คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ดอกไม้ ความรัก
ดอกไม้ ความรัก
❀
รถยนต์คันหรูสีดำสนิทเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆด้วยความเร็วคงที่บนท้องถนนที่เงียบเหงาไร้ผู้คน ตากลมละจากพื้นถนนเบื้องหน้าขึ้นชมความงดงามของท้องนภาสีฟ้าสดใสที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีชมพูอ่อนๆ มันนานเท่าไหร่แล้วนะที่เขาไม่ได้เห็นท้องฟ้ายามเย็นแบบนี้ ร่างเล็กค่อยๆลดความเร็วของรถลงก่อนจะจอดเข้าข้างทาง
“ คิดถึงที่นี่จัง ” เสียงทุ้มจากร่างสูงข้างๆเอ่ยออกมาเบาๆเหมือนต้องการเพียงแค่จะพูดกับตัวเอง เขาหันไปมองคนรักก่อนจะระบายยิ้มบนใบหน้าแล้วเปิดประตูเพื่อลงจากรถ
“ อากาศดีเนอะ เหมือนเมื่อก่อนเลย ” แจจุงสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อรับกลิ่นหอมจางๆของดอกไม้ที่ลอยมากับสายลม ทุ่งดอกไม้ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาตรงหน้าดูไม่ค่อยเข้ากับสภาพผู้ที่มาเยือนทั้งสองสักเท่าไหร่
ร่างเล็กในชุดสูททำงานที่ดำทะมึนหันไปสบตาร่างสูงที่เดินตามมาหยุดอยู่ข้างๆ ใบหน้าที่เคยเรียบเนียนบัดนี้เต็มไปด้วยริ้วรอยที่บ่งบอกถึงการทำงานอย่างหนักและช่วงเวลาที่ผ่านเลยไป ถ้าเป็นเมื่อก่อนบรรยากาศดีๆแบบนี้เขาคงจะแอบหอมแก้มร่างสูงให้ตกใจเล่น แต่ว่าตอนนี้ .. เขาไม่ได้อยู่ในวัยที่จะทำอย่างนั้นแล้ว
“ ผ่านไปเร็วนะ เวลาน่ะ ”
“ นั่นสิยุน ตั้งเก้าปีแล้ว ” เขาว่าก่อนจะเดินเข้าไปในทุ่งดอกไม้ มือเล็กแบออกเพื่อสัมผัสมวลดอกไม้นานาชนิดขณะที่เดินไปโดยมีร่างสูงเดินอยู่ข้างๆ
ผมว่า ‘ ความรัก ’ ก็เหมือน ‘ ดอกไม้ ’
“ ดูดอกสีฟ้านั่นสิแจ สวยเนอะ สงสัยจะเพิ่งบาน ” ยุนโฮกระตุกมือเขาเบาๆก่อนจะชี้ให้เขาหยุดดูดอกไม้ เขาหันไปมองดอกไม้ที่ร่างสูงชี้ก่อนจะคลี่ยิ้ม กลีบบางๆสีฟ้าที่ผลิออกไหวเบาๆไปตามแรงลมดูสดใส แจจุงเงยหน้าขึ้นมองคนรักของตัวเองอีกครั้ง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขากับยุนโฮคงจับมือกันอยู่ ความจริงแล้วเมื่อก่อนเราจับมือกันแทบจะตลอดเวลาด้วยซ้ำ แต่ว่าตอนนี้ .. แค่ได้ยืนอยู่ข้างๆกันเขาก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสที่อบอุ่น
“ เหมือนความรักของเราเมื่อก่อนเลย ”
“ … ” ยุนโฮหันมามองเขาก่อนจะขมวดคิ้ว
“ อย่าขมวดคิ้วสิยุน แค่นี้หน้าก็เหี่ยวจะแย่อยู่แล้ว ” นิ้วชี้สั้นๆจิ้มลงบนระหว่างคิ้วพร้อมกับหัวเราะ ใบหน้าหล่อยกยิ้มขำๆพร้อมกัมกับคิ้วเรียวที่คลายออกจากกัน
