คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 02 ปรากฎตัว (Rewrite 100%)
Chapter 02
. .
ปรากฏตัว
หลังจากนั้นเขาก็โดนเทศน์นานเป็นชั่วโมงๆ จากแม่เลี้ยงและยายแก่ปากแดงโรซี่อ้วน แล้วหล่อนก็เรียกร้องค่าเสียหายจากมิสเตอร์และมิสซิสบรุ๊กเป็นเงินจำนวนมาก แต่ก็ไม่ยักกะทำให้ขนหน้าแข้งของพ่อเขาจะร่วงหรอกนะ มิสเตอร์อดัม บรุ๊ก ผู้เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าดังๆหลายแห่งในลอนดอนยอมจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับคุณนายโรซี่ แต่เป็นจำนวนน้อยนิดสำหรับเขา เพื่อยุติปัญหายุ่งยากที่ลูกชายตัวดีเป็นคนก่อ
เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยคุณนายโรซี่ก็อุ้มเจ้าหมาน้อยผู้น่าสงสารจากไป พร้อมกับสามีของเธอ โดยก่อนออกจากบ้าน เกวนก็แอบแสยะยิ้มอย่างสะใจไปให้ไอ้หมาเมื่อวานซืนตัวนั้น จากนั้นเมื่อทั้งสองกลับไปบ้านของตัวเอง เขาก็โดนเทศน์ต่อสัก 10 นาทีจากแม่เลี้ยง ส่วนพ่อของเขาก็เดินไปให้อาหารปลาสวยงามหลังบ้านอย่างไม่สนใจใยดี ซึ่งนั้นก็เป็นการกระทำที่ถูกใจเกวน เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมาจู้จี้จุกจิกมากมายเกินไป ก่อนจะขอตัวไปนอนอย่างไม่อินังขังขอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เช้าวันต่อมาเด็กหนุ่มออกจากบ้านเช้ากว่าปกติ เนื่องจากปัญหาไม่จบสิ้นของเรื่องเมื่อคืนทำให้เขาอยากจะปลีกตัวออกมาให้ห่างจากการถูกเทศน์ในเพลาเช้าของแม่เลี้ยง ทำไมเขาไม่เถียงแม่เลี้ยงกลับงั้นหรือ? ก็เพราะว่า เกวนรู้ว่าพ่อของเขากำลังแอบคุมประพฤติเขาอยู่อย่างเงียบๆ และมีแนวโน้มว่าหากเขาทำตัวมีปัญหา อาจจะถูกส่งไปสถานบำบัดของพวกเด็กเกเร ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยชอบใจเท่าไรหากต้องไปอยู่ร่วมกับไอ้พวกเด็กที่ถนัดการใช้กำลังมากกว่าสมอง
เกวนเดินดุ่มๆ ตรงไปโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เขายังส่วมฮู้ดสีดำเหมือนเคย อาคารบ้านเรือนที่อยู่รอบตัวเขาตั้งเด่นเป็นสง่า เวลาเช้าแบบนี้ไม่ค่อยมีผู้คนมาเดินตามข้างทางกันมากนัก รถก็ยังไม่มากทำให้การจราจลบนท้องถนนลอดโล่งปรอดโปร่ง บ้านของเขาอยู่ใกล้โรงเรียนพอสมควร ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียเวลาขับรถไป-กลับบ่อยๆ
บ้านข้างหน้าเขาทางซ้ายมือ กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง เหล่าคนงานตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำงานก่อสร้างบ้านหลังนี้ให้เสร็จลุล่วงเร็วๆ เสียงเครื่องเจาะรูผนังบ้านดังสนั่นเข้ามาในหู ด้วยความที่เป็นคนสามารถรับรู้สิ่งต่างๆที่ชัดเจนกว่าคนอื่นๆ ทำให้เสียงนั้นดังมากสำหรับเขา เกวนรีบออกวิ่งให้ห่างจากตัวบ้านหลังนั้นพร้อมกับเอามือปิดหู
พลั่ก!
แต่ทันใดนั้นด้วยความรีบเร่งเขาดันไปเตะถังใส่ตะปูแหลมคม จนหกเรี่ยราดออกมา ยังดีที่เสียงเจาะรูผนังบ้านทำให้พวกคนงานไม่ได้ยินเสียงเขาเตะใส่มัน จากจุดที่เกวนยืนอยู่ห่างจากเสียงนั้นไกลพอสมควร เขาจ้องมองตะปูแหลมคมนั้นอย่างครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วจู่ๆเขาก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย..
เด็กหนุ่มค่อยๆหยิบตะปูแหลมคมเหล่านั้นอย่างระมัดระวัง เขานำตะปูประมาณ 4-5 ตัวใส่ลงไปใน
กระเป๋าเล็กๆด้านในกระเป๋าเป้ แล้วออกเดินทางไปโรงเรียนอย่างอารมณ์ดี..
เวลาดำเนินไปอย่างร็วดเร็ว และแล้วก็มาถึงชั่วโมงเรียนสุดท้ายของคาบเช้า อาจารย์ประจำวิชาศิลปะกำลังสอนนักเรียนถึงการวาดภาพให้สมจริงด้วยลายเส้นต่างๆ เกวนนั่งเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่าง รอจนกว่าอาจารย์จะสั่งงาน และปล่อยออกจากห้อง.. ก่อนหน้านี้เขาสังเกตเห็นแววตาของแม็คที่มองมาทางเขาอย่างขุ่นมัว ราวกับว่ากำลังดูว่าเขาจะแสดงอาการบาดเจ็บอะไรรึปล่าว..
เสียใจที่นายทำพลาดนะ แม็ค ไบรอัน.. หึหึ
อาจารย์สาวสวยหุ่นดี ใส่ชุดเรียบร้อยสีไข่ ผมสีน้ำตาลเข้มหยิกศก อาจารย์ 'อะแมนด้า ซีย์โลว์' ผู้เป็นอาจารย์ที่พึ่งถูกบรรจุใหม่เป็นอาจารย์สอนวิชาศิลปะของนักเรียนม.ปลายที่โรงเรียนเซนต์บลูดอลฟ์ เธอเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักเรียนตั้งแต่มาสอนที่นี้เป็นวันแรก และก็เป็นที่น่าอิจฉาสำหรับอาจารย์แก่ๆบางราย..
"เอาล่ะจ๊ะ.. วันนี้ฉันจะสั่งงานพวกคุณไปหนึ่งอย่าง ส่งในชั่วโมงนะ" เสียงทุ้มนุ่มลึกมีเสห่ห์ของอาจารย์อะแมนด้าดังเจื่อยแจ้วเข้ามาในห้อง หลังจากที่เธอขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก เธอเดินไปที่กระดานแล้วเขียนสั่งงานลงไป "..ให้คุณวาดสถานที่ต่างๆที่เคยพบเห็นโดยใช้ลายเส้นทั้งหมดที่ฉันสอนไป ใส่ลงในกระดาษวาดรูป ใช้แต่ดินสอเท่านั้นนะจ๊ะ"
หลังจบการสั่งงานของอาจารย์อะแมนด้า เหล่านักเรียนกลุ่มใหญ่ๆก็เริ่มส่งเสียงดังจอแจ้คุยโอ้อวดกันว่าตนเคยไปสถานที่ที่วิเศษอะไรขนาดไหน หรือเถียงกันเรื่องการจะใช้ดินสอความเข้มประมาณไหนดี ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากสำหรับเกวน เพราะเขาได้ยินหมดทุกอย่างที่พวกเขาคุยกัน
"นี้! เทรซ่า เธอรู้ไหมว่าฉันเจอพ่อหนุ่มสุดหล่อนั้นที่ห้าง 'บรุ๊กสโตน' ด้วยล่ะ"
"วิเศษไปเลย! แต่ฉันกะจะวาดรูปน้ำตกวิกตรอเรียที่ฉันเคยไปมากกว่านะ"
"เฮ้อ~ ฉันคิดไม่ออกเลย แมรี่"
"เฮ้ย! แม็ค เอาดินสอของฉันคืนมานะ!"
"ยืมหน่อยน่า อยากโดนชกหรือไง!"
"ฮะฮ่ะฮ่าๆๆ อเล็กซ์! นั้นนายวาดรูปกบ หรือบ้านกันนะ!"
เด็กหนุ่มสะบัดหัว ตัดประสาทรับรู้ทั้งหมดออกไป เขาจับจ้องไปที่กระดาษแผ่นสีขาวในมือเขา.. แล้วนึกภาพบ้านเรือนที่เขาผ่านไปในตอนเช้าจดจำทุกรายละเอียด แล้วบรรจงวาดภาพในจิตสำนึกด้วยมือซ้ายอย่างร็วดเร็ว ลายเส้นบางและหนาตวัดกันสวยงามเป็นรูปเค้าโครงของบ้านเรือน และท้องถนนที่ว่างเปล่า ตามด้วยต้นไม้ผอมแห้งสองสามต้นตามข้างถนนและไฟกิ่ง..
ผ่านไป 10 นาที เขาพบว่าตนเองกำลังนอนหลับฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะ รู้สึกมึนหัวตึบๆ เล็กน้อย เขาเห็นเหล่านักเรียนกลุ่มหนึ่งกำลังจับจ้องมาที่เขา ข้างๆด้านขวามือของเกวน อาจารย์อะแมนด้ากำลังถือรูปภาพของเขาอยู่ เธอจ้องมองรูปสเก็ตนั้นอย่างอัศจรรย์ใจ เกวนจำไม่ได้ว่าเขาหลับไปตั้งแต่เมื่อไร รู้แต่ว่าเมื่อเขาวาดเสร็จ เขาก็หลงเข้าไปในมโนภาพที่เขาสร้างขึ้นเองเสียแล้ว..
" ..นี้เธอวาดเองเหรอ" อาจารย์อะแมนด้าถามเสียงสั่น เหล่านักเรียนกลุ่มใหญ่เริ่มเข้ามามุงดูรูปภาพนั้นอย่างอยากรู้อยากเห็น แล้วต่างก็อุทานออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจเช่นกัน เกวนที่กำลังอยู่สภาวะสับสนและมึนงง เขาชโงกหน้ามาดูผลงานของตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา ภาพอาคารบ้านเรือนที่ถูกแรงเงาไว้แล้วตรงตามภาพที่เขาเห็นเมื่อเช้าเป๊ะ ทุกรายละเอียดแม่นยำราวกับภาพถ่ายขาวดำ ละเอียดแม้กระทั่งเห็นผ้าที่ตากไว้บนราวที่ระเบียงชั้นสามของตึกแห่งหนึ่งและแมวดำที่กำลังเลียหางของมันอยู่ใต้ต้นไม้ข้างถนน..
