คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
ฉันกำลังอยู่บนรถแท็กซี่ที่เพิ่งโบกมาหยกๆอย่างเงียบๆ
โดยมีจีริณพี่เลี้ยงและผู้จัดการส่วนตัวของฉันนั่งอยู่ข้างๆอย่างสงบเช่นเดียวกัน
ตอนนี้ฉันอยู่ที่ประเทศอิตาลี ฉันกำลังจะไปสนามบินเพื่อกลับประเทศไทย
อืม...ตอนนี้เวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่งเห็นจะได้น่ะนะ
สวัสดีฉันชื่อไพลิน
หรือจะเรียกเต็มยศก็ได้ว่า ไพลิน จิวเวอร์เรีย
ที่บ้านทำธุรกิจจิลเวอร์รี่เงินทองรวยล้นฟ้าไม่รู้ว่าถ้าเกิดใหม่อีกสัก 100
ชาติจะใช้หมดรึเปล่า ตระกูลฉันมีพี่น้องรวม 3 คน แต่ละคนล้วนเป็นคนอิตาลี
แต่พอดีว่าครอบครัวฉันไปลงทุนทำธุรกิจที่ไทย เลยมีบ้านอยู่ทั้งไทยและอิตาลี
ดีใช่มั้ยล่ะ( ^-^)
คนแรกคือฉัน สวย เริด เชิ่ด โหด
อายุเอ่อ...=_= 23 ปี ณ
ตอนนี้เรียนจบแล้วเรียบร้อย ผมสีน้ำเงินยาวถึงเอว ส่วนดวงตาสีไพลิน อาชีพ นางแบบ
ดารา นักแสดง แถมยังดังระดับโกอินเตอร์อีกด้วย
ว่างๆก็นั่งเขียนข่าวซุบซิบในวงการเล่นเพื่อเอาไปขายให้นักข่าวที่ไร้ฝีมือ โฮะๆๆ
ฉันนี่เก่งรอบด้านจริง อะไรจริง แถมยังสวยอีกต่างหาก (ดูท่าน่าจะหลงตัวเองด้วยแฮะ)
คนต่อไป คุณทับทิม น้องสาวคนกลาง
ดวงตาสีทับทิมส่องประกายแวววาว ผมสีแดงสดใสยาวถึงกลางหลัง สวย แสบ แอ๊บ ร้าย อายุ
21 ปี เรียนอยู่ปี 3 อาชีพ นางแบบ นักแสดง ในวงการดูเป็นคนเรียบร้อย อ่อนหวาน
แต่อยู่บ้านหรืออยู่กับคนสนิทจะกลายเป็นยัยนางร้ายตาจิกไม่แคร์ผู้ใดทั้งสิ้น
คนสุดท้าย คุณหนูหยกฟ้า น้องสาวคนเล็ก
ดวงตาสีฟ้าอ่อน ผมสีเขียวอ่อนคล้ายสีของหยก หวาน สวย รวย (แอบ)โหด อายุ 19 ปี
เรียนอยู่ปี 1 อาชีพ นางแบบ ออกงานบ้างเล็กๆน้อยๆ เรียบร้อยจริง อ่อนหวานจริง
แต่อย่าให้โกรธจริงเดี๋ยวได้เรียกรถพยาบาล เห็นหวานๆแต่ถ้าโกรธหรือเกลียดใครขึ้นมา
เตรียมรับศึกหนักได้เลย
“คุณหนูไม่โทร.ไปหาคุณทับทิม กับคุณหยกฟ้าเหรอค่ะ” จีริณทักขึ้น ทำให้ฉันหันไปยิ้มน้อยๆให้จีริณและความขี้ลืมของตัวเอง
ก่อนจะหยิบไอโฟนรุ่นล่าสุดที่ฉันพึ่งจะซื้อมาไม่กี่วันขึ้นมาไล่กดหาเบอร์น้องสาวทั้ง
2 ของฉันอย่างเงียบๆ
“พี่ไพลิน!” เสียง 2
สาวของฉันตะโกนชื่อฉันด้วยน้ำเสียงดีใจ (มั้งนะ)
“จ้าๆพี่นี่แหละ=_=” ฉันพูดคล้ายๆประชด
“พี่อยู่ไหนเหรอค่ะ” เสียงหยกฟ้าดังมาตามสาย
“ออกมาจากบ้านได้สักพักแล้วล่ะ” ฉันตอบพลางมองดูทิวทัศน์ข้างทางผ่านกระจกรถไปพลาง
อืม...แถมนี้ของกินเยอะจังเลยแฮะ=_=
“พี่กินอะไรยังอ่ะ”
เสียงของยัยทับทิมตามมาบ้าง
“ยังเลย
พี่ก็ชักหิวแล้วสิ”
ฉันใช้มือลูบท้องของฉันที่ตอนนี้มันเริ่มส่งเสียงร้องประท้วงซะแล้ว
“พี่รีบหาอะไรทานเถอะค่ะพวกเราไม่กวนแล้ว^_^” หยกฟ้าบอกเสียงใส
“งั้นแค่นี้ก่อนนะ
พี่หาอะไรกินก่อน” ฉันตัดบทพร้อมกับตัดสายในคราวเดียวกัน
“จอดร้านอาหารข้างหน้าค่ะ” ฉันชี้ไปที่ร้านร้านหนึ่ง
เป็นร้านพิซซ่าเล็กๆที่ดูแอบหรูอยู่ในตัว
“จีริณฉันขอลงไปหาอะไรกินก่อนนะค่ะ^_^” ฉันยิ้มแหยๆให้จีริณก่อนจะหยิบกระจกขึ้นมาส่องดูความเรียบร้อย
ผมสีน้ำเงินเข้มของฉันถูกปิดบังไว้ด้วยวิกผมสีไข่
และดวงตาสีไพลินของฉันก็ได้ถูกทับไว้ด้วยคอนแทคเลนส์สีแดงและแว่นตา
ตอนนี้ฉันดูเฉิ่มสุดๆไปเลยล่ะ ไหนจะชุดกระโปงคลุมเข่าสีพาสเทลนี่อีก
มันทำให้ฉันหมดมาดนางร้ายที่มีอยู่ในสายเลือดไปอย่างสิ้นเชิง
จีริณนี่เข้าใจเลือกเนอะ=_=
ฉันก้าวขาลงจากรถแท็กซี่ตรงไปในร้านนั้นอย่างเก้ๆกังๆ
แต่แล้วฉันก็ได้ยินเสียงๆหนึ่งดังขึ้นจากบริเวณใกล้ๆกัน
ทำให้ฉันหันไปมองด้วยความสนใจ
“นั่นใช่รึเปล่าวะ” เสียงดังมาจากพุ่มไม้ข้างร้านฟังดูขนลุกพิกลแฮะ
“มีอะไรรึเปล่าค่ะ
ว้าย!”
