คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : EP. 2 Welcome to Merifa I
EP. 2
Welcome to Merifa I
เป็นเพราะราชาโลกวิญญาณเข้าสู่ห้วงนิทรา และดูท่าจะไม่ตื่นขึ้นมาง่ายๆ ยมทูตของหน่วยเมริฟาที่ต้องมารับตัววิญญาณใหม่ก็ติดธุระสำคัญ
ยมทูตในชุดพ่อบ้านเลยกลายเป็นผู้นำทางพาน้องใหม่ไปส่งยังหน่วยที่ว่าอย่างไม่มีทางเลือก
แล้วถ้าหูไม่ได้แว่วไป
คนเพิ่งตายได้ยินอีกฝ่ายบ่นพึมพำเรื่องขอขึ้นเงินเดือนข้อหาใช้งานยมทูตผิดหน่วย
ยมทูตต้องใช้เงินด้วยหรือไง
ระหว่างที่คิดอยู่นั้น เขาได้ข้ามผ่านสะพานแห่งหนึ่ง
เบื้องล่างเป็นแม่น้ำที่ไม่รู้จักชื่อ แต่ความน่ากลัวที่แผ่ออกมาทำให้ชายหนุ่มต้องเลี่ยงที่จะไม่เดินเฉียดราวสะพานเพราะกลัวว่าจะพลัดตกลงไป
บรรยากาศของโลกวิญญาณดูไม่แตกต่างจากที่เขาคิดเอาไว้นัก
มันมืดมิดและหนาวเย็น แต่เพราะมีดวงไฟสีส้มส่องอยู่ตลอดสองข้างทาง มันจึงทำให้มองเห็น
และลดความหนาวลงไปได้บ้าง
แสงจากไฟพวกนั้นทำให้ชายหนุ่มเห็นยมทูตหลากหลายตนกำลังวิ่งกันให้วุ่น
พวกเขาดูวุ่นวาย แต่บางตนกลับนอนหมดสภาพอยู่ที่พื้น หรือยืนหลับอยู่บริเวณราวสะพาน
สิ่งที่ยมทูตแต่ละตนมีเหมือนกันไม่ใช่แค่เคียวด้ามยาวสีดำขนาดเท่าลำตัว
มันยังมีท่าทางเหนื่อยล้าจนแทบหมดเรี่ยวแรง แต่ละตนนั้นมีหน้าตาเหมือนคนอดหลับอดนอน
อยากจะของีบสักสิบนาทีก็ยังดี แล้วสุดท้ายยมทูตที่กำลังพิงราวสะพานหลับนั่นก็คงหมดความอดทน
ลงไปนอนกับพื้นสะพานเอาเสียดื้อๆ
“นี่” ชายหนุ่มผู้มีความสงสัยอยู่เปี่ยมล้นจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่
ส่งเสียงเรียกชายในชุดพ่อบ้าน
“ขอรับ?”
