ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7] Change - MarkNior

    ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 18

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 635
      9
      23 เม.ย. 58


    Change - ตอนที่ 18

     

    #เปลี่ยนมน



    มาร์คกับแบมแบมสอดบัตรเข้าไปแล้วเดินคลำทางในความมืดเข้าไปในตัวห้องสมุด โดยแบมแบมเป็นคนนำทางเพราะเป็นห้องสมุดของคณะเค้าเอง ก็พอพาพี่มาร์คหลบโต๊ะเก้าอี้ได้บ้าง

     

    “จินยอง!” ทันทีที่เข้าห้องสมุดได้ ร่างสูงก็ส่งเสียงเรียกด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเค้าสักที

     

    “พี่มาร์ค!!!

     

    มาร์คกับแบมแบมถอนหายใจโล่งอกเมื่อได้ยินเสียงหวานของปาร์คจินยองตอบกลับมา “จินยอง เป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมโทร.หาไม่ติด..” แบมแบมรีบสาวเท้าพาตัวเองและคนเดินตามหลังไปทางต้นเสียง

     

    “เราไม่เป็นไรแบม โทรศัพท์เราแบตหมด แต่เหมือนชั้นหนังสือมันจะเอียงลงมา เราไม่รู้ว่าถ้าปล่อยแล้วมันจะตกลงมารึเปล่า” บอกพลางพยายามหรี่ตามองในความมืด แต่มันไม่เห็นอะไรจริงๆ หลังจากเค้าได้ยินเสียงโครมใหญ่เค้าก็พบว่าชั้นหนังสือด้านซ้ายมือของตัวเองเอียงลงมา แต่จินยองเอามือค้ำไว้ ซึ่งไม่แน่ใจว่าแรงของเค้าที่ยันมันไว้อยู่ หรือชั้นนี้ไปพาดกับอย่างอื่นกันแน่ถึงไม่ตกลงมา มีเพียงหนังสือสองแถวบนสุดที่ตอนนี้สไลด์มากองที่พื้นหมดแล้ว

     

    “งั้นอยู่เฉยๆ เรากับพี่มาร์คกำลังเดินไปช่วย” แบมแบมร้องบอกเพื่อน พลางเดินไปโซนชั้นหนังสือตรงกลางห้องสมุด

     

     

     

    พลั่ก!

     

     

     

    “เชี่ย!!” มาร์คอุทานอย่างตกใจเมื่อไหล่เค้าฟาดไปโดนอะไรบางอย่าง ที่เหมือนจะเคลื่อนไหวได้

     

    “พี่มาร์ค!! เป็นอะไรรึเปล่า?” แบมแบมหันไปถามเมื่อได้ยินเสียง พลางดึงแขนอีกฝ่ายไว้อย่างเป็นห่วง

     

    “พี่มาร์ค?” จินยองก็ส่งเสียงมาเช่นกัน

     

    “ไม่เป็นไรๆ เหมือนไปกระแทกอะไรสักอย่างเอง มันมืดน่ะ” มาร์คไม่ได้สนใจอะไรเพราะตอนนี้การไปช่วยจินยองสำคัญกว่าอะไรก็ไม่รู้ที่เค้าชนเมื่อครู่

     

    “แต่ตรงนี้ไม่มีตู้นะ..”

     

    !!!

     

    พรึ่บ! แสงไฟสว่างวาบพอดีกับที่ทั้งสามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสของม่านตา มาร์ครีบมองไปรอบๆ เพื่อหาจินยอง และก็พบว่าร่างของน้องยืนอยู่ระหว่างชั้นหนังสืออันนึงที่กำลังเอนไปหาอีกอัน มือขาวยันชั้นอันที่เอนไว้กันไม่ให้ล้มมากไปกว่านี้ ขณะที่อีกอันที่ถูกพาดอยู่ก็เริ่มเอนเอียงไปมาอย่างขาดความสมดุล ตาคมถลึงมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจเมื่อแขนของจินยองเริ่มจะอ่อนแรง และหนังสือเล่มหนาหลายเล่มจากชั้นอันแรกกำลังจะตกลงมาใส่จินยองที่กำลังหลับตาปี๋เพราะไม่กล้าปล่อยมือออกจากตัวชั้นที่ตนยันเอาไว้อยู่

     

