ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิลลาเซีย โลกแห่งความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ

    ลำดับตอนที่ #3 : มหานครา ฟิลาเซีย Last update ( 85%)

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 49


         "อ่า ข้ารู้แล้ว เป็นอย่างนี่เอง พลังของเจ้า จงจำไว้สายธารคือเพื่อนเจ้า" มาร์โบวรอสกล่าวขึ้นหลังจากที่ลูกพลังทั้งหมดหายไป  
         "สายธารคือเพื่อนของข้า? หมายความว่าข้าสามารถไช้นำได้ยังงั้นหรอ" นารัสถามขึ้น 
         "ใช่เจ้าสามารถยืมพลังของนำมาใช้ได้แต่ในรูปแบบใดนั้นเจ้าต้องไปหาเอาเองจาก โรงเรียนสำหรับผู้ใช้ธาตุ ซากาเรีย ที่อยู่ในหมานคร ฟิลาเซียมาข้าจะพาเจ้าไป" มาร์โบวรอสพูดก่อนผิวปากเบาๆ หลังจากนั้นไม่นาน....
        "น..นั้นมันอะไรหนะ !!!!!" นารัสถามอย่างตกใจเมื่อมีนกยักษ์หน้าตาคล้ายๆอินทรี บินขึ้นมายืนข้างๆมาร์โบวรอส
        "เจ้าคงไม่คิดจะเดินลงจากนี้หรอกนะ เจ้านี้คือพาหนะของเรา มันชื่อ ฟาวคอน" หลังจากนั้นมาร์โบวรอสก็ปีนขึ้นไปนั้งบนตัวของมัน และยื่นมือมาให้นารัส นารัสทำหน้าตางงเล็กน้อย
         "ท่านคงไม่ไห้ข้าขึ้นเจ้านี่หรอกใช่มั้ย" นารัสพูดพร้อมหน้าตาที่ไม่เห็นด้วยอย่างที่สุด
          "แน่นอนเจ้าต้องขึ้นมา" มาร์โบวรอสกล่าวพร้อมกับกระชากตัวชายหนุ่มขึ้นมาบนหลังเจ้านกยักษ์ และเจ้านกยักษ์ก็ทะยานขึ้นทันที
    "ไปที่หน้าเมือง ฟาวคอน" ชายชรากล่าวกับฟาวคอน มันคลางเล็นน้อยก่อนที่จะร่อนลงเล็กน้อย นารัสที่มองไปรอบๆอย่างตื่นตาและตื่นกลัว จากมุมมองของเข้านั้น หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่รายล้อมฟิลาเช๊ยนั้นดูสวยงามและสงบยิ่งนัก ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านหลังเล็กๆสร้างจากดินหรือหิน ตั้งอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ มีป่าไม้บางๆจนถึงหนาทึบเล็กน้อยตลอดทาง
      "ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมบ้านเมืองถึงเป็นดินและหินเพราะที่นี่ ต้องการรักษาความสวยงามของธรรมชาติไว้ไม่ไห้แปดเปื้อน จะได้สามารถนำมาใช้ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ"เป็นคำกล่าวของมาร์โบวรอสและเป็นอีกครั่งที่มันตอบปัญหาในใจนารัสได้โดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยถามเลย  "แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะว่าข้างในจะไม่สบายหนะ ที่นี้เทคโนโลยีนั้นสูงกว่าโลกมนุษย์ซะอีก สูงจนหาทางกำจัดปัญหามลพิษได้แล้วด้วย แต่ที่ทำไห้บ้านเรือนเป็นอย่างนี้เพราะต้องการรักษาความสวยงามไว้อย่างที่บอกไปและนั้นแหละ" มาร์โบวรอสอธิบายอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นาน
       "เอาหละถึงแล้วมหานคร ฟิลาเชีย" 
      เบื้องหน้าบุรุษทั้ง2 คือหมานครสีขาว สร้างด้วยหินมากมายและ มีปราสาทหินอ่อนสีขาวบริสุทธ์ตั้งตระหง่านอยู่ทามกลางบ้านหลังน้อยใหญ่
      "นั้นคือปราสาทอาลบัส จิตวิญญาณแห่งราชันย์ ที่สถิตสุดท้ายของบัลลังแห่งกษัตริย์ สร้างจากหินอ่อนพันปีแห่งนครเหมืองแร่ รูเบียส ปัจจุบันภายในเป็นที่อยู่ขององค์กษัตริย์แห่งฟิลาเชีย องค์ซาโดเรีย และราชนิกูลในราชวงศ์ต่างๆก็ยังมีหลงเหลืออยู่ด้วย "
       ไม่ว่ามาร์โบวรอสจะพูดได้ไม่เข้าใจขนาดไหนนารัสก็ไม่คิดจะเอ่ยถาม อย่างน้อยเขาก็คิดว่าวันข้างหน้าต้องได้รู้เป็นแน่ "เจ้าจะได้เข้าเรียนที่โรงเรียนผู้ใช้ธาตุซากาเรีย ซึ่งก่อนหน้านั้นเจ้าต้องลื้อฟื้นภาษาฟิลเลเชี่ยนก่อนซึ่ง เฒ่ามาร์ดาคัส จะช่วยเจ้าได้เขามียาสูตรพิเศษที่ทำไห้ความทรงจำที่ลบเลือนกลับมาได้" จากนั้นมาร์โบวรอสก็เดินนำมายังคอกม้าซึ่งมีม้าที่หน้าตาออกแปลกๆเช่นบางตัวมีหางเป็นปลาหรือ บางตัวก็มีหน้าเป็นเสือ แต่ส่วนไหญ่ก็จะค่อนขังปกติดี นอกจากว่ามันจะมีเขาอยู่ที่ข้างแก้มเท่านั้นเอง "เลือกเอาซักตัวพ่อหนุ่ม แนะนำตัวที่มีเขาข้างแก้มมันเชื่องสุดและ" มาร์โบวรอสกล่าวแล้วกระโดดขึ้นหลังม้าสีเทาตัวหนึ่ง นารัสเลือกตัวที่อยู่ข้างๆ นี่ไม่ใช้ครั่งแรกของเขาในการขี่ม้าเพราะว่าเขาเคยทำงานอยู่ในสวนที่ต่างจังหวัด 
         ระหว่างทางนั้น ภาพของบ้านเมืองสีหิมะก็ปรากฎ แทรกไปด้วยต้นไม้ บ้านทื่เป็นเหมือนสร้างจากหินมากมาย
     "นี่คือโลหะแบบพิเศษ...."


    ตอนโรงเรียนผู้ใช้ธาตุแห่งซากาเรียจะเขียนไห้เป็นอีกตอนนะครับทุกท่าน



                         ปล.การที่จะแต่งต่อไปนั้นต้องขอความร่วมมือจากทุกท่านไปที่ค้นหาด้วยชื่อผู้แต่งแล้วพิมชื่อผมลงไปจามีเรื่องหนึ่งที่จะรับสมัครตัวละครของเรื่องนี้ช่วยกรุณาเขียนไห้ด้วยครับ เพราะว่าการเขียนในตอน โรงเรียนผู้ใช้ธาตุแห่งซากาเรียนั้น นารัสจะพบกับผู้คนมากขึ้น แน่นอนชื่อก็ต้องมากขึ้น ถ้าไม่มีชื่อผมก็ไม่สามารถแต่งต่อไปไห้ทุกคนได้อ่านกันได้ เนื่องจากงานผมมานเยอะมากมายแทบตายอยู่แล้ว



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×