คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 03 ผู้เคราะห์ร้าย (Rewrite 100%)
Chapter 03
. .
ผู้เคราะห์ร้าย
ณ บ้านหลังใหญ่ตระกูลบรุ๊ก ลอนดอน ,อังกฤษ
เวลา 08:32 A.m
ตึก ตึก ตึก เสียงเดินลงบันได้ดังขึ้นมาจากชั้นบนของบ้าน เกวนโผล่หน้าออกมาจากมุมทางเดินที่เชื่อมต่อกับบันได เขาผมยุ่งและหน้าตาสะลืมสะลือ เด็กหนุ่มส่ายหัวไล่ความง่วงงุนให้ออกไปจากใบหน้าของเขา เกวนเดินผ่านแม่เลี้ยงที่กำลังวุ่นอยู่กับการล้างจานในห้องครัว เขาดึงเสื้อแขนยาวสีดำเพื่อปกปิดรอยสักที่เกิดจากเรื่องราวไม่คาดฝันเมื่อคืน ซึ่งนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขานอนไม่หลับจนถึงเช้าวันต่อมา
เกวนเดินไปที่หน้าประตูบ้าน แล้วนั่งลงที่พื้นข้างๆ ตู้เก็บรองเท้า เขาก้มตัวลงเพื่อผูกเชือกรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง ในขณะเดียวกันคุณนายซาร่าก็กำลังเดินมาหาเกวน เธอมาหยุดอยู่ข้างๆ เขา ก่อนจะเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "อรุณสวัสดิ์"
"..." เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เขาตั้งใจที่จะผูกเชือกรองเท้าต่อโดยไม่หันมามองที่เธอ หญิงสาววัยกลางคนถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะกลั้นใจถามลูกเลี้ยงด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง "ทำไมเมื่อคืนถึงกลับดึกละ?" เกวนหยุดชะงักมือเล็กน้อย แล้วจึงผูกเชือกรองเท้าอีกข้างหนึ่งต่อ พลางพูดว่า "..มีเรื่องที่โรงเรียนนิดหน่อย" เขาตอบเพียงแค่นั้น..
ซาร่าเม้มปาก คล้ายว่าอยากจะถามอะไรบางอย่างต่อ แต่ลูกเลี้ยงของเธอก็ผุดลุกขึ้นยืนซะก่อน เขาคว้ากระเป๋าเป้สีดำออกไป โดยทิ้งไว้แค่ประโยคกำกวมไว้ให้เธอ "ไม่มีเรื่องอะไรจะใหญ่ไปกว่าที่คุณจะจับผมไปทิ้งไว้ที่โรงบาลบ้าหรอกนะ.."
เกวนเดินไปตามท้องถนนที่ว่างเปล่า พลางฟังเพลงจาก Mp 3 ที่เปิดฟังเบาๆ ในหูฟัง เขาเดินลัดเลาะไปตามทางเดินระหว่างบ้านเรือนที่แออัด ก่อนจะโผล่มาที่ถนนใหญ่ รถราต่างๆ ก็เริ่มมีมากขึ้น เขาสังเกตเห็นสิ่งรอบตัวหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนชายจากโรงเรียนเซนต์บลูดอลฟ์ที่กำลังจีบนักเรียนหญิงจากโรงเรียนหญิงล้วนคนหนึ่งอยู่ หรือเหล่าบรรดาผู้ปกครองของนักเรียนที่มาออกันที่หน้าประตูทางเข้าของโรงเรียนแห่งหนึ่งเพื่อส่งลูกตัวเองเรียนหนังสือ
เขาเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งมองเห็นโรงเรียนของตัวเองอยู่ไกลออกไปประมาณความยาวของบ้าน 2 หลัง เด็กหนุ่มเดินเลี้ยวเข้าไปในตรอกซอยแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะได้เข้าไปทางด้านหลังโรงเรียนเหมือนที่เคยเข้าอยู่เป็นประจำ แต่ทว่าวันนี้ประตูบานยักษ์กลับไม่ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างที่เคย มันปิดสนิทราวกลับไม่ต้องการให้เขาเข้ามาทางนี้อีกต่อไป เกวนหัวเสีย เขาถอดหูฟังออก ก่อนจะเตะก้อนหินสีขาวแปลกตาก้อนหนึ่งที่วางอย่างนิ่งสงบอยู่ข้างประตู ผลจากการเตะทำให้มันลอยข้ามรั๋วประตูไปตกอยู่ ในที่ๆไกลออกไปมากโข และลอยคว้างไปที่อีกฝากหนึ่งของกำแพง
หลังจากสงบอารมณ์อยู่สักพักราว 10 นาที เกวนก็ตั้งท่าจะหันหลังกลับให้กับประตูบานนั้น แต่ทว่าเมื่อเขาเดินออกมาได้สองสามก้าว จู่ๆก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากอีกฝั่งของในประตู ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้ารีบเร่ง และเสียง สวบ สาบ.. เหมือนคนกำลังเดินลุยกองหญ้าหนาที่ขึ้นรกรุงรังตามกำแพง
"ตุ้บ!"
