
“เจ๊ไรส์ปล่อยนะ!!! ปล่อยฉัน!!”
“ตอบฉันก่อนสิ อ่า
ล้างหน้าหน่อยไหม?”
ซ่า!!!
“แค่ก! แค่ก ๆๆ...อุ๊ก!”
ว่าจบเธอก็กระชากหัวเด็กสาวกดลงไปในน้ำแล้วกระชากกลับขึ้นมา
“คงเข้าใจแล้วใช่ไหมว่ากดหัวลงน้ำเนี่ยไม่สนุกเลยนะ
เอาล่ะทีนี้จะบอกได้รึยังว่าทำไมต้องเหวี่ยงฉันลงน้ำด้วย?”
“อึก... อ...อ๊า!! อ๊าาาาาาาาาาาาา!!!!!!”
“เฮ้ย! จะร้องทำไมยัยธัญญ์ โอ๊ย! เจ็บนะว้อย!!”
จู่ ๆ
ธัญญ์ก็แผลงฤทธิ์ด้วยการกรีดร้องลั่นแล้วก็ดิ้นรน
ทั้งกัดแล้วก็ข่วนคนที่ล็อคแขนเธออยู่ ท้องแขนของไรส์เกิดแผลสดใหม่ขึ้น
เลือดไหลซิบจากปากแผลนั่น ยิ่งธัญญ์ดิ้นทำให้น้ำในสระถูกปากแผลก็ยิ่งแสบ
ไรส์เริ่มวางแผนว่าอยากจะสับก้านคอให้ธัญญ์สลบจึงยกมือขึ้น
“หยุดก่อนไรส์!”
เสียงของเด็กหนุ่มร้องขัด
เขาหอบหายใจทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ออกแรงเท่าเธอที่อยู่ในสระทำให้ไรส์หรี่ตามอง เธอเบ้หน้าให้คนที่อยู่สูงกว่าตัวเอง
“หืม อะไรล่ะภูมิ?
นายก็เห็นว่ายัยนี่สติแตกไปแล้ว
ฉันไม่สนหรอกนะว่าเพื่อนสนิทของยัยนี่อย่างเอวาจะโกรธน่ะ”
“ช่างเรื่องนั้นก่อน
ขึ้นมาจากน้ำเดี๋ยวนี้!!!!”
“หา?.....”
พลันสังหรณ์ร้ายก็วูบไหวผ่านไป
ความรู้สึกเย็น ๆ ลูบไล้แผ่นหลังทำให้ขนลุกซู่ ไรส์นิ่งค้าง เผลอปล่อยมือจากธัญญ์ แต่ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจเด็กสาวผมหยกอีกแล้ว
เธอค่อย ๆ หันหลังไปช้า ๆ ดวงตาสีอำพันเบิกกว้าง
ฝูงปลาสีสันสดใสว่ายมารวมตัวกัน
สีที่ชวนให้นึกถึงลางร้ายนั้นแผ่กว้าง เท่าที่กะด้วยตา น่าจะมีเกือบร้อยตัว ปลาตัวใหญ่และปลาตัวเล็ก
พวกมันสะบัดครีบ ดวงตาของมนุษย์จ้องเขม็งมาที่เธอ
ราวกับตื่นขึ้นมาด้วยกลิ่นของเลือด
นั่นเป็นลางร้ายอย่างชัดเจน
ไม่ต้องรอให้ภูมิพูดเร่งอีกครั้ง ไรส์ก็รีบถีบตัวขึ้นจากน้ำทันที เธอหันไปมองธัญญ์ที่จ้องมองสัตว์ประหลาดนั้นอย่างเหม่อลอย
ไรส์จิ๊ปากแล้วทิ้งร่างกลับลงไปในน้ำอีกครั้ง
ยัยบ้าธัญญ์
เหม่ออะไรวะเนี่ย!
ไรส์สบถในใจเมื่อเด็กสาวผมหยกไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัว
เธอเดินเร็ว ๆ ในน้ำ ก่อนที่มือจะไปคว้าคอธัญญ์มาก็มีเสียงขานทำนองดังขึ้นก่อน
“โพงพางเอ๋ย ปลาเข้าลอด
ปลาตาบอด ไม่ไหนไม่รอด.... โพงพาง
ปลาเป็นหรือปลาตาย?”
เสียงลึกลับนั้น..
