ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7] Change - MarkNior

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 16

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 652
      13
      8 เม.ย. 58


    Change ตอนที่ 16




    #เปลี่ยนมน



    สุดท้ายมาร์คกับจินยองก็เลือกห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ หอเพื่อเลือกซื้อซีดีเพลงใหม่ และไม่ลืมที่จะแวะส่งแบมแบมที่คอนโดของเจ้าตัว

     

    “เลือกซีดีเสร็จแล้วไปดูหนังกันมั๊ย?”

     

    “พี่มาร์คอยากดูหนังหรอครับ?” คนน่ารักเอียงคอถามคนเป็นพี่งงๆ เพราะปกติเหมือนอีกฝ่ายเคยบอกว่าไม่ชอบดูหนังในโรงเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบดูกับคนอื่น ชอบดูที่บ้านมากกว่า

     

    “อืมมม พอดีมีเรื่องที่อยากดูเข้าพอดี”

     

    “อ๋อ ได้สิครับ” ปาร์คจินยองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่ชายตรงหน้าอยากดูหนังจริงๆ หรือมันเป็นความใจดีของอีกฝ่ายที่อยากให้เค้าลืมเรื่องคิดมากไปเสียที แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามจินยองก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้มันจะเสียใจ เจ็บปวดทั้งโดนหลอก แต่ลองคิดในทางกลับกันยองแจคงจะไม่กล้าบอกเค้า คงจะรู้สึกผิด ที่รักกับคนที่เค้าแอบชอบมานานเรื่องนี้จินยองจะไม่โทษทั้งสองคนอีก.. แต่ตัวเค้าเองอาจจะต้องขอใช้เวลาอีกสักนิดในการจะกลับไปทำตัวเป็นเพื่อนสนิทกันได้เหมือนเดิม

     

    ร่างบางเหม่อมาตลอดทางจนกระทั่งไฟในโรงหนังทั้งหมดถูกปิดจนมืดสนิท แต่รุ่นพี่ที่เคยอยู่ข้างกายกลับขอตัวไปห้องน้ำซะนี่ทำให้จินยองต้องนั่งอยู่คนเดียวกลางความมืดมิด การนั่งอยู่คนเดียวในความมืด ทำให้จินยองค่อยๆ คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา บางที.. อาจจะเป็นพี่แจบอม กับยองแจ ที่ต้องเสียใจมาตลอด อาจจะต้องอดทนไม่สามารถเปิดเผยความสัมพันธ์ให้ใครรู้ได้เพราะเกรงใจเค้า บางที.. เค้าเองอาจจะไม่ได้ใส่ใจเพื่อนมากพอ ถึงไม่รู้ว่าเพื่อนก็รักพี่แจบอมเหมือนๆ กัน บางที.. ปาร์คจินยองคงเป็นคนนิสัยไม่ดีที่นึกถึงแต่ตัวเอง..

     

    ปากอิ่มเม้มเบาๆ ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาที่มันเอ่อคลอรอบดวงตาของเค้าอีกครั้ง เค้าไม่อยากร้องไห้ เพราะเค้าไม่อยากให้พี่มาร์คเป็นห่วงมากไปกว่านี้ ไหนจะแบมแบมอีกที่ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง แล้วยังต้องมานอนเฝ้าเค้า งานการบ้านของคณะก็ใช่จะน้อยยังจะต้องมาทะเลาะกับยองแจไปกับเค้าอีก

     

    มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ เมื่อมีเสียงเครื่องฉายหนังดังให้ได้ยิน จนกระทั่งแสงไฟเบื้องหน้าสว่างขึ้น แต่น่าแปลกที่ไม่ใช่โฆษณาหนังตัวอย่างอย่างที่น่าจะเป็น แต่กลับเป็นแสงจากสปอร์ตไลท์ด้านหลังที่ฉายไปยังจุดๆ เดียว ก่อนที่ปาร์คจินยองจะต้องเบิกตากว้าง เมื่อภาพตรงหน้าคือรุ่นพี่ใจดีที่พาเค้ามาดูหนังแต่กลับเดินหอบกีต้าร์ขึ้นไปนั่งอยู่บนแสตนด์ฉายหนังแทนซะอย่างนั้น

     

