ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Best Friend

    ลำดับตอนที่ #9 : My Best Friend 7 : ต่อให้เป็นวันพรุ่งนี้พระอาทิตย์ก็ไม่ขึ้น

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 56


    My Best Friend 7

    ต่อให้เป็นวันพรุ่งนี้พระอาทิตย์ก็ไม่ขึ้น

     

    “ไปตายซะ ไอ้เดนมนุษย์”

     

     

    “เอ้า! เหลือคุณคนเดียวแล้วนะ!!

     

    เด็กสาวผมสีน้ำเงินหัวเราะ ดวงตาสีอำพันเรืองแสงสีทองในเงามืด ชายหนุ่มผมฟ้ามองขวดที่ตกอยู่บนพื้นด้วยความลังเล ตอนนี้ทั้งตอง โคน แตงโมและนาโนดื่มมันไปกันหมดแล้ว เหลือแค่เขาเท่านั้น

     

    “ไม่...ยังไงก็ไม่ดื่ม”นิธานปฏิเสธเสียงแข็ง

     

    “แหม...น่านับถือจริงๆ”ไรส์ปรบมือก่อนจะชี้เครื่องช็อตไฟฟ้าตรงหน้านิธาน “งั้นช่วยบอกหน่อยว่าคุณชื่ออะไรคะ”

     

    “นิธาน”นิธานตอบ นึกแปลกใจเล็กๆว่าทำไมไรส์ถึงต้องถามชื่อเขาอีกครั้ง หรือว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเขากับไรส์ที่เขาเจอจะเป็นคนละคนกัน

     

    แล้วคนไหนคือตัวจริงล่ะ..?

     

    “หึ...เธอเป็นตัวปลอมสินะ...ไรส์?”นิธานแสยะยิ้ม มองไรส์อย่างท้าทาย

     

    “หือ..ไม่รู้สิ เพราะฉันก็คือฉัน แค่นั้นแหละค่ะ” แทนที่จะสงสัยในท่าทีที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่ม ไรส์กลับยักไหล่แล้วแสยะยิ้มอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า

     

    “คิดว่าจะบังคับให้พี่กินไอ้น้ำบ้าๆนั่นได้หรอ?”นิธานยิ้มเย้ย ว่าจบเขาก็ดีดตัว พุ่งเข้าหาเด็กสาวหมายจะแย่งเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือเธอมา เขาแน่ใจว่ายังไงเด็กสาวตรงหน้าก็ไม่มีทางเร็วไปกว่านักศึกษาหนุ่มแน่นอน

     

    แต่เขาคิดผิดถนัด..

     

    พริบตาที่กำลังจะถึงตัวเด็กสาว เธอกลับหายไปจากระยะสายตา นิธานเห็นเงาบางอย่างวูบผ่านไปทางหางตา เขาจึงหันหลังกลับ ไรส์แสยะยิ้มก่อนจะยื่นมือที่ถือเครื่องช็อตไฟฟ้าไปแตะกับสีข้างของนิธาน

     

    “ลืมบอกไปว่าฉันเป็นหลานของอธิบดีตำรวจนะคะ”

     

    เปรี๊ยะ!!!!

     

    “อั่ก!”นิธานล้มลงบนพื้นไม้ของหอประชุม รู้สึกชาไปทั้งตัวแต่ก็พยายามประคองสติไว้ไม่ให้สลบไป ไรส์หยิบขวดที่เหลือของเหลวสีชมพูอยู่ประมาณ1ใน4ของขวดขึ้นมา ก่อนจะกรอกตัวยาใส่ปากนิธาน เขาพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่ได้ผล

     

    บ้าจริง นี่เราต้องมาตายตรงนี้หรอเนี่ย..

