ตอนที่ 1 : บทที่ 1
บทที่ 1
อียิปต์สมัย 2,000 ปีก่อนคริสตกาล
แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องเข้ามาภายในห้องทรงงานที่บัดนี้มีชายหนุ่มรูปร่างกำยำยืนอยู่ตรงระเบียงของห้อง นัยน์ตาสีเหล็กทอดมองไปยังแม่น้ำไนล์ที่ไหลเอื่อยๆ เบื้องหน้า แขนทั้งสองข้างถูกไขว่กันในท่ากอดอก คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“ฝ่าบาทพะย่ะค่ะ” เซราสองครักษ์คนสนิทของฟาโรห์ราเมเนสเอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าพระองค์ทรงเหม่อมองไปยังนอกระเบียงนานแล้ว
“ว่ายังไงเซราส เจ้ามีอะไร” เสียงเข้มเอ่ยถามเซราสแต่ยังไม่ยอมหันหน้ากลับมามองคนที่เอ่ยเรียกพระองค์
“พรุ่งนี้แล้วนะพ่ะย่ะค่ะที่พระองค์ต้องเสด็จไปยังวิหารหลวงเพื่อทำการสักการะต่อองค์เทพและเทพี” เอ่ยทูลพร้อมกับยื่นแก้วทองคำที่บรรจุน้ำผลไม้ให้กับฟาโรห์ราเมเนส
ฟาโรห์ราเมเนสทรงยื่นมือไปรับแก้วน้ำพร้อมกับยกขึ้นจิบทีละนิด ก่อนที่จะหันไปทอดมองลำน้ำไนล์อีกครั้ง ริมฝีปากหนาเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปชั่วครู่ “เซราส ข้ารู้สึกว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้เป็นแน่” น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยนั้นดูราวกับว่าความรู้สึกที่อยู่ภายในใจบอกว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในระหว่างทำพิธี ทำให้พระองค์รู้สึกกังวลใจชอบกล
“ทำไมฝ่าบาททรงคิดเช่นนั้นล่ะพะย่ะค่ะ กระหม่อมว่าคงไม่มีอะไรหรอกพ่ะย่ะค่ะ ทุกอย่างได้เตรียมการไว้เป็นอย่างดีแล้ว”
“เฮ้อ! ข้าก็หวังให้เป็นเช่นนั้น” ฟาโรห์ราเมเนสถอนหายใจก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าองครักษ์คนสนิท
“ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลพระทัยไปเลยพ่ะย่ะค่ะ” เซราสเอ่ยย้ำอีกครั้งด้วยความมั่นใจว่าทุกอย่างในพิธีของวันพรุ่งนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น
“ข้าคงจะคิดมากไป มีอะไรก็ไปทำเถอะ ข้ายังมีงานค้างอยู่ เจ้าดูสิ กองปาปิรุสเต็มไปหมด อีกสักพักข้าถึงจะกลับตำหนัก” เอ่ยจบพระองค์ก็หันไปสนใจกับกองกระดาษปาปิรุสโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องที่กังวลอีกเลย
ภายในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ที่ดูมีมนต์ขลัง ฟาโรห์ราเมเนสที่อยู่ในชุดเต็มพระยศสีทองอร่ามไปทั่วทั้งตัวพร้อมกับสวมมุงกุฏยูเรอัส[1] มีรูปงูเห่าแผ่แม่เบี้ยอยู่ตรงกลางของมงกุฏอย่างสวยงามและน่าเกรงขามยืนอยู่เพื่อรอทำพิธีบูชาเทพเจ้า ใกล้ๆ กันนั้นมีเจ้าหญิงเรมีน่าซึ่งเป็นพระขนิษฐาแท้ๆ ของฟาโรห์ราเมเนสที่อยู่ในชุดสีครีมปักทอด้วยดิ้นสีทอง ประดับด้วยกำไลและสร้อยพระศออย่างสวยงาม ใบหน้าหวานเรียวสีน้ำผึ้งเหลือบมองไปยังแท่นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งตระง่านอยู่ตรงกลางวิหาร ด้านบนมีรูปสลักขององค์เทพและเทพีที่ปกป้องคลุมครองดินแดนไอยยุปต์แห่งนี้