ใครบางคนกระโดดลงมาจากกำแพงฝั่งที่อยู่ไกลออกไปจากที่เกวนอยู่พอสมควร บุคคลนั้นใส่เสื้อผ้าสีดำพร้อมกับหน้ากากปกปิดใบหน้าสีขาวที่มีรอยเปื้อนเลือดไหลลงมาจากศีรษะ มันหันซ้ายหันขวาอย่างระแวดระวังตัว แต่แล้วสายตาคู่นั้น ภายใต้สิ่งปกปิดใบหน้าก็หันมาสบตากับเด็กหนุ่มที่ยืนห่างออกไป มันจ้องมองมาที่เกวนด้วยสีหน้าที่คาดเดาได้ยาก แล้วจู่ๆ ก็วิ่งตรงมาที่เขาด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ และสิ่งที่ทำให้เกวนรู้ว่านี้ไม่ใช่นักเรียนในโรงเรียนเขาและไม่ได้มาดี ก็คือ มีดสั้นคมกริบที่มีรอยเปื้อนเลือดสีแดงเข้ม! โดยสัญชาติญาณเกวนรีบมองหาทางรอดจากการถูก 'ฆ่า' จาก 'ไอ้บ้างี่เง่า' ที่จะมาปลิดชีวิตเขาอย่างไร้เหตุผล! เด็กหนุ่มหันซ้ายขวาเพื่อทางออกและทางรอด จากสถานการณ์อันไม่คาดฝันนี้ หัวใจสูบฉีดเลือดด้วยความตื่นตัว
ไม่! ไม่มี ไม่มีทางรอดเลย!
เกวนคิดด้วยความตื่นตะลึง เหงื่อแตกพลั่ก เขาคิดประมวลผลถึงทางหนีที่สุดแสนจะริบหรี่ นั้นก็คือทางเข้าด้านหลังโรงเรียนซึ่งไม่มีนักเรียนคนไหนอยู่แถวนั้นเลยสักคน! ซวยที่สองก็คือหากวิ่งกลับไปทางเดิม ถ้าเทียบกับความเร็วที่ถึงแม้จะเอานักกีฬาวิ่งทีมชาติมาวิ่งแข่งก็ยังแพ้ได้อย่างง่ายดาย! และซวยที่สามก็คือด้านตรงข้ามของกำแพงเป็นป่ารกถึบที่เกวนเคยเอาซากกระต่ายไปทิ้ง! แล้วทางไหนคือทางรอดล่ะ?
ไม่มีเวลาให้เด็กหนุ่มได้ไตร่ตรองอะไรมาก บุคคลปริศนาที่เกวนแน่ใจได้ว่าต้องเป็น 'ฆาตกร' !กำลังเข้ามาประชิดตัวอย่างร็วดเร็ว! ขวับ! เกวนหลบมีดที่ตั้งใจจะฟันมาที่ท้องน้อยของเขาเพียงเสี้ยววินาที แล้วความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาจากสมองในเวลาขับขันแบบนี้
เกวนวิ่งล่อฆาตกรให้เข้ามาหาตนเองใกล้ๆกับประตูบานใหญ่ เคร้ง! เสียงเสียบมีดไปที่ประตูเหล็ก ร่างนั้นหยุดชะงักเพราะแรงสั่นสะท้อนกลับ เกวนอาศัยจังหวะนี้เหยียบหลังฆาตกร แล้วถีบเพื่อดันตัวเองข้ามไปอีกฝั่งด้วยความทุลักทุเล
ได้ผล!
