ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7] Change - MarkNior

    ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 20

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 698
      10
      8 พ.ค. 58


    Change ตอนที่ 20




    #เปลี่ยนมน
     

    “พี่ว่า.. จินยองยังโกรธพวกเรามั๊ย?”

     

    แจบอมยิ้มบางๆ อย่างเอ็นดูเมื่อมองสีหน้ากังวลของคนรัก จินยองกับยองแจเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ม.ปลาย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเข้ากันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นคนจิตใจอ่อนโยนนึกถึงอีกฝ่ายเสมอ แม้จะมีเรื่องเข้าใจผิดกันแต่คำว่าขอโทษและคำว่าให้อภัยก็มีให้กันได้เสมอมา

     

    “กับยองแจเนี่ย พี่ว่าไม่โกรธหรอก.. น่าจะแบบ.. เก้อๆ ไรงี้ พึ่งทะเลาะกันมาไง”

     

    “กับผมไม่โกรธ? แล้วจินยองโกรธพี่หรอ??” ยองแจหันไปถามอย่างตกใจ ตาเรียวมองคนรักอย่างเป็นกังวล

     

    “อ่า.. ไม่เชิงโกรธหรอก.. แต่จินยองเหมือนจะไม่รักพี่แล้วมากกว่าน่ะ” ร่างสูงยิ้มแหยๆ ไปให้คนรัก

     

    “เอ๋!?

     

    อิมแจบอมก็ไม่รู้จะใช้คำไหนอธิบายให้คนรักเข้าใจ ที่ผ่านมาจินยองยอมเค้าแทบทุกเรื่องเพราะเค้าเป็นคนที่จินยองรัก ซึ่งมันทำให้เค้าค่อนข้างเคยชินกับการที่มีน้องที่อยู่ในโอวาท น้องที่ยอมทำทุกอย่างตามที่เค้าบอก ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะความรู้สึกที่น้องเคยมีให้เค้า แต่ตอนนี้อะไรๆ มันเปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งมันทำให้เค้าได้รับรู้ว่าน้องก็มีชีวิตของตัวเองชีวิตที่ไม่ต้องผูกติดกับเค้าอีกต่อไป ถึงแม้ว่าเค้ายังเป็นห่วงเรื่องคนโรคจิตคนนั้นแค่ไหน แต่อีกฝ่ายดูเหมือนว่าไม่ต้องการการดูแลจากเค้าเท่าไหร่ แม้ไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้มีท่าทางโอนอ่อนแบบที่เคย นั่นทำให้ตัวเค้าเองเริ่มรู้ว่าตัวเองไม่ควรไปก้าวก่ายชีวิตอีกฝ่ายมากเกินไป

     

    “พี่โอเครึเปล่า?”

     

    “ทำไมพี่จะต้องไม่โอเคด้วยล่ะ??” ใบหน้าคมหันไปถามคนรักงงๆ

     

    “เอาจริงๆ พี่ก็ดูหงอยไม่ต่างจากผมหรอก” ชเวยองแจพูดก่อนปากเล็กๆ จะพรูลมออกมาอย่างอ่อนใจ

     

    “อืม.. พี่รู้สึกเฮิร์ทๆ นะ รู้สึกเหมือนมีลูกน้อยที่ตอนนี้โตแล้ว แล้วก็จะแยกไปอยู่นอกบ้านอะไรแบบนั้น” เสียงทุ้มบอกพลางเอนหัวซบลงบนไหล่เล็กของคนรัก

     

    “ย๊า! จินยองไม่ใช่ลูกพี่ซะหน่อย ลูกพี่ไม่มีทางน่ารักเท่าจินยองเพื่อนผมหรอกน่า!!

     

    “รู้ได้ไง?? ลูกพี่ยังไม่เกิดเลย.. ไหนลูกจ๋า? บอกพ่อหน่อยสิว่าลูกน่ารักสู้จินยองได้รึเปล่า??” อยู่ๆ ร่างสูงก็ก้มลงไปถามลูกในมโนของตัวเองบริเวณท้องของยองแจ ทำเอาร่างเล็กที่โดนหาว่ามีลูกของอีกฝ่ายอยู่ในท้องอดโมโหด้วยความเขินไม่ได้ จึงต้องใช้กำปั้นกลมๆ ของตัวเองตุ้บตั้บลงที่ไหล่หนาซะหลายทีเพื่อให้คลายอาการร้อนผ่าวที่แก้มพองๆ ทั้งสองข้างของตัวเองได้บ้าง

     

    “ไอ้พี่บ้า!!” 