    “จินยอง!!” มาร์ครีบวิ่งไปหาจินยองก่อนจะดึงร่างขาวมากอดไว้ ขณะที่มือก็ยกขึ้นกันหนังสือเล่มหนาที่ตกลงมาหาคนทั้งคู่อย่างไม่ปราณี

     

    “เห้ย พี่มาร์ค/พี่มาร์ค!!!!” ทั้งแบมแบมแล้วก็จินยองประสานเสียงพร้อมกันเมื่อเห็นว่าหนังสือทั้งหลายกระแทกลงบนไหล่อีกฝ่ายเต็มตา

     

    “อึ้ก! ดึงชั้นหนังสือขึ้นไปก่อน” ร่างโปร่งสั่งน้องๆ ก่อนจะใช้มือช่วยจินยองดันชั้นหนังสือกลับไปที่เดิม กอปรกับแบมแบมที่ช่วยดึงจากอีกด้าน ทำให้ชั้นหนังสือที่เคยเอนเอียงเมื่อครู่กลับมาสู่สภาพปกติ แม้หนังสือจะร่วงออกจากชั้นไปเกือบทั้งหมดแล้วก็เถอะ

     

    “พี่มาร์ค เป็นไรรึเปล่า?” พอตั้งชั้นหนังสือเจ้าปัญหาได้ ร่างเล็กในอ้อมกอดก็เงยหน้ามองอีกคนทันที ก็พี่มาร์คเล่นดึงเค้าไปกอดจนจมไหล่แล้วตัวเองเอาตัวบังไว้แบบนี้ทำให้จินยองไม่ได้โดนหนังสือเล่มหนาตกลงมากระแทก ขณะที่อีกฝ่ายโดนไปเป็นสิบเล่มได้

     

    “เจ็บไหล่หน่อยๆ แต่ไม่เป็นไร จินยองล่ะเจ็บตรงไหนรึเปล่า?” ใบหน้าหล่อเหลาขาวซีดเงยขึ้นมามองใบหน้าน่ารักของคนในอ้อมกอด

     

    “ผมไม่เป็นไร ขอบคุณนะครับ” ร่างบางช้อนตามองคนเป็นพี่ก่อนจะพยุงให้ไปนั่งพักตรงโต๊ะใกล้ๆ “พี่เจ็บมากไม๊ครับ?”

     

    “ไม่เป็นไรครับ” ยิ้มบางก่อนนิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวดที่แล่นปรื้ดเข้าสู่สมอง ชายหนุ่มกัดฟันแน่นเพราะไม่อยากให้น้องต้องเป็นกังวลกับความเจ็บของเค้า

     

    “เห้อ จินยองอ่า.. เราตกใจหมดเลย” แบมแบมโพล่งออกมาอย่างโล่งใจเมื่อทั้งสองคนดูจะไม่เป็นไรมาก

     

    “เราไม่เป็นไรแต่พี่มาร์คดิ่” จินยองพูดเสียงอ่อย พลางส่งมือนิ่มๆ ไปนวดไหล่กว้างเบาๆ อย่างเป็นห่วง

     

    “พี่ไม่ได้เป็นไรนี่ครับ เจ็บนิดหน่อยๆ เหมือนมดกัด”

     

    “แน่ใจนะพี่ว่าไม่เป็นไร ตัวก็ผอมแห้ง ไม่เจียม ยังจะทำเป็นพระเอกอีก” เป็นน้ำเสียงใสๆ แอบกวนเล็กๆ ของแบมแบม ที่พูดออกมาอย่างหมั่นไส้ มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าอีกฝ่ายฝืนยิ้มแค่ไหน

     

    แจบอมและยองแจที่ไปสับคัทเอ้าท์จนไฟกลับมาติดอีกครั้งรีบวิ่งมาดูเหตุการณ์ ร่างสูงรีบวิ่งมาหาน้องชายคนสนิทของตัวเองอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นสภาพชั้นหนังสือที่โล่งเตียนปราศจากเล่มหนังสือ กับกองหนังสือหนาๆ ที่เละเทะอยู่ที่พื้น ซึ่งดูยังไงคงไม่ใช่ปรากฎการณ์ธรรมชาติของห้องสมุดแน่ๆ แม้เค้าจะไม่เคยใช้บริการห้องสมุดนี้ก็เถอะ

     

    “จินยอง เป็นไรรึเปล่า?”

