คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
Change - ตอนที่ 2
#เปลี่ยนมน
“เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! นี่มันอะไรกัน!?”
เสียงหวีดร้องรับอรุณทำเอามาร์ค ต้วน แทบลุกขึ้นมาด่าว่าจะแหกปากหาอะไร แต่พอตาคมหรี่ปรือมองดูต้นตอแห่งเสียงก็ต้องเหยียดยิ้มหวานโชว์ฟันขาวออกมา
“กู้ดมอนิ่ง”
“มอนิ่งพ่อง!” คนน่ารักที่พูดจาไม่น่ารักสวนกลับทันทีตามด้วยหมอนที่เคยใช้นอนหนุนถูกปาเข้ามาอย่างแรงจนเกือบจะอัดหน้าหล่อๆ แต่แอบหวานของอีกฝ่าย โชคดีที่มาร์ค ต้วน เป็นคนไหวพริบดีมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วเลยหลบทันอย่างหวุดหวิด
“เฮ้! เล่นไรเนี่ย เกือบโดนหน้าพี่แล้วนะ” แทนตัวเองว่าพี่เหมือนที่พูดกับแบมแบมในฐานะที่อีกฝ่ายเป็นเพื่อนน้อง ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงไปยืนเท้าเอวใส่คนบนเตียงให้รู้ว่าเค้าก็ขึ้นเหมือนกัน
“แก!.. เป็นใคร.. มานอนที่นี่ได้ไง?” ถามพลางกอดผ้าห่มแน่นทำเอาคนชอบของน่ารักต้องยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี คือท่าทางอีกฝ่ายเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ที่กำลังขู่ฟ่อของอีกฝ่ายน่าเอ็นดูมากกว่าน่ากลัวจนเค้าอยากจะดึงตัวมากอดฟัดแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ที่สำคัญพอตื่นแล้วน่ารักกว่าเดิมอีก ตางี้แป๋วเชียวไม่ไหวมาร์คจะไม่ทน
ตากลมมองอีกฝ่ายอีกฝ่ายหวาดระแวง ความกลัวแล่นริ้วเข้ามาอีกทีเมื่อเห็นเสื้อผ้ากระจายเต็มพื้นห้อง.. ยังดีที่เค้ายังใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงบ้อกเซอร์อยู่ แต่อีกฝ่ายนี่สิ ใส่แค่บ้อกเซอร์ตัวเดียวคืออะไร.. เมื่อคืน จำได้แค่ว่าเสียใจเรื่องพี่แจบอมมากจนต้องไปนั่งกินเหล้าที่ผับที่แบมแบมทำงานอยู่ ตอนแรกก็นั่งกับเพื่อนสักพักเพื่อนมันก็หายไป แล้วทำไมเค้าถึงมาอยู่กับใครก็ไม่รู้ได้อะ T^T
“พี่ชื่อมาร์ค” ก็อีกฝ่ายถามว่าเป็นใคร ก็ต้องตอบล่ะจริงมั๊ย? เสียงถามงี้ขู่เมี้ยวๆ น่ารักเชียว คิดแล้วก็เดินไปจะหยิบกางเกงข้างๆ เตียงมาใส่ ใส่แต่บ้อกเซอร์มันก็หวิวๆ เหมือนกัน
แค่ร่างสูงขยับตัวจะเดินไปหยิบกางเกง คนบนเตียงก็สะดุ้งเฮือก ท่าทางจะกลัวจริงๆ ทำเอามาร์คคลี่ยิ้มออกมาอีกครั้ง
“พี่ไม่ปล้ำหรอกน่า.. “ แม้จะน่าก็เหอะ.. คำสุดท้ายคิดไว้ในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป
“แน่ใจนะ.. แล้วทำไม.. ต้องถอดเสื้อด้วยล่ะ?” ถามพลางทำหน้าเบะเหมือนจะร้องไห้