     

    ดวงตาสีน้ำผึ้งมองภาพอันพร่าเลือนของเด็กสาวผมสีน้ำเงิน นิธานคิดก่อนสติจะหลุดลอยออกไป

     

    “...!! อุก!!แค่กๆ แค่ก!!”ไรส์ทรุดตัวลงไอไม่หยุด ปัญญาจึงเดินเข้าไปดูอาการแล้วถามด้วยความเป็นห่วง

     

    “พี่ไรส์ฮะ!เป็นอะไรไหม พี่ไม่น่าฝืนฤทธิ์ยาเลยนะฮะ พักก่อนเถอะ!!”ความเป็นห่วงต่อเด็กสาวผมสีน้ำเงินทั้งหมดสะท้อนออกมาจากดวงตากลมโตสีฟ้า ไรส์ยิ้มน้อยๆก่อนจะหลับตาลง

     

    “งั้นก็ฝากด้วยนะปัญญา...”

     

    ไรส์ปิดตาและหลับไป สาเหตุเป็นเพราะเธอเองก็กินยาสีชมพูจากขวดแก้วนั่นเช่นกัน ปัญญานั่งเฝ้าร่างของไรส์และทั้งห้าคนอย่างใจจดใจจ่อ

     

    ..เหมือนกำลังเฝ้ารออะไรบางอย่าง..

     

     

    .................................................................................

     

     

    “อะ..อึ่ก อั่ก!

     

    เด็กหนุ่มผมดำร้องเบาๆ พยายามแกะมือที่รัดคอเขาอยู่ออก แต่ชายหนุ่มผมวัยกลางคนท่าทางเสียสติกลับยิ่งรัดคอเขาแน่นขึ้น เด็กชายพยายามจะแกว่งขาเพื่อให้ตัวเองหลุดออกจากการพันธนาการ

     

    เขาคือนนท์..

     

    หลังจากเขาวิ่งหนีตองออกมาสักพัก เขาก็ตัดสินใจเดินไปสำรวจห้องคอม แต่โชคไม่เข้าข้างเขา ทันทีที่เดินเข้าไปนนท์ก็ถูกชายแปลกหน้าพุ่งเข้ามาบีบคอโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว นนท์พยายามแกว่งขากลางอากาศเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการ

     

    “ปล่อย...หายใจ..ไม่....ออก..” นนท์เริ่มหมดแรง

     

    “ฮะๆๆๆๆ!!ไปตายซะไอ้น่าโง่ชายหนุ่มออกแรงรัดรอนนท์มากขึ้นอีก นนท์พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง

     

    “อ..อ....อ....ะ”

     

    นนท์ดิ้นอยู่สักพักก่อนจะแน่นิ่งไป ชายหนุ่มเหวี่ยงร่างของเด็กหนุ่มไปติดกำแพง แล้วหันหลังกลับหมายจะเดินออกจากห้อง

     

    พลั่ก!

     

    “อะ!?”

     

    เขาชนกับอะไรบางอย่างจนล้มลงพื้น เขาคิดว่าน่าจะชนคน ชายหนุ่มจึงเงยหน้ามองคนที่อยู่ตรงหน้า

     

    เด็กสาวผมดำดัดเป็นลอนดูสวยมีเสน่ห์ยืนค้ำหัวเขาอยู่ ใบหน้านิ่งๆนั้นไม่สะทกสะท้านแม้ว่าจะเดินชนเขาจนล้มก็ตาม ด้านหลังของเธอมีเด็กสาวอีกคนหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ หากแต่ดวงตาสีกาแฟดูเป็นมิตรและมีสีผิวคล้ำกว่าหน่อยเดียวเท่านั้น เธอชะโงกหน้ามาดูแล้ววิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็วก่อนจะพูดกับแฝดคนพี่ของเธอ

     

    “พี่คะ...เด็กคนนั้นน่ะ”แฝดคนน้องชี้ไปยังร่างของนนท์ที่สลบอยู่ตรงกำแพงก่อนจะกระซิบข้างหูพี่ของเธอเบาๆ

     

    “นี่ หนูๆมาทำอะไรกันตรงนี้จ๊ะ อย่ามาเดินแถวนี้ดีกว่านะ เอางี้..เดี๋ยวลุงเดินไปเป็นเพื่อนดีกว่าเนอะ” ดวงตาสีกาแฟของเด็กสาวทั้งสองมองชายวัยกลางคนอย่างขยะแขยง ชายเสียสติที่แกล้งทำเป็นว่าไม่เป็นอะไร จ้องเรือนร่างของเด็กหญิงในนักเรียนสีดำด้วยสายตาแทะโลมและหื่นกระหาย มันใช้มือที่เต็มไปด้วยขนรุงรังจับมือของแฝดคนพี่ไว้

     

    “พี่คะ หลบหน่อย”

     

    “...?”