แม้ว่าไรส์จะหันมองรอบ ๆ ก็หาที่มาไม่ได้ เธอทำใจหันไปมองฝูงปลาข้างหน้า ดวงตาที่สงบนิ่งยังจ้องมอง
พวกมันไม่ขยับสักนิดเลย เพราะรู้สึกโล่งใจขึ้นมานิดหน่อย
ไรส์จึงจับมือธัญญ์แล้วรีบพาไปขอบสระน้ำ
“ปลา..เป็น.....”
ธัญญ์จ้องมองดวงตาพวกนั้น
แล้วก็พึมพำเหมือนละเมอ พวกปลาหยุดสะบัดครีบตอบสนองคำพูดนั้น เป็นสัญญาณร้ายมากกว่าดี
ไรส์ตัดสินใจใช้กำลังฉุดกระชากธัญญ์ไปจากตรงนั้นทันที
และลางสังหรณ์ของเธอก็ถูกต้อง ฝูงปลาสะบัดครีบเข้าใส่ด้วยความเร็วน่ากลัว ที่ปากเกิดรอยปริขึ้น
แล้วปากของมนุษย์ก็แหวกออกมาจากรอยแยกนั้น ปลาตัวใหญ่อ้าที่กว้างกว่าตัวมันเอง
ไรส์คิดอย่างร้อนรนว่าขนาดของขากรรไกรนั่น
หากมาถึงตัวคงจะบั่นคอขาดได้ในครั้งเดียว
โชคดีที่ปลาตัวใหญ่พวกนั้นว่ายน้ำอย่างเชื่องช้า กะเอาแล้วเธอคงจะไปถึงฝั่งก่อนแน่นอน
“ธัญญ์! โว้ย ให้ความร่วมมือหน่อยสิวะ! จะตายห่ากันหมดอยู่แล้ว
มือไม่พายก็อย่าเอาเท้าราน้ำ!!!”
เพราะต้องวิ่งคนเดียวก็ลำบากพอแล้ว
ดังนั้นเมื่อธัญญ์แสดงปฏิกิริยาต่อต้านด้วยการกัดแขนของไรส์และพยายามจะว่ายน้ำไปหาฝูงปลาอย่างบ้าคลั่ง
ไรส์คิดว่าควรลงข้อสรุปไว้ ณ ตอนนี้ได้แล้วว่าธัญญ์นั้นเสียสติไปเรียบร้อย
เธอฝืนดึงร่างของเด็กสาวไปอย่างทุลักทุเล เมื่อใกล้ถึงขอบสระก็ตะโกนออกไป
“ภูมิ!! รับหน่อย!”
“ห..หะ รับอะไร? อ๊ะ! เฮ้ย!!! โยนขึ้นมาแบบนี้เลยหรอ! เดี๋ยวธัญญ์ก็เป็นแผลหรอก!?”
“แกจะห่วงแผลถลอกหรือชีวิต!! ดึงขึ้นไปเลย! โว้ย ยัยธัญญ์ อย่าดึงผมสิวะ!!!”
เกิดความวุ่นวายขนาดย่อมขึ้นเมื่อไรส์ดันตัวธัญญ์ออกจากสระน้ำโดยเจ้าตัวไม่ยินยอม
ทำให้ต้นขาของเธอถูกขอบสระครูดเป็นรอดยาว เลือดไหลซึมออกจากแผลนั้นหยดลงน้ำ
พวกปลาตัวเล็กยิ่งสะบัดครีบอย่างดุเดือดราวกับกระหายในเลือดนั้น
เสียงน้ำถูกแหวกกระจายทำให้ไรส์รีบดึงตัวเองขึ้นจากน้ำ
แต่เพราะออกแรงมากเกินไปทำให้แขนขาหมดแรง
อ๊ะ... ซวยขนานแท้แล้วมั้ง?
เมื่อหันไป
ปลาตัวเล็กก็พุ่งเข้ามาอยู่ในระดับสายตา หากปัดไม่ทัน ลูกตาคงถูกกัดไปแน่ ๆ ไรส์รีบรวบรวมเรี่ยวแรงปีนขึ้นไปบนขอบสระอีกครั้ง
เงาดำทาบทับเข้ามา แล้วมือผอม ๆ ก็เอื้อมมาหา ดวงตาสีอำพันมองเจ้าของมือนั้น
“ฮึ....ฮึฮึ.....”
ซ่า!
