ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE BLACK X HUNTER เกมอำมหิต คนจิตวิปลาส!

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 01 เด็ก "พิลึก" (Rewrite 100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 131
      0
      12 ต.ค. 56

    Ha .ha





    Chapter 01

    .���������������������� .
    เด็ก พิลึก

    � � � � � � ��เมื่อแสงอาทิตย์ของวันใหม่เวียนกลับมาอีกครั้งเหมือนเช่นทุกวัน เสียงนกร้องและเสียงลมพัดอันเบาหวิวจึงเริ่มทำงาน แต่เสียงเหล่านั้นกลับเหมือนไม่ได้ยินเลย เมื่อเทียบกับวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของเหล่านักเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในลอนดอนที่กำลังตื่นเต้นที่จะได้ไปโรงเรียนและพบเพื่อนสนิทอีกครั้ง แต่กลับมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ .. และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก 'เกวน' นั้นเอง..



    � � � � � �เด็กหนุ่มซึ่งกำลังตื่นออกมาจากนิทราอันยาวนาน หลังจากที่หมดแรงจากเมื่อวาน ทำให้เขาต้องนอนพักเอาแรง..


    และวันนี้ก็เป็นวันที่เขาเกลียดที่สุด..



    � � � � � � เด็กหนุ่มเข้าห้องน้ำเพื่อทำกิจวัตรประจำวันในตอนเช้าเป็นวันแรก หลังจากที่เอาแต่หม่กตัวอยู่แต่ในห้องอย่างลืมเดือนลืมตะวัน เขาส่องกระจกที่อ่างล้างหน้า

    มองดูเกวนอีกคนในตัวเขา..



    � � � � � � ใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากบางและซีด ดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่ซุกซ่อนแววตาลึกลับน่าพิศวง �ผิวขาวซีด อันที่จริงหน้าตาของเกวนก็จัดอยู่ในระดับดีอยู่หรอกนะ ถ้าไม่ติดที่นิสัยแปลกประกลาดกับความคิดอันวิปลิต เขาคงมีเพื่อนเยอะแยะ.. ละมั้ง



    � � � � � � �เมื่อทำกิจวัตรประจำตัวเสร็จ เด็กหนุ่มก็จัดแจงใส่ชุดเสื้อยืดสีขาวตัวเก่ง กับกางเกงยีนส์ขาเดฟยี่ห้อดีอย่างชุ่ยๆ แล้วใส่เสื้อแขนยาวมีฮู้ดสีดำที่เขามักจะใส่ปิดบังตัวเองจากผู้อื่นทุกครั้งเวลาออกนอกบ้าน และก่อนออกจากห้องเกวนก็ไม่ลืมที่จะเปลี่ยนผ้าพันแผลที่ฝามือใหม่

    � � � � � � ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยในเวลาไม่ถึง 5 นาที..





    � � � � � ��เขาออกจากห้องไป เดินลงบันไดบ้าน และพบกับซาร่า..ว่าที่แม่เลี้ยงของเขาอีกครั้ง เธอกำลังทำอาหารอยู่ในครัว..บนโต๊ะอาหารมีจานอาหารมากมาย และพ่อจริงๆของเขา..


    � � � � � � 'มิสเตอร์อดัม บรู๊ก'�กำลังง่วนอยู่กับการอ่านข่าวรายวันจากหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุดที่โต๊ะ มือข้างหนึ่งจิบกาแฟ



    � � � � � � � เกวนทำเป็นไม่ใส่ใจกับภาพตรงหน้าเขา เด็กหนุ่มจงใจเดินเลี่ยงไปอีกทาง เขาตรงไปยังชั้นวางของด้านในสุดของบ้าน เกวนพยายามมองหากระปุกยาที่เขามักกินเป็นอาหารวิตามินสังเคราะห์อยู่เป็นประจำ �แต่กลับไม่พบเจอสิ่งนั้น


    � � � � � �"คุณเอากระปุกยาของผมไปไว้ที่ไหน?"

    � � � � � � เกวนเดินมาถามแม่เลี้ยงซาร่าอย่างจนใจ ทั้งๆที่เขาไม่อยากจะเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ ซาร่าครุ่นคิดสักพักหนึ่งก่อนจะเดินไปหยิบกระปุกยากับซองยาจำนวนหนึ่งบนโต๊ะรับแขก ที่ซึ่งเคยมีบุคคลซึ่งเกวนไม่ต้อนรับอย่าง 'คุณหมอวัตสัน' ที่แวะมาเยี่ยมซาร่าเมื่อเย็นวานนี้


    � � � � � �คุณนายซาร่าส่งกระปุกยาวิตามินสังเคราะห์ที่เด็กหนุ่มมักใช่ทานแทนอาหารจริงๆ มาให้เขา เหตุที่เกวนชอบกินยานี้ก็คือ เมื่อตอนที่เกวนเข้ารับการตรวจจิตเวช คุณนายซาร่าได้บอกกับหมอวัตสันซึ่งเป็นหมอประจำตัวของเกวน ว่าเขาเป็นเด็กไม่ชอบทานอาหารจนร่างกายผ่ายผอมไม่มีแรง หมอวัตสันจึงให้เขาทานยาวิตามินสังเคราะห์แทนการกินอาหารในแต่ละมือ ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงติดการกินยาแทนการกินข้าวไปโดยปริยาย แต่กระนั้นซาร่าก็อยากให้เด็กหนุ่มทานอาหารแบบคนปกติอยู่ดี..