     

     

     

    “จินยองขอยืมมือถือหน่อยดิ่ เราขอเช็คโซเชี่ยลหน่อยมือถือเราแบตหมด” เสียงหวานใสจากสาวน้อยหน้าตาน่ารักข้างตัวดังขึ้นทำให้เจ้าของชื่อต้องหันไปมอง ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อพบกับคริสตัลเพื่อนโรงเรียนเดียวกับเค้าตั้งแต่ม.ต้น แต่ช่วงม.ปลายอยู่คนละห้อง แต่พอเข้ามหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน จึงกลับมาสนิทกันอีกครั้ง แม้ไม่สนิทเท่าพวกยองแจ แบมแบม แต่ก็จัดว่าเป็นเพื่อนที่สนิทมากคนนึง

     

    “เอาไปดิ่ มือถือแบตหมดบ่อยนะ แชทหนุ่มเยอะหรา” จินยองเอ่ยแซวเมื่อจำได้ว่าเพื่อนสาวเค้ายืมมือถือไปเช็คเฟสบุ้ค ทวิตเตอร์ อาร์ค บ่อยอยู่เหมือนกัน

     

    “โหย อย่ามาทำเป็นแซวเราเลยจินยองนั่นแหละ! อย่าคิดว่าเราไม่เห็นนะพี่มาร์ควิศวะอ่ะ ยังงัยๆ” หญิงสาวโต้กลับทั้งๆ ที่ยังก้มหน้าก้มตากดมือถือเพื่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะดีกรีเป็นถึงเชียร์หลีดเดอร์ของมหาลัยก็ต้องป็อปเป็นธรรมดา ขาดการติดต่อทางโซเชียลไปแค่ครึ่งวันการแจ้งเตือนก็ล้นทะลักเป็นร้อยข้อความต้องไล่ดูไล่ตอบจนเหนื่อย

     

    “เย้ยยย ไม่มีอะไรซะหน่อย”

     

    “เห้ย ไม่มีอะไรได้ไง พี่เราเสียใจเลย” แบมแบมที่นั่งอีกด้านบ่นออกมา

     

    “นั่นดิ่ๆ ตกลงยังไงอะแบม วันก่อนตอนไปผับเราถามแบมว่าพี่เค้าเป็นเกย์ปะ แบมบอกไม่รู้ แล้วตอนนี้โผล่มาจีบจินยองนี่ชัวแล้วปะ? โหยยย เสียดายผู้ชายหล่ออออ” คริสตัลโอดครวญพลางกดมือถือยิกๆ ต่อไป ขณะที่แบมแบมกับยองแจส่งเสียงเชียร์จนจินยองเริ่มหน้าแดงแปร๊ดและตอบคำถามเพื่อนไม่ถูก

     

    ยังไม่ทันต่อความยาวสาวความยืดเรื่องจินยองกับพี่มาร์ควิศวะสุดหล่อ เสียงของเพื่อนอีกคนก็ดังขึ้น “ตัล มือถือใครอ่ะ?” ซอลลี่เพื่อนสนิทคริสตัลที่พึ่งเดินมาเข้าคลาสถามขึ้น ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ เพื่อน

     

    “มือถือจินยองอะ ตัวไปไหนมา ตอนแรกเราจะยืมมือถือตัวแต่หาในกระเป๋าหนังสือไม่เจอ” หญิงสาวบอกพลางทำหน้าบูดใส่เพื่อน

     

    “อ๋อ อยู่ในกระเป๋าถือใบเล็กอ่ะไม่ใช่เป๋าหนังสือ พอดีเราติดไปซื้อกาแฟด้วย อะนี่ของตัว” บอกพลางวางกาแฟลงที่ข้างหน้าเพื่อน แล้วก็วางไว้ข้างหน้าตัวเองอีกแก้วนึง ทำให้คริสตัลต้องส่งยิ้มหวานแทนคำขอบคุณที่เพื่อนซื้อมาเผื่อ

     

    “โหย น้องซอลลี่ไม่ซื้อฝากพี่แบมแบมบ้างหรอค้าบ” แบมแบมเอ่ยปากแซวขณะที่จินยองได้แต่กลั้นหัวเราะ

     