บนแท่นพิธีที่วางอยู่นั้น ประกอบไปด้วย ขนมปังที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายเห็ดและขนมปังแบบแบนๆ อยู่หลากหลาย ข้างๆ กันนั้นมีเหล้าองุ่นและเหล้าที่ทำมาจากผลอินทผลัมพร้อมกับเบียร์ ถัดไปด้านหน้ามีขาหน้าของสัตว์ มีสัตว์ปีกจำพวกเป็ด ห่านและนกกระสา มีดอกบัวและดอกไม้หอมนาๆ ชนิดที่มีสีขาววางใส่แจกันไว้ทั้งซ้ายและขวาพร้อมกับต้นกกอียิปต์[2] เครื่องหอมจำพวกกำยาน รวมทั้งผลไม้และของหวานนาๆ ชนิดที่จัดเรียงในจานอย่างสวยงาม
ถัดมาเป็นเหล่าบรรดานักบวชที่เตรียมจะเริ่มประกอบพิธี องครักษ์เซราสและแม่ทัพใหญ่เคลิคพร้อมกับบรรดาเสนาน้อยใหญ่มารวมตัวกัน ณ วิหารอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
“ท่านพี่เพคะ อีกนานไหมกว่าพิธีจะเริ่ม หม่อมฉันรอตั้งนานแล้วแต่ยังไม่เห็นว่าท่านนักบวชจะทำอะไรสักอย่างเลย” เจ้าหญิงเรมีน่าเอ่ยถามพระเชษฐาด้วยความสงสัย คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นเนื่องจากรอนาน
“ใจเย็นๆ สิเรมีน่า ท่านอาจารย์กำลังจะเริ่มพิธีแล้ว ใจร้อนไม่เคยเปลี่ยนเลยนะน้องพี่” ฟาโรห์ราเมเนสเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม มือหนาเอื้อมไปจับศีรษะของพระขนิษฐาที่พระองค์รักมากที่สุดเพราะมีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง
“โธ่! ท่านพี่ล่ะก็ น้องก็แค่สงสัยเท่านั้นเองเพคะ” เจ้าหญิงเรมีน่าเอ่ยตอบพระเชษฐาก่อนที่จะหันกลับไปมองยังแท่นพิธีที่บัดนี้ท่านอาจารย์กำลังจะเริ่มทำการบูชาเทพเจ้า
“ข้าแต่ทวยเทพทั้งหลายที่สถิตอยู่ ณ ดินแดนไอยคุปต์แห่งนี้ บัดนี้เป็นมงคลฤกษ์ที่พวกเราทั้งหลายจะได้ทำพิธีสักการะองค์เทพและเทพี ขอให้พระองค์ทรงโปรดเมตตา ปกป้องคุ้มครององค์ฟาโรห์ราเมเนส เจ้าหญิงเรมีน่าและชาวไอยคุปต์ทุกคนให้ปลอดภัยจากภัยอันตรายและอยู่กันอย่างสงบสุขตลอดไปด้วยเถิด” ท่านอาจารย์เซเราะห์เอ่ยวิงวอนต่อองค์เทพและเทพีด้วยเสียงอันดังกึกก้องทั่วทั้งวิหาร
ฟาโรห์ราเมเนสคุกเข่าต่อหน้ารูปสลักขององค์เทพและเทพีก่อนที่จะเอ่ยวิงวอนตามท่านอาจารย์เซเราะห์ด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนและหนักแน่นไม่แพ้ท่านอาจารย์ “ข้า ในนามฟาโรห์ราเมเนสลูกของท่าน ข้าขอสัญญาว่าข้าจะผนึกผืนแผ่นดินแห่งนี้ให้เป็นปึกแผ่นและไม่ให้ใครผู้ใดมารุกราน ข้าจะทำให้ราษฎรทุกคนอยู่กันอย่างสุขสบาย และข้าขอวิงวอนต่อองค์เทพและเทพีโปรดประทานพรให้ข้าทำได้จริงตามที่หวังด้วยเถิด”
ทันทีที่ฟาโรห์ราเมเนสเอ่ยจบ แสงสีขาวประกายทองก็พวยพุ่งขึ้นตรงรูปสลักขององค์เทพีไอซิส[3]เป็นลำแสงยาวและสว่างไปทั่วทั้งวิหาร ฟาโรห์ราเมเนส เจ้าหญิงเรมีน่าและทุกๆ คนต่างก็ตกอยู่ในความตะลึงงันเมื่อเห็นแสงพวยพุ่งออกมาจากรูปสลัก
“เกิดอะไรขึ้นท่านอาจารย์!” เสียงของฟาโรห์ราเมเนสเอ่ยถามท่านอาจารย์เซเราะห์ด้วยความตกใจไม่น้อย ร่างสูงลุกขึ้นยืนทันที ไม่เคยมีครั้งใดที่ในพิธีสักการะจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
