ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Best Friend

    ลำดับตอนที่ #2 : My Best Friend 1 : เรียกเราว่าเพื่อนนะ

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 56


    My Best Friend 1
    เรียกเราว่าเพื่อนนะ


    การอยู่ตัวคนเดียวในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องฉลาดเลย

     

                “อึก!!!

    แตงโมสะดุ้งตื่นขึ้นมาบนพื้นระเบียงไม้ เธอยันตัวขึ้นมาจากพื้นไม้ผุพังด้วยอาการมึนงง คาดว่าศีรษะอาจจะตกกระแทกพื้น เบื้องหน้ายังคงเป็นระเบียงไม้ยาวออกไปแต่เธอไม่รู้ว่าสิ้นสุดที่ตรงไหนเพราะทางข้างหน้ามืดสนิท

    “ที่นี่ที่ไหนเนี่ย....โรงเรียนหรอ??” แตงโมมองกระดาษเอกสารที่ตกเกลื่อนพื้นด้วยความฉงน ไม่มีทางที่ที่นี่จะเป็นโรงเรียนของเธออย่างแน่นอน เพราะสภาพทรุดโทรมลงมากจนน่าใจหายทั้งๆที่เมื่อเช้าเธอยังมานั่งเรียนในห้องอยู่เลย อีกทั้งยังมีกลิ่นอับเหมือนเป็นอาคารร้างมาหลายสิบปี เธอวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเสียจนลืมเรื่องสำคัญไปเสียสนิท

    “อ๊ะ...แล้วทุกคนล่ะ...”


                แตงโมหน้าซีด ตระหนักถึงความจริงว่าเวลานี้เธอกำลังเผชิญสถานการณ์เลวร้ายเพียงลำพัง ขาทั้งสองข้างพลันหมดแรงโดยไร้สาเหตุ

    ไม่เอา....เราตัวคนเดียวแบบนี้ไม่เอานะ!!!!

    “มีใครอยู่ไหม! ใครก็ได้ ขอร้องล่ะ”น้ำเสียงของเด็กสาวฟังดูสิ้นหวัง เธอร้องเรียกไม่หยุดแว่วเสียงฝีเท้ามาจากด้านหลัง แตงโมรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง เธอหันหลังไปหาผู้มาใหม่อย่างมีความหวัง

     

     

    “เธอ....”

                เสียงต่อมาถูกกลืนหายไปในลำคอ ความตายในเงามืดแย้มยิ้มให้เธออย่างเบิกบาน ร่างในเงายกของในมือขึ้นเหนือหัว มันสะท้อนแสงจากตะเกียงดวงเล็กบนกำแพงเป็นประกายในเงามืด

                “ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
    !!!!!!!!!!”

    .................................................................................

     


    “อ..โอ๊ย เดินเบาๆหน่อยสิ”

     

    ตองร้อง นาโนพยักหน้ารับ แล้วปรับจังหวะการเดินให้ช้าลงตามที่ตองร้องขอ ขาของเธอแพลงตอนตกลงมา ทำให้นาโนที่เจอกันระหว่างทางต้องมาแบกร่างของสาวผมทองคนนี้

     

    “ป่านนี้คนอื่นจะเป็นยังไงบ้างนะ” นาโนพึมพำ

     

    “คงจะเอาตัวรอดกันได้แหละน่า อ๊ะ...นาโนๆตรงนั้นมีห้องพยาบาลอยู่”

     

    ตองชี้ทางตรงหัวมุมข้างหน้าที่มีแสงสลัวๆออกมาจากหน้าต่าง หน้าห้องมีป้ายผุๆแต่เห็นตัวหนังสือลางๆว่าเป็นห้องพยาบาล

     

    “พักตรงนี้นะ” นาโนเลี้ยวเข้าห้องพยาบาลตามที่ตองบอก เธอให้ตองนั่งพักบนเตียงพยาบาลเก่า แม้จะมีฝุ่นเกาะอยู่บ้างแต่ก็ดีกว่าที่คนเจ็บอย่างตองต้องเดินไปเรื่อยๆ

     

    “จะไปไหนน่ะ นาโน!

