ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Merifa หน่วยพิทักษ์ (ยามพัก) โลกวิญญาณ

    ลำดับตอนที่ #3 : EP. 2 Welcome to Merifa I

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 61




     EP. 2

    Welcome to Merifa I

       

                เป็นเพราะราชาโลกวิญญาณเข้าสู่ห้วงนิทรา และดูท่าจะไม่ตื่นขึ้นมาง่ายๆ ยมทูตของหน่วยเมริฟาที่ต้องมารับตัววิญญาณใหม่ก็ติดธุระสำคัญ ยมทูตในชุดพ่อบ้านเลยกลายเป็นผู้นำทางพาน้องใหม่ไปส่งยังหน่วยที่ว่าอย่างไม่มีทางเลือก

    แล้วถ้าหูไม่ได้แว่วไป คนเพิ่งตายได้ยินอีกฝ่ายบ่นพึมพำเรื่องขอขึ้นเงินเดือนข้อหาใช้งานยมทูตผิดหน่วย

    ยมทูตต้องใช้เงินด้วยหรือไง

           ระหว่างที่คิดอยู่นั้น เขาได้ข้ามผ่านสะพานแห่งหนึ่ง เบื้องล่างเป็นแม่น้ำที่ไม่รู้จักชื่อ แต่ความน่ากลัวที่แผ่ออกมาทำให้ชายหนุ่มต้องเลี่ยงที่จะไม่เดินเฉียดราวสะพานเพราะกลัวว่าจะพลัดตกลงไป

    บรรยากาศของโลกวิญญาณดูไม่แตกต่างจากที่เขาคิดเอาไว้นัก มันมืดมิดและหนาวเย็น แต่เพราะมีดวงไฟสีส้มส่องอยู่ตลอดสองข้างทาง มันจึงทำให้มองเห็น และลดความหนาวลงไปได้บ้าง

     แสงจากไฟพวกนั้นทำให้ชายหนุ่มเห็นยมทูตหลากหลายตนกำลังวิ่งกันให้วุ่น พวกเขาดูวุ่นวาย แต่บางตนกลับนอนหมดสภาพอยู่ที่พื้น หรือยืนหลับอยู่บริเวณราวสะพาน

    สิ่งที่ยมทูตแต่ละตนมีเหมือนกันไม่ใช่แค่เคียวด้ามยาวสีดำขนาดเท่าลำตัว มันยังมีท่าทางเหนื่อยล้าจนแทบหมดเรี่ยวแรง แต่ละตนนั้นมีหน้าตาเหมือนคนอดหลับอดนอน อยากจะของีบสักสิบนาทีก็ยังดี แล้วสุดท้ายยมทูตที่กำลังพิงราวสะพานหลับนั่นก็คงหมดความอดทน ลงไปนอนกับพื้นสะพานเอาเสียดื้อๆ

    นี่” ชายหนุ่มผู้มีความสงสัยอยู่เปี่ยมล้นจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่ ส่งเสียงเรียกชายในชุดพ่อบ้าน

    ขอรับ?”

    ทำไมยมทูตแต่ละตนถึงดูเหนื่อยกันขนาดนั้น

    เมื่อครู่เห็นราชาโลกวิญญาณที่ง่วงสุดขีดจนถึงขนาดถือหมอนออกมาต้อนรับนั่นเขาก็รู้สึกประหลาดใจแล้ว แต่พอได้เห็นยมทูตจำนวนมากหมดสภาพกันแบบนี้ มันทำให้เขาแปลกใจยิ่งกว่าเก่า

     เป็นเพราะจำนวนของพวกเรามีไม่เพียงพอกับดวงวิญญาณของมนุษย์น่ะขอรับ” ยมทูตในชุดพ่อบ้านเริ่มอธิบาย “มนุษย์อย่างพวกท่านมีไม่รู้ตั้งกี่แสนล้านคน ขณะที่พวกเรามีแค่ในระดับหมื่นเท่านั้น