“อย่าเพิ่งตกใจไปเลยฝ่าบาท พระทัยเย็นไว้ก่อน” ท่านอาจารย์เซเราะห์เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียง ใบหน้าที่เริ่มเหี่ยวย่นมองแสงที่เกิดขึ้น ริมฝีปากถูกกระตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ทำไมท่านอาจารย์ดูไม่ตกใจอะไรเลย” ฟาโรห์ราเมเนสเอ่ยเสียงเข้ม คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด ก่อนเอ่ยถามอีกครั้ง “หรือว่าท่านอาจารย์รู้มาก่อนแล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ” นักบวชเฒ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ทำไมไม่บอกข้าว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้”
“หม่อมฉันไม่สามารถบอกกับพระองค์ได้ด้วยตัวเองพ่ะย่ะค่ะ อีกไม่นานพระองค์คงจักได้รู้ว่าสิ่งใดที่เป็นความต้องการขององค์เทพและเทพี” ท่านอาจารย์เซเราะห์พูดได้เพียงเท่านั้นแสงก็ยิ่งพุ่งขึ้นสูงก่อนที่จะค่อยๆ จางลง
หลังจากแสงพวยพุ่งขึ้นมาและจางลงไป ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวที่มีใบหน้างดงามพร้อมกับรอยยิ้มละมุนมองมายังฟาโรห์ราเมเนส
เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ยืนอยู่ตรงหน้าและสง่างามยิ่งกว่าใครผู้ใด ขาแข็งแรงของฟาโรห์ราเมเนสก็ทรุดลงในท่าคุกเข่าอีกครั้งทันที
“โอ้! องค์เทพีไอซิส ท่านปรากฏตัวต่อหน้าข้าและทุกคน ณ วิหารอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ข้า..ฟาโรห์ราเมเนส ขอนอบน้อมแด่ท่านที่ปกป้องคุ้มครองพวกเราชาวไอยคุปต์” ฟาโรห์ราเมเนสเอ่ยจบก็ก้มลงเคารพต่อเทพีไอซิสด้วยความน้อมนอบ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในวิหารต่างก็พากันทำตามที่เจ้าเหนือชีวิตได้ทำเมื่อครู่อย่างพร้อมเพียง
“ลุกขึ้นเถิดลูกของข้า” เทพีไอซิสเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพร้อมกับรอยยิ้มที่แลดูอบอุ่นยิ่งนัก
“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” ฟาโรห์ราเมเนสลุกขึ้นยืนพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเทพีไอซิส นัยน์ตาสีเหล็กแววไปด้วยความดีใจยิ่งที่ได้ยลโฉมของเทพีไอซิสใกล้ขนาดนี้
“ที่ข้ามาวันนี้นั้นมีสิ่งสำคัญจักต้องบอกกับเจ้าลูกของข้า..ราเมเนส” พระองค์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังจนฟาโรห์ราเมเนสที่ฟังถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
..พระองค์อย่าทรงบอกในสิ่งที่ข้านั้นกังวลใจเลย..ฟาโรห์ราเมเนสคิดในใจ เมื่อวานพระองค์รู้สึกแปลกๆ อยู่แล้วว่าวันนี้จะต้องเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่าง และก็จริงตามนั้น เพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าอะไรที่เทพีไอซิสต้องการจะบอกพระองค์กันแน่ จึงได้ปรากฏตัวอย่างนี้ ถามท่านอาจารย์เซเราะห์ก็ไม่ยอมบอกอะไรกับพระองค์เลยสักนิด..
