ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {จบเเล้ว} My baby ถ้าไม่อยากเป็นพี่ต้องทำยังไง [#markbam ft.Bnior]

    ลำดับตอนที่ #47 : special 1st meeting : ปิดเทอม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.79K
      10
      22 มี.ค. 58

    ผมกลับขึ้นมาที่ห้อง หลังจากออกไปซื้อของสดเเละขนมมาติดตู้เย็นไว้ ตอนนี้ผมอยู่ในช่วงปิดเทอมพอดี ส่วนคุณเเฟนวันนี้ก็เป็นวันสอบวันสุดท้ายเหมือนกัน ตั้งเเต่ปิดเทอมมา ผมก็มาอยู่ที่คอนโดพี่มาร์ค เเต่ก็กลับไปค้างบ้านพี่เเจบอมด้วยเหมือนกัน เเต่ก็จะต้องมีคนตามไปทุกที เเล้วก็มีสงครามเล็กๆกันทุกครั้ง จริงๆก็ผ่านมาหลายปีเเล้วนะ ที่ผมคบกับพี่มาร์ค มีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกตินั้นเเหละ เเต่ก็เรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่ได้รุนเเรงอะไร ตั้งเเต่ที่พี่มาร์ค(เกือบ)นอกใจตอนนั้น ดูเหมือนความรักของผมมันเเข็งเเรงขึ้นนะ พี่มาร์คเลือกที่จะพูดอะไรต่างๆมากขึ้น เเม้จะเล็กๆน้อยๆก็ตาม เพราะพี่มาร์คบอกว่า เขาไม่รู้ว่าเรื่องไหนจะทำให้ผมคิดมากบ้าง เเล้วก็ทุกๆเรื่องนั้นเเหละ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพี่มาร์ค ผมก็คิดมากได้ทั้งนั้นเเหละ

     

     

     

    ตอนนี้ผมอยู่เกรด 12 เเล้วนะ ส่วนพี่มาร์คก็ใกล้จะจบเเล้ว เรื่องโปรเจ็คจบของพี่มาร์ครู้สึกจะผ่านไปเเล้วด้วย ช่วงที่พี่มาร์คทำโปรเจ็คเขาไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่ ซึ่งผมก็เข้าใจ เเล้วผมก็ต้องอ่านหนังสือเหมือนกัน มันเหมือนเป็นช่วงที่เราห่างๆกันออกไปนะ เเต่ว่าพี่มาร์คก็พยายามหาเวลาว่างมาเจอผมจนได้ ถึงเราจะไม่ได้ออกไปเดทเเบบคู่รักทั่วไป เราเดทกันบนกองหนังสือสอบ เเต่ผมว่ามันก็มีความสุขดีนะ รู้รึเปล่าว่า การติวหนังสือเนี่ยทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้นไปอีก

     

    เเกร๊ก

     

    เสียงไขประตู ทำให้ผมหยุดล้างผัก เเล้วเดินไปหา พี่มาร์คกลับมาด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน เเล้วล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาว

     

    "วันนี้เป็นไงครับ"

    "เพลียจัง"

    "นอนพักมั้ย เดี๋ยวเเบมทำอาหารรอ ตื่นมาจะได้ทานเลย"

    "ไปนอนด้วยกันดีกว่า เเค่นี้พี่ก็หายเหนื่อยเเล้ว"

     

    เเขนของพี่มาร์คตวัดมากอดเอวผมไว้ เเล้วดึงให้ผมมาล้มลงข้างๆ โชคดีที่โซฟามันกว้าง ผมเลยนอนอยู่ข้างๆไม่ใช่ที่พื้น ผมรู้ว่าพี่มาร์คเหนื่อยนะ อ่านหนังสือดึกๆทุกคืนเลย เเล้วไหนจะต้องตื่นไปสอบอีก

     

    "พี่มาร์ค"

    "หือออออ"

     

    จุ๊บบ

     

    ผมกดจมูกลงที่เเก้มเบาๆ พี่มาร์คลืมตาเเล้วฉีกยิ้มกว้างๆส่งมาให้ผม เเล้วใช้จมูกเเตะกันเบาๆ ผมมองลงไปในตาคู่สวยของพี่มาร์ค เขาเองก็มองผมเช่นกัน

     

    "ขอบคุณนะครับ ที่อยู่ข้างๆพี่"

    "อืมมมม"

     

    พี่มาร์คดันตัวเองลงไปนิดเเล้วเอาหน้าซุกที่อกผม ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงหายใจที่สม่ำเสมอของพี่มาร์ค ผมก้มลงไปมองกลุ่มผมสีดำของเขา ก่อนจะกดจูบเบาๆ เเล้วลูบมันช้าๆ

    ผมกับพี่มาร์คเป็นคู่รักที่ไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันหรือมีของขวัญให้กันในวันพิเศษ เราชอบที่จะอยู่ด้วยกันมากกว่า ยิ่งยุ่งมากเเค่ไหน เวลาที่อยู่ด้วยกัน ตัวเรานี่เเทบจะติดกันเลยมั้ง ผมไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไงกับการเเลกของขวัญกันนะ เเต่สำหรับผมกับพี่มาร์ค เเค่ความรู้สึกดีๆ การอยู่ข้างๆกัน คอยให้กำลังใจกัน เข้าใจกัน มันก็เป็นของขวัญที่พิเศษสุดๆเเล้วหล่ะ

     

    ผมคลายอ้อมกอดออกจากพี่มาร์ค เเล้วขยับตัวเล็กน้อย เพื่อไม่ให้อีกคนนึงตื่น ก่อนจะลุกเข้าไปในครัว เตรียมอาหารให้พี่มาร์ค ตั้งเเต่มาอยู่ที่นี่ พี่มาร์คก็สอนทำอาหารที่เขาชอบ เเล้วผมก็โทรถามเเม่เรื่องสูตรอาหารบ้าง ลองผิดลองถูก จนเรียกได้ว่าตอนนี้ผมเเทบจะเป็นเชฟได้อยู่เเล้วหล่ะ วันนี้ผมเลือกจะทำพวกพาสต้ากับซุป เพราะเมื่อวันก่อนพี่มาร์คบ่นๆว่าอยากกิน เเล้วคิดว่าจะคั้นน้ำส้มไว้ด้วย เห็นเเบบนี้พี่มาร์คก็เป็นคนที่รักสุขภาพนะครับผม

     

    2 ชั่วโมงกับการทำอาหาร ผมถอดผ้ากันเปื้อนออก เเล้วเเขวนไว้ที่เดิมของมัน เดินผ่านคนที่นอนสลบไสลอยู่บนโซฟา เเล้วก้มลงฝังจมูกตัวเองลงไป ผมชอบเวลาพี่มาร์คหลับนะ พี่เขาเหมือนเด็กๆ เเล้วเขาก็เหมือนจะชอบตอนผมหลับเหมือนกัน เขาบอกว่าไม่มีคนดื้อกับเขา เเต่ผมว่าไม่ใช่หรอก เขาเเค่ฉวยโอกาสง่ายขึ้นก็เท่านั้น

     

    ผมยันตัวเองขึ้นจากพื้นเเล้วเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำใหม่ โยนเสื้อผ้าชุดเก่าใส่ในตะกร้า เเล้วเดินเข้าห้องน้ำ

     

    เเอดดดดดด

     

    "เฮ้ยยย"

    "เฮ้ยยยยย"

    ">////<"

    "บะ...เเบม...พี่....ขอโทษ"

    "พี่มาร์ค....ออก....ไปก่อน"

     

    ปัง

     

    หัวใจจะวายตาย ให้ตายสิ ใครจะคิดว่าตื่นเเล้ว เวรกรรม เเล้วผมจะทำหน้ายังไงตอนออกไปเนี่ย เเค่คิดหน้าผมก็ร้อนจนเเทบไหม้เเล้วเนี่ย ถึงจะเคยอยู่ด้วยกัน จนเเยกกันอยู่ ผมกับพี่มาร์คก็ยังไม่เคยเห็นเรือนร่างทั้งร่างของกันเเละกันขนาดนี้นะ โอ้ยยย ไอ้เเบม จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ย

     

     

     

    ผมออกมากับผมที่เปียกปอน ใช้ผ้าผืนเล็กๆเช็ด ผมไปด้วย เเล้วเปิดประตูห้องนอนออกมา พี่มาร์คนั่งดูทีวีอยู่โซฟาพร้อมกับขนมที่ผมพึ่งซื้อมาเมื่อกลางวัน

     

    "บะ...เเบม...เอ่อ...มานั่งนี่สิ"

    ตอนเเรกว่าจะทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นนะ พอพี่มาร์คพูดตะกุกตะกักเท่านั้นอ่ะ เหมือนเหตุการณ์เมื่อกี้ถูกฉายซ้ำเลยหล่ะ

     

    "ครับ >///<"

     

    ผมนั่งลงบนโซฟาข้างๆพี่มาร์ค เเต่ไม่ได้ขยับไปใกล้ จนพี่มาร์คหันมามองเเล้วเขยิบมาเเทน

     

    "ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจเปิดเข้าไป"

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ"

    "เเต่เมื่อกี้ พี่ไม่เห็น....อะไรเลยจริงๆนะ >//<"

    "ครับ >//<"

     

     

    เเล้วเราทั้งคู่ก็ต่างคนต่างเงียบ มีเพียงโทรทัศน์ที่เปิดไว้เบาๆ พี่มาร์คก็มองเเต่ทีวี ส่วนผมก็นั่งเช็ดผมตัวเองไป >//<

     

    "พี่เช็ดให้นะ"

     

    มือพี่มาร์คซ้อนทับลงบนมือผม ผมเลยเอามันมาวางไว้บนตักเเทน ปล่อยให้อีกคนเช็ดต่อให้ พี่มาร์คเช็ดเบาๆจนมันเเห้งจนหมด เขาลุกไปหยิบหวีในห้องนอน เเล้วหวีให้ผมเบาๆจนมันเป็นทรง

    พี่มาร์คฉุดมือให้ผมลุกขึ้นไปที่โต๊ะอาหาร

     

    "นี่ เลิกเขินกันเถอะนะ คิดว่าพี่ไม่เห็น เมื่อกี้เเค่เเบมฝันนะ"

    "อะ...อืมมม >//<"

    "กินกันเถอะเนอะ เราอุตส่าห์ทำ"

    "ครับ"

     

    ผมยังคงไม่กล้ามองหน้าพี่มาร์คตรงๆหรอกนะ ให้ตายสิ ใครจะคิดว่าเป็นเรื่องฝัน คงเป็นฝันที่ตัวเองโคตรอายเลยหล่ะครับ

     

    "ปิดเทอมนี้ ไปเยี่ยมป๊าที่เมกากัน"

    "เเต่เเบมอยากกลับไทยนะ"

    "เเต่ป๊าคิดถึงเเบมมากเลยนะ"

    "สามเดือนที่เเล้ว ป๊าพึ่งมาเองนะ"

    "เเต่เขาก็คิดถึงเราอยู่ดีนะ ไปเมกากันเถอะ"

    "เเบมคิดถึงเเม่เเบมเหมือนกันนะ"

    "พี่ก็คิดถึงเเม่เเบมเหมือนกัน"

    "งั้นพี่มาร์คไปกับเเบม"

    "ถ้าพี่ไปกับเเบม เเบมต้องไปเมกากับพี่ด้วย"

    "เปลืองค่าเครื่องบินอ่ะ อีกอย่างเมกาโคตรไกลเลยนะพี่มาร์ค นั่งเครื่องบินเเบมเหนื่อยอ่ะ เอางี้มั้ย เเบมรอพี่มาร์คที่นี่ก็ได้ พี่มาร์คไปเมกาก่อน เเล้วค่อยบินไปไทยด้วยกัน"

    "ไม่เอาอ่ะ มาร์คอยากไปกับเเบม"

    "พี่มาร์คอย่าดื้อสิ เเบมบินไป บินกลับ เเบมก็เหนื่อยเป็นนะ"

    "มาร์คก็เหนื่อยเหมือนกันนะเเบม"

    "ก็เลยจะให้เเบมเหนื่อยเป็นเพื่อน ว่างั้นเถอะ"

    "ครับ"

    "ไม่ เเบมจะรออยู่นี้"

    "งั้นไม่ต้องไปเลยมั้ยหล่ะ ปีนี้นอนกอดกันทั้งวันทั้งคืนเลยมั้ย"

    "งั้นพี่มาร์คก็อยู่นี่ เเบมจะกลับไทย"

    "เเบมจะไม่ไปเมกากับพี่เเน่ๆใช่มั้ย"

    "อืม"

    "งั้นพี่ก็ไม่ไปไทยกับเเบมเหมือนกัน"

    "ก็ดี เเยกๆกันไป"

     

    เป็นเเบบนี้ทุกปี ปิดเทอมทีไร ทะเลาะกันเรื่องกลับบ้านตลอด พี่มาร์คอยากไปเมกา ส่วนผมก็อยากกลับไทย จริงๆผมกับป๊าพึ่งเจอกันเมื่อสามเดือนที่เเล้ว ตอนที่ป๊ามาเยี่ยมพี่มาร์ค ป๊าก็ชวนไปเมกาด้วยกันตอนปิดเทอม เเต่ผมก็ปฏิเสธไป เพราะผมมีเเพลนว่าจะกลับไทยสักหน่อย

     

    "ตั้งเเต่คบกันเเบมยังไม่เคยไปบ้านมาร์คเลยนะ"

     

    มาไม้นี้อีกเเล้วครับ เเต่ก็จริงของพี่มาร์คนั้นเเหละ ตั้งเเต่คบกัน ผมไม่เคยบินไปที่นู้นเลยสักครั้ง มีเเค่ครอบครัวพี่มาร์คมาผมที่นี่เท่านั้น หรือไม่ก็ตอนที่ไปไต้หวัน ผมถึงตามไปด้วย เเต่เมกา ผมไม่เคยไปสักครั้งเลย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ไปที่นั้น อาจจะเพราะขี้เกียจด้วยเเหละมั้ง

     

    "ถ้าเเบมไปนะ มาร์คจะได้พาไปเจอเพื่อนๆมาร์คที่นู้นด้วยไง"

    "เลิกหวงเเบมกับเพื่อนเเล้วหรอ"

    "ก็....พวกนั้นมันก็มีเเฟนของมันกันหมดเเล้ว มันไม่มายุ่งกับเเบมหรอก"

    "เเต่เเบมก็ยังยืนยันว่า ไม่ไปอยู่ดี อีกอย่างเเบมก็เจอกับครอบครัวมาร์คเมื่อสามเดือนที่เเล้วไง ยังไงถ้าป๊าไปไต้หวัน เเบมว่าง เราค่อยไปหาป๊าที่นั้นก็ได้"

    "เเล้วทำไม ยองเเจชวนไปฮ่องกง เเบมยังไปเลย มาร์คชวนเเบมไปเมกาทีไร เเบมก็ไม่ไปทุกที"

    "ก็เเบมขี้เกียจ เเบมไม่อยากไป เเบมอยากกลับบ้านเข้าใจป่ะ มาร์คยังอยากเจอครอบครัวมาร์ค เเบมก็อยากเจอครอบครัวเเบมเหมือนกัน พูดกับมาร์คเรื่องนี้เเล้วเเบมเหนื่อยว่ะ เก็บจานด้วยนะ วันนี้เเบมจะไปนอนบ้านพี่เเจบอม"

     

    ผมลุกจากเก้าอี้ ไปหยิบกระเป๋าตังค์เเละโทรศัพท์ สวมรองเท้าผ้าใบที่ป๊าพึ่งซื้อมาฝาก เเล้วเดินออกจากห้องไป วันนี้คงอยู่ไม่ได้หรอกนะ อยู่กันก็มีเเต่จะทะเลาะกันอยู่ดี เดี๋ยวพี่มาร์คก็หยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูดอีก จะหาว่าผมงี่เง่า หนีปัญหาก็ได้ เเต่ผมขี้เกียจทะเลาะอ่ะ ผมเดินออกไปสงบจิตสงบใจของผมดีกว่า

     

     

    "อ้าว เเบมเเบม ทำไมวันนี้กลับมานอนบ้านหล่ะ เเล้วมาร์คมาด้วยรึเปล่า"

    "เปล่าครับ"

    "เข้ามาก่อนสิ เเจบอมกับจินยองกินข้าวอยู่"

    "ครับ"

    ผมเดินเข้าไปในบ้าน ผ่านห้องครัวที่พี่ชายทั้งสองนั่งกินข้าวกันอยู่ ผมรีบวิ่งขึ้นห้องไปอ่านหนังสือ มันน่าจะช่วยให้ผมลืมๆเรื่องพี่มาร์คได้บ้าง

     

    20.00 น.

    "เเบมเเบม ลงมากินข้าวลูก"

    "ครับ"

    ผมเก็บหนังสือเเละปิดเพลงในห้อง รีบวิ่งลงมาข้างล่าง พี่เเจบอมกับพี่จินยองออกไปทานข้าวกันข้างนอก เลยเหลือเเค่ผม

     

    "ทะเลาะกับมาร์ครึไง ถึงกลับมาบ้าน"

    "เรื่องเดิมๆเเหละครับ"

    "เเล้วทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่องหล่ะลูก"

    "คุยกันมาหลายรอบเเล้วครับ เเต่ก็จบเเบบเดิมๆทุกที ผมเบื่อที่จะเถียง เลยกลับบ้านดีกว่า"

    "เเล้วทำไมไม่ยอมมาร์คเขาบ้างหล่ะ ม๊าเห็นมีเเต่มาร์คที่ยอมเรา"

    "ก็ไม่ได้ขอสักหน่อยนิ่ครับ"

    "เราก็เป็นเเบบนี้ โดนตามใจจนเคยตัว ม๊าถามหน่อย ถ้ามาร์คเขาตามใจเเบมไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่เขาจะได้ทำในสิ่งที่เขาอยากได้ สิ่งที่เขาต้องการบ้างหล่ะลูก มาร์คอาจจะมีความสุขที่ได้ให้เเบม เเต่เเบมก็ต้องคิดบ้างนะลูกว่า มาร์คเขาก็อยากจะรับเหมือนกัน เราเองอย่ารับอย่างเดียวจนเคยตัวนะรู้มั้ย"

     

     

     

     

    23.00น.

    ผมเดินวนไปวนมาอยู่หน้าเตียงตัวเอง เพราะนอนไม่หลับ คำพูดของม๊ายังคงก้องอยู่ในหัวของผมตั้งเเต่กินข้าวเสร็จ ในมือผมยังคงถือโทรศัพท์ที่พี่มาร์คซื้อให้เมื่อวันครบรอบของเรา

     

     

     

     

     

     

     

    0.15 น.

    ผมกดโทรศัพท์ตัวเองเลื่อนไปเลื่อนมา เข้าเเอพพลิเคชั่นนู้นนี้ไปเรื่อยๆ ก่อนจะกดไปที่เบอร์ๆหนึ่ง

     

    (ครายยย อ่าา)

    "ยองเเจ นายนอนเเล้วหรอ"

    (เเบมเเบมหรอ)

    "อืม ฉันเอง"

    (มีอะไรรึเปล่าเเบมเเบม)

    "คือ...ถ้าฉัน...ถ้าจะจองตัวเครื่องบิน ต้องทำไงบ้าง"

    (ก็....ว่าเเต่นายจะไปไหน ทำไมไม่ให้พี่มาร์คจองหล่ะ ปกติพี่มาร์คเป็นคนทำไม่ใช่หรอ)

    "คือ...เราทะเลาะกัน...เรื่องเดิมๆนะ"

     

    จริงอย่างยองเเจพูดนั้นเเหละ ทุกๆครั้งพี่มาร์คจะจองตัวเครื่องบินเเละจัดการทุกอย่างให้กับผม เรียกได้ว่าพร้อมบินเเน่นอน ถึงจะทะเลาะกันก็เถอะ ถ้าผมจะกลับไทย พี่มาร์คจะเป็นคนซื้อทั้งๆที่ทะเลาะกันอยู่

     

    "ขอบใจมากนะ ยองเเจ"

    (อืม ไม่เป็นไรหรอก)

     

     

     

    ผมตื่นมาในตอนสายๆของวัน อาบน้ำเเต่งตัวเเละลงมาข้างล่าง ม๊ายิ้มให้ผมตอนลงมา เเล้วยื่นซองบางอย่างให้ ผมรับมันใส่กระเป๋าไว้ เเล้วรีบออกจากบ้าน เพื่อไปจองตั๋วเครื่องบิน

     

     

    ผมทำทุกอย่างเสร็จก็เกือบๆเที่ยง ก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าห้อง กุญเเจในมือยังคงค้างไว้ เพราะอีกใจก็ไม่กล้าจะเปิดเข้าไป

     

    เเอดดด

     

    ต่างคนต่างชะงักด้วยกันทั้งคู่ เเล้วพี่มาร์คก็เป็นฝ่ายหลีกทางให้ผมเข้าไปในห้อง ผมเดินเข้าไปในห้องนอน เก็บเสื้อผ้าเเละของใช้ใส่กระเป๋าเเล้วกลับออกมา ไม่มีการพูดคุยใดๆเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน จนผมลงมาข้างล่าง

     

    "เเบมเเบม เดี๋ยวก่อน นายอย่าพึ่งไป"

    "พี่มีอะไรกับผมหรอครับ"

    "เรื่องเมื่อวานพี่ขอโทษนะ ป๊าบอกพี่ให้เราไป...."

    "ผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่เเจบอมจะรอ"

     

     

     

    ผมคิดถูกรึเปล่าที่ทำเเบบนี้ ผมเริ่มสับสนอีกเเล้วนะ ตั้งเเต่กลับจากคอนโดพี่มาร์ค ผมก็เอาเเต่นอนคิดเรื่องที่ทำไป

     

    ก๊อกๆๆ

     

    "เเบม"

    "ครับ"

    "ลงไปทานข้าวลูก"

    "ครับ"

    ผมเด้งตัวจากเตียงนอน วางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนเตียง เเล้ววิ่งลงไปกินข้าวข้างล่าง พี่เเจบอมกับพี่จินยองนั่งรออยู่ก่อนเเล้ว ทั้งสองคนมองหน้าผมนิดๆเเล้วหันไปคุยกันต่อ สงสัยผมคงจะอยู่ทีมอากาศสินะ ผมกลายเป็นคนที่ถูกเมิน อยากจะร้องไห้

     

    "เเบมเเบม ปิดเทอมเเล้วจะกลับไทยวันไหนหล่ะ"

    "ยังไม่รู้เหมือนกัน"

    "ถ้าไม่กลับไปเที่ยวปูซานกับพี่สองคนมั้ย"

    "เดี๋ยวเเบมดูวันก่อนหล่ะกันครับ"

    "เเล้วมานี้ ไอ้มาร์คไม่ตามมาหรอ"

    "ไม่อ่ะ"

    "ทะเลาะกันอ่ะดิ่ เรื่องไรหล่ะคราวนี้"

    "เรื่องเดิมเเหละครับ"

    "ถ้ามันงี่เง่านักก็เลิกเลยดิ่เเบม พี่สลับสนุน"

    "เเจบอม อยากกินข้าวต่อมั้ยฮะ ทำไมไปพูดกับน้องเเบบนั้น"

    "ก็มันจริงอ่ะ"

    "เงียบเลยนะเเจบอม เเบมเเบมอ่า ใจเย็นๆนะ พี่ว่ากลับไปคุยกับมาร์คอีกรอบมั้ย"

    "เเบมว่าพี่มาร์คไม่ได้อยากคุยกับเเบมหรอกครับ เเล้วอีกอย่าง เเบมก็ไม่รู้จะคุยไรกับพี่มาร์คด้วย"

    "เฮ้อออ เเล้วเเต่หล่ะกัน เราโตเเล้ว พี่ไม่อยากพูดไรมาก"

     

    ออดดดดด ออดดดดดด

     

    "ใครมาน่ะ"

    "เดี๋ยวเเบมไปดูเองครับ"

    "เดี๋ยวม๊าไปดูให้ ทานข้าวกันไปเถอะ"

    ม๊าออกไปเปิดประตูบ้าน ผมสามคนก็เลยนั่งกินข้าวกันไปคุยกันไป จนได้ยินเสียงม๊าเดินเข้ามา

     

    "มาทำไม"

    "เเจบอม!!!"

    "ก็เเค่ถามเองนะ นยอง"

    "กินข้าวอิ่มเเล้วก็ขึ้นห้องไปสิ"

    "คะ...ใครบอก..."

    "เเจบอม!!"

    "เออๆ ขึ้นก็ได้"

    "สองคนก็คุยกันไปนะ พี่ขึ้นข้างบนก่อน"

     

     

    "มาทำไมครับ"

    "เเบมยังไม่เห็นของที่พี่ให้หรอ"

    "อะไรครับ"

    "พี่ฝากม๊าให้เเบมเมื่อเช้าไง"

    "????"

     

    ของที่ม๊าให้ผมเมื่อเช้า เออใช่ ผมยังไม่หยิบมันออกมาดูเลยนะ มันอยู่ในกระเป๋าด้วย

     

    "เเล้วมันคืออะไรหล่ะครับ"

    "มันคือสิ่งเดียวกับที่เเบมให้พี่เเหละ เเค่คนละประเทศ"

    "พี่มาร์คเห็นเเล้วหรอ 0_0"

    "อืม เเบมยังไม่เห็นที่พี่ให้ใช่มั้ย"

    "ครับ"

    "เเล้วทีนี้จะทำไงหล่ะเนี่ย"

    กลายเป็นว่าการตัดสินของผมดันเหมือนกับพี่มาร์คซะอีก ผมซื้อตั๋วสองใบสำหรับบินไปเมกาเเล้วเอาไปวางไว้บนหัวเตียงตอนกลับไปเก็บของ ส่วนพี่มาร์คก็คงซื้อตั๋วสองใบ บินไปไทยเหมือนกัน

     

    "เเล้วคราวนี้จะทำไงดีหล่ะ เหมือนว่ามันจะบินวันเดียวกัน"

    "...."

    "เอางี้ เป่ายิงชุบกัน ถ้าเเบมชนะ พี่ให้เเบมเลือก ถ้าพี่ชนะ พี่เลือก"

     

    ผมพยักหน้ารับ ก่อนที่เราจะเป่ายิงชุบกัน เเต่รู้อะไรมั้ย ผมกับพี่มาร์คออกเหมือนกันมาห้ารอบเเล้วนะ

     

    "พี่ยอมเเหละ เเบมเลือกเถอะ"

    "ไม่เอาอ่ะ ให้พี่มาร์คเลือก"

    "เเบมนั้นเเหละเลือก"

    "พี่มาร์คนั่นเเหละ"

    "งั้น....ไป....บ้านเเบม"

    "เเล้วตั๋วที่เเบมซื้อหล่ะ"

    "ขายให้เเจ็คสันมัน ให้มันไปกับยองเเจ"

    "เอางั้นหรอ"

    "อืม"

    "ก็ได้ครับ ^_____^"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ประเทศไทย

     

    ผมว่าที่เกาหลีหนาวมากเลยนะ เเต่พอมาไทยในหน้าที่ขึ้นชื่อว่า ฤดูหนาว ทำไมมันร้อนอย่างนี้ ขนาดผมที่บินไปบินกลับทุกๆช่วงปิดเทอมยังบ่น นับภาษาไรกับคนข้างๆที่พร้อมมาก พอลงจากเครื่องปุ๊ปก็ถอดเเจ็คเกตออกหรือเเต่เสื้อกล้ามสีเทา อวดกล้ามที่มีอยู่

     

     

    น่าหมั่นไส้ชะมัด

     

     

    "เอาเสื้อมาสิ เดี๋ยวถือให้"

    "ไม่เป็นไรอ่ะ เเบมถือได้ พี่มาร์คลากกระเป๋าเถอะ"

     

    ผมถอดเสื้อกันหนาวออก เหลือเเต่เสื้อเเขนยาวข้างในที่ใส่ตั้งเเต่ตอนอยู่โซล ผมถกเเขนเสื้อให้ขึ้นมาที่ศอก เเล้วเดินไปข้างๆหนุ่มหล่อ ที่สาวๆในสนามบินมองกันเป็นเเถว เเล้วก็อดไม่ได้ที่จะหยิกเนื้อขาวๆให้มันเเดง

     

    "วันหลังอย่าใส่เสื้อกล้ามเเบบนี้อีกนะ"

    "ทำไม?? หึงหรอ"

    "ป่าว เเค่กลัวผู้หญิงในสนามบินเสียสายตาต่างหาก"

    "หรอ"

     

    พูดไปก็ยิ้มกริ่มอยู่นั้นเเหละ ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด คนนิสัยเสีย

     

    "รอตรงนี้นะ เดี๋ยวไปเรียกเเท็กซี่ก่อน"

    "ไม่ต้องไปเลย อยู่นี่เเหละ เดี๋ยวเเบมโทรหาพี่ชายเเบมมารับ"

    "อืม"

     

    ผมเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ ปล่อยพี่มาร์คให้เฝ้าของไป ดีที่ผมซื้อซิมโทรศัพท์ไว้ตั้งเเต่ครั้งเเรกๆที่กลับมา ผมนี่โคตรพร้อมเลยเนอะ

     

    โทรหาพี่เบียร์ให้มารับเรียบร้อยก็กลับมาหาคุณเเฟนนั่งหล่อ ที่นั่งบนกระเป๋าเดินทางใบโต พี่มาร์ใช้มือสองข้างพัดลมเข้าหน้าตัวเอง ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวร้อนเเทบเเย่ เเต่หน้าตาก็ไม่ได้หงุดหงิดหรือบึ้งตึงอะไร มาไทยทีไหร่ดูพี่มาร์คเขาจะมีความสุขทุกครั้งเลยนะ ไม่ค่อยอารมณ์ ถึงเเม้อากาศจะร้อนเเค่ไหน รถจะติดหรืออะไรก็ตาม

     

    "นั่งสิ"

     

    เขาลุกให้ผมนั่งลงบนกระเป๋าเดินทาง เเล้วคว้าเสื้อในอ้อมกอดผมไปถือไว้ หมวกเเก็ปราคาเเพงที่พี่มาร์คเเสนจะรัก ถูกถอดมาเเล้วพัดให้ผม

     

    "เย็นมั้ย"

    "อืม เย็นดี"

    "รู้งี้ เอามาพัดตั้งเเต่นั่งรอดีกว่า ^___^"

    "นั่งมั้ย คนละครึ่ง"

    "นั่งไปเถอะ หิวน้ำมั้ย"

    "ไม่หิว"

    "เเล้วหิวข้าวมั้ย"

    "ไม่หิว"

    "เเต่พี่หิว"

     

    คนตัวสูงเบะปาก พองลมที่เเก้มอย่างน่ารัก ดูท่าจะหิวจริงๆสินะ อยู่บนเครื่องก็กินไปนิดเดียว

     

    "รอเเป๊ปนึงนะ เดี๋ยวพี่เบียร์ก็มารับเเล้ว"

    "อืมๆ"

     

    หมวกถูกสวมลงบนหัวผม ก่อนที่มาร์คจะจับมือผมให้ลุกขึ้นเเล้วนั่งเเทน ดูคนเรา หิวเเล้วงอเเง

     

    "เฮ้ยยย"

     

    อยู่ๆเอือมมากอดเอวผมเเล้วดึงไปนั่งตักตัวเอง เป็นใครก็ตกใจทั้งนั้นเเหละ

     

    "เเบ่งๆกันนั่งจะได้ไม่เมื่อย"

    "ให้นั่งตักพี่มาร์ค พี่มาร์คก็เมื่อยเเย่ดิ่ เเบมตัวหนักนะ"

    "หนักอะไร เดี๋ยวนี้เราผอมลงเยอะเลยนะ เเก้มไม่ค่อยมีเเล้ว"

    "พี่มาร์คก็ผอมเหมือนกันอ่ะเเหละ กินเยอะๆบ้างสิ"

    "กินอะไรหล่ะ ถึงจะไม่ผอมหล่ะ"

    "ขนมไง ข้าวงี้"

    "ใช่หรอ"

    "เเล้วถ้าไม่ใช่ต้องกินไรอ่ะ"

    "เเบมเเบม"

     

     

     50%

     

     ผมหันไปตามเสียงเรียกที่ดังมาจากทางซ้ายมือ พี่เบียร์ยืนอยู่ข้างๆพี่เเบงค์ที่ยืนส่งยิ้มให้ผม ผมตีมือพี่มาร์คเบาๆ เพื่อบอกให้เจ้าตัวปล่อยออก

     

    "ไม่เห็นต้องอายเลย"

    "เเบมไม่ได้หน้าหนาเหมือนพี่มาร์คนะ"

     

    ผมหันไปค้อนคนที่กำลังโคฟเป็นปลากปักเป้าด้านหลัง เห็นเเล้วหมั่นเขี้ยว ขอบีบจมูกโด่งๆซะหนึ่งทีสิ

     

    "ลุกขึ้นสิครับ หิวมั้ยใช่หรอ"

     

    พี่มาร์คหยิบกระเป๋าอย่างงอนๆ ผมเลยเอียงหน้ามองเขาเเล้วยิ้มหวานๆส่งให้ ดูก็รู้ว่ากลั้นยิ้มเอาไว้ ผมจับมือข้างที่ว่างเเล้วเเกว่งเบาๆ พี่มาร์คหันมามองมือที่ผมจับไว้ ก่อนที่เปลี่ยนมาประสานมือเเทน นิ้วทั้งห้าถูกทับด้วยนิ้วใหญ่กว่าของพี่มาร์ค นิ้วโป้งพี่มาร์คเขี่ยอยู่บนมือผมเบาๆ

     

    "สวัสดีครับ"

     

    เเหม ชิงตัดหน้าสวัสดีพี่ผมก่อนผมอีก ผู้ชายอะไรเอาหน้าชะมัด นี่อยากให้คนอื่นชมใช่มั้ย ว่าสกิลการพูดไทยดีขึ้น

     

    "พี่เบียร์ พี่เเบงค์หวัดดี"

    "เออ มาเหนื่อยๆรีบกลับบ้านกันเถอะ ร้อนมั้ยมาร์ค"

    "ไม่เลยครับ"

     

    โกหก!!! เล่นใส่เสื้อกล้ามเเบบนี้ เเล้วยังนั่งพัดให้ตัวเอง บอกไม่ร้อนนะคนเรา

     

    "กลับกันเถอะพี่เบียร์ พี่เเบงค์ น้องชายคนโปรดพี่เขาหิวเเล้ว"

    "ให้ช่วยถือไรมั้ย ของไอ้เเบมยิ่งเยอะๆอยู่ด้วย ถือคนเดียวไหวหรอ"

    "ไหวครับ"

     

    เเหนะ มีการส่งยิ้ม โชว์ภูมิว่าเเกร่งอีก อยากถืออยากลากก็ตามใจ ผมปล่อยมือพี่มาร์คออกเเล้วหันไปคุยกับพี่เบียร์เเทน ปล่อยพี่มาร์คคุยกับพี่เเบงค์ไป

     

    "พี่เบียร์ เป็นไงบ้างอ่ะ ที่บ้าน"

    "ก็ดี ไม่มีไรเปลี่ยน นี่จะกลับบ้านก่อนหรือจะไปที่ร้านก่อนหล่ะ"

    "พี่มาร์คเขาบ่นว่าหิวอ่ะ ที่บ้านมีไรกินป่ะหล่ะ"

    "ไม่มีมั้ง งั้นเเวะไปที่ร้านก่อนก็ได้ เเม่รออยู่ที่ร้าน"

    "เอางั้นก็ได้"

    "ไหนบอกไอ้มาร์คมันไม่ชอบพูดไง ตั้งเเต่เจอมันก็เห็นมันพูดเยอะอยู่นะ"

    "ชิ เอาใจพวกพี่มากกว่า คอยดูดิ่ ถ้าเจอเเม่ พี่มาร์คต้องไปอ้อนเเม่เเน่ๆ"

    "เป็นเด็กขี้อิจฉารึไง"

    "ป่าวซะหน่อย"

     

     

     

    "เเม่!!!"

    ผมวิ่งเข้ากอดเเม่ตัวเองตั้งเเต่เปิดประตูเข้ามาในร้าน โคตรคิดถึงเลยเเหละ ไม่อยากจะบอก คุยกันผ่านหน้าจอเกือบทุกวันก็ใช่จะหายคิดถึง สู้ๆมาเจอตัวจริงก็ไม่ได้ ได้กอด ได้หอมด้วย เเบมเเบมหล่ะ ชื่นจายยยย

     

    "มาร์คหล่ะ มาร์คมารึเปล่า"

    "เเม่อ่ะ!! ถามหาเเต่ลูกชายสุดที่รัก เเล้วเเบมหล่ะ เเบมไม่ใช่ลูกเเม่รึไง"

    "พูดไปเรื่อย เเล้วสรุปมาร์คมามั้ย"

    "สวัสดีครับ"

     

    สำเนียงไทยเเปร่งๆของอีกคนดังเข้ามา เเม่ผละออกจากผมเเล้วหันไปกอดเขาเเทนทันที ใช่ว่าคนถูกกอดจะยอมถูกกอดอย่างเดียว นี่ก็กอดเเน่ไม่เเพ้กัน เห็นเเล้วมันน่าน้อยใจ เชอะ!!

     

    "โอ๋ๆๆๆ เด็กขี้อิจฉา มานี่สิ เดี๋ยวพี่กอด"

    "ไม่ต้องมาพูดเลยพี่มาร์ค เเบมไม่อยู่ตรงนี้เเล้ว ไปหาไรกินดีกว่า"

    "ขี้งอนจริงๆเลยเด็กคนนี้"

     

     

    ผมเดินไปที่ครัว เเม่ครัวดูจะวุ่นวายอยู่หน่อยๆ อาจจะเพราะวันนี้ลูกค้าเยอะมั้งครับ ในครัวเขาเลยวุ่นวาย เเต่ทุกคนก็ยังคงเเจกยิ้มให้ผม ผมกล่าวสวัสดีทุกคนเลยหล่ะ

     

    "มาอยู่นี่เอง เข้ามาทำไรในนี้อ่ะ"

    "หาไรกิน"

    "งอนหรอ???"

    "ป่าวนิ่ครับ"

    "งั้นไม่อยู่กวนดีกว่า หายงอนก็ออกมากินข้าวนะ เเม่เรียกอ่ะ"

    "อืม เดี๋ยวตามไป"

     

    เชอะ ง้อต่ออีกหน่อยก็ไม่ได้นะ รู้ไงว่าเเบมต้องหิวเเล้วตามออกไปเอง เเต่เรื่องไรจะเดินตามเเผนพี่เล่า ให้รู้ว่าบ้างว่าเเบมอ่ะง้อยาก

     

    "คุณเเบมเเบม หาไรอยู่คะ"

    "หาไรกินนะครับ"

    "คุณเเม่ทำเตรียมไว้เเล้วนะคะ ไม่ออกไปทานหรอ"

    "ไม่หล่ะครับ"

     

    ผมเดินไปทั่วครัว ขอชิมนู้น ชิมนี่ไปเรื่อยๆ จนเริ่มจะอิ่มขึ้นมานิดๆเเหละ ผมว่าเเม่ครัวที่นี้ฝีมือสุดติ่งมากบอกเลย เเนะนำให้มาลอง

     

    "ไอ้เเสบ มาทำไรในนี้ เเฟนเเกรออยู่ข้างนอกอ่ะ หิวไส้จะขาดเเล้วมั้งนะ"

    "ใครใช้ให้รอเล่า ไม่กินไปหล่ะ"

    "ปากดี พอเขาไม่รอเดี๋ยวก็งอนเขาอีก"

    "เเบมเเมนพอน่า ไม่งอนเรื่องพวกนี้หรอ"

    "หร๊าาาา เเมนมาก เดินไปเดินมาในครัวเนี่ย เเมนมาก เเมนกว่าเเกก็ตุ๊ดเเล้ว รีบไปเลยเร็วๆ อย่าเล่นตัว"

    "เข้าข้างกันดีจังนะ"

    "เขาไม่บ้าบอ ง้องเเง้ง ขี้งอนเหมือนเเกนี่"

    "เช๊อะ ไม่เอามาเป็นน้องเลยหล่ะ ตัดเเบมออกจากกองมรดกเลยมั้ย"

    "พวกฉันตัดเเกนานเเหละ ไม่รู้ตัวเลยรึไง"

    "พี่เเบงค์อ่ะ!!!"

     

     

    "ออกจากครัวได้เเล้วหรอ ลูกชาย"

    "มันเดินไปเดินมาในครัวอ่ะเเม่ พวกในครัวรำคาญกันหมดเเต่ไม่มีใครกล้าพูด"

    "เเต่งเรื่องอ่ะ"

    "ในครัวเขาพูดงั้นจริงๆ เเบร่"

    "เเม่ดูพี่เเบงค์ดิ่"

    "พอเลยๆๆ มากินข้าวได้เเล้ว มาร์ครอจนปวดท้องเเล้วเนี่ย"

    "เเล้วทำไมไม่กินอ่ะ"

    "ก็รอเด็กขี้งอนอยู่ไง"

    "ขี้อิจฉาด้วย"

    "ไม่อยากจะกินด้วยเพราะอย่างงี้เเหละ เชอะ"

    "ฮ่าๆๆๆ"

     

     

     

    "กลับกันยังอ่ะ หรือจะรอปิดร้าน"

    "พี่มาร์คว่าไง"

    "เเล้วเเต่เเบม"

    "งั้นกลับก็ได้ พี่มาร์คจะได้พัก"

    "มาร์คได้พักหรือเเกจะพัก"

    "เบื่อคนรู้ทันจริ๊งงง"

    "ไป ขึ้นรถ เดี๋ยวไปส่ง"

    "เเล้วพี่เบียร์ไม่กลับบ้านเลยหรอ"

    "เดี๋ยวกลับมาช่วยเเม่เก็บร้านก่อน ค่อยกลับไปนอนทีเดียว"

    "ขยันเเท้ พี่ใครว่ะ"

    "พี่ชายมาร์คมั้ง"

    "เออ ลืมไปว่าเขาตัดเราออกเเล้ว"

    "หัวก็ไม่ล้านทำไมขี้งอนนักว่ะ ไปได้เเล้ว"

     

    พี่เบียร์เดินกอดคอผมไปที่รถ ปล่อยพี่มาร์คร่ำลาคนในร้านให้เดินตามมา จริงๆผมก็กลับมาทุกๆปิดเทอมนะ มีบ้างที่เเวะไปเที่ยวฮ่องกงกับยองเเจ เเล้วก็พี่เเจ็คสัน ก่อนจะบินมาที่นี่ บางปีก็มีไปไต้หวันบ้างเวลาครอบครัวพี่มาร์คบินมา ส่วนพี่มาร์คหรอ รายนั้น ผมไปไหนก็ไปด้วย ไม่ค่อยกลับบ้านกลับช่องตัวเองเท่าไหร่ ลำบากป๊า ม๊าให้บินมาหา นิสัยไม่ดีเลยผู้ชายคนนี้ เเต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่กลับนะ เขาก็ไปบ้างเเหละ เเต่ไม่กี่วัน

     

    "ถึงเเล้ว ลงไปได้เเหละ ปิดประตูบ้านดีๆด้วย ขนมอยู่ในตู้เย็นก็มี หิวก็เเกะกิน เเล้วก็อย่าออกไปไหนหล่ะ เดี๋ยวหลง ขี้เกียจตามหา"

    "ครับๆ เข้าใจเเล้วครับ"

     

    ผมยืนโบกมือบ๊ายบ่ายพี่ชายตัวเองเเล้วไขกุญเเจเข้าบ้าน พวกกระเป๋าก็พี่มาร์คเจ้าเดิมเเหละที่เป็นคนไปยกตามมา

     

     

    "เฮ้ออออ เหนื่อยจังเลย"

     

    พี่มาร์คลากกระเป๋าตามมาในห้อง เเล้วฉีกยิ้มกว้างๆส่งให้ผม เขาลากกระเป๋าเเล้วจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ให้เรียบร้อย เเล้วเข้าห้องน้ำอาบน้ำเลย ส่วนผมก็เกลือกกลิ้งบนเตียงเเสนรักของตัวเอง เเล้วคุยกับยูคยอมเเละยองเเจในไลน์กลุ่ม พวกผมมีไลน์กลุ้มกันด้วยนะคร้าบบ ไม่อยากจะโม้

     

    ถึงไทยเเล้วนะ

    BM Bambam

     

    ถึงฮ่องกงนานเเล้วเหมือนกัน

    Jae JJ

     

    อยู่เชจู ขี้เกียจเดินทาง

    Yu_yoem

     

    "จ๊ะ พ่อคุณ พ่อขี้เกียจเดินทาง"

    สองสามวันมันก็บินไปไหนต่อไหนต่อเเล้วหล่ะครับ อย่างยูคยอมมีหรือจะอยู่เเค่โคเรีย

     

     

    อยากมาหา

    Jae JJ 

     

    บินตามมาสิ

    BM Bambam

     

    ไปด้วยคน

    Yu_yeom

     

    ก็มาสิครับ คุณเพื่อนทั้งสอง

    BM Bambam

     

    พูดจริงนะ ไปบอกพี่เเจ็คสันก่อน

    Jae JJ

     

    ไปด้วยย เดี๋ยวจัดกระเป๋าก่อน

    Yu_yeom

     

    รีบจริงๆเลยครับ เเต่ละคนเนี่ย เเต่ก็น่าสนุกนะ ถ้าทั้งหมดมาถล่มบ้านผมคงฮาน่าดู ว่าเเต่พี่ชายผมสองคนไปไหนกันน้าา เเต่เหมือนพี่จินยองอยากไปญี่ปุ่นนะ หลังจากกลับจากปูซาน สองคนนั้นอาจจะไปญี่ปุ่นก็ได้มั้ง

     

    ตืดดดด ตืดดดดด

    JB & Jr.

     

    "คร้าบบบ ว่าไง"

    (อยู่ไทยเเล้วอ่ะดิ่)

    "ครับ เเล้วพี่อ่ะ"

    (ดูนี่สิ)

    "สุวรรณภูมิ"

    (^_____^)

    "ห้ะ!!! สุวรรณภูมิ เมืองไทย พี่อยู่ไทยหรอ"

    "ตกใจไรเเบม"

    "พี่มาร์คดูนี่ดิ่"

    (หวัดดีมาร์ค)

    "หวัดดีจินยอง นายอยู่เมืองไทยหรอ"

    (อืมม กะมาเซอร์ไพร์นะ เเต่ดันเซอร์ไพร์เอง พวกเราลืมเอาที่อยู่บ้านเเบมเเบมจากเเม่เเจบอมมา ตอนนี้เลยอยู่สนามบิน)

    "อ่าา ผมจะทำไงดีเนี่ย ผมก็ไม่รู้ว่าจะบอกทางยังไง"

    "โทรหาพี่เเบมไง"

    "เออใช่"

     

    ผมจัดการโทรหาพี่ชายตัวเอง พี่เเบงค์เลยใจดีไปรับสองคนนั้นให้ ส่วนพี่เบียร์เลยต้องอยู่ช่วยเเม่เก็บร้าน ผมสองคนเลยต้องไปช่วยกันจัดห้องเตรียมเอาไว้

     

    "งื้ออออ เหนื่อยอ่ะพี่มาร์ค"

    "จะได้พักกันจริงๆมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆ"

    "เดี๋ยวเเจ ยูค เเล้วพี่เเจ็คก็จะมาอีก"

    "บ้านเเบมพังเเน่"

    "เเบมก็คิดงั้น"

    "หนุนตักพี่มั้ย"

    "ก็ดี"

     

    นานเเล้วเหมือนกันที่ไม่ได้นอนหนุนตักพี่มาร์คเเบบนี้ ผมมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาเงียบๆ ส่วนเขาก็ก้มหน้ามามองผมนิ่งๆ มือเขายังเขี่ยปอยผมเล่นเหมือนทุกครั้งที่ผมนอนหนุนตักเขา

     

    "เหนื่อยมากมั้ยวันนี้"

    "ก็นิดนึง"

    "วันนี้เเทบจะไม่ได้คุยกับเราเลยนะ อยู่นู้นถึงไม่ได้เจอหน้า เเต่ยังคุยกันมากกว่านี้อีก ทำไมถึงขี้งอนจัง หืม???"

    "ก็ไม่ได้อยากงอนเท่าไหร่หรอก มันเป็นนิสัยไปเเล้วมั้ง"

     

    ผมตอบเสียงอู้อี้ก่อนจะเอาหน้าซุกที่ท้องของพี่เขา กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มกับกลิ่นสบู่ที่เขาใช้ มันหอมมากเลยนะ นานเเค่ไหนไม่รู้ที่ไม่ได้กลิ่นใกล้ๆเเบบนี้

     

     "คิดถึงจัง"

    "หืม??"

    "ไม่ได้อยู่ใกล้เเบบนี้กี่วันเเล้วนะ"

    "คิดถึงเหมือนกันเเหละ เมื่อไหร่จะสอบเข้ามหาลัยสักที จะได้มาอยู่ด้วยกัน"

    "ใกล้เเล้วเเหละ"

    "เฮ้อออ อยากไปเที่ยวด้วยกันเเค่สองคนจัง เเต่คงไม่ได้เเล้วสินะ คนมาเยอะขนาดนี้"

    "ใช่ ไล่กลับหมดเลยดีมั้ย"

    "ทำงั้นได้ไงเล่า"

     

    ผมเอื้อมมือดีดจมูกเขาเบาๆ เขาก็ได้เเต่ยิ้มเเล้วเอนหลังบนเตียงบ้าง ผมเลยขยับไปที่อกเเทน

     

    "พรุ่งนี้หนีไปเที่ยวกันมั้ย"

    "ไปไหนดี"

    "เเบมอยากไปไหนอ่ะ"

    "คิดไม่ออกอ่ะ เเล้วเเต่พี่มาร์ค"

    "งั้นนอนอยู่บ้าน"

     

    อั่ก!!

     

    "เจ็บนะ ตีลงมาทำไมเนี่ย"

    "กวนประสาท"

    "เเล้วเเบมอยากไปไหนหล่ะครับ มาร์คตามใจเเบม"

    "ไปดูหนัง กินข้าว เเบบคู่อื่นๆมั้ย เเบมว่าเราสองคนไม่ได้ทำอะไรเเบบนี้ด้วยกันมานานเเล้วนะ"

    "เเล้วจินยองกับเเจบอมอ่ะ"

    "เขามาเหนื่อยๆให้เขาพักอยู่บ้านเนี่ยเเหละ ฮ่าๆๆๆ"

    "งั้นก็นอนกันเถอะ มาร์คง่วงเเล้ว"

    "ฝันดีครับ พี่มาร์ค"

    "ฝันดีครับ เเบมเเบม"

    จุ๊บบ!!

     

     

    ก๊อกๆๆ

     

    คืนนี้คงไม่ต้องนอน ขอเวลาให้เเบมกับมาร์คอยู่ด้วยกันนานๆจะได้ม่ายยยยยย

    "คร้าบบบ"

    "โอ้ยย คิดถึงเเบมเเบม ดีใจมั้ยที่พี่มาหา"

    "ครับๆ ไม่ได้เจอกันเเค่วันเดียวเองมั้งครับ"

    "ง่ะ เสียใจ น้องไม่รัก"

    "มาเหนื่อยๆไปพักเถอะครับ ผมกับพี่มาร์คช่วยกันจัดห้องไว้ให้เเล้ว"

    "เเบมเเบม ลูก ไปช่วยพี่เบียร์ยกของฝากเข้ามาหน่อย"

    "ครับ เเม่"

    "มีอะไรหรอเเบม"

    "พี่มาร์คลงไปช่วยพี่เบียร์ พี่เเบงค์ขนของหน่อยสิครับ น่าจะเป็นของฝากที่เเม่พี่เเจบอมฝากมา"

    "ได้ๆ เดี๋ยวพี่ลงไปให้ เราคุยกับจินยองไปก่อน"

     

    พี่มาร์คลูบผมสองสามที เเล้วเดินลงไปข้างล่าง ผมเลยต้องจูงมือพี่จินยองไปที่ห้องพักที่ผมจัด ดีที่บ้านผมมีห้องเยอะ เเต่ก็ไม่ได้เยอะขนาดอยู่ได้หลายคนหรอกน่า สงสัยต้องให้อีกสามคนที่ตามมา จองโรงเเรมซะเเล้ว

     

    "เเม่คร้าบบบ เพื่อนเเบมจะมาอีกสามคนนะ"

    "เเล้วจะให้เพื่อนนอนที่ไหนล่ะเนี่ย"

    "คงให้จองโรงเเรมเเหละครับ"

    "งั้นเอางี้มั้ย เราไปเที่ยวกัน จริงๆครอบครัวเราไม่ได้ไปไหนด้วยกันนานเเล้วนะ รอเพื่อนเเบมมา เราก็ไปกันเถอะ"

    "เเล้วเเต่เเม่เลยครับ ผมไปช่วยพี่ๆก่อนนะ"

     

     

    "ขนไรมาเยอะเเยะเนี่ย ไหนบอกไปปูซาน"

    "ถ้าบอกมาไทยจะเซอร์ไพร์หรอไอ้หนู ส่วนพวกนี้ก็ของฝากจากคุณนายอิม ให้เเม่นายทั้งนั้นเเหละ"

    "เยอะจัง"

    "เเน่นอน เเม่ฉันซื้อไว้เยอะเเละหลายอย่างมาก คงกลัวไม่ถูกใจเพื่อนสนิทมั้ง"

    "เเม่พี่นี่ใจดีจริงๆ"

    "ใจดีกับทุกคนเเหละ ยกเว้นลูกชายตัวเอง"

    "ขี้น้อยใจตลอด"

    "ก็งี้เเหละเเม่ไม่รัก"

    "สองพี่น้องคุยไรกัน เข้ามาข้างในเร็ว เเม่เเบมทำกับข้าวให้กินนะ"

    "ครับนยอง"

    "นี่พี่เเจบอม เเบมทำหน่อยดิ่ ทำไงถึงจะกลัวพี่จินยองหล่ะ"

    "ทำไม อยากให้ไอ้มาร์คมันกลัวตัวเองบ้างรึไง ไอ้น้องชาย"

    "ก็นิดหน่อย"

    "จริงๆมันขึ้นอยู่กับเเต่ละคู่นะ อย่างของฉัน ไม่ใช่ว่ากลัวนยองนะ เเค่ฟังเขาส่วนใหญ่ เพราะบางทีจินยองก็มีเหตุผลกว่าฉันอ่ะนะ เเต่ถ้าเรื่องไหนจินยองเริ่มไม่มีเหตุผล ฉันก็ต้องพูด ต้องอธิบาย อย่างคู่นาย ไอ้มาร์คดูจะเป็นผู้นำใช่มั้ย เเต่จริงๆมันยอมนายเยอะเหมือนกันนะ เเค่บางเรื่องที่นายดูจะงี่เง่าเกินไป ไอ้มาร์คมันก็มีขัดใจบ้างนะเเหละ"

     

    ผมพยักหน้าหงึกหงักตามคำที่พี่เเจบอมพูด ก็คงจะจริงของพี่เขานะ ที่ว่าพี่มาร์คตามใจผมเเต่มันก็ไม่ใช่ทุกอย่างหรอก บางอย่างผมก็ต้องยอมๆเขาอ่ะเเหละ

     

    "ออกซะนานเลย"

     

    มือหนาของคุณเเฟนลูบหัวผมเบาๆ ตอนนี้เราอยู่ที่โต๊ะอาหารโดยมีเเค่พวกผมเเค่สี่คนเท่านั้น พี่ชายผมกับเเม่คงขึ้นไปอาบน้ำนอนกันหมด

     

    "เเม่นายใจดีมากเลยนะเเบมเเบม"

    "ครับ ผมเคยเล่าเรื่องพี่ให้เเม่ฟังด้วย"

    "ไม่หน่าหล่ะ เเซวเรื่องพี่กับเเจบอมใหญ่เลย"

     

    ผมเเค่ยิ้มให้พี่จินยองบางๆ เพราะตอนนี้ร่างกายผมไม่อยากจะรับรู้อะไรเเล้ว ตาก็หนักเสียเหลือเกิน ส่วนหัวผมก็เอนไปซบไหล่พี่มาร์คเรียบร้อย คือก็ไม่ได้อยากจะโชว์หวานนะ เเต่มันง่วงจริงๆ

     

    "ไปนอนมั้ยครับ"

    "งืม รอพี่จินยองกับเเจบอมทานข้าวเสร็จก่อนก็ได้"

    "ขึ้นไปนอนเลยก็ได้เเบม เดี๋ยวพี่จัดการเอง"

    "ไม่เป็นไรครับผมรอได้"

     

    วืดดดด

     

    "ดื้อ จริงๆ ไปนอนเถอะ เห็นเเล้วสงสาร"

    "ไม่เอาอ่ะมาร์ค เเบมจะรอ"

    "ไปนอนได้เเล้ว"

    "ไม่อาววววว"

    "งอเเงอีกเเล้วนะ"

     

    ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงให้มากความหรอกครับ พี่มาร์คเขาจะทำไร ใครจะไปเถียงได้หล่ะ ยิ่งตอนนี้ง่วงสุดขีดเเบบนี้ คงต้องปล่อยเลยตามเลย

     

    "ฝันดีนะ เเบมเเบมของมาร์ค"

     

     

     

     

     

     

    เเละเเล้วก็ถึงวันที่เพื่อนซี้เเบมเเบมบินมาเมืองไทยครบทุกคน เเล้วเราเดินทางมาต่างจังหวัดเเบบไม่ต้องให้อีกสามคนได้พัก อาจจะเป็นโชคดีของผม ที่เเม่ได้บัตรบ้านพักริมทะเลฟรีมาจากลูกค้า เราเลยได้มาพักฟรี 1 หลัง เเต่ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 1 หลัง เพราะคนเราเยอะจริงๆ บ้านนึงมีเพียงเเค่สามห้องนอน เเต่อย่างน้อยก็ยังถือว่าดีเเหละ ลดค่าใช้จ่ายไปเยอะ เเละทริปนี้ คุณเเม่เเบมเเบมจ่ายตลอดทริป เย้!!!

     

    "ร่างกายฉันต้องการทะเล"

    "หนวกหูอ่ะพี่เเจ็คสัน ยองเเจจะนอน ตะโกนทำไม"

    ยองเเจยกหมวกสานที่ปิดหน้าออก เเล้วหันมาว่าคุณเเฟนตัวดี ที่พอรถตู้จอดปุ๊ป เจ้าตัวก็ตะโกนเสียงดังลั่นรถ ยูคยอมที่นั่งข้างผมก็ขยี้ตาเบาๆเเล้วก็หลับต่อ ผมเลยต้องเป็นคนปลุกมันให้ตื่นเเล้วลงไปยกกระเป๋า ส่วนกระเป๋าของพี่เเบมก็ไม่ต้องบอกว่าใครยก ถ้าไม่ใช่ หนุ่มสุดหล่อผมดำ ใส่เสื้อกล้ามสีเทา กางเกงยีนส์สีดำเเละเเวนส์คู่สวยของเจ้าตัวที่ซื้อมาคู่กับผม ของพี่มาร์คเป็นสีเเดง ส่วนผมเป็นสีดำ ก็เเค่อยากดูเเมนบ้างอะไรบ้าง ก็เลยซื้อสีนี้มา ซึ่งพี่มาร์คก็ไม่ได้ขัดอะไร ขอเเค่เหมือนกันก็พอ

     

    "ไปได้เเล้วไอ้ยูคคคคค ตื่นๆๆ"

     

    ดูมันสิ ขนาดเดินยังหลับตาเดิน อะไรมันจะง่วงขนาดนั้นครับ ยองเเจก็อีกคน ถ้าไม่มีพี่เเจ็คสันนะ ปานนี้คงนอนข้างถนนเเล้วเเหละ

     

    "อ่ะ กุญเเจ ของเพื่อนเเก อันนี้ของเเกกับมาร์ค"

    "เเทงกิ้ว พี่เบียร์"

     

    ผมรับกุญเเจห้องผมกับกุญเเจบ้านพี่เเจบอมมาถือ เเล้วเดินนำไป คือบ้านสองหลังมันก็ติดกันนะ เเค่ผมกับพี่มาร์คนอนบ้านที่ได้มาฟรี ส่วนคู่บี๋นยอง เเจ็คเเจ เเละยูคยอม นอนบ้านพักที่เสียเงิน เเต่เชื่อสิ บ้านนั้นไม่ได้นอนหรอก คงปาร์ตี้กันทั้งคืน กำหนดการของพวกเราก็คือสามวันสองคืนนั้นเเหละครับ เเต่ถ้าอยากอยู่ต่อ คุณนายของกันต์ภิมุกต์ก็ใจดี บอกให้ออกกันเอง ทุกคนเลยเกรงใจกันม๊ากมาก เลยตกลงกันว่า จะไม่อยู่ต่อ ฮ่าๆๆๆ

     

    "อันนี้กุญเเจบ้านพวกพี่นะ เเย่งห้องกันเอง เเบมไปเเล้ว ฝากยูคยอมด้วย ไอ้บ้านี่จะหลับกลางอากาศอีกนานมั้ยฮะ"

    "เออๆ ไปเถอะ ไอ้มาร์คมันนอนรอในห้องเเล้วมั้ง"

    "ไปเเหละ อยากล้อ อยากเเซวไรก็เเซวเถอะ เพราะมันคือเรื่องจริง คิคิ"

     

    ผมวิ่งกลับบ้านตัวเองอย่างร่าเริง เเล้วก็พบกับหนุ่มสุดหล่อที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้องพัก เราก็ลืมว่ากุญเเจอยู่ที่เรา ดีนะที่รีบมา ไม่งั้นคงมีคนนอยด์เเน่ๆ

     

    "ไปส่งยูคมาเเล้วหรอ"

    "อืมๆ รอนานป่าว"

    "ไม่นานเลยครับ"

     

    พี่มันโถมตัวลงมากอดผมจากด้านหลัง ดีนะที่ตั้งตัวทัน ไม่งั้นล้มหน้ากระเเทกประตูเเหง สงสัยจะเพลียเเน่ๆ บนรถไม่เห็นพี่มาร์คจะได้นอนเลย เพราะผมยืมไหล่เขาพิงไง เจ้าตัวคงปวดไหลอ่ะเเหละ

     

    "เข้าห้องกัน ลากกระเป๋ามาด้วย"

    "ครับ คุณเเฟนนน"

     

    ผมปิดประตูห้อง เเล้วล็อกให้เรียบร้อย รับกระเป๋าต่อจากพี่มาร์คมาจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ ก็ไหนๆพี่มาร์คอุตส่าห์ใจดีให้ยืมไหล่ไง เราเลยมาทำหน้าที่ที่เขาเคยทำเเทน

     

    "จะนอนก่อนหรือจะไปอาบน้ำก่อนมั้ยครับ"

    "นอนก่อนดีกว่า ไม่ไหวเเล้วอ่ะ เพลีย"

     

    พูดปุ๊ปก็ถอดถุงเท้าเเล้วล้มตัวลงนอนเลยหล่ะครับ ผมจัดเสื้อผ้าที่เตรียมมานิดหน่อยเเล้วกระโดดขึ้นเตียง นอนทับพี่มาร์คซะเลย

     

    "ลุกขึ้นมาเเป๊ปนึงสิ"

    "หืม??"

    "ลุกขึ้น"

     

    ผมดึงเเขนพี่มาร์คให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง พี่มาร์คเลยนั่งขัดสมาธิเเล้วมองผมตาปรือเชียว ท่าจะง่วงจริงเเฮะ

     

    ผมอ้อมไปนั่งด้านหลังพี่มาร์คเเล้วลงมือบีบนวดที่ไหล่ให้เขา นี่ผมอุตส่าห์ไปร่ำเรียนมาจากพี่เเจ็คสันเลยนะ พี่เขานวดเก่งมากเลยเเหละ ผมเลยไปเรียนมานิดๆหน่อยๆพอเป็นพิธี

    "ทำไมวันนี้ใจดีกับมาร์คหล่ะ"

     

    พี่มาร์คก้มลงมาหอมมือผมบนไหล่เขาเเรงๆหนึ่งทีเเล้วกลับไปนั่งหน้าตรงเหมือนเดิม

     

    "ตอบเเทนที่มาร์คให้เเบมยืมไหล่ไง"

    "สงสัยต้องให้ยืมบ่อยๆเเล้วหล่ะ"

    "สบายมั้ย"

    "อืมม เหมือนมาฮันนีมูนเลยเนอะ มากันเป็นคู่ๆเลย"

    "ใครบอก เเม่กับพี่ชายเเบมก็มา ยูคยอมอีก"

    "หาเเฟนให้ยูคสักคนดีมั้ย จะได้ไม่โดดเดี่ยว"

    "เเบมเคยคิดจะหาให้เเล้ว เเต่มันบอกว่า ไม่เป็นไร มันรอเสียบ ถ้าพี่มาร์คเลิกกับเเบมเมื่อไหร่  มันพร้อมมาก มันฝากมาบอก"

    "งั้นคงรอเก้อเเล้วมั้ง เพราะมันคงไม่มีวันนั้นหรอกครับ"

    "ให้มันจริงเถอะครับ คุณมาร์ค จะจบเเล้วไม่ใช่หรอครับ ออกไปทำงานยังๆก็ต้องเจอคนที่ถูกใจ เชื่อเเบมมั้ยหล่ะ"

    "อืม ถึงจะถูกใจยังไง เพรียบพร้อมเเค่ไหน เเต่มาร์คมีเจ้าของหัวใจอยู่เเล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เเทนที่ไม่ได้หรอก ว่าเเต่พี่ เราก็เหมือนกันเเหละ เขามหาลัยเเล้วอย่าคิดนะ ว่าจะไม่มีคนมาจีบ ไม่ไปเรียนมั้ย อยู่บ้านเฉยๆเอาป่ะ เดี๋ยวมาร์คเลี้ยงเเบมเอง"

    "ตลกเถอะครับ ถ้าเกิดพี่มาร์คไม่เลี้ยงเเบมขึ้นมาเเบมก็อดตายพอดี บอกว่าจะเลี้ยงเเบมอ่ะ มีงานทำเเล้วรึไง เงินเดือนเท่าไหร่ครับ"

    "งานอ่ะมีเเล้ว เเต่เงินเท่าไหร่เนี่ยไม่รู้เเฮะ เพราะเเต่ละเดือนได้มาไม่เท่ากัน"

    "งานอะไรของพี่"

    "ผู้บริหารมั้งครับ เห็นป๊าพูดงั้น"

    "พูดเล่นพูดจริงเนี่ย"

    "พูดจริง"

     

    ถ้าพี่มาร์คเป็นผู้บริหารจริงๆ บริษัทที่ต้องทำมันก็มีเเค่ที่ไต้หวันกับเมกาเท่านั้น เเล้วอย่างงี้ เราสองคน....

     

     

    "เงียบไปนี่คืออะไรครับ คิดว่าพี่ต้องไปอยู่ที่อื่นรึไง โถ่ ใครจะทิ้งเเฟนเเบบเเบมลงหล่ะครับ บริษัทที่พี่ทำก็อยู่ที่เกาหลีอ่ะเเหละ เป็นบริษัทที่ป๊าพึ่งจะเทคโอเวอร์ เเล้วไม่ค่อยมีเวลามาดู จำสามเดือนที่เเล้วที่ป๊ามาได้มั้ย ป๊าเขาเข้ามาจัดการอะไรนิดหน่อยนะ ให้พร้อมกับที่พี่ไปบริหาร"

    "เเล้วอย่างงี้ พี่มาร์คจะไม่ทำงานหนักเเย่หรอครับ"

    "กลัวพี่ไม่มีเวลาให้รึไง หืม?? โถ่เด็กน้อย ช่วงเดือนสองเดือนเเรกอาจจะใช่อ่ะเเหละ เเต่ป๊าบอกจะส่งคนมาคอยสอนงานให้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง มาร์คสัญญาว่าจะเรียนรู้งานให้ไวที่สุดเลยครับ จะได้มีเวลามาอยู่กับเราไง อย่างอเเงไปเลยนะ"

    "เบื่อคนรู้ทันอ่ะ"

    "โอ๋ๆๆๆ คนดีของมาร์ค"

     

    กลายเป็นว่าจากที่ผมนวดอยู่ดีๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นมาอยู่ในอ้อมกอดของพี่มาร์คเเทน เขาโยกตัวผมเบาๆเเล้วล้มตัวลงนอนที่เตียง

     

    "ไม่คิดมากสิ เเค่ทำงานเองนะ"

    "เเล้วทำที่ไหน อยู่ตรงไหนของเกาหลี"

    "โซลครับ"

    "งั้นเเบมก็ต้องติดมหาลัยในโซลหรอ"

    "เเน่นอน"

    "โจทย์ยากไปมั้ย"

    "ไม่หรอก เเบมเเบมของมาร์คทำได้อยู่เเล้ว"

    "อยากจะงอเเง อยากจะร้องไห้"

    "ยังไม่เริ่มทำเลย คิดว่าทำไม่ได้เเล้วหรอ"

     

    อยากจะงอแงจัง แต่ก็รู้อ่ะ ว่าพี่มาร์คไม่อยากให้เราแยกกันอยู่ไกลๆอีก แล้วอีกอย่างถ้าติดมหาลัยที่นั้นมันก็ดีที่เราจะได้ดูแลกันและกันง่ายขึ้น ยิ่งพี่มาร์คทำงาน เวลาอยู่ด้วยกันมันก็ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ

    "ไม่ทำหน้าเศร้าสิ แบมแบมทำได้อยู่แล้ว ออกไปดูดาวข้างนอกมั้ย รับลมๆ จะได้อารมณ์ดีขึ้น"

    ผมยอมลุกขึ้นอย่างว่าง่าย แล้วเดินตามแรงดึงที่ข้อมือ พี่มาร์คส่งยิ้มให้ผมแล้วเราทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่ริมระเบียง

     

    ลมทะเลเย็นๆ เสียงคลื่นใกล้ๆบ้านพัก ความมืดที่ถูกปกคลุมและแสงดาวที่ส่องสว่างในค่ำคืนนี้ ถ้าเป็นคนโสดหรืออกหักมันก็คงเศร้าไม่น้อยเลยหล่ะ แต่ผม มีคนรักของผมอยู่แล้ว แล้วตอนนี้เขาก็ยืนข้างๆผมในบรรยากาศที่แสนจะเหงา

     

    "ทำหน้าแบบนั้นคืออะไรครับ"

    "บรรยากาสมันเหมือนคนอกหักมายืนอยู่ที่ระเบียงริมทะเลเลยอ่ะ"

    "คิดมากนะเราอ่ะ เราแกหักรึไง หืม"

    "ก็ป่าว"

    "อย่าเครียดมากสิครับ เรื่องที่เราพูดกันอยู่มันเป็นเรื่องในอนาคตนะ ถ้าแบมสอบไม่ติดก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมาร์คให้แบมจ้างแบมเอง จ้างตลอดชีวิตเลย จะได้ไม่ต้องเครียดเรื่องหางาน"

    "พูดง่ายเนอะ"

    "เครียดอีกแล้ว ไม่เครียดดิ่ มาทะเลทั้งที นานๆจะมาเที่ยวด้วยกัน ยิ้มสิ ยิ้ม"

    "ยิ้มแล้วได้อะ... อื้อออออ"

    "แบบนี้ไง"

    "ทะลึ่ง"

    "ยิ้มแล้วๆๆ ชอบอ่ะดิ่"

    "ชอบอะไรเล่า"

    "เขินรึไง"

    "แบมไม่ได้หน้าหนาขนาดนั้นนะ ไม่เขินได้ไงหล่ะ"

    "สงสัยจะไม่ได้ทำบ่อยมั้ง เลยเขิน คงต้องทำบ่อยๆแล้วมั้งเนี่ยจะได้เลิกเขินสักที"

    "ทำ...ทำไร >//<"

    "ทำแบบนี้ไง"

    ไม่ต้องทำก็ได้มั้ง แค่แกล่งโง่ไปงั้นแหละ >//<

    "ขอนะ"

    "ขออะไรพี่มาร์ค เฮ้ยยยยยยย ปล่อยนะ ปล่อยๆๆ"

    "สัญญา"

    "สัญญาอะไร ปล่อยลงไปเดี๋ยวนี้นะ"

    "สัญญาว่าจะไม่รุนแรง"ผมหันไปตามเสียงเรียกที่ดังมาจากทางซ้ายมือ พี่เบียร์ยืนอยู่ข้างๆพี่เเบงค์ที่ยืนส่งยิ้มให้ผม ผมตีมือพี่มาร์คเบาๆ เพื่อบอกให้เจ้าตัวปล่อยออก

     

    "ไม่เห็นต้องอายเลย"

    "เเบมไม่ได้หน้าหนาเหมือนพี่มาร์คนะ"

     

    ผมหันไปค้อนคนที่กำลังโคฟเป็นปลากปักเป้าด้านหลัง เห็นเเล้วหมั่นเขี้ยว ขอบีบจมูกโด่งๆซะหนึ่งทีสิ

     

    "ลุกขึ้นสิครับ หิวมั้ยใช่หรอ"

     

    พี่มาร์คหยิบกระเป๋าอย่างงอนๆ ผมเลยเอียงหน้ามองเขาเเล้วยิ้มหวานๆส่งให้ ดูก็รู้ว่ากลั้นยิ้มเอาไว้ ผมจับมือข้างที่ว่างเเล้วเเกว่งเบาๆ พี่มาร์คหันมามองมือที่ผมจับไว้ ก่อนที่เปลี่ยนมาประสานมือเเทน นิ้วทั้งห้าถูกทับด้วยนิ้วใหญ่กว่าของพี่มาร์ค นิ้วโป้งพี่มาร์คเขี่ยอยู่บนมือผมเบาๆ

     

    "สวัสดีครับ"

     

    เเหม ชิงตัดหน้าสวัสดีพี่ผมก่อนผมอีก ผู้ชายอะไรเอาหน้าชะมัด นี่อยากให้คนอื่นชมใช่มั้ย ว่าสกิลการพูดไทยดีขึ้น

     

    "พี่เบียร์ พี่เเบงค์หวัดดี"

    "เออ มาเหนื่อยๆรีบกลับบ้านกันเถอะ ร้อนมั้ยมาร์ค"

    "ไม่เลยครับ"

     

    โกหก!!! เล่นใส่เสื้อกล้ามเเบบนี้ เเล้วยังนั่งพัดให้ตัวเอง บอกไม่ร้อนนะคนเรา

     

    "กลับกันเถอะพี่เบียร์ พี่เเบงค์ น้องชายคนโปรดพี่เขาหิวเเล้ว"

    "ให้ช่วยถือไรมั้ย ของไอ้เเบมยิ่งเยอะๆอยู่ด้วย ถือคนเดียวไหวหรอ"

    "ไหวครับ"

     

    เเหนะ มีการส่งยิ้ม โชว์ภูมิว่าเเกร่งอีก อยากถืออยากลากก็ตามใจ ผมปล่อยมือพี่มาร์คออกเเล้วหันไปคุยกับพี่เบียร์เเทน ปล่อยพี่มาร์คคุยกับพี่เเบงค์ไป

     

    "พี่เบียร์ เป็นไงบ้างอ่ะ ที่บ้าน"

    "ก็ดี ไม่มีไรเปลี่ยน นี่จะกลับบ้านก่อนหรือจะไปที่ร้านก่อนหล่ะ"

    "พี่มาร์คเขาบ่นว่าหิวอ่ะ ที่บ้านมีไรกินป่ะหล่ะ"

    "ไม่มีมั้ง งั้นเเวะไปที่ร้านก่อนก็ได้ เเม่รออยู่ที่ร้าน"

    "เอางั้นก็ได้"

    "ไหนบอกไอ้มาร์คมันไม่ชอบพูดไง ตั้งเเต่เจอมันก็เห็นมันพูดเยอะอยู่นะ"

    "ชิ เอาใจพวกพี่มากกว่า คอยดูดิ่ ถ้าเจอเเม่ พี่มาร์คต้องไปอ้อนเเม่เเน่ๆ"

    "เป็นเด็กขี้อิจฉารึไง"

    "ป่าวซะหน่อย"

     

     

     

    "เเม่!!!"

    ผมวิ่งเข้ากอดเเม่ตัวเองตั้งเเต่เปิดประตูเข้ามาในร้าน โคตรคิดถึงเลยเเหละ ไม่อยากจะบอก คุยกันผ่านหน้าจอเกือบทุกวันก็ใช่จะหายคิดถึง สู้ๆมาเจอตัวจริงก็ไม่ได้ ได้กอด ได้หอมด้วย เเบมเเบมหล่ะ ชื่นจายยยย

     

    "มาร์คหล่ะ มาร์คมารึเปล่า"

    "เเม่อ่ะ!! ถามหาเเต่ลูกชายสุดที่รัก เเล้วเเบมหล่ะ เเบมไม่ใช่ลูกเเม่รึไง"

    "พูดไปเรื่อย เเล้วสรุปมาร์คมามั้ย"

    "สวัสดีครับ"

     

    สำเนียงไทยเเปร่งๆของอีกคนดังเข้ามา เเม่ผละออกจากผมเเล้วหันไปกอดเขาเเทนทันที ใช่ว่าคนถูกกอดจะยอมถูกกอดอย่างเดียว นี่ก็กอดเเน่ไม่เเพ้กัน เห็นเเล้วมันน่าน้อยใจ เชอะ!!

     

    "โอ๋ๆๆๆ เด็กขี้อิจฉา มานี่สิ เดี๋ยวพี่กอด"

    "ไม่ต้องมาพูดเลยพี่มาร์ค เเบมไม่อยู่ตรงนี้เเล้ว ไปหาไรกินดีกว่า"

    "ขี้งอนจริงๆเลยเด็กคนนี้"

     

     

    ผมเดินไปที่ครัว เเม่ครัวดูจะวุ่นวายอยู่หน่อยๆ อาจจะเพราะวันนี้ลูกค้าเยอะมั้งครับ ในครัวเขาเลยวุ่นวาย เเต่ทุกคนก็ยังคงเเจกยิ้มให้ผม ผมกล่าวสวัสดีทุกคนเลยหล่ะ

     

    "มาอยู่นี่เอง เข้ามาทำไรในนี้อ่ะ"

    "หาไรกิน"

    "งอนหรอ???"

    "ป่าวนิ่ครับ"

    "งั้นไม่อยู่กวนดีกว่า หายงอนก็ออกมากินข้าวนะ เเม่เรียกอ่ะ"

    "อืม เดี๋ยวตามไป"

     

    เชอะ ง้อต่ออีกหน่อยก็ไม่ได้นะ รู้ไงว่าเเบมต้องหิวเเล้วตามออกไปเอง เเต่เรื่องไรจะเดินตามเเผนพี่เล่า ให้รู้ว่าบ้างว่าเเบมอ่ะง้อยาก

     

    "คุณเเบมเเบม หาไรอยู่คะ"

    "หาไรกินนะครับ"

    "คุณเเม่ทำเตรียมไว้เเล้วนะคะ ไม่ออกไปทานหรอ"

    "ไม่หล่ะครับ"

     

    ผมเดินไปทั่วครัว ขอชิมนู้น ชิมนี่ไปเรื่อยๆ จนเริ่มจะอิ่มขึ้นมานิดๆเเหละ ผมว่าเเม่ครัวที่นี้ฝีมือสุดติ่งมากบอกเลย เเนะนำให้มาลอง

     

    "ไอ้เเสบ มาทำไรในนี้ เเฟนเเกรออยู่ข้างนอกอ่ะ หิวไส้จะขาดเเล้วมั้งนะ"

    "ใครใช้ให้รอเล่า ไม่กินไปหล่ะ"

    "ปากดี พอเขาไม่รอเดี๋ยวก็งอนเขาอีก"

    "เเบมเเมนพอน่า ไม่งอนเรื่องพวกนี้หรอ"

    "หร๊าาาา เเมนมาก เดินไปเดินมาในครัวเนี่ย เเมนมาก เเมนกว่าเเกก็ตุ๊ดเเล้ว รีบไปเลยเร็วๆ อย่าเล่นตัว"

    "เข้าข้างกันดีจังนะ"

    "เขาไม่บ้าบอ ง้องเเง้ง ขี้งอนเหมือนเเกนี่"

    "เช๊อะ ไม่เอามาเป็นน้องเลยหล่ะ ตัดเเบมออกจากกองมรดกเลยมั้ย"

    "พวกฉันตัดเเกนานเเหละ ไม่รู้ตัวเลยรึไง"

    "พี่เเบงค์อ่ะ!!!"

     

     

    "ออกจากครัวได้เเล้วหรอ ลูกชาย"

    "มันเดินไปเดินมาในครัวอ่ะเเม่ พวกในครัวรำคาญกันหมดเเต่ไม่มีใครกล้าพูด"

    "เเต่งเรื่องอ่ะ"

    "ในครัวเขาพูดงั้นจริงๆ เเบร่"

    "เเม่ดูพี่เเบงค์ดิ่"

    "พอเลยๆๆ มากินข้าวได้เเล้ว มาร์ครอจนปวดท้องเเล้วเนี่ย"

    "เเล้วทำไมไม่กินอ่ะ"

    "ก็รอเด็กขี้งอนอยู่ไง"

    "ขี้อิจฉาด้วย"

    "ไม่อยากจะกินด้วยเพราะอย่างงี้เเหละ เชอะ"

    "ฮ่าๆๆๆ"

     

     

     

    "กลับกันยังอ่ะ หรือจะรอปิดร้าน"

    "พี่มาร์คว่าไง"

    "เเล้วเเต่เเบม"

    "งั้นกลับก็ได้ พี่มาร์คจะได้พัก"

    "มาร์คได้พักหรือเเกจะพัก"

    "เบื่อคนรู้ทันจริ๊งงง"

    "ไป ขึ้นรถ เดี๋ยวไปส่ง"

    "เเล้วพี่เบียร์ไม่กลับบ้านเลยหรอ"

    "เดี๋ยวกลับมาช่วยเเม่เก็บร้านก่อน ค่อยกลับไปนอนทีเดียว"

    "ขยันเเท้ พี่ใครว่ะ"

    "พี่ชายมาร์คมั้ง"

    "เออ ลืมไปว่าเขาตัดเราออกเเล้ว"

    "หัวก็ไม่ล้านทำไมขี้งอนนักว่ะ ไปได้เเล้ว"

     

    พี่เบียร์เดินกอดคอผมไปที่รถ ปล่อยพี่มาร์คร่ำลาคนในร้านให้เดินตามมา จริงๆผมก็กลับมาทุกๆปิดเทอมนะ มีบ้างที่เเวะไปเที่ยวฮ่องกงกับยองเเจ เเล้วก็พี่เเจ็คสัน ก่อนจะบินมาที่นี่ บางปีก็มีไปไต้หวันบ้างเวลาครอบครัวพี่มาร์คบินมา ส่วนพี่มาร์คหรอ รายนั้น ผมไปไหนก็ไปด้วย ไม่ค่อยกลับบ้านกลับช่องตัวเองเท่าไหร่ ลำบากป๊า ม๊าให้บินมาหา นิสัยไม่ดีเลยผู้ชายคนนี้ เเต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่กลับนะ เขาก็ไปบ้างเเหละ เเต่ไม่กี่วัน

     

    "ถึงเเล้ว ลงไปได้เเหละ ปิดประตูบ้านดีๆด้วย ขนมอยู่ในตู้เย็นก็มี หิวก็เเกะกิน เเล้วก็อย่าออกไปไหนหล่ะ เดี๋ยวหลง ขี้เกียจตามหา"

    "ครับๆ เข้าใจเเล้วครับ"

     

    ผมยืนโบกมือบ๊ายบ่ายพี่ชายตัวเองเเล้วไขกุญเเจเข้าบ้าน พวกกระเป๋าก็พี่มาร์คเจ้าเดิมเเหละที่เป็นคนไปยกตามมา

     

     

    "เฮ้ออออ เหนื่อยจังเลย"

     

    พี่มาร์คลากกระเป๋าตามมาในห้อง เเล้วฉีกยิ้มกว้างๆส่งให้ผม เขาลากกระเป๋าเเล้วจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ให้เรียบร้อย เเล้วเข้าห้องน้ำอาบน้ำเลย ส่วนผมก็เกลือกกลิ้งบนเตียงเเสนรักของตัวเอง เเล้วคุยกับยูคยอมเเละยองเเจในไลน์กลุ่ม พวกผมมีไลน์กลุ้มกันด้วยนะคร้าบบ ไม่อยากจะโม้

     

    ถึงไทยเเล้วนะ

    BM Bambam

     

    ถึงฮ่องกงนานเเล้วเหมือนกัน

    Jae JJ

     

    อยู่เชจู ขี้เกียจเดินทาง

    Yu_yoem

     

    "จ๊ะ พ่อคุณ พ่อขี้เกียจเดินทาง"

    สองสามวันมันก็บินไปไหนต่อไหนต่อเเล้วหล่ะครับ อย่างยูคยอมมีหรือจะอยู่เเค่โคเรีย

     

     

    อยากมาหา

    Jae JJ 

     

    บินตามมาสิ

    BM Bambam

     

    ไปด้วยคน

    Yu_yeom

     

    ก็มาสิครับ คุณเพื่อนทั้งสอง

    BM Bambam

     

    พูดจริงนะ ไปบอกพี่เเจ็คสันก่อน

    Jae JJ

     

    ไปด้วยย เดี๋ยวจัดกระเป๋าก่อน

    Yu_yeom

     

    รีบจริงๆเลยครับ เเต่ละคนเนี่ย เเต่ก็น่าสนุกนะ ถ้าทั้งหมดมาถล่มบ้านผมคงฮาน่าดู ว่าเเต่พี่ชายผมสองคนไปไหนกันน้าา เเต่เหมือนพี่จินยองอยากไปญี่ปุ่นนะ หลังจากกลับจากปูซาน สองคนนั้นอาจจะไปญี่ปุ่นก็ได้มั้ง

     

    ตืดดดด ตืดดดดด

    JB & Jr.

     

    "คร้าบบบ ว่าไง"

    (อยู่ไทยเเล้วอ่ะดิ่)

    "ครับ เเล้วพี่อ่ะ"

    (ดูนี่สิ)

    "สุวรรณภูมิ"

    (^_____^)

    "ห้ะ!!! สุวรรณภูมิ เมืองไทย พี่อยู่ไทยหรอ"

    "ตกใจไรเเบม"

    "พี่มาร์คดูนี่ดิ่"

    (หวัดดีมาร์ค)

    "หวัดดีจินยอง นายอยู่เมืองไทยหรอ"

    (อืมม กะมาเซอร์ไพร์นะ เเต่ดันเซอร์ไพร์เอง พวกเราลืมเอาที่อยู่บ้านเเบมเเบมจากเเม่เเจบอมมา ตอนนี้เลยอยู่สนามบิน)

    "อ่าา ผมจะทำไงดีเนี่ย ผมก็ไม่รู้ว่าจะบอกทางยังไง"

    "โทรหาพี่เเบมไง"

    "เออใช่"

     

    ผมจัดการโทรหาพี่ชายตัวเอง พี่เเบงค์เลยใจดีไปรับสองคนนั้นให้ ส่วนพี่เบียร์เลยต้องอยู่ช่วยเเม่เก็บร้าน ผมสองคนเลยต้องไปช่วยกันจัดห้องเตรียมเอาไว้

     

    "งื้ออออ เหนื่อยอ่ะพี่มาร์ค"

    "จะได้พักกันจริงๆมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆ"

    "เดี๋ยวเเจ ยูค เเล้วพี่เเจ็คก็จะมาอีก"

    "บ้านเเบมพังเเน่"

    "เเบมก็คิดงั้น"

    "หนุนตักพี่มั้ย"

    "ก็ดี"

     

    นานเเล้วเหมือนกันที่ไม่ได้นอนหนุนตักพี่มาร์คเเบบนี้ ผมมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาเงียบๆ ส่วนเขาก็ก้มหน้ามามองผมนิ่งๆ มือเขายังเขี่ยปอยผมเล่นเหมือนทุกครั้งที่ผมนอนหนุนตักเขา

     

    "เหนื่อยมากมั้ยวันนี้"

    "ก็นิดนึง"

    "วันนี้เเทบจะไม่ได้คุยกับเราเลยนะ อยู่นู้นถึงไม่ได้เจอหน้า เเต่ยังคุยกันมากกว่านี้อีก ทำไมถึงขี้งอนจัง หืม???"

    "ก็ไม่ได้อยากงอนเท่าไหร่หรอก มันเป็นนิสัยไปเเล้วมั้ง"

     

    ผมตอบเสียงอู้อี้ก่อนจะเอาหน้าซุกที่ท้องของพี่เขา กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มกับกลิ่นสบู่ที่เขาใช้ มันหอมมากเลยนะ นานเเค่ไหนไม่รู้ที่ไม่ได้กลิ่นใกล้ๆเเบบนี้

     

     "คิดถึงจัง"

    "หืม??"

    "ไม่ได้อยู่ใกล้เเบบนี้กี่วันเเล้วนะ"

    "คิดถึงเหมือนกันเเหละ เมื่อไหร่จะสอบเข้ามหาลัยสักที จะได้มาอยู่ด้วยกัน"

    "ใกล้เเล้วเเหละ"

    "เฮ้อออ อยากไปเที่ยวด้วยกันเเค่สองคนจัง เเต่คงไม่ได้เเล้วสินะ คนมาเยอะขนาดนี้"

    "ใช่ ไล่กลับหมดเลยดีมั้ย"

    "ทำงั้นได้ไงเล่า"

     

    ผมเอื้อมมือดีดจมูกเขาเบาๆ เขาก็ได้เเต่ยิ้มเเล้วเอนหลังบนเตียงบ้าง ผมเลยขยับไปที่อกเเทน

     

    "พรุ่งนี้หนีไปเที่ยวกันมั้ย"

    "ไปไหนดี"

    "เเบมอยากไปไหนอ่ะ"

    "คิดไม่ออกอ่ะ เเล้วเเต่พี่มาร์ค"

    "งั้นนอนอยู่บ้าน"

     

    อั่ก!!

     

    "เจ็บนะ ตีลงมาทำไมเนี่ย"

    "กวนประสาท"

    "เเล้วเเบมอยากไปไหนหล่ะครับ มาร์คตามใจเเบม"

    "ไปดูหนัง กินข้าว เเบบคู่อื่นๆมั้ย เเบมว่าเราสองคนไม่ได้ทำอะไรเเบบนี้ด้วยกันมานานเเล้วนะ"

    "เเล้วจินยองกับเเจบอมอ่ะ"

    "เขามาเหนื่อยๆให้เขาพักอยู่บ้านเนี่ยเเหละ ฮ่าๆๆๆ"

    "งั้นก็นอนกันเถอะ มาร์คง่วงเเล้ว"

    "ฝันดีครับ พี่มาร์ค"

    "ฝันดีครับ เเบมเเบม"

    จุ๊บบ!!

     

     

    ก๊อกๆๆ

     

    คืนนี้คงไม่ต้องนอน ขอเวลาให้เเบมกับมาร์คอยู่ด้วยกันนานๆจะได้ม่ายยยยยย

    "คร้าบบบ"

    "โอ้ยย คิดถึงเเบมเเบม ดีใจมั้ยที่พี่มาหา"

    "ครับๆ ไม่ได้เจอกันเเค่วันเดียวเองมั้งครับ"

    "ง่ะ เสียใจ น้องไม่รัก"

    "มาเหนื่อยๆไปพักเถอะครับ ผมกับพี่มาร์คช่วยกันจัดห้องไว้ให้เเล้ว"

    "เเบมเเบม ลูก ไปช่วยพี่เบียร์ยกของฝากเข้ามาหน่อย"

    "ครับ เเม่"

    "มีอะไรหรอเเบม"

    "พี่มาร์คลงไปช่วยพี่เบียร์ พี่เเบงค์ขนของหน่อยสิครับ น่าจะเป็นของฝากที่เเม่พี่เเจบอมฝากมา"

    "ได้ๆ เดี๋ยวพี่ลงไปให้ เราคุยกับจินยองไปก่อน"

     

    พี่มาร์คลูบผมสองสามที เเล้วเดินลงไปข้างล่าง ผมเลยต้องจูงมือพี่จินยองไปที่ห้องพักที่ผมจัด ดีที่บ้านผมมีห้องเยอะ เเต่ก็ไม่ได้เยอะขนาดอยู่ได้หลายคนหรอกน่า สงสัยต้องให้อีกสามคนที่ตามมา จองโรงเเรมซะเเล้ว

     

    "เเม่คร้าบบบ เพื่อนเเบมจะมาอีกสามคนนะ"

    "เเล้วจะให้เพื่อนนอนที่ไหนล่ะเนี่ย"

    "คงให้จองโรงเเรมเเหละครับ"

    "งั้นเอางี้มั้ย เราไปเที่ยวกัน จริงๆครอบครัวเราไม่ได้ไปไหนด้วยกันนานเเล้วนะ รอเพื่อนเเบมมา เราก็ไปกันเถอะ"

    "เเล้วเเต่เเม่เลยครับ ผมไปช่วยพี่ๆก่อนนะ"

     

     

    "ขนไรมาเยอะเเยะเนี่ย ไหนบอกไปปูซาน"

    "ถ้าบอกมาไทยจะเซอร์ไพร์หรอไอ้หนู ส่วนพวกนี้ก็ของฝากจากคุณนายอิม ให้เเม่นายทั้งนั้นเเหละ"

    "เยอะจัง"

    "เเน่นอน เเม่ฉันซื้อไว้เยอะเเละหลายอย่างมาก คงกลัวไม่ถูกใจเพื่อนสนิทมั้ง"

    "เเม่พี่นี่ใจดีจริงๆ"

    "ใจดีกับทุกคนเเหละ ยกเว้นลูกชายตัวเอง"

    "ขี้น้อยใจตลอด"

    "ก็งี้เเหละเเม่ไม่รัก"

    "สองพี่น้องคุยไรกัน เข้ามาข้างในเร็ว เเม่เเบมทำกับข้าวให้กินนะ"

    "ครับนยอง"

    "นี่พี่เเจบอม เเบมทำหน่อยดิ่ ทำไงถึงจะกลัวพี่จินยองหล่ะ"

    "ทำไม อยากให้ไอ้มาร์คมันกลัวตัวเองบ้างรึไง ไอ้น้องชาย"

    "ก็นิดหน่อย"

    "จริงๆมันขึ้นอยู่กับเเต่ละคู่นะ อย่างของฉัน ไม่ใช่ว่ากลัวนยองนะ เเค่ฟังเขาส่วนใหญ่ เพราะบางทีจินยองก็มีเหตุผลกว่าฉันอ่ะนะ เเต่ถ้าเรื่องไหนจินยองเริ่มไม่มีเหตุผล ฉันก็ต้องพูด ต้องอธิบาย อย่างคู่นาย ไอ้มาร์คดูจะเป็นผู้นำใช่มั้ย เเต่จริงๆมันยอมนายเยอะเหมือนกันนะ เเค่บางเรื่องที่นายดูจะงี่เง่าเกินไป ไอ้มาร์คมันก็มีขัดใจบ้างนะเเหละ"

     

    ผมพยักหน้าหงึกหงักตามคำที่พี่เเจบอมพูด ก็คงจะจริงของพี่เขานะ ที่ว่าพี่มาร์คตามใจผมเเต่มันก็ไม่ใช่ทุกอย่างหรอก บางอย่างผมก็ต้องยอมๆเขาอ่ะเเหละ

     

    "ออกซะนานเลย"

     

    มือหนาของคุณเเฟนลูบหัวผมเบาๆ ตอนนี้เราอยู่ที่โต๊ะอาหารโดยมีเเค่พวกผมเเค่สี่คนเท่านั้น พี่ชายผมกับเเม่คงขึ้นไปอาบน้ำนอนกันหมด

     

    "เเม่นายใจดีมากเลยนะเเบมเเบม"

    "ครับ ผมเคยเล่าเรื่องพี่ให้เเม่ฟังด้วย"

    "ไม่หน่าหล่ะ เเซวเรื่องพี่กับเเจบอมใหญ่เลย"

     

    ผมเเค่ยิ้มให้พี่จินยองบางๆ เพราะตอนนี้ร่างกายผมไม่อยากจะรับรู้อะไรเเล้ว ตาก็หนักเสียเหลือเกิน ส่วนหัวผมก็เอนไปซบไหล่พี่มาร์คเรียบร้อย คือก็ไม่ได้อยากจะโชว์หวานนะ เเต่มันง่วงจริงๆ

     

    "ไปนอนมั้ยครับ"

    "งืม รอพี่จินยองกับเเจบอมทานข้าวเสร็จก่อนก็ได้"

    "ขึ้นไปนอนเลยก็ได้เเบม เดี๋ยวพี่จัดการเอง"

    "ไม่เป็นไรครับผมรอได้"

     

    วืดดดด

     

    "ดื้อ จริงๆ ไปนอนเถอะ เห็นเเล้วสงสาร"

    "ไม่เอาอ่ะมาร์ค เเบมจะรอ"

    "ไปนอนได้เเล้ว"

    "ไม่อาววววว"

    "งอเเงอีกเเล้วนะ"

     

    ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงให้มากความหรอกครับ พี่มาร์คเขาจะทำไร ใครจะไปเถียงได้หล่ะ ยิ่งตอนนี้ง่วงสุดขีดเเบบนี้ คงต้องปล่อยเลยตามเลย

     

    "ฝันดีนะ เเบมเเบมของมาร์ค"

     

     

     

     

     

     

    เเละเเล้วก็ถึงวันที่เพื่อนซี้เเบมเเบมบินมาเมืองไทยครบทุกคน เเล้วเราเดินทางมาต่างจังหวัดเเบบไม่ต้องให้อีกสามคนได้พัก อาจจะเป็นโชคดีของผม ที่เเม่ได้บัตรบ้านพักริมทะเลฟรีมาจากลูกค้า เราเลยได้มาพักฟรี 1 หลัง เเต่ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 1 หลัง เพราะคนเราเยอะจริงๆ บ้านนึงมีเพียงเเค่สามห้องนอน เเต่อย่างน้อยก็ยังถือว่าดีเเหละ ลดค่าใช้จ่ายไปเยอะ เเละทริปนี้ คุณเเม่เเบมเเบมจ่ายตลอดทริป เย้!!!

     

    "ร่างกายฉันต้องการทะเล"

    "หนวกหูอ่ะพี่เเจ็คสัน ยองเเจจะนอน ตะโกนทำไม"

    ยองเเจยกหมวกสานที่ปิดหน้าออก เเล้วหันมาว่าคุณเเฟนตัวดี ที่พอรถตู้จอดปุ๊ป เจ้าตัวก็ตะโกนเสียงดังลั่นรถ ยูคยอมที่นั่งข้างผมก็ขยี้ตาเบาๆเเล้วก็หลับต่อ ผมเลยต้องเป็นคนปลุกมันให้ตื่นเเล้วลงไปยกกระเป๋า ส่วนกระเป๋าของพี่เเบมก็ไม่ต้องบอกว่าใครยก ถ้าไม่ใช่ หนุ่มสุดหล่อผมดำ ใส่เสื้อกล้ามสีเทา กางเกงยีนส์สีดำเเละเเวนส์คู่สวยของเจ้าตัวที่ซื้อมาคู่กับผม ของพี่มาร์คเป็นสีเเดง ส่วนผมเป็นสีดำ ก็เเค่อยากดูเเมนบ้างอะไรบ้าง ก็เลยซื้อสีนี้มา ซึ่งพี่มาร์คก็ไม่ได้ขัดอะไร ขอเเค่เหมือนกันก็พอ

     

    "ไปได้เเล้วไอ้ยูคคคคค ตื่นๆๆ"

     

    ดูมันสิ ขนาดเดินยังหลับตาเดิน อะไรมันจะง่วงขนาดนั้นครับ ยองเเจก็อีกคน ถ้าไม่มีพี่เเจ็คสันนะ ปานนี้คงนอนข้างถนนเเล้วเเหละ

     

    "อ่ะ กุญเเจ ของเพื่อนเเก อันนี้ของเเกกับมาร์ค"

    "เเทงกิ้ว พี่เบียร์"

     

    ผมรับกุญเเจห้องผมกับกุญเเจบ้านพี่เเจบอมมาถือ เเล้วเดินนำไป คือบ้านสองหลังมันก็ติดกันนะ เเค่ผมกับพี่มาร์คนอนบ้านที่ได้มาฟรี ส่วนคู่บี๋นยอง เเจ็คเเจ เเละยูคยอม นอนบ้านพักที่เสียเงิน เเต่เชื่อสิ บ้านนั้นไม่ได้นอนหรอก คงปาร์ตี้กันทั้งคืน กำหนดการของพวกเราก็คือสามวันสองคืนนั้นเเหละครับ เเต่ถ้าอยากอยู่ต่อ คุณนายของกันต์ภิมุกต์ก็ใจดี บอกให้ออกกันเอง ทุกคนเลยเกรงใจกันม๊ากมาก เลยตกลงกันว่า จะไม่อยู่ต่อ ฮ่าๆๆๆ

     

    "อันนี้กุญเเจบ้านพวกพี่นะ เเย่งห้องกันเอง เเบมไปเเล้ว ฝากยูคยอมด้วย ไอ้บ้านี่จะหลับกลางอากาศอีกนานมั้ยฮะ"

    "เออๆ ไปเถอะ ไอ้มาร์คมันนอนรอในห้องเเล้วมั้ง"

    "ไปเเหละ อยากล้อ อยากเเซวไรก็เเซวเถอะ เพราะมันคือเรื่องจริง คิคิ"

     

    ผมวิ่งกลับบ้านตัวเองอย่างร่าเริง เเล้วก็พบกับหนุ่มสุดหล่อที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้องพัก เราก็ลืมว่ากุญเเจอยู่ที่เรา ดีนะที่รีบมา ไม่งั้นคงมีคนนอยด์เเน่ๆ

     

    "ไปส่งยูคมาเเล้วหรอ"

    "อืมๆ รอนานป่าว"

    "ไม่นานเลยครับ"

     

    พี่มันโถมตัวลงมากอดผมจากด้านหลัง ดีนะที่ตั้งตัวทัน ไม่งั้นล้มหน้ากระเเทกประตูเเหง สงสัยจะเพลียเเน่ๆ บนรถไม่เห็นพี่มาร์คจะได้นอนเลย เพราะผมยืมไหล่เขาพิงไง เจ้าตัวคงปวดไหลอ่ะเเหละ

     

    "เข้าห้องกัน ลากกระเป๋ามาด้วย"

    "ครับ คุณเเฟนนน"

     

    ผมปิดประตูห้อง เเล้วล็อกให้เรียบร้อย รับกระเป๋าต่อจากพี่มาร์คมาจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ ก็ไหนๆพี่มาร์คอุตส่าห์ใจดีให้ยืมไหล่ไง เราเลยมาทำหน้าที่ที่เขาเคยทำเเทน

     

    "จะนอนก่อนหรือจะไปอาบน้ำก่อนมั้ยครับ"

    "นอนก่อนดีกว่า ไม่ไหวเเล้วอ่ะ เพลีย"

     

    พูดปุ๊ปก็ถอดถุงเท้าเเล้วล้มตัวลงนอนเลยหล่ะครับ ผมจัดเสื้อผ้าที่เตรียมมานิดหน่อยเเล้วกระโดดขึ้นเตียง นอนทับพี่มาร์คซะเลย

     

    "ลุกขึ้นมาเเป๊ปนึงสิ"

    "หืม??"

    "ลุกขึ้น"

     

    ผมดึงเเขนพี่มาร์คให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง พี่มาร์คเลยนั่งขัดสมาธิเเล้วมองผมตาปรือเชียว ท่าจะง่วงจริงเเฮะ

     

    ผมอ้อมไปนั่งด้านหลังพี่มาร์คเเล้วลงมือบีบนวดที่ไหล่ให้เขา นี่ผมอุตส่าห์ไปร่ำเรียนมาจากพี่เเจ็คสันเลยนะ พี่เขานวดเก่งมากเลยเเหละ ผมเลยไปเรียนมานิดๆหน่อยๆพอเป็นพิธี

    "ทำไมวันนี้ใจดีกับมาร์คหล่ะ"

     

    พี่มาร์คก้มลงมาหอมมือผมบนไหล่เขาเเรงๆหนึ่งทีเเล้วกลับไปนั่งหน้าตรงเหมือนเดิม

     

    "ตอบเเทนที่มาร์คให้เเบมยืมไหล่ไง"

    "สงสัยต้องให้ยืมบ่อยๆเเล้วหล่ะ"

    "สบายมั้ย"

    "อืมม เหมือนมาฮันนีมูนเลยเนอะ มากันเป็นคู่ๆเลย"

    "ใครบอก เเม่กับพี่ชายเเบมก็มา ยูคยอมอีก"

    "หาเเฟนให้ยูคสักคนดีมั้ย จะได้ไม่โดดเดี่ยว"

    "เเบมเคยคิดจะหาให้เเล้ว เเต่มันบอกว่า ไม่เป็นไร มันรอเสียบ ถ้าพี่มาร์คเลิกกับเเบมเมื่อไหร่  มันพร้อมมาก มันฝากมาบอก"

    "งั้นคงรอเก้อเเล้วมั้ง เพราะมันคงไม่มีวันนั้นหรอกครับ"

    "ให้มันจริงเถอะครับ คุณมาร์ค จะจบเเล้วไม่ใช่หรอครับ ออกไปทำงานยังๆก็ต้องเจอคนที่ถูกใจ เชื่อเเบมมั้ยหล่ะ"

    "อืม ถึงจะถูกใจยังไง เพรียบพร้อมเเค่ไหน เเต่มาร์คมีเจ้าของหัวใจอยู่เเล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เเทนที่ไม่ได้หรอก ว่าเเต่พี่ เราก็เหมือนกันเเหละ เขามหาลัยเเล้วอย่าคิดนะ ว่าจะไม่มีคนมาจีบ ไม่ไปเรียนมั้ย อยู่บ้านเฉยๆเอาป่ะ เดี๋ยวมาร์คเลี้ยงเเบมเอง"

    "ตลกเถอะครับ ถ้าเกิดพี่มาร์คไม่เลี้ยงเเบมขึ้นมาเเบมก็อดตายพอดี บอกว่าจะเลี้ยงเเบมอ่ะ มีงานทำเเล้วรึไง เงินเดือนเท่าไหร่ครับ"

    "งานอ่ะมีเเล้ว เเต่เงินเท่าไหร่เนี่ยไม่รู้เเฮะ เพราะเเต่ละเดือนได้มาไม่เท่ากัน"

    "งานอะไรของพี่"

    "ผู้บริหารมั้งครับ เห็นป๊าพูดงั้น"

    "พูดเล่นพูดจริงเนี่ย"

    "พูดจริง"

     

    ถ้าพี่มาร์คเป็นผู้บริหารจริงๆ บริษัทที่ต้องทำมันก็มีเเค่ที่ไต้หวันกับเมกาเท่านั้น เเล้วอย่างงี้ เราสองคน....

     

     

    "เงียบไปนี่คืออะไรครับ คิดว่าพี่ต้องไปอยู่ที่อื่นรึไง โถ่ ใครจะทิ้งเเฟนเเบบเเบมลงหล่ะครับ บริษัทที่พี่ทำก็อยู่ที่เกาหลีอ่ะเเหละ เป็นบริษัทที่ป๊าพึ่งจะเทคโอเวอร์ เเล้วไม่ค่อยมีเวลามาดู จำสามเดือนที่เเล้วที่ป๊ามาได้มั้ย ป๊าเขาเข้ามาจัดการอะไรนิดหน่อยนะ ให้พร้อมกับที่พี่ไปบริหาร"

    "เเล้วอย่างงี้ พี่มาร์คจะไม่ทำงานหนักเเย่หรอครับ"

    "กลัวพี่ไม่มีเวลาให้รึไง หืม?? โถ่เด็กน้อย ช่วงเดือนสองเดือนเเรกอาจจะใช่อ่ะเเหละ เเต่ป๊าบอกจะส่งคนมาคอยสอนงานให้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง มาร์คสัญญาว่าจะเรียนรู้งานให้ไวที่สุดเลยครับ จะได้มีเวลามาอยู่กับเราไง อย่างอเเงไปเลยนะ"

    "เบื่อคนรู้ทันอ่ะ"

    "โอ๋ๆๆๆ คนดีของมาร์ค"

     

    กลายเป็นว่าจากที่ผมนวดอยู่ดีๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นมาอยู่ในอ้อมกอดของพี่มาร์คเเทน เขาโยกตัวผมเบาๆเเล้วล้มตัวลงนอนที่เตียง

     

    "ไม่คิดมากสิ เเค่ทำงานเองนะ"

    "เเล้วทำที่ไหน อยู่ตรงไหนของเกาหลี"

    "โซลครับ"

    "งั้นเเบมก็ต้องติดมหาลัยในโซลหรอ"

    "เเน่นอน"

    "โจทย์ยากไปมั้ย"

    "ไม่หรอก เเบมเเบมของมาร์คทำได้อยู่เเล้ว"

    "อยากจะงอเเง อยากจะร้องไห้"

    "ยังไม่เริ่มทำเลย คิดว่าทำไม่ได้เเล้วหรอ"

     

    อยากจะงอแงจัง แต่ก็รู้อ่ะ ว่าพี่มาร์คไม่อยากให้เราแยกกันอยู่ไกลๆอีก แล้วอีกอย่างถ้าติดมหาลัยที่นั้นมันก็ดีที่เราจะได้ดูแลกันและกันง่ายขึ้น ยิ่งพี่มาร์คทำงาน เวลาอยู่ด้วยกันมันก็ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ

    "ไม่ทำหน้าเศร้าสิ แบมแบมทำได้อยู่แล้ว ออกไปดูดาวข้างนอกมั้ย รับลมๆ จะได้อารมณ์ดีขึ้น"

    ผมยอมลุกขึ้นอย่างว่าง่าย แล้วเดินตามแรงดึงที่ข้อมือ พี่มาร์คส่งยิ้มให้ผมแล้วเราทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่ริมระเบียง

     

    ลมทะเลเย็นๆ เสียงคลื่นใกล้ๆบ้านพัก ความมืดที่ถูกปกคลุมและแสงดาวที่ส่องสว่างในค่ำคืนนี้ ถ้าเป็นคนโสดหรืออกหักมันก็คงเศร้าไม่น้อยเลยหล่ะ แต่ผม มีคนรักของผมอยู่แล้ว แล้วตอนนี้เขาก็ยืนข้างๆผมในบรรยากาศที่แสนจะเหงา

     

    "ทำหน้าแบบนั้นคืออะไรครับ"

    "บรรยากาสมันