ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {จบเเล้ว} My baby ถ้าไม่อยากเป็นพี่ต้องทำยังไง [#markbam ft.Bnior]

    ลำดับตอนที่ #48 : SF ปิดท้าย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.48K
      10
      9 เม.ย. 58

    " SF ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื่อหา อ่านก็ได้ ไม่อ่านก็ได้ คอมเม้นก็ได้ ไม่คอมเม้นท์ก็ได้ ก็เเล้วเเต่.........
    ล้อเล่นๆๆ เอาเป็นว่า เป็นของเเถมให้รีดเดอร์เเล้วกันเนอะ เป็น SF ที่จะเอาไว้ส่งท้ายเเล้วนะ ก่อนที่จะกลับไปเเก้คำผิดในตอนต่างๆที่เคยเเต่งไปก่อนหน้า "








    SF ห้องตรงข้าม

    ผมเดินไปเดินมาหน้าประตูห้องเเทบจะนับครั้งไม่ได้เเล้วตอนนี้ ไม่รู้ว่ามันร้อยรอบหรือพันรอบกันเเน่ เฮ้อออออ ผมมายืนบ้าไรตรงหน้าประตูกันว่ะ  
    ทำเหมือนโรคจิตเลยเเฮะ เลิกๆๆ กลับไปนอนได้เเล้วมาร์ค อย่าบ้าให้มาก

    ตึก ตึก ตึก 

    "เหนื่อยจัง"

    นั้นมันเสียงงง

    พรึบ

              สองขายาวๆของผมรีบวิ่งไปเกาะหน้าต่างห้องตัวเองที่สามารถมองเห็นด้านนอกได้เเล้วที่สำคัญข้างนอกไม่เห็นข้างในหรอกครับ ตอนเเรกผมก็ว่าคอนโดนี้มันเเปลกๆที่สร้างหน้าต่างกระจกไว้ข้างหน้าห้องด้วย เเต่ตอนนี้ผมอยากจะกราบคนดีไซน์ชะมัด มันช่างถูกใจมาร์คจริงๆ
              ผมมองไปที่ประตูของห้องฝั่งตรงข้ามกับผม ที่ตอนนี้มีร่างบางๆของผู้ชายคนนึงยืนหอบหิ้วของพะรุงพะรังเต็มมือ มันดูเป็นภาพที่ผมชินตาไปเเล้วอ่ะดิ่ 
              ใบหน้าหวานก้มลงหากุญเเจในกระเป๋าสะพายของตัวเอง มือนึงก็หอบกระดาษเเละปากของเจ้าตัวกำลังคาบ ผมใช้คำนี้ได้มั้ย หูหิ้วของถุงกระดาษอยู่ ใจจริงก็อยากไปช่วยนะ เเต่เดี๋ยวเขาจะรู้อ่ะดิ่ว่าผมเเอบมองอยู่

    ตุบ 

     

    นี่สงสัยกันใช่มั้ยว่าผู้ชายอย่างผมเป็นพวกขี้มโนตั้งเเต่เมื่อไหร่ เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ห้องตรงข้ามผมที่ปล่อยว่างมานานนับหลายปี ตั้งเเต่ผมย้ายมาอยู่ อยู่ๆก็มีคนมาซื้อเมื่อสองเดือนก่อน ซึ่งผมก็ไม่สนใจอะไร ถ้าเจ้าของห้องจะไม่ใช่เด็กผู้ชาย ขอใช้คำนี้นะ เพราะน้องเขาดูท่าจะอายุน้อยกว่าผม ย้ายเข้ามา ใบหน้าหวานๆนั้นดูสดใสตลอดเวลา ริมฝีปากเเดงนั้นก็ส่งยิ้มทุกครั้งที่เจอผม มันทำให้ผมรู้สึกอยาก..............

     

     

    เเอดดดดด 

    ผมทำทีเปิดประตูออกไป เเต่เเค่เเง้มๆอ่ะนะ เเล้วน้องเขาก็หันมามองหน้าผม ดวงตาโตๆนั้นมองผม ก่อนที่ปากเเดงๆนั้นจะฉีกยิ้มให้ผมอีกเเล้ว >< 

    "ผมเสียงดังรึเปล่าครับ"
    "ไม่ครับ"
    "เเล้วพี่ เอ่อ คุณ ออกมา จะไปข้างนอกหรอครับ"
    "ครับ"
    "งั้นเดี๋ยวผมรีบเก็บนะครับ" มือเล็กๆกำลังสาละวนกับเเผ่นกระดาษมากมายที่อยู่บนพื้น น้องเขาเก็บขึ้นมาทีละเเผ่นอย่างทะนุทนอม 

    "พี่ช่วยมั้ย"
    "เอ๋??"
    "เดี๋ยวพี่ช่วยเก็บ" ผมไม่รอให้เจ้าตัวเขาตอบตกลงหรือปฏิเสธ ก้มลงเก็บกระดาษช่วยเขาเเล้วส่งให้ ก่อนที่จะเหลือบเเผ่นสุดท้าย

     

    "เอ่อ..."

