ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7] Change - MarkNior

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 - 100%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.03K
      11
      8 ม.ค. 58


    Change - ตอนที่ 4



    #เปลี่ยนมน

     

     

     

     

    ก๊อกๆๆ

     

    ร่างบางลืมตากระพริบปริบด้วยความมึนงง.. นี่เค้าร้องไห้จนหลับไปอีกแล้ว? ตากลมมองรอบๆ ตัวแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นห้องเย็นเจี๊ยบ ขณะที่เสียงเคาะประตูห้องยังดังอย่างต่อเนื่อง ขาเรียวพาร่างของตัวเองลุกจากพื้นก่อนจะเดินสะโหลสะเหลไปเปิดประตูห้องในใจก็คิดว่าคงจะได้เจอหน้ายองแจไม่ก็แบมแบมเพื่อนเค้าเป็นแน่แท้

     

    “อ่า.. พี่.. มาได้ไงครับ?” เสียงหวานถามพลางเอียงคอมองรุ่นพี่ที่พึ่งแยกกันเมื่อเช้าอย่างแปลกใจ ตากลมมองถุงข้าวในมืออีกฝ่ายแล้วยิ่งงงไปกันใหญ่

     

    “น้องจินยองหิวไม๊ครับ? พี่ซื้อโจ๊กมาเผื่อด้วย” พูดพลางยิ้มกว้างแล้วเดินแทรกตัวเข้าไปในห้อง

     

    ตาคมกวาดตามองทั่วๆ หอของจินยองเป็นหอเอกชนห่างจากมหาลัยไม่มากนัก แต่เป็นหอพักอย่างดีจนเรียกได้ว่าหรูหราห้องพักสะอาดสะอ้าน มีพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางอำนวยความสะดวกให้ราวกับเป็นคอนโดมิเนียมราคาแพง ห้องของจินยองเป็นห้องริมสุดทำให้มีพื้นที่กว้างกว่าปกติและมีระเบียงสำหรับออกไปดูวิว ขณะที่ภายในห้องก็เรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วราวกับไม่ใช่ห้องของเด็กผู้ชาย

     

    “พี่มาร์ค.. มาได้ไงครับ?” ร่างบางถามซ้ำพลางเดินเตาะแตะตามอีกฝ่ายเข้าห้องตัวเอง

     

    “ขับรถมา”

     

    “...” เหมือนคำตอบของอีกฝ่ายจะไม่ทำให้คนเป็นน้องหายงง มาร์คเลยหันมายิ้มกว้างให้หนี่งทีแล้วดึงแขนน้องให้มานั่งที่โต๊ะกินข้าวด้วยกัน นัยน์ตาสีเข้มกวาดมองกับข้าวเย็นๆ บนโต๊ะก็พอจะเดาได้ว่าคนตรงหน้าคงยังไม่ได้กินมื้อเย็น เลยจัดแจงให้กินโจ๊กที่ซื้อมาใหม่ๆ ด้วยกัน

     

    “แบมแบมฝากพี่มาดู.. ว่าแต่ชามช้อนส้อม อยู่ไหนเอ่ย?” หันไปรอบตัวแต่ดูเหมือนโซนโต๊ะอาหารของห้องจินยองจะเรียบร้อยเกินไปจนไม่เห็นแม้แต่ถ้วยชามกองๆ อยู่เลย

     

    ขาเรียวก้าวเดินไปหยิบอุปกรณ์ประกอบการกินในตู้เหนือเตาไฟฟ้าพลางส่งให้อีกฝ่าย “รบกวนพี่อีกแล้ว.. ผมไม่ใช่เด็กซะหน่อย ทำไมทุกคนต้องผลัดกันมาดูแลด้วยเนี่ย” ประโยคหลังเหมือนร่างบางจะบ่นกับตัวเองมากกว่า ทำให้มาร์คได้แต่อมยิ้มในท่าทางน่ารักของอีกฝ่าย

     

    “เป็นห่วงไง” เสียงทุ้มตอบก่อนที่สายตาคมจะสบเข้ากับแก้วตาใสแจ๋วของคนเป็นน้อง ซึ่งแม้คนตรงหน้าจะมีใบหน้าที่น่ารักแต่พอได้สบกับนัยน์ตาเรียวคมกลับทำให้รู้สึกใจเต้นแปลกๆ จนจินยองต้องหลบตาก่อน

     

    “อ่า.. ขอบคุณครับ” ไม่กล้าตอบอะไรได้แต่ทำแก้มแดงแล้วก้มหน้าก้มตากินโจ๊กที่อีกฝ่ายซื้อมาให้

     

    “น่ารักเกิ๊น..”