    “ขอโทษท่านผู้ชมทุกคนด้วยนะครับ รอบนี้จะไม่มีหนังตัวอย่างนะครับ แต่ผมจะมาร้องเพลงให้ฟังสักเพลงนึง” พี่มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ ตามแบบฉบับพร้อมกับยกยิ้มหล่อจนจินยองได้ยินเสียงสาวๆ ในโรงกรี้ดออกมาเบาๆ “เพลงนี้ผมอยากมอบให้รุ่นน้องที่น่ารักของผมครับ อยากให้น้องเค้าฟังแล้วลืมเรื่องร้ายๆ ไปให้หมด อย่าร้องไห้อีกเลยนะครับ และที่สำคัญพี่อยู่ตรงนี้.. ขอพี่เป็นคนดูแลน้องน่ารักของพี่ได้มั๊ยครับ?”

     

     

     




    เพลงรักหวานๆ ของวงบอยแบนด์ที่กำลังดังของเกาหลีถูกนำมาร้องใหม่ด้วยกีต้าร์โปร่งสบายๆ กับเสียงแหบทุ้มต่ำทำให้คนฟังอดยิ้มเขินตามไม่ได้ ยิ่งได้เห็นเจ้าของหน้าหล่อที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวที สาวๆ ที่มาดูหนังก็แทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ต้องชักมือถือออกมาถ่ายรูปไว้สักนิดโดยไม่เกรงใจพนักงานแม้แต่น้อย

     

    ปาร์คจินยองจำได้ว่าตัวเองต้องกัดปากไว้แน่นขนาดไหนเพื่อไม่ให้เผลอยิ้มกว้างออกมาเมื่อสายตาคมสื่อความหมายนั่นทอดมองมาที่เค้า ไม่นับตอนที่หนุ่มนักกีต้าร์นั่นลงจากเวทีข้างหน้าแล้วเดินมานั่งข้างๆ กัน ทำเอาเด็กสาววัยม.ต้นที่นั่งถัดไปมองพวกเค้าแล้วกรี้ดเบาๆ ก่อนจะหันไปซุบซิบกันเสียงดังจนจินยองอยากจะแทรกตัวหนีลงไปกับเก้าอี้เสียให้ได้ ไหนจะมืออบอุ่นคุ้นเคยของอีกฝ่ายที่ดึงมือเค้าไปจับไว้ตลอดที่หนังฉาย ไม่รู้รึไงนะว่ามันทำให้ดูหนังไม่รู้เรื่องเลย พี่มาร์คคนนิสัยไม่ดี..


     

    ทำไมต้องมาทำให้เขินด้วยเนี่ยยยย??



     

    มาร์คยิ้มแก้มแทบแตกเมื่อน้องน่ารักของเค้าก้มหน้างุดๆ หลบสายตา และคำอวยพร(?)จากคนอื่นๆ ที่เค้าได้รับหลังจากออกจากโรง อาจจะเป็นเพราะเค้าขึ้นไปร้องเพลงก่อนหนังฉายล่ะมั้งทำให้ผู้ชมคนอื่นออกมาแซวบ้าง อวยพรให้เค้ากับจินยองบ้าง ตลอดจนมองแล้วหัวเราะคิกคักดันเสียยกใหญ่ สงสารน้องนิดๆ เหมือนกัน คงจะเขินแย่
     

    “หนังสนุกมั๊ยครับ?”

     

    “อื้อ”

     

    “ฉากก็ดีเนอะ”

     

    “อื้อ”

     

    “เพลงประกอบก็เพราะเนาะ”

     

    “อื้อ” >///<

     

     

    “เป็นอะไรครับ.. ไม่คุยกับพี่.. เขินหรอ?”