     

    “พะ.. พี่แจบอม.. ผมไม่ได้เป็นไร” จินยองตกใจเหมือนกันที่อยู่ๆ พี่ชายคนสนิทที่กำลังมีเรื่องหมางใจกันอยู่ก็ตรงดิ่งมาจับตัวเค้าพลิกไปมา จนเจ็บแขนนิดๆ จากแรงมือแกร่งที่กดลงมา

     

    “พี่เป็นห่วงแทบตาย ทำไมมือถือติดต่อไม่ได้ล่ะ? แล้วทำไมมาอยู่ห้องสมุดที่ไม่มีคนแบบนี้? ถ้าเป็นอะไรไปพี่จะบอกคุณแม่จินยองว่าไง?” เสียงทุ้มรัวคำถามแบบไม่รอคำตอบ ก่อนจะรั้งร่างผอมบางของคนตรงหน้ามากอดไว้แน่นอย่างตกใจไม่หาย ขณะที่จินยองก็ได้แต่ยืนงงไม่เข้าใจว่าพี่แจบอมเป็นอะไร

     

    “อะ.. เอ่อ.. ผมไปช่วยแบมแบมเก็บหนังสือนะครับ..” ยองแจที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่เริ่มรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ขาขาวพาตัวเองเดินตามเพื่อนอีกคนที่หันไปบอกรุ่นพี่อีกคนว่าจะไปเก็บหนังสือเข้าชั้น บ่อยครั้งที่เค้ารู้สึกแปลกๆ เวลาพี่แจบอมเป็นห่วงจินยอง ทั้งๆ ที่เค้าเองก็รู้อยู่แล้วว่าทำไมคนรักถึงจำเป็นต้องดูแลเพื่อนสนิทของตัวเองเป็นพิเศษ แต่หัวใจเจ้ากรรมมันขี้อิจฉาเสมอ

     

    “...”

     

    “ตกลงเป็นอะไรรึเปล่า?”

     

    ปละ เปล่า.. ครับจินยองตอบตะกุกตะกัก แล้วพยายามผละตัวเองออกจากอ้อมกอดคนตรงหน้า อาจจะเพราะเค้าทำตัวไม่ค่อยถูกเพราะไม่ได้ใกล้ชิดอีกฝ่ายแบบนี้มาสักพักตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น เค้าก็ไม่รู้จะเจอหน้าหรือพูดคุยกับคนตรงหน้าในสถานะไหน เพราะเค้าไม่เคยบอกความรู้สึกของตัวเองออกไป แต่สถานการณ์มันกลับกลายเป็นว่าเค้าหลบหน้าทั้งยองแจและพี่แจบอม เพราะโดนเพื่อนแย่งอีกฝ่ายไปจากเค้าทั้งๆ ที่เค้าเองเป็นแค่พี่น้องกับพี่แจบอมเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นพี่มาร์คก็นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ด้วย สถานะของเค้ากับพี่มาร์คก็ยังไม่ชัดเจนอีกยิ่งทำให้จินยองกระอักกระอ่วนไปใหญ่

     

    ผลุบ!

     

    จู่ๆ คนที่นั่งเจ็บไหล่อยู่ก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้

     

    “พี่มาร์ค!

     

    “เดี๋ยวพี่ไปช่วยแบมเก็บของนะ จินยองคุยให้เสร็จเถอะ”

     

    “แต่พี่เจ็บอยู่..”

     

    “พี่ไม่เป็นไรครับ”

     

    พี่มาร์คเดินไปแล้ว เหลือไว้แต่อิมแจบอมพี่ชายที่เคยสนิท กับปาร์คจินยองน้องชายที่เคยแอบรักข้างเดียว กับความเงียบที่เริ่มก่อตัวระหว่างคนทั้งคู่

     

    “...”

     

    “...”

     

    “ไม่เป็นไรแน่นะ..” เป็นเสียงทุ้มของแจบอมที่เลือกจะทำลายความเงียบ พลางดึงมือน้อยของคนตรงหน้ามากุมไว้

     

    “ครับ”

     

    “ทำไมถึงโทร.หาไม่ติดล่ะ?”

     

    “โทรศัพท์ผมแบตหมด...”

     

    “ทำไมถึงอยู่คนเดียวล่ะ?”