     

    “พี่พูดอะไรนะครับ?” เงยหน้าขึ้นมาถามเพราะได้ยินไม่ชัด

     

    “เปล่าๆ พี่บ่นไปเรื่อยแหละ น้องจินยองกินข้าวเถอะ เดี๋ยวหายร้อน”

     

    “อ่อ ครับพี่.. ขอบคุณนะครับ”

     

    เป็นความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาด.. มาร์คไม่ได้ชอบผู้ชาย.. แม้จะชอบยั่ว(?)ผู้ชายก็เหอะ.. แต่กับน้องจินยองมันเป็นอะไรที่.. รู้สึกว่าคนตรงหน้าน่ารัก.. น่าดูแล.. น่าปกป้องเป็นที่สุด หลายครั้งที่เค้าถามแบมแบมเรื่องจินยองเพราะเค้าเป็นห่วงจริงๆ เค้าอยากรู้ว่าอีกฝ่ายสบายดีแล้วก็เลิกเสียใจเรื่องคนชื่อแจบอมอะไรนั่นซักที แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่เรื่องง่าย.. เมื่อทุกๆ ครั้งที่เค้ามาดูแลจินยองแทนแบมแบมอีกฝ่ายก็ยังคงเสียใจกับเรื่องเดิมซ้ำๆ ราวกับเป็นเทปที่ฉายวน

     

    แล้ว.. ถ้าเผื่อว่ามีใครมาแทนที่แจบอม.. จินยองจะหายเศร้าไม๊นะ?

     

     

     

     

     

    “จินยองงี่.. ทำไมถึงชอบพี่แจบอมอะไรนั่นหรอ?” มาร์คถามขณะนั่งเล่นตุ๊กตาริลัคคุมะที่วางบนโซฟาขณะที่น้องกำลังเก็บกวาดห้องตามปรกติ เป็นอีกวันที่รุ่นพี่คณะวิศวะแวะมาหาเค้าก่อนออกไปทำงานที่ร้านเหล้าแทนเพื่อนสนิทอย่างแบมแบม อาจจะเพราะแบมแบมไม่ได้เป็นหุ้นส่วนเหมือนมาร์คเลยต้องเข้าร้านตรงเวลา ทำให้ไม่สามารถมาดูแลจินยองได้อย่างเต็มที่ หรืออาจจะเป็นเพราะสาเหตุอื่นก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าหนุ่มวิศวะหน้าสวย(?)คนนี้มาหาเค้าได้แทบจะทุกวัน

     

    คำถามของรุ่นพี่ร่วมสถาบันทำให้ร่างบางถึงกับแก้มแดงด้วยความเขิน ร่างบางย้ายตัวเองมานั่งข้างๆ คนเป็นพี่แล้วตอบด้วยน้ำเสียงหวานเบาๆ “พี่แจบอมเค้าเท่มาก.. ใจดี.. แล้วก็คอยช่วยจินยองมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ”

     

    คนเป็นพี่ได้แต่ส่ายหน้าในท่าทางของคนตัวบาง อะไรจะเขินขนาดนั้น.. ยังกับรักแรกของเด็กประถม.. อ๊ะ หรือว่า!?

     

    “รักแรกหรอ?”

     

    หัวกลมผงกหงึกเป็นเชิงตอบรับก่อนเจ้าตัวจะเขินจนต้องลุกขึ้นไปเก็บกวาดห้องต่อทิ้งให้รุ่นพี่ที่มาอยู่เป็นเพื่อนก่อนไปทำงานได้แต่นั่งคิดอะไรคนเดียวเรื่อยเปื่อย

     

    “พี่มาร์ค.. จะสามทุ่มแล้วอะครับ.. ไม่ไปร้านหรอ?” เสียงหวานถามขึ้นหลังจากเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนผนังขณะที่แผ่นหลังกว้างของคนทำงานกลางคืนยังคงเอกเขนกอยู่บนโซฟาสีน้ำตาลของเค้าอย่างไม่รีบร้อน มือแกร่งก็โยนตุ๊กตาหมีริลัคของเค้าเล่นอย่างเพลิดเพลิน

     

