คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : My Best Friend 1 : เรียกเราว่าเพื่อนนะ
My Best Friend 1
เรียกเราว่าเพื่อนนะ
การอยู่ตัวคนเดียวในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องฉลาดเลย
“อึก!!!”
แตงโมสะดุ้งตื่นขึ้นมาบนพื้นระเบียงไม้ เธอยันตัวขึ้นมาจากพื้นไม้ผุพังด้วยอาการมึนงง คาดว่าศีรษะอาจจะตกกระแทกพื้น เบื้องหน้ายังคงเป็นระเบียงไม้ยาวออกไปแต่เธอไม่รู้ว่าสิ้นสุดที่ตรงไหนเพราะทางข้างหน้ามืดสนิท
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ย....โรงเรียนหรอ??” แตงโมมองกระดาษเอกสารที่ตกเกลื่อนพื้นด้วยความฉงน ไม่มีทางที่ที่นี่จะเป็นโรงเรียนของเธออย่างแน่นอน เพราะสภาพทรุดโทรมลงมากจนน่าใจหายทั้งๆที่เมื่อเช้าเธอยังมานั่งเรียนในห้องอยู่เลย อีกทั้งยังมีกลิ่นอับเหมือนเป็นอาคารร้างมาหลายสิบปี เธอวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเสียจนลืมเรื่องสำคัญไปเสียสนิท
“อ๊ะ...แล้วทุกคนล่ะ...”
แตงโมหน้าซีด ตระหนักถึงความจริงว่าเวลานี้เธอกำลังเผชิญสถานการณ์เลวร้ายเพียงลำพัง ขาทั้งสองข้างพลันหมดแรงโดยไร้สาเหตุ
ไม่เอา....เราตัวคนเดียวแบบนี้ไม่เอานะ!!!!
“มีใครอยู่ไหม! ใครก็ได้ ขอร้องล่ะ”น้ำเสียงของเด็กสาวฟังดูสิ้นหวัง เธอร้องเรียกไม่หยุดแว่วเสียงฝีเท้ามาจากด้านหลัง แตงโมรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง เธอหันหลังไปหาผู้มาใหม่อย่างมีความหวัง
“เธอ....”
เสียงต่อมาถูกกลืนหายไปในลำคอ ความตายในเงามืดแย้มยิ้มให้เธออย่างเบิกบาน ร่างในเงายกของในมือขึ้นเหนือหัว มันสะท้อนแสงจากตะเกียงดวงเล็กบนกำแพงเป็นประกายในเงามืด
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!”
.................................................................................
“อ..โอ๊ย เดินเบาๆหน่อยสิ”
ตองร้อง นาโนพยักหน้ารับ แล้วปรับจังหวะการเดินให้ช้าลงตามที่ตองร้องขอ ขาของเธอแพลงตอนตกลงมา ทำให้นาโนที่เจอกันระหว่างทางต้องมาแบกร่างของสาวผมทองคนนี้
“ป่านนี้คนอื่นจะเป็นยังไงบ้างนะ” นาโนพึมพำ
“คงจะเอาตัวรอดกันได้แหละน่า อ๊ะ...นาโนๆตรงนั้นมีห้องพยาบาลอยู่”
ตองชี้ทางตรงหัวมุมข้างหน้าที่มีแสงสลัวๆออกมาจากหน้าต่าง หน้าห้องมีป้ายผุๆแต่เห็นตัวหนังสือลางๆว่าเป็นห้องพยาบาล
“พักตรงนี้นะ” นาโนเลี้ยวเข้าห้องพยาบาลตามที่ตองบอก เธอให้ตองนั่งพักบนเตียงพยาบาลเก่า แม้จะมีฝุ่นเกาะอยู่บ้างแต่ก็ดีกว่าที่คนเจ็บอย่างตองต้องเดินไปเรื่อยๆ
“จะไปไหนน่ะ นาโน!”
“จะไปตามหาคนอื่นน่ะ รออยู่ตรงนั้นนะ!!”
นาโนรีบวิ่งออกไป ตองพยายามตะโกนเรียกให้เพื่อนเธอกลับมาเพราะการแยกกันในสถานการณ์แบบนี้ มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดเลย
ความจริงถ้าจะให้พูดให้ถูกก็คือ เธอกลัว..
หลังจากที่มีคนตายไปต่อหน้าต่อตา คงไม่มีใครจะทำใจได้ทันทีหรอก... พวกเธอทุกคนก็เช่นกัน การอยู่ตัวคนเดียวมันมีแต่จะเพิ่มความกังวลและความกลัวมากขึ้นเท่านั้น ตองตัดสินใจลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวจะคลาดกับนาโน
“โธ่เอ๊ย...” ด้วยความไม่เอื้ออำนวยของร่างกายทำให้เธอไม่สามารถวิ่งตามเพื่อนสาวได้ทัน เธอจึงได้แต่เกาะผนังเดินกะโผลกกระเผลกตามไปเท่านั้น “นาโน!...นาโน!...”ตองตะโกนเรียก
“ตอง...ตอง...เสียงตองใช่ไหม!? ตอง!!!”