    “อ้าว พี่แบมแบมชอบกินกาแฟหรอคะ มิน่า ผิวงี้สีเดียวกับกาแฟเรย คึคึคึ” แซวมาซอลลี่ก็แซวกลับ ไม่โกงนะคะ เรียกได้ว่าหัวเราะครืนกันทั้งโต๊ะ พอคุยเล่นกันได้สักพักอาจารย์ก็เข้าคลาสพอดี คริสตัลจึงส่งมือถือคืนให้เพื่อนโดยไม่ลืมที่จะกดออกจากเฟสบุ้คของตนให้เรียบร้อย

     

     

     

    “เอ้อ จินยอง ตกลงเรื่องพี่มาร์คนี่ยังไง??” พอหมดคาบเรียนแบมแบมก็เปิดประเด็นทันทีเพราะพอเพื่อนสาวอย่างคริสตัลทักขึ้นมาเค้าเลยอยากรู้ว่าสรุปแล้วเพื่อนตัวเองกับพี่ชายเค้ามันถึงขั้นไหนกันแล้ว

     

    “ยังไงอะไรหรอ?”

     

    “อ้าววว ก็แบบว่าถึงขั้นไหนแล้ว กอด จูบ หรือว่า...”

     

    “เห้ยยย แบมอ่า.. พูดงั้นได้ไง พี่เค้าเสียหายนะ ไม่ได้เป็นไรกันซักหน่อย”

     

    “จิงดิ๊” เป็นยองแจที่หันมามองงงๆ ไม่ใช่อะไรนะ พี่มาร์คสุดหล่อนั่นดูเป็นห่วงเพื่อนเค้าแบบสุดๆ เลย ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่ยองแจก็งงนะ

     

    “เห็นแมะ ยองแจยังงงเลยไม่ได้เป็นไรกันได้ไง ไปรับไปส่งขนาดนี้ดูแลอย่างดีน้องจินยองจะเอาอะไรตามใจทู้กกกกอย่าง” แบมแบมลากเสียงอย่างน่าหมั่นไส้

     

    “งื้อ.. ไม่รู้อ่า.. ก็พี่เค้าไม่เคยพูดอะไรนี่” ปากแดงๆ ยื่นออกมาอย่างเสียไม่ได้ ก็อีกฝ่ายใจดีกับเค้าก็จริง แต่ไม่เคยพูดว่าชอบ หรือขอคบเป็นแฟนเลย แล้วจะให้เค้าตอบว่ายังไงเล่า..

     

    “แล้วจินยองชอบพี่เค้าปะ?” ยองแจเอียงคอถามเพื่อน เค้าไม่รู้ว่าที่เพื่อนเคยบอกว่าไม่ชอบพี่แจบอมแล้วนี่คือเพราะว่าชอบพี่มาร์ครึเปล่า หรือยังไงเค้าก็ไม่แน่ใจ

     

    “ก็.... ก็แบบ...” แก้มขาวเป็นสีชมพูระเรื่อพลางก้มหน้าก้มตาหลบสายตาสอดรู้สอดเห็นของเพื่อนทั้งสองคนที่มองมาอย่างคาดคั้น “ก็.. อื้อ”

     

    “บ๊ะ!!” เป็นแบมแบมที่ดีใจจนตบโต๊ะซะดังจนจินยองต้องรีบบอกให้เบาเสียงเพราะกลัวคนอื่นได้ยิน

     

    “ดีอะจินยอง พี่มาร์คเค้าน่ารักดี” ยองแจบอกพลางส่งยิ้มให้เพื่อนอย่างเอ็นดู แต่แบมแบมนี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ซะจนจินยองเริ่มรู้สึกหนาวๆ ยังไงไม่รู้

     

    “อะ.. อื้อ”

     

    “งี้จินยองก็รอให้พี่เค้าบอกอยู่อะดี”

     

    “งืมม”

     

    “แล้วยังไม่บอกอีกหรอ ทำไมพี่มาร์คมันช้าจังวะ?” แบมแบมพูดพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย ทีกับลูกค้าสาวๆ นี่เร็วจั๊งงง แค่สบตาปุ๊ปไปเปิดห้องด้วยกันแล้ว ทีกับเพื่อนเค้าทำสโลว์โมชั่นไปเพื่ออะไร?? ไหวมั๊ยเนี่ย

     

    “เราก็ไม่รู้..” ปาร์คจินยองก้มหน้ามองมือตัวเอง บางทีเค้าก็ไม่แน่ใจนะว่าที่อีกฝ่ายทำทุกอย่าง เพราะชอบเค้า หรือไม่ได้ชอบกันแน่ มันเป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นคนใจดี และเห็นว่าเค้าโดนคนโรคจิตตามรึเปล่าถึงยิ่งดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น

     

    “งั้นเรามีวิธีนะ” แบมแบมบอกพลาง

     

    “วิธีอะไรหรอ??” คนตากลมช้อนตาสบกับเพื่อนตาแป๋ว

     

    “งี้ต้องยั่ว!