เด็กหนุ่มร่วงลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก เขากลิ้งตัวเพื่อลดอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ก่อนจะ ฟืนลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งกึ่งเซเข้าไปรวมกับฝูงนักเรียนที่ทยอยกันมุ่งดูอะไรบางอย่างเพื่ออำพรางตน.. เขาเหลือบมองไปที่ประตูด้านหลังโรงเรียน.. ไม่มีใครอยู่ เขาถอนหายใจ พร้อมกับแสยะรอยยิ้มวิปลิต 'ไม่อยากเชื่อ ! นี้คือเรื่องจริง! ฉันโดนไล่ฆ่าจากคนแปลกหน้าแล้วรอดมาได้! สนุกชะมัด!' เกวนคิดด้วยความตื่นเต้นพลางเลียริมฝีปากตัวเอง
เขาเดินถอยหลังลึกลงไปเรื่อยๆ โดยที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ประตูบานใหญ่บานนั้น จนกระทั่งถูกนักเรียนกลุ่มหนึ่งเดินสวนเข้ามาตัดหน้า แล้วกลืนหายตัวเขาเข้าไปในกลุ่นฝูงชน.. เขาแสยะยิ้ม
บางทีในชีวิตของคนธรรมดาคนหนึ่ง จะต้องพบเจอกับประสบการณ์ต่างๆมากมายที่ไม่คาดฝัน และบางครั้งมันอาจทำเราสับสนและหวาดกลัวกับมัน แต่นั้นคงไม่ใช่สำหรับเขา.. เกวน บรุ๊ก เด็กชายมัธยมปลายคนหนึ่ง ที่พยายามจะทำตัวให้เข้ากับชีวิตปกติธรรมดาของคนทั่วไป แต่กระนั้นความรู้สึกนึกคิด และสภาพจิตใจของเขา ก็เป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่เกิด มันทำให้เขากลายเป็นคน ‘ประหลาด’ ในสายตาของคนรอบข้าง มันอาจเป็นความรู้สึกที่ดูน่าหดหู่ แต่ไม่ใช่สำหรับเกวน เขามีความสุขกับชีวิตที่เป็นแบบนี้ จนกระทั่งได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดฝันในชีวิตของเขา
ถึงแม้การเอาตัวเข้าไปเสี่ยงผัวพันกับเรื่องไม่คาดฝันโดยบังเอิญ มันก็ยังทำให้เขารู้สึกว่า โลกนี้ยังมีอีกมุมที่เขายังไม่เคยได้รับรู้.. แต่ก็นั้นแหละ เขาสนุกกับมัน! และพร้อมเปิดอ้าสิ่งเหล่านั้นเข้ามาหาตน น่าแปลก ที่ไม่มีใครต้องการให้เป็นแบบนั้น เพราะอะไรนะหรือ? ลองจินตนาการดูว่า ถ้าวันหนึ่งคุณกำลังนั่งกินชีสเบอร์เกอร์ที่หลังโรงเรียน แล้วจู่ๆ ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นกับคุณ เมื่ออยู่ๆ ก็มีนักโทษชายฉกรรณ์เข้ามารุมทำร้ายคุณ ทั้งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร จนถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสหรือพิการ! คิดดูซิ! นักโทษที่ไหนจะมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่โรงเรียนแบบนี้! แต่นี้เป็นเพียงสถานการณ์สมมุติง่ายๆเท่านั้น เพราะยังไงก็คงไม่มีใครที่อยากจะให้สิ่งเลวร้ายเหลานี้เกิดขึ้นกับตัวเองหรอก..
เพราะความรักตัวกลัวตายไงล่ะ!!!
พลั่ก!!
“เอาเลย!! ซัดเจ้านั้นให้นวมเลย!!” เสียงตะโกนโหวกเหวกของนักเรียนชายคนหนึ่งดังข้ามมาจากอีกฝั่งของกลุ่มนักเรียนที่กำลังมุงดูอะไรบางอย่าง พร้อมกับส่งเสียงเชียร์อย่างเมามันส์ เกวนที่พึ่งรู้ตัวว่าเขาถูกดันจากฝูงชนเข้ามาอยู่ท่ามกลางความชุลมุนที่แสนวุ่นวายนี้โดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
“กรี๊ดดดดด!! เจสัน!! เจสัน!! เจสัน!!” เสียงเชียร์จากกลุ่มนักเรียนสาวๆ ของโรงเรียนเซนต์บลูดอลฟ์ ดังเสียดข้างๆหูเขา พวกหล่อนดูท่าว่าจะไม่ใส่ใจกับใครก็ตามที่แทรกตัวเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่ใจกลางวงล้อม
เกวนบิดตัวแทรกฝูงชนที่เดินสวนเข้ามาอยู่เรื่อยๆ พร้อมกับกระชับหมวกฮู้ดให้แน่นติดหูด้วยความรำคาญใจ เขากำลังพยายามหาทางออกจากความชุลมุนที่เกิดขึ้น แน่นอน เด็กหนุ่มเกลียดความวุ่นวาย และบริเวณที่มีเสียงดัง มันทำให้เขาสับสนและอยากจะอาเจียนออกมา และในระหว่างที่เกวนกำลังยุ่งยากอยู่กับปัญหาด้านมลภาวะของเสียงเจ้าปัญหา ก็มีสัมผัสบางอย่างมาสะกิดที่ท้ายทอยแรงๆ
“เฮ้ย! เกวน!” เขาหันหลังกลับเพื่อพบเจ้าของเสียงที่แสนคุ้นเคย เด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคลาวเดียวกับเกวน ผมสั้นสีน้ำตาลแดง กับใบหน้าที่มักเผยความก้าวร้าวออกมาเมื่อเจอหน้าเขา แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ “หึ ไง แม็ค จะมาสารภาพบาปกับฉันรึไง หึๆ..” เกวนเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
แต่กระนั้นน้ำเสียงยั่วโมโหของเขา ก็ไม่อาจทำให้ใบหน้าที่เคยก้าวร้าวกับเขานั้น แสดงท่าทีไม่พอใจออกมาได้ แม็ค ไบรอัน แสยะยิ้มตอบเขาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน รอยยิ้มที่ดูวิปลิต รอยยิ้มที่คุ้นเคย..
เกวนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เขาจ้องมองดวงตาสีฟ้าอ่อนคู่นั้น พลางนิ่วหน้า
นี้ไม่ใช่ แม็ค ไบรอัน!
“นาย..” เกวนพูดอย่างช้าๆ พร้อมความคิดในสมองที่กำลังประมวลจากข้อมูลใหม่ๆ ที่ได้มา ทุกเสียงรอบตัวเงียบสนิทในความคิดของเขา “นายคือ.. อีวานซินะ”
แม็ค ไบรอัน หลิ่วตาอย่างมีเลศนัย ริมฝีปากแสยะยิ้ม แล้วจู่ๆ เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาก “ฮะฮ่ะฮ่า!!ไอ้วิปลิตเกวน!! เป็นบ้าไปแล้วรึไง!!” หมอนั้นเอามือกุมท้องอย่างหยุดไม่ได้ พร้อมกับเอ่ยเยาะเย้ยกลับไป “แกมันบ้าไปแล้ว! หึ ใช่ซินะ คนอย่างแกหน่ะ มันประสาทสิ้นดี!!”
เกวนยักคิ้วข้างหนึ่ง เขาไม่สะทกสะท้านต่อคำสบปรามาทนั้นเลย เด็กหนุ่มแอบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อฮู้ดโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายสังเกตเห็น แม็คค้อมตัวลง พร้อมกับเอามือกุมท้องด้วยความสะใจ ไม่ซิ.. คนที่ว่าหน่ะ มันอีวานต่างหาก!
ครืด.. กิ้ก!
อึก! เสียงเลื่อนขึ้นของคัตเตอร์ที่แสนคมกริบพร้อมกับเสียงลมหายใจของใครบางคน ดังใกล้ๆ หูแม็ค เขาจ้องมองคัตเตอร์ในมือของบุคคลปริศนา และพบว่าด้านคมของคัตเตอร์เล่มนั้น กำลังจ่อที่คอเขาอยู่!
แม็คละสายตาจากมัน ก่อนจะยิ้มแสยะอย่างถูกใจราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน เมื่อได้ยินเสียงเย็นเหยือกของเกวน บรุ๊ก ที่เคลื่อนตัวมาอยู่ข้างหลังเขาอย่างร็วดเร็วโดยที่เขาเองไม่ทันตั้งตัว “หึๆ .. อีวาน.. นายหลอกสายตาฉันไม่ได้หรอก..”
อีวานในร่างของแม็ค ไบรอัน ส่งเสียงจี๊จ๊ะในลำคอ เมื่อถูกอีกฝ่ายจับพิรุธได้ เขาใช้มือข้างที่เคยเกิดอุบัติเหตุจากตะปู ฝีมือบุคคลอันตราย เกวน บรุ๊ก ผลักคัตเตอร์ออกไปอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมกับเอ่ยชมอีกฝ่ายที่รู้ทันความคิดของเขา “ให้ตายซิ ฉันไม่เคยหลอกนายได้สักทีซินะเกวน หึ..”
ผู้ได้รับคำชมค่อยๆลดคัตเตอร์ลง แล้วเก็บมันที่กระเป๋าเสื้อฮู้ดตามเดิม เกวนรู้ดีอยู่แล้วว่าคนตรงหน้านั้นไม่ใช่ แม็ค ไบรอัน เพราะหากมันคือเขาจริงๆ แม็คจะต้องเข้ามาหาเรื่องเขาเพื่อชำระแค้นเก่า แล้วซัดหน้าซีดๆของเขาซักเปรี้ยง แต่คราวนี้กลับเย็นชา และเงียบสงบ ต่างจากครั้งล่าสุดที่เคยเจอ ประกอบกับประโยคส่งท้ายที่อีวานพูดกับเขาไว้ก่อนจากลา..
หรือจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก สีตา และความรู้สึกที่แสดงออกทางหน้าตา รอยยิ้มหน้าโง่.. รอยยิ้มวิปลิตที่ส่งผ่านมาถึงเขา ..แค่นี้ฉันดูออกน่า! หึหึ
“ฉันว่าเราไปคุยกันที่อื่นดีกว่า ขืนอยู่ต่อ ประสาทหูฉันคงเสื่อม” เกวนเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง และความจริงเขาก็ไม่ได้พิศวาสเสียงแปดหลอดพวกนี้เลยสักนิด เขาคิดพลางทำหน้าบูดบึ้ง อีวานพยักหน้า ก่อนจะเดินแทรกตัวออกมาก ตามหลังด้วยเกวนติดๆ และในที่สุดพวกเขาก็ออกมาจากความโกลาหลวุ่นวายที่เกิดขึ้น อีวานเดินไปที่หลังต้นไม้ต้นใหญ่หลังอาคารวิทย์ร้าง ที่อยู่ติดกับประตูบานใหญ่หลังโรงเรียน
"พวกนั้นมุ่งดูอะไรกันหน่ะ" เกวนเอ่ยถาม
"อ้อ ก็แค่เรื่องชกต่อยไร้สาระหน่ะ จำได้ไหม เจสันหนึ่งในคู่อริของแม็คไง เห็นว่าคราวนี้มีปัญหากับเด็กเรียนห้อง A ที่ชื่อว่า 'โนอาห์ คอร์ลิน' เล่นซะเลือดถ้วมหน้าเลยล่ะ หึหึๆ"
อ่ะ! เกวนฉุดคิดอะไรบางอย่าง ฝีเท้าหยุดกึก จนอีวานต้องหันมองมาที่เขาอย่างสงสัย “มีอะไร?”