ธัญญ์หัวเราะในลำคอ
เธอจิกเล็บลงบนหลังมือของไรส์ แล้วก็ผลักไรส์กลับลงไปในสระ น้ำสาดกระจาย มีกลิ่นคลอรีนคลุ้งขึ้นมา
ภูมิตกใจการกระทำนั้น และตกใจมากกว่าเดิมที่ข้อมือผอม ๆ ข้างนั้นคว้าแขนเขาไว้แล้วจับเขาทุ่มลงน้ำ
ลำพังพละกำลังของเด็กผู้หญิงไม่สามารถทุ่มร่างเขาลงไปในสระน้ำได้หรอก
แต่เพราะความประมาทและการจู่โจมทีเผลอทำให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย
“ฮึ...ฮึฮึ.....ฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึ.......อ๊า
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!!!!!”
เด็กสาวระเบิดเสียงหัวเราะเหมือนเสียสติไปแล้ว
ปลายเล็บครูดไปบนปากแผลของตัวเองแล้วขูดเลือดออกมา ดวงตาสีหยกเบิกกว้างเหมือนสัตว์ป่า
สำรากเสียงหัวเราะออกมาไม่หยุด
“เออ เอาที่หล่อนสบายใจเถอะ”
เมื่อไรส์รู้สึกว่าอีนี่มันเกินเยียวยาแล้วเลยตอบไปแบบส่ง
ๆ เธอหันไปจดจ่อกับพวกปลาทันที มือเธอคว้าคอภูมิให้ว่ายไปที่บันไดขึ้นสระพร้อมกัน พอเป็นแบบนั้น
ธัญญ์ก็หยุดหัวเราะทันที
“ทำไมล่ะ...ทำไมล่ะ ทำไมล่าาาาาา ท..ทุกคนน่ะ ทุกคนจะต้องตายนะ! รีบ ๆ ตายซี่ ตายตอนนี้เลยซี่ อา ทุกคนจะตายไม่ใช่หรอ เพื่อน บอกแล้วนี่นา
มันเป็นวิวรณ์นะ ห้ามขัดขืนนะ ยอมรับการลงทัณฑ์เถอะนะ?”
เสียงของธัญญ์เปลี่ยนไปมาเหมือนมีคนพูดมากกว่าหนึ่งคน
มือทั้งสองข้างขูดแก้มจนเลือดอาบ หยดสีแดงร่วงลงเป็นดวง ๆ บนพื้น ดวงตาสีหยกมองหยดเลือดชั่วครู่
ก่อนริมฝีปากจะแสยะกว้าง เธอจุ่มนิ้วลงไปในน้ำ ปลาตัวเล็กจำนวนหนึ่งว่ายเข้ามาหาเพราะกลิ่นเลือด
พวกมันอ้าปากของมนุษย์แล้วกัดนิ้วของเธอ นิ้วก้อยผอม ๆ ข้อหนึ่งหายเข้าไปในปากปลา
แต่ธัญญ์ไม่ได้ใส่ความเจ็บนั้น แล้วดึงปลาที่มีขนาดเท่าฝ่ามือขึ้นมา
รอยยิ้มที่กุมความประสงค์ร้ายขยายกว้าง
เธอขว้างปลาตัวนั้นไปทางเด็กสาวผมน้ำเงินที่อยู่ในสระ!
“โอ๊ย!!!”
เจ้าปลารีบคายนิ้วที่อยู่ในปากทันทีเมื่อเห็นเหยื่อใหม่
มันอ้าปากกว้างแล้วกัดใบหูซ้ายของไรส์เข้าไป เธอพยายามจะดึงมันออกแต่ยิ่งดึงปลาก็ยิ่งทิ้งขากรรไกรลงทึ้งใบหูของเธอแรงมากขึ้น
ไรส์ส่งเสียงลอดไรฟัน แล้วกลั้นใจกระชากปลาตัวนั้นออกเต็มแรง
“อั่ก..ขึก....!!”
ไรส์ขว้างปลาตัวนั้นออกไป
ความเจ็บปวดที่ถูกเนื้อตัวเองออกทำเอาน้ำตาเล็ด เลือดคาวคลุ้งไหลทะลักจากหูที่ถูกฉีกขาด
เนื้อยุ่ย ๆ เหมือนสำลีลอยในน้ำ ทำให้น้ำนั้นดูแดงขึ้นทันตา เธอกุมหูข้างซ้ายที่ถูกกัดขาดไว้
ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าพวกปลากำลังรุมทึ้งหูของเธออยู่
ไรส์กัดฟันแล้วรีบขึ้นจากสระด้วยความช่วยเหลือของภูมิ
เมื่อขึ้นจากสระได้
ทั้งสองคนก็รีบถอยห่างจากสระน้ำทันที เพราะกลัวว่าปลาพวกนั้นจะกระโดดขึ้นมาอีก ขอบคุณที่สามัญสำนึกของปลายังทำงานได้ดี
พวกมันจึงไม่ขึ้นมาจากน้ำอย่างที่คิด พวกปลาสีแดงว่ายวนไปมาเหมือนไม่พอใจ
“ร..ไรส์
หูเป็นยังไงบ้าง?”