     

    “จะไปตามหาคนอื่นน่ะ รออยู่ตรงนั้นนะ!!

     

    นาโนรีบวิ่งออกไป ตองพยายามตะโกนเรียกให้เพื่อนเธอกลับมาเพราะการแยกกันในสถานการณ์แบบนี้ มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดเลย

     

    ความจริงถ้าจะให้พูดให้ถูกก็คือ เธอกลัว..

     

    หลังจากที่มีคนตายไปต่อหน้าต่อตา คงไม่มีใครจะทำใจได้ทันทีหรอก... พวกเธอทุกคนก็เช่นกัน การอยู่ตัวคนเดียวมันมีแต่จะเพิ่มความกังวลและความกลัวมากขึ้นเท่านั้น ตองตัดสินใจลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวจะคลาดกับนาโน

     

    “โธ่เอ๊ย...” ด้วยความไม่เอื้ออำนวยของร่างกายทำให้เธอไม่สามารถวิ่งตามเพื่อนสาวได้ทัน เธอจึงได้แต่เกาะผนังเดินกะโผลกกระเผลกตามไปเท่านั้น “นาโน!...นาโน!...”ตองตะโกนเรียก

     

    “ตอง...ตอง...เสียงตองใช่ไหม!? ตอง!!!

     

    เสียงเด็กหนุ่มดังมาจากความมืดข้างหลัง ตองหันกลับไปมอง พบนนท์กำลังส่องไฟจากเทียนไขมาทางเธอ นนท์เห็นท่าทางการเดินแปลกๆของตอง เขาจึงเข้าไปประคองร่างของเพื่อนสาวที่เดินกระย่องกระแย่งอยู่ข้างหน้า

     

    “นนท์....นาโน เขาเดินไปไหนแล้วไม่รู้...”ตองเอ่ยเบาๆอย่างสำนึกผิดที่ห้ามนาโนไว้ไม่ได้ ทั้งๆที่มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลย

     

    “งั้นเดี๋ยวฉันไปหาเอง”นนท์ทำท่าจะวิ่งไปข้างหน้าแต่เด็กสาวกระตุกชายเสื้อของเขาไว้ก่อน ตองเงยหน้าขึ้นพูดกับนนท์

     

    “เดี๋ยว...ไปพร้อมกันดีกว่า ถ้าแยกกันอาจจะอันตรายนะ”

     

    “อืม....ก็ได้”

     

    นนท์ค่อยๆประคองตองเดินไปตามทางเดินอันมืดมิด ไม่รู้ว่าจะมีแสงสว่างและความหวังรอทั้งสองอยู่ข้างหน้าหรือไม่...

     

     

    .................................................................................

     

     

    “เหวอ...ก้าวช้าๆ... ร..ระวังด้วย หยึย......”

     

    ไม่ใช่เสียงคำเตือนให้ใคร.. มันคือเสียงที่ไรส์พูดกับตัวเอง เธอกำลังเตือนสติตัวเองไม่ให้ก้าวพลาด เด็กสาวเดินเบียดกับผนังจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน แม้ผนังจะผุพังและเต็มไปด้วยเชื้อรา แต่ยามนี้ไรส์แทบจะยินดีรวมร่างกับผนังเลยก็ว่าได้

     

    ..เพราะมีศพและโครงกระดูกกองอยู่เกลื่อนพื้นนั่นเอง..

     

    ไม่เพียงแค่นั้น บนพื้นมีคราบเลือดนองอยู่แม้มันจะเริ่มแห้งไปบ้างแล้วก็ตาม บางจุดมีเศษเนื้อมนุษย์เละๆกระจายอยู่ บางจุดก็เห็นไส้และเครื่องในอื่นๆแหลกเละเต็มพื้น ซ้ำยังมีก้อนเนื้อบางส่วนเริ่มเน่าเป็นสีดำส่งกลิ่นเหม็นจนแทบอาเจียน

     

    “อึก...ใกล้แล้วๆ อีกนิดเดียว...”ไรส์ยื่นขาไปแตะพื้นไม้อีกฝั่ง “เยี่ยม!ถึงแล้ว”เธอร้องดีใจยกใหญ่แล้ววิ่งไปต่อทันที

     

    ทางเดินมืดสลัว มีเพียงแสงจากไฟฉายโทรศัพท์ของเธอเท่านั้นที่ส่องทางข้างหน้าให้เห็น ไรส์เดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายบนระเบียงผุพัง เธอมาหยุดที่สุดทางระเบียงไม้

     

    “หืม..ห้องน้ำหญิงหรอ? งั้นไปเข้าไปดูหน่อยดีกว่า..”

