คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ -50%
บทนำ
ฟ้าว สายลมพัดผานใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของสาวน้อยผู้เป็นเจ้าของผมสีดำรัตติกาลและนัยต์ตาสีแดงเลือด เธอหลับตาลงหนึ่งครั้ง ก่อนขยับริมฝีปากสีชมพูพร้อมเอ่ยออกมาว่า
“ด้วยนามของข้า ข้าขออัญเชิญเทพพิทักษ์แห่งข้า” ทันทีที่พูดจบ สายลมโหมกระหน่ำ บ้าคลั่งเหมือนพายุ แต่เด็กสาวก็ยังยืนกรานต้านลมอยู่โดยไม่คิดจะขยับไปไหน สายฟ้าผ่างมาตรงหน้าของสาวน้อยห่างกันเพียงสามก้าว ละอองฝุ่นดินคลุ้งไปทั่ว เมื่อสายลมอีกวูบพัดผ่านมา พาละอองดินหายไป ก็ปรากฎ ร่างสีดำยักษ์ใหญ่ มีเกล็ดเหมือนงู มีปีกเหมือนค้าคาว ปากยื่นออกมาข้างหน้า มีใบหน้าเหมือนกระบือ มีเขาใหญ่ดุจมังกร แลมีเสยงอันน่าสยดสยองและชวนแสบแก้วหู “เจ้า...มีธุระอันใดกับข้า”เจ้ายักษ์เอ่ยปากออกเสียง “ข้าอยากทำพันธสัญญากับเทพพิทักษ์” สาวน้อยยืนกรานตอบอย่างไม่เกรงกลัว เธอสังเกตเห็นใบหน้ากระบือของมันบึ้งตึงขึ้น “งั้นข้าก็ไม่มีอะไรกับเจ้าอีกต่อไปแล้ว เพราะข้าไม่ใช่เทพพิทักษ์ ข้าคือปีศาจมืด ผู้รับใช้ราชาปีศาจเท่านั้น” เจ้ายักษ์ตวาด “แล้วเจ้าก็ไม่สามารถอัญเชิญเทพพิทักษ์ได้หรอก” มันพูด
คำพูดของมันทำให้เธอกำหมัดแน่น ถึงมันจะหายไปกับสายลมแล้ว แต่คำพูดของมันก็ยังดังกึงก้องอยู่ในจิตใจ “ปัดโธ่! ทำไมล่ะ ทำไม” เธอพูด “เดน่า เข้าบ้านมาได้แล้วลูก” เสียงของหญิงผู้เป็นแม่เอ่ยเรียกตะโกนออกมา สาวน้อยจึงวิ่งกลัเข้ากระท่อมหลังล็กๆ ของเธอไป “เดน่า ถ้าลูกทำไม่ได้ก็อย่าไปฝืนมันเลยลูก ถ้าเป็นแม่ แม่จะยอมทำไม่ได้ ดีกว่าทำได้แต่เป็นปีศาจพันธุ์นั้น” ผู้เป็นแม่พูดปลอบใจเธอ “ไม่ว่ายังไงหนูก็จะต้องทำให้ได้ค่ะท่านแม่ หนูจะไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้หรอกค่ะ” เธอพูดขึ้นอย่างมุ่งมั่น “จ้าๆ แม่จะเอาใจช่วยนะ” แม่พูด “แล้วเย็นนี้จะกินอะไรดีล่ะจ้ะ”เธอถามลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอ “เอาเป็นเนื้อแกะอบเกลือแล้วกันค่ะ”สาวน้อยยิ้มตอบ ระหว่างที่รอแม่ทำข้าวเย็น ก็มีเสียงคนมาเคาะประตู เสียงเคาะรัวเร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้น แล้วเงียบไป สาวน้อยเปิดประตูออกไป เห็นร่างของชายฉกรรย์นอนจมกองเลือดของตนเอง เขาปรือตาขึ้นมองเธอ แล้วค่อยๆเอ่ยปากช้าๆว่า “ดะ...เด...นะ...