“ทำไมยมทูตแต่ละตนถึงดูเหนื่อยกันขนาดนั้น”
เมื่อครู่เห็นราชาโลกวิญญาณที่ง่วงสุดขีดจนถึงขนาดถือหมอนออกมาต้อนรับนั่นเขาก็รู้สึกประหลาดใจแล้ว
แต่พอได้เห็นยมทูตจำนวนมากหมดสภาพกันแบบนี้ มันทำให้เขาแปลกใจยิ่งกว่าเก่า
“เป็นเพราะจำนวนของพวกเรามีไม่เพียงพอกับดวงวิญญาณของมนุษย์น่ะขอรับ” ยมทูตในชุดพ่อบ้านเริ่มอธิบาย “มนุษย์อย่างพวกท่านมีไม่รู้ตั้งกี่แสนล้านคน
ขณะที่พวกเรามีแค่ในระดับหมื่นเท่านั้น”
ชายหนุ่มหนึ่งในชาวมนุษย์หลายล้านคนพยักหน้ารับรู้
เขาพอจะเดาคำพูดต่อจากนั้นได้
“แบบนี้ก็หมายความว่า เพราะมนุษย์อย่างพวกข้ามีมากกว่าพวกเจ้า
พวกเจ้าเลยตามจับวิญญาณของพวกข้ากันไม่หวาดไม่ไหวงั้นสิ”
“ถูกต้องขอรับ” ยมทูตพยักหน้ารับ “แล้วอีกอย่าง ในเวลาที่ท่านตาย ดวงวิญญาณอีกดวงก็ต้องไปเกิด
ยมทูตอย่างพวกเราที่ทำหน้าที่รับส่งดวงวิญญาณหัวหมุนกันแทบจะทุกวินาที ไหนจะยังมีพวกชอบฝืนชะตาชีวิต
ดื้อด้านอยากจะอยู่ต่ออีก เป็นปัญหาใหญ่เลยขอรับ” เขาเว้นช่วงแล้วถอนหายใจ
เชสเซอร์เห็นว่าชายหนุ่มทำปากขมุบขมิบ แต่แค่พริบตาเดียวก็กลับมาตีหน้าเข้ม เอ่ยอธิบายต่อ
“พวกเรามีเวลาจำกัดในการรับดวงวิญญาณตายใหม่อย่างท่านเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
ถ้าหากเกินกำหนดเวลา ทุกอย่างจะวุ่นวายขอรับ”
“ยังไง”
“เรื่องนี้ทางหน่วยเมริฟาจะเป็นฝ่ายตอบท่านเอง ถึงแล้วขอรับ”
ยมทูตในชุดพ่อบ้านหยุดฝีเท้าลงหน้าอาคารสำนักงานสูงห้าชั้นแห่งหนึ่ง มันทำให้ดวงวิญญาณของชายหนุ่มหน้าสวยอ้าปากค้าง
แล้วถ้าระดับความประหลาดใจมีสิบระดับ ระดับของเขาคงอยู่ที่สิบเอ็ด
“ทำไมโลกวิญญาณถึงมีสิ่งก่อสร้างอะไรแบบนี้ล่ะ”
“นี่ท่านเพิ่งมาอึ้งเอาตอนนี้หรือขอรับ
ข้าคิดว่าท่านอึ้งกับความหรูหราโอ่อ่า สว่างไสวของพระราชวังไปแล้วเสียอีก” ยมทูตเลิกคิ้วขึ้นสูง เขามองหน้าวิญญาณหนุ่มแล้วรู้สึกอยากกุมขมับ
ส่วนดวงวิญญาณก็อยากจะบอกนักว่าตอนนั้นเขาก็อึ้ง แต่ไม่ได้ถามเพราะมันมีเรื่องชวนประหลาดใจเกิดขึ้นติดต่อกัน
ไม่รู้ว่าจะถามเรื่องไหนก่อนเป็นอันดับแรก อย่ามองเหมือนเขาเป็นคนโง่แบบนั้นสิ...
“ถ้าข้าไม่อธิบายท่านคงจะอ้าปากค้างรอให้สะเก็ดไฟกระเด็นใส่ต่อไปสินะขอรับ” ผู้พูดถอนหายใจ
และประโยคนี้นี่เองที่ทำให้วิญญาณที่กำลังอึ้งต้องหุบปากโดยพลัน
“ข้าอยากจะอธิบายต่อนะ แต่ติดที่มีงาน ท่านถามกับยมทูตในหน่วยนี้เอาก็แล้วกันนะขอรับ
ข้าจะพาท่านเข้า—”
ตู้ม!! เสียงของยมทูตถูกขัดด้วยเสียงระเบิดของอะไรสักอย่าง พอหันไปมองก็พบว่าชั้นบนสุดของอาคารสำนักงานมีไฟลุกท่วม
และเต็มไปด้วยควัน ยมทูตในชุดพ่อบ้านอ้าปากค้างอยู่ครู่หนึ่งค่อยได้สติ
วิ่งเข้าไปหาไฟพร้อมตะโกนลั่น
“น้ำๆ รีบเอาน้ำมาดับไฟเร็วเข้า!”
“ไม่เอาน้ำจากแม่น้ำลีธีสิ! เจ้าอยากให้พวกฮิวในหน่วยความจำเสื่อมกันเรอะ!”
เสียงโหวกเหวกโวยวายของยมทูตดังขึ้นหลากหลายเสียง
พวกที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำรีบวิ่งข้ามสะพานมาช่วยกันดับไฟ พวกเขาพยายามควบคุมเพลิงไม่ให้มันลามไปไกล
ปากก็บ่นพึมพำ แล้วถ้าชายหนุ่มได้ยินไม่ผิด
พวกเขาบ่นเป็นแนวเดียวกันว่าหัวหน้าหน่วยเมริฟาก่อเรื่องอีกแล้ว
นั่นทำให้วิญญาณใหม่ชักหวาดวิตกกับหัวหน้าหน่วยของตัวเอง
ตอนยังมีชีวิตอยู่เขาก็มีหัวหน้า แต่หัวหน้าของเขาเป็นประเภทเข้มงวดและจริงจัง
ไม่เคยก่อเรื่องให้ใครต้องเดือดร้อน ได้มาเจอหัวหน้าที่ดูจะเป็นพวกชอบก่อเรื่องแบบนี้
การรู้สึกเป็นกังวลก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ให้ตายเถอะ หัวหน้าบ้านั่นก่อเรื่องไม่รู้จักหยุดจักหย่อน!”
เสียงที่ไม่ว่าจะมีความหงุดหงิดแฝงอยู่มากขนาดไหน มันก็ยังนุ่มและอบอุ่นดังขึ้นข้างตัวสมาชิกใหม่
พอชายหนุ่มหันไปตามทิศทางของเสียง เขาก็ได้พบเข้ากับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอายุคราวเดียวกัน
โห...
หล่อธรรมดายังพอว่า แต่เสน่ห์เจิดจ้า หล่อแม้กระทั่งเส้นผมแบบนี้มันทำให้เขามือไม้สั่นอย่างบอกไม่ถูก
ผมของชายหนุ่มผู้นั้นยาวสลวยถึงเอว ดำเงางาม ปลายเป็นสีน้ำเงิน ดูนุ่มมีน้ำหนักจนอยากถามว่าใช้แชมพูยี่ห้อไหน
และที่สร้างความรู้สึกอิจฉาให้ก็ไม่ใช่แค่ความสวยของเส้นผม แต่เป็นตาสีน้ำเงินที่คมเข้ากับใบหน้าและคิ้ว
จมูกปากก็ให้ความร่วมมือได้ดีจนรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
ไม่สิ เขาชนะอยู่หนึ่งข้อ เพราะชายผู้นี้สูงแค่ระดับสายตาเขาเท่านั้น
รูปร่างก็ผอมบาง ดูไม่มีกล้ามเนื้อเเท่าที่ควร
หรือเป็นพวกซ่อนรูป? ชายหนุ่มคิด
จ้องมองยมทูตตรงหน้าเสียจนเจ้าตัวหันมาขมวดคิ้วใส่
“มองอะ… อ้าว มาแล้วเหรอ” ยมทูตผู้ตนนั้นเอ่ยปากถามมนุษย์ขี้อิจฉา
คิ้วคมเข้มคลายออก ดวงตาฉายแววเป็นมิตรขณะส่งยิ้มให้เขา “ข้ากำลังรอเจ้าอยู่เลย
แต่เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ ข้าขอไปจัดการหัวหน้าบ้านั่นก่อน”
“เดี๋ยว!”
วิญญาณหน้าใหม่ยื่นมือไปรั้งแขนของชายหนุ่มคนนั้นเอาไว้ โดยลืมไปชั่วขณะว่าตนเกลียดการสัมผัสร่างกาย เฉพาะอย่างยิ่งกับเพศเดียวกัน
เราทำอะไรไปเนี่ย!?