เลือดเหรอ..?
“ให้ตายซิ! ฉันลืมไปได้ยังไงกัน” เกวนสบถ "อีวาน.. ฉันลืมบอกเรื่องบางอย่างกับนาย.. นายทำให้ฉันคิดออก" เขาหายใจแรง เด็กหนุ่มเหม่อมองลึกเข้าไปที่หญ้ารกชันหลังกำแพง มันเป็นทางยาวลึกเข้าไป.. “เลือด.. มีดเปื้อนเลือด..” เด็กหนุ่มพึมพำ ดวงตาเหม่อลอย และทันใดนั้น! เร็วเท่าความคิด เกวนรีบวิ่งเข้าไป ณ ที่แห่งนั้นทันที ท่ามกลางความตกใจของอีวาน “เฮ้ย! จะไปไหนนะ!”
ลืมไปได้ยังไงกันเรื่องแบบนี้!! -- อะไรบางอย่าง อะไรบางอย่างอยู่ที่นั้น! ฆาตกร! มันต้องพยายามจะฆ่าใครสักคนแน่ ให้ตายซิ! วิเศษไปเลย! ฉันกำลังจะเจอเรื่องน่าตื่นเต้นแล้ว! ถ้าเป็นอย่างที่คิดจริงๆ มันจะต้องมีอะไรบางอย่างที่หลังกำแพงตรงนั้นแน่ !!!
มันต้องอยู่แถวนี้แน่ๆ
เขาสอดสายตาไปทั่วบริเวณ แต่ปล่าวเลย มันไม่มีอะไรซ่อนอยู่ จากความคิดของเขาและการคาดคะเน เขาคิดว่าเจ้าฆาตกรหน้ากากนั้นต้องปีนกำแพงจากตรงนี้ไปอีกด้านหนึ่ง เพื่อหลบหนี และจากที่ๆเขายืนอยู่หน้าประตูในตอนนั้น.. ระยะหางระหว่างเขากับมันก็กะได้ประมาณ 5 เมตรจากหน้าประตู งั้นถ้าสมมุติฐานของเขาถูกต้อง เจ้าของเลือดที่เปื้อนมีดเล่มนั้นก็ต้องอยู่แถวๆนี้ซิ..
ติ้ง ..ติ้ง.. แหม๋ะ!
เสียงตกกระทบของของเหลวจากใบไม้หนึ่ง สู่อีกใบหนึ่ง ค่อยๆหยดอย่างช้าๆ มันทำให้เขาต้องหันกลับไปมองที่มาของเสียง แล้วสิ่งนั้นก็ทำให้เขาเกือบหยุดหายใจ..
มันคือเลือดของมนุษย์!!
เกวนก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว เขาจับจ้องของเหลวสีเข้มนั้นด้วยดวงตาลุกวาว รีมฝีปากยิ้มแสยะ ตรงใกล้ๆกับต้นไม้นั้น เขามองเห็นซากหญ้าเป็นรอยคล้ายฝีเท้าของมนุษย์กำลังลากอะไรบางอย่างเข้าไปในนั้น ณ จุดสิ้นสุดของรอยต่อของกำแพง ตามใบหญ้ามีรอยเลือดติดอยู่เป็นแห่งๆ ราวกับเหยื่อพยายามดิ้นพล่านไปรอบๆ
“นั้นมันอะไรหน่ะ” เสียงจากอีวานในร่างแม็ค ที่ใช้ความเร็วเหนือมนุษย์นั้น ตามหลังเขามาอย่างร็วดเร็ว เด็กหนุ่มจ้องมองหยดเลือดด้วยใบหน้าซีดเผือก เกวนเดินตามรอยนั้นเข้าไปอย่างช้าๆ หัวใจเต้นถี่เร็วราวกับจะหลุดออกมาอยู่นอกอก พวกเขาเดินลึกลงไป.. ลึกลงไปอีก.. และข้างหลังดงหญ้านั้นเอง..
