คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : _5_ แล้วจะทำไม
_5_ แล้วจะทำไม?
ผมวิ่งกระหืดกระหอบตามซาสึเกะมาตั้งแต่มันจูบแล้วทิ้งผมไป =_=?! เดี๋ยวๆ... ไม่ใช่แระ มันทำผมขายหน้าแล้วเดินหนีมาตั้งหากล่ะ
“ซาสึเกะเมื่อกี้มึงทำไรว่ะห๊ะ! ปากกูไม่ใช่ปากสาธารณะที่มึงจะมาจูบกูแบบนี้นะเห้ย” ผมดึงคอเสื้อให้มันหันกลับมาหาผม ตอนนี้ผมกับมันประจันหน้ากันล่ะครับ
“เหรอ?” เหรอ?! มึงเหรอคำเดียวอ่อ ไอ้ซาสึเกะ!~
“เหรอ?! เหรอเหี้ยไรมึง” ผมจ้องหน้ามันไม่ลดล่ะ ถ้าไม่ติดว่าผมทำเสื้อราคาแพงแสนแพงของมันเลอะนะ ตอนนี้ผมก็อยากฝากรอยเท้าไว้กับมันอีกสักรอย แต่... 555+... คิดไปคิดมาไม่ดีกว่าแหะ ^^! แค่ตัวเดียวผมก็ไม่รู้ว่าต้องรับใช้มันอีกนานแค่ไหน แล้วถ้าเกิดฝากเพิ่มอีกรอยล่ะก็ 555+ รับใช้มันตลอดชาติแน่ครับ
“ปากไม่ใช่สาธารณะ?’” ดูม้านนนนนนนครับ ยังจะย้อนถามอีก หูไม่ดีไงฟระ!
“เออ! “ ผมกระแทกเสียงใส่หน้ามัน ก่อนจะผลักมันออก เห๊อะ! บางทีผมก็นึกสงสัยนะว่าสาวๆที่มอเนี่ยยย~ ไปหลงคนอย่างซาสึเกะได้ยังไง หน้านิ่งก็ที่หนึ่ง เย็นชานี่ก็ที่หนึ่ง หยิ่งก็ที่หนึ่ง ทุกอย่างที่เป็นข้อไม่ดีของมันผมยกให้เป็นที่หนึ่งหมดเลยแล้วกันครับ ^0^
“หึ!” ซาสึเกะมันกระตุกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเดินนำผมไป ตามด้วยผมที่ต้องตามไป มันคิดว่าผมไม่มีเรียนช่วงบ่ายไงว่ะ
เมื่อสถานที่ไม่ได้มีแค่ร่างบางกับร่างสูงแค่สองคนทุกการกระทำของคนทั้งคู่ได้อยู่ในสายตาของด้านอีกฝั่งที่มีใครเฝ้ามองทั้งคู่อยู่ห่างๆก็ได้จัดเก็บเรื่องราวของคนทั้งคู่ไว้ในเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยและเชื่อมโอนข้อมูลไปยังบุคคลที่ให้เขาคนนี้มาเฝ้าแอบมองอยู่ห่างๆ โดยที่เจ้าตัวเองไม่รู้เลยว่าจะทำแบบนั้นไปทำไม เพราะผลประโยชน์งั้นเหรอ..? และถ้าเป็นอย่างนั้นคนที่สอบเข้าเพื่อขอทุนอย่างนารูโตะไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแม้แต่น้อยจะเอาข้อมูลไปทำไมกัน
และถ้าเมื่อย้อนเวลากลับไปสักก่อนที่นารูโตะจะโตล่ะก็ นารูโตะเป็นเด็กที่สดใสคนนึงที่ไม่รู้จักโลกมากวันๆที่เอาแต่วิ่งเล่นและซนไปตามประสาเด็กคนหนึ่งที่ไร้เดียงสาก็ได้ย้ายมาอยู่กับลุงของเขาอย่างกะทันหันและเพื่อความปลอดภัยของเขาเอง ผู้ที่ได้ชื่อว่าพ่อแม่ก็ต้องจำใจจากลูกไปแต่โดยจำยอมเพราะเพียงขอแค่ให้ลูกของเขาปลอดภัยและเติบโตอย่างมีความสุขไม่ต้องพบเจอกับเรื่องราวที่พวกเขากำลังเจออยู่นะตอนนี้