    � � � � � �"นี้อะไร?"
    � � � � � �เด็กหนุ่มเอ่ยถามแม่เลี้ยงของตน เมื่อได้รับซองยามาเพิ่มอีกสองซอง ซาร่าทำสีหน้างุนงงกับคำถามชั่วครู่ ก่อนจะแปลความหมายได้ว่าหมายถึงอะไร

    � � � � � � " อ่า.. มันเป็นยาที่จะทำให้เธอ หายจากอาการที่เป็นอยู่ได้ยังไงล่ะ หมอวัตสันเขาใจดีมากเลยรู้ไหม ถึงขนาดแวะเอามาให้ถึงบ้านเลย"


    � � � � � � คุณนายซาร่าเอ่ยอย่างชื้นชม โดยไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของเกวน แววตาแข็งกราวของเด็กหนุ่มฉายแววกรุ่นโกรธ ก่อนจะเดินชนเธอให้ออกห่างแล้วเดินปึงปังออกไปจากห้อง



    � � � � � � "เกวน! เกวน! กลับมานี้ก่อน! เธอจะไม่ทานอาหารสักหน่อยเหรอ!"
    � � � � � � �
    � � � � � � คุณนายซาร่าตะโกนเรียกลูกเลี้ยงอย่างสิ้นหวัง และทำท่าทีว่าจะตามไป แต่ก็มีมือของสามีจับเธอไว้ก่อน..

    � � � � � � "ปล่อยมันไป! ไอ้เด็กอวดดีพันธุ์นั้น หึ!" เสียงโหวกเหวกวุ่นวายจากด้านหลัง ถูกกลบด้วยเสียง ปัง! ของบานประตู ฝีมือของเจ้าลูกชายตัวดี เกวน บรุ๊ก










    � � � � � � � �เด็กหนุ่มเสื้อฮู้ดเดินออกมาจากบ้านอย่างหัวเสีย เขาปิดประตูรั๋วบ้านเสียงดัง จนไม้มะฮอกกานีที่ถูกทาด้วยสีขาวร้องเอี๊ยดอ๊าด ก่อนจะดึงฮู้ดสีดำมาคลุมหัว..


    � � � � � � แต่เมื่อออกจากบ้านมาได้ไม่กี่เมตรก็มี
    'ไอ้ชูแชง' สุนัขกระเป๋าสายพันธุ์ปอมปอม ขนสีน้ำตาล เป็นสุนัขที่เลี้ยงโดยคุณนาย 'โรซี่' ข้างบ้านผู้รักสุนัขตัวโปรดเหมือนลูกของตัวเอง ซึ่งคาดว่ามันอาจจะหลุดออกจากรั๋วบ้านของหล่อน มันวิ่งเข้ามากัดที่ขากางเกงยีนส์ของเขา เกวนสะบัดขาออกอย่างไร้เยื่อใย ประกอบกับอารมณ์ที่กำลังคลุกกรุ่นอยู่ในใจ เขาจงใจเตะมันอย่างเต็มแรง


    !!!
    "เอ๋ง ๆๆ"

    � � � � � �และแล้วเจ้าหมาปากเปราะผู้ไม่เจียมตัวก็ลอยละล่องไปชนกับถังขยะข้างเสาไฟฟ้าดัง โครม! ใหญ่ๆ ..คาดว่ามันคงสันหลังเดาะ หรือไม่ก็คอหักตายไปแล้วล่ะ..

    "หึหึๆ เจ้าเศษสวะน้อย.."




    � � � � � � ถึงกระนั้นฆาตกรฆ่าสุนัขก็ยังคงเดินสบายใจเฉิบต่อไป ราวกลับได้ระบายอารมณ์ออกมาหมด ผ่านเจ้าหมาชูแชงขนฟูฟองน่ารำคาญ เกวนแอบเอื้อมมือไปหยิบ(หรือขโมย) หนังสือพิมพ์รายวันที่เหน็บไว้ตรงรั๋วข้างบ้านของใครสักคนมาอ่านอย่างหน้าตาเฉย พลางเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี ตาก็ยังคงจ้องมองอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ ส่วนเท้าก็ยังคงเดินไปด้วยกัน

    แต่แล้ว..ก็มีข่าวๆหนึ่งที่ทำให้สายตาและฝีเท้าของเขาต้องหยุดกึก..

    ตายปริศนานักเรียนโรงเรียนมัธยมปลายเซนต์บลูดอลฟ์

    อีวาน พาร์กินสัน’�คาดว่าเป็นฝีมือของฆาตกรโรคจิต ผู้มีรหัสโค้ดเนมว่า..'

    " ..Шф�.."




    � � � � � ' อีวาน พาร์กินสัน! '
    � �

    � � � � � เกวนเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรงจนชาไปชั่วขณะ ราวกับมีกระแสไฟฟ้าที่มองไม่เห็นแล่นแปรบปราบอยู่ภายในตัวเขา หัวสมองอืออึงมึนไปหมด ความคิดภายในหัวสมองของเขา ยุ่งเหมือนกับยุงตีกัน

    � � � � � "เป็นไปไม่ได้.."