"นี้มัน.. " อีวานอ้าปากค้าง พลางพิจารณาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และถึงแม้เขาจะกลายเป็นยมทูตที่ไม่ระแคะระคายกับภาพอันน่าสะอิดสะเอียนตรงหน้า แต่นิสัยเดิมๆก่อนตายก็ยังทำให้เขาทำใจยอมรับสภาพ ‘ของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย’ รายนี้อย่างยากลำบาก
มันคือร่างหญิงสาวมัธยมปลายคนหนึ่ง ในสภาพย้ำแย่ นิ้วมือบิดเกร็งด้วยความทรมาน ชุดลำลองเสื้อยืดสีขาวถูกย้อมไปด้วยของเหลวสีแดงตั้งแต่ครึ่งตัวลงไป ขาข้างหนึ่งอยู่สภาพผิดรูปไปจากเดิม จนทำให้กระดูกหัวเข่าสีขาวขุ่นแทงออกมาจากรอยแผลแตกของข้อต่อที่หัวเข่าข้างซ้ายอย่างน่าสยดสยอง ที่บริเวณหน้าท้องมีรอยจ้ำใหญ่ๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการถูกของมีคมเสียบทะลุผิวหนัง และมีแผลครืดยาวที่ซี่สีข้างขวา แต่ไม่ลึกมาก และต่อมาที่ข้อเท้า.. ซึ่งเป็นแผลเจาะทะลุเกือบมิด นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บริเวณที่ฆาตกรลากมาตลอดทางเต็มไปด้วยเลือดสดๆ ของเธอ
เกวนค่อยนั่งย่องๆ ลงข้างๆ กับร่างกายของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย พลางสำรวจสภาพบาดแผลทั้งหมด เขาจ้องมองมันด้วยความอยากรู้อยากเห็น แววตาเป็นประกายราวกับได้มองเห็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต “เธอ.. ตายรึยัง” อีวานเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ เขาเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างหลังเกวน พลางจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่ถ้าดูแต่หน้า คงเหมือนกำลังหลับไปอยู่เท่านั้น
“ไม่รู้ซิ” เกวนตอบอย่างไม่แยแส่ “โดนขนาดนี้ ฉันไม่คิดว่าจะมีชีวิตอยู่หรอกนะ” เขาพูดพลางกวาดตามองไปรอบบริเวณที่เกิดเหตุ มีร่องรอยการต่อสู้และขัดขืนของเหยื่อ ดูได้จากรอยครืดไปมาของพื้นดิน แล้วก็.. หินสีขาวแปลกประหลาดก้อนหนึ่ง.. เดี๋ยวนะ!
หินสีขาวเหรอ!!
ภาพต่างๆ เมื่อเช้าวันนี้ไหลเวียนเข้ามาในหัวราวกับเขื่อนแตก เหมือนกับหมุนปรับเครื่องเล่นวีดีโอเครื่องหนึ่งให้รีเพลย์ใหม่อีกครั้ง.. หินสีขาว หินสีประหลาดที่มีอยู่ก้อนเดียวในบริเวณนั้น เขาเตะมันข้ามไปอีกฝ้ากของประตู – มันลอยเคว้งคว้างกลางอากาศ ออกไปเป็นระยะทางไกลด้วยรองเท้าผ้าใบไนกี้สีดำคู่ใจของเขา..
เกวนลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปเก็บหินก้อนนั้นที่วางอย่างนิ่งสงบข้างกายเด็กสาวเลือดโชก เขาหมุนมันไปมาจนกระทั่งพบว่ามีรอยเลือดแห้งกรังติดอยู่!! เขาคิดทวนไปมา แล้วจู่ๆภาพฆาตกรภายใต้หน้ากากสีขาวก็ไหลเข้ามาในหัว ‘หมอนั้น.. มีเลือดออกที่หัวนี่!!’
“เกวน!! เธอยังไม่ตาย! เธอยังหายใจอยู่!!” เสียงตะโกนจากด้านหลัง เรียกความสนใจจากเกวนเป็นอย่างมาก เขาเห็นอีวานในร่างแม็คกำลังใช้นิ้วชี้ข้างซ้ายแตะที่ลำคอของหญิงสาว เพื่อจับชีพจร "หัวใจยังเต้นอยู่ แต่ลมหายใจแผ่วเบามาก" อีวานพูด "เอาไงดี"
เกวนหันกลับมามองที่ก้อนหินก้อนนั้นอีกครั้งอย่างชั่งใจ เขาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆได้บ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่มั่นใจเท่าไร เขาแบ่งออกเป็น 2 กรณี กรณีที่หนึ่งคือ เป็นไปได้ว่าฆาตกรต้องการฆ่าหญิงสาวคนนี้ และอาจจะรอจังหวะบางอย่างที่เธอจะมาด้านหลังของโรงเรียนที่ไม่มีผู้คนและเต็มไปด้วยหญ้าขึ้นรกชันเหมาะแก่การอำพรางเหยื่อ เพราะคงไม่มีทางที่ฆาตกรจะบุกเข้าไปหาเธออย่างโจ่งแจ้งในโรงเรียนได้ สรุปได้ว่า ฆาตกรอาจหมายหัวเธอไว้ตั้งแต่แรก แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มเฝ้าดูพฤติกรรมและกิจวัตรประจำวันของเหยื่อในเวลาที่แน่นอน เมื่อได้โอกาศก็ลงมือฆ่า
กรณีที่สองคือ ฆาตกรอาจจะไม่ได้จงใจฆ่าเหยื่อรายนี้ตั้งแต่แรก เธออาจจะรู้ความลับบางอย่างหรือรู้เห็นอะไรบางอย่างของฆาตกรโดยบังเอิญ ทำให้ต้องลงมือฆ่าเพื่อปิดปาก งั้นก็แสดงว่า เหยื่อรายต่อไปอาจเป็นเขา!! เพราะเขาก็บังเอิญไปเห็นภาพฆาตกรตอนที่คาดว่ากำลังหลบหนีอยู่ มิน่าล่ะ มันถึงได้เอามีดเข้ามาไล่ฟันเขาแบบนั้น! ชีวิตฉันกำลังจะเปลี่ยนไป! หึๆ.. มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว!