"เธอชื่ออะไร?" อาจารย์สาวถามเด็กหนุ่ม เขามองภาพนั้นแล้วตอบเธอโดยไม่ละสายตาไปจากผลงานตัวเอง "เกวน บรุ๊ก"
"ดี งั้นลุกมากับฉันหน่อย" อาจารย์สาวกล่าว พร้อมกับจับแขนเขาแล้วลากออกมาจากกลุ่มฝูงชนที่เออออกันอยู่รอบๆโต๊ะเกวน ก่อนจะปล่อยแขนให้เกวนเป็นอิสระ แล้วออกเดินตรงไปที่ห้องครู อะแมนด้าเดินไปที่โต๊ะของเธอ แล้วเชื้อเชิญให้เกวนนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับโต๊ะนั้น ก่อนจะเริ่มถามคำถามอะไรบางอย่าง..
"เอาล่ะ.. " เธอชูรูปผลงานของเกวนขึ้นมา "มันเป็นภาพที่วิเศษไปเลย คุณบรุ๊ก เธอเคยไปเรียนวาดภาพที่ไหนมาก่อนรึปล่าว?" เด็กหนุ่มส่ายหัว "ไม่.."
"แล้วคิดยังไงถึงได้วาดรูปนี้ขึ้นมาล่ะ?" เกวนจ้องมองรูปนั้นอีกครั้ง ก่อนจะตอบแบบธรรมดาๆว่า "ก็ผมเคยเห็น" อาจารย์อะแมนด้าส่ายหัวกับความแข็งกระด้างของเด็กหนุ่มเมื่อได้รับคำตอบมา เธอคว่ำรูปนั้นลง แล้วเอ่ยกับเขาด้วยสีหน้าจริงจัง "ฉันทึ่งในความสามารถที่หาตัวจับได้ยากของคุณ และฉันก็อยากจะขอตัวเธอไว้เมื่อมีการแข่งขันวาดภาพต่างๆ เธอจะรับข้อเสนอนี้ไหม?"
"ไม่" เกวนตอบกลับอย่างร็วดเร็วโดยไม่ต้องคิด เขาทำหน้าบึ้งและเสมองไปทางอื่นราวกับเป็นการบอกนัยๆว่าเขาไม่อยากสนทนากับหล่อนแล้ว อาจารย์สาวถอนหายใจกับความดื้อรันของอีกฝ่าย เธอเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะออกมา แล้วยื่นนามบัตรสีเทาแวววาวให้เด็กหนุ่ม เขารับมันมาอย่างไม่เต็มใจนักก่อนจะเอาสอดใส่ในกระเป๋าโดยคิดจะเอาออกมาอ่าน เธอกล่าวต่อไปอย่างไม่สนใจ
"ฉันเปิดร้านแกลอรี่ภาพแห่งหนึ่งเป็นอาชีพเสริม ที่อยู่อยู่ในนามบัตรนั้นนะ ฉันหวังว่าเธอจะมาอุดหนุ่นร้านของฉันพร้อมกับภาพวาดที่เธอวาดเองอีกสักภาพมาให้ฉันด้วย ส่วนภาพนี้ฉันขอเอาไปตั้งโชว์ในแกลอรี่นะ ถ้าเธออนุญาติ" เกวนพยักหน้ารับคำอย่างเบื่อหน่าย ยังไงซ่ะเขาก็ไม่คิดจะไปอยู่แล้ว เอาเวลาไปเล่นเกมส์ที่บ้านยังจะดีกว่า.. "เอาล่ะ ตอนนี้คงหมดชั่วโมงแล้ว ไปพักเที่ยงเถอะ"
เกวนออกมาจากห้องพักครู จุดหมายของเขาคือไปหลังอาคารวิทย์ร้างอย่างเช่นเคย เด็กหนุ่มเดินผ่านระเบียงชั้นล่างที่อยู่ติดกับลานกีฬาไปอย่างเอื่อยเชื่อย ทันใดนั้นเขาก็เห็นแม็คคู่อริ กำลังเตะบอลอยู่กับกลุ่มเพื่อนใหญ่ๆ กลุ่มหนึ่งที่ลานว่าง แล้วเขาก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ในทันที แค้นนี้ต้องชำระ!
เด็กหนุ่มหลบไปยืนอยู่ที่เสาข้างๆกับม้านั่งนักกีฬาสีขาวครีม เมื่อเห็นว่าบุคคลที่เขาต้องการจะเอาคืน เดินออกมาจากลาน แล้วตรงมาที่ๆเขากำลังซ่อนตัวอยู่ราวกับรู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้น! ..แต่ปล่าวเลย แม็คดันเดินไปที่ม้านั่งนักกีฬาเฉียดกับเกวนไปนิดเดียว เขาก้มลงเปิดซิบกระเป๋า แล้วหยิบขวดน้ำดื่มออกมาดื่มแก้กระหาย แล้วเดินกลับไปร่วมกลุ่มกับเพื่อนของตัวเองต่อ
และแล้วเขาก็ได้ที่ซ่อนตัวที่ระเบียงด้านนอกของตึกอาคารห้องสมุดชั้น 3 ซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นเหตุการณ์สำคัญได้อย่างชัดเจน เขารอคอย.. แล้วก็รอ จนกระทั่งเขาเห็นแม็คเดินมาที่กระเป๋านั้นอีกครั้ง ก่อนจะค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า จากนั้นก็มีเสียง โอ๊ย! ดังลั้นลานกีฬา เกวนมองภาพนั้นด้วยดวงตาเบิกโพลง ริมฝีปากฉีกยิ้มอย่าสะใจ มหกรรมความบ้าคลั่งกำลังจะเริ่มแล้ว!