“พี่นอนถอดเสื้ออยู่แล้ว มันไม่สบายตัว.. ส่วนเสื้อน้องพี่ไม่เกี่ยวนะ.. เมาแล้วถอดเองรึเปล่า?” เสียงทุ้มถามพลางยิ้มเหมือนแซวๆ แต่อีกคนที่กำลังตกใจอยู่ไม่ค่อยขำตามเท่าไหร่นัก
“ตกลง.. กะ..แก.. เอ้ย คุณ.. เป็นใคร.. แล้วทำไมผมถึงมานอนที่นี่ได้?” พออีกฝ่ายบอกให้สบายใจขึ้นมานิดนึง(?)เสียงหวานที่ออกจะสั่นเล็กๆ เลยเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง
“บอกอีกที พี่ชื่อมาร์ค ต้วน เมื่อคืนน้องชายคนสนิทพี่ ชื่อแบมแบม ฝากเพื่อนที่อกหักไว้ให้พาขึ้นห้องมานอนถ้าเมาไม่ไหวแล้วอ่ะ” บอกพลางพาร่างไร้เสื้อของตัวเองมานั่งข้างๆ อีกฝ่าย ซึ่งร่างบางก็ขยับหนีจนชิดหมิ่นชิดขอบเตียงอีกข้าง มือยาวอยากจะเอื้อมไปรวบตัวขาวๆ นั่นมาใกล้ซะจริงๆ เพราะกลัวจะตกเตียง
“แล้วพอดีเมื่อคืน.. มันดึกแล้วพี่ก็ไม่อยากกลับบ้านคนเดียว” พูดพลางทำท่าประกอบประหนึ่งว่าตนเองเป็นสาวน้อยบอบบางเกรงจะโดนฉุด “สุดท้ายเลยต้องนอนค้างกับเราอ้ะ” อธิบายปิดเรื่องได้อย่างสุดวิสัยโดยแท้ แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นไม่ สาระอยู่แค่คนตรงหน้าน่ารักเลยอยากรู้จัก อยู่รอยันเช้าเฉยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเลยต้องลงไปนอนข้างๆ ตามนั้น ^_^
“อ่อ.. “ สมองของคนแฮ้งค์เริ่มประมวลอีกครั้งก่อนจะเริ่มรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไร “เอ่อ.. ขอบคุณครับ”
มาร์คยิ้มรับ “แฮงค์มั๊ย? พี่จะลงไปเอายาแก้แฮงค์ข้างล่างให้”
ตากลมใสกระพริบปริบๆ มองกลับมาหาพี่ชายร่างสูง ผู้มีผิวขาวถึงขาวโอโม่ที่สุด ยิ่งถอดเสื้อกระทบกับแสงแดดตอนเช้าคือแทบจะส่องแสงได้ ไหล่กว้างมีกล้ามเนื้อประกอบกับหน้าหล่อน่ารักที่ส่งยิ้มมาทำให้ร่างบางต้องหลุบสายตาหนีเพราะรู้สึกปวดตึบๆ ที่ก้อนเนื้อในอก และรู้สึกตาลายๆ ชอบกล สงสัยแฮงค์..
“มึนๆ ครับ”
พอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร น้องมารยาทก็กลับเข้ามาในคำพูดและน้ำเสียงทันที
“อืม งั้นเดี๋ยวพี่มานะ ลงไปเอายาที่ร้านให้ กินข้าวเช้ามั๊ย? หิวปะ? เดี๋ยวแวะซื้อขึ้นมาให้ด้วย เที่ยงๆ หายแฮงค์ค่อยไปก็ได้ ห้องเนี่ยเค้าใช้กันได้ถึงบ่ายโมงแน่ะ” จัดว่าร้านของจางอูยองนั้นใจกว้างสุดๆ ให้ลูกค้าสามารถเปิดห้องบนโรงแรมอย่างดีชั้นบนเพื่อใช้บริการตามใจฉัน(?) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกิจกรรมเข้าจังหวะล่ะนะ แถมเปิดห้องแล้วอยู่ได้ยันบ่ายโมงค่อยเช็คเอ้าท์โดยการวางเงินไว้ให้โฮสต์แล้วย่องออกไปเงียบๆ หรือจะพากันออกไปกินข้าวกินปลาจีบกันต่อก็ตามสบาย พอเย็นก็แยกย้ายคุณโฮสต์ส่วนใหญ่ก็กลับมาทำงานทำการตรงเวลาเท่าเดิมหลังจากพักมาทั้งวัน
“คระ ครับ..”
