คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ความแตกต่าง
บทที่ ๑๒ ความแตกต่าง
ซ่า ..ซ่า ..รุก!
คลื่นน้ำทะเลอุ่นๆสาดเข้าปะทะกับหาดทรายขาวยาวเป็นระลอกๆ อย่างสม่ำเสมอ ตามมาด้วยการโถมบุกของตัวหมากบนกระดานลายสก๊อต ที่ดูเหมือนขณะนี้หมากดำกำลังจนแต้มให้แก่หมากขาวซึ่งเป็นฝ่ายประกาศคำรุกเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งถึงแม้หมากบนกระดานจะดูเสียเปรียบแต่คนคุมเกมตอนนี้กลับเป็นผู้ถูกรุกเสียมากกว่า
“นายแน่ใจเหรอครี้ด” คนคุมเกมเอ่ยปากถามอย่างร่าเริงเหมือนเป็นการหยอกล้อแต่มันกลับกลายเป็นการกดดันอีกฝ่ายผู้ด้อยประสบการณ์กว่าให้เหงื่อตก ก่อนจะโยกคิงทมิฬหลบบิชอฟขาวสลับเก้าอี้กับเรืออย่างเชี่ยวชาญ
“ร..ร..รุก! รุก!
” นักรบหนุ่มเอ่ยสั่นๆอย่างหวาดระแวง โดยที่ตาข้างเดียวของเขายังคงจ้องเขม็งไปยังหมากบนกระดานเหมือนกังวลว่าสถานการณ์ตอนนี้จะถูกพลิกอีกครั้งเหมือนที่แล้วๆมา มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนม้าเข้าไปรุกคิงของหัวขโมยสาวอย่างหวั่นๆโดยมีมืออีกข้างกำลังเกาที่คางหยาบกร้านไปมาอย่างครุ่นคิด“นี่ แกไม่ต้องระแวงฉันขนาดนั้นก็ได้ไอ้ครี้ด ตอนนี้แกน่ะได้เปรียบอยู่นะโว้ย” เฟรินกล่าวอย่างหงุดหงิดเพราะเริ่มรู้สึกรำคาญไอ้ท่าทางหวาดระแวงเหมือนแมวที่ไปขโมยปลาย่างมากินไม่มีผิด ของเพื่อนนักรบที่ยังคงเหลือหมากในกระดานอยู่เกือบครบทุกตัว ซึ่งแม้แต่เด็กสิบขวบยังรู้เลยว่ายังไงก็มีโอกาสชนะใสๆ หากเพียงแต่ว่าตอนนี้มันเริ่มวิตกจริตเดินมาติดหลุมพรางของเธอเข้าให้อย่างจังซึ่งหากมันยังคงเดินต่อไปอีกเรื่อยๆละก็ ทุกอย่างก็จะสายเกินแก้สำหรับมัน
“ได้เปรียบน่ะใช่ แต่เกมจะพลิกเมื่อไหร่ใครจะไปรู้” ขอทานที่นั่งจิบชารับลมทะเลในระหว่างต่อคิวเดินหมากกับหัวขโมยสาว เอ่ยขึ้นลอยๆเมื่อเห็นว่าสุดท้ายแล้วนายหญิงของเขาตอนนี้ก็ได้แต่โยกคิงหลบอยู่เหมือนเดิม
“ใช่ๆ ครี้ดนายต้องระวังไอ้เฟรินมันเอาไว้ให้ดีๆ มันน่ะเป็นพวกแผนสูงขนาดตาตะกี้ฉันยังงงๆอยู่เลยว่ามันชนะฉันได้ยัง ” รุกฆาต! นักฆ่ายังไม่ทันได้เตือนนักรบได้จบประโยคกระดานหมากก็ถูกปิดลงด้วยน้ำมือของเสียงหวานที่ประกาศชัยอย่างขำขันต่างไปจากคนแพ้ที่มีอาการตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