จากตรงนี้ เขาเห็นแม็คกำลังกุมทั้งสองข้างที่อาบไปด้วยเลือดของตัวเองอยู่ ผู้คนที่อยู่แถวๆนั้นเริ่มเข้ามามุงดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น เหล่านักเรียนหญิงกรี๊ดลั่นกับภาพที่เห็น บางคนถึงกับเอามือปิดตาให้พ้นจากภาพบาดแผลอันน่าสยดสยอง ตะปูแหลมคมตัวหนึ่งทิ่มแฉลบหนังกำพร้าปักคาหลังมือของแม็คที่กำลังส่งเสียงร้องอย่างทรมาน เลือดไหลไม่หยุด ทำให้นักเรียนส่วนหนึ่งไปตามอาจารย์ที่ห้องพักครูกันอย่างอลหม่าน แล้วจู่ๆผู้บาดเจ็บก็ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
"ไอ้วิปลิตเกวน! แกอยู่แถวนี้ใช่ไหม! ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแก! แน่จริงก็ออกมาซิว่ะ!!"
แม็คตะโกนเรียกหาเด็กหนุ่มผู้ที่เขาเชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังบาดแผลอันน่าสยดสยองนี้อย่างคลุ้มคลั่ง "ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแก!!" แล้วอาจารย์สองสามคนก็วิ่งเข้ามาฝาฝูงชนมาช่วยกันจับตัวแม็ค ด้วยกลัวว่าเขาจะเสียสติแล้วไปทำลายผู้ที่อยู่รอบๆตัวซะก่อน เหตุการณ์เบื้องล่างที่กำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่ ทำให้เด็กหนุ่มผู้คอยเฝ้าสถานการณ์ตรงหน้ายิ้มและหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
หึหึ.. บอกแล้วไงว่าอย่าลองดีกับคิงอย่างฉัน ไอ้เบี๊ยผู้น่าสมเพช!
ตอนนี้เวลาอยู่ที่ 3 ทุ่มกว่าๆ ทำไมนะหรือ? ก็เพราะหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายเมื่อตอนเที่ยง เกวนแอบหนีเรียนไปนอนหลับที่ห้องสมุดตลอดทั้งบ่าย กว่าจะถูกตามตัวจนเจอก็ปาไปสองทุ่ม ตอนที่ห้องสมุดจะปิดพอดี เด็กหนุ่มถูกพาตัวไปสอบสวนที่ห้องพักครู เนื่องจากเรื่องที่พึ่งเกิดไปสดๆร้อนๆ แม็คถูกพาไปรักษาแผลฉกรรณ์ที่โรงพยาบาล แน่นอนว่ายังไงก็เรื่องนี้ก็ต้องถึงหูของมิสเตอร์และมิสซิสไบรอันอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ดูเหมือนจะไม่เอาเรื่องที่จะหาผู้กระทำผิดมาลงโทษเลยแม้แต่นิด เนื่องจากพวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของแม็คที่ชอบหาเรื่องยกพวกตีกันเลยโดนเอาคืนบ้างอย่างในคราวนี้..
เกวนถูกสอบสวน เนื่องจากคำบอกเล่าของพยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า หลังจากที่แม็คโดนกับดักตะปูแหลมคมของบุคคลปริศนาที่ยังหาตัวจับไม่ได้ เขาก็ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่งแล้วร้องเรียกชื่อ 'เกวน' ออกมา นั้นจึงเป็นสาเหตุหลักที่เขาต้องมานั่งตอบคำถามไร้สาระจากนายตำรวจอ้วนๆคนหนึ่งและตำรวจอื่นๆอีก 3-4 คน กว่า 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจไม่เอาความ และยอมปล่อยตัวผู้ต้องสงสัย 'รายนี้' ไป
และนั้นคือเหตุการณ์ทั้งหมดที่กำลังวนเวียนไปมาอยู่ในหัวของเกวน ขณะเดินทางกลับบ้านตอนกลางคืนอย่างไม่นึกกลัวเกรงกับความมืดที่กำลังรายล้อมตัวเขา ในเวลาดึกดึนแบบนี้ แน่นอน ว่าคนส่วนมากปิดบ้านและเข้าสู่ห่วงนิทรากันหมดแล้ว มีเพียงเสียงสายลมเอื่อยๆ และเศษใบไม้ปลิวเท่านั้นที่มาจากธรรมชาติ ตึก ตึก ตึก เสียงเดินย่ำเท้าอย่างเป็นจังหวะจากเด็กหนุ่มที่กำลังเอามือทั้งสองข้างสอดไว้ใต้แขนเพื่อให้ความอบอุ่นกับตัวเอง ไอระเหยสีขาวพ่วยพุ่งออกมาตามจังหวะการหายใจของเขา
เด็กหนุ่มกระชับเสื้อฮู้ดสีดำแขนยาวตัวบางของตัวเองให้เข้าที่ ก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวเพื่อกลับบ้านของตน ทันใดนั้นในระหว่างที่เขากำลังจดจ้องอยู่ที่ฝีเท้าของตัวเองอย่างไม่ทันระวังตัว แผ่นกระดาษหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งก็ปลิวว่อนตามแรงลมมาปะทะกับใบหน้าเขาอย่างจัง เกวนดึงมันออกมาอย่างหัวเสีย เขาเกือบจะเอามันทิ้งไว้ข้างทางแล้วถ้าไม่เห็นข่าวการตายปริศนาของเพื่อนที่เขาคุ้นเคยดี แล้วมันมาได้ยังไงกัน? ทั้งที่ข่าวนี้ก็กลายเป็นข่าวเก่าไปแล้วเมื่อ 2 วันก่อน ..หรืออาจเป็นความจงใจของใครบางคน?