     

     

     

    หลังจากคุยกันเมื่อเย็นเสร็จยองแจกับแบมแบมก็ตามกลับมาที่หอ โชคดีที่เป็นวันศุกร์พี่มาร์คเลยต้องเข้าร้านเร็วทำให้ยองแจกับแบมแบมมีเวลาเตรียมการอ่อย(?)ที่หอเค้า ซึ่งจินยองก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่เห็นเพื่อนสนิทอย่างแบมแบมคะยั้นคะยอให้ทำมากๆ ทั้งสนิทอีกคนอย่างยองแจก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย ทำเอาเค้าต้องคล้อยตามอย่างเสียไม่ได้ แม้คิดว่าไอ้วิธีการนี้ไม่น่าจะได้ผลก็เถอะ

     

    “เอาจริงๆ หรอแบม”

     

    “จริงดิ่ พรุ่งนี้พอพี่เค้ามาหา ทำตามที่เรากับยองแจบอกนะ”

     

    “แต่ว่า..”

     

    “ไม่มีแต่นะ ไม่อยากรู้หรอว่าพี่เค้าคิดอะไรกับจินยองรึเปล่าอะ??”

     

    “อยากรู้นะ.. แต่..”

     

    “จินยองไฟติ้ง!” พอเห็นสีหน้าเพื่อนดูจะอิดออดยองแจก็ส่งเสียงให้กำลังใจ ก่อนจะพากันกลับหอ ส่วนแบมแบมก็ออกไปเข้าร้านตามปกติ และไม่ลืมที่จะบอกให้พี่ชายเจ้าของร้านไปหาเพื่อนเค้าในวันเสาร์อย่างที่ทำทุกที ซึ่งคนโดนบอกก็ยินดีจะทำอยู่แล้วไม่มีอิดออด

     

     

     

    ในที่สุดบ่ายวันเสาร์ที่ประหม่าที่สุดในโลกของปาร์คจินยองก็มาถึง ร่างผอมขาวยืนมองกระจกที่สะท้อนตัวเองในเสื้อเชิ๊ตสีขาวบางตัวโคร่งที่ยาวลงมาปิดสะโพกอย่างพอดีเป๊ะจนถึงขึ้นที่ว่าถ้าเค้าก้มตัวไปหยิบอะไรสักอย่างที่พื้นชายเสื้อต้องเลิกขึ้นมาจนเห็นชั้นในสีขาวที่ใส่อยู่แน่ๆ ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้นักศึกษาตัวน้อยที่อยู่หอคนเดียวต้องประหม่าหรอกนะ ถ้าเทียบกับเสียงออดที่ดังอยู่หน้าประตูตอนนี้

     

    “งื้อออ เปลี่ยนชุดดีมั๊ยเนี่ย.. ประหลาดถึงเปล่า คนบ้าอะไรไม่ใส่กางเกง..” มือขาวเอื้อมมือไปหยิบกางเกงขาสั้นขึ้นมาก่อนจะวางลงอย่างอ่อนใจ เมื่อเสียงแจ๋วๆ ของเพื่อนดังขึ้นมาในโสตประสาท ไม่อยากรู้หรอว่าพี่เค้าคิดอะไรกับจินยองรึเปล่าอะไม่อยากรู้หรอว่าพี่เค้าคิดอะไรกับจินยองรึเปล่าอะไอ้อยากรู้มันก็อยากรู้หรอกนะ แต่เค้าอยากจะถามแบมแบมเหลือเกินว่าไอ้การใส่เสื้อตัวเดียวโดยไม่ใส่กุงเกงอยู่หอเนี่ยมันเกี่ยวยังไง สุดท้ายมือเล็กก็วางกางเกงขาสั้นลงเมื่อได้ยินเสียงออดเป็นครั้งที่สาม ร่างเล็กสูดหายใจเข้าแรงๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้คนที่ตนก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร

     

    “ขอโทษที่มาเปิดช้านะครับ”

     

    “ไม่เป็นระ...” เสียงทุ้มถูกกลืนหายไปในลำคออย่างไม่ทันจะพูดจบประโยค ตาคมได้แต่จ้องคนตรงหน้าข้างอยู่อย่างนั้น น้องจินยองในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียว.. แบบไม่ใส่กางเกง..