    “ไปๆ พี่ไปแล้วก็ล้อคห้องดีๆ นะ เข้านอนได้แล้ว.. ห้ามร้องไห้อีก รู้ปะ?” มาร์คหันมาบอกคนน้องแบบทุกวันทำเอาจินยองหลุดขำออกมา แปลกดีที่เค้ากับพี่มาร์คสนิทกันเร็วมาก ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะมีอะไรเข้ากันได้เลย อีกฝ่ายเรียนวิศวะ(น่าแปลกว่าเรียนคณะเดียวกับพี่แจบอมแต่ไม่รู้จักกัน) ส่วนเค้าเรียนอักษร อีกฝ่ายเป็นพนักงานเรียกแขกในร้านเหล้า ขณะที่เค้าคออ่อนสุดๆ กินไปนิดเดียวก็เมาแล้ว ฝากเหล้าไว้ขวดเดียวกินได้เป็นเดือน (ประหยัดไปอีก) อีกฝ่ายเป็นคนป๊อปปูล่า.. ดูจากลูกค้าที่โทร.หาเจ้าตัวไม่หยุด ขณะที่เค้าหลงรักพี่แจบอมคนเดียวหัวปักหัวปำมาเป็นสิบปี

     

    แต่ทำไมไม่รู้.. เค้ากลับปล่อยให้คนคนนี้เข้ามาในชีวิต ปล่อยให้มาหา มานั่งเล่นที่ห้อง จนดึกดื่นทุกวัน.. แต่หลายครั้งก็ได้มืออุ่นๆ ของคนแปลกหน้าคนนี้แหละที่คอยปลอบเวลาเค้าเวิ่นเว้อเรื่องพี่แจบอม.. บางครั้งก็เล่าให้ฟังเรื่องอื่นๆ เรื่องเรียนบ้าง เรื่องไร้สาระบ้าง ราวกับเป็นคนที่รู้จักกันมานาน.. มันแปลกดีที่มีคนที่เหมือนจะแปลกหน้า.. แต่กลับคอยเป็นห่วงเป็นใยเราขนาดนี้




     

    ก๊อกๆๆ

     

    นั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นปลุกจินยองให้ตื่นจากภวังค์ ตากลมกวาดมองไปรอบห้องเผื่อว่าคนที่ออกไปลืมของไว้แล้วกลับมาเอา.. แต่แปลกที่คนละเอียดแบบเค้ากลับไม่เจออะไรที่น่าจะเป็นของมาร์คได้ สุดท้ายเลยต้องรีบเดินไปเปิดประตูเพราะเสียงเคาะประตูซ้ำอีกรอบ

     

    “ลืมอะไรหรอครับพี่มะ..”

     

    เสียงหวานสะดุดของเมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่รุ่นพี่คนเดิมที่เข้าๆ ออกๆ ห้องเค้าเกือบทุกวัน และยังไม่ทันที่ร่างบางจะพูดอะไรออกไปแขกผู้มาเยือนก็โถมตัวใส่เข้าเต็มที่จนแทบล้มทั้งยืนไปตามๆ กัน กลิ่นฟุ้งของเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์จากร่างกายกำยำของฝ่ายตรงข้ามทำให้คนตัวเล็กกว่าเริ่มรับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในสภาพที่ปกติ

     

    “พี่แจบอม.. เมาหรอครับ?” 




     

    (60%)





     

    ใบหน้าน่ารักแหงนเงยมองคนที่ตัวเองพยุงอยู่เล็กน้อย แต่ก็ต้องรีบหลบสายตาเมื่อดวงตาคมของอิมแจบอมจ้องกลับมาอย่างไม่ลดละ

     

    “พะ.. พี่.. จะกลับห้องมั๊ย? ผมเดินไปส่ง” ตามประสาพี่น้องที่ดูแลกันมานาน ห้องของแจบอมก็อยู่หอเดียวกันจินยองนี่แหละ ถัดกันไม่กี่ชั้น จริงๆ อยากได้ห้องติดกัน แต่หอก็คือหอ ใครจองได้เร็วก็ได้ห้องไป เป็นเรื่องธรรมชาติของบรรดานักศึกษา

     

    “จินยอง.. หายไปไหนมา..?” เสียงของแจบอมไม่ได้ยานคางอย่างที่คาดไว้แต่อาการโซเซแทบยืนไม่อยู่ของเจ้าตัวทำให้รู้ว่าร่างสูงนั้นอยู่ในสภาพสติพร่าเลือนแค่ไหน