    "อ่ะ รับไปสิครับ"

    "ขอบคุณนะครับ"

     

    มันเหมือนในละครชัดๆที่พระเอกนางเอกหยิบของสิ่งเดียวกัน พร้อมกันอีก โอ้ยยย ไอ้มาร์คฟินเว้ย เล็กๆน้อยๆก็ขอเก็บเป็นโมเมนต์เลยครับ ณ จุดนี้

     

    "ผมขอตัวก่อนนะครับ"

    "ครับ" น้องเขาหันหลังให้ผม ก่อนจะหากุญเเจอีกรอบ ผมมองการกระทำของเจ้าตัวเเล้วเเอบยิ้มอยู่คนเดียว ก่อนจะสะกิดไหล่เขาเบาๆ

     

    "พี่ช่วยเธอมั้ย"

    "มันจะดีหรอครับ"

    "ถ้าไม่กลัวว่าพี่จะทำของเราพังก็ส่งมา" ผมฉีกยิ้มที่คิดว่าหล่อสุดๆให้กับน้องเขา ก่อนที่ของในมือน้องเขาจะส่งมาให้ผมถือเอาไว้ให้

     

    "กลับบ้านเวลานี้ทุกวันเลยหรอ"

    "ใช่ครับ จริงๆเเบมไม่อยากอยู่ดึกขนาดนี้หรอกครับ เเต่บางทีงานมันเร่งส่งจริงๆ"

     

    เเบมหรอ น้องเขาชื่อเเบมด้วยอ่ะ ชื่อน่ารักจัง เเอร๊ย ก้าวมาหนึ่งสเต็ปเเล้วสินะ

     

    "อ่า เราทำงานเป็นสถาปนิกใช่มั้ย พี่เดาถูกมั้ย"

    "ครับ"

    "อย่างงี้ถ้าพี่จะสร้างบ้าน จ้างเราออกเเบบได้มั้ย"

    "ได้ครับ เเต่ผมอยากให้ติดต่อกับบริษัทผมมากกว่า เผื่อพี่จะถูกใจงานคนอื่นมากกว่าผมก็ได้นะครับ"

     

    โอ้ยย น้องเเบมครับ ณ เวลานี้อย่าว่าเเต่ถูกใจงานเลย คนออกเเบบพี่ก็ถูกใจนะครับ ชอบเเบบฉุดไม่อยู่เเล้วนะครับ บอกเลย ตอนนี้มีเเต่เดินหน้า พี่ไม่เบรกเเละถอยหลังเเล้วนะครับ

     

    "ขอบคุณพี่ เอ่อ คุณ เอ่อ..."

    "เรียก พี่มาร์คก็ได้ครับ น้องเเบม"

    "ครับ พี่มาร์ค"

     

     

     

     

     

    3 เดือนผ่านไป

    จากห้องตรงข้ามที่ทำได้เพียงส่งยิ้มให้กันไปมา ตอนนี้ผมว่าเหมือนอะไรๆมันจะเปลี่ยนไปน้าาา

     

    "เเบมมมม วันนี้มีไรกินบ้างอ่ะ"

    "เเบมยังไม่ทำเลยครับ"

    "เเล้วจะทำตอนไหนอ่ะ พี่หิ๊วววหิว"

    "กินมาม่าก่อนมั้ยครับ เเบมพึ่งเคลียร์ตู้ไป ของสดเเทบไม่มีเหลือเลยอ่ะ"

    "มาม่าก็ได้ ขอไข่สองฟองนะครับ"

    "ได้เลยครับ นั่งรอเเบมก่อนนะ"

     

    เสียงตะโกนจากห้องทำงานเงียบไป กลายเป็นเสียงฝีเท้าของคนตัวเล็กเเทน กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่น้องใช้ ลอยเเตะจมูกผมเมื่อยามที่น้องเดินผ่านผมไปที่ครัว โอ๊ยยย มาร์ตจะตบะเเตก

     

    ผมเดินเข้าไปในครัวที่มีคนตัวเล็กตั้งอกตั้งใจทำอาหารอยู่หน้าเตา ผมทำทีเปิดตู้หาขนมกิน เเล้วก็เจอช็อกโกเเลตเต็มตู้ไปหมด

