ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7] Change - MarkNior

    ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 22 (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 766
      11
      21 พ.ค. 58

    ตอนที่ 22



    #เปลี่ยนมน


    ร่างสูงโปร่งก้าวเดินเข้าร้านตามปกติเหมือนทุกวัน แต่ที่ไม่ปกติก็จะเห็นเป็นสีหน้าเหม่อลอยเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่ทำให้สาวๆ ได้แต่มองตามหน้าหล่อๆ จนละห้อยไปตามๆ กัน

     

    “เป็นไรเมิง?”

     

    “ปละ เปล่า..”

     

    “เหล้าปะ? ไปโต๊ะนู้นด้วยนะ” วางแก้วช็อตเล็กๆ ให้เพื่อนพลางพยักเพยิดไปทางโต๊ะสาวๆ ออฟฟิศหน้าตาสะสวยกลุ่มหนึ่งที่พยายามส่งสายตาหวานหยดย้อยให้มาร์คตั้งแต่ก้าวเข้าร้าน

     

    “ไม่ให้ไปโต๊ะคุณหวังแล้วหรอ?” มาร์คแซวเพราะเหลือบไปเห็นอดีตลูกค้าประจำอย่างหวังแจ็คสันนั่งจิบเบียร์ดูดนตรีบนเวทีอย่างอารมณ์ดีที่มุมนึงของร้าน

     

    “ไม่ต้องเลย คุณเค้าเรียกให้แบมแบมไปเสิร์ฟแล้ว” อูยองบอก เอาจริงๆ เค้าไม่รู้ว่าเพื่อนมีเรื่องอะไรกับลูกค้าวีไอพีคนนั้นหรอกนะ แต่เล่นลูกค้าบอกไม่ให้มาร์คมารินเหล้าให้อีกนั่นก็คงเป็นเรื่องไม่เล็กใช่มั๊ยล่ะ โชคดีที่คุณหวังเค้ายังมาใช้บริการทุกวันสุดสัปดาห์ตามปกติ จึงทำให้อูยองไม่ได้บ่นอะไรเพื่อนที่ทำให้ลูกค้าขยาด

     

    “อืม”

     

    ร่างโปร่งนั่งทำใจอยู่แปปนึง ภาพร่างกายเย้ายวนของปาร์คจินยองยังตราตรึงอยู่ในสมองจนเค้าไม่อยากจะลุกไปไหน อยากจะใช้เวลานั่งเก็บเกี่ยวรอยสัมผัสที่มันยังค้างอยู่ที่ปลายนิ้ว รสหวานที่ค้างอยู่ที่ปลายลิ้นอยู่ แต่งานก็คืองาน เค้ามีความรับผิดชอบพอที่จะตัดใจเลิกคิดเรื่องวาบหวามนั้นแล้วลุกไปนั่งรินเหล้าให้สาวๆ ออฟฟิสกระเป๋าหนักตามที่เพื่อนบอกให้ไปตามหน้าที่

     

     

     

    “หูย จินยองอ่า.. ออกมาแบบนี้เราโดนพี่แจบอมด่าตายเลย รีบไปคุยกะพี่มาร์คแล้วรีบกลับเลยนะ” ใบหน้ากลมที่ตอนนี้ซีดปนขาวบอกเตือนเพื่อน

     

    “ยองแจไม่ต้องมาก็ได้นี่ เรามาคนเดียวก็ได้” ปากอิ่มบอกเพื่อนอย่างเอ็นดูพลางส่งยิ้มหยอกให้คนกลัวแฟน

     

    “ใครจะปล่อยให้มาคนเดียว? ถ้าเจอโรคจิตมารังแกอีกทำไง”

     

    “โหย เราเป็นผู้ชายอกสามศอกนะ เราดูแลตัวเองได้”

     