     

    “พี่มาร์คไม่อายหรอ? ขึ้นไปร้องเพลงทำไมอะ..” ถามทั้งๆ แก้มยังแดงเป็นลูกมะเขือเทศ

     

    “อายทำไม ร้องในผับออกจะบ่อย” ตอบไปตามตรง

     

    “แล้วทำไมถึงขึ้นไปร้องได้อ่ะ”

     

    “ก็เห็นจินยองอยากฟังเพลง ก็เลยร้องให้ฟัง แต่ขอโทษนะพี่ยังเล่นเพลง 2PM ไม่เป็น ไว้คราวหน้าได้ไม๊ครับ?” บอกพลางยิ้มให้น้อง ทำเอาอีกฝ่ายเบิกตาโตเป็นไข่ห่านเมื่อคนตรงหน้าคิดจะขึ้นไปร้องเพลงต่อหน้ามวลมหาประชาชนให้เค้าอีก นี่ยังไม่นับคำพูดเลี่ยนๆ ที่ทำเอาคนแซวกันทั้งโรง ฮรือออ คิดแล้วอยากหายตัวไปเดี๋ยวนี้

     

    “เง้อออ ไม่เอา.. อายเค้า..”

     

    “ฮ่าๆๆ ก็ได้ๆ” เห็นน้องยิ้มแก้มแดงได้ก็ถือว่าเงินค่าซื้อเวลาร้องเพลงหน้าโรงที่เสียไปได้ใช้อย่างคุ้มค่าแล้ว “น้องจินยอง.. แต่พี่พูดจริงๆ นะ ไม่อยากให้ร้องไห้อีกแล้ว”

     

    “...”

     

    “ต่อจากนี้ให้พี่ดูแลน้องจินยองได้มั๊ย?”

     

    คำถามเดิมถูกยกมาถามซ้ำอีกครั้งเพื่อย้ำให้คนเป็นน้องมั่นใจว่าเค้าตั้งใจจริงแค่ไหน ขณะที่ตากลมช้อนขึ้นสบกับนัยน์ตาเรียวสีเข้มของคนตรงหน้า ครั้งที่แล้วเค้าไม่ได้ตอบอะไรพี่มาร์คไป แต่ครั้งนี้แม้มันอาจจะดูเร็วไปที่เค้าพึ่งผิดหวังจากพี่แจบอมเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่เค้าขอเลือกที่จะตอบรับสิ่งดีๆ ที่คนตรงหน้ามอบให้คงไม่ผิดใช่มั๊ย

     

    “ครับ..”

     

    เป็นเสียงตอบเบาๆ แต่คนฟังกลับได้ยิน และดีใจจนพุ่งเข้ามากอดร่างบางแล้วยกตัวอีกฝ่ายขึ้นจนลอยจากพื้น

     

    “อะ.. พี่มาร์ค ปล่ะ ปล่อย” จินยองก็ยังคงเป็นจินยองที่ไม่ค่อยชินกับการกระทำที่ออกจะชัดเจนของอีกฝ่าย เค้ารู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนกว่าเดิมทั้งๆ ที่ไม่คิดว่ามันจะร้อนได้มากกว่านี้แล้ว คือถ้าร้อนกว่านี้เค้าคิดว่าแก้มเค้าต้องระเบิดออกมาแน่ๆ แต่พอหันไปเห็นรอยยิ้มเบิกบานของพี่มาร์ค จินยองกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก.. แค่รู้สึกว่ามันดีที่ได้เห็นว่าพี่มาร์คก็มีความสุขเพราะเค้า

     

     

     


     

    หลายอาทิตย์ผ่านไปตั้งแต่เกิดเรื่อง จินยองดีขึ้นมากเพราะมีพี่ชายใจดีอย่างมาร์คคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง แม้เค้าจะยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับพี่แจบอมหรือยองแจเลย ส่วนนึงอาจจะเพราะแบมแบมที่คอยกันยองแจออกห่าง กับทั้งตัวเค้าเองที่เลือกจะหลบหน้าพี่แจบอมในระดับนึง และถ้าถามถึงเรื่องหัวใจนั้นตอนนี้เค้าก็พยายามที่จะตัดใจจากพี่แจบอมแล้ว และมันก็ค่อนข้างจะเป็นไปได้ด้วยดีเมื่อเค้ามีใครอีกคนข้างๆ กาย

     

    “แบมแบม เราว่าทำกับยองแจเกินไปนะ ทำไมต้องไล่ให้ไปทำงานกลุ่มอื่นด้วยล่ะ?” จินยองถามเพื่อนสนิทที่พึ่งไล่เพื่อนอีกคนให้แยกไปทำงานกับกลุ่มอื่น ทั้งๆ ที่ปกติพวกเค้าก็ทำงานกลุ่มเดียวกันตลอด