     

    “ผมก็อยู่ที่ห้องนี่แหละ แล้วก็ไปมหาลัย” จินยองตอบพลางส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้.. อันที่จริงเค้าหลบหน้าแจบอมหน่อยๆ เพราะขี้เกียจเจออีกฝ่ายตอนกำลังสวีทกับแฟนสาว และไม่อยากให้หัวใจต้องเจ็บซ้ำๆ กับเรื่องเดิมๆ ด้วย ซึ่งมันก็ได้ผลดีทีเดียว เค้าแค่ส่งข้อความไปบอกเวลาไปกลับห้อง ซึ่งแจบอมก็เหมือนจะไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่อยู่แล้ว เพราะไม่เคยมีข้อความอะไรตอบกลับมาเลย.. มีเพียงความว่างเปล่า ก็แค่นั้น..

     

    พรึ่บ!

     

    รู้ตัวอีกทีลำแขนแกร่งก็คว้าร่างบางมาแนบอกจนคนตัวเล็กเสียหลักเอนลงไปนอนราบกับพื้น ขณะที่ร่างสูงของคนเมาคร่อมทัมอยู่ มือใหญ่รองหัวกลมๆ ของคนเป็นน้องเอาไว้ไม่ให้กระแทกพื้น ก่อนที่ดวงตาคมกริบจะมองดวงหน้าใสของร่างข้างใต้ให้ชัดๆ

     

    “พี่.. คิดถึง..”

     

    เสียงของแจบอมทุ้มต่ำน่าฟัง.. ถ้อยคำอ่อนโยนที่ถูกส่งมาให้ทำให้ร่างบางรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างที่อีกฝ่ายต้องการจากเค้า.. บางทีอาจจะเป็นคำปลอบโยน หรือมือเล็กๆ ที่เอื้อมไปลูบที่แผ่นหลังแกร่ง

     

    “เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?”

     

    “...”

     

    “ถ้าพี่อยากระบาย.. ก็พูดออกมาได้นะครับ.. ผมอยู่ตรงนี้เสมอ” ร่างสูงมองสบกับนัยน์ตากลมคู่หวานของร่างบอบบางในอ้อมกอดแล้วยิ่งกระชับแขนอีกข้างที่เกี่ยวเอวบางไว้ให้แน่นขึ้น

     

    “...”

     

    “...”

     

    “พี่กับนาอึนคงไปไม่รอด..”

     

    พูดจบคนเป็นพี่ก็วางหัวที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำเมาของตัวเองลงบนซอกคอขาวช้าๆ ขณะที่มือบางยังคงลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ อย่างปลอบโยน

     

    ไม่มีใครพูดอะไรกันอีก จินยองไปให้แจบอมกอดเค้าอยู่แบบนั้น แม้ว่าร่างกายแข็งแรงของอีกฝ่ายจะทับลงมาจนกระดูกของเค้ากดลงกับพื้นห้องแข็งๆ ทำให้รู้สึกเจ็บหนักๆ แต่ร่างบางก็ไม่พูด หรือคิดจะเปลี่ยนท่าแม้แต่น้อย.. ในเวลานี้เค้าเป็นห่วงอีกฝ่ายมากกว่าความเจ็บเล็กน้อยแค่นั้น.. ห่วงว่าคนเป็นพี่จะต้องเจ็บปวดแม้เพียงเพราะใครบางคนที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้น

     

     

     

    คืนนั้นแจบอมค้างที่ห้องของจินยอง โดยมีคนเป็นน้องช่วยปลดรองเท้า เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อให้จนหลับบนเตียงหลังกว้างอย่างสบาย ส่วนเจ้าของเตียงก็เดินไปนอนที่โซฟาเพื่อให้อีกฝ่ายได้นอนหลับอย่างเต็มที่

     

     

     

     

     

    พอตื่นเช้ามาตาคมก็พบกับโพสอิทสีชมพูสดใสที่หัวเตียง

     

    “ไปหยิบเสื้อช้อปกับชุดนักศึกษาที่ห้องมาให้แล้ว”

     