“ แล้วมันเหมือนความรักของเรายังไงหรอฮื้ม? ” ร่างสูงถามพลางเอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้สีฟ้าตรงหน้ามาหมุนๆเล่นก่อนจะนั่งลงกับพื้นหญ้านุ่มๆ ยุนโฮดึงมือเขาเบาๆเป็นการบอกให้นั่งลงด้วยกัน เขาจำได้ว่าครั้งแรกที่เขากับยุนโฮมาที่นี่ คนรักจอมทะเล้นจะดึงเขาแรงๆให้เซล้มลงไปทับเจ้าตัวที่นอนอยู่ จากนั้นก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์และพูดประโยคเสี่ยวๆให้เขาหน้าแดงเป็นว่าเล่น
“ ... ” แจจุงยกยิ้มกับภาพความทรงจำที่แล่นเข้ามาในหัว เขาทำเพียงแค่นั่งลงข้างๆยุนโฮ มีแค่ไหล่เท่านั้นที่แตะกัน
“ ว่าไงครับ? ” ยุนโฮถามซ้ำเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบ
“ ก็ .. ดอกไม้นี่มันเพิ่งจะบาน แจว่ามันดูสดใส สวยงาม และน่าหลงใหล ” มือเล็กเอื้อมไปแย่งดอกไม้ในมืออีกคนมาหมุนเล่นบ้าง อยากจะรู้ว่ามันสนุกตรงไหน เห็นยุนโฮเอาแต่หมุนไปหมุนมาแถมยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว
“ ... ”
“ เหมือนตอนที่เราคบกันใหม่ๆ ตอนนั้นแจรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบมันสดใส อะไรๆก็สวยงามไปซะหมด ” เขาหันไปสบตายุนโฮที่เอาแต่ยิ้มๆไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เขากลับรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังบอกว่าเห็นด้วย พักนี้ยุนโฮพูดน้อยลงเยอะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนยุนโฮมักจะเป็นฝ่ายชวนคุยเสมอ แถมยังชอบพูดอะไรเลี่ยนๆให้เขาใจเต้นเป็นประจำ แต่ก็น่าแปลกที่ตอนนี้ .. ต่อให้ยุนโฮไม่พูดอะไรเลย เขาก็รู้ว่ายุนโฮกำลังคิดอะไรอยู่
“ แล้วตอนนี้ล่ะ ตอนนี้ความรักของเรามันไม่เหมือนเดิมหรอแจ? ” ร่างสูงถามด้วยน้ำเสียงที่เจือปนด้วยความน้อยใจเล็กๆ แจจุงได้ยินคำถามก็มองดอกไม้เล็กๆในมือที่ถูกเด็ดออกมา ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มเฉาซะแล้ว
“ เวลาเปลี่ยน .. อะไรๆมันก็ต้องเปลี่ยนนะยุนโฮ ”
- ❀ -
ร่างเล็กในชุดนอนเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อย เขาใช้ผ้าขนหนูวางพาดคล้องไว้ที่คอคอยซับหยดน้ำที่หยดลงมาจากเส้นผมเปียกๆหลังผ่านการสระโดยไม่คิดที่จะหยิบมันขึ้นมาเช็ดผม คงเป็นเพราะความเคยชินที่จะต้องรอให้ใครบางคนมาเช็ดผมให้
“ อาบน้ำเสร็จแล้วหรอ? ” ร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวีถามโดยที่ไม่ได้หันมามอง ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นที่กำลังฉายอยู่บนหน้าจอสี่เหลี่ยมทำให้คิ้วเรียวขมวดจนเห็นรอยย่นชัดเจน
“ อื้อ ” เขาเดินไปนั่งลงข้างๆยุนโฮก่อนจะเริ่มดูข่าวราคาหุ้นของบริษัทตัวเองที่ปัจจุบันขึ้นๆลงๆเอาแน่เอานอนไม่ได้ ตากลมเหลือบมองคนรักเป็นระยะๆแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าร่างสูงจะละสายตาจากทีวีมาสนใจเขาซักนิด