    � � � � � เสียงอันแหบพร่าเอ่ยออกมา หลังจากที่หาเสียงตัวเองไม่เจออยู่นาน �และแล้วเกวนก็ค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆ พร้อมกับริมฝีปากที่ค่อยๆแสยะยิ้มออกมาราวกลับคนละคน..



    � � � � � � "หึหึ อีวาน...







    � � � � � � �..นายตายแล้วจริงๆน่ะหรือ?" !!








    ***



    � � � � �"..สมการทฤษฎีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของแม็กซ์เวลล์ มีทั้งหมด 4 สมการ.. "
    � � � � � �
    � � � � � เสียงทุ้มต่ำของอาจารย์ผู้สอนประจำภาควิชาฟิสิกส์ดังขึ้นอย่างเรียบๆ ช้าๆ จนชวนให้นักเรียนหลับกันไปเกือบครึ่งห้อง แว่นตาทรงกลมโบราณกวาดสายตาอ่านข้อความประโยคในหนังสือเล่มหนาปึก ก่อนจะเขียนบนกระดานอย่างช้าๆ

    � � � � � "..สิ่งที่สมการนี้น่าสนใจก็คือ การมี.."



    � � � � � �เกวนซึ่งกำลังนั่งเรียนอยู่หลังห้องด้านในสุดชิดกับขอบหน้าต่าง อันที่จริงอาจจะไม่เรียกว่าเรียนก็ได้ เพราะทุกประโยคทุกคำ ประโยคแล้วประโยคเล่า..ของอาจารย์คนนี้ก็ไม่ได้ไหลเข้ามาในสมองของเขาเลย..

    � � � � � �เกวนนั่งเปิดหนังสือไปมา กวาดตามองสมการทั้งหมดอย่างเบื่อหน่าย เขาจึงหาอะไรทำด้วยการโยนม้าหมากรุกสีดำตัวหนึ่งขึ้นไปบนอากาศแล้วให้มันตกลงมาที่มือซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมหันมองออกไปนอกหน้าต่าง..

    � � � � � �

    � � � � �อาจารย์ชายชราร่างท้วม 'นิโคลัส มาร์ติน' กำลังร่ายยาวในเรื่องของสมการ กรอกหูนักเรียนใหม่อีกรอบ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเล่มหนาปึกเป็นครั้งแรก มาร์ตินถึงกับคิ้วกระตุกด้วยภาพตรงหน้า..


    � � � � �ภาพนักเรียนกว่าครึ่งห้องซึ่งตอนนี้กำลังหลับสบาย บางคนถึงกับน้ำลายยืดเลยด้วยซ้ำ นักเรียนหญิงบางคนก็กำลังจับกลุ่มกันนั่งเมาท์ บ้างก็คุยโทรศัพท์กับแฟน หรือถ้าเป็นพวกผู้ชายเกเรหลังห้อง ก็กำลังนั่งพับจรวดกระดาษแล้วปาใส่หัวคนนู้นที คนนี้ทีอย่างอย่างเมามันส์ แต่ก็ยังมีหญิงสาวที่นั่งหน้าห้องคนหนึ่งที่กำลังนั่งนิ่งตั้งใจเรียนอย่างสงบเสงี่ยม..



    � � � � � � "ปัง!"

    � � � � � � เสียงตบโต๊ะอันดังก้องห้อง ฉุดให้นักเรียนทุกคนที่อยู่ในห้องต่างลุกขึ้นมานั่งตัวตรง ไม่เว้นแม้กระทั่งบุคคลที่เข้าโลกนิทราไปแล้ว

    � � � � � � "ที่ฉันสอนมาทั้งหมด! พวกเธอเข้าใจกันไหม!" อาจารย์มาร์ตินตะคอกใส่อย่างโกรธเกี้ยว
    � � � � � � "เข้าใจครับ/ค่ะ" เสียงของเด็กนักเรียนในชั้น ตอบกลับกันอย่างพร้อมเพียงโดยไม่ได้นัดหมาย เกวนแอบยักคิ้วภายใต้หมวกฮู้ดอย่างขำขัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร



    � � � � � � "ดี! ตอบพร้อมเพียงกันดี! งั้นฉันจะทดสอบดูว่าพวกเธอจะสามัคคีกันได้มากแค่ไหน"�อาจารย์มาร์ตินชราร่างท้วมเอ่ยอย่างลองใจ ดวงตาภายใต้กรอบแว่นอันล้าสมัยฉายแววเจ้าเล่ห์ ก่อนจะพูดขึ้นว่า

    � � � � � � �"ปิดหนังสือ!" คำสั่งเรียบง่ายที่ทุกคนต้องปฎิบัติตาม
    � � � � � � �"ใครสามารถบอกสมการทั้ง 4 ตัวของแมกซ์เวลล์ได้บ้าง
    ? เลือกมา 1 คน"