“เอาล่ะลูกของข้า เจ้าจงฟังสิ่งนี้ให้ดี”
“พ่ะย่ะค่ะ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น นัยน์ตาสีเหล็กดูมุ่งมั่นและจริงจัง
“นับจากนี้สืบไป ดินแดนไอยคุปต์ของเจ้าจักมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ สิ่งนั้นจะมาพร้อมกับความรุ่งโรจน์และความผาสุขของเจ้าและเหล่าราษฏร เพียงแต่เจ้าจะรักษาสิ่งนั้นไว้ได้หรือไม่ก็เท่านั้น” เทพีไอซิสเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความจริงจัง
ทันทีที่เทพีไอซิสเอ่ยขึ้นก็มีเสียงดังขึ้นอย่างเซงแซ่ ก่อนที่จะเงียบลงเมื่อเห็นว่าผู้เป็นเจ้าเหนือหัวหันมามองด้วยนัยน์ตาวาวโรจน์อย่างมิชอบใจ เมื่อเสียงเงียบลงฟาโรห์ราเมเนสก็ไม่รอช้า พระองค์เอ่ยถามสิ่งที่คับข้องใจทันที
“แล้วสิ่งนั้นจะมาพร้อมกับอะไรพะย่ะค่ะ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย
“นั่นเจ้าจะรู้ด้วยตัวของเจ้าเองราเมเนสลูกข้า”
“แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรกัน พระองค์ไม่บอกอะไรเลยสักอย่าง” เสียงที่เอ่ยถามจากอ่อนนุ่มเมื่อครู่เริ่มแข็งขึ้นเมื่อไม่รู้ว่าองค์เทพีไอซิสต้องการบอกอะไรพระองค์กันแน่ แล้วสิ่งนั้นที่ว่ามันคืออะไร แล้วจะรู้ได้อย่างไรกัน
“อีกไม่นานเจ้าก็จักได้พบ เมื่อพบแล้วเจ้าก็ควรที่จะรักษาสิ่งนั้นไว้ด้วยชีวิตของเจ้า แต่เมื่อใดที่เจ้าไม่สามารถรักษาไว้ได้ ข้าจักเป็นคนนำสิ่งนั้นกลับไปด้วยตัวของข้าเอง” เทพีไอซิสยิ้มอย่างเป็นนัย ทำให้ฟาโรห์ราเมเนสยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก แต่ไม่ว่าจะถามอย่างไร องค์เทพีก็คงไม่ทรงบอกมากไปกว่านี้
“เจ้าอย่ากังวลใจไปเลยลูกของข้า กาลเวลาจักพาเจ้าไปพบสิ่งนั้นเองเมื่อถึงเวลา” เอ่ยจบแสงสีขาวประกายทองก็พวยพุ่งขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะจางลงไปพร้อมกับร่างของเทพีไอซิสที่หายไปเช่นกัน
..ไม่ว่าสิ่งๆ นั้นจะเป็นอะไร ข้าฟาโรห์ราเมเนสจักขอสัญญาว่าข้าจักดูแลไว้ด้วยชีวิตของข้า..นัยน์ตาสีเหล็กมองไปยังรูปสลักของเทพีไอซิสด้วยแววตามุ่งมั่นเหมือนเป็นสิ่งสัญญา
..ข้าก็หวังว่าเจ้าจะทำได้อย่างที่เจ้าเอ่ยไว้กับข้าเช่นกัน ราเมเนสลูกข้า..เทพีไอซิสเอ่ยในใจพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่จ้องมองลงมายังฟาโรห์ราเมเนสโดยที่พระองค์มิอาจรู้
........................................................................................................................