“ มองหน้ายุนทำไมครับ? ” เสียงทุ้มถามยิ้มๆทั้งๆที่ยังไม่ได้หันมามองเขาด้วยซ้ำทำเอาแจจุงอ้าปากเหวอ
“ รู้ได้ไงอ่ะ? ”
“ ยุนมองเงาสะท้อนของแจในทีวีน่ะ ” แน่นอนว่าคำตอบที่ได้รับทำให้เขาอมยิ้มได้ไม่ยาก ถึงแม้ว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะเขินจนหน้าแดงก็เถอะ แต่ตอนนี้เขากลับไม่รู้สึกอย่างนั้น
“ ก็แค่อยากมอง ไม่ได้รึไง? ” อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรทำเพียงแค่ยกยิ้ม มือหนาดึงเนคไทด์ที่คอออกให้หลวมๆก่อนจะเอนตัวพิงหลังไปกับโซฟานุ่มๆ
“ แล้วจะไม่เช็ดผมหน่อยหรอ เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก ”
“ อ๋อ .. อื้ม ” เขาพยักหน้ารับก่อนจะใช้ผ้าขนหนูที่คล้องอยู่รอบคอขึ้นมาเช็ดผมตัวเองเบาๆ ลืมไปแล้วว่าเขาต้องเช็ดผมเองอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มันคงนานมากจนเขาจำจุดเริ่มต้นไม่ได้
“ ดูสิ .. มันเหี่ยวซะแล้ว ” เสียงของยุนโฮเรียกให้เขาหันไปมองดอกไม้ในมือ ดอกไม้สีฟ้าที่เคยสดใสตอนนี้กลายเป็นสีฟ้าหมองๆ กลีบดอกที่เคยเบ่งบานท้าทายสายลมเฉาลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก
“ อื้ม .. ก็มันนานแล้วนี่นะ ” ยุนโฮหันมามองเขาก่อนจะขยับตัวแล้วเปลี่ยนมาเป็นนอนหนุนตักเขา ตาคมสบตาเขาครั้งนึงก่อนจะหลับตาลง
“ ที่แจบอกว่าความรักของเรามันไม่เหมือนเดิม .. มันไม่เหมือนยังไงหรอครับ มันน้อยลงหรือเปล่า? ”
น้อยลงงั้นหรอ ? .. ไม่ซักหน่อย
มันก็แค่เปลี่ยนไป เหมือนกับดอกไม้ดอกนี้
“ ยุนว่าดอกไม้ดอกนี้ยังสวยอยู่หรือเปล่า? ” ร่างสูงที่กำลังหลับตาอยู่ลืมตาขึ้นมองดอกไม้ในมือก่อนจะเม้มปากครุ่นคิด
“ ก็สวยนะ แต่มันดูไม่เหมือนเดิม ”
“ อื้ม .. แจก็ว่างั้น ”
“ แจยังไม่ตอบคำถามยุนเลยนะ ” ตาเรียวคมจ้องมองเขาอย่างรอคำตอบ ร่างเล็กหยิบดอกไม้ในมือของร่างสูงมามองใกล้ๆพลางครุ่นคิด บางทีการอธิบายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดมันก็ยากเหมือนกัน
“ ไม่เหมือนเดิม .. ก็เหมือนดอกไม้ดอกนี้ไงที่ไม่เหมือนเดิม ”
“ เหี่ยว? ” ยุนโฮเลิกคิ้วมองดอกไม้ในมือเล็กอย่างไม่ค่อยเข้าใจกับสิ่งที่เขาพยายามจะบอกเท่าไหร่นัก
“ ไม่ใช่อย่างนั้น ยุนอ่ะ แจจะพูดยังไงดีล่ะเนี่ย .. ” เขากัดปากล่างตามนิสัยเวลาที่ใช้ความคิดเรียกรอยยิ้มจากคนที่นอนหนุนตักได้เป็นอย่างดี
“ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ยุนค่อยถามใหม่นะ แจไปคิดคำตอบรอไว้ด้วยล่ะ แต่ตอนนี้ไปนอนได้แล้วครับ! ” ยุนโฮลุกขึ้นพร้อมกับดึงเขาให้ลุกจากโซฟา ร่างสูงมักจะไล่ให้เขาไปนอนก่อนเสมอ ส่วนตัวเองก็นั่งทำงานจนดึกจนดื่นเป็นประจำ แจจุงลอบถอนหายใจก่อนจะเดินไปทางห้องนอนอย่างว่าง่าย เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนเขาก็ต้องถูกยุนโฮขโมยจูบก่อนนอนทุกครั้ง