    � � � � � � � สิ้นเสียงคำสั่งของอาจารย์ เหล่านักเรียนทั้งหลายก็ต่างพาส่งเสียงจอแจ้ ผลักคนนู้นทีคนนี้ทีให้ออกไปตอบหน้าชั้น บางคนก็เสี่ยงดวงกันไป เกวนที่กำลังนั้งเงียบอยู่หลังห้องถึงกับต้องเบ้หน้าอย่างรำคาญใจให้กับความชุลมุนวุ่นวายภายในห้อง จนกระทั้งชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งซึ่งเป็นหัวโจ๊กประจำกลุ่มเด็กเกเรที่ชื่นชอบการใช้กำลังหลังห้อง (ซึ่งหมอนี้มักชอบกลั่นแกล้งเกวนอยู่บ่อยๆ) ตัดสินใจโยนไปให้เด็กหนุ่มเสื้อฮู้ดที่นั่งโดดเดี่ยวอยู่หลังห้อง


    � � � � �"ไอ้หมอนั้นครับคุณครู! ใช่ไหมทุกคน!" แม็คตะโกนเสียงดังลั่น เพื่อหาแนวร่วม พลางกวาดสายตาไปทั่วห้อง ที่เริ่มซุบซิบกันอย่างเมามันส์..

    � � � � � � �

    � � � � �"ใช่ๆ เจ้าคนพิลึกนั้นคงตอบได้ละมั้ง"
    � � � � �"หึ! เห็นว่าเรียนเก่งนิ แต่ฉันเห็นหมอนั้นเอาแต่เหม่อไม่สนใจที่อาจารย์สอนด้วยล่ะ"
    � � � � �"เก่งนักนี่ ออกไปซิ!"

    � � � � � เสียงตะโกนพร้อมกับซุบซิบอะไรบางที่ถึงแม้จะเบา แต่เกวนก็ได้ยินหมดทุกอย่าง ทำให้เขาปวดหัว เกวนตบโต๊ะเสียดังลั่นห้อง เพื่อหยุดความวุ่นวายทั้งหมด และมันก็ได้ผลดีเกินขาด เพราะแม้แต่แม็คก็ยังหยุดชะงักไป แต่ก็ยังไม่วายส่งสายตาเกียจชังมาให้



    � � � � � � � "..."

    � � � � � � � ทั่วทั้งห้องพร้อมใจกันเงียบเสียงลงในทันที พร้อมกับจ้องมองเกวนเหมือนตัวประหลาด เด็กหนุ่มเดินไปหาอาจารย์มาร์ตินที่กำลังมองความขัดแย้งนั้นอย่างเงียบๆ แววตาภายใต้แว่นตาหนาฉายแววแปลกใจ เขาเดินไปหยิบปากกาเมจิกสีแดงบนโต๊ะอาจารย์ขึ้นมาแท่งหนึ่ง หลับตาลงเพื่อนึกถึงภาพหน้าหนังสือที่เขาพึ่งอ่านผ่านๆมาเมื่อกี้ ท่ามกลางสายตาแปลกใจของเพื่อนๆ


    หน้า 95 ย่อหน้าที่ 2 �บรรทัดที่ 4 ..

    � � � � � � � '.D = pคือ สมการ A�.B=0 คือ สมการ B�x E = -B/tคือ สมการ C ..และx H =�D/t +j คือ สมการ D ..'


    � � � � � � �
    � � � � � � เขาลงมือเขียนสิ่งที่อยู่ในหัวลงบนกระดานอย่างร็วดเร็ว เสร็จแล้วก็ส่งปากกาคืนให้อาจารย์ที่กำลังมองมาอย่างชื่นชม ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ โดยไม่ลืมกล่าวเยาะเย้ยคู่อริอย่าง 'แม็ค ไบรอัน' เด็กหนุ่มหัวโจ๊กประจำกลุ่ม พร้อมกับแสยะยิ้มให้อย่างเหยียดๆ..

    � � � � � �
    � � � � � � �"หึ..หึ มีอะไรจะแกล้งฉันอีกไหม?�ไบรอันผู้น่าสมเพช�"

    � � � � � � �"แกมีสิทธิ์อะไรว่าคนอย่างฉันห๊ะ! แกมันเป็นพวกโรคจิต รู้ตัวไหม!"

    � � � � � � �แม็คลุกขึ้นยืนพร้อมกับคว้าคอเสื้อของเกวน และตั้งท่าจะต่อยเขา แต่ก็ถูกหยุดด้วยบรรดาลูกสมุนเกเรของตัวเองและอาจารย์มาร์ติน

    � � � � � � �"พอได้แล้ว! อย่างโดนกักบริเวณกันรึยังไง! หมดชั่วโมงเรียน ไปได้แล้ว!" สิ้นเสียงของอาจารย์ เหล่านักเรียนในห้องก็แห่กันออกจากห้องโดยไม่ลืมแอบมองสถาณการณ์นั้นอย่างอยากรู้อยากเห็น





    � � � � � � � แม็คที่โดนพรรคพวกของตัวเองคุมตัวไว้ ก็สะบัดแขนออกจากการเกาะกุมแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับแอบเหล่ตามองเกวนที่แอบแสยะยิ้มที่มุมปากใส่เขาอย่างเจ็บแค้น พร้อมกับอาจารย์มาร์ตินที่ออกจากห้องไปพร้อมนักเรียนหญิงเรียนเก่งคนหนึ่งที่ชอบนั่งหน้าชั้นกำลังช่วยครูถือหนังสือ เธอส่งสายตามาที่เกวนอย่างเห็นใจ