แล้วหินสีขาวเปื้อนเลือดนั้นล่ะ? เป็นไปได้ว่าเรื่องสองเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวโยงกัน ถ้าเกิดมันบังเอิญลอยเคว้งคว้างมาฟ้าดที่ศีรษะของฆาตกร ก่อนที่มันจะได้ลงมือฆ่าเธอล่ะ? หรืออาจเป็นเรื่องบังเอิญ? ตอนนี้คำตอบของคำถามทั้งหมดก็มีแต่จะต้องออกมาจากปากของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคนนี้เท่านั้น!
"อีวาน! ช่วยฉันพาเธอไปหาทุกคนที! เธอต้องได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด! ไม่อย่างนั้นเราจะไม่ได้เบาะแสของฆาตกร!" เกวนรีบเปลี่ยนความคิดในทันที เขารีบไปช่วยอีวานที่กำลังยกตัวผู้บาดเจ็บขึ้นมาพาดไหล่อย่างทุลักทุเล เกวนกับอีวานยกแขนของเธอขึ้นมาพาดไหล่ของตนคนละข้าง เสื้อผ้าของพวกเขาถูกย้อมเป็นสีแดงเมื่อมันสัมผัสกับปากบาดแผลเวอะวะนั้น แต่ทันใดนั้น..
ตุ้บ!
อะไรบางอย่างหลุดออกมาจากมือของเธอเมื่อพวกเขาดึงร่างนั้นขึ้นมาจากพื้นดินสกปรกเปื้อนเลือด "นั้นอะไร" อีวานเอ่ยถาม พลางมองดูเด็กหนุ่มเสื้อฮู้ดกำลังก้มลงเก็บของสิ่งนั้น โดยฝากร่างอันอ่อนปวกเปียกไว้ที่เขา "เธอกำมันไว้" เกวนตอบ "ดูเหมือนว่ามันจะร่วงลงมา"
รูปทรงของเบี้ยในหมากรุกสากลแบบมาตรฐานสีดำมันเงา ปลายสุดของส่วนหัวเป็นรูปทรงกลม มีรอยนิ้วมือสีเลือดของหญิงสาวแปดเปื้อนอยู่เล็กน้อย เขาพลิกมันไปรอบๆ ก่อนจะเจอข้อความตัวเล็กๆ เขียนอยู่ที่ส่วนฐานของเบี้ยดำตัวนี้ 'ถึง ผู้โชคดี!'
"ถึง ผู้โชคดีเหรอ ..หึ โชคร้ายละซิไม่ว่า" เกวนยิ้มแสยะ ก่อนจะเอามันจ่อมลงในกระเป๋ากางเกง อีวานมองเขาอย่างไม่เข้าใจความหมายนั้น แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรในตอนนี้ หลังจากนั้นพวกเขาช่วยกันแบกร่างของเธอออกไปจากตึกร้าง เพื่อไปหาคนอื่นๆที่พอจะช่วยได้ร็วดเร็วที่สุด
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น สองคู่หูเกวนและอีวานในร่างของแม็คก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย เหล่านักเรียนและครูต่างวิ่งกันให้ขวักไขว เสียงรถพยาบาลที่เดินทางมารับผู้บาดเจ็บสาหัสดังก้องไปทั่วบริเวณหลังโรงเรียน มีพยาบาลและบุรุษพยาบาลช่วยกันเข็นร่างของเธอคนนั้นเข้าไปในรถฉุกเฉิน ใบหน้าอันขาวซีดส่วมเครื่องช่วยหายใจ นักเรียนหลายคนที่พากันมุงดูเหตุการณ์ถูกพวกเจ้าหน้าที่กีดกันไม่ให้เข้าใกล้เขตที่พวกพยาบาลกำลังทำงาน ทุกอย่างอยู่ในความสับสนอลม่าน
เกวนและอีวานถูกคุมตัวเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องมาสืบสวน เนื่องจากเป็นผู้พบคนเจ็บเป็นพวกแรก และเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุทำให้มีรอยเท้าและรอยนิ้วมือปนเปื้อนกับหลักฐานของคนร้าย เกวนนั่งอยู่ที่เก้าอี้เรียนตัวหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ให้พวกเขาทั้งสองนั่งรอจนกว่าเจ้าหน้าที่จะมา ซึ่งข้างๆกันคืออีวานกับเก้าอี้ที่ว่าอีกหนึ่งตัว
บื้นนนน!