“ แจจุง .. ลืมอะไรหรือเปล่า? ” ร่างสูงดึงมือเขาไว้ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้า ฝ่ามืออุ่นลูมผมเขาเบาๆก่อนที่ใบหน้าคมจะโน้มลงมาประทับริมฝีปากอุ่นๆบนหน้าผากเบาๆ
“ ราตรีสวัสดิ์ครับ ”
ถึงดอกไม้จะเหี่ยวเฉา .. ก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่สวย เพราะผมรู้ว่ามันเคยสวย
ถึงรูปแบบความรักของเราจะเปลี่ยนไป .. ก็ไม่ได้แปลว่ามันน้อยลง เพราะผมรู้ว่ายังรัก
แค่ธรรมชาติ ที่ไม่มีใครห้ามได้
เพราะเมื่อเวลาผ่านไป อะไรๆก็ย่อมเปลี่ยนแปลง
- ❀ -
เสียงปรบมือที่ดังขึ้นดึงสติของร่างเล็กที่หลุดลอยไปไกลให้กลับมาในห้องประชุม ยุนโฮในฐานะประธานบริษัทกำลังโค้งขอบคุณเสียงปรบมือและคำชมจากผู้ถือหุ้นคนอื่นๆหลังจากจบการประชุมที่สามารถดึงราคาหุ้นของบริษัทให้สูงขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว แจจุงปิดแฟ้มเอกสารบนโต๊ะก่อนจะลุกจากเก้าอี้เพื่อออกจากห้องประชุม
“ เหม่อบ่อยนะเดี๋ยวนี้ ” ยุนโฮกระซิบเบาๆเมื่อเขาเดินผ่านก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนอื่นๆที่เดินเข้ามาเอ่ยชมไม่ขาดสาย เขาออกจากห้องประชุมมารอร่างสูงที่ห้องทำงานเพื่อรายงานความคืบหน้าของโครงการที่เขาเป็นผู้ดูแลตามคำสั่งของประธานบริษัท
แจจุงมองไปตามโต๊ะทำงานรวมถึงชั้นวางเอกสารที่เต็มไปด้วยฝุ่นก่อนจะถอนหายใจ เจ้าของห้องที่ไม่ยอมให้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวคงจะไม่เคยลุกขึ้นมาปัดกวาดเช็ดถูเองบ้างเลยฝุ่นถึงได้หนาเตอะแบบนี้ สุดท้ายแล้วก็ต้องเป็นเขาเองที่อดไม่ได้แล้วหยิบไม้ขนไก่ในตู้มาจัดการกับฝุ่นเหล่านี้เสียเอง
เขาปัดฝุ่นตามชั้นวางเอกสารไปเรื่อยเพื่อฆ่าเวลาแต่คนที่เขารอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาเสียที ร่างเล็กละจากชั้นวางของมาที่โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยกองเอกสาร แจจุงค่อยๆจัดแฟ้มที่วางเละเทะไม่เป็นระเบียบให้เข้าที่เข้าทาง แล้วเขาก็ได้เห็นของบางอย่างที่ถูกซ่อนเอาไว้ใต้กองแฟ้มเหล่านั้น
แจจุงหยิบกล่องไม้เก่าๆขนาดเล็กขึ้นมาก่อนจะอมยิ้มอย่างอดไม่ได้ ตั้งแต่เขาให้กล่องๆนี้กับยุนโฮเขาก็ไม่เคยเห็นมันอีกเลย จนเขาเคยคิดว่าร่างสูงทิ้งมันไปแล้วด้วยซ้ำ
ความรักก็เหมือนดอกไม้
เมื่อมันเริ่มเปลี่ยนไป เราสามารถเลือกได้ว่าจะทิ้งแล้วหาดอกใหม่ที่สดกว่า
หรือเก็บมันไว้ รอจนกระทั่งมันไม่สามารถเปลี่ยนไปได้อีก