"สวัสดีเกวน ยังจำกันได้อยู่ไหม?" น้ำเสียงเย็นยะเหยือกของใครบางคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ใกล้ๆเขาได้โดยที่เขาไม่ได้ยินเสียง กำลังยืนอยู่ข้างหน้าเกวน โดยที่มีหนังสือพิมพ์ที่เขาถือไว้ปิดใบหน้าบุคคลลึกลับนั่นอยู่ เกวนค่อยๆดึงแผ่นหนังสือนั้นลง ..เผยให้เห็นใบหน้าที่เขาแสนจะคุ้นเคยดี และไม่คิดว่าจะได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้..
"อีวาน.."
!!!
# # # # # # # # # # # # # # # # # # # # #
"อีวาน.."
เกวนพึมพำด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เขาจ้องมองบุคคลที่กำลังยืนจังกาอยู่ข้างหน้าเขา ด้วยความรู้สึกสับสน 'อีวาน พาร์กินสัน' คือชื่อของอดีตเพื่อนเก่าของเขาที่ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อตอนปิดเทอม แต่นี้.. เขายากจะบอกได้ว่าคนที่เขาเห็นอยู่ตรงนี้จะเป็นเพื่อนของตัวเองจริงๆ.. ซึ่งมันค่อนข้างจะขัดกับหลักความเชื่อของเขาอย่างสิ้นเชิง
เกวนยึดมั่นมาตลอดว่า 'เหล่าภูตผีวิญญาณนั้นไม่มีอยู่จริงในโลก' และหลักความเชื่อนี้ก็ทำให้เขาไม่อยากยอมรับความจริงเช่นกัน..
"หึ! ฉันคงจะเห็นภาพหลอนซินะ! อีวาน บอกฉันซิว่านายไม่มีอยู่จริง บอกฉันซินายตายไปแล้ว!"
เกวนตะโกนใส่บางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นโดยไม่สนใจว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือภาพหลอน หากชาวบ้านแถวนั้นมาเห็นเข้า คงจะคิดว่าเขาเป็นบ้าจริงๆซะทีแหละคราวนี้ แต่แล้วความพยายามหลอกตัวเองของเขาก็ได้ผล บุคคลลึกลับที่ชื่อ 'อีวาน' นั้นหายไปแล้ว..
เด็กหนุ่มหันมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง ซ้าย..ไม่มี ขวา.. ไม่มี ข้างหน้า..ไม่มี เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ไอระเหยสีขาวพุ่งออกมาจากปากเมื่อเขาหายใจเข้า-ออก อากาศตอน 4 ทุ่มตรงกำลังมีอุณหภูมิติดลบ หรือไม่ก็เป็นความรู้สึกของตัวเขาเองที่รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวเย็นลงราวกับถูกแช่อยู่ในห้องเย็น เด็กหนุ่มรีบเดินจ้ำอ้าวกลับบ้านในทันที ก่อนที่เขาจะถูกแช่แข็งภายใต้อุณหภูมิอันหนาวเหน็บแห่งนี้
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าที่มองไม่เห็นตัว.. มันกำลังเดินตามเขาอยู่ในขณะนี้ ..บางสิ่งบางอย่างที่อยากจะปั่นหัวเขาให้กลายเป็นบ้าไปเสียก่อน ด้วยสัญชาติญาณและประสาทการรับรู้ของเขา เกวนแน่ใจว่า 'อดีตเพื่อนเก่า' กำลังอยู่ข้างหลังตัวเขาเอง.. เด็กหนุ่มกลั้นใจไม่หันไปมอง แล้วเดินตรงไปข้างหน้าอีกสองสามก้าว..
ตึก ตึก ตึก
'อีกแล้ว' เด็กหนุ่มคิดอย่างหวาดผวาเล็กน้อย เขาเดินไปอีกสี่ห้าก้าว เสียงฝีเท้าลึกลับก็เดินตามไปอีก และครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงหัวเราะอันคุ้นเคยของ 'อีวาน' ที่ข้างหูราวกับกำลังสนุกที่ได้ปั่นหัวเพื่อนสนิท และแล้วเกวนก็ทนไม่ได้กับการกลั่นแกล้งแบบหลอนประสาทไม่ได้อีกต่อไป เขาหันขวับไปมองข้างหลังตัวเองอย่างรวดเร็ว!
ไม่มีอะไรเลย..
เกวนทอดสายตาไปตามท้องถนนที่ว่างเปล่า พลางค้นหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของใครเลย เด็กหนุ่มหันกลับมาที่เดิมต่อ..