     

    “รอคุยกับยองแจครับ..” คำตอบของจินยองทำให้ร่างสูงชะงัก ทั้งๆ ที่ควรเป็นเค้าที่จะต้องบอกเรื่องนี้กับน้องเอง แต่กลับปล่อยไว้จนมันบานปลายขนาดนี้ โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่เกิดเรื่องร้ายๆ กับจินยอง

     

    “จินยอง.. พี่ขอโทษนะ... พี่..”

     

    “...”

     

    ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องยองแจแจบอมบอกด้วยเสียงแหบแห้ง เค้ารู้สึกผิดกับคนตรงหน้าเหลือเกินที่ปล่อยให้น้องมีความรู้สึกกับตัวเองมากมาย และไม่จัดการแก้ไขสักที เพราะเอาแต่คิดว่ามันคงมีสักวันที่คนตรงหน้าตัดใจจากเค้าไปเอง เพราะเค้าก็มีแฟนตลอด แม้คนคนนั้นจะไม่ใช่ยองแจ แต่เค้าเองก็พยายามจะเริ่มต้นใหม่กับหลายๆ คนที่ผ่านมาและจินยองก็รับรู้ เค้ามองเห็นความเจ็บปวดของคนตรงหน้า แต่คิดว่ามันจะทำให้คนตรงหน้าก้าวผ่านความรู้สึกนี้ไปและเลิกรู้สึกกับเค้าเกินพี่น้องในที่สุด จนในตอนนี้เค้าถึงได้รู้ว่าจินยองต่างหากที่เป็นคนที่เสียใจมาตลอดด้วยน้ำมือคนที่เป็นพี่อย่างเค้า

     

    “...”

     

    “ผม.. ถามได้มั๊ยครับ?”

     

    นัยน์ตาคมสบกับดวงตาหวานฉ่ำน้ำตรงหน้าอย่างรู้สึกผิด “จินยองจะถามอะไรก็ได้ พี่จะตอบทุกอย่าง”

     

    ทำไม.. พี่ไม่บอกผมล่ะครับ?” ถามออกไปพร้อมๆ กับฟันขาวกัดลงที่ปากนุ่มเบาๆ ก่อนที่จะใบหน้าน่ารักจะก้มมองมือตัวเองแทนที่จะเป็นใบหน้าคมของคนตรงหน้า

     

    “จินยองอาจจะรู้สึกว่ามันเหมือนคำแก้ตัวนะ แต่พี่กับยองแจเป็นห่วงจินยองมากจริงๆ” ร่างสูงตัดสินใจบอกเรื่องราวทุกอย่างเสียที เพราะหวังว่าคนตรงหน้าจะฟังเค้าบ้าง “ตั้งแต่ม.ปลายแล้วที่พวกเรารู้สึกว่าจินยองโดนสตอคเกอร์ตาม และโดนปองร้ายอยู่บ่อยๆ พวกพี่ก็ระวังให้มาตลอด จินยองก็เห็นใช่มั๊ย วันนี้มันผิดปกติมากที่คัทเอ้าท์โดนสับแล้วจินยองก็อยู่ในห้องสมุดคนเดียว”

     

    นัยน์ตาหวานเบิกกว้าง ยอมรับเลยว่าร่างบางตกใจไม่ใช่น้อยกับสิ่งที่คนเป็นพี่บอก แต่ก็ยังทำใจรับฟังเรื่องราวต่อไปโดยไม่ขัดจังหวะอะไรเพื่อให้คนตรงหน้าได้อธิบายอย่างที่ต้องการ จนตอนหลังความสัมพันธ์ของพี่กับยองแจมันเลยเถิด..

     

    แจบอมเลือกที่จะไม่เล่าในรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเค้ามากนัก เพราะไม่อยากให้น้องต้องรู้สึกไม่ดีกับเรื่องที่เค้ามีความสัมพันธ์กันลับหลังน้อง ตาคมมองสบกับอีกฝ่ายเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิดแต่แก้วตาใสนั่นเพียงมองนิ่งๆ กลับมา สุดท้ายเค้าจึงเลือกที่จะพูดต่อ แล้วต่อมาพวกเรารู้ว่าจินยองคิดยังไงกับพี่ พวกเราเลยเลือกที่จะไม่บอก เพราะกลัวว่าถ้าจินยองโกรธพวกเรา จนตีตัวออกห่าง ถึงตอนนั้นจะไม่มีใครคอยดูแลจินยอง แล้วถ้าไอ้โรคจิตนั่นทำอะไร... พวกพี่เป็นห่วงจริงๆ และตอนนั้นพี่ก็ยังไม่ไว้ใจแบมแบมด้วย

     

    “...”