     

    "ขนมเย็นจัง"

    "เเก้เครียดอ่ะครับ"

    "พี่เคยได้ยินว่า คนทำงานเเบบเเบม เวลาเครียดมากๆจะสูบบุหรี่ให้สมองโล่งๆใช่ป่ะ"

    "มั้งครับ เเต่เเบมไม่เคยลองอ่ะ เวลาเเบมเครียดเเบมจะกินพวกขนมมากกว่า เเค่ได้กินไรหวานๆเเบมก็โอเคเเล้วนะครับ"

    "อ่า อย่างงี้นี้เอง"

    "ยังไงครับ"

    "เปล๊าาาาา"

    "เสียงสูงเเบบนั้น หมายความว่าไงครับ"

    "เเกล้งเล่นเฉยๆ ปากเเบมเเดงขนาดนั้น จะดูดบุหรี่ได้ไงเนอะ"

     

    ผมทำเนียนเดินไปกอดคอคนต้มมาม่าอยู่ ก่อนจะกระดกนมในเเก้วที่รินใส่เเก้วจนหมด

    กลิ่นเเชมพูหอมๆของเจ้าตัวเล็กโคตรจะหอมเลย มันเป็นกลิ่นที่ผมพึ่งไปซื้อกับเเบมเมื่ออาทิตย์ก่อน

     

    คิดว่ามาร์คมาถึงขึ้นไหนเเล้วครับ จะเรียกสถานะนี้ว่าไงดีอ่ะ คงจะเป็นพี่ชายที่สนิทมั้ง เเบบเวลาไปไหนเราก็ชวนๆกันไป เเบมมีเรื่องไม่สบายใจ ผมก็จะคอยรับฟัง เขาดูเหมือนเด็กอ่อนเเอ เปราะบางนะ เเต่น้องเขาเป็นเด็กที่มีความอดทนสูงมาก เขาผ่านอะไรมามากมายทั้งๆที่อายุน้อยกว่าผม ใบหน้าที่ยิ้มเเย้มสดใส เบื้องหลังมันมีเเต่ความเหน็ดเหนื่อย ผมทึ้งในตัวเเบมเเบมมากเลยนะ

     

    "ได้เเล้วครับ"

    "กินด้วยกันมั้ย"

    "อืม พี่มาร์คหยิบถ้วยให้หน่อยสิครับ"

    ผมหยิบถ้วยใบใหญ่ในตู้เเล้วยื่นให้เเบมเเบมเทมาม่าใส่ถ้วย

     

    "อีกถ้วยหล่ะครับ"

    "ใบเดียวพอ กินด้วยกันสิ เเย่งกันกิน อร่อยดี"

    "ก็ได้ๆครับ"

     

    ผมรับถ้วยมาม่ามาถือเเล้ววางไว้ที่โต๊ะหน้าทีวี ช่องปัจจุบันกำลังฉายการ๋ตูนอะไรสักอย่างอยู่ มือเล็กๆของเเบมเเยมควานหารีโมต ก่อนจะเพิ่มเสียงให้ดัง ดวงตาก้มจ้องทีวีตาเเทบไม่กระพริบ

     

    เเบมคงชอบมากเลยสินะ

     

    ผมชอบเวลามองเเบมตั้งใจทำอะไรสักอย่างที่เขารักที่เขาชอบ ใบหน้ามุ่งมั่นจริงจัง มันทำให้เจ้าตัวมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นอย่างที่เจ้าตัวก็ไม่น่าจะรู้ตัว

     

    "เเบมเเบม กินก่อน เดี๋ยวอืดหมด"

     

    ผมยิ้มให้กับท่าทางของคนตัวเล็กที่เอียงคอไปมาตามจังหวะเพลง ปากก็งึมงำๆอะไรบางอย่าง มุมปากสองข้างยกยิ้มนิดๆ ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวเล็กนะมีความสุขขนาดไหน

     

    เเบมเเบมน่ะมีมุมน่ารักของเขานั้นเเหละ จริงๆไปทำอะไรเเบมเเบมก็น่ารักในสายตาผมอยู่ดี ไม่รู้เจ้าตัวจะรู้ตัวมั้ยว่ารังสีความน่ารักของตัวเองมันเปร่งประกายตลอดเวลา

     

    "พี่มาร์คกินไรเนี่ย เลอะหมดเเล้ว"

    "ไหน ตรงไหนอ่ะ"

    "อยู่นิ่งสิครับ"

     