เสียงเด็กหนุ่มดังมาจากความมืดข้างหลัง ตองหันกลับไปมอง พบนนท์กำลังส่องไฟจากเทียนไขมาทางเธอ นนท์เห็นท่าทางการเดินแปลกๆของตอง เขาจึงเข้าไปประคองร่างของเพื่อนสาวที่เดินกระย่องกระแย่งอยู่ข้างหน้า
“นนท์....นาโน เขาเดินไปไหนแล้วไม่รู้...”ตองเอ่ยเบาๆอย่างสำนึกผิดที่ห้ามนาโนไว้ไม่ได้ ทั้งๆที่มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลย
“งั้นเดี๋ยวฉันไปหาเอง”นนท์ทำท่าจะวิ่งไปข้างหน้าแต่เด็กสาวกระตุกชายเสื้อของเขาไว้ก่อน ตองเงยหน้าขึ้นพูดกับนนท์
“เดี๋ยว...ไปพร้อมกันดีกว่า ถ้าแยกกันอาจจะอันตรายนะ”
“อืม....ก็ได้”
นนท์ค่อยๆประคองตองเดินไปตามทางเดินอันมืดมิด ไม่รู้ว่าจะมีแสงสว่างและความหวังรอทั้งสองอยู่ข้างหน้าหรือไม่...
.................................................................................
“เหวอ...ก้าวช้าๆ... ร..ระวังด้วย หยึย......”
ไม่ใช่เสียงคำเตือนให้ใคร.. มันคือเสียงที่ไรส์พูดกับตัวเอง เธอกำลังเตือนสติตัวเองไม่ให้ก้าวพลาด เด็กสาวเดินเบียดกับผนังจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน แม้ผนังจะผุพังและเต็มไปด้วยเชื้อรา แต่ยามนี้ไรส์แทบจะยินดีรวมร่างกับผนังเลยก็ว่าได้
..เพราะมีศพและโครงกระดูกกองอยู่เกลื่อนพื้นนั่นเอง..
ไม่เพียงแค่นั้น บนพื้นมีคราบเลือดนองอยู่แม้มันจะเริ่มแห้งไปบ้างแล้วก็ตาม บางจุดมีเศษเนื้อมนุษย์เละๆกระจายอยู่ บางจุดก็เห็นไส้และเครื่องในอื่นๆแหลกเละเต็มพื้น ซ้ำยังมีก้อนเนื้อบางส่วนเริ่มเน่าเป็นสีดำส่งกลิ่นเหม็นจนแทบอาเจียน
“อึก...ใกล้แล้วๆ อีกนิดเดียว...”ไรส์ยื่นขาไปแตะพื้นไม้อีกฝั่ง “เยี่ยม!ถึงแล้ว”เธอร้องดีใจยกใหญ่แล้ววิ่งไปต่อทันที
ทางเดินมืดสลัว มีเพียงแสงจากไฟฉายโทรศัพท์ของเธอเท่านั้นที่ส่องทางข้างหน้าให้เห็น ไรส์เดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายบนระเบียงผุพัง เธอมาหยุดที่สุดทางระเบียงไม้
“หืม..ห้องน้ำหญิงหรอ? งั้นไปเข้าไปดูหน่อยดีกว่า..”
ไรส์จับลูกบิดขึ้นสนิมหมุนช้าๆ มันส่งเสียงดังลั่นเพราะความฝืด ไรส์เดินเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวัง ภายในเป็นห้องน้ำแบบชักโครกสี่ห้อง อ่างล้างมือสี่อ่างและกระจกบานใหญ่ฝุ่นเขรอะ บนพื้นมีเศษกระดาษตกเกลื่อน ไรส์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วลงมือรื้อกระดาษบนพื้น
“บิงโก...” ไรส์หยิบไดอารี่ปกหนังสีแดงขึ้นมาปัดฝุ่นแล้วเปิดอ่าน
หน้าแรกของไดอารี่เป็นรูปภาพขาวดำของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอยิ้มกว้างอย่างร่าเริง ใต้ภาพเขียนบางอย่างไว้แต่มันโดนน้ำจนเลือนไปหมดแล้ว เธอจึงเปิดหน้าถัดไป
“อ...อะไรเนี่ย?!”