     

    ไรส์จับลูกบิดขึ้นสนิมหมุนช้าๆ มันส่งเสียงดังลั่นเพราะความฝืด ไรส์เดินเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวัง ภายในเป็นห้องน้ำแบบชักโครกสี่ห้อง อ่างล้างมือสี่อ่างและกระจกบานใหญ่ฝุ่นเขรอะ บนพื้นมีเศษกระดาษตกเกลื่อน ไรส์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วลงมือรื้อกระดาษบนพื้น

     

    “บิงโก...” ไรส์หยิบไดอารี่ปกหนังสีแดงขึ้นมาปัดฝุ่นแล้วเปิดอ่าน

     

    หน้าแรกของไดอารี่เป็นรูปภาพขาวดำของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอยิ้มกว้างอย่างร่าเริง ใต้ภาพเขียนบางอย่างไว้แต่มันโดนน้ำจนเลือนไปหมดแล้ว เธอจึงเปิดหน้าถัดไป

     

    “อ...อะไรเนี่ย?!”

     

    อักขระหน้าตาประหลาดนูนขึ้นมาจากหน้าหนังสือเล็กน้อยเหมือนอักษรเบรลล์ ไรส์ลูบตัวอักษรที่นูนขึ้นมาเบาๆ ทำไมไดอารี่จึงมีอักขระโบราณแบบนี้?

     

    “น่าขนลุกเกินไปแล้ว...”ไรส์พิงตัวกับกำแพง เธอเสยผมแล้วหันไปมองประตูทางออกอย่างเหนื่อยใจ “ออกดีกว่า..”

     

    แกร๊ก...แกร๊กๆๆ

     

    “เอ๊ะ..”

     

    ไรส์ขมวดคิ้ว เพราะเธอไม่สามารถเปิดประตูได้แล้ว ไม่ใช่เพราะความฝืดของประตูแน่นอนเพราะมันเหมือนจะติดอะไรบางอย่างข้างนอก ทำให้เปิดประตูไม่ได้

     

    “ใครอยู่ข้างนอก!เปิดประตูเดี๋ยวนี้!!!!” ไรส์ตะโกน หวังจะให้ใครก็ตามที่เล่นบ้าๆแบบนี้เปิดประตู เมื่อไม่ได้ผลเธอจึงกระแทกประตูหวังจะพังออกไปข้างนอก

     

    “บ้าเอ๊ย...”ไรส์สบถ

     

     

    .................................................................................

     

     

    “คุณหนู ..ระวังนะครับ”

     

    เมก้าที่เดินอยู่ข้างหลังร้องเตือนเอวา ห้องนี้มันไม่ปลอดภัยเอาซะเลยเพราะเมื่อกี้เขาได้ลองเดินสำรวจดูแล้ว ที่พื้นมีเศษแก้วตกเกลื่อนไปหมด นอกจากนั้นยังมีน้ำนองเต็มพื้นทำให้ต้องเพิ่มความระวังไม่ให้ลื่นล้มลงไป

     

    “อ...อืม” เอวาพยายามเดินเลี่ยงๆพื้นส่วนที่มีน้ำเจิ่งนอง

     

    พวกเขาอยู่ในห้องวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนร้าง นั่นคือสมมติฐานที่เป็นไปได้มากที่สุด เพราะหากมองไปที่ชั้นวางของก็จะเจอกับขวดโหลแก้วบรรจุอวัยวะต่างๆวางเรียงกันอยู่ มีทั้งซากสัตว์หรือแม้กระทั่งเด็กทารก