กล่องไม้ค่อยๆถูกเปิดออกโดยร่างเล็กที่ถือมันอยู่ ภายในกล่องมีเพียงดอกไม้แห้งๆดอกหนึ่ง ถึงแม้ว่าตอนนี้ทุกส่วนของมันจะกลายเป็นสีน้ำตาลคล้ำ แต่เขาจำได้ว่ามันเคยเป็นสีขาวบริสุทธิ์
‘ แกร็ก ’
แจจุงละสายตาจากของในมือไปที่ยุนโฮที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา ยุนโฮมองเขาอย่างประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะเบนสายตามาที่กล่อง ปากหยักยกยิ้มบางๆแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
“ ตอนแรกที่มันเริ่มเฉา ยุนเสียใจมากเลย นี่มันดอกไม้ดอกแรกที่แจให้ยุนนะ มันห้ามเหี่ยวเฉาเด็ดขาด .. ยุนคิดอย่างนั้น แต่สุดท้ายแล้วยุนก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ได้แต่เฝ้ามองมันเหี่ยวเฉาไปตามกาลเวลา จนกระทั่งมันแห้งสนิท แล้วยุนก็เลยได้รู้ว่า .. ดอกไม้แบบนี้ก็สวยดีเหมือนกัน ” ร่างสูงพูดพลางมองดอกไม้ดอกเล็กๆในกล่อง ทั้งๆที่เขาก็กำลังมองดอกไม้อยู่เหมือนกัน แต่เขากลับรู้สึกว่ากำลังสบตากับยุนโฮอยู่
“ ยุนจำได้หรือเปล่า ที่ยุนเคยถามแจว่าความรักของเราตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนยังไง ”
“ จำได้สิ แล้วก็จำได้ด้วยว่าแจยังไม่ตอบยุนเลย ” ยุนโฮแบะปากใส่เขาเหมือนกำลังงอน แจจุงหัวเราะเบาๆกับท่าทางเด็กๆที่ไม่เข้าอายุของคนรัก ถ้าพนักงานคนอื่นๆมาเห็นว่าประธานบริษัทตัวเองกำลังทำหน้าแบบนี้คงได้ขำกลิ้งกันเป็นแถวแน่
“ จริงๆแล้ว .. แจก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอกว่ามันไม่เหมือนเดิมยังไง แต่แจว่าความรักของเราตอนนี้มันก็เหมือนดอกไม้ดอกนี้แหละ ” เขาพูดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มก่อนจะเงยหน้าร่างสูงที่เลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ แห้ง? .. อะไรกันแจ ครั้งที่แล้วก็บอกว่าเหมือนดอกไม้เหี่ยว คราวนี้ก็ดอกไม้แห้ง ” ยุนโฮทำหน้าบึ้ง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทำให้รอยย่นจางๆบนหน้าผากชัดขึ้นกว่าเดิม เขาได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจกับร่างสูงที่ดูจะเข้าใจอะไรยากเหลือเกิน
“ ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย เอางี้ .. ยุนเห็นดอกไม้แห้งแบบนี้แล้วรู้สึกยังไง? ” แจจุงส่งกล่องให้ร่างสูง ใบหน้าหล่อก้มลงเพ่งมองดอกไม้ที่นอนแน่นิ่งอยู่ในนั้นอย่างพิจารณา ไม่นานนักคิ้วเรียวที่พันกันจนยุ่งก็ค่อยๆคลายลงพร้อมกับปากหยักที่คลี่ยิ้ม ในแววตาที่มองไปยังของในมือเหมือนกำลังเห็นภาพอะไรบางอย่างที่สวยงาม
“ ยุนว่ามันดูเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ”
ว่ากันว่า ของเก่า .. มักจะเล่าเรื่องราวของมันให้กับผู้พบเห็นเสมอ
แล้วความรักที่เก่าล่ะ?