    “เง้อออ ขี้เกียจจะเถียง เอาเป็นว่ายังไงก็ไม่ปล่อยให้มาคนเดียวหรอกน่า” บอกพลางดันตัวผอมของเพื่อนเข้าไปในร้าน ตอนแรกเค้าสองคนก็ไม่ได้กะจะมาคืนนี้หรอก แต่ปาร์คจินยองเกิดคิดได้ขึ้นมาว่าอยากจะขอโทษรุ่นพี่สุดหล่อที่เผลอ(?)ไปยั่วพี่เค้า แถมยั่วเสร็จแล้วยังไล่กลับบ้าน ซึ่งเจ้าตัวบอกว่ามันเป็นการกระทำที่นิสัยไม่ดีเอามากๆ เดือดร้อนคนที่นั่งดูหนังอยู่ในห้องพี่แจบอมอย่างเค้าต้องออกมาเป็นเพื่อน เพราะแฟนตัวเองทำรายงานอยู่หอเพื่อนยังไม่กลับ

     

    “อื้อ ขอบคุณน้ายองแจ” ยิ้มหวานให้เพื่อนไปหนึ่งที

     

    “อื้ม ว่าแต่ไหนพี่มาร์คอ่ะ? ปกติน่าจะอยู่แถวๆ บาร์นี่นา วันเสาร์นี่มีคิวร้องเพลงรึเปล่านะ” ลูกตาเล็กเรียวของยองแจกวาดมองไปรอบๆ เพื่อที่จะได้รีบให้เพื่อนไปคุยกับพี่มาร์คแล้วรีบกลับ ก่อนแฟนเค้าจะกลับหอมา ไม่งั้นมีระเบิดลงแน่

     

    ร่างเล็กทั้งสองมองไปรอบๆ ร้านอยู่พักหนึ่งก่อนสายตากลมจะเหลือบไปเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคยกำลังหัวเราะต่อกระซิกกับกลุ่มหญิงสาววัยทำงาน จินยองเข้าใจนะว่าที่อีกฝ่ายต้องไปนั่งกับโต๊ะลูกค้าเพราะเป็นงาน แต่พอริมฝีปากที่ทาลิปกลอสสีชมพูจัดนั่นแนบลงไปบนแก้มตอบของรุ่นพี่คนสนิท.. เค้าก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าใจอีกฝ่ายแล้ว...

     

    “ยองแจ เราไปเข้าห้องน้ำแปป”

     

    “เดี๋ยวไปด้วยๆ”

     

    “รอที่บาร์ก็ได้.. เราไปได้” จู่ๆ เพื่อนก็เดินดุ่มๆ ไปทางห้องน้ำ รั้งไว้ก็ไม่ทันแล้ว ยองแจเลยจำใจต้องเบียดกายมานั่งรอที่บาร์ตามที่อีกฝ่ายบอก

     

    “อ้าว น้องยองแจปะเนี่ย? เพื่อนแบมแบม??” เจ้าของร้านหน้าตี๋เอ่ยทักรุ่นน้องเพราะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง กลุ่มแบมแบมมักมาเที่ยวร้านเค้าบ่อยๆ เพราะเพื่อนทำงานอยู่ แถมถ้าจำไม่ผิดรู้สึกยองแจจะเป็นแฟนกับแจบอมเพื่อนร่วมคณะวิศวะของตนด้วย

     

    “พี่อูยอง หวัดดีครับ” เด็กดีก็ยกมือไหว้รุ่นพี่ตามระเบียบ

     

    “ดีๆ ไมมาคนเดียวอ่ะ? ไอ้บอมมันปล่อยได้ไง?” เอาจริงๆ อิมแจบอมนี่ทั้งแฟนทั้งน้องหวงจะตายห่า บอกให้พามาให้เพื่อนคณะรู้จักยังไม่ยอมพามาไม่รู้จะกั๊กอะไรนักหนา

     

    “มากับจินยองครับ มันไปเข้าห้องน้ำ”

     

    “อ๋อๆ ดื่มไรปะ? พี่เลี้ยงเอง” เจ้าของร้านใจป๋าถามแฟนเพื่อน พลางเตรียมรินเหล้าให้

     

    “ขอน้ำเปล่าพอพี่ จินยองมาหาพี่มาร์คแปปเดียวก็กลับกันแล้ว” ยิ้มตอบอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท ความจริงก็แอบอยากกินเบียร์ฟรีเบาๆ แต่พอหน้าแฟนโหดลอยมา ก็รู้สึกผิดต่อฟ้าดินยังไงบอกไม่ถูก TvT นี่ยองแจไม่ได้กลัวแฟนนะครับ เรียกว่าเกรงใจเฉยๆ...