น่า” ใบหน้าของเดน่าซีดลงไปเท่าตัวเมื่อเห็นชายตรงหน้ากระอักเลือดออกมาอีกกองโต มันดูน่ากลัว จนเธอเข่าอ่อน ทรุดฮวบลงกับพื้น เธอได้ยินเสียงแม่ของเธอวิ่งมา เมื่อเห็นใบหน้าของชายที่นอนจมกองเลือด เธอก็เผลอตะโกนออกมาว่า “ที่รัก!” เดน่าค่อยๆ หันไปสบกับนัยต์ตาของแม่ที่สั่นระริกเหมือนกับเธอไม่มีผิด “ดะ..ดาร์ลิ้ง” ร่างกึ่งศพเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา แต่ก็ดังพอที่ทำให้สองแม่ลูกได้ยิน “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแล้ว ฮึก” แม่ของเดน่าพูดเสียงดังออกมา “มะ...ไม่นะ อย่าตายเด็ดขาดเลยนะ” แม่พูดอีก “ทะ...ท่านพ่อ พอได้แล้ว” เดน่าเอ่ยขึ้นบ้าง “แข็งใจไว้นะ” แม่พูดอีก
“ระ...รถพยาบาล เรียกรถพยาบาลสิ อ้อก!” พ่อพูด
“จริงด้วย จดหมาย โทรเลข โทรศัพท์ อะไรก็ได้ขอหน่อย” แม่พูดย่างลุกลี้ลุกลน เดน่ายืนขึ้นแล้วล้วงลงในกระสะพายของเธอโยนนู่นโย่นนี่ อะไรต่อมิอะไรออกมาเยอะแยะ แต่ไม่พบสิ่งที่พูดเมือกี้เลยซักชิ้น จนผ่านไปหลายนาที เธอหยิบอะไรออกมาซักอย่างออกมา แล้วกดๆจิ้มๆ แล้วเอาแนบหู ใบหน้าของผู้เป็นพ่อซีดลงเรื่อยๆแข่งกับใบหน้าสีซีดที่ยิ่งทียิ่งซีดแล้วใหญ่เมื่อมองใบห้าของผู้เป็นพ่อ ขอบตาร้อนผ่าวและเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำและพร้อมที่จะปล่อยออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ เธอเอ่ยปากพูดอะซักอย่างแล้วกดปุ่มอะไรก็ไม่รู้ แล้วยัดมันใส่กระเป๋า ไม่นานนัก เสียงหวอของรถยาบาลก็ดังมาแต่ไกลเมื่อถึงหน้าบ้าน รถพยาบาลก็แบรกเอี๊ยด แล้วก็มีกลุ่มคนประมาณสี่ห้าคนแบกร่างจมกองเลือดไป เดน่าขึ้นรถตามไปด้วย ถึงโรงพยาบาลแล้ว สองแม่ลูกก็กอดกันกลมดิ้กร้องไห้โฮๆ ไม่ยอมหยุด มีชายหนุ่มเดินมายืนข้างๆ ของสองแม่ลูกแล้วเอ่ยว่า “ขอแสดงความเสยใจด้วยครับ เขาเสียเลือดมากเกินไป ทำให้เขาขาดใจและเสียชีวิตไปก่อนที่เราจะรักษาเขา” สองแม่ลูกทรุดฮวบลงกับพื้น ปล่อยโฮออกไปลั่น จนมีพยาบาลวิ่งเข้ามาปลอบใจ กว่าจะเข้าไปหาสองแม่ลูกได้ ก้ต่อล้อต่อเถียง และโดนว่าไปอย่านทีเดียว เพราะแม่ยืนกรานบอกว่าอย่าเข้ามายุ่งตลอดที่พยายามเข้าหาเลย จนต้องให้ยามมาล็อกตัวไว้แล้วค่อยๆ ปลอบ จนสองแม่ลูกยอมสงบสติอารมณ์ แล้วเดินกลับบ้านไปด้วยไปห้าอันหม่นหมองและเศร้าสร้อยอย่างหนัก “ท่านแม่ค่ะ ทานข้าวกันเถอะค่ะ หนูหิวแล้ว” เดน่าพูดแถมมีแอฟเฟ็กท้องร้องเพิ่มเข้ามาด้วย “วันนี้เปลี่ยนเป็นเมนูอื่นได้มั้ยล่ะ” แม่ถาม “ได้ค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงสลดลงนิดหน่อย สองแม่ลูกเดินตาบวมกลับบ้าน เพราะลืมพกกระเต๋าตังค์มาด้วย
ความคิดเห็น