    ชายหนุ่มหนึ่งในชาวมนุษย์หลายล้านคนพยักหน้ารับรู้ เขาพอจะเดาคำพูดต่อจากนั้นได้

    แบบนี้ก็หมายความว่า เพราะมนุษย์อย่างพวกข้ามีมากกว่าพวกเจ้า พวกเจ้าเลยตามจับวิญญาณของพวกข้ากันไม่หวาดไม่ไหวงั้นสิ

    ถูกต้องขอรับ” ยมทูตพยักหน้ารับ “แล้วอีกอย่าง ในเวลาที่ท่านตาย ดวงวิญญาณอีกดวงก็ต้องไปเกิด ยมทูตอย่างพวกเราที่ทำหน้าที่รับส่งดวงวิญญาณหัวหมุนกันแทบจะทุกวินาที ไหนจะยังมีพวกชอบฝืนชะตาชีวิต ดื้อด้านอยากจะอยู่ต่ออีก เป็นปัญหาใหญ่เลยขอรับ” เขาเว้นช่วงแล้วถอนหายใจ เชสเซอร์เห็นว่าชายหนุ่มทำปากขมุบขมิบ แต่แค่พริบตาเดียวก็กลับมาตีหน้าเข้ม เอ่ยอธิบายต่อ

    พวกเรามีเวลาจำกัดในการรับดวงวิญญาณตายใหม่อย่างท่านเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ถ้าหากเกินกำหนดเวลา ทุกอย่างจะวุ่นวายขอรับ

    ยังไง

    เรื่องนี้ทางหน่วยเมริฟาจะเป็นฝ่ายตอบท่านเอง ถึงแล้วขอรับ

    ยมทูตในชุดพ่อบ้านหยุดฝีเท้าลงหน้าอาคารสำนักงานสูงห้าชั้นแห่งหนึ่ง มันทำให้ดวงวิญญาณของชายหนุ่มหน้าสวยอ้าปากค้าง แล้วถ้าระดับความประหลาดใจมีสิบระดับ ระดับของเขาคงอยู่ที่สิบเอ็ด

     ทำไมโลกวิญญาณถึงมีสิ่งก่อสร้างอะไรแบบนี้ล่ะ

    นี่ท่านเพิ่งมาอึ้งเอาตอนนี้หรือขอรับ ข้าคิดว่าท่านอึ้งกับความหรูหราโอ่อ่า สว่างไสวของพระราชวังไปแล้วเสียอีก” ยมทูตเลิกคิ้วขึ้นสูง เขามองหน้าวิญญาณหนุ่มแล้วรู้สึกอยากกุมขมับ

    ส่วนดวงวิญญาณก็อยากจะบอกนักว่าตอนนั้นเขาก็อึ้ง แต่ไม่ได้ถามเพราะมันมีเรื่องชวนประหลาดใจเกิดขึ้นติดต่อกัน ไม่รู้ว่าจะถามเรื่องไหนก่อนเป็นอันดับแรก อย่ามองเหมือนเขาเป็นคนโง่แบบนั้นสิ...

    ถ้าข้าไม่อธิบายท่านคงจะอ้าปากค้างรอให้สะเก็ดไฟกระเด็นใส่ต่อไปสินะขอรับ” ผู้พูดถอนหายใจ และประโยคนี้นี่เองที่ทำให้วิญญาณที่กำลังอึ้งต้องหุบปากโดยพลัน

    ข้าอยากจะอธิบายต่อนะ แต่ติดที่มีงาน ท่านถามกับยมทูตในหน่วยนี้เอาก็แล้วกันนะขอรับ ข้าจะพาท่านเข้า—”

    ตู้ม!! เสียงของยมทูตถูกขัดด้วยเสียงระเบิดของอะไรสักอย่าง พอหันไปมองก็พบว่าชั้นบนสุดของอาคารสำนักงานมีไฟลุกท่วม และเต็มไปด้วยควัน ยมทูตในชุดพ่อบ้านอ้าปากค้างอยู่ครู่หนึ่งค่อยได้สติ วิ่งเข้าไปหาไฟพร้อมตะโกนลั่น

    น้ำๆ รีบเอาน้ำมาดับไฟเร็วเข้า!