    � � � � � � � �หลังจากที่ทุกคนออกจากห้องกันหมดแล้ว เกวนซึ่งเหลืออยู่ตัวคนเดียวในห้อง จู่ๆเด็กหนุ่มก็ส่งเสียงหัวเราะในลำคอพร้อมกับโยนม้าหมากรุกตัวเดิมไปมาอีกครั้ง ก่อนจะเป็นการระเบิดหัวเราะอย่างสะใจแทน



    "หึ..หึ ฮะฮ่ะฮ่า แม็ค ไบรอัน แกมันก็แค่หมากตัวหนึ่งในกระดานของฉันเท่านั้นแหละ!"





    �***




    � � � � ���'หวัดดีเกวน! ฉันมีอะไรสนุกๆมาเสนอให้นายด้วยล่ะ'
    � � � � � �
    � � � � � � เสียงร่าเริงของชายหนุ่มคนหนึ่ง ผู้มีดวงตาสีฟ้าอมเทา ผมสั้นสีเหลืองอ่อน วิ่งมาหาเขาที่อยู่ใต้ต้นไม้หลังโรงเรียนอย่างตื่นเต้น


    � � � � � � 'นั้นอะไรน่ะ?'

    � � � � � � �
    � � � � � ��อีวานแสยะยิ้มทะเล้นให้เด็กหนุ่ม ก่อนจะยื่นของบางสิ่งบางอย่างให้กับเขา มันคือกระต่ายป่าตัวหนึ่งในสภาพที่ถูกอีวานจับหูยาวๆของมันแล้วดิ้นไปมาอย่างตื่นตัว

    � � � � � �'ฉันเจอมันที่ป่าหลังโรงเรียน' �เกวนเอื้อมมือไปรับเจ้ากระต่ายน้อยผู้น่าสงสารจากอีวานอย่างยินดี แววตาที่มองเจ้ากระต่ายสั้นระริกด้วยความตื่นเต้น

    � � � � � � 'ขอบใจ อีวาน นายอยากชำแหละด้วยฉันไหม?'

    � � � � � � เกวนพูดอย่างใจกว้าง ปกติเมื่อเขาเจอเหยื่อที่เป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆอย่าง กระรอก หรือหนูแฮมส์เตอร์ เขามักจะห่วงไม่ให้ใครมายุ่งกับเหยื่อของตัวเองทุกครั้งเมื่อเขาต้องการจะชำแหละมัน

    � � � � � � 'ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบ ฉันดูนายชำแหละดีกว่า'
    � � � � � � �
    � � � � � � �เกวนยิ้มกว้างราวกับเด็กๆ เขารีบคว้านหามีดคัตเตอร์ในกระเป๋าเสื้อฮู้ดสีดำอย่างร็วดเร็ว แล้วเลื่อนคัตเตอร์ขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับเวลาชีวิตของเจ้ากระต่ายน้อยที่ค่อยๆลดน้อยลง



    � � � � � � �ฉึก! ครืด .. จี้ดๆๆ
    � � � � � � � !!! ?!



    � � � � � � �เสียงปักมีดลงไปตรงบริเวณคอหอยของกระต่าย แล้วค่อยๆกรีดตัดคอมันอย่างช้าๆ เสียงร้องอันทรมานของเจ้าสิ่งมีชีวิตขนปุกปุยก็ค่อยๆเบาลง จนกระทั่งเงียบหายไป มันชักกระตุกหนึ่งครั้งพร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้าย เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาจากเส้นเลือดใหญ่บริเวณคอของมันที่ใกล้จะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่


    อีวานเบือนหน้าหนีภาพนั้นด้วยความสะอิดสะเอียน..



    � � � � � � �'หึหึ.. เป็นอะไรไปอีวาน? กลัวเหรอ?'

    � � � � � � � เกวนพูดถามเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา ด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม ราวกับคนละคน เกวนยืนขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับกระชับมีดคัตเตอร์ในมือที่เปื้อนเลือดให้แน่นขึ้น..

    � � � � � � � 'นายจะทำอะไร?'

    � � � � � � � อีวานถามเพื่อนสนิทของเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย เหงื่อไหลโชกไปทั่วตัว

    � � � � � � � 'อย่า! อย่า.. เข้ามานะ'


    � � � � � � � "..." ��เกวนแสยะยิ้มเมื่อเห็นอาการหวาดกลัวของเพื่อนตัวเอง เขาเดินอย่างเชื่องช้าเข้ามาใกล้ๆอีวาน

    � � � � � � � 'หึหึ นายมันก็เหมือนกับกระต่ายน้อยผู้บอบบางในมือของฉันยังไงล่ะ อีวาน พาร์กินสัน!'




    � � � � � � � �ฉึก!




    � � � � � � �



    � � � � � � �"เฮือก!"


    � � � � � � �เด็กหนุ่มตื่นขึ้นมาจากห่วงฝันร้าย เหงื่อชุมตัว หัวใจเต้นแรง รู้สึกปวดหัวตึบๆขึ้นมาในทันที เกวนเหลียวมองไปรอบๆตัว ตอนนี้เขากำลังอยู่ในโรงเรียน หลังอาคารวิทย์ร้าง เวลาตอนนี้ก็ราวๆเที่ยงครึ่ง เด็กหนุ่มถอนหายใจยาวๆออกมาครั้งหนึ่ง ก่อนจะเอามือซ้ายล่วงกระปุกยาวิตามินสังเคราะห์ออกมาจากกระเป๋าเป้สีดำ เขาเทยาลงบนฝามือออกมาประมาณ 3-4 เม็ด แล้วกรอกเข้าปากไปอย่างเร็วๆโดยไม่ทานน้ำตาม


    � � � � � � � เกวนนั่งอิงหลบร้อนที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาเอามือก่ายหน้าผาก พลางคิดถึงเรื่องความฝันที่เกิดขึ้น..


    � � � � � � � อีวาน พาร์กินสัน เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาในโรงเรียนนี้ อีวานเป็นเด็กเรียนเก่ง เกวนก็เช่นกัน แต่เกวนในสายตาเพื่อนๆมักจะคิดว่าเขาเป็นพวกเด็กมีปัญหามากกว่าเด็กเรียน และในกรณีของเกวนนั้นไม่ใช่เพราะการฝึกฝนหรืออ่านหนังสือมากๆ แต่มันคือความสามารถพิเศษของเขา �เกวน บรู๊ก ผู้มีประสาทสัมผัสที่ไวกว่าคนปกติถึง 3 เท่า! เมื่อเขาได้อ่านหรือดูหนังสือ รูปภาพ รูปสถานที่ อื่นๆ เขามักจะจดจำภาพในมโนประสาทได้อย่างละเอียดและแม่นยำ
    � � � � � � � �


    � � � � � � ���ใครจะไปรู้ว่าเด็กเรียนดี หน้าตาดีอย่างเกวน จะกลายมาเป็นเด็กประหลาดในสายตาเพื่อนๆได้.. ก็เพราะความคิดแปลกๆและลักษณะนิสัยของเขา ที่ทำให้เด็กหนุ่มต่างไปจากคนอื่นๆ เขามักจะพูดและหัวเราะกับตัวเองในบางครั้ง ชอบใส่เสื้อหมวกฮู้ดสีดำเพื่อทำให้ตัวเองไม่เป็นที่สนใจ ชอบพูดจาแปลกๆ หัวเราะแปลกๆ ราวกับเด็กโรคจิต ชอบเก็บตัวและเห็นความตายเป็นเรื่องตลก มนุษย์สัมพันธ์แย่


    ..ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เพื่อนๆมองตัวตนของเกวน �
    ..แต่นั้นจะใช่นิสัยทั้งหมดของเขาจริงๆนะหรือ ??





    � � � � � �'สวัสดีตอนบ่าย เกวนเพื่อนรัก คิกๆๆ'

    � � � � � �เสียงจากหัวสมองดังก้องเข้ามาในโสตประสาทของเกวน ทำให้เด็กหนุ่มหลุดออกจากภวังค์ความคิดอันแสนลึกล่ำของตัวเอง พลางตอบกลับทักทายกับเกวนอีกคนด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ

    � � � � � �"หึหึ ..ไง โผล่หัวมาได้ซินะ"

    � � � � � �'คิกๆๆ นายฝันร้ายเหรอเกวน? อ่อนแอจังนะ'
    � � � � � �"..."

    � � � � � � เสียงในหัวสมองเอ่ยแขวะเด็กหนุ่มอย่างจงใจ ทำให้เกวนหน้าบึ้งขึ้นในทันที "ถ้านายจะมาพูดซ้ำเติมกัน ก็ออกไปจากหัวฉันซะ!"



    � � � � � � 'แหมๆ อย่าพึ่งน้อยใจไปซิ เกวนเพื่อนรัก ฉันแค่จะถามนาย ว่าทำไมจู่ๆนายถึงฝันว่าได้ฆ่าเพื่อนตัวเองอย่าง อีวาน ซะล่ะ ความจริงนายไม่ได้ฆ่าเขานี่'�เสียงในหัวสมองถามอย่างสนใจใคร่รู้ ทำให้เกวนนิ่งไปสักพัก

    � � �
    � � � � � � �"นายก็รู้งั้นหรือว่าฉันฝันอะไร ..จริงซินะ ฉันกับนายก็เหมือนคนๆเดียวกัน.. �วันนั้นเป็นวันเปิดเทอมวันสุดท้าย ฉันกับอีวานมากันที่นี่.." เขาหยุดพูดพลางกับกวาดสายตามองไปรอบๆ ที่ๆเขาอยู่ตอนนี้

    � � � � � � � � �

    � � � � � � �"จากนั้นฉันก็ชำแหละเหยื่อรายสุดท้ายของอีวาน เสร็จแล้วเราก็นำซากมันไปทิ้งในป่ารกชันหลังโรงเรียน แล้วหลังจากนั้นก็แยกย้ายก็กลับบ้าน ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น" เกวนบอกเสียงเรียบ�
    เสียงในหัวสมองครุ่นคิดพร้อมกับบอกอีกฝ่ายว่า..