    แจบอมมองเสื้อนักศึกษา กางเกงสแลค และเสื้อช้อปของเค้าที่ถูกแขวนไว้อย่างดี ข้างๆ ประตูห้องนอน มีโต๊ะเล็กที่วางผ้าขนหนูผืนใหญ่สำหรับเช็ดตัว กับผ้าขนหนูผืนเล็กสำหรับเช็ดหน้าไว้อย่างเป็นระเบียบ จนแจบอมอดยิ้มขำในความเรียบร้อยของคนเป็นน้องไม่ได้ นี่น่าถ้ามีวิชามารยาทงามให้ลงเรียน คงส่งน้องไปลงให้ได้เอมาประดับใบปริญญาคงจะชิคดีพิลึก

     

    พอร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงเค้าก็รู้สึกมึนงงหน่อยๆ อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนกินเหล้าหนัก แถมโผล่มาหาจินยองซะดึก.. ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้แหละ ตอนปกติเค้าดูแลจินยอง คอยไปรับไปส่ง ซื้อหาของเข้าหอกัน หรือบางทีก็เลี้ยงข้าว ตามประสาคนเป็นพี่ แต่ถ้าเวลาที่เค้าผิดหวัง เศร้า หรือเสียใจ กลับเป็นจินยองซะอีกที่ดูแลเค้าดีเอามากๆ ดูแลดีกว่าคุณนายอิมที่บ้านอีก (ผมขอโทษที่แซวนะครับแม่)

     

    พอตั้งหลักได้จะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเพื่ออาบน้ำ ดวงตาเรียวกลับเหลือบไปเห็นโพสอิทสีชมพูอีกใบ

     

    “ยาแก้แฮงค์ กินก่อนเลยนะครับ เดี๋ยวหน้ามืด”

     

    เรียวปากหยักส่งยิ้มออกมาบางๆ นี่จินยองจิตสัมผัสหรือเปล่า? ถึงได้รู้ทุกการเคลื่อนไหวของเค้าเลย? แจบอมหยิบยาขึ้นมากินแล้วเดินไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ พอเปลี่ยนชุดเสร็จก็เตรียมพร้อมไปมหาลัยติดแต่เพียงโพสอิสสีชมพูอีกใบที่แปะอยู่ที่รองเท้าของเค้า (ซึ่งมีถุงเท้าพับเรียบร้อยวางอยู่ข้างๆ กัน)

     

    “กินซุปเต้าหู้รองท้องก่อนออกนะครับ อยู่บนโต๊ะกินข้าว”

     

    แจบอมเดินย้อนกลับไปที่โต๊ะกินข้าว ยกถ้วยซุปขึ้นซดเบาๆ แล้วอ่านโพสอิทที่คิดว่าเป็นอันสุดท้าย

     

    “ถ้ากินข้าวเช้าไหวก็กินหน่อยนะครับ แซนวิชอยู่ในกล่องแล้ว.. หรือจะเอาไปกินที่มหาลัยก็ได้.. เรื่องพี่นาอึนก็อย่าคิดมากนะครับ ลองไปคุยกับเธอดีๆ อีกที.. ผมขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูแลนะ.. ผมมีประชุมรายงานภาษาเยอรมันตอนเช้า เดี๋ยวตอนเย็นผมไปหานะครับ”

     

    ร่างสูงอ่านข้อความยาวเหยียดแล้วยิ้มกว้างออกมาอย่างปิดไม่มิด.. นี่ขนาดไม่ได้อยู่ดูแลนะเนี่ย

     

     

     

     

    #เปลี่ยนมน

     

     

     

     

     

    “แบมแบม วันนี้เพื่อนเป็นไงบ้าง?” เสียงทุ้มเดิมๆ กับคำถามเดิมที่ทำให้ดวงตากลมโตมองผ่านคอนแทคเลนส์สีเทาใสแจ๋วต้องตวัดมองอย่างสังเกตุสังกา

     

    “นี่พี่มาร์คถามถึงจินยองมาทั้งเดือนแล้วนะ.. แอบชอบเพื่อนผมปะเนี่ย?”

     

    .......................................................................................................................................................................


    ไหนใครทีมพี่บียกมือขึ้นนนนนนน ^_^/




    ดูแนวโน้มแล้วเรื่องนี้พี่บีพระเอก.. พี่มาร์คนางเอกนะ... รู้ยัง? (เห้ย ใครปาหม้อ มีด ถัง กะละมัง มา!!!)




    ล้อเล่งน้าาาา ตอนหน้า มาร์คเนียร์คร่ะ <3 #เปลี่ยนมน



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×