“เจ็บดิ ถามโง่ ๆ ”
ภูมิเหงื่อตกเมื่อถูกด่ามาแทบจะทันที
แต่ก็ไม่ว่าอะไรเพราะสีหน้าอีกฝ่ายที่ดูจะอดกลั้นการกรีดร้องตะโกนเอาไว้ ปากแผลยังมีเลือดไหลเป็นทาง
ความเจ็บปวดและการเสียเลือดทำให้แผลนั้นร้อนอย่างกับไฟเผา ประสาทการได้ยินของหูซ้ายก็ขาดหาย
ดูท่าว่าหูข้างนี้จะใช้การไม่ได้แล้ว แต่ไรส์ก็ไม่ได้คร่ำครวญอะไรกับเรื่องนั้น
เธอหันไปมองธัญญ์อย่างเอาเรื่อง เด็กสาวผมหยกรับสายตาทิ่มแทงสีอำพันไว้ด้วยรอยยิ้ม
“พูดตามตรงว่าฉันอยากต่อยหน้ามัน”
“จ..ใจเย็นนะไรส์”
“อืม แต่ฉันจะไม่ทำ
เพราะมันไม่มีประโยชน์” ธัญญ์ที่แสยะยิ้มถูกใจเมื่อถูกบอกว่าจะโดนทำร้ายร่างกายหุบยิ้มทันที
เธอทำหน้าบึ้งเหมือนเด็กอารมณ์เสีย “เอาล่ะ ทีนี้ก็ไสหัวไป...”
“อ๊า! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!”
“ธัญญ์!”
“บ้าเอ๊ย! ลิ้นหรอ!!”
จากที่ตอนแรกจะไล่ไป
แต่เมื่อธัญญ์กรีดร้องแล้วล้มลงไปนอนชักกับพื้น เธอก็ต้องรีบพุ่งเข้าไป
ฟองเลือดสีแดงไหลย้อยจากมุมปาก ไรส์สบถเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้พลางสอดชายเสื้อเข้าไปในปากเธอไม่ให้ทำร้ายร่างกายตัวเองไปมากกว่านี้
เลือดที่ไหลจากตัวของทั้งคู่ผสมกัน
ธัญญ์นั้นเสียเลือดจากการกัดลิ้นและที่นิ้วก้อยทำให้เริ่มหมดแรง ดวงตาสีหยกเหลือกขึ้นก่อนจะสลบไปทั้งอย่างนั้น
ไรส์เห็นว่าเธอสงบลงแล้ว จึงตั้งใจจะไปทำแผลของตัวเอง แต่ยังไม่ทันจะลุกขึ้น
ก็หน้ามืดล้มลง
“อ่า...ให้ตายสิ
ใช้แรงเยอะแล้วก็เลือดออกขนาดนี้ อูย..ไม่ไหวแล้ว”
ถึงไรส์จะมีแผลน้อยกว่าธัญญ์
แต่ปริมาณเลือดที่เสียไปมากกว่า เธอรับรู้ถึงสัญญาณอันตรายที่ข้ามขีดความปลอดภัยไปไกลแล้ว
พยายามมองหาของที่จะห้ามเลือดได้รอบ ๆ
“..ไ...ร.....นี่......ย่า....ห...ลับ....นะ.....”
