ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mafia Heart รักร้ายร้าย คุณชายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 58


    บทนำ

                    ฉันกำลังอยู่บนรถแท็กซี่ที่เพิ่งโบกมาหยกๆอย่างเงียบๆ โดยมีจีริณพี่เลี้ยงและผู้จัดการส่วนตัวของฉันนั่งอยู่ข้างๆอย่างสงบเช่นเดียวกัน ตอนนี้ฉันอยู่ที่ประเทศอิตาลี ฉันกำลังจะไปสนามบินเพื่อกลับประเทศไทย อืม...ตอนนี้เวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่งเห็นจะได้น่ะนะ

                สวัสดีฉันชื่อไพลิน หรือจะเรียกเต็มยศก็ได้ว่า ไพลิน จิวเวอร์เรีย ที่บ้านทำธุรกิจจิลเวอร์รี่เงินทองรวยล้นฟ้าไม่รู้ว่าถ้าเกิดใหม่อีกสัก 100 ชาติจะใช้หมดรึเปล่า ตระกูลฉันมีพี่น้องรวม 3 คน แต่ละคนล้วนเป็นคนอิตาลี แต่พอดีว่าครอบครัวฉันไปลงทุนทำธุรกิจที่ไทย เลยมีบ้านอยู่ทั้งไทยและอิตาลี ดีใช่มั้ยล่ะ( ^-^)

    คนแรกคือฉัน สวย เริด เชิ่ด โหด อายุเอ่อ...=_= 23 ปี ณ ตอนนี้เรียนจบแล้วเรียบร้อย ผมสีน้ำเงินยาวถึงเอว ส่วนดวงตาสีไพลิน อาชีพ นางแบบ ดารา นักแสดง แถมยังดังระดับโกอินเตอร์อีกด้วย ว่างๆก็นั่งเขียนข่าวซุบซิบในวงการเล่นเพื่อเอาไปขายให้นักข่าวที่ไร้ฝีมือ โฮะๆๆ ฉันนี่เก่งรอบด้านจริง อะไรจริง แถมยังสวยอีกต่างหาก (ดูท่าน่าจะหลงตัวเองด้วยแฮะ)

    คนต่อไป คุณทับทิม น้องสาวคนกลาง ดวงตาสีทับทิมส่องประกายแวววาว ผมสีแดงสดใสยาวถึงกลางหลัง สวย แสบ แอ๊บ ร้าย อายุ 21 ปี เรียนอยู่ปี 3 อาชีพ นางแบบ นักแสดง ในวงการดูเป็นคนเรียบร้อย อ่อนหวาน แต่อยู่บ้านหรืออยู่กับคนสนิทจะกลายเป็นยัยนางร้ายตาจิกไม่แคร์ผู้ใดทั้งสิ้น

    คนสุดท้าย คุณหนูหยกฟ้า น้องสาวคนเล็ก ดวงตาสีฟ้าอ่อน ผมสีเขียวอ่อนคล้ายสีของหยก หวาน สวย รวย (แอบ)โหด อายุ 19 ปี เรียนอยู่ปี 1 อาชีพ นางแบบ ออกงานบ้างเล็กๆน้อยๆ เรียบร้อยจริง อ่อนหวานจริง แต่อย่าให้โกรธจริงเดี๋ยวได้เรียกรถพยาบาล เห็นหวานๆแต่ถ้าโกรธหรือเกลียดใครขึ้นมา เตรียมรับศึกหนักได้เลย

                    คุณหนูไม่โทร.ไปหาคุณทับทิม กับคุณหยกฟ้าเหรอค่ะจีริณทักขึ้น ทำให้ฉันหันไปยิ้มน้อยๆให้จีริณและความขี้ลืมของตัวเอง ก่อนจะหยิบไอโฟนรุ่นล่าสุดที่ฉันพึ่งจะซื้อมาไม่กี่วันขึ้นมาไล่กดหาเบอร์น้องสาวทั้ง 2 ของฉันอย่างเงียบๆ

                    พี่ไพลิน!” เสียง 2 สาวของฉันตะโกนชื่อฉันด้วยน้ำเสียงดีใจ (มั้งนะ)

                    จ้าๆพี่นี่แหละ=_=” ฉันพูดคล้ายๆประชด

                    พี่อยู่ไหนเหรอค่ะเสียงหยกฟ้าดังมาตามสาย

                    ออกมาจากบ้านได้สักพักแล้วล่ะฉันตอบพลางมองดูทิวทัศน์ข้างทางผ่านกระจกรถไปพลาง อืม...แถมนี้ของกินเยอะจังเลยแฮะ=_=

                พี่กินอะไรยังอ่ะ เสียงของยัยทับทิมตามมาบ้าง

                    ยังเลย พี่ก็ชักหิวแล้วสิ ฉันใช้มือลูบท้องของฉันที่ตอนนี้มันเริ่มส่งเสียงร้องประท้วงซะแล้ว

                    พี่รีบหาอะไรทานเถอะค่ะพวกเราไม่กวนแล้ว^_^” หยกฟ้าบอกเสียงใส

                งั้นแค่นี้ก่อนนะ พี่หาอะไรกินก่อนฉันตัดบทพร้อมกับตัดสายในคราวเดียวกัน

                    จอดร้านอาหารข้างหน้าค่ะฉันชี้ไปที่ร้านร้านหนึ่ง เป็นร้านพิซซ่าเล็กๆที่ดูแอบหรูอยู่ในตัว