"โทษทีนะ แต่จำเป็น" เสียงเย็นเหยียบดังขึ้น ก่อนที่เด็กหนุ่มจะรู้สึกถึงอาการเจ็บแปลบที่ต้นคอ เขาร่วงลงกับพื้น ภาพทุกอย่างที่เห็นฝ้ามัวไปหมด เกวนมองเห็นร่างในผ้าคลุมสีดำได้รางๆ เขาพยายามฝืนสติที่เลือนรางของตัวเอง เพื่อมองใบหน้าของบุคคลลึกลับนั้น ก่อนที่สติจะดับวูบไป..
'เกวน ทำไมกลับบ้านดึกอย่างนี้ล่ะ' เสียงคุณนายบรุ๊กเอ่ยเสียงแหลมเข้ามาในโสตประสาทของเกวน เด็กหนุ่มมองเห็นภาพผ่านจากดวงตาของตัวเองได้รางๆ ก่อนที่ตัวเขาจะเดินผ่านหล่อนไปโดยไม่ได้ตอบอะไร แล้วเดินขึ้นบันไดไปหยุดอยู่ที่ห้องของแม่เลี้ยงและพ่อของเขา เดี๋ยว! นั้นไม่ใช่ห้องฉัน! ใครบังคับควบคุมตัวฉันอยู่!
ราวกับได้ยินเสียงในใจของเด็กหนุ่ม เกวนมองเห็นร่างของตัวเองกำลังเปลี่ยนทิศ แล้วเดินผ่านห้องนั้นไป ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องตัวเอง ใครบังคนที่กำลังสิงตัวเขาอยู่ ใช้มือดันเปิดประตูเข้าไป แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง แล้วเขาก็ไม่รู้สึกถึงอะไรอีกต่อไป..
"เฮือก!" เกวนตื่นขึ้นมาในห้องทรงสี่เหลี่ยมที่แสนคุ้นเคยอีกครั้ง เขาฝันว่าตัวเองไปเจอวิญญาณของเพื่อนเก่าที่ถนนใกล้กับตรอกบ็อตเทิร์น แล้วฝันอีกว่าเขาถูกทำร้ายด้วยอาวุธอย่างหนึ่งที่ไม่คมแต่แข็งแรงราวกับท่อนเหล็ก ความทรงจำต่างๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวสมอง พร้อมกับความรู้สึกปวดตุบๆที่ต้นคอ
เด็กหนุ่มเอามือนวดที่ต้นคอไปมาเพื่อคลายอาการปวด เขามองสำรวจห้องของตัวเองอีกครั้ง เพื่อหาสิ่งผิดปกติ ที่เขาคิดระแวงมาจากในความฝัน ฝันที่เหมือนกับความจริง.. ซึ่งมันก็คือความจริง!
ไอสีดำหม่นก่อตัวขึ้นท่ามกลางความมืด เกวนเพ่งสายตาไปที่สิ่งนั้น ไอดำทั้งหลายประกอบขึ้นกลายเป็นร่างของใครคนหนึ่งที่มีเสื้อคลุมสีดำพร้อมกับผ้าคลุมดำบดบังใบหน้า สิ่งนั้นกำลังงอตัวลง พร้อมกับปีกอีกาสีดำขนาดใหญ่งอกออกมาจากกลางหลัง เคียวยมฑูตสีเงาแวววาว เปล่งประกายในความมืด
"ยินดีที่ได้พบกันอย่างเป็นทางการ เกวน บรู๊ก" น้ำเสียงเยือกเย็นกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตร ในขณะที่เกวนที่กำลังทำสีหน้าไม่ถูก ได้แต่มองสำรวจผู้บุกรุกที่เหมือนกันเด๊ะในความฝัน ไม่! มันไม่ใช้ความฝัน! มันคือเรื่องจริง! เด็กหนุ่มสะอึกกับความคิดที่ไหลเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในสมอง
"นายเป็นใคร?" เกวนเอ่ยเสียงเย็น เขาจ้องมองกลับอย่างไม่เกรงกลัว ในเมื่อความจริงก็คือความจริง เขาไม่อาจหลอกตัวเองได้ว่าเขาเห็นวิญญาณในร่างของยมฑูต แม้คนอื่นจะมองไม่เห็นในสิ่งนี้ก็ตาม ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่บ้าบิ่นที่สุดที่เขาเคยทำมา ด้วยการคุยกับยมฑูต! ถ้าใครไม่บ้าเหมือนเขา ก็คงจะประสาทหลอนกันหมดแล้วล่ะ
"ฉันไม่คิดว่านายจะไม่รู้จักฉันหรอกนะ.. แต่ฉันคิดว่านายคงอยากจะยืนยันว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นเป็นเรื่องจริง" เสียงทุ้มเย็นดังมาจากภายใต้ผ้าคลุม แล้วยมฑูตตนนั้นก็เผยใบหน้าออกมา.. ใบหน้าที่ยืนยันว่าข้อสันนิษฐานของ
เกวนคือความจริง ..มันคือใบหน้าของอีวาน ผมสีเหลืองอ่อน ดวงตาสีฟ้าหม่นหมองที่เคยเป็นประกายสดใสในอดีต ผิวขาวซีดไร้สีเลือด เกวนมองอย่างตื่นตะลึง "ทำไมนายถึงกลายเป็นยมฑูตไปได้? แล้วฉันมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง?"