     

    แฝดคนน้องพึมพำเบาๆ เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าจึงก้มหัวลงอย่างว่าง่าย ส่วนชายเสียสติก็ยืนนิ่งด้วยความสงสัย แต่ได้แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น..

     

    ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีของเหลวบางอย่างพุ่งใส่ตาเต็มแรง! และความรู้สึกแสบตาก็เข้าเล่นงานเขา ชายวัยกลางคนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เด็กสาวผมดำยกวัตถุในมือขึ้นเขย่าดังแกร๊งๆสองสามที ก่อนจะหยิบเทียนที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมา เธอยกเทียนขึ้นมาจ่อหน้าขวดสเปรย์ฉีดผม ก่อนจะกล่าวคำอำลา..

     

    “ไปตายซะ ไอ้เดนมนุษย์”

     

    ฟู่~~!!!พรึ่บ!

     

    การทำงานร่วมกันของไฟกับสเปรย์ที่เธอพ่นออกมา ทำให้เกิดเปลวไฟเข้าห่อหุ้มร่างของชายหนุ่มไว้ กลิ่นเนื้อไหม้ลอยคลุ้งปนกับกลิ่นควันไฟจนแฝดคนพี่แทบอาเจียน แต่แฝดคนน้องกลับมองศพชายฉกรรจ์ถูกเผาด้วยความสาแก่ใจยิ่ง หลังจากไฟดับก็เหลือเพียงซากศพที่ไหม้เกรียมและหงิกงอ

     

    “อย่างที่คิดจริงๆด้วย เผาไม่ได้แฮะ”แฝดพี่พึมพำ มองไฟที่ดับทันทีเมื่อมันจะลามไปโดนผ้าม่าน ระหว่างนั้นแฝดน้องก็เดินเข้าไปดูนนท์ เธอจับชีพจรเขาก่อนจะหันไปรายงานพี่สาว

     

    “พี่คะ เขายังไม่ตาย แต่สลบไปเฉยๆ”

     

    “อืม งั้นก็ลากไปด้วยเลยละกัน...แถวนี้คนเป็นๆยิ่งหายากอยู่ด้วย”

     

    แฝดพี่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ และคิดว่าคงไม่เป็นไร ยังไงตัวเด็กหนุ่มก็เล็กนิดเดียวอยู่แล้ว ไม่คณามือนักกีฬาเหรียญทองอย่างเธอหรอก

     

    “ค่ะ”

     

    “งั้นก็ไปกันเถอะ..”

     

    เด็กสาวผมดำว่าก่อนจะเดินนำออกจากห้อง โดยมีน้องสาวฝาแฝดของเธอเอาร่างของเด็กหนุ่มที่สลบไม่รู้เรื่อง ขี่หลังตามมาด้วย

     

    .................................................................................

     

     

    “คุณหนูครับ....”เด็กหนุ่มผมสีทองยุ่งไม่เป็นทรงเรียกเดินสาวที่ยืนข้างๆเบาๆ

     

    “เลิกเรียกฉันว่าคุณหนูเถอะ...”เอวาทำหน้านิ่งก่อนจะหันไปพูดกับเมก้าต่อ “ฉันไม่ใช่คุณหนูของนายสักหน่อย...”

