ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic } ฟิคบารามอส ภาค ดินแดนน้ำแข็ง

    ลำดับตอนที่ #18 : ทะเลแสงดาว

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 49


    บทที่ ๑๗ ทะเลแสงดาว

    ยามรุ่งสางที่เงียบสงบของวันรุ่งขึ้น ในขณะที่สรรพชีวิตต่างกำลังตกอยู่ในห่วงนิทราแสนหวานที่กำลังจะหมดลงเมื่อแสงแห่งวันใหม่กลับมาสว่างไสวอีกครั้ง ร่างบางที่เริ่มรู้สึกตัวเร็วกว่าปกติเริ่มตื่นขึ้นจากการหลับไหล ลุกขึ้นมานั่งรวบรวมสมาธิได้ซักพักจึงลุกขึ้นออกจากเตียงเพื่อเข้าไปทำธุระส่วนตัว พลางเหลือบไปเห็น อีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตร่วมห้องที่กำลังหลับไม่ได้สติ เฟรินมองร่างนั้นอย่างเอ็นดูโดยไม่คิดจะปลุกเพราะกลัวเพื่อนสาวไม่เหลือแรงมาทะเลอะกันอย่างเต็มที่กับเส้นทางที่ไกลเป็นพิเศษในวันนี้

    เมื่ออาบน้ำเสร็จ ร่างเพรียวก็เดินย่องลงไปตามทางเดินที่ยังคงสว่างไสวเสมอ แล้วนี่เราจะย่องไปทำไม ไม่ได้ไปขโมยของใครซักหน่อย หญิงสาวถอนหายใจกับนิสัยที่แก้ไม่หายซักทีของตน ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นการเดินปกติอย่างที่ควรจะเป็น เดินตรงออกมาอย่างอ้อยอิ่งเพื่อไปยังจุดหมายนั่นก็คือเกวียนของเธอนั่นเอง แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อหางตาของหัวขโมยเหลือบไปเห็นสิ่งที่ทำให้ต้องหันกลับไปดูให้เต็มตา

    มันคือชายหาดนั่นเองหากแต่ตอนนี้มันปกคลุมไปด้วยแสงสีเหลืองนวลของแมงกะพรุน ลอยห่างออกไปจากฝั่งเพียงไม่กี่สิบเมตร ทำให้ท้องทะเลแถบนั้นสว่างไสวระยิบระยับ ไปด้วยกลุ่มแสงเล็กๆนับหมื่นเปรี่ยบดังหมู่ดาวบนฝากฟ้าที่ละลานตาล้อแสงแห่งดวงจันทร์ ทั้งที่คืนนี้เป็นคืนเดือนแรม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความงามของที่แห่งนี้ลดลงเลย

    “นี่น่ะหรือ การแสดงยามค่ำคืน สงสัยพวกแองจี้ต้องดูแล้วแน่ๆเลย หน๋อยไม่ยอมปลุกเรา เดี๋ยวเหอะ” เฟรินรำพันกับตัวเองก่อนก้าวเท้าออกเดินต่ออย่างอารมณ์ดี กับแสงแห่งอรุ่นรุ่งของวันใหม่ที่กำลังทำให้ความงามตามธรรมชาติยามค่ำคืนของท้องทะเลค่อยๆสลายไปช้าๆ

    ทันใดนั้นดวงตาสีน้ำตายเปลือกไม้ก็เหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มๆอยู่บริเวณพุ้มไม้ที่ถ้าเธอจำไม่ผิดมันคือบริเวณเกวียนของเธอ ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวย่อมเป็นสิ่งที่ตัวเธอเองกลัวมากที่สุด

    ผี! เสียงสั่นเครือกล่าวกับตัวเองก่อนจะเริ่มก้าวถอยหลัง ช้าๆ แต่เมื่อร่างทมึนในเงาของรุ่งสางขยับตัวอีกครั้งทำให้เธอแน่ใจขึ้นมาว่านั่นไม่ใช้ผี แต่เป็นโจร

    “ผ่าปฐพี” ไวเท่าความคิดดาบคู่ชีวิตก็ถูกเรียกมาอยู่ในกำมือ ก่อนเจ้าของเสียงจะเข้าจู่โจมผู้บุกรุกอย่างคันไม้คันมือมานาน

    “โจรมาขโมยของขโมยมันไม่ดีนะพี่ชาย” สิ้นคำ ดาบใหญ่ก็ถูกแกว่งมายังลำตัวของเป้าหมายด้วยความเร็วที่น่าตกใจสำหรับหญิงสาวตัวเล็กๆ แต่กลับพลาดเป้าไปเมื่อโจรดีดตัวถอยหลังหลบคมดาบได้อย่างหวุดหวิด

    “แก่คิดเหรอ ว่าจะมาขโมยของจากจอมหัวขโมยคนนี้ไป” ร่างบางกล่าวอย่างภาคภูมิพร้อมกับเอาดาบใหญ่มาวางไว้เหนือไหล่แสดงให้เห็นถึงมาดเท่ๆ ที่หากเป็นชายหนุ่มทำล่ะก็คงใช่ แต่นี่ไม่

    “แกยิ้มอะไรของแก” แสงสว่างที่ค่อยๆมากขึ้นเรื่อยๆของเช้าวันใหม่ทำให้เฟรินสามารถมองเห็นคนร้ายได้ชัดเจนขึ้น และพบว่าดวงตาของมันนั้นเป็นสีฟ้า!