     

    เอี๊ยดๆ

     

    “คุณหนู...ดูบนกระดานสิ”เมก้าเรียกเอวาที่กำลังจะเดินออกจากห้องให้หันมามองกระดานไวท์บอร์ดทรุดโทรม

     

    มาเล่นกันนะเพื่อนๆ’? เมื่อกี้ยังไม่มีอะไรเขียนไว้เลยนี่”

     

    “แน่ใจหรอครับคุณหนู?เพราะผมไม่ทันสังเกตเหมือนกัน”

     

    “ไม่รู้สิ...ฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้”

     

    เอวายักไหล่ เมก้าจึงยักไหล่บ้างแล้วเดินตามเอวาออกจากห้อง  โดยไม่หันกลับมามองข้างหลังอีกเลย

     

    วี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!’

     

    “!!”

     

    เอวาและเมก้ารีบยกมืออุดหูด้วยความตกใจและแสบแก้วหู ลำโพงเก่าเหนือหัวที่เพิ่งส่งเสียงแสบแก้วหูออกมาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมีเสียงคนพูดออกมา

     

    ฮัลโหลเทสๆ สวัสดีเพื่อนๆทุกคน ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรานะ

     

    เสียงนุ่มระรื่นดังออกมาตามสาย แยกแยะไม่ได้ว่าผู้พูดชายหรือหญิงจากน้ำเสียง เจ้าตัวยังพูดต่อไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจผู้ฟัง

     

    ทุกคนเรียกเราว่าเพื่อนก็ได้นะ ทุกคนคงจะตกใจสินะที่มาโผล่ที่นี่น่ะ แต่ไม่ต้องกังวลนะ เพราะเค้าต้องการคัดเลือก เพื่อน ที่จะมาหาเราน่ะ ไม่ต้องกลัวหรอกนะทุกคน เพราะเค้าจะเป็นคนคัดเลือกเลือกทุกคนเอง!’

     

    เสียงนั้นไม่คลายความกังวลให้แก่ผู้ฟังเลยแม้แต่น้อย เอวาหันไปมองเมก้าที่ยืนข้างๆ

     

     

    “หมายความว่าไงน่ะ...”

     

    ตองพึมพำเบาๆ นนท์ไม่ได้ตอบอะไรแต่มองขึ้นไปที่ลำโพงเก่าเหนือหัว ลำโพงนี้กระจายเสียงไปทั่วโรงเรียน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องได้ยินมัน

     

    คนที่เจอกันก่อนประกาศก็โชคดีไปนะ ส่วนคนที่ไม่ได้เจอใครก็สายไปแล้วล่ะ!เพราะเกมของเค้าได้เริ่มไปแล้ว!!!’ เพื่อนยังพูดต่อไปเรื่อยๆ

     

     

    “ชิ...” ไรส์จิ๊ปากอย่างไม่พอใจแต่ก็ต้องยอมนั่งฟังไปเงียบๆ

     

    เค้าจะให้ทุกคนเล่นเกมกันนะเพื่อนเว้นจังหวะหายใจแล้วพูดต่อ คนที่เหลือรอดและชนะเค้าได้ จะได้เป็นเพื่อนเค้านะ!น่าตื่นเต้นใช่มั้ยล่ะ?

     

     

    “ไม่เลยสักนิด..”นาโนพึมพำ

     

     

    เค้าจะกำหนดเกมให้ทุกคนเอง ตั้งใจฟังกติกากันดีๆล่ะ

     

    “....”ทุกคนเงียบรอฟังเสียงประกาศ

     

    กติกาข้อแรก ห้ามโกงเด็ดขาด

    ข้อที่สอง ต้องเรียกเราว่าเพื่อน

    ข้อสาม ห้ามออกไปจากที่นี่

    และข้อสุดท้าย.....เพื่อนเงียบไปก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบน่าขนลุก

     

    ถ้าตายไปล่ะก็...ไม่รับรู้ด้วยนะ

     

    เอาล่ะ เรามาเริ่มเกมกันดีกว่า.......ทุกคนจ๊ะ ภายในสามสิบนาทีนี้ ขอให้หาชื่อเกมให้เจอด้วยนะ แล้วก็เล่นตามที่กระดาษบอกด้วยล่ะ พร้อมนะ....เริ่มได้!!’