“เห้ยนี่ ซาสึเกะแกคิดว่าฉันไม่มีเรียนรึไงว่ะ ให้เดินตามอยู่ได้” ผมที่เอาแต่บ่นตั้งแต่ที่เดินตามามันมาก็อดไม่ได้ที่จะบ่นมันอีกสักรอบ และซึ่งแต่ละรอบผมก็ไม่เคยได้คำตอบจากมันเช่นกันและอาจจะรวมถึงเมื่อกี้ที่ผมบ่นด้วย
“มีรึไง” ซาสึเกะที่ตอบออกอย่างสั้นๆหันกลับมามองร่างบางที่เอาแต่ปริปากบ่นเขาไม่รู้จักเหนื่อยอย่างเหลืออด
“วันนี้ไม่มี แต่ฉันแค่อยากบ่นแกก็เท่านั้น = = “ โอ้ยยย~ คุณผู้อ่านไม่เข้าใจผมหรอกครับว่ามันเป็นยังไงที่ต้องเดินตามมันต้อยๆแบบไม่ที่ไปแต่มันก็เสือกเดินไม่หยุดซะที TT
“งั้นก็หุบปาก รำคาญ” ก๊ากกกกกกกก ไอ้ซาสึเกะแกรำคาญก็ปล่อยฉันไปสิว่ะให้มาตามอยู่ทำไมมันน่ารำคาญกว่าไหม
ผมที่ได้แต่คิดแล้วก็คิดก็กอดอกยืนมองมันด้วยสายตาที่เด็กอนุบาลยังดูรู้เลยว่า ไม่พอใจ!
“ทำไม ไม่พอใจ?” ยังจะถามออกมาหน้าด้านๆอีก เออสิว่ะ ไม่พอใจ!
“เออ” อยากจะตอบมันกลับไปมากกว่านี้เหลือเกินครับ แต่หุบปากไว้ดีกว่า -0-
ซาสึเกะ :
ไม่ว่าหมอนี่จะอายุเท่าไรก็ยังทำตัวเหมือนเด็กไม่มีเปลี่ยน ผมที่เหลืออดกับที่นารูโตะที่บ่นผมไม่มีหยุดสุดท้ายก็ต้องหันกลับมาตอบอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ตอบก็นึกว่าจะเงียบแต่ผิดคาด บ่นมากกว่าเดิมอีก
และหลังจากที่ตอบไปแล้ว นารูโตะมันก็ยืนกอดอกอย่างไม่พอใจ แต่ชั่งเหอะใครสนล่ะ ผมเดินมานั่งที่เก้าอี้ประจำที่ผมนั่งทุกวันในห้องสมุด หนังสือที่มีหลากหลายประเภทไม่รู้กี่พันเล่มผมก็อ่านมันมาเกือบหมดแล้วและผมก็จะทำอย่างที่ผมทำทุกวันก็คืออ่านหนังสือแต่ดูเหมือนวันนี้จะอ่านไม่ได้สะล่ะเพราะไอ้คนข้างๆที่ทำตัวเหมือนเด็กทำหน้าตายซากเหมือนคนขาดสารอาหารและมาเจอสารพิษเข้าไปซ้ำเติมอีก
“ซาสึเกะถ้าแกจะอ่านล่ะก็ฉันไปรอข้างนอกนะ ฉันไม่ชอบที่สงบไร้เสียง” ผมลุกพรวดจะออกจากตรงนั้นซะได้ แน่ละให้ผมมาอยู่ที่แบบนี้ให้หมื่นนึงผมยังไม่เอาเลย มันเงียบเกิ๊นนนนนน~
“ไม่ได้ งั้นดูหนังไหมล่ะ” ดูหนังเหรอ 555+ ก็ดีดิ แต่ดูที่ไหนว่ะ
“ดูดิ แต่ที่ไหนล่ะ”
“ตามมา” ซาสึเกะเดินนำผมไปหลังชั้นวางหนังสือที่อยู่หลังสุดก่อนจะพบกับสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะมีในห้องสมุดก็มีจนได้!