     

    “อะ.. เอ่อ..” จินยองก็เริ่มอายขึ้นมาเมื่อถูกอีกฝ่ายจ้องเอาๆ แบบนั้น มือขาวจับชายเสื้อดึงลงอย่างประหวั่นในใจ เริ่มอยากให้เสื้อมันยืดออกได้เสียอย่างนั้น

     

    มาร์คพยายามละสายตาตัวเองออกจากเรียวขาขาวๆ ของคนตรงหน้า ขาของจินยองไม่ได้เล็กๆ เหมือนก้านมะยมแบบผู้ชายทั่วไป แต่กลับมีเนื้ออวบอิ่ม ทั้งยังขาวมาก จนตรงหัวเข่าเป็นสีชมพูอ่อนๆ ซึ่งนั่นทำให้ร่างสูงยิ่งมองช้อนขึ้นไปบริเวณขาอ่อนอย่างห้ามไม่ได้ จนได้เสียงประตูห้องอื่นดังอยู่ใกล้ๆ คนพี่เลยรีบดันตัวน้องให้เข้าไปในห้อง เพราะเข้าไม่อยากให้คนอื่นเห็นจินยองในแบบนี้.... มันออกจะเซ็กซี่เกินไปล่ะนะ

     

    “ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะครับ?” สุดท้ายมาร์คก็ถามออกไปตรงๆ

     

    “เอ่อ.. อ่า.. คือกางเกงหมดครับ ซักไม่ทัน..” ตอบคำโกหกไปตามที่แบมแบมบอกเป๊ะ แต่มันกลับทำให้อีกฝ่ายขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างแปลกใจ เพราะจินยองคนข้างจะเป็นคนมีระเบียบเรียบร้อย ไอ้การไม่ซักผ้าจนชุดหมดนี่มันดูไม่เหมือนคนตรงหน้าเลย

     

    “อืม ครับ” มาร์คไม่ถามอะไรให้มากความ เพราะยังไงอยู่บ้านไม่เจอใครอยู่แล้ว บางทีเค้าเองยังใส่แค่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวเลย น้องคงมีโมเม้นอยากอยู่สบายๆ บ้าง ร่างโปร่งของคนเป็นพี่วางถุงอาหารที่ซื้อมากินด้วยกันลงบนโต๊ะกินข้าวแล้วกลับมานั่งบนโซฟา เตรียมเปิดหนังดูตามประสาวันเสาร์ว่างๆ ของทั้งคู่

     

    “พี่มาร์คไม่ชอบหรอครับ?” ร่างบางถามพลางเดินไปนั่งอีกด้านนึงของโซฟาแบบห่างกับมาร์คได้ 1 ไม้บรรทัดพอดิบพอดี

     

    ใบหน้าหล่อหันมามองน้องน่ารักที่ก้มหน้าจนชิดออก มือขาวคว้าหมอนมาวางบนหน้าขาเพราะเสื้อตัวสั้นนั้นเลิกขึ้นมาจนถึงไหนถึงไหน แก้มแดงๆ ของปาร์คจินยองนี่มัน.. อันตรายต่อหัวใจเค้าจริงๆ เลย..

     

    “ชอบครับ”

     

    นั่นคือคำตอบของคนเป็นพี่ซึ่งนั่นทำให้คนตั้งคำถามเป็นฝ่ายเงียบไปแทน เพราะต้องสู้รบกับก้อนเนื้อในอกที่เต้นแรงมากจนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

     

    “...”

     

    พอเห็นน้องนั่งเงียบมาร์คก็ได้แต่ระบายยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู “ตกลง เราจะดูหนังกันมั๊ยครับ?”

     

    “ดะ.. ดูครับ!” จินยองที่มัวอายกับคำพูดของอีกฝ่ายรีบถลาไปหยิบหนังที่เพื่อนให้มาวันก่อน แล้วสอดเข้าไปในเครื่องเล่นอย่างรวดเร็ว จนไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องท่าทางก้มๆ เงยๆ ของตนจนแทบละสายตาไม่ได้

     

    มาร์คอยากจะถามออกไปเหลือเกิน.. น้องน่ารักจะอ่อยพี่หรอครับ??