ร่างสูงของพี่มาร์คเดินออกจากห้องไปทันทีที่หยิบเสื้อกล้ามที่คว้านลึกสุดๆ ไปใส่ ทำเอาคนตัวบางที่นั่งเกร็งบนเตียงถอนใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยก็รู้ว่าคนที่เค้าค้างด้วยเป็นใครล่ะนะ จริงอยู่ว่าผู้ชายเหมือนกันจะตกใจทำไม แต่ด้วยสภาพเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายกับร่างกายที่เกือบๆ จะเปลือยของคนสองคนทำให้เค้าช้อคจริงๆ นี่นา แทบจะถีบอีกฝ่ายตกเตียงอยู่มะรอมมะร่ออยู่แล้ว แต่ดูๆ แล้วพี่มาร์คคงไม่ทำอะไรเค้าหรอกมั้งสวยขนาดนั้น.. น่าจะชอบแบบผู้ชายหล่อล่ำๆ มากกว่าหน้าจืดชืดๆ เด๋อๆ (?) แบบเค้า..
คิดก่อนจะเริ่มหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาใส่ลวกๆ เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์เข่าขาดถูกนำมาสวมใส่ ก่อนที่ร่างบางจะล้วงสมาร์ทโฟนในกระเป๋าขึ้นมาเปิดอ่านข้อความจากแอปพลิเคชั่นแชท
อิมแจบอม: อยู่ไหน ทำไม ไม่รับโทรศัพท์
.
อิมแจบอม: โทร.กลับมาหาพี่ด้วย
.
อิมแจบอม: พี่เป็นห่วงนะ
.
.
.
.
.
“ข้าวมาแล้วจร้า..” เสียงทุ้มต่ำแต่แอ๊บแหว๋วดังขึ้นข้างหูทำเอาร่างเล็กที่นั่งอ่านข้อความในมือถือถึงกับสะดุ้งสุดตัว
หัวกลมหันมาหาอีกฝ่ายพลางใช้มือเล็กปาดน้ำตาที่เปรอะหน้าออกป้อยๆ
“เห้ย น้อง... ร้องไห้ทำไม?” คนเป็นพี่ตกใจแทบจะปล่อยถุงข้าว แต่ยังดีที่พอมีสติเลยวางลงเบาๆ ข้างเตียงแล้วรีบมาลูบไหล่น้องน่ารัก ที่อุตส่าไปซื้อข้าวหยิบยาให้ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักชื่อแซ่กันดี
“ปละ เปล่า.. ครับ” รีบหันหนีไปทางอื่น แต่คนเป็นพี่กลับดึงคางมนให้หันหน้ากลับมาเผชิญพลางมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ร่างบางต้องหลุบหนี หยาดน้ำตาหยดเผาะๆ ของจากใบหน้าน่ารักที่มาร์คประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งทำให้คนเป็นพี่นึกขึ้นมาถึงตอนที่คนตรงหน้ากินเหล้าแล้วร้องไห้ไม่ได้ อ่อ.. คงจะเป็นเรื่องที่อกหักสินะ
“ไหนบอกพี่มาร์คมาสิครับว่าเป็นอะไร?” ความมุ้งมิ้งตอนแรกถูกโยนทิ้งไปแล้วเปลี่ยนมาเก็กเสียงหล่อซะเฉยๆ
“ผม.. ผม... “ มือเล็กกำโทรศัพท์ในมือแน่นจนสั่นทำเอามาร์คอดเป็นห่วงไม่ได้ ตาคมเหลือบมองก่อนที่มือยาวเอื้อมไปแตะมือเล็กเบาๆ แล้วค่อยๆ กอบกำมือของอีกฝ่ายไว้ทั้งมือ
ตาคมเหลือบไปมองหน้าจอโทรศัพท์อย่างแอบละลาบละล้วงนิดหน่อย เห็นชื่อแจบอมแว้บๆ ซึ่งถ้าหัวสมองอันชาญฉลาดของเค้าจำไม่ผิดก็คือชื่อคนที่เป็นต้นเหตุให้คนน่ารักร้องไห้เมื่อคืนนั่นแล
“ฮึก.. ฮือๆๆ”
“ไม่เป็นไร ชู่ว.. ไม่เป็นไร.. ไม่ต้องพูดก็ได้” รู้ตัวอีกทีร่างที่สั่นไหวเพราะแรงสะอื้นก็ถูกดึงตัวไปกอดไว้ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย คนเป็นน้องซุกหน้าลงบนไหล่ลาดของอีกฝ่ายแล้วระบายความเสียใจที่อัดอั้นอยู่ออกมา ขณะที่คนพี่ได้แต่ลูบกลุ่มผมนิ่มๆ นั่นอย่างปลอบๆ ปกติแล้วเค้าไม่ชอบคนร้องไห้.. มันน่ารำคาญ.. ที่สำคัญปกติแล้วเค้าไม่ชอบปลอบใครเลย.. มันเสียเวลา.. แต่กลับเด็กคนนี้เหมือนอะไรๆ มัน ‘เปลี่ยน’ ไป...