     

    “อะๆ เอ็นจอยนะน้อง” เสิร์ฟน้ำให้น้องแล้วก็หันไปดูแลลูกค้าคนอื่นต่อ

     

     

     

    ปาร์คจินยองพาตัวเองมานั่งสมาธิ(?)ในห้องน้ำเพื่อให้ใจสงบ เริ่มรู้สึกเข้าใจนางร้ายในละครว่าทำไมเวลามีผู้หญิงมายุ่งกับพระเอกจะต้องวี๊ดว๊ายโวยวาย เค้าก็อยากทำมั่งนะ แต่เค้าเป็นผู้ชายอ่ะ จะกรี้ดก็ทำไม่เป็น ที่สำคัญตัวเองไม่ได้เป็นอะไรกับพี่มาร์คซะหน่อย จะมีสิทธิ์อะไรไปวี๊ดใส่เค้าอ่ะ โอ๊ย เกลียดตัวเองจัง ทำไมขี้หึงแบบนี้

     

    หลังจากนั่งคร่ำครวญงอแงได้สักพักร่างบางก็ตัดสินใจปล่อยผ่านเรื่องผู้หญิงที่จุ๊บแก้มพี่มาร์คไป ก็พี่เค้าทำงานนี่นา ร้านมันเบียด ลูกค้าอาจจะไม่ได้ดังใจแต่คนเบียดกันจนหน้าไปกระแทกไรเง้.. มือเล็กกำลังจะเลื่อนไปเปิดกลอนห้องน้ำที่นั่งอยู่ แต่พอดีมีเสียงเปิดประตูพร้อมกับเสียงพูดคุยดังขึ้นทำให้ต้องชะงักมือไว้เสียก่อน

     

    “พี่มาร์คเมื่อกี้ผมเห็นนะ ลูกค้าหอมพี่ใช่แมะ ผมจะฟ้องจินยอง” แบมแบมโพล่งออกมาทันทีที่เปิดประตูเข้าห้องน้ำมา ไม่ได้ใส่ใจว่าจะมีใครอื่นอยู่ในห้องน้ำบ้าง เพราะมันเรื่องส่วนตัวไม่มีสนใจที่พวกเค้าคุยกันอยู่แล้ว

     

    “เห้ย ฟ้องทำไม นูน่าเค้าล้อเล่น”

     

    “แน่ะๆ มีนูน่งนูน่า อย่ามานะพี่ ผมฟ้องเพื่อนแน่”

     

    “ไม่มีอะไรจริงๆ เดี๋ยวออกไป ไปโต๊ะอื่นแล้วเนี่ย”

     

    “เออ ดีแล้ว”

     

    “ว่าแต่เรื่องให้น้องจินยองมาอ่อยพี่นี่ยังไง?? ฝีมือเราใช่มะ? น้องจินยองเค้าไม่ทำอะไรแบบนั้นเองแน่ๆ ดูท่าทางลุกลี้ลุกลนขนาดนั้น” มาร์คเริ่มหันมาบ่นแบมแบมบ้าง โดยไม่ได้รู้เลยว่ามีสองหูที่แอบฟังบนสนทนาอยู่หลังประตูห้องน้ำจนหน้าแดงแปร๊ดเป็นลูกเชอรี่อยู่คนเดียว

     

    “เห้ย พี่อ่า.. อย่าดุเด้.. แบบอยากให้ใกล้ชิดกันไรเง้” คนเป็นน้องเริ่มรู้สึกตัวหดลีบเหลือนิดเดียว ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้ทันขนาดนี้ จินยองนี่ไม่เนียนเรย โหยๆๆๆ

     

    “ใกล้ชิด?? แล้วถ้าพี่ปล้ำน้องจินยองขึ้นมาทำไง?”

