ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปิ๊งรัก หอพักอลวน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 57


    บทนำ

     

     

     

     

     

     

     

    'หอพักแห่งนี้ คือที่ที่เราสิงสู่ ไม่มีใครรู้หรือว่าต้อนรับ ขับไล่ทั้งนั้น '

     ได้ยินอะไรไหมครับ ผมก็ไม่เคยได้ยินใครที่ร้องเพลงได้เสื่อม ศรัทธาให้คนที่ฟังได้ขนาดนี้ แล้วนี่อะไรคงย้ายมาใหม่กันสินะครับ  เพราะปกติห้องข้างผมจะไม่มีคนเช่า เออะ ช่างหัวไอ้ห้องข้างๆก่อนเถอะครับ

    โน้นครับ ประเด็นจริงๆ อยู่หอพักฝั่งตรงข้ามนู้น ซึ่งหอพักมันก็แค่ใหม่กว่า หรูกว่า น่าอยู่กว่า ที่พูดมานี่ก็คงรู้ว่ามันดีกว่าหอพักเก่าๆ ที่มองไกลๆมันก็เหมือนตึกผีสิงดีๆนี่เอง แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นที่แท้จริง ประเด็นเด่นจริงๆคือ ห้องฝั่งตรงข้ามผม ชั้นเดียวกัน ระเบียงตรงกัน หน้าต่างตรงกัน แต่ที่อยากให้ตรงกัน คือหัวใจ บ๊ะๆ มาน้ำเน่าแต่เช้ากันเลยทีเดียว

     

    และเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง เวลาหกโมงเช้า เอาละครับท่านผู้ชม ณ ตอนนี้ก็ถึงวินาทีสำคัญ นั้นแหล่ะครับเมื่อพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า แสงอาทิตย์ก็ค่อยๆสาดส่องกระทบ หน้าต่างที่ปิดด้วยม่านสีฟ้าอ่อน และแล้วเจ้าม่านสีฟ้าอ่อนสดใส ก็ค่อยๆเลื่อนออกช้าๆ แสงค่อยๆสาดส่องเข้าไปในห้องที่ทาทับด้วยสีขาวสะอาดตา

     

    แต่ประเด็นไม่ใช่ห้องครับแต่มันคือ นั้นไง เจ้าของห้องที่มาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสในทุกเช้า เมื่อม่านเปิดออกจนไปอยู่อีกด้าน ผมรีบคว้าเอากล้องส่องทางไกล ที่มีติดห้องไว้เพราะผมชอบเดินป่า เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ทันที จะว่าก็ว่าเถอะครับ มันกลายเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของผมไปแล้ว รู้สึกเหมือนผมขาดไม่ได้เหมือนเราได้ตื่นมาพร้อมกัน ทำอะไรพร้อมกันในทุกวันแค่นี้ก้เป็นสุขแล้วที่ได้มองดูเค้า 

    จะว่าไปเรื่องมันเริ่ม ตอนที่ผมออกไปซื้อของข้างนอก รู้สึกเหมือนวันนั้น จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น มีคนมุงกันเต็มเลย แต่ผมก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังออกมาจากกลุ่มคนนั้น

     

    'ใครก็ได้ช่วยบอกว่าโรงพยาบาล หรือคลีนิกรักษาสัตว์ที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหนครับ แล้วกลุ่มคนก็แหวกทางให้ ผมเห็นผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งอุ้ม ลูกหมาที่เหมือนจะถูกรถชนรึเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ แต่ตัวมันเต็มไปด้วยเลือด และส่งเสียงครวญครางตลอดเวลา นั้น เรียกได้ว่าเป็นสิ่งแรกที่ผมประทับใจเค้า

    แต่แล้วเค้าก็วิ่งขึ้นแท็กซี่ไป ในตอนนั้นผมได้แต่มองตามอย่างชื่นชม และคิดว่าเจอเค้าอีกครั้งก็คงดี คนจิตใจดีเดี๋ยวนี้มันหายากจริงๆคนที่จะแสดงออกมาอย่างจริงใจไร้สร้างภาพอ่ะนะ แต่แล้ว มันจะเรียกอะไรดีล่ะ ในหนึ่งอาทิตย์ต่อมา เค้าก็กลายมาเป็นคนละแวกเดียวกับผม แถมห้องตรงกันซะอีก แล้วที่น่าดีใจ เค้าเก็บเจ้าหมาตัวนั้นมาเลี้ยงด้วยสิ ผมจำได้เจ้าหมาตัวสีน้ำตาล มันเป็นหมาจรจัดด้วยล่ะมั้ง เพราะวันนั้นผมก็มองไม่ชัดก็ตัวมันเต็มไปด้วยเลือด

     

    และนั้นก็กลายเป็น ครั้งแรกที่ผมเฝ้าแอบมองเค้าอยู่อย่างนี้ ทุกวันโดยที่ผมไม่รู้จักชื่อเค้าไม่รู้ว่าเค้าทำอะไร แต่ผมรู้ทุกการเคลื่อนไหวที่เค้าอยู่ในห้องตรงนั้น