     

    สิ้นเสียงประกาศ ทุกอย่างเงียบลงในทันที ไม่มีใครกล้าขัดขืนเพราะสิ่งที่เกิดกับคิดนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หากไม่เล่นก็ต้องตาย แม้จะยังกลัวก็ต้องทำตามเพื่อเอาชีวิตรอด

     

    ถ้านี่เป็นฝันร้ายล่ะก็...ช่วยรีบๆตื่นเถอะนะ

     

     

     

     

     

     

     

    “กระดาษสินะ....แล้วมันแผ่นไหนล่ะเนี่ย!!!!

     

    ไรส์ร้อง ตะกุยหากระดาษที่ว่า คนซวยสุดก็น่าจะเป็นเธอนี่แหละ เพราะห้องน้ำที่เธออยู่นั้นเต็มไปด้วยเอกสารเกลื่อนพื้น ไรส์เริ่มเครียดเพราะกลัวจะหากระดาษแผ่นนั้นไม่เจอ

     

    “ฟู่....ใจเย็นไว้ อย่าลน เดี๋ยวก็เจอเองแหละน่า...”

     

    เธอเอามือแตะอกแล้วพูดปลอบขวัญตัวเอง ยิ่งร้อนลนลานยิ่งหาไม่เจอ ไรส์พยายามใจเย็นลงแล้วลงมือหาใหม่

     

    “อุ.....จ...เจอแล้ว....”

     

    ไรส์ดึงกระดาษพิมพ์ตัวหนังสือทองออกมาจากกองเศษกระดาษบนพื้น กระดาษสีขาวธรรมดาแสดงข้อความที่เธอค้นหาแทนที่จะทำทำให้เธอดีใจกลับทำให้เธอหน้าซีดเพราะข้อความนั้นแทน

     

     

    “จงเคาะประตูห้องน้ำห้องสุดท้ายสามครั้ง แล้วเรียกฮานาโกะออกมา

    ถ้าอยู่รอดได้เกิน30นาทีถือว่าชนะ”

     

    อู้~~~~อัพบทหนึ่งแล้วนะคะ
    ดีใจมากเลยค่ะ เม้นมาไวเวอร์มากค่ะ กำลังใจมาท่วมท้นเลยค่ะ QwQ
    เหมือนเดิมค่ะ ถ้ามันเเปลกๆ เริ่มออกทะเล ไม่สนุกบอกเรานะคะ จะได้นำไปปรับปรุงTvT


     

    ตอบคอมเม้นท์ฮับ! 

     
    #2 : ความคิดเห็นที่ 2
    อัพด่วนๆ เรารู้กันเนอะ =7= เหอๆ
    Name : Usa27 [ IP : 124.122.140.80 ] 
    Email / Msn: - 
    วันที่: 9 เมษายน 2556 / 16:00

    WB : กรี๊ดดด ขอบใจจ้า ตามมาถึงนี่เชียววว ><



    #1 : ความคิดเห็นที่ 1
    ขนาดแต่งครั้งแรกยังสนุกขนาดนี้ ลุ้นสุดๆ เลยค่ะ ><
    PS.  ถ้าไม่เชื่อใจกัน แล้วจะรักกันได้ยังไง [ชอร์เบอรี่ของเฮลซิงกิ]
    Name : SoRa Blood -SKY< My.iD > ดูเน็ตเวิร์คอื่นๆ ของ SoRa Blood -SKY [ IP : 115.67.99.182 ] 
    Email / Msn: soraaki54(แอท)gmail.com ส่งข้อความลับ
    วันที่: 9 เมษายน 2556 / 13:35

     

    WB : ขอบคุณค่าาาาาา //วิ่งไปกรี๊ดหน้าบ้าน
    ปล.คอมเม้นมาเร็วเว่อร์เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ!!//ดีใจ

     

     

     

    ขอบคุณธีม Free Theme
    Velen
    tine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×