     

    “โห่ย พี่ก็รับผิดชอบเพื่อนผมดิ่ ไม่เห็นจะยากเลย” นี่แบมแบมไม่อยากจะบ่น อุตส่าไปไขก๊อกน้ำไว้แล้วให้มันพังง่ายๆ เสื้อผ้าหน้าผมก็เตรียมการอย่างดี ไม่รวมหนังติดเรทที่ยองแจช่วยสนับสนุน นี่ถ้าเป็นพระเอกฟิคเรื่องอื่นได้กันไปสามยกตั้งแต่อินโทรเพลงขึ้นแล้ว ไม่รู้ว่าพี่เค้าปล่อยให้เพื่อนเค้ารอดได้ไง โคฟเวอร์เป็นพระปะวะ??

     

    “แบมแบม! เสียงทุ้มดุใส่น้องนิดๆ หวังให้เด็กตรงหน้ากลัวบ้าง

     

    “ง่า.. ล้อเล่นอ่าพี่ ก็พวกผมกะจะโผล่เข้าไปขัดจังหวะไง แหมๆ ไม่ปล่อยให้เพื่อนตัวเองโดนปล้ำทั้งที่ไม่เต็มใจหรอกน่า.. แต่ถ้าเต็มใจก็..” นอกจากโดนดุแล้วไม่กลัว เจ้าน้องตัวแสบยังทำลอยหน้าลอยตาจนมาร์คอดขำไม่ได้ จากตอนแรกกะจะดุซะหน่อยเพราะเล่นอะไรไม่เข้าท่า

     

    “เดี๋ยวโดนๆ” คนเป็นพี่ยกขาขึ้นเตะก้นน้องเบาๆ ระหว่างล้างมือ ขณะน้องก็ได้แต่ทำท่าโอดโอยโอเวอร์แอคติ้งอย่างน่าหมั่นไส้

     

    “เอ้อ พี่.. ว่าแต่กับเพื่อนผมนี่ยังไง?”

     

    “คืออะไร?”

     

    “ก็แบบ.. ชอบปะ?”

     

    “...”

     

    “เห้ย อย่าเงียบดิ่พี่ ตอบๆๆ”

     

    “...”

     

    “ตกลงว่าไงพี่?”

     

    “...”

     

    “นี่เพื่อนผมอ่อยขนาดนั้นแล้ว ชอบไม่ชอบบอกมาเลยดีกว่า”

     

    “แล้ว... ถ้าไม่ได้ชอบทำไง?”

     

     

     

    “พูดงี้ตกลงไม่ได้ชอบ?”

     

    “...”

     

    “...”

     

    “อืมคือว่ะ--

     

     

     

    แกร้ก!

     

     

     

    จู่ๆ เสียงประตูเล็กๆ ของห้องน้ำห้องหนึ่งก็ดังขึ้นระหว่างบทสนทนา แต่สองพี่น้องไม่ได้หันไปสนใจนัก เพราะไม่แปลกที่จะมีคนมาใช้บริการห้องน้ำระหว่างที่พวกเค้าใช้อยู่ คืนวันเสาร์ร้านเค้าออกจะคึกครื้น คนน้อยสิแปลก แต่ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องชะงักคือใบหน้าผิดหวังคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำนั้นมากกว่า..

     

    “จินยอง!?/น้องจินยอง!” ทั้งมาร์คและแบมแบมแทบจะประสานเสียงเรียกด้วยความตกใจที่เจอหน้าคนที่ไม่คาดว่าจะอยู่ตรงนี้ได้

     

    “ถะ.. ถ้าพี่ไม่ได้ชอบ..  แล้วพี่มาคอยทำดีกับผมทำไม!?” เสียงหวานถามขึ้นก่อนที่ตากลมจะช้อนมองร่างสูงโปร่งของคนอายุมากกว่าด้วยแววตาเสียใจ

     

    “น้องจินยอง คือพี่..”