     

    “เอ๋?”เมก้าเอ๋อไปชั่วครู่ เอวาจึงพูดต่อ

     

    “เอ่อ..โทษทีนะที่พูดอะไรไม่เข้าท่าน่ะ”เอวารีบขอโทษเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองจะพูดอะไรผิดไป

     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ตั้งแต่วันที่ผมสารภาพรักกับคุณหนู ผมก็อภัยให้ได้ทุกอย่างครับ เพราะผมรักคุณหนู”เมก้ายิ้ม มองเอวาด้วยสายตาอ่อนโยน

     

    .ใช่แล้วทั้งสองคนนี้เป็นแฟนกัน แต่ไม่มีใครรู้เพราะทั้งคู่ปิดมันไว้เป็นความลับ เพราะกลัวจะถูกซักไซ้เรื่องต่างๆ ทั้งคู่จึงต้องคอยหลบสายตาจากคนรอบข้างอยู่เสมอ

     

    “อ..อืม” เอวายิ้มฝืนๆ ทำท่าทางลำบากใจนิดๆ

     

    “งั้นไปกันต่อเถอะครับ....”เมก้าจูงมือเอวาให้เดินไปข้างหน้า เอวาจึงเดินตามไปเงียบๆ

     

     

     

    คิดไปเองรึเปล่านะ?

     

    รู้สึกคุณหนูจะแปลกๆไปแฮะ

     

    หรือว่าจะ...

     

     

    ..คงไม่หรอกมั้ง..

     

     

    “นี่ เมก้า...”เอวาเรียกเบาๆ เมก้าจึงหันกลับมา

     

    “ครับ?”

     

    “คิดว่าฉันผิดไหมที่ให้ทุกคนมาเล่นผีถ้วยแก้วจนหลุดมาอยู่ที่นี่กันหมด แล้วคิดว่าคนอื่นจะให้อภัยฉันไหม..?”เอวาถามเสียงสั่นครือเหมือนจะร้องไห้ ดวงตาสีคาราเมลหลุบมองลงพื้นเหมือนกำลังสำนึกผิด

     

    “...ไม่หรอกครับ เรื่องนี้ไม่มีใครผิดทั้งนั้นแหละ อย่าโทษตัวเองเลยครับ”

     

    “งั้นหรอ...”

     

    เมก้ายิ้มให้เอวาดังเช่นทุกครั้ง เอวาเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้นนิดหน่อยจึงกลับมายิ้มอีกครั้ง เด็กหนุ่มมองรอยยิ้มนั้นอย่างหลงใหล เขารัก..รักมากจริงๆ รอยยิ้มที่เป็นเหมือนแสงอาทิตย์นี้น่ะ..

     

    “เมก้า ตรงนั้นมีแสงไฟนี่นา!!

     

    “อ..หะ..หา ครับ?”

     

    เสียงเอวาโวยวายและสะกิดเขา ทำให้เมก้าหลุดจากภวังค์ เขาจึงมองไปตามที่เอวาชี้ ซึ่งแสงไฟนั้นมาจากทางเชื่อมตึก อาจเป็นแสงเทียนหรือไปฉายเพราะมันขยับไปมาได้

     

    หรือไม่ก็อาจะเป็นวิญญาณ

     

    เอวาสะกิดเมก้าอีกครั้งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น

     

    “ไปดูกันเถอะ!!

     

    “แต่...”

     

    ยังไม่ทันได้พูด เมก้าก็ถูกเอวาดึงเนกไทให้เดินไปด้วยกันเสียแล้ว เมก้าร้องท้วงแต่เอวาไม่สนใจ หรืออาจจะไม่ได้ยินเพราะกำลังอยู่ในห้วงความคิด..

     

    รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีแฮะ..

     

     

    .................................................................................

     

     

    “ชักจะสนุกขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ...”

     

    เพื่อนหมุนเก้าอี้สำนักงานเล่นก่อนจะหยิบสมุดรายชื่อที่เคยทำน้ำหกใส่ออกมาดูว่าแห้งรึยัง

     

    “หวา...แย่จังเลย”ตอนนี้เพื่อนพบปัญหาใหม่ซะแล้ว เนื่องจากน้ำที่หกใส่เริ่มแห้ง ทำให้กระดาษติดกันจนเปิดไม่ได้ เพื่อนถอนหายใจแล้ววางสมุดรายชื่อกลับที่เดิม

     