อักขระหน้าตาประหลาดนูนขึ้นมาจากหน้าหนังสือเล็กน้อยเหมือนอักษรเบรลล์ ไรส์ลูบตัวอักษรที่นูนขึ้นมาเบาๆ ทำไมไดอารี่จึงมีอักขระโบราณแบบนี้?
“น่าขนลุกเกินไปแล้ว...”ไรส์พิงตัวกับกำแพง เธอเสยผมแล้วหันไปมองประตูทางออกอย่างเหนื่อยใจ “ออกดีกว่า..”
แกร๊ก...แกร๊กๆๆ
“เอ๊ะ..”
ไรส์ขมวดคิ้ว เพราะเธอไม่สามารถเปิดประตูได้แล้ว ไม่ใช่เพราะความฝืดของประตูแน่นอนเพราะมันเหมือนจะติดอะไรบางอย่างข้างนอก ทำให้เปิดประตูไม่ได้
“ใครอยู่ข้างนอก!เปิดประตูเดี๋ยวนี้!!!!” ไรส์ตะโกน หวังจะให้ใครก็ตามที่เล่นบ้าๆแบบนี้เปิดประตู เมื่อไม่ได้ผลเธอจึงกระแทกประตูหวังจะพังออกไปข้างนอก
“บ้าเอ๊ย...”ไรส์สบถ
.................................................................................
“คุณหนู ..ระวังนะครับ”
เมก้าที่เดินอยู่ข้างหลังร้องเตือนเอวา ห้องนี้มันไม่ปลอดภัยเอาซะเลยเพราะเมื่อกี้เขาได้ลองเดินสำรวจดูแล้ว ที่พื้นมีเศษแก้วตกเกลื่อนไปหมด นอกจากนั้นยังมีน้ำนองเต็มพื้นทำให้ต้องเพิ่มความระวังไม่ให้ลื่นล้มลงไป
“อ...อืม” เอวาพยายามเดินเลี่ยงๆพื้นส่วนที่มีน้ำเจิ่งนอง
พวกเขาอยู่ในห้องวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนร้าง นั่นคือสมมติฐานที่เป็นไปได้มากที่สุด เพราะหากมองไปที่ชั้นวางของก็จะเจอกับขวดโหลแก้วบรรจุอวัยวะต่างๆวางเรียงกันอยู่ มีทั้งซากสัตว์หรือแม้กระทั่งเด็กทารก
เอี๊ยดๆ
“คุณหนู...ดูบนกระดานสิ”เมก้าเรียกเอวาที่กำลังจะเดินออกจากห้องให้หันมามองกระดานไวท์บอร์ดทรุดโทรม
“ ‘มาเล่นกันนะเพื่อนๆ’? เมื่อกี้ยังไม่มีอะไรเขียนไว้เลยนี่”
“แน่ใจหรอครับคุณหนู?เพราะผมไม่ทันสังเกตเหมือนกัน”
“ไม่รู้สิ...ฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้”
เอวายักไหล่ เมก้าจึงยักไหล่บ้างแล้วเดินตามเอวาออกจากห้อง โดยไม่หันกลับมามองข้างหลังอีกเลย
‘วี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!’
“!!”
เอวาและเมก้ารีบยกมืออุดหูด้วยความตกใจและแสบแก้วหู ลำโพงเก่าเหนือหัวที่เพิ่งส่งเสียงแสบแก้วหูออกมาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมีเสียงคนพูดออกมา
‘ฮัลโหลเทสๆ สวัสดีเพื่อนๆทุกคน ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรานะ ♥’
เสียงนุ่มระรื่นดังออกมาตามสาย แยกแยะไม่ได้ว่าผู้พูดชายหรือหญิงจากน้ำเสียง เจ้าตัวยังพูดต่อไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจผู้ฟัง
‘ทุกคนเรียกเราว่าเพื่อนก็ได้นะ ทุกคนคงจะตกใจสินะที่มาโผล่ที่นี่น่ะ แต่ไม่ต้องกังวลนะ เพราะเค้าต้องการคัดเลือก เพื่อน ที่จะมาหาเราน่ะ ไม่ต้องกลัวหรอกนะทุกคน เพราะเค้าจะเป็นคนคัดเลือกเลือกทุกคนเอง!’
เสียงนั้นไม่คลายความกังวลให้แก่ผู้ฟังเลยแม้แต่น้อย เอวาหันไปมองเมก้าที่ยืนข้างๆ
“หมายความว่าไงน่ะ...”