ห้องดูหนังส่วนตัวที่มีทุกอย่างให้ในนั้น ไม่ว่าจะเป็นทีวีจอใหญ่ โซฟา โต๊ะขนาดกลางไว้สำหรับของกินแหงๆผมว่านะ ^^ หูฟัง และหนังทีมีทุกประเภททุกแนว ที่นี่มันเยี่ยมที่สุดเลยคร้าบบบบบ ไม่เสียแรงที่ผมอุตส่าห์ให้ชิกะติวให้จนไม่ได้เล่นเกม 555+ คุ้มจริงๆ
ผมรีบชิ่งเข้าไปเปิดประตูก่อนที่ซาสึเกะจะเปิดมัน และ...
โป๊ก!
“นิ! “ ปิดประตูกระแทกใส่หน้าซาสึเกะก่อนจะที่มันจะเข้ามา 555+
“555+ สมน้ำหน้า แบร์” ผมแลบลิ้นยาวๆใส่ซาสึเกะก่อนจะเดินนั่งโซฟาที่ดูแล้วโคตรนุ่มมมม~ และมันก็นิ่มจริงๆครับ ^0^ ให้ผมโดดเรียนมาแอบนอนที่นี่ทุกวันยังได้เลย
ผมเอนตัวพิงผนังโซฟาก่อนจะยกขานั่งไขว่กันพร้อมกับกระดิกเท้าไปมาอย่างสบายใจ ผมเหลือบมองซาสึเกะที่ดูเหมือนไม่พอใจนักแสดงออกสีหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน หน้ามันอย่างกับจะแดกหัวผมงั้นแหละ -.-
ผมมองหารีโมทที่ไม่รู้ว้ามันอยู่ส่วนไหนของห้อง แต่ผมไม่ยอมเลิกหาง่ายๆหรอก ได้เข้าทั้งที่แระอย่างน้อยต้องได้ดูสักเรื่องแหละว่ะ
และเหมือนร่างสูงจะรู้ว่าร่างบางหาอะไรจึงได้ยื่นของที่ร่างบางหานั้นยื่นมาให้ตรงหน้า
“ขอบใจ ^^” ผมเอื้อมมือจะไปรับรีโมทแต่
“ไม่ให้” =_=! ไอ้ซาสึเกะ!!! อยากจะตึบมึงซะ
“เอามา มึงก็ไปอ่านหนังสือดิ” ผมคว้ารีโมทจากซาสึเกะมันอีกครั้ง แต่ไม่ได้ผล มันถือว่ามันสูงกว่าผมแล้วจะเอาเปรียบผมได้อ่อ งี้มันไม่ยุติธรรมเลยว่าไหมท่านผู้อ่าน T0T
“หอมแก้มกูดิ” เห้ยยยย พูดอารายยยหน้าด้านๆ ไม่เอาเว้ย!
“ไม่เอาเว้ย เอามาจะดู!”
และก็เป็นเช่นเดิมร่างสูงเอารีโมทไว้เหนือหัวก่อนที่จะทำแก้มป่องให้ร่างบางเป็นเชิงบอกว่า อยากดูก็หอมซะ ไม่งั้นก็ไม่ต้องดู
“อ..อะไรนั้น แก้มป่องหาไรฟระ! คิดว่าหล่อมากไงหรือคิดว่าตัวเองเป็นเด็กเล็กๆหะ?” ถึงจะพูดออกไปแบบนั้นแต่ร่างบางเองก็หน้าแดงขึ้นมาหน่อยๆแล้ววววว~
“นี่คำสั่ง” ร่างสูงทำหน้าดุใส่ร่างบางแล้วเพิ่มลมในปากทำให้แก้มป่องมากขึ้น
ถึงปากจะบอกว่าไม่หล่อแต่หูก็แดงเถือกไปถึงไหนนนนนนแล้ว
“งั้นไม่ดูก็ได้เว้ย!” เรื่องไรต้องให้ผมหอมมันล่ะ ไม่เอา
นารูโตะกอดอกแล้วเบ้ปากใส่ซาสึเกะก่อนจะลุกยืนเพื่อเปิดประตูออกไป ทันใดนั้น
พรึ่บ!!!!