“เฮ้ยได้ไงวะ ไหงมันกลายเป็นแบบนี้อีกแล้ววะเนี่ย โธ่โว้ยซวยจริงๆ” นักรบแห่งไนล์ออกอาการหัวเสียด้วยการบ่นงัวเงียๆเป็นหมีกินผึ้งก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้ให้คนอื่นมาแพ้หัวขโมยต่อแต่โดยดี
“ทำอะไรอยู่” มืออุ่นซึ่งตรงกันข้ามกับน้ำเสียงถูกประทับลงบนไหล่บางของหัวขโมยที่กำลังยิ้มแฉ่งหลังจากที่เพิ่งได้รับชัยชนะมาหยกๆ ทำให้เฟรินสะดุ้งโหยงถึงแม้จะเป็นการสัมผัสจากคนที่คุ้นเคยผู้อยู่เบื้องหลัง
“ไอ้บ้าแกมาทำไมไม่ให้ซุ่มให้เสียงวะ ฉันตกใจหมด แล้วนี่แกมีตาไว้ทำผัวยายอย่างเดียวเหรอวะฮะ ถึงไม่รู้ว่าพวกฉันกำลังนั่งซักผ้าอยู่” เจ้าหญิงจอมแก่นเงยพระพักตร์ไปสบกับชายหนุ่มเบื้องหลังก่อนจะบ่นยาวเป็นชุดอย่างประชดประชัน เรียกเสียงคิกคักในลำคอของเพื่อนหนุ่มทั้งสามเพราะว่านานๆทีจะมีคนด่าเจ้าชายมาดนิ่งผู้เพรียบพร้อมให้ฟังซักคน ซึ่งเท่าที่เห็นมาก็คงจะมีแต่หัวขโมยสาวหวานใจของมันเท่านั้นแหละที่มันยอมให้ด่า
“แกมาก็ดีแล้วคาโล ไหนแกลองมาซักผ้าแข่งกับไอ้เฟรินมันหน่อยสิวะ แต่ฉันขอเตือนไว้ก่อนเลยนะว่าไอ้เฟรินน่ะมันซักเก่งมาก” ครี้ดเอ่ยเชิญเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ให้มาช่วยกันซักผ้าซึ่งนั่นก็เล่นเอานักฆ่าฮากระฉอก ก่อนจะถอยเก้าอี้ออกให้เป็นการเชิญชวน
“ฉันเห็นแล้ว” คาโลเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้คามคำเชิญแล้วเริ่มล้างกระดานเล่นใหม่ทันทีอย่างมุ่งมั่นที่จะโค่นสาวน้อยตัวแสบผู้มีดีกรีเป็นถึงทายาทตระกูลเชสมาสเตอร์ชื่อกระฉ่อน ด้วยกลเม็ดบางอย่างที่จะได้ผลหรือไม่ก็คงต้องลองดูซุกตั้ง
“ก้อนน้ำแข็งอย่างแกน่ะ จะอยู่ได้ซักกี่น้ำ” สาวเรือนผมสีน้ำตาลเอ่ยเหยียดหยามเจ้าชายหน้าตายคู่ต่อกรอย่างดูหมิ่น พลางเอามือกอดอกแล้วใช้เพียงหางตาแลมามองชายหนุ่มอย่างเหยียดๆก่อนจะหันไปแคะขี้เล็บเล่นตามแบบฉบับนักยั่วดีเด่น ที่หลอมน้ำแข็งเย็นๆให้เหลวละลายมานักต่อนักแล้ว
“มันก็แล้วแต่เธอจะกรุณา เฟลิโอน่า เกรเดเวล เชิญสุภาพสตรีก่อน” เจ้าชายมาดเย็นกล่าวเสียงนุ่มลึก ก่อนจะเอ่ยเป็นมารยาทของสุภาพบุรุษที่ดีตามอุดมการณ์สุภาพสตรีก่อนเสมอ