    มือเล็กจับข้อมือขวาผมที่เช็ดไปทั่วปาก ก่อนที่อีกข้างของเเบมเเบมจะเช็ดปากให้ผมเบาๆ

     

    ขนตายาวเป็นเเพรสวย จมูกเล็กนั้น ไหนจะปากอิ่มสีเเดงที่มันน่าลิ้มลองอีก กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเจ้าตัว มันทำให้ผมเเทบคลั่งนะรู้ตัวมั้ย

     

    ไม่รู้ว่าเพราะเเรงดึงดูดหรืออะไร เมื่อซ้ายของผมตวัดรัดเอวเล็กๆให้มาใกล้ตัว ก่อนที่มือขวาของผมจะจับปลายคางของอีกฝ่ายเอาไว้ ดวงตาคู่สวยสบตากับผมพอดี ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ผมมองเข้าไปเเล้วทำให้ใจผมเต้นรัว

     

    "เเบม พี่....."

    "พี่มาร์ค เเบม...."

    ไม่รู้ว่าเราทั้งคู่เงียบใส่กันนานเเค่ไหน จนเสียงโทรศัพท์ของเเบมเเบมดังขึ้น เเล้วสติเราทั้งคู่ก็กลับมา

    ผมเก็บชามมาม่าไปล้างเเล้วเดินออกจากห้องไป ตอนนี้ผมขอไปสงบจิตสงบใจของผมก่อนนะ ถ้าอยู่ต่อผมได้เเอดมิทเเน่

     

     

     

     

    6 เดือนต่อมา

    "พี่มาร์ค เเบมว่าอันนั้นสวยอ่ะ"

    "พี่ไม่ชอบสีม่วงอ่ะ"

    "เเต่เเบมชอบ"

    "งั้นผมเอาสีเเดง"

    "พี่มาร์คอ่ะ!!!!"เเล้วคนตัวเล็กก็หนีผมไปเดินมุมอื่นเเทน

     

    วันนี้ผมชวนเเบมมาเลือกของตกเเต่งบ้านอ่ะ คือม๊ากับป๊าจะมาไง เเล้วเเบบไงอ่ะ คือผมมีบ้านนะเว้ย ที่ผมอยู่เนี่ยคือคอนโดที่เก็บเงินซื้อเอง เอาไว้เป็นหลุมหลบภัย ส่วนบ้านป๊าซื้อไว้ให้นานเเล้ว เเต่ผมไม่เคยเข้าไปอยู่ เเล้วดูดิ่ ของเเต่งบ้านยังไม่มีเลย ถ้าบอกว่าอยู่ใครจะไปเชื่อ

     

    "อันนี้น่ารักดีนะครับ" ผมได้ยินเสียงใสๆที่ผมได้ยินโคตรบ่อยเเล้วโคตรจะชอบฟังเลยเเหละ

     

    ผมเดินไปยืนซ้อนเเผ่นหลังของอีกฝ่ายอย่างเเนบเนียน

     

    อั่ก

     

    ศอกเต็มๆ

     

    "นิสัยไม่ดี ไม่ต้องมายุ่งกับเเบมเลยนะ"

    "ไรอ่ะ เเค่ไม่ตามใจเเค่นี้"

    "ห้ามพูด ห้ายคุยกับเเบมเข้าใจมั้ย เเล้วจ่ายตังค์ด้วย"

     

    ผมมองเเผ่นหลังของคนตัวเล็กที่ถือถุงในมือเเล้วเดินจากไป ก่อนจะจ่ายเงินตามคำสั่ง เเล้วรีบวิ่งตามไป

     

    "รอก่อนสิครับคุณ"

    "....."

     

    ใบหน้าเล็กงอใส่ผมอย่างน่ารัก คนอะไรทำอะไรก็น่ารักไปหมด

    อั่ก!!

     

    "ต่อยพี่ทำไม"

    "หมั่นไส้"

    "หมั่นไส้เรื่องไรอ่ะ"

    "หันไปดูดิ่ พนังงานผู้หญิงมองพี่กันใหญ่ หล่อมากมั้ง"

    "เเล้วจะไปสนทำไมเล่า หรือว่า...."