เสียงของเด็กหนุ่มผู้ร่วมชะตาอีกคนห่างไกลไปทุกที
สติเริ่มค่อย ๆ เลือนหายไป ร่างของเธอล้มกระแทกลงบนพื้นที่นองไปด้วยเลือด
ไม่ใช่—
สัมผัสที่นุ่มนิ่มเกินกว่าจะเป็นพื้นแข็ง
ๆ ทำให้ไรส์ฝืนลืมตาขึ้นมอง เด็กสาวคนหนึ่งนั่งพับเพียบอยู่ ผมหางม้าสีทองแกว่งไกว
เธอคนที่คุ้นตามีสีหน้ากังวลเล็กน้อย
ไรส์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมาอยู่ที่ตอนไหนและได้ยังไง
ทว่าความรู้สึกโล่งใจทำให้เธอปล่อยตัว
และทิ้งสติไปอย่างง่ายดาย
ฝ่ายภูมิก็กำลังมองผู้มาใหม่ที่ข้ามมาจากประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยสีหน้าตะลึง
เด็กหนุ่มที่มาพร้อมเด็กสาวผมหางม้าขยี้ผมสีส้มทองของตัวเอง เขามีสีหน้ายุ่งยากใจเมื่อมองร่างเด็กสาวที่สลบไปแล้วทั้งสอง
“เมก้า!!”
“อ่า...หวัดดีภูมิ ตอนแรกก็จะถามแหละว่าเป็นไรไหม
แต่เลือดสาดกระจายแบบนี้น่าจะเป็นคำถามล่อเท้ามากกว่าแสดงความเป็นห่วง
ก่อนอื่นก็...ทำแผลก่อนละกัน”
เมก้าเบือนหน้าหนีจากกองเลือด
เขารวบรวมสติพยายามไม่สนใจกลิ่นคาวคลุ้งจากบาดแผลของทั้งคู่แล้วเดินไปหาเด็กสาวผมทอง
ภูมิเพิ่งสังเกตว่าเขาพกกล่องสีดำมาด้วย ดูจากรูปร่างแล้ว ต้องเป็นกล่องพยาบาลแน่
ๆ เขายื่นกล่องนั้นให้คนที่นั่งให้ผู้บาดเจ็บนอนหนุนตัก
“ฝากด้วยนะตอง เดี๋ยวเราไปทแผลหธัญญ์ก่อน”
“อื้อ.. จะพยายามนะ”
ทั้งสองแยกกันไปทำแผลให้คนเจ็บโดยที่ภูมิได้แต่นั่งมองเพราะไม่มีอะไรให้ช่วย
ดวงตาสีดำนั้นทำได้เพียงมองไปยังสระน้ำด้วยความหวาดระแวง ผิวน้ำสีดำเงียบสนิท
พวกปลาสงบลงราวกับไม่เคยมีตัวตน ทว่า.. ด้วยสัญชาติญาณเร้นลับบางอย่าง
ภูมิรู้สึกว่าพวกมันยังไม่ไปไหน
----------------
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกที่ถูกลืม!!”
โลกนี้ถูกเรียกว่า ███████████ นั่นสินะ
โลกที่ถูกทอดทิ้งก็ไม่ใช่ชื่อที่ผิดนักหรอก เพราะโลกใบนี้█████จาก██████ ของที่อยู่ในนี้ก็เป็นของที่ไม่มีใครต้องการ
ที่นี่เวลาถูกหยุดเอาไว้ ดวง████สีขาวถูกแช่แข็ง
ทั้งที่ส่องแสงแรงกล้าแต่ก็รูสึกราวกับว่านั่นเป็นเพียงภาพเขียนเล่นบนอากาศ
โลกสี███แผ่กว้างออกไปไม่สิ้นสุด สีสันนั้นคล้ายกับดวงดาวที่แห้งตาย
แล้วก็เป็นสีแห่งความสิ้นหวัง ที่เลือดหลั่งละเลงเต็มพื้น
ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่อาจให้อภัยได้ ฉันจะ█████แทนพวกเธอ กุมมือเพื่อน ๆ ที่เหลือกันเพียง █ คนไว้แล้วพวกเราก็มุ่งหน้าไป█████ แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าโลกนี้คืออะไรแล้วจากปากของ████ ทว่าพวกเราไม่มีทางจะถอยกลับไปได้อีก
นี่คงเป็นความปรารถนาของใครบางคน คนที่███████กับโศกนาฏกรรมและความทุกข์ ████น้ำตาของคนอื่นด้วย█████
ทว่าเมื่อมองไปข้างหลัง ██████ของพวกเราก็เป็นสีแดง
██████ได้เลือนหายไปจนหมดแล้ว
คนทรยศ— ██████ ต่อไป เพราะว่าทุกคน████████ ต่อให้ร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้งก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงนั้นได้
นี่คือเกมที่พวกเราเข้าร่วม หากแพ้█████จะ█████████
แต่หากชนะ จะมีวันพรุ่งนี้รออยู่ใช่ไหม?
----------------
ASHLEY
ความคิดเห็น