     

    “เกินไปที่ไหน บอกแล้วใช่มั๊ยว่าอย่าไปยุ่งกับคนพรรค์นั้น” เสียงใสหันมาเอ็ดเพื่อนที่ทำท่าจะใจอ่อนกับคนที่ทำร้ายตัวเองอยู่ร่ำไป

     

    “คือ.. วันก่อนพี่มาร์คเล่าให้ฟัง ว่าพี่แจบอมกับยองแจเค้ามีเหตุผลนะ ควรจะฟังพวกเค้าบ้าง..” ร่างบางบอกเพื่อนเสียงอ่อย ใจนึงก็อยากคืนดีกับยองแจ.. แต่อีกใจก็ยังเสียใจอยู่.. แต่พอพี่มาร์คมาบอกว่าสองคนนั้นมีเหตุผลที่ต้องโกหกกัน เค้าก็อยากฟังนะ อยากรู้ว่าทำไมเพื่อนถึงหลอกกัน..

     

    “เหตุผลหรอจินยอง? แล้วถ้ามีเหตุผล จินยองจะตอแหลใส่เราอย่างที่เค้าทำหรอ!?” แบมแบมจงใจเน้นเสียงคำว่าตอแหล เมื่อเห็นอดีตเพื่อนสนิทเดินมาทางนี้พอดี

     

    “แบมแบม! อย่าทำงี้ดิ่ ไม่น่ารักนะ” จินยองดุเพื่อนเมื่อเห็นยองแจหน้าเสีย

     

    “เหอะ.. พอเลยจินยอง เลิกพูดเรื่องนี้ แล้วไม่ต้องคิดจะไปเสวนากับสองคนนั้นเลยนะ อยากโดนหลอกอีกรึไง?” ตากลมมองเพื่อนพลางถอนใจ แบมแบมเป็นคนที่เติบโตมาได้อย่างเข้มแข็ง ทำงานหาเงินดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้คนตรงหน้าเป็นคนที่คิดและตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ คนไหนดีมา ก็ดีกลับ คนไหนร้ายมา แบมแบมก็ไม่ทำดีด้วย ทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้ว แม้เค้าจะแอบอยากฟังเหตุผลของยองแจแค่ไหนก็ตาม แต่สุดท้าย.. สุดท้ายความจริง ก็คือยองแจกับพี่แจบอมตั้งใจจะหลอกเค้านั่นเอง

     

    “แต่จริงๆ เค้าอาจจะรักกันอยู่แล้วนะ.. แล้วพี่แจบอมก็ไม่เคยชอบเราด้วย..”

     

    “เหอะ น้อยไปสิ! อย่ามาพูดว่าพี่แจบอมไม่เคยให้ความหวังนะ เลิกกับแฟนแล้วมาหาจินยองที่ห้องตลอด มานอนซมให้จินยองดูแลสารพัด นี่ไม่นับเรื่องที่ชอบหวงเวลามีคนมาตามจีบนะ!

     

    “แต่ยองแจอาจจะไม่บอกเพราะเกรงใจเราไง..”

     

    “อ๋อ หรออออ นี่เกรงใจแล้วหรอ? เกรงใจแล้วต้องไปหากันถึงห้องเลย ทำอะไรต่อมิอะไรกันอีก น่าเกลียดดด”

     

    “...”

     

    “โธ่ เอ๊ยยย จินยองอ่า.. อย่าทำหน้าจ๋อยได้ปะล่ะ เรารู้สึกผิดนะ เราไม่ได้ดุจินยองซะหน่อย..” แบมแบมเสียงอ่อนลงทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนเศร้าลงเมื่อพูดถึงวีรกรรมของอดีตเพื่อนสนิท

     

    “แต่เราอยากฟังเหตุผลพวกเค้าดูนะ”

     

    “เห้อ.. ก็ได้ๆ” เมื่อพูดเท่าไหร่จินยองก็ดูจะใจอ่อนกับยองแจซะเหลือเกิน แบมแบมเลยยอมใจ เพราะยังไงคนที่เจ็บที่สุดก็คือจินยอง ดังนั้นเรื่องนี้เพื่อนของเค้าควรได้สิทธิ์ตัดสินใจ เค้าเพียงพูดเพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องไปยุ่งกับคนชอบหลอกลวง ไม่จริงใจ เท่านั้น “แต่เราว่าถ้าจินยองฟังแล้วคงยกโทษให้สองคนนั้นแน่ๆ เราว่าสองคนนั้นควรได้รับการลงโทษเรื่องที่หลอกกันนะ ความเชื่อใจของคนเรามันไม่ได้มีกันง่ายๆ และถ้ามันเสียไปแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะกู้กลับมาง่ายๆ เหมือนกัน จินยองรู้ใช่มั๊ย?”