ไฟทั้งห้องก็ดับลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ซ...ซาสึเกะ น..นายอยู่ไหนว่ะ” ร่างบางเริ่มขาสั่นนิดๆเพราะมาจากความกลัวที่กำลังก่อตัวขึ้น ร่างบางคว้าหาสิ่งที่มีชื่อว่าซาสึเกะเพื่อย้ำว่าเขาไม่ได้อยู่ในนี้คนเดียว
มือของร่างบางคว้านหาร่างสูงจนไปแตะโดนเข้าที่แก้ม ก่อนจะที่ร่างบางจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆร่างสูงแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ร่างสูงเองก็ไม่ได้อยากจะย้ำอะไรร่างบางมากจึงได้แค่โอบเอวร่างบางเอาไว้แล้วลูบหัวเบาๆ ถึงร่างบางจะมีปฏิกิริยาปฏิเสธร่างสูงนิดๆ แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้ร่างสูงโอบเช่นเดิม
เมื่อบรรยายกาศมันชักจะเงียบมากไป นารูโตะจึงเป็นฝ่ายเริ่มพูดทำลายความเงียบก่อน
“เห้ยซาสึเกะวันหยุดกูต้องอยู่เป็นเบ้มึงเปล่าว่ะ”
“อยู่บ้านกูก็ต้องเป็นดิ”
“งั้นเสาร์นี้ลาสักวันล่ะกัน”
“ทำไม”
“จะไปดูหนัง นัดกับไอ้ชิกะและคิบะไว้แล้ว” เอาเหอะ~ ให้กูหยุดไปดูกับเพื่อนกูเหอะนะ ซาสึเกะ~
“ถ้าจะไปดูทรานฟอร์เมอร์ล่ะก็พวกนั้นดูกันแล้วล่ะ”
“เห้ย! อะไร ได้ไง” มันจะไม่ผมไปดูก็บอก แม่งอ้างชื่อเพื่อนผม โด่!
ซาสึเกะไม่ตอบที่ผมถามแต่หยิบสมุดเล่มนึงมาให้ผมดูก่อนจะชี้ไปที่รายชื่อของเพื่อนทั้งสองคนของผม
“นารา ชิกามารุ อินุสึกะ คิบะ!? 0_0?!! “ ไม่จริงเด้! พวกมันมาดูตอนไหนว่ะ และในห้องสมุดนี่มีให้ดูแล้วเหรอ!??
“ห้องสมุดที่นี่ทำ MOU กับโรงหนังไว้ แต่จะได้ดูหลังจากหนังเข้าได้อาทิตย์นึงก่อน” ไม่จริงเด้~~~!! ทำไมพวกมันทิ้งผมมาดูก่อนล่ะ!?
ไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรต่อไป ไฟที่ดับมานานก็กลับมาสว่างขึ้นอีกที ผมเหลือบมองรายชื่อนั้นอีกครั้งก่อนที่ซาสึเกะจะเปิดทีวีและ...
“ทรานฟอร์เมอร์!? “ผมถลาตัวเข้าไปหาทีวีทันที และจอมันก็มืดดับสนิทลงทันใด = =
“บอกแล้วว่าต้องทำไง” มันพูดออกมาหน้าด้านๆอีกล่ะครับ คือผมอยากดูอ่ะ ถ้าจะให้ชวนพวกนั้นที่มันดูกันแล้วมันคงไม่ดูกันแน่ เอาไงดีว่ะ
ผมหลับตาปี๋ก่อนจะใช้ปลายจมูกให้ไปโดนแก้มซาสึเกะมันทันทีที่ตัดสินใจได้
ก็แค่ปลายจมูกที่มาโดนแก้ม ต้องปากด้วยสิ เมื่อคิดได้แบบนั้นร่างสูงก็ขยับแก้มตัวเองให้ชิดทั้งปากและจมูกร่างบางมากขึ้น และตามด้วยนิ้วเรียวที่กดเปิดทีวี
555+ ^^ สวัสดีคร้าบบบบ ช่วงนี้อาจจะมาลงบ่อยๆแล้วล่ะครับพอดีเริ่มว่างบ้างแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกเม้นเลยครับ แล้วก็ยังมีคำผิดอยู่อีกไหม 555+ แต่คงไม่เยอะแล้วล่ะครับ เพราะลองอ่านทวนหาคำผิดบ้างแล้ววว ถ้ามีก็ขออภัยด้วยขอรับ และก่อนจะไป ^^ อย่าลืมเม้นให้กำลังใจด้วยนะครับ
ความคิดเห็น