[1] ยูเรอัส เป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์และอำนาจ และแสดงถึงการดำรงตำแหน่งฟาโรห์ที่ถูกต้องตามกฎมณเฑียรบาลและธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมา เป็นรูปงูเห่ากำลังแผ่แม่เบี้ย ประดับอยู่ตรงมงกุฏตรงหน้าผากของฟาโรห์ บ้างเชื่อว่ากำเนิดจากพระเนตรเเห่งรา, บ้างว่าเทวีไอซิสเป็นผู้สร้าง มีหน้าที่ในการคุ้มครองผู้สวมใส่หรือเป็น สัญลักษณ์ของการทำลายล้างอริราชศัตรู เล่ากันว่ายูเรอัสจะพ่นเปลวไฟออกมาเผาผลาญผู้เป็นศัตรูของฟาโรห์
[2] ต้นกกอียิปต์ ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Cyperus papyrus L. หรือชื่อทางสามัญคือ Egyptian paper plant เป็นไม้ริมน้ำ มีอายุหลายปี ลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าใหญ่แข็ง ลำต้นเหนือดินแตกกอ ต้นเป็นรูปสามเหลี่ยม มุมมน ภายในตัน ชาวอียิปต์โบราณมักใช้ต้นกกมาทำเป็นกระดาษปาปิรุส
[3] เทพีไอซิส (Isis) เป็นธิดาของเทพรา (Ra) ซึ่งเป็นเทพีแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์ มีรูปลักษณ์เป็น เทพหญิงบนหัวมีรูปวงกลมที่ถูกหนีบด้วยเขาวัว ด้วยความรักของเทพีที่มีต่อสามี จนต้องออกเดินทางเพื่อหาทางชุปชีวิตให้สามี เทพีไอซิสจึงได้รับการยกย่องในเรื่องความรักที่มีต่อสามี และเป็นเทพีที่ได้รับการบูชาจากหญิงชาวอียิปต์ ภาพของไอซิสมักจะปรากฎอยู่ตามวิหารที่เกี่ยวข้องกับราชินีของอียิปต์
........................................................................................................................
หลังจากที่หายไปนานหลายเดือนจากเรื่องแรก ดาวเหงาคิดถึงคนอ่านที่น่ารักทุกๆ คนจริงๆ ค่ะ เรื่องนี้ยังคงเป็นนิยายแนวอียิปต์ ฟาโรห์เหมือนเดิมนะคะ คงยังไม่เบื่อกันเนอะ ใช่ไหมเอ่ย อิอิ ยังไงแล้วดาวเหงาก็ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่แวะเข้ามาอ่าน มาเม้นท์ รวมทั้งแฟนพันธุ์แท้และคนที่โหวตด้วยนะคะ เป็นอย่างไรบ้างบอกกันบ้างนะคะ ^^
ปล.ตอนแรกว่าจะมาลงให้วันนี้ช่วงมืดๆ แต่พอดีงานเสร็จเร็วเลยรีบมาอัพให้ก่อนนะคะ ฮ่าๆ อยากมาลงจัดแล้ว กลัวคนอ่านรอนาน จุ๊บๆ ^^
>>ตอบคอมเม้นท์นิดนึงเนอะ<<
คุณ rcn029 , ขอบคุณค๊าคุณ rcn029 มากๆ นะคะ ดาวเหงาดีใจจังค่ะที่คุณ rcn029 ตามมาอ่านเรื่องที่สอง เรื่องนี้เป็นยังไงบ้างบอกหน่อยนะคะ ^^
คุณ MiSuO KunSaRuSang , ขอบคุณค๊าที่คุณ MiSuO KunSaRuSang แวะมาอ่านเรื่องนี้ ดีใจจังค่ะที่คุณ MiSuO KunSaRuSang ตามาอ่านงานของดาวเหงาอีก ยังไงแล้วเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้างบอกกันบ้างนะคะ ^^
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าในวันศุกร์ที่ 8 ก.ค.54 นี้นะคะ อาจจะเลทไม่เกินวันนะคะ
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ดาวเหงารักคนอ่านทุกๆ คนเลยค่ะ จุ๊บๆ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฝากร้านหน่อยนะคะ จำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นพร้อมส่ง ราคาไม่แพงคะ http://saszygalz.lnwshop.com
นุกจร้า รออ่านอยู่นะ (aoy)