ตองพึมพำเบาๆ นนท์ไม่ได้ตอบอะไรแต่มองขึ้นไปที่ลำโพงเก่าเหนือหัว ลำโพงนี้กระจายเสียงไปทั่วโรงเรียน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องได้ยินมัน
‘คนที่เจอกันก่อนประกาศก็โชคดีไปนะ ส่วนคนที่ไม่ได้เจอใครก็สายไปแล้วล่ะ!เพราะเกมของเค้าได้เริ่มไปแล้ว!!!’ เพื่อนยังพูดต่อไปเรื่อยๆ
“ชิ...” ไรส์จิ๊ปากอย่างไม่พอใจแต่ก็ต้องยอมนั่งฟังไปเงียบๆ
‘เค้าจะให้ทุกคนเล่นเกมกันนะ’เพื่อนเว้นจังหวะหายใจแล้วพูดต่อ ‘คนที่เหลือรอดและชนะเค้าได้ จะได้เป็นเพื่อนเค้านะ!น่าตื่นเต้นใช่มั้ยล่ะ?’
“ไม่เลยสักนิด..”นาโนพึมพำ
‘เค้าจะกำหนดเกมให้ทุกคนเอง ตั้งใจฟังกติกากันดีๆล่ะ♥’
“....”ทุกคนเงียบรอฟังเสียงประกาศ
‘กติกาข้อแรก ห้ามโกงเด็ดขาด
ข้อที่สอง ต้องเรียกเราว่าเพื่อน
ข้อสาม ห้ามออกไปจากที่นี่
และข้อสุดท้าย.....’เพื่อนเงียบไปก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบน่าขนลุก
‘ถ้าตายไปล่ะก็...ไม่รับรู้ด้วยนะ’
‘เอาล่ะ เรามาเริ่มเกมกันดีกว่า.......ทุกคนจ๊ะ ภายในสามสิบนาทีนี้ ขอให้หาชื่อเกมให้เจอด้วยนะ แล้วก็เล่นตามที่กระดาษบอกด้วยล่ะ พร้อมนะ....เริ่มได้!!’
สิ้นเสียงประกาศ ทุกอย่างเงียบลงในทันที ไม่มีใครกล้าขัดขืนเพราะสิ่งที่เกิดกับคิดนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หากไม่เล่นก็ต้องตาย แม้จะยังกลัวก็ต้องทำตามเพื่อเอาชีวิตรอด
ถ้านี่เป็นฝันร้ายล่ะก็...ช่วยรีบๆตื่นเถอะนะ
“กระดาษสินะ....แล้วมันแผ่นไหนล่ะเนี่ย!!!!”
ไรส์ร้อง ตะกุยหากระดาษที่ว่า คนซวยสุดก็น่าจะเป็นเธอนี่แหละ เพราะห้องน้ำที่เธออยู่นั้นเต็มไปด้วยเอกสารเกลื่อนพื้น ไรส์เริ่มเครียดเพราะกลัวจะหากระดาษแผ่นนั้นไม่เจอ
“ฟู่....ใจเย็นไว้ อย่าลน เดี๋ยวก็เจอเองแหละน่า...”
เธอเอามือแตะอกแล้วพูดปลอบขวัญตัวเอง ยิ่งร้อนลนลานยิ่งหาไม่เจอ ไรส์พยายามใจเย็นลงแล้วลงมือหาใหม่
“อุ.....จ...เจอแล้ว....”
ไรส์ดึงกระดาษพิมพ์ตัวหนังสือทองออกมาจากกองเศษกระดาษบนพื้น กระดาษสีขาวธรรมดาแสดงข้อความที่เธอค้นหาแทนที่จะทำทำให้เธอดีใจกลับทำให้เธอหน้าซีดเพราะข้อความนั้นแทน
“จงเคาะประตูห้องน้ำห้องสุดท้ายสามครั้ง แล้วเรียกฮานาโกะออกมา
ถ้าอยู่รอดได้เกิน30นาทีถือว่าชนะ”
อู้~~~~อัพบทหนึ่งแล้วนะคะ
ดีใจมากเลยค่ะ เม้นมาไวเวอร์มากค่ะ กำลังใจมาท่วมท้นเลยค่ะ QwQ
เหมือนเดิมค่ะ ถ้ามันเเปลกๆ เริ่มออกทะเล ไม่สนุกบอกเรานะคะ จะได้นำไปปรับปรุงTvT
ตอบคอมเม้นท์ฮับ!
|
||||
|
||||
|
Name : Usa27 [ IP : 124.122.140.80 ] |
WB : กรี๊ดดด ขอบใจจ้า ตามมาถึงนี่เชียววว ><
|
||||
|
||||
|
Name : SoRa Blood -SKY< My.iD > [ IP : 115.67.99.182 ] |
|
WB : ขอบคุณค่าาาาาา //วิ่งไปกรี๊ดหน้าบ้าน
ปล.คอมเม้นมาเร็วเว่อร์เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ!!//ดีใจ
Velen tine
ความคิดเห็น