    � � � � � � �'นี่ เกวนเพื่อนรัก ฉันจะบอกอะไรให้นายรู้อย่างหนึ่งนะ.. ความฝันมักเกิดจากจิตใต้สำนึกที่ลึกที่สุดของมนุษย์ โดยที่มนุษย์เองก็ไม่รู้ตัว ฉันขอถามนายหน่อยซิ นายน่ะ..



    อยากฆ่าอีวานรึปล่าว
    ?' !!
    ?? !!!


    � � � � � �เกวนอึ้งไปสักพักกับถามที่สุดจะตรงไปตรงมาของเสียงในสมอง เขาเงียบอยู่นานราวกับกำลังหาเหตุผลว่าทำไม แต่สุดท้ายก็ไม่มีคำตอบที่แน่ชัดสำหรับตัวเขา..

    � � � � � �'นายกำลังสับสนหรือ?'�
    � � � � � �"..."
    � � � � � �'ตอบมาซิ เพื่อนรัก..'
    � � � � � �"ฉันไม่รู้ ..ไม่รู้อะไรเลย! ฉันปวดหัว! บางครั้งฉันคิดว่าอีวานเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับฉัน แต่บางครั้งฉันกลับรู้สึกอยากฆ่าเขา! และฉันก็อยากฆ่าทุกคน! ฉันกำลังสับสน! โถ่เว้ย!"



    � � � � � �'...'
    � � � � � � เด็กหนุ่มระบายความในใจออกมาอย่างอัดอั้น อารมณ์ฉุนเฉียวทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อเขาระบายมันออกมา เขาตะคอกใส่ตัวเอง แล้วหลังจากนั้นเสียงในหัวสมองก็เงียบหายไป..


    � � � � � ��
    � � � � � � เกวนลุกขึ้นยืนพร้อมกับคว้ากระเป๋าเป้มาสะพาย ดึงหมวกฮู้ดขึ้นมาใส่อีกครั้ง ตัดประสาทการรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัว แล้วเตรียมตัวไปเรียนในชั่วโมงต่อไป


    � � � � � � ตุบ !�

    � � � � � � ซองยาสีขาวล่วงออกมาจากเป้ที่เขาลืมรูดซิบ เขาจัดการรูดซิบกระเป๋า แล้วเก็บซองยาขึ้นมา "หึหึ ยางี่เง่าของไอ้หมอประสาทนั้น ฉันไม่มีวันจะใช้มันหรอก!"



    � � � � � � � � �เขาเดินตรงไปที่ถังขยะตรงหัวมุมทางเดินของตึกร้าง แล้วจัดการทิ้งมันลงไป ก่อนจะเดินออกไปจากที่ตรงนั้น..






    � � � � � � ภายในห้องเรียนของรูปทรงสี่เหลี่ยมของ 'มิสซิสแกรน์ เมโลดี้' อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งหล่อนขึ้นชื่อในเรื่องของระเบียบและความสะอาดเป็นที่หนึ่ง หรือที่นักเรียนแอบล้อเลียนกันอย่างลับๆ ว่าหล่อนเป็น 'โรคเกลียดเชื้อโรค' ระยะสุดท้าย


    � � � � � � �อาจารย์วัย 30+ แต่งตัวเฉียบเปรี้ยวในชุดกระโปรงตัวสั้นสีดำยาวถึงแค่น่อง รองเท้าส้นสูงสีดำ กับถุงน่องลายประหลาดที่เธอมักจะใส่มาประจำ (และยังเป็นลายตุ๊กแกในสายตาเกวนอีกด้วย) หล่อนใส่แว่นตาแบบมีสายห้อยสีชมพู ให้ความรู้สึกเหมือนกันป้าแก่ที่ขายชีสเบอร์เกอร์ ประจำร้านในโรงอาหารของโรงเรียน

    � � � � � � �"ดีๆ ตรงนั้นแหละ วางรองเท้าให้เป็นระเบียบหน่อย.. �คุณโทนี่ ! กลับมาเรียงรองเท้าใหม่เดี๋ยวนี้! นั้นคุณวางหรือโยนน่ะ นั้นด้วย! คุณปาคเกอร์ เสื้อไปโดนอะไรมา ทำไมถึงสกปรกอย่างนี้!"

    � � � � � � � เสียงแหลมปรี๊ดของอาจารย์เมโลดี้ดังมาจากหน้าห้อง เหล่านักเรียนที่มาเข้าเรียนช้าต่างถูกตรวจสอบตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วจึงจะอนุญาติให้เข้าเรียนได้


    � � � � � � � "เอาล่ะ ครบแล้วใช่ไหม
    ?"

    � � � � � � � "ยังค่ะอาจารย์ เหลืออีก 1 คน ..เกวน บรุ๊ก ยังไม่มาค่ะ"

    � � � � � � � �เสียงหวานใสจากสาวน้อยผู้รักเรียน
    'แมรี่ ควีนเนอร์' กล่าวรายงานอาจารย์อย่างด้วยน้ำเสียงตระกุกตระกัก ผมสีทองปล่อยยาวของเธอยาวมาถึงสะโพก ดวงตาสีเขียวมรกตฉายแววไม่มั่นใจ

    � � � � � � � �"งั้นหรือ
    ? คุณควีนเนอร์ ถ้าอย่างนั้น.."