ร่างบางใช้เวลาร้องไห้สักพักใหญ่ๆ ก่อนจะเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายที่ช่วยดูแลตอนที่เมา แถมยังอยู่เป็นเพื่อนตอนร้องไห้อีก ในขณะที่เพื่อนตัวจริงของเค้าไม่รู้หายไปไหน
“กินยาหน่อยมั๊ย? หรือร้องไห้จนหายแฮงค์แล้ว?” ถามแซวทั้งยังไม่ยอมยื่นน้ำให้
“เง้อ.. พี่มาร์คอ่ะ.. ผมปวดหัวนะ” เริ่มงอแงใส่คนเป็นพี่เมื่อโดนแกล้ง นั่นยิ่งทำให้มาร์ครู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างน่ารักเหลือเกิน มือยาวยื่นน้ำกับยาให้คนเป็นน้องพลางนั่งดูอีกฝ่ายกินน้ำกินยาจนเรียบร้อย
“เอ้อ.. พี่ยังไม่รู้จักชื่อเราเลย ชื่ออะไรอะ?”
“ชื่อจินยองครับ.. ปาร์คจินยอง” บอกพลางยิ้มให้คนเป็นจนเห็นรอยยาวที่หางตา
“อื้อ จินยองงี่เลิกเศร้าได้แล้วนะ ไปกินข้าวกันเหอะจะเที่ยงละข้าวเช้ายังไม่ได้กินเลย” บอกพลางฉุดแขนอีกฝ่ายให้เดินออกจากห้องนอนไปกินข้าวโซนหน้าทีวีด้วยกัน ซึ่งคนเป็นน้องก็เดินตามอย่างว่าง่ายตามประสาเด็กดี
พูดคุยกันไปนิดหน่อยก่อนจะจบลงด้วยคำขอบคุณจากคนเป็นน้องอีกครั้ง และบอกว่าจะเลี้ยงข้าวตอบแทน ส่วนคนที่จะได้กินข้าวฟรีในอนาคตก็ยิ้มตอบไปเท่านั้น จากนั้นจินยองบอกว่าจะกลับไปมหาลัยเพื่อเข้าคลาสในช่วงบ่าย รุ่นพี่ใจดีเลยอาสาขับรถไปส่งให้ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีเรียน แต่อาจจะแวะเข้าไปหาเพื่อนฝูงสักหน่อยเพราะยังไงทั้งเค้า อูยอง แบมแบม แล้วก็จินยองก็เรียนที่เดียวกันอยู่แล้ว
“ปาร์คจินยอง!! ใครมาส่ง บอกมานะ” เป็นเสียงแหลมทรงพลังจากเพื่อนสนิทที่แหวใส่หูทันทีที่ก้าวลงจากรถแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ
“พี่มาร์คอะ พี่ของแบมแบม”
“พี่มาร์ค.. ชื่อคุ้นๆ แฮะ.. เออ ช่างเหอะ แล้วเมื่อวานเป็นไงอ่ะ? ขอโทษนะไม่ได้ไปด้วย แต่เราติดรายงานกลุ่มจริงๆ” เพื่อนบอกพลางทำหน้ารู้สึกผิดสุดชีวิต
“เอ้อ ไม่เป็นไร.. แล้วรายงานเสร็จไม๊ล่ะยองแจ ถ้ายัง.. เดี๋ยวลองปรึกษากลุ่มเราก็ได้นะ” เพราะว่ารายงานวิชาภาษาโรมันที่จัดตามเลขที่ประจำตัวทำให้แก๊งเพื่อนสนิทของเค้าไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน โชคดีของจินยองที่ในกลุ่มมีแต่คนเก่งๆ รายงานเลยเสร็จเรียบร้อยไปตั้งแต่สองสามวันแรกที่อาจารย์สั่ง
“เสร็จแบบกากๆ อ่ะ” บ่นพลางทำปากเบ้
“โอ๋ๆ อย่าคิดมากน้า.. อาจารย์จุนโฮรักยองแจจะตาย เดี๋ยวแกก็ช่วย” จินยองยิ้มให้กำลังใจเพื่อนพลางตบบ่าปุๆ สองเพื่อนซี้นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยระหว่างรอเข้าคาบบ่าย จนยองแจวกมาเรื่องที่มีผลกระทบต่อจิตใจ
“แล้ว.. เรื่องพี่แจบอม.. เป็นไงมั่ง?”