     

    “หนังเรื่องอะไรครับ?” พอจินยองจัดการกับเครื่องเล่นซีดีเรียบร้อย จอสี่เหลี่ยมตรงหน้าก็เริ่มฉายยี่ห้อผู้ผลิตต่างๆ พร้อมๆ กับร่างบางที่เดินกลับมานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม

     

    Fifty shade of Grey ครับ หนังรักๆ อะครับ” ร่างบางบอกไปตามที่เพื่อนบอกมา อันที่จริงเค้าไม่ชอบดูหนังหวานๆ เท่าไหร่ แต่ยองแจกำชับว่าต้องดูเรื่องนี้เพราะต้องสร้างบรรยากาศโรแมนซ์อยู่กันสองคนอะไรเทือกนั้น ซึ่งจินยองก็กลัวเหลือเกินว่าทั้งตัวเค้าและพี่มาร์คจะหลับไปซะก่อน

     

    “หืม?” แค่ได้ยินชื่อเรื่องมาร์คก็แทบจะจำได้ว่ามันเป็นที่ฮือฮาขนาดไหนตอนเรื่องนี้เข้าโรง นี่น้องจินยองไม่รู้จริงๆ ใช่มั๊ยเนี่ย

     

    “ทำไมหรอครับ?”

     

    “มันเป็นหนังโป๊นะ”

     

    “เอ๋!?” ร่างบางร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อสิ้นเสียงทุ้ม ในจอเริ่มฉายภาพนางเอกแสนสวยแต่ดูเปิ่นนิดๆ พอน่ารักที่ต้องเข้าไปสัมภาษณ์เจ้าของบริษัทแทนเพื่อน “งั้น.. เราเปลี่ยนเรื่องดีมั๊ยครับ?” ร่างบางเตรียมจะลุกไปหยิบดีวีดีแผ่นอื่นที่วางเรียงอยู่ตรงหน้าแทน

     

    แต่แขนแกร่งกว่าของคนเป็นพี่ดึงตัวเค้าไว้ซะก่อน มือยาวๆ พาดลงบนไหล่เล็กก่อนจะนั่งไขว้ห้างดูหนังตรงหน้าต่อ “ไม่เป็นไรครับพี่ก็ยังไม่ได้ดู ดูเรื่องนี้แหละ” บอกพลางยิ้มให้น้อง 1 ที

     

    ตอนนี้จินยองกำลังกังวลว่าพี่มาร์คจะคิดว่าเค้าเป็นพวกหื่นกามรึเปล่าเนี่ย ถึงชวนพี่เค้ามาดูหนังโป๊เนี่ย โอ๊ยยย ยองแจนะยองแจ เค้าอยากจะวิ่งไปหยิกแก้มขาวๆ ย้วยๆ นั่นให้หายโมโหซักที

     

    สุดท้ายร่างบางก็เพ่งสมาธิกับหนังในจอทีวีอีกครั้ง เอาจริงๆ หนังมันก็น่ารักดี นางเอกเป็นนักศึกษาเข้าไปสัมภาษณ์พระเอกที่เป็นเจ้าของบริษัทแบบเปิ่นๆ เพราะพระเอกหล่อมาก นางเอกก็เลยเขินไปหลายตลบ ต่อด้วยการเจอกันแบบจงใจบ้างไม่จงใจบ้างของทั้งคู่ แล้วจากนั้นพอเริ่มรักกันพระเอกก็พานางเอกขึ้นเฮลิคอปเตอร์สุดหรูเพื่อไปที่เพ้นเฮ้าส์ โอ้โห โรแมนติคสุดๆ เริ่มเข้าใจเพื่อนมานิดนึงแล้วว่าทำไมต้องดูเรื่องนี้กับคนที่ชอบสองต่อสอง







    #เปลี่ยนมน

    ......................................................................................................................................................................


    มาอัพต่อแล้วจ้ะ ขออภัยในความหายเป็นช่วงๆ ช่วงหยุดยาวเค้าไปเที่ยวระเริงมา ถถถถถถถถถถถถ


    ช่วงนี้หยุดตามหาสตอคเกอร์ก่อนนะ ขอหวานๆ ก่อน #อิ ตอนหน้ายัยลูกแมวเค้ายั่วคนพี่ล่ะะะ~ 


    แท้กฟิค #เปลี่ยนมน ในทวิตเตอร์นะจ๊ะ 

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×