“แล้วนายจะต้องเสียใจภายหลัง คาโล” เจ้าหญิงแต่ศักดิ์ เอ่ยก่อนจะเริ่มเปิดกระดานโดยการเดินเบี้ยไปข้างหน้าเพื่อเปิดช่องให้ควีนขึ้นมาคุมพื้นที่อย่างเหม่อลอย ดวงตาสีน้ำตาลทั้งคู่หาได้จดจ่ออยู่ที่กระดานไม่หากแต่กำลังมองจดจ้องไปยังไปหน้ารูปสลักของชายหนุ่ม ที่ดูยังก็เย็นชาเรียบเฉยไร้ความรู้สึกไม่รู้ว่าเธอไปรักมันลงได้ยังไงกัน ในขณะที่มือบางข้างหนึ่งยังคงเดินตัวหมากไปเรื่อยๆอย่างประมาทในฝีมือของเจ้าชายนักรบ ส่วนอีกข้างหนึ่งก็เอามาเท้าคางนั่งจ้องอย่างสนุกสนาน
“ฉันตัดสินใจแล้วเฟรินและฉันจะไม่มีวันเสียใจภายหลังหรอกเฟลิโอน่า เพราะเธอเคยให้คำมั่นกับฉันไว้แล้ว เพราะฉะนั้น ฉันรุกฆาต!~
” เสียงเรียบๆของเจ้าชายที่หลวมตัวมาซักผ้ากับหัวขโมยแต่กลับเรียกเสียงฮือฮาให้แก่ผู้เข้าชมการแข่งขัน“เฮ้ยได้ไงวะ เอาใหม่ๆเลยตะกี้ฉันอ่อยให้ ตานี้ฉันขอแก้มือ” หัวขโมยที่หลุดจากภวังค์เอ่ยพร้อมกับใช้มือเรียวๆของเจ้าหล่อนกวาดหมากมาจัดเรียงใหม่ แต่ทว่าเจ้าชายผู้สูงศักดิ์กลับลุกออกจากเก้าอี้เป็นเชิงปฏิเสธ
“ถ้าจะแก้ก็ไปแก้กันข้างบน” เจ้าชายยังคงรักษาภาพพจน์หน้าตายด้านเอาไว้ก่อนจะปล่อยคำพูดสองแง่สามง่ามที่ไม่ว่าจะยังไงก็มีแต่จะแทงหัวขโมยครบทั้งสองด้าน
“แก้อะไรของแกวะไอ้ผีทะเล ไม่ล่งไม่เล่นมันแล้วไอ้หมากรุกเนี่ย” คนเก่งหมากรุกเอ่ยด้วยหน้าแดงก่ำ ทั้งโกรธที่ไม่สามารถแก้มือได้ ทั้งอายที่คิดว่าไอ้น้ำแข็งเฮงซวยนั่นมันจะชวนไปแก้บ้าอะไรของมัน ก่อนร่างบางจะเดินกระทืบปึงปังออกไปหาเพื่อนสาวที่จับกลุ่มนั่งคุยกันที่ม้านั่งใต้ต้นมะพร้าวใหญ่ ปล่อยให้พวกหนุ่มๆเล่นหมากรุกกันต่ออย่างสนุกสนาน
“นายจะไปไหน” มือแกร่งคว้าข้อมือบางของหญิงสาวที่พยายามจะเดินออกไปข้างนอกอย่างฉุนเฉียว ส่วนผู้ถูกรั้งไว้ก็พยายามสะบัดข้อมือของตัวเองให้หลุดแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
“ไปหาพวกสามสาวโว้ย แล้วนี่แกจะปล่อยฉันไปได้รึยังวะ” ร่างบางโวยวางพลางดิ้นสุดชีวิตทั้งลากทั้งดึงแต่ดูเหมือนคนตัวสูงกว่าจะไม่ระแคะระคายเลยแม้แต่น้อย