“อ่า.. ยังไม่ได้คุยกันเลยอ่ะ” ร่างบางตอบแค่นั้น เพราะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรอื่นอีกดี.. เค้าเห็นข้อความผ่านทางแชทมือถือมากมายจากแจบอม แต่ก็ไม่ได้ตอบกลับไปแม้แต่ข้อความเดียว.. แค่รู้สึกอยากจะห่างหายไปสักพัก..
“อื้อ.. อย่าคิดมากนะจินยอง”
“จ้า.. ขอบใจนะ.. เอ้อ แล้วนี่แบมไปไหน เมื่อคืนมันทิ้งเราไว้กับพี่มันเฉยเลย ดีนะพี่เค้าน่ารักแถมยังใจดีอีก” เสียงใสบ่นพลางหันรีหันขวามองหาเพื่อน
“แบมหยุด.. บอกว่าแฮงค์อ้ะ”
“นั่นไง.. เพื่อนก็ไม่มาดูแล.. โดดเรียนอีก.. คนเรา” จินยองประชดขำๆ ก่อนจะขำไม่ออกเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอใครอีกคนที่อยู่ๆ มายืนตรงนี้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
พี่แจบอม
จัดว่าไม่บ่อยนักที่หนุ่มหล่อระดับเดือนมหาลัยอย่างอิมแจบอมจะมาเยือนคณะอักษร ทั้งๆ ที่มีน้องชายคนสนิทอยู่ที่คณะนี้ แต่คนเป็นน้องต่างหากที่ส่วนใหญ่จะต้องเดินไปหาแจบอมถึงคณะวิศวะ
“ทำไมไม่ตอบข้อความ? แล้วเมื่อวานหายไปไหน?” เสียงทุ้มกดให้เข้มพลางดึงแขนเรียวของคนเป็นน้องอย่างแรงจนจินยองเซไปตามแรงของอีกฝ่ายจนร่างบางๆ กระแทกลงกับอกแกร่งเต็มๆ
“พี่แจบอม ผมเจ็บ..”
มือหนายอมคลายมือออกแต่ตาคมยังจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ก่อนที่จะหันใบหน้ามาหารุ่นน้องอีกคนที่นั่งอยู่ “ยองแจไปเรียนคนเดียวก่อนได้มั๊ย พี่คุยกันจินยองเสร็จแล้วเดี๋ยวพาไปส่งที่ห้องเรียน”
“อะ.. ครับ..”
พอยองแจลุกไปแล้วอิมแจบอมก็ถือโอกาสลากน้องชายคนสนิทออกจากตรงนั้นเพื่อไปคุยกันให้รู้เรื่องทันที ทั้งสองเดินมาหยุดที่ห้องเรียนที่ไม่ใช้ห้องหนึ่ง ร่างสูงถอนหายใจอ่อนเมื่อมองสีหน้าซีดๆ ของน้อง จินยองกำลังก้มหน้ามองมือตัวเองที่ขยำกางเกงอยู่ สภาพเสื้อผ้ายับยุ่งกับผมเผ้าที่ดูไม่ค่อยเป็นทรงนักกับเรื่องที่น้องทำตัวเหลวไหลเมื่อคืนทำให้แจบอมทำใจเย็นได้ยากจริงๆ
“ตกลงเมื่อคืนไปไหนมา”
.....................................................................................................................................................................................................
งานเข้าาาาาา พี่แจบอมมาาาาาา >w<
ตอนนี้น่าจะเป็นตอนสุดท้ายของปีนี้นะจ๊ะ เพราะเดี๋ยวเราจะไปจำศีลบนเขา(?) มีเน็ต แต่ไร้คอม.. คือเอาไปแต่ไอแพด ขี้เกียจแบกโน๊ตบุ้คไปอ่าาา แหะๆ ดังนั้นเจอกันอีกทีหลังปีใหม่นะคระ
Merry X Mas and Happy New Year 2015 ล่วงหน้าจ้ะ <3
รีดเดอร์ไปสครีมเรื่องนี้ให้เราอ่านได้ที่แท้ก #เปลี่ยนมน ในทวิตเตอร์นะจ๊ะ
ความคิดเห็น