    � � � � � � � �ยังไม่ทันที่อาจารย์สาวจะพูดจบ เกวนก็กำลังเดินเข้ามาในห้อง บรรยากาศในห้องก็เงียบขึ้นมาในทันที เด็กหนุ่มเดินตรงไปอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

    � � � � � � � �"เดี๋ยวก่อน! คุณบรุ๊ก กรุณาถอดหมวกฮู้ดนั้นออกด้วย ฉันไม่อนุญาติให้เธอสวมฮู้ดในห้องเรียน"



    � � � � � � � �เกวนหันขวับถลึงตามองอาจารย์ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร รังสีเย็นยะเหยือกที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้ แผ่ออกมารอบตัวเขา อาจารย์สาวมีท่าทีหวาดกลัวผ่านสายตาที่มองเกวน เธอหลุบตาลง.. เด็กหนุ่มถอดหมวกฮู้ดออกแต่โดยดี แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะ พลางแสยะยิ้มอย่างสะใจที่ได้แกล้งหลอกยัยอาจารย์ที่ชอบจู้จี้จุกจิกกับเขา..



    � � � � � � � � � � �เวลาดำเนินไปอย่างเชื่องช้า เกวนนั่งหลังห้องเหมือนเช่นเคย เขาควงหมากรุกม้าสีดำไปมาเหมือนเดิม ก่อนจะจดอะไรเล็กๆน้อยๆ ที่อาจารย์สั่งด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวาที่ยังมีผ้าพันแผลอยู่ก็ควงหมากรุกต่อ อาจารย์เมโลดี้สอนต่อไปอย่างไม่มีท่าทีผิดปกติ เพียงแต่หล่อนแอบลอบมองเกวนอยู่บ่อยๆ อย่างระแวดระวังในบางครั้ง แล้วตอนนี้เธอก็กำลังหาอะไรบางอย่างอยู่..


    � � � � � � � �"หายไปไหนน่ะ ฮืมม.. โอ้ช่าย! นึกออกแล้ว! คุณแม็ค ไบรอัน ช่วยไปเอาหนังสือภาษาอังกฤษเล่มสีฟ้าที่โต๊ะครูมาให้หน่อย เร็วๆนะ"


    � � � � � � � �เด็กหนุ่ม แม็คไบรอัน ผู้เป็นเจ้าของผมสั้นสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีน้ำเงินเข้ม ทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะยอมออกไปแต่โดยดี..




    � � � � � � � � แม็คเดินเข้ามาในห้องของอาจารย์เมโลดี้ พร้อมกับกวาดสายตามองหาหนังสือปกสีฟ้า ใช่แล้ว.. มันอยู่บนโต๊ะ เด็กหนุ่มเดินไปหยิบมันขึ้นมา ข้างๆกันมีหมอนปักเข็มหมุด ซึ่งอาจารย์มักจะใช้มันในการติดบอร์ดต่างๆเพื่อประกอบกิจกรรมนันทนาการในห้องภาษาอังกฤษ


    � � � � � �แล้วทันใดนั้นเขาก็เกิดความคิดอะไรบางอย่างแวบขึ้นมา.. "หึ! คิดว่าจะแน่สักแค่ไหนกัน ไอ้คนวิปลิตเกวน บรุ๊ก!"








    � � � � � � "กริ๊งๆๆ "


    � � � � � � เสียงอ็อดบอกเวลาหมดคาบเรียน เหล่านักเรียนต่างโห่ร้องกันอย่างดีใจสุดซึ้ง ก่อนจะรีบออกจากห้อง เนื่องจากคาบต่อไปนั้นเป็นคาบว่างยาวถึง 3 คาบ แม็คกับพรรคพวกจึงพากันไปเตะบอลที่ลานหน้าโรงเรียน ส่วนผู้หญิงส่วนมากก็มักจะไปที่ตึกกิจกรรม เด็กเรียนส่วนมากก็มักจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด
    � � � � � �


    � � � � � � เกวนออกมาจากห้องเป็นคนสุดท้าย เขาส่วมรองเท้าผ้าใบที่ถอดไว้หน้าห้อง แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ที่สะท้อนแสงอยู่ในรองเท้าของเขา เด็กหนุ่มชะงักเท้า แล้วลองคว่ำรองเท้าผ้าใบนั้น

    � � � � � � �..แล้วเข็มหมุดประมาณ
    4-5 อัน ก็ร่วงลงมา.. พร้อมกับเศษแผ่นกระดาษชิ้นเล็กๆที่มีตัวหนังสือขยุกขยิกเขียนว่า

    'ไอ้เด็กโรคจิต!'





    � � � � � � � เกวนมองตัวหนังสือนั้นพลางยิ้มเหี้ยมเมื่อเขาพอจะรู้ว่าใครเป็นคนนำเข็มหมุดมาใส่ในรองเท้าของเขา แล้วให้เขาส่วนใส่มัน แต่เขาทันได้สังเกตเห็นมันก่อน

    � � � � � ���
    "ในเมื่อเป็นแค่เบี้ยแล้วกล้าลองดีกับคิง ..ฉันก็จะทำให้นายรู้ว่าผลของมันจะเป็นยังไง!"





    ***


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×