     

    “พี่ขอโทษจริงๆ แต่พี่กับยองแจ ไม่ได้อยากจะโกหกจินยองเลยนะ”

     

    ปาร์คจินยองถอนหายใจยาวหลังจากฟังเรื่องราวจบ ตากลมช้อนมองคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจ ก่อนที่ริมฝีปากแดงๆ จะเริ่มขยับพูด พี่.. ไม่เชื่อใจผมบ้างเลย.. ผมในสายตาพี่ดูเป็นคนใจแคบขนาดนั้นเลยหรอ? ถ้าพวกพี่จะรักกัน แล้วผมจะต้องโกรธพวกพี่หรอ? แล้วสตอคเกอร์นั่นน่ะ ไม่ใช่สิ่งที่ผมควรจะรู้หรอพี่?”

     

    เสียงหวานที่เอ่ยถามอย่างอ่อนแรงทำให้แจบอมยิ่งรู้สึกผิดมากกว่าเดิม นั่นสินะ.. ทำไมเค้าถึงไม่เคยนึกเลยว่าจินยองเป็นคนอ่อนโยนขนาดไหน อาจจะเพราะเรื่องอื่นที่วิ่งเข้ามารกหัวสมองกับความรู้สึกหลายๆ อย่างมันบังตาไปหมด ทั้งเรื่องที่เค้าต้องเลิกกับยองแจ หรือเรื่องที่เค้าคบผู้หญิงไปเรื่อยเปื่อย รวมถึงเรื่องที่เค้าคิดว่าจินยองไม่ค่อยเชื่อฟังจนต้องมีปากเสียงกันบ่อย มันก็คงเป็นเค้าเองที่คิดถึงแต่เรื่องอื่น จนไม่ได้หันมามองน้องตัวเองให้ชัดๆ ว่าคนตรงหน้าเป็นยังไง ขอโทษ..

    ปากบางเม้มแน่นเป็นเส้นตรง.. เค้ารู้อยู่แล้ว รู้ว่าคนตรงหน้าไม่เคยรัก.. ไม่เคยมีใจให้.. แต่ฐานะพี่น้อง หรือคนที่เติบโตมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน เค้าอดรู้สึกเสียใจไม่ได้จริงๆ ที่คนตรงหน้าไม่ใส่ใจเค้าสักนิด ไม่ว่าเรื่องความรู้สึก.. หรือเรื่องว่านิสัยเค้าเป็นแบบไหน.. แต่กลับเลือกตัดสินใจเอง ไม่ปรึกษากันสักคำ แบบนี้ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอพี่แจบอม..

    ผมไม่ได้โกรธพวกพี่หรอกนะ แต่มันรู้สึกแย่จริงๆ ที่พี่ไม่บอกกัน และตอนนี้มันก็ยังแย่ที่พี่ที่รู้จักผมมาตั้งแต่เกิดไม่เคยเชื่อใจผมเลยสักนิดร่างบางบอกพลางดึงมือเล็กๆ ของตัวเองออกจากการกอบกุมของคนตรงหน้า แต่ผมขอบคุณพี่มากที่คอยดูแลผมมาตลอด ต่อไปผมจะระวังตัวเองพี่ไม่ต้องห่วง

     

    “จินยอง..”

     

    “ส่วนยองแจ.. ยองแจยังเป็นเพื่อนผมไม่ว่าพวกพี่จะคบกันรึเปล่า.. “ จินยองเว้นวรรคไปครู่นึงพลางมองไปที่คนรักของแจบอมที่กำลังจัดหนังสือเข้าชั้นด้วยท่าทางหงอยๆ “ส่วนพี่...” สำหรับคนตรงหน้าเค้าไม่แน่ใจว่ามันควรจะออกมารูปไหน เค้าไม่ได้อยากสนิทสนมกับคนตรงหน้าเหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะอะไรหลายๆ อย่างมันเปลี่ยนไป ทั้งความรู้สึกที่มีให้ และเรื่องที่เกิดขึ้น

     

    “...”

     

    “ส่วนพี่ก็ยังเป็นพี่ชายของผม และเราก็จะเป็นพี่น้องอย่างที่มันควรจะเป็น” สุดท้ายเสียงใสเลือกที่จะบอกไป โดยคิดว่าอีกฝ่ายก็น่าจะเข้าใจสิ่งที่เค้าสื่อ

     

    “อืม.. ขอโทษนะจินยอง” มือแกร่งเอื้อมมือขึ้นลูบเบาๆ ที่หัวทุยอย่างเคยชิน แต่อีกฝ่ายกลับเอียงหัวหลบอย่างไม่เคยเป็น

     

    แล้วพี่ก็เลิกได้แล้วนิสัยมือไวกับคนอื่นเนี่ย สงสารแฟนตัวเองบ้างบอกก่อนที่ร่างบางจะเดินออกไปรวมกับเพื่อนฝูงที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บหนังสือเข้าชั้นกันอยู่ ทิ้งให้อิมแจบอมได้แต่ส่ายหัวเบาๆ กับตัวเองที่โดนอีกฝ่ายตอกหน้ากลับมาซะไม่เหลือชิ้นดีก่อนที่เอามือที่ชะงักค้างอยู่กลางอากาศนั้นลง แล้วเดินตามน้องไป

     

     

     

    “เคลียร์กับพี่แจบอมแล้วหรอ?” เป็นเสียงเพื่อนสนิทอย่างแบมแบมที่ถามขึ้นทันทีที่เห็นว่าจินยองเดินไปช่วยพี่มาร์คเก็บหนังสือเข้าชั้น

     

    “อื้อ”

     

    “ดีและ คนแถวนี้จะได้ไม่ต้องทำหน้าตาเหมือนคนอกหัก” บอกพลางเหล่ตามองรุ่นพี่ต่างคณะที่ยืนอยู่ถัดจากเพื่อน

     

    “...” แต่คนถูกแซะได้แต่ทำหน้าเก็กนิ่งๆ

     

    ตาหวานช้อนตามองรุ่นพี่ใจดี ก่อนถามประโยคที่แบมแบมถึงกับต้องหลุดขำออกมา “พี่มาร์คทำหน้าอกหักหรอครับ?”

     

    “ไม่ได้ทำครับ” ยังคงทำหน้านิ่งๆ ต่อไป

     

    “ดีแล้วครับ.. ไม่ได้อกหักซะหน่อย จะทำหน้าอกหักทำไม” บอกพลางยิ้มให้คนเป็นพี่แล้วก้มหน้างุดๆ ทำเป็นจัดหนังสือตรงหน้าต่อ ทิ้งให้อีกฝ่ายยืนงงๆ เพราะไม่เคยถูกน้องหยอดมาก่อน เคยแต่เป็นคนหยอดเค้า

     

    “โอ๊ย เบื่อคนจีบกัน ไปจัดด้านโน้นคนเดียวดีกว่า” บางทีแบมแบมก็หมั่นไส้ เพื่อนคนนั้นก็มีแฟน เพื่อนคนนี้ก็จีบกัน โอ๊ยยยย ไม่มีแฟนสักห้าหกคนบ้างก็ให้มันรู้ไป เห็นยังงี้ตอนอยู่ในร้านเค้าฮอตจะตาย คนเรียกให้ไปนั่งด้วยไม่ขาด เพราะเจอพี่มาร์คเวอร์ชั่นเท่ห์เค้าไป ไม่มีโต๊ะผู้ชายเรียกพี่มาร์คอีกเลย (มีแต่สาวๆ เรียก) เดี๋ยวนี้แขกพวกนั้นเลยหันมาเรียกเค้าไปรินเหล้าแทน ได้ทิปเป็นกอบเป็นกำสุดๆ






    #เปลี่ยนมน

    ......................................................................................................................................................................

    เลทมา 1 วัน ขอโทษรีดเดอร์ด้วยนะคะ ว่าจะอัพมะวานแล้ว เลื่อนมาวันนี้แทน คือไรท์ปวดใจเรื่องจื่อเทาจะออกจากเอ๊กโซอะค่ะ อุตส่าทำใจตอนลู่ได้แล้ว TTATT



    ขอทำใจอีกสัก 2-3 วันนะคะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะมาอัพตอนต่อไป <3


     

     


     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×