     

    ไม่ทันที่มาร์คจะได้เอ่ยอธิบายอะไรร่างบอบบางตรงหน้าก็วิ่งออกไปจากห้องน้ำเสียก่อน ทำเอาทั้งสองคนได้แต่ยืนอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพอนึกขึ้นได้แบมแบมเลยรีบบอกให้อีกฝ่ายตามไปเพราะไม่รู้ว่าอยู่ดีๆ เพื่อนได้ยินแบบนั้นจะเสียใจแค่ไหน แม้แบมแบมเองก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเหมือนกันที่อยู่ๆ เพื่อนมาอยู่ที่ร้านเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือเรื่องที่พี่มาร์คบอกว่าไม่ได้ชอบเพื่อนเค้า โอ้ย ยิ่งคิดแบมแบมยิ่งปวดหัว.. แต่เค้าเชื่อในสายตาตัวเองนะ ว่าเค้าเห็นว่าพี่ชายตรงหน้าเป็นห่วงเพื่อนสนิทเค้ามากขนาดนั้น ยิ่งตอนที่รีบวิ่งตามไปรู้ได้เลยว่าหัวใจคนที่วิ่งออกไปแทบจะบินไปถึงอีกคนอยู่แล้ว ได้แต่หวังว่าทั้งคู่จะเคลียร์กันได้นะ

     

     

     

    ขาเรียวพาตัวเองวิ่งออกมาจากร้านตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ในใจเค้ามันก็เจ็บแน่นไปหมด เมื่อลองนึกย้อนดูถึงวันเก่าๆ ที่ผ่านมาเค้าแอบคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดว่าที่อีกฝ่ายมีใจสินะ พี่มาร์คก็แค่ใจดีกับเค้าเท่านั้น ไม่เคยมีสักครั้งที่อีกฝ่ายบอกเค้าตรงๆ ว่าชอบ หรือรักเลย มันเป็นปาร์คจินยองที่เอาแต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกคนมาจีบ มาชอบตัวเอง มันเค้าเองที่งี่เง่ายกหัวใจให้คนที่ไม่ได้ชอบกันด้วยซ้ำ..

     

    “ฮึก..”

     

    จู่ๆ ขาทั้งสองข้างก็เกิดหมดแรงซะอย่างนั้น ร่างบางทรุดตัวนั่งลงกับพื้นฟุตบาทช้าๆ ก่อนจะกัดปากกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดรอดออกจากลำคอ เจ็บจังเลย.. เหมือนย้อนกลับไปตอนที่เคยชอบพี่แจบอมแล้วต้องมาอกหักซ้ำๆ ทำไมเค้าถึงได้โง่ยังงี้ ไม่มีใครจะมาชอบคนแบบเค้าหรอก โง่ที่สุดเลย..

     

    “ฮึก.. อะฮือ..”

     

    จินยองไม่เข้าใจเลยทุกๆ อย่างที่พี่มาร์คเคยบอกเค้ามันไม่เคยมีอยู่จริงเลยสินะ.. เจ็บจัง..

     

    แล้วที่พี่.. เคยร้องเพลงให้ฟัง.. บอกว่าจะดูแลหัวใจผม...  นั่น.. มันคืออะไรหรอครับ? พี่มาร์ค..

     

    แล้วจูบของเราวันนี้.. มันคืออะไรหรอ?