    'หึง'

    "ไม่มีไรทั้งนั้นเเหละ อย่าสำคัญตัวผิดไปหน่อยเลย"

    "เจ็บ!! พูดจาทำร้ายจิตใจตลอดเลยนะ"

    "ก็เเค่ไม่อยากให้คิดไปไกล"

     

    เสียงของเเบมเเบมเบาหวิวจนใจผมหายตามน้ำเสียง ดวงตาของเเบมเเบมหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด ผมมองเขานิ่งๆก่อนจะโยกหัวเขาไปมาเบาๆ

     

    "คิดมากไรเล่า ไปหาข้าวกินกันเถอะ"

     

    เเบมเเบมไม่ได้พูดไรกับผม เราเดินหาร้านอาหารไปเรื่อยๆจนมาหยุดที่ร้านอาหารร้านดัง ที่เวลามาเเถวนี้ทีไร ผมจะพาเเบมเเวะมาตลอด

     

    "พี่มาร์ค"

    "หืม??"

    "เเบมว่า...เเบม..."

    "มีอะไรรึเปล่า บอกพี่มาเถอะ"

    "เเบม...เเบมว่า....เเบม..."

    "บอกมาเถอะ รีบบอกก่อนที่พี่จะไม่ทันเตรียมตัว เตรียมใจ มีอะไรก็บอกมา"

    "เเบม...เเบมว่า....เเบมจะย้ายไปอังกฤษ"

    "...."

    "เเบมจะไปเรียนต่อ"

    "เพราะอย่างงี้ใช่มั้ย เเบมถึงได้...ปฏิเสธพี่"

    "เเบมไม่อยากให้พี่รอ เเบม...เเบมคิดว่า...พี่น่าจะได้เจอคนที่ดีกว่าเเบม ตลอด 5-6 เดือนที่เราคุยกัน เเบมว่า เเบมก็รู้สึกไม่ต่างจากพี่ เเต่....เเบมอยากจะหยุด เเบมไม่อยากรั้ง หรือตัดโอกาสพี่ พี่ก็รู้ว่าเเบม เเบมเบื่อง่าย เเบมไม่อยากคบกับพี่ เเล้วจบลงโดยการที่เราต้องหันหลังให้กัน เเบมอยากมีพี่ตลอดไปนะพี่มาร์ค เเบมก็ไม่อยากเสียพี่ไป ถ้าเกิดวันนึง เราเลิกกัน เเบมว่า...เเบมทำใจเห็นพี่เดินจากไปไม่ได้หรอกนะ เเบม...ไม่เข้มเเข็งพอ"

    "อืม"

    "เข้าใจเเบมใช่มั้ยครับ"

    "อืม"

    "พี่มาร์ค ถ้าพี่เข้าใจเเบม พรุ่งนี้ไม่ต้องไปส่งเเบมที่สนามบินนะ"

    "ว่าไงนะเเบม"

    "เเบมจะไปพรุ่งนี้"

    "ทำไมถึงได้เร็วนัก เเบมคิดมานานเเล้วใช่มั้ย"

    "พี่จำเด็กตอนม.ปลาย เด็กที่พี่คิดว่าเป็นทอม ถือกล่องช็อกโกเเลตมาให้พี่ได้มั้ย คนๆนั้น คือผมเอง ถ้าพี่ยังจำจดหมายที่ผมเขียนให้พี่ได้ นั้นคือความในใจของผมทั้งหมด ผมเดินตามพี่มาตั้งนานเเล้วนะ มีบางที่อยากหยุดกลางทาง เเต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ที่วันนึงผมก็รู้สึกได้ว่า พี่หยุดรอผม เเล้วเราก็เดินมาพร้อมกัน เเต่ตอนนี้ ผมขอ....เดินนำพี่ไปได้มั้ยครับ"

    "ถ้าเเบมอยากเดินนำพี่ไป ไม่ว่าจะห่างกันสักกี่ก้าว ห่างกันกี่กิโล เเต่ขอให้เเบมรู้ไว้ว่า พี่จะเดินตามเเบมให้ทัน พี่จะเดินตามเเบมบ้าง อย่าวิ่งหนีพี่หรืออกนอกเส้นทางก็พอ"

    "ถ้าพี่เปลี่ยนเส้นทางหล่ะ"

    "ไม่มีวันนั้น"

    "ผมไม่เชื่อพี่หรอก พี่นะ ป๊อปจะตาย"

    "ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ เดินหนีให้ไวหล่ะกัน ถ้าวันไหนพี่เดินตามเราทัน วันนั้นพี่จะไม่มีวันปล่อยเราเหมือนวันนี้เเน่นอน"

    "ขอบคุณนะครับ ที่คิดจะเดินตามผม"

     

    ร่างเล็กของเเบมเเบม ย้ายมานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับผม ใบหน้าเล็กฝังลงบนอกข้างซ้ายของผม

     

    "ถ้าจะใจดี ก็รอพี่บ้างนะ"




























     

    --------------------------------------THE END------------------------------------------

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×