เขานิ่งกับการกระทำของตัวเอง จนกระทั่งเจ้าของร่างกายผอมบางส่งเสียงถาม
“เจ้ามีอะไรหรือเปล่า” เสียงนุ่มทุ้มนิดๆ ฟังรื่นหูถามอย่างใจเย็นผิดกับสถานการณ์ “รอเดี๋ยวนะ ขอข้าจัดการตรงนี้ก่อน แล้วจะมาคุยด้วย”
“เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า”
หนุ่มหน้าสวยถามออกมาจากความรู้สึกที่อยู่ภายในใจ
ทั้งที่มั่นใจว่าไม่เคยเจอหน้า แต่ใจกลับบอกว่าให้รั้งไว้ นั่นทำเอาตัวเขารู้สึกสับสนจนต้องใช้อีกมือหนึ่งกุมขมับ
ทว่าอีกฝ่ายกลับแย้มยิ้ม ไม่ถือสาอะไรกับการโดนรั้งในสถานการณ์คับขัน
“มุกจีบสาวเหรอ เวลานี้มันค่อยไม่เหมาะนะ”
ฝ่ายนั้นหลุดหัวเราะ ดวงตาแฝงแววขบขัน “เราไม่เคยเจอกันหรอก
ตอนนี้เจ้าปล่อยข้าก่อนเถอะ ข้าไม่อยากหน่วยข้าต้องปิดซ่อมนะ”
“ขอโทษ ข้าลืมตัวไป” วิญญาณหน้าสวยรีบปล่อยแขนชายหนุ่ม และชักมือกลับมามองอย่างไม่เข้าใจ
“เจ้าเองก็หาที่ปลอดภัยหลบก่อนดีกว่า ตอนนี้เจ้าอยู่ในสภาพวิญญาณ
ถ้าโดนน้ำจากแม่น้ำแห่งการลืมเลือนสาดใส่มันจะแย่เอา”
คำพูดของยมทูตหน้าหล่อทำให้เขารู้สึกมึนงง แต่ก่อนที่จะได้ถามอะไร เจ้าตัวก็ดีดนิ้วหนึ่งครั้ง
ขวดยาสีใสที่ภายในบรรจุน้ำสีฟ้าปรากฏขึ้นมาจากอากาศ เขารีบคว้ามันไว้ก่อนจะวิ่งตรงไปยังสำนักงานที่กำลังถูกไฟไหม้
แล้วในวินาทีนั้นเองที่ระดับความอึ้งของดวงวิญญาณชายเพิ่มขึ้นมากกว่าเก่า
ความบอบบางของร่างกายยมทูตหน้าหล่อเป็นสิ่งเขาสังเกตเห็นไปตั้งแต่ก่อนหน้า
แต่ที่ดึงดูสายตามากกว่าสิ่งใดก็คือเรียวขาขาวเนียนที่โผล่พ้นกระโปรงสั้นๆ ถึงจะพูดไม่ได้ว่ามันสวยกว่าขาใครที่เคยพบเห็น
แต่มันก็ชวนมองอย่างไม่อาจห้ามสายตาได้
แต่เดี๋ยว ดูเหมือนความสวยของขาจะไม่ใช่ประเด็นที่ควรจับจ้อง…
วิญญาณหน้าใหม่ยกมือขยี้ตา มองซ้ายมองขวา ก่อนหันกลับมามองหลังยมทูตหน้าหล่ออีกครั้ง
กระโปรง!?
ผู้ชายเนี่ยนะ!?
------------------------------------------------------------
เรียนนักอ่านทุกท่าน …
เนื่องจากความอยากอัพให้สม่ำเสมอ
และหลีกเลี่ยงการอัพหลอก
ดังนั้นเราจะอัพเป็นครึ่งท่อนแบบนี้แทนการอัพฉบับเต็มนะคะ
(ฉบับเต็มก็มากกว่านี้ครึ่งนึง…)
และเรียนอีกเรื่อง
เผื่อนักอ่านชายจะรู้สึกขนลุกขนพองกัน
เรื่องนี้ไม่วายค่ะ
มีนางเอกแน่นอน สบายใจได้นะคะ
แต่ถ้าอยากรู้ว่าหนุ่มหล่อสวมกระโปรงคนนี้เป็นใคร
เชิญติดตามได้ในตอนหน้า
Welcome to Merifa II ค่ะ
ความคิดเห็น