อีวานในร่างของยมฑูต ยิ้มแสยะ ดูราวกับเป็นภาพสะท้อนของเกวน เมื่อตอนที่เขาเกิดความคิดวิปลิตแล้วก็มักจะแสยะยิ้มออกมา ในความคิดของเกวน อีวานดูเปลี่ยนไปมาก ทั้งนิสัยที่ดูเหมือนจะไม่เกรงกลัวใคร และมีจิตใจอำมหิตเหมือนกับเขา ทั้งที่เมื่อก่อน อีวานเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่มองเห็นความตายเป็นเรื่องเศร้าสลด เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ แต่นั้นก็เป็นเรื่องบังเอิญที่สุด เมื่อนิสัยต่างขั้วของเกวนและอีวาน ทำให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน(สนิทกันแบบแปลกประหลาด)
"ฉันขอตอบคำถามอย่างหลังของนายก่อนน่ะ ฉันเป็นคนเอาด้ามจับที่เป็นเหล็กของเคียวฟาดนายเอง โทษทีนะ เพราะฉันคิดว่าเราคงคุยกันไม่รู้เรื่องเท่าไร ถ้าต้องยืนตากไอน้ำในอุณหภูมิติดลบแบบนั้นนะ สำหรับฉันอากาศแค่นั้นนะสบายมาก แต่สำหรับนาย..นายเป็นมนุษย์" เกวนดึงตัวเองออกจากภวังค์เพื่อฟังสิ่งที่อีวานกำลังพูดถึง
"..เมื่อนายสลบไป ฉันก็เข้าสิงนาย แล้วพากลับบ้านไง" เกวนพยักหน้าเบาๆ "แล้วนายจำทางกลับบ้านของฉันได้ไงล่ะ?"
อีวานขมวดคิ้วเข้าหากัน พร้อมกับพูดว่า "นี้ฉันฟาดนายแรงเกินไปรึปล่าว ทำให้นายความจำเสื่อม จนจำไม่ได้ว่า นายเคยชวนฉันมาเยี่ยมชมมีดที่นายแอบสะสมไว้ที่บ้านไม่ใช่เหรอ?"
"หึหึ ..จริงซิ ช่างมันเถอะ ตอนนั้นฉันพานายไปที่ห้องใต้ดินบ้านฉันซินะ เพราะงี้เองนายเลยไม่รู้ว่าห้องฉันอยู่ไหน นายเกือบจะเอาตัวฉันไปนอนที่ห้องพ่อกับแม่เลี้ยงแล้วนะ รู้ไหม!" อีวานหัวเราะอย่างชอบใจ "ก็น่ะ ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าห้องนายมันเป็นห้องไหนก็เลยเดามั่วๆ แต่ในระหว่างที่ฉันเข้าสิงร่างนาย ฉันสามารถรับรู้ความคิดของนายได้ และนายก็รับรู้ด้วยว่าตัวนายกำลังทำอะไร ตอนที่นายบอกว่านั้นไม่ใช่ห้องของนาย ฉันก็เลยเปลี่ยนไปอีกห้องหนึ่งแทน แล้วก็ถูกเผ่งเลย" อีวานแสยะยิ้มอย่างภูมิใจที่ตัวเองมีไหวพริบดี ในขณะที่เกวนมองขวับไปที่อีวานอย่างรวดเร็ว
"ต่อไปนี้ฉันห้ามให้นายมาเข้าสิงร่างฉันอีกโดยเด็ดขาด! อีวาน" อีวานเอามือป้องหน้าตัวเองราวกับกลัวว่าเขาจะเอามีดคัตเตอร์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อฮู้ดแทงในข้อหาบุกรุกเข้าสิงร่างคนอื่นโดยพละการ พร้อมกับทำเสียงหวาดกลัว ซึ่งเกวนก็รู้ว่า ไอ้หมอนี้มันแกล้งทำเป็นกลัวเขาอย่างเล่นๆเท่านั้น "นายมันกวนโอ๊ยชะมัด"
การกระทำของอีวานทำให้บรรยากาศอันมาคุจางหายไปในทันที เกวนขยับตัวไปนั่งขัดสมาธิพิงผนังห้องเอาไว้ พร้อมกับถามคำถามมากมายที่เขาอยากรู้เกี่ยวกับการมาปรากฏตัวของเพื่อนเก่า "แล้วนายมาหาฉันทำไม?" เมื่อเกวนเอ่ยคำถามนี้ออกไป ใบหน้าอีวานก็ดูจะเศร้าสลดไปวูบหนึ่งแล้วก็หายไป ก่อนจะกลับมาตีหน้ากวนๆ แล้วถามคำถามกับเขา "เกวน..นายรู้ใช่ไหมว่าฉันตายไปแล้ว"
"อือ"
"วันนั้นฉันไปซื้อหนังสือที่ร้านตรงหัวมุมถนน ตอนประมาณทุ่มกว่าๆ จากนั้นก็กลับบ้าน แล้วจู่ๆฉันก็รู้สึกว่ามีคนคนหนึ่งเดินตามฉันมาตั้งแต่หัวมุมถนน จนฉันเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติ จากนั้นฉันก็เริ่มวิ่ง วิ่ง ..แล้วก็วิ่ง ไอ้หมอนั้นวิ่งตามฉันมา บอกตามตรงว่าความมืดทำให้ฉันไม่เห็นหน้าฆาตกร มันตามฉันมาเรื่อยๆ.." อีวานเล่าไปพลางเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างกับความมืดมิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด
"แล้วสุดท้าย ฉันก็แพ้ความเร็วที่เหนือมนุษย์ของเจ้าหมอนั้น จากนั้นฉันก็รู้สึกถึงแรงกระแทกที่หัว แล้วก็วูบไปตรงนั้น สติฉันหายไป" เกวนรับฟังอย่างเงียบๆ "นายกำลังจะบอกว่า พอนายรู้ตัวมาตัวเองตายไปแล้ว นายก็กลายเป็นยมฑูตไปเลยงั้นเหรอ?"