     

    ใบหน้าน่ารักพยักหน้าตอบเพื่อน พลางส่งยิ้มให้แบมแบมที่ยิ้มอ่อนๆ กลับมา “แล้วแบมจะให้เราทำยังไง?”

     

    “อืม ก็ไปฟังเหตุผลพวกเค้าก่อน แต่ก็ไม่ต้องมาสนิทเหมือนเดิมดีมั๊ย? ทั้งคู่เลย”

     

    “อืม.. ก็ได้” ตาหวานเหลือบไปมองร่างเล็กๆ ของยองแจที่กำลังนั่งทำงานกับกลุ่มอื่นอย่างเป็นห่วงนิดๆ แต่พอนึกถึงภาพวันเกิดพี่แจบอมขึ้นมา เค้าก็อดเสียใจไม่ได้จริงๆ.. ขอโทษนะยองแจ.. แต่เรายังรู้สึกแย่จริงๆ

     

    พอได้ข้อสรุปเรื่องยองแจสองเพื่อนซี้เลยเปลี่ยนหัวข้อคุยจากเรื่องเครียดๆ เป็นเรื่องทั่วๆ ไปแทน “เอ้อ แล้ววันนี้พี่มาร์คมารับกลับหอกี่โมงอ่ะ เดี๋ยวห้าโมงเราต้องกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดไปทำงานแล้วนะ” ถามขึ้นมาเพราะเห็นว่าพี่ชายสุดหล่อของตัวเองมารับเพื่อนได้ทุกวี่วัน

     

    “อ๋อ เดี๋ยวก็มาแล้ว แบมรีบก็กลับก่อนเลย”

     

    “ไม่เป็นไร รอแฟนจินยองมาก่อนก็ได้”

     

    “เห้ยยยย แฟนอะไร ไม่ใช่นะ” หัวกลมส่ายรัวรีบปฏิเสธ

     

    “อ้าว ยังไม่เป็นแฟนกันอีกหรอ?” แบมแบมทำตาโตใส่เพื่อน คนสวยไม่เข้าใจนี่คือแบบยิ่งกว่าแฟนอ่ะ มารับมาส่ง เดินจูงมือกันทุกวัน แถวบ้านเรียกแฟนนนนน

     

    “เปล่าอะ.. คือพี่เค้าแค่บอกขอดูแลเราเฉยๆ แต่เค้ายังไม่เคยบอกว่ารักเราเลย..” บอกเพื่อนไปตามตรง

     

    “จริงดิ่?”

     

    “อื้อ”

     

    “โถ.. เราก็นึกว่าเป็นแฟนกันแล้ว”

     

    “เปล่าอะ..”

     

    “แล้ว.. ตอนนี้จินยองชอบพี่มาร์ครึยัง?”

     

    “คือเรา....”

     

     

     

     

     

    //วันต่อมา//

     

     

     

     

     

     

    ขาเรียวของปาร์คจินยองพาตัวเองเดินเตาะแตะไปตามซอกระหว่างชั้นหนังสือไปเรื่อยเปื่อย มือขาวเอื้อมไปแตะสันหนังสือต่างๆ อย่างเหม่อลอย ตอนแรกเค้าตั้งใจจะหาหนังสือสักเล่มนั่งอ่านฆ่าเวลารอยองแจมาเจอกัน แต่ไม่รู้ทำไมหัวมันตื้อๆ ขึ้นมาพอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น สุดท้ายเลยได้แต่เดินมองสันหนังสือไปเรื่อยเปื่อย

     

    “เห้อ..”