                    จีริณฉันขอลงไปหาอะไรกินก่อนนะค่ะ^_^” ฉันยิ้มแหยๆให้จีริณก่อนจะหยิบกระจกขึ้นมาส่องดูความเรียบร้อย ผมสีน้ำเงินเข้มของฉันถูกปิดบังไว้ด้วยวิกผมสีไข่ และดวงตาสีไพลินของฉันก็ได้ถูกทับไว้ด้วยคอนแทคเลนส์สีแดงและแว่นตา ตอนนี้ฉันดูเฉิ่มสุดๆไปเลยล่ะ ไหนจะชุดกระโปงคลุมเข่าสีพาสเทลนี่อีก มันทำให้ฉันหมดมาดนางร้ายที่มีอยู่ในสายเลือดไปอย่างสิ้นเชิง จีริณนี่เข้าใจเลือกเนอะ=_= ฉันก้าวขาลงจากรถแท็กซี่ตรงไปในร้านนั้นอย่างเก้ๆกังๆ แต่แล้วฉันก็ได้ยินเสียงๆหนึ่งดังขึ้นจากบริเวณใกล้ๆกัน ทำให้ฉันหันไปมองด้วยความสนใจ

                นั่นใช่รึเปล่าวะเสียงดังมาจากพุ่มไม้ข้างร้านฟังดูขนลุกพิกลแฮะ

                    มีอะไรรึเปล่าค่ะ ว้าย!”

                กรี้ด!!!!!!!! นี่มันเรื่องอะไรกันทำไมฉันต้องถูกคลุมด้วยถุงสีดำบ้าๆนี่ แถมยังเหม็นกลิ่นปลาร้าอีกต่างหาก เอ๋! ปลาร้าเหรอ ฉันเคยอยู่ไทยมาตั้งหลายปียังไม่คิดแตะต้องเลยนะ ไม่เค้ย ไม่เคย แม้แต่สักนิดเดียวT^T ฮือ~ กลิ่นชวนอาเจียนอะไรเช่นนี้

                    คุณหนูค่ะ!” เสียงจีริณดังมาไม่ใกล้ไม่ไกล

                    อุ๊บ! อั่ก! เอิ่ก! อ๊าก! ว๊าก! ว๊าย!

                นั่นคือสิ่งที่ฉันได้ยิน ดูท่าจีริณจะแย่แล้วสิ ฮึก...ทำไงดีล่ะ ตอนนี้ฉันรู้สึกเวียนหัวมากๆสงสัยกลิ่นบ้าๆนี่จะทำพิษซะแล้วสิ อึก...สติของฉันเลือนรางลงอย่างอ่อนแรง แม้จะพยายามยื้อไว้เท่าไหร่มันก็ไม่ได้ผล ฉันทรุดลงอย่างเหนื่อยใจปนหมดหวัง ก่อนที่สติทั้งหมดจะหมดลงไป...

                    คฤหาสน์...

                    หืม... ที่นี่ที่ไหนกันนะ ทำไมฉันถึงมานอนอยู่บนพื้นที่นี่ พื้นงั้นเหรอ เมื่อคืนมัน... เดี๋ยวสิทำไมฉันถึงได้มานอนอยู่ที่นี่กันล่ะ ทำไม... คำถามมากมายเริ่มถาโถมเข้ามาอย่างไม่รู้ที่มาที่ไป แต่ก่อนที่ฉันจะได้ตั้งคำถามไปมากกว่านี้ก็มีเสียงของใครสักคนดังขึ้นมาก่อน

                เฮ้ยเมื่อคืนแกเอาถุงดำที่เอาไปคลุมคุณเมทิสมาจากไหนว่ะ

                    อ๋อ...ฉันเอามากจากข้างๆร้านน่ะ แต่ฉันได้ยินว่าร้านนั้นมีพิซซ่ารสปลาร้าด้วยนะ บางทีฉันอาจจะไปลองกินดู เอ่อ...เดี๋ยวสิ 2 คนนี้เสียงนี้คนที่จับฉันมานี่ อย่าบอกนะว่ากลิ่นปลาร้าที่ฉันได้กลิ่นมันมาจากถุงเครื่องปรุงพิซซ่ารสปลาร้าบ้าบออะไรนี่ ไม่นะ ม่ายยยยยยยยจริ้งงงงงงงงงงงT0T ฉันตวัดหางตาอย่างจงเกลียดจงชังไปทางไอ้ 2 คนนั่นซึ่งไอ้ 2 คนนั่นก็ดูตกใจไม่น้อย

                    ท่านครับเธอฟื้นแล้วครับ! ท่าน!” จากเสียงนินทาอย่างสนุกปากกลับเปลี่ยนเป็นตกใจอย่างเห็นได้ชัด หึ...สตรอเบอร์...ชะมัด

                    เมทิสเธอฟื้นแล้ว!” น้ำเสียงที่ดูดีใจสุดๆดังมาจากภายในดึงดูดสายตาฉันให้หันไปมองในทันที...

                    ผู้ชายที่ดูอายุเยอะกว่าฉันสัก 2-3 ปีมองมาทางฉันด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน ผมสีเทาสั้นซอยสไลด์ปลิวไปตามแรงลม ตาสีแดงเปล่งประกายฉายแววดีใจ เขากำลังวิ่งมาทางฉันอย่างรีบสุดชีวิต เดี๋ยวสิเขาเป็นใคร แล้วเมื่อกี้เขาเรียกฉันว่าอะไรนะ=_=

                เมทิส^_^”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×