    ไม่เอาน้ำจากแม่น้ำลีธีสิเจ้าอยากให้พวกฮิวในหน่วยความจำเสื่อมกันเรอะ!

    เสียงโหวกเหวกโวยวายของยมทูตดังขึ้นหลากหลายเสียง พวกที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำรีบวิ่งข้ามสะพานมาช่วยกันดับไฟ พวกเขาพยายามควบคุมเพลิงไม่ให้มันลามไปไกล ปากก็บ่นพึมพำ แล้วถ้าชายหนุ่มได้ยินไม่ผิด พวกเขาบ่นเป็นแนวเดียวกันว่าหัวหน้าหน่วยเมริฟาก่อเรื่องอีกแล้ว

    นั่นทำให้วิญญาณใหม่ชักหวาดวิตกกับหัวหน้าหน่วยของตัวเอง ตอนยังมีชีวิตอยู่เขาก็มีหัวหน้า แต่หัวหน้าของเขาเป็นประเภทเข้มงวดและจริงจัง ไม่เคยก่อเรื่องให้ใครต้องเดือดร้อน ได้มาเจอหัวหน้าที่ดูจะเป็นพวกชอบก่อเรื่องแบบนี้ การรู้สึกเป็นกังวลก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

    ให้ตายเถอะ หัวหน้าบ้านั่นก่อเรื่องไม่รู้จักหยุดจักหย่อน!

    เสียงที่ไม่ว่าจะมีความหงุดหงิดแฝงอยู่มากขนาดไหน มันก็ยังนุ่มและอบอุ่นดังขึ้นข้างตัวสมาชิกใหม่ พอชายหนุ่มหันไปตามทิศทางของเสียง เขาก็ได้พบเข้ากับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอายุคราวเดียวกัน

    โห...

    หล่อธรรมดายังพอว่า แต่เสน่ห์เจิดจ้า หล่อแม้กระทั่งเส้นผมแบบนี้มันทำให้เขามือไม้สั่นอย่างบอกไม่ถูก

    ผมของชายหนุ่มผู้นั้นยาวสลวยถึงเอว ดำเงางาม ปลายเป็นสีน้ำเงิน ดูนุ่มมีน้ำหนักจนอยากถามว่าใช้แชมพูยี่ห้อไหน และที่สร้างความรู้สึกอิจฉาให้ก็ไม่ใช่แค่ความสวยของเส้นผม แต่เป็นตาสีน้ำเงินที่คมเข้ากับใบหน้าและคิ้ว จมูกปากก็ให้ความร่วมมือได้ดีจนรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้อย่างหมดรูป

    ไม่สิ เขาชนะอยู่หนึ่งข้อ เพราะชายผู้นี้สูงแค่ระดับสายตาเขาเท่านั้น รูปร่างก็ผอมบาง ดูไม่มีกล้ามเนื้อเเท่าที่ควร

    หรือเป็นพวกซ่อนรูป? ชายหนุ่มคิด จ้องมองยมทูตตรงหน้าเสียจนเจ้าตัวหันมาขมวดคิ้วใส่

    มองอะอ้าว มาแล้วเหรอยมทูตผู้ตนนั้นเอ่ยปากถามมนุษย์ขี้อิจฉา คิ้วคมเข้มคลายออก ดวงตาฉายแววเป็นมิตรขณะส่งยิ้มให้เขา ข้ากำลังรอเจ้าอยู่เลย แต่เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ ข้าขอไปจัดการหัวหน้าบ้านั่นก่อน

    เดี๋ยว!”

    วิญญาณหน้าใหม่ยื่นมือไปรั้งแขนของชายหนุ่มคนนั้นเอาไว้ โดยลืมไปชั่วขณะว่าตนเกลียดการสัมผัสร่างกาย เฉพาะอย่างยิ่งกับเพศเดียวกัน

    เราทำอะไรไปเนี่ย!?