    “แต่ก็........ช่างมันเถอะ เพราะพวกเธอทำให้ฉันสนุกได้มากเลย” 

     

    เพื่อนหัวเราะคิกคักก่อนหยิบกระดาษมาแล้วพับเป็นจรวด ปาออกไปนอกหน้าต่าง

     

    จรวดที่ทำจากกระดาษเอกสารลอยออกไปในท้องฟ้ายามยาตรีด้วยฝีมือของสายลมเอื่อยๆแต่ไม่นานก็มีอันต้องร่วงลงพื้นเพราะสายฝนที่สาดซัดมา เพื่อนมองท้องฟ้ามืดครึ้มข้างนอกก่อนจะพึมพำ

     

    “ที่แห่งนี้น่ะไม่มีเวลา ไม่มีแสงอาทิตย์ แต่กลับมีเวลากลางคืนที่ดำเนินไปเรื่อยๆ...อา อยากจะเห็นแสงอาทิตย์อีกครั้งซะแล้วสิ”

     

    เพื่อนมองลงพื้น ความชื้นและกลิ่นดินลอยมาปะทะใบหน้าพร้อมสายลมเย็นจากเบื้องล่าง เพื่อนถอนหายใจแล้วหยิบหมวกตุ๊กตาผ้าที่มีตากระดุมเม็ดใหญ่ติดอยู่ขึ้นมาสวมแล้วเดินหายไปในเงา ทิ้งเพียงคำพูดพร่ำบ่นไว้เบื้องหลัง

     

     

    “ออกไปสูดอากาศหน่อยดีกว่า

     

     

     

    ตอนหน้า

           

    “คงต้องล่ากันแบบจริงๆจังๆแล้วล่ะ”

     

    เมื่อเพื่อนเริ่มเคลื่อนไหว และเมื่อนนท์ตื่นมาก็พบกับ..

     

    “ยินดีที่ได้รู้จัก”

     

    “พวกเธอเป็นใคร!?!”

     

    ...หลังจากที่หายไปนาน เฟรมก็กลับมาอีกครั้ง!?

     

    “สวัสดี...ขอฉันเข้าไปหน่อยสิ ทุกคนๆๆๆๆๆ”

     

    และ

     

    “ฉันไม่อนุญาตให้แกฆ่าเขา!!!

     

     

    ติดตาม ตอนหน้า My Best Friend 8 : พบเจอและพรัดพราก
     

     

    ไม่ตัวละครก็มีสปอยล์แทนคร่ะ กร๊ากกก~//โดนรุมสกรัม
    ถ้าเจอคำผิดหรือเริ่มออกทะเล ไม่สนุกก็บอกกันได้นะคะ (หรือเราควรจะประเมินตัวเองจากยอดวิวดีQwQ..)

     ตอบคอมเม้นท์

     
    ความคิดเห็นที่ 10 (จากตอนที่ 8)    
    ตอนแรกอ่านมา.. ไรส์ไม่น่าตายเลย โฮๆๆ
    ต่อมา.. กรี๊ดด ไรส์ ! ทำไมเธอทำอย่างเน้!!!
    แอร๊ยยย ปัญญาน่าฮัก >< << กินเด็ก

    PS.  ถ้าไม่เชื่อใจกัน แล้วจะรักกันได้ยังไง [ชอร์เบอรี่ของเฮลซิงกิ]
    Name : SoRa Blood -SKY< My.iD > ดูเน็ตเวิร์คอื่นๆ ของ SoRa Blood -SKY [ IP : 115.67.103.71 ] 
    Email / Msn: soraaki54(แอท)gmail.com ส่งข้อความลับ
    วันที่: 21 เมษายน 2556 / 08:24

     


    WB : ไรส์เป็นคนลุ่มๆดอนๆค่ะ เอาแน่เอานอนไม่ด้ายยย#ไม่ใช่ล่ะ
    ดูสิคะ ไรส์จะปาดคอพี่นิธานแบ้วววว//ชี้ #โดนลากไปเก็บ
    ปล.มากินเด็กด้วยกันซะดีเถอะค่ะ ถถถถ

     
    Velen
    tine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×