    ดี งั้นวันนี้ทุกคนคงได้ตื่นมาพบศพของไอ้โจรถ่อยเเต่เช้าเป็นแน่”

    “ถ้านายทำได้” เสียงคุ้นๆของผู้ต้องหาจอมโอหังเอ่ย ยั่วโมโหหัวขโมยผู้ยิ่งใหญ่

    “ปากดีนัก” สิ้นเสียงสาวน้อยก็ง้างมือออกอย่างเต็มกำลังหวังลมคนตัวสูงกว่าให้ได้ภายในทีเดียว ส่วนจอมโจรก็ยืนรับคำท้าอย่างหาญกล้าสงบนิ่ง ไม่เผยแววเกรงกลัวแต่อย่างใด หญิงสาวจึงปล่อยอาวุธออกเต็มแรง ตามที่ได้เคยให้คำมั่นไว้ แต่ทันใดนั้นเอง แสงของพระอาทิตย์ที่มาช้าไปเพียงเสี้ยววิก็เผยโฉมตัวตนที่แท้จริงของโจรผู้ต้องจบชีวิตด้วยเงื้อมมือของคนที่ตนเองรัก เอาเลยเฟริโอน่าหากเธอต้องการ….ความผิดครั้งนั้นคงเกินจะให้อภัยสินะ เขาคิดขณะที่นึกย้อนไปถึง ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่เขาเคยทำให้เธอต้องเจ็บปวด เพียงเพราะศักดิ์ศรีบ้าๆแห่งคาโนวาล ศักดิ์ศรีที่มีต่อประเทศชาติ แต่ไม่มีต่อหญิงสาวเพียงคนเดียวที่เขาสัญญาไว้ก่อนเรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นเสียอีก

    “คาโล!!! เฟรินร้องเสียงหลังแต่ก็ไม่ทันแล้วร่างกายเธอถูกออกคำสั่งสังหารไปเรียบร้อยแล้ว ไม่…………

    …”

    ป๊อก!!!!

    ไม่ต้องหลบเลย…..ไอ้บ้า ชอบทำให้ตกใจอยู่เรื่อย” หญิงสาวแขวะใส่คนตัวสูงกว่าตรงหน้า หลังจากลงมะเหงกถล่มกระบาล ชนิดกะเอาจังๆให้กะโหลกยุบ

    “….” ร่างใหญ่ยืนลูบหัวปอยๆ พร้อมส่งสายตาดุๆไปที่ผู้กระทำผิด ซึ่งสบัดหน้าเชิดไปทางอื่นเหมือนว่ามันเป็นความผิดของเขา

    “นายมาทำอะไรอยู่นี่”

    “เก็บของ”

    “….”

    “..เจ็บไหม…ล่ะ” ร่างบางหันกลับมาสนใจเหยื่ออย่างเป็นห่วงเพราะ รู้สึกจะยืนลูบหัวมานาซักพักใหญ่ๆ

    “ไม่..” เสียงเรียบที่ไม่ได้แสดงอาการความรู้สึกมากนักจึงไม่อาจรู้ได้ถึงความสาหัสของบาดแผล ทำให้หัวขโมยชักเริ่มจะกลัวโทษอาญา ข้อหาสังหารรัชทายาทของราชวงศ์ขึ้นมาตงิดๆ

    “ไหน ขอดูหน่อย” สาวน้อยผมสีน้ำตาล เขย่งตัวขึ้นรอดูกระบาลขายหนุ่มซึ่งก็โน้มตัวลงมาให้หญิงสาวดูแต่โดยดี เพื่อไม่ให้ต้องเขย่งเท้าเก้อ

    “ไหนดูซิ…..อืม…” เฟรินเมิ้มริมฝีปากพลางปัดผมสีเงินไปมา เพื่อมองหาจุดเกิดเหตุ

    “อืม…..ป๊อก!!!

    โอ้ย!!!! เสียงอุทานของคนปากแข็งร้องดังขึ้น เพราะโดนลูกดีดพิฆาตของแม่ตัวดีเข้าไปอีกหนึ่งดอกเต็มๆ

    “ปากแข็งนัก ปูดซะขนาดนั้นยังจะมาบอกว่าไม่เจ็บอีก โห่..ไอ้บ้าขี้เก๊กเอ้ย แกจะไปเก๊กกับสาวที่ไหนก็เชิญเหอะ แต่ไม่ต้องมาทำเก๊กใส่ฉัน..รู้ไว้ว่ามันคนละฉันกันไอ้น้องเอ้ย” บทสวดแรกแห่งรุ่งอรุณทำให้พ่อมดคนเก่งแห่งคาโนวาลเห็นทางสว่าง

    “ว๊าย…ไอ้บ้า แกมีสิทธิ์อะไรวะ” เสียงโวยวายจากเฟรินที่ถูกขโมยจุมพิตที่แก้มแต่เช้า หน้าขาวๆเริ่มขึ้นสีระคนกันทั้งความโกรธและความอาย

    “ค่ารักษาพยาบาล” คำตอบหน้าเตะของคาโล ทำให้ผ่าปฐพีในมือชักอยากจะเริ่มแก่วงห่าที่วางใหม่ๆอีกครั้ง

    คาโลก้มลงอีกครั้งหวังจะสูดดมความหอมจากแก้มใสๆของยัยตัวแสบให้ชื่นใจอีกซักข้าง

    พอเลยๆ….แก่นี่ล่ะก็….ไปๆไปหาอะไรกิน จะได้ไปแต่เช้าทางมันยาวไม่ใช่หรอ” คนรู้ทันได้จังหวะดึงหูของ

    ก่อนจะลากหูของเจ้าชายกลับเข้าไปข้างในเพื่อทำอย่างที่ตนพูดไว้

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×