    เขานิ่งกับการกระทำของตัวเอง จนกระทั่งเจ้าของร่างกายผอมบางส่งเสียงถาม

    “เจ้ามีอะไรหรือเปล่า” เสียงนุ่มทุ้มนิดๆ ฟังรื่นหูถามอย่างใจเย็นผิดกับสถานการณ์ “รอเดี๋ยวนะ ขอข้าจัดการตรงนี้ก่อน แล้วจะมาคุยด้วย”

    “เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า”

     หนุ่มหน้าสวยถามออกมาจากความรู้สึกที่อยู่ภายในใจ ทั้งที่มั่นใจว่าไม่เคยเจอหน้า แต่ใจกลับบอกว่าให้รั้งไว้ นั่นทำเอาตัวเขารู้สึกสับสนจนต้องใช้อีกมือหนึ่งกุมขมับ ทว่าอีกฝ่ายกลับแย้มยิ้ม ไม่ถือสาอะไรกับการโดนรั้งในสถานการณ์คับขัน

     “มุกจีบสาวเหรอ เวลานี้มันค่อยไม่เหมาะนะ” ฝ่ายนั้นหลุดหัวเราะ ดวงตาแฝงแววขบขัน “เราไม่เคยเจอกันหรอก ตอนนี้เจ้าปล่อยข้าก่อนเถอะ ข้าไม่อยากหน่วยข้าต้องปิดซ่อมนะ”

    “ขอโทษ ข้าลืมตัวไป” วิญญาณหน้าสวยรีบปล่อยแขนชายหนุ่ม และชักมือกลับมามองอย่างไม่เข้าใจ

    “เจ้าเองก็หาที่ปลอดภัยหลบก่อนดีกว่า ตอนนี้เจ้าอยู่ในสภาพวิญญาณ ถ้าโดนน้ำจากแม่น้ำแห่งการลืมเลือนสาดใส่มันจะแย่เอา”

    คำพูดของยมทูตหน้าหล่อทำให้เขารู้สึกมึนงง แต่ก่อนที่จะได้ถามอะไร เจ้าตัวก็ดีดนิ้วหนึ่งครั้ง ขวดยาสีใสที่ภายในบรรจุน้ำสีฟ้าปรากฏขึ้นมาจากอากาศ เขารีบคว้ามันไว้ก่อนจะวิ่งตรงไปยังสำนักงานที่กำลังถูกไฟไหม้ แล้วในวินาทีนั้นเองที่ระดับความอึ้งของดวงวิญญาณชายเพิ่มขึ้นมากกว่าเก่า

    ความบอบบางของร่างกายยมทูตหน้าหล่อเป็นสิ่งเขาสังเกตเห็นไปตั้งแต่ก่อนหน้า แต่ที่ดึงดูสายตามากกว่าสิ่งใดก็คือเรียวขาขาวเนียนที่โผล่พ้นกระโปรงสั้นๆ ถึงจะพูดไม่ได้ว่ามันสวยกว่าขาใครที่เคยพบเห็น แต่มันก็ชวนมองอย่างไม่อาจห้ามสายตาได้

    แต่เดี๋ยว ดูเหมือนความสวยของขาจะไม่ใช่ประเด็นที่ควรจับจ้อง

    วิญญาณหน้าใหม่ยกมือขยี้ตา มองซ้ายมองขวา ก่อนหันกลับมามองหลังยมทูตหน้าหล่ออีกครั้ง

    กระโปรง!? ผู้ชายเนี่ยนะ!?

     

     

    ------------------------------------------------------------

     

    เรียนนักอ่านทุกท่าน …

    เนื่องจากความอยากอัพให้สม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการอัพหลอก

    ดังนั้นเราจะอัพเป็นครึ่งท่อนแบบนี้แทนการอัพฉบับเต็มนะคะ (ฉบับเต็มก็มากกว่านี้ครึ่งนึง)

    และเรียนอีกเรื่อง เผื่อนักอ่านชายจะรู้สึกขนลุกขนพองกัน

    เรื่องนี้ไม่วายค่ะ มีนางเอกแน่นอน สบายใจได้นะคะ

    แต่ถ้าอยากรู้ว่าหนุ่มหล่อสวมกระโปรงคนนี้เป็นใคร เชิญติดตามได้ในตอนหน้า

    Welcome to Merifa II ค่ะ

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×