กรี้ด!!!!!!!! นี่มันเรื่องอะไรกันทำไมฉันต้องถูกคลุมด้วยถุงสีดำบ้าๆนี่
แถมยังเหม็นกลิ่นปลาร้าอีกต่างหาก เอ๋! ปลาร้าเหรอ
ฉันเคยอยู่ไทยมาตั้งหลายปียังไม่คิดแตะต้องเลยนะ ไม่เค้ย ไม่เคย แม้แต่สักนิดเดียวT^T ฮือ~ กลิ่นชวนอาเจียนอะไรเช่นนี้
“คุณหนูค่ะ!” เสียงจีริณดังมาไม่ใกล้ไม่ไกล
อุ๊บ! อั่ก! เอิ่ก! อ๊าก! ว๊าก! ว๊าย!
นั่นคือสิ่งที่ฉันได้ยิน
ดูท่าจีริณจะแย่แล้วสิ ฮึก...ทำไงดีล่ะ
ตอนนี้ฉันรู้สึกเวียนหัวมากๆสงสัยกลิ่นบ้าๆนี่จะทำพิษซะแล้วสิ
อึก...สติของฉันเลือนรางลงอย่างอ่อนแรง แม้จะพยายามยื้อไว้เท่าไหร่มันก็ไม่ได้ผล
ฉันทรุดลงอย่างเหนื่อยใจปนหมดหวัง ก่อนที่สติทั้งหมดจะหมดลงไป...
คฤหาสน์...
หืม...
ที่นี่ที่ไหนกันนะ ทำไมฉันถึงมานอนอยู่บนพื้นที่นี่ พื้นงั้นเหรอ เมื่อคืนมัน...
เดี๋ยวสิทำไมฉันถึงได้มานอนอยู่ที่นี่กันล่ะ ทำไม...
คำถามมากมายเริ่มถาโถมเข้ามาอย่างไม่รู้ที่มาที่ไป
แต่ก่อนที่ฉันจะได้ตั้งคำถามไปมากกว่านี้ก็มีเสียงของใครสักคนดังขึ้นมาก่อน
“เฮ้ยเมื่อคืนแกเอาถุงดำที่เอาไปคลุมคุณเมทิสมาจากไหนว่ะ”
“อ๋อ...ฉันเอามากจากข้างๆร้านน่ะ
แต่ฉันได้ยินว่าร้านนั้นมีพิซซ่ารสปลาร้าด้วยนะ บางทีฉันอาจจะไปลองกินดู” เอ่อ...เดี๋ยวสิ 2
คนนี้เสียงนี้คนที่จับฉันมานี่
อย่าบอกนะว่ากลิ่นปลาร้าที่ฉันได้กลิ่นมันมาจากถุงเครื่องปรุงพิซซ่ารสปลาร้าบ้าบออะไรนี่
ไม่นะ ม่ายยยยยยยยจริ้งงงงงงงงงงงT0T ฉันตวัดหางตาอย่างจงเกลียดจงชังไปทางไอ้ 2
คนนั่นซึ่งไอ้ 2 คนนั่นก็ดูตกใจไม่น้อย
“ท่านครับเธอฟื้นแล้วครับ! ท่าน!”
จากเสียงนินทาอย่างสนุกปากกลับเปลี่ยนเป็นตกใจอย่างเห็นได้ชัด
หึ...สตรอเบอร์...ชะมัด
“เมทิสเธอฟื้นแล้ว!” น้ำเสียงที่ดูดีใจสุดๆดังมาจากภายในดึงดูดสายตาฉันให้หันไปมองในทันที...
ผู้ชายที่ดูอายุเยอะกว่าฉันสัก
2-3
ปีมองมาทางฉันด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน ผมสีเทาสั้นซอยสไลด์ปลิวไปตามแรงลม
ตาสีแดงเปล่งประกายฉายแววดีใจ เขากำลังวิ่งมาทางฉันอย่างรีบสุดชีวิต
เดี๋ยวสิเขาเป็นใคร แล้วเมื่อกี้เขาเรียกฉันว่าอะไรนะ=_=
“เมทิส^_^”
ความคิดเห็น