“นายโกรธ” เสียงเรียบอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใบหน้าคมคายที่ปกติจะถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งตอนนี้กลับกำลังเริ่มละลายเมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาวเพียงคนเดียวที่เขาแคร์มากที่สุด ก่อนมือที่พันธนาการข้อมือบางอยู่จะถูกปล่อยออกอย่างนิ่มนวล
“ฉันไม่ได้โกรธ เรื่องอะไรฉันต้องโกรธแกด้วยวะฮะ ไอ้ที่แกชนะตะกี้น่ะฉันอ่อยให้แกรู้ไว้ซะด้วยไอ้น้ำแข็งอ่อนหัด” สาวน้อยโวยวายเสียงลั่นพลางใช้ดวงตาสีน้ำตาลกลมระริกของเธอจ้องไปยังบุรุษตรงหน้าอย่างหมั่นไส้ นึกเสียดายที่เธอประมาทให้มันไปหน่อยเพราะมัวแต่คิดอะไรเพลินๆจนแพ้มันจนได้
“งั้นก็ดี ..เล่นให้สนุกนะ แม่หัวขโมยตัวแสบ” ชายหนุ่มเดินเข้าประชิดร่างบางที่กำลังหัวเสียอย่างรวดเร็วพร้อมกับเอ่ยเสียงทุ้มที่ทำให้หัวใจของคนฟังแทบละลาย ก่อนจะจุมพิตที่หน้าผากหนึ่งทีแล้วใช้หน้าผากของตนเข้าประกบกับของอีกฝ่ายแล้วสั่นไปมาอย่างเอ็นดูพลางกล่าวอวยพรเหมือนเป็นคำอนุญาตของผู้ใหญ่ที่ให้เด็กไปเที่ยวได้ตามใจชอบ
“ไอ้บ้าคาโล แกนี่ละก็” คนถูกกระทำเอ่ยพลางใช้มือบ้างผลักแผ่นอกกว้างออกช้าๆ ถึงแม้จะโชกโชนมามากกับชีวิตโลดโผนแต่หัวขโมยคนนี้ก็ไม่เคยได้รับความรู้สึกนี้มาก่อน เพราะการกระทำของเธอที่เคยทำกับหญิงอื่นมันเป็นความกะล่อนตามประสาเด็กหนุ่ม แต่ที่คาโลทำกับเธอนั้นมันต่างออกไปชายคนนี้เขาทำด้วยความ *รัก* ด้วยการ ดูแล ห่วงใย ใส่ใจ หวงแหน และการปกป้องเทคแคร์ที่มีให้เธอมาโดยตลอดไม่ว่าเธอจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม ซักพักเพื่อร่างบางพ้นจากระยะของร่างสูงแล้วนางฟ้าองค์ที่สี่ก็ออกวิ่งกระโดกกระเดกไปหากลุ่มเพื่อนสาวทันที
ซึ่งเป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูน่าเอาใจใส่ปกป้องน่าทะนุถนอมในสายตาของเจ้าชายแสนเย็นชาคนนี้
..ถึงเธอจะสวยไม่ได้ครึ่งนางฟ้า ถึงปากเธอจะหมาก็ตามที แต่ราชินีของฉันก็ยังเป็นเธอ เฟลิโอน่า เดอโบโรว์ เพียงคนเดียว นับแต่นี้และตลอดไป และหวังว่าคงไม่ใช่เพียงแค่ชาตินี้แน่ เฟริน
*ต้องขอโทษด้วยนะ เจ้าลาบราดอร์ เดอะเกรทที่สี่ ฉันคงยกเฟรินไปเป็นแม่พันธุ์ให้อย่างที่เคยบอกไว้ไม่ได้แล้วล่ะ ฉันขอโทษจากใจจริง คาโล วาเนบลี*
ความคิดเห็น