"คงงั้นแหละ ..เกวน ฟังฉันนะ นายต้องช่วยฉันตามหาไอ้ฆาตกรที่มันมาฆ่าฉันให้หน่อย ฉันมาขอความเหลือจากนาย มีแค่นายเท่านั้นแหละ ที่จะไม่บ้าไปซะก่อนเมื่อฉันปราากฏตัวออกมาให้เห็น" เกวนทำเบ้ ก่อนจะบอกว่า "หึ! นายก็เกือบจะทำให้ฉันกลายเป็นบ้าเหมือนกันนะ แล้วฉันจะได้อะไรตอบแทนล่ะ?" เกวนถามย้อน เขาแสยะยิ้มออกมาเมื่อคิดถึงสิ่งตอบแทนที่จะได้
"นายนี่มันฉลาดแกมโกงชะมัด ..ฉันคงต้องให้ของตอบแทนนายซินะ ถ้าอยากให้นายช่วย" อีวานครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะยื่นข้อเสนอให้ว่า "งั้นเรามาแลกเปลี่ยนกัน เกวน ถ้านายช่วยฉันตามหาฆาตกรที่ฆ่าฉัน ฉันจะให้พร 3 ข้อแก่นาย นายจะขออะไรก็ได้ที่ต้องการ อย่างมองฉันอย่างนั้นซิ เห็นอย่างนี้ฉันก็มีพลังของยมฑูตเหมือนกันนะ ตกลงไหม?" เกวนยักคิ้วข้างหนึ่ง พร้อมกับแสยะยิ้มกวนๆ "แล้วฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่า นายจะให้พร 3 ข้อกับฉันจริงๆ หืม?"
อีวานหัวเราะด้วยน้ำเสียงน่าขนลุกตามแบบฉบับวิญญาณ "นายนี่มันจริงๆเลยนะ ก็ได้ ในระหว่างที่นายช่วยฉันตามหาฆาตกร นายสามารถขอพรได้ก่อน 2 ข้อ ส่วนข้อสุดท้ายต้องหลังที่เรารู้แล้วว่าใครคือฆาตกร และฉันจะอยู่ข้างๆนายตลอดเวลา เพื่อเวลาที่นายต้องขอพรจากฉัน แต่.." "แต่อะไร?" เกวนพูดอย่างอารมณ์เสียนิดๆ เพื่อเค้นคำตอบจากอีวาน
"ฉันไม่สามารถอยู่กับนายได้ตลอดเวลา ตราบใดที่ฉันยังไม่มีร่างเนื้อให้อยู่นะซิ รู้ไว้ซะด้วยว่า
พวกยมฑูตน่ะ เกลียดแสงสว่าง พวกเราเป็นเทวทูตแห่งความมืด และเป็นศัตรูกับเทวทูตแห่งแสงสว่าง ดังนั้นฉันไม่สามารถอยู่กับนายได้ในตอนกลางวัน" เกวนยอมรับข้อเสียของยมฑูตอย่างปลงๆ "หึหึ..ก็ช่วยไม่ได้ แล้วนายจะทำยังไงล่ะ?"
อีวานเอ่ยพร้อมกับแสยะยิ้มอำมหิต "นายเกลียดใครที่โรงเรียนบ้างรึปล่าว?" คำถามที่ฟังดูไม่มีอะไรของ
อีวาน แต่เกวนรู้จุดประสงค์ที่ซ่อนอยู่ภายในดี เขาร่วมแสยะยิ้มกับเพื่อนยมฑูต " แม็ค ไบรอัน .. มันชื่อแม็ค
ไบรอัน" เด็กหนุ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง "ตกลง อีวานฉันยอมช่วยเหลือนาย" ยมฑูตอีวานยื่นมือที่เป็นแค่วิญญาณไปให้เกวน พร้อมกับพูดว่า "ข้อแลกเปลี่ยนของเราเสร็จสิ้นแล้ว ต่อจากนี้ไปนายจะมองเห็นและแตะต้องตัวฉันได้เหมือนกับมนุษย์ด้วยกันเอง"
เกวนเอื้อมมือซ้ายไปจับมือของอีวานเป็นการทำพันธะสัญญาระหว่างปีศาจและมนุษย์ที่เขาเคยอ่านเจอในหนังสือตำนานปรัมปรา ทันใดนั้นลำแสงสีดำที่คมราวกับกริซเงิน ได้กรีดที่มือของเกวนเป็นบาดแผลเล็กๆ ทว่าหยดเลือดไม่ได้ไหลหยดลงพื้นแต่อย่างใด ของเหลวสีแดงข้นค่อยๆเกาะกลุ่มกันเป็นรูปหัวกระโหลกสีแดง จากนั้นจึงซึมซับเข้าไปในผิวหนังที่ข้อมือด้านใน กลายเป็นรอยสักสีดำรูปหัวกระโหลกดูน่าเกรงขามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
"ฉันจะกลับมาอีกครั้งในร่างเนื้อใหม่ของตัวเอง แล้วเจอกัน เกวน บรุ๊ก"
ความคิดเห็น