“ แล้วยุนว่าแบบไหนสวยกว่ากัน ตอนที่มันเพิ่งบาน หรือตอนนี้ ” จบประโยคคำถามร่างสูงก็ทำท่าครุ่นคิดอีกครั้ง ยุนโฮมองดอกไม้ในกล่องพลางเดินไปที่โซฟายาวที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะทำงาน แล้วเขาก็ได้รับคำตอบพร้อมๆกับที่ร่างสูงหย่อนตัวนั่งลงไป
“ ตอบไม่ได้ครับ ยุนว่ามันสวยคนละแบบ เปรียบเทียบไม่ได้หรอก ”
“ แจถึงได้บอกไงว่ามันเหมือนกับความรักของเรา ตอนนี้ .. ถึงจะไม่เหมือนเดิม แต่มันก็ไม่ได้น้อยลง ตรงกันข้าม .. แจกลับยิ่งรู้สึกอบอุ่น ยิ่งนานไปมันก็ยิ่งทำให้แจนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา ว่าเรามีกันและกันมานานแค่ไหน ” น้ำเสียงเอื่อยๆกลับฟังดูนุ่มนวลโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว รู้แต่ว่าตอนนี้เขากับยุนโฮต่างก็ยิ้ม ไม่ใช่แค่รอยยิ้มที่เกิดขึ้นบนใบหน้า แต่เป็นรอยยิ้มมี่ออกมาจากหัวใจ
“ ... ” ยุนโฮไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เขามองร่างสูงที่ค่อยๆปิดกล่องไม้ลงเบาๆราวกับกำลังเก็บของมีค่าที่สำคัญอย่างระมัดระวัง
“ ยุนโฮ .. ขอบคุณนะที่ยังเก็บความรักของแจไว้ ”
the end.
เรื่องนี้แต่งไว้นานมากๆแล้ว แต่งไว้ในสมุดเล่มนึง พอสอบเสร็จก็ได้ฤกษ์เอามาพิมพ์ซักที ที่บ้านเรามีขวดแก้วใส่กุหลาบอยู่อันนึง พ่อซื้อให้แม่ในวันครบรอบแต่งงาน เท่าที่จำได้คือพ่อบอกว่าขวดแก้วมันสต๊าฟกุหลาบไว้ได้ประมาณ 10 ปี เราก็จำได้ว่าเห็นมันมาตั้งแต่เด็กๆเลย เป็นดอกกุหลาบสีแดงสด สวยมากๆ จนวันหนึ่งอยู่ๆมันก็เหี่ยวแล้วก็แห้งกรอบไปเลย 555555 ที่เล่ามาทั้งหมดคือจะบอกว่ามันเป็นที่มาของเรื่องนี้แหละ อารมณ์ชั่ววูบ 5555555
ปอลิง. เนื้อเรื่องก็ไม่ค่อยมีอะไรอ่ะเนอะ คือพยายามแต่งให้มันออกมาแบบละมุนๆ มันละมุนไหมหว่า? 555555 ยังไงก็ติชมได้นะ จะได้เอาไปปรับให้ดีขึ้น
ความคิดเห็น