     

    คงมีแต่ผมสินะที่ใจเต้นแรงๆ เวลาได้อยู่ใกล้ๆ กัน.. คงมีแต่ผมที่คิดเข้าข้างตัวเองว่าเราชอบกัน.. ปาร์คจินยอง นายมันโง่ที่สุด อกหักจากพี่แจบอมแล้วยังไม่เข็ดอีก

     

    กำปั้นเล็กๆ ยกขึ้นทุบอกตัวเองแรงๆ ให้มันรับ มันรู้ ว่าความเจ็บที่เกิดขึ้นมันมาจากความโง่ของตัวเองทั้งนั้นที่เอาแต่คิดเข้าข้างตัวเอง จนต้องเสียใจแบบนี้ หัวใจไม่รักดีเที่ยวไปตกหลุมรักแต่คนที่ไม่เคยรักเราเลย พี่มาร์คอาจจะมีคนที่รักมาตลอดอย่างที่พี่แจบอมมียองแจก็ได้.. ฟันขาวกัดลงที่ริมฝีปากอิ่มแน่นของตัวเองอย่างอดกลั้น ร่างบางไม่เข้าใจ.. เค้าน่าจะชินชากับรักที่ไม่สมหวังได้เสียที แต่ทำไม.. ครั้งนี้มันเจ็บมากกว่าตอนที่แจบอมด้วยซ้ำ..

     

     

     

    “ฮือๆๆ”

     

    สุดท้ายความรู้สึกที่คับแน่นอยู่ข้างในก็ทะลักออกมาเป็นหยาดน้ำตาเม็ดโตที่ไหลออกจากดวงตาคู่สวย ร่างบางร้องไห้ออกมาทำให้คนที่เดินอยู่แถวนั้นต้องหันมามอง

     

    “น้องๆ เป็นไรรึเปล่า?” ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มคนนึงเดินแยกกับเพื่อนเพื่อเข้ามาทักเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักที่นั่งร้องไห้อยู่คนเดียวอย่างเป็นห่วงเป็นใยเกินพอดี

     

    “ฮึก.. ปละ.. เปล่า ไม่เป็นไรครับ”

     

    “พี่ว่าเรากลับบ้านเถอะ อย่านั่งอยู่นี่เลย เดี๋ยวเรียกแท้กซี่ให้” ชายหนุ่มดึงร่างเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน พลางรวบเอวบางเข้าอ้อมกอดอย่างถือวิสาสะ

     

    “ฮึ้ย คุณ! ปล่อยนะ ผมเดินเองได้” จินยองปาดน้ำตาลวกๆ อย่างตกใจ ก่อนจะออกแรงดิ้นหนีเมื่ออีกฝ่ายดึงเอวเค้าเข้าไปกอดท่ามกลางสายตาผู้คนที่ไม่คิดจะช่วยเหลือ

     

    “เห้ย อย่าดิ้นน่า!” พอเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะขืนตัวหนีคนตัวโตกว่าก็ออกแรงรัดให้มากว่าเดิม กลิ่นกรุ่นของแอลกอฮอล์ผสมกับกลิ่นของบุหรี่ที่ลอยเข้าจมูกทำให้ร่างบางรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้ามีสติไม่ครบถ้วน ถึงได้กล้าเข้ามากอดรัดเค้าทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักกันแบบนี้

     

    ใบหน้าของอีกฝ่ายยื่นมาใกล้จนปลายจมูกเกือบจะสัมผัสแก้มนิ่ม โชคดีที่ใบหน้าขาวสะบัดหลบซะก่อน ขณะที่คนกระทำก็เอาแต่ยืนหัวเราะในลำคอ โดยไม่ยอมปล่อยอีกฝ่ายออกจากอ้อมแขนแม้แต่น้อย จินยองตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ ก็มีคนมาทำรุ่มร่ามใส่ขนาดนี้ แต่ก็ยังมีสติพอที่จะต่อสู้กับอีกฝ่าย ร่างบางออกแรงผลักสุดกำลังจนอีกฝ่ายผงะถอยหลังออกไป แล้วออกตัววิ่งหนีสุดชีวิตอย่างไม่รู้ทิศทาง ไม่รู้แม้กระทั่งว่าทางที่วิ่งไปนั้นคือกลางถนนยามค่ำคืนที่รถวิ่งกันด้วยความเร็วไม่น้อยเลย

     

     

     

    เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดด โครม!!!


    ......................................................................................................................................................................................



    100%



    อย่าเขวี้ยงค้อน ใจเยงงง พะหัดมาต่อแน่นอนไม่เบี้ยว <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×