     

    ตึง ตึง เผล้งงงงง ปัง

     

    และเสียงอันไม่น่าฟังและขัดจังหวะซึ้งผมก็ดังขึ้นไอ้ข้างห้องอีกแล้วสินะ

    'อ้าว พังงงงง ไม่มีอะไรดีเลย หอพังแห่งนี้ โอ้เยยยยยยยยยยยยยยย้ ' ได้ยินอะไรกันไหมครับ ขัดหูไม่พอ มันยังร้องได้เสื่อมมากอีกต่างหาก คือผมว่าจะไม่สนแล้วนะ แต่ สักนิดเถอะ

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

    ผมเคาะประตูจนเจ็บมือมันก็ไม่มีทีท่าจะเปิด อย่าให้เจอนะมึง ผมเลยตัดสินใจ ฝากรอยเท้าเอาไว้ผมง้างขาเตรียมตัวและ แอ๊ดดด ตุบบบบบบ

    "โอ้ยยยยยยยยยย เชี่ยยยยยยยยย" และนั้นคือเสียงตอบรับกลับมา

    "นี่ เป็นอะไรไหม " คือแบบผมไม่ได้ตั้งใจ แต่มันยั้งไม่ทันอ่ะครับ

    "มะมะ มึง ว้าววววววว ไม่เป็นไรครับ สบายมาก " มันลุกขึ้นมาเตรียมชี้หน้าด่าผม พอมันเห็นหน้าผม มันก็เปลี่ยนทีท่า เป็นเกาหัวแก้เก้อ แล้วปัดเสื้อผ้าจัดให้เข้าที่แล้วหันกลับมายิ้มให้ผม ผมว่าไอ้นี่มันบ้าชัวร์

     

    "ว่าแต่คุณมีอะไรกับผมหรอ " เออ ลืมเลย ผมจะมาว่ามันนิ แต่มันก็ยังยิ้มให้ผม อ้อ มันสูงมาก สูงกว่าผมเยอะ หน้าตาก็หล่อเลยแหล่ะ ขาวด้วย ท่าทางเหมือนคนรวยเลยไม่น่ามาอยู่ที่แบบนี้ คือที่แบบนี้ก็อย่างที่ผมบรรยายไปแล้วแหล่ะ

    "นี่ นายอ่ะ รู้ไหมเสียงดังมาก รบกวนห้องข้างๆ กรุณาเบาๆหน่อย " ผมกอดอก มองมัน มันก็ยิ้มซึมๆส่งมาให้

    "ครับๆ ขอโทษทีครับ ว่าแต่ขอถามชื่อหน่อยนะครับ ชื่ออะไรครับคุณข้างห้อง " มันก็ยังเกาหัว เป็นรังแคป่าวว่ะ นั้น ยังจะเกา

     

    "ชื่อไฟ นายอ่ะ เรียนมหาลัยเดียวกันด้วยนิ รู้จักกันไว้ " พอดีผมเหลือบไปเห็นชุดฟอร์มนักศึกษาพอดี แล้วมันก็เหมือนของผมเดะ ก็เลยผูกมิตรกันไว้

    "ชื่อดินครับ " โว้ ยังจะมายิ้มหวานรู้แล้วว่าหล่อ ทำไมต้องยิ้มแล้วมอง กูแปลกๆด้วยว่ะ สายตาแบบนี้มันคุ้นๆนะ เหอะๆ

    "เออ ไปล่ะ เบาๆด้วยล่ะ " ผมก็หันหลังเดินกลับไปห้องตัวเอง

    "ครับ คุณไฟ คนที่น่าทำความรู้จักข้างห้อง " นั้น ยังมีทิ้งท้าย

     

    พอกลับเข้าห้องผมก็รีบคว้ากล้องส่องทางไกล พร้อมไปแง้มม่านของตัวเองแล้วส่อง ไปฝั่งตรงข้าม แต่ว่างหายไปแล้ว เค้าหายไปไหนแล้วนะ หน้าต่างก็เปิดอยู่ ผมเลยส่องดูอีกครั้ง คราวนี้เจอครับ เจอเต็มๆ ใครก็ไม่รู้ เค้าเห็นผมด้วย แล้วมันกำลังมองมาที่ผมอย่างกับต้องการบอกว่ากูเห็นมึงแล้วนะ นั้นชี้มาทางกูด้วย ชัดเลย

     

    "มึงเห็นกูสินะ " ผมอุทานได้เท่านั้น จะอยู่ทำไมล่ะ รีบปิดม่านหนีสิครับ จะรอให้มันมาฆ่าเอารึไง

    ก๊อกๆๆๆๆๆๆ

    แล้วเสียงเคาะประตูปริศนาก็ดังขึ้น สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าผมไปเปิดขอให้อย่าเป็นอย่างที่คิดเลย








    ขอฝากนิยายเบาๆฮาบ้างไม่ฮาบ้างไว้สักเรื่องนะค่ะ ขอบคุณค่าาาาาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×