เสียงเครื่องยนต์ดังมาจากด้านหน้าโรงเรียนพร้อมกับเสียงไซเรนของรถตำรวจ ที่พึ่งจะมาเอาป่านนี้ ได้ฝ่าฝูงชนเข้ามาบริเวณหลังโรงเรียนอย่างร็วดเร็วด้วยความเร่งรีบ นายตำรวจคนหนึ่งปิดประตูรถ พร้อมกับเดินตรงมาที่อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนที่อยู่รวมกับกลุ่มคณะครู พวกเขาสนทนากันครู่หนึ่ง ก่อนจะขอผละตัวออกมา แล้วมุ่งหน้ามาที่เกวนและอีวานนั่งอยู่ ตอนนี้รถพยาบาลเริ่มเคลื่อนตัวออกจากโรงเรียนไปแล้ว
"สวัสดี ฉันสารวัตรลูคัส 'ทอม ลูคัส' เป็นเจ้าของคดีนี้ ยินดีที่ได้รู้จัก" นายตำรวจลูคัสเอ่ยแนะนำตัวกับพวกเขาอย่างเป็นทางการ พร้อมกับจับมือทักทายอีวานเป็นคนแรก "สวัสดีครับ ผมอีวา.. " เขาชะงักคำพูดของตัวเองอย่างลืมตัว ก่อนจะตอบนายตำรวจด้วยชื่อของร่างเนื้อ "เออ.. แม็ค ไบรอันครับ"
"สวัสดีแม็ค" ลูคัสเอ่ยตอบเสียงเรียบ ก่อนจะหันมาจับมือเกวน พร้อมกับพินิจมองใบหน้าของเขาอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตะโกนออกมา "เฮ้! ให้ตายซิ! เธออีกแล้วเหรอ!"
ทางด้านเกวนที่เมื่อเห็นใบหน้าของนายตำรวจคนนี้ชัดๆ ก็ทำให้ใบหน้าคมเข้มภายใต้หมวกฮู้ด บูดบึ้งมากกว่าเก่า เขาเสมองไปทางอื่นในทันที นายตำรวจทอม ลูคัส สารวัตรชายวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของร่างท้วมภายใต้ชุดเครื่องแบบสีกลมท่า ผมสีน้ำตาลแดง ใบหน้าที่มีหนวดขึ้นไปย่อมๆตรงปลายครางทำให้ดูราวกับเป็นผู้แก่ประสบการณ์ในอาชีพตำรวจมานาน และเป็นคนเดียวกับที่สืบสวนเกวน ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ในข้อหาทำร้ายร่างกาย แม็ค ไบรอัน!
"ชิ! คนเดิมอีกแล้ว!" เกวนแอบสบถ นายตำรวจลูคัสนิ่วหน้า ก่อนที่จะหันมาคุยกับอีวานที่ดูจะเป็นมิตรมากกว่า "มือเป็นไงบ้างแม็ค หายดีรึยัง" อีวานพลิกมือข้างที่พันผ้าพันแผลข้างนั้นไปมาให้ลูคัสดู "หายดีแล้วครับ ขอบคุณ" ลูคัสพยักหน้าเรียบๆ แล้วจึงเดินนำทั้งสองเข้าไปในรถตำรวจคันที่ใกล้ที่สุด ข้างในนั้นมีนายตำรวจอีกคนที่ได้แนะนำตัวกับพวกเขาเมื่อสักครู่หนึ่งว่าชื่อ 'ไอแซค' ทำหน้าที่ขับรถ
อีวานและเกวนนั่งเข้าไปนั่งในรถอย่างเงียบๆ พวกเขานั่งอยู่ด้านหลัง ส่วนด้านนี้มีนายตำรวจไอแซค และสารวัตรลูคัสนั่งอยู่ รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปจากโรงเรียน เกวนมองผ่านกระจกใสด้านนอกของรถ ตอนนี้หมู่นักเรียนบางกลุ่มเริ่มทยอยแยกย้ายกันไปเรียนคาบแรกกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายพิสูจน์หลักฐานจำนวนหนึ่งยังคอยวนเวียนอยู่บริเวณสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานที่หลงเหลืออยุ่ของคนร้าย..
เกวนเอื้อมมือไปสัมผัสเบี้ยหมากรุกที่อยู่กระเป๋ากางเกงอย่างลืมตัว 'หึ! ..หลักฐานสำคัณที่พวกคุณเสาะหากันหน่ะ มันอยู่นี้ต่างหาก หึหึ..' เกวนแสยะยิ้มอย่างมีความสุข
***
ความคิดเห็น