     

    ร่างบางถอนหายใจออกมาในที่สุดเมื่อหวนไปนึกถึงพี่ชายคนสนิทที่ตนหลงรักมาตลอดหลายปี สุดท้ายรักแรกของเค้าก็จบลงแบบนี้สินะ พี่แจบอมคงอึดอัดนะที่คนอย่างเค้าไปหลงรักทั้งๆ ที่ตัวเองก็รักอยู่กับยองแจ คงไม่รู้จะบอกเค้ายังไงสินะ.. แย่จังเลยนะ เหมือนเป็นเค้าเองที่เป็นอุปสรรคขัดขวางทางรักของคนอื่นเค้า นัยน์ตาหวานหมองเศร้าลงอย่างถนัดตาก่อนจะสะดุ้งเล็กๆ เมื่อโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเกิดสั่นขึ้นมา

     

    “ครับ?”

     

    “อ๋อ.. พี่มาร์คหรอ? ผมอยู่ห้องสมุด เดี๋ยวขอคุยกับยองแจแปปนึงครับ พี่รออยู่ใต้คณะก็ได้ครับ เสร็จแล้วเดี๋ยวผมลงไป”

     

    “อื้อ ครับ”

     

    “อ่าว ฮัลโหลๆ ??”

     

    อยู่ๆ เสียงของมาร์คในโทรศัพท์ก็ขาดหายไป มือเล็กเลยหันมามองโทรศัพท์ตัวเองอย่างงงๆ ก่อนจะต้องส่ายหัวออกมาอย่างเอือมๆ ในความเปิ่นของตัวเอง

     

    “โทรศัพท์แบตหมดซะงั้น ไม่ได้เล่นเยอะซะหน่อย.. สงสัยอยากให้ซื้อเครื่องใหม่ คิกคิก”

     

    บ่นขำๆ กับตัวเอง ก่อนจะหยิบหนังสือออกมาเล่นนึง แล้วเตรียมจะเดินกลับโต๊ะนั่งของตัวเอง แต่กลับต้องชะงักฝีเท้าเมื่อจู่ๆ หลอดไฟนีออนภายในห้องสมุดก็ดับลงจนมืดสนิท พอๆ กับที่เสียงจากเครื่องปรับอากาศเงียบไป ทำให้เค้ารู้ได้ว่าไฟคงดับอีกแล้ว.. ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน มาห้องสมุดนี้ทีไร ไฟต้องดับทุกทีสงสัยปาร์คจินยองเป็นคนเล่นของ

     

    มือเล็กแตะไปตามชั้นหนังสือเพื่อคลำทางแล้วค่อยๆ เดินไปข้างหน้า

     

    แต่..

     

    ปึ้ก!

     

    จู่ๆ ก็มีเสียงคล้ายหนังสือตกจากชั้นด้านหลัง จินยองพยายามหันไปมองในความมืด แม้จะมองไม่ค่อยเห็นนักแต่โชคดีที่ยังมีแสงรำไรจากพระอาทิตย์ที่ยังไม่ลับขอบฟ้าลอดเข้ามาบ้าง ทำให้จินยองก้มลงไปเก็บหนังสือด้านหลังให้เข้าที่อย่างเรียบร้อย

     

    ปึ้ก!

     

    ทันทีที่เก็บหนังสือเล่มนึงเข้าชั้นเสร็จ ก็มีอีกเล่มกระเด็นตกลงมา ซึ่งดูจากวิธีน่าจะโดนดันมาจากอีกฟากนึงของชั้นหนังสือ แต่คนตัวขาวก็เดินไปเก็บให้อีกตามประสาเป็นคนเรียบร้อย และคิดว่าคนที่เดินอยู่อีกด้านคงจะชนโดยไม่ได้ตั้งใจ ช่วยไม่ได้ก็มันมืดนี่นา..

     

    ปึ้ก! ปึ้ก!

     

    คราวนี้ตกลงมาอีก 2-3 เล่ม จนจินยองเริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆ เลยเลือกส่งเสียงไปบอกอีกฝ่าย “คุณครับ.. ดันหนังสือมาฝั่งนี้มันตกอะ มองไม่ค่อยเห็นหรอครับ?”

     





    #เปลี่ยนมน

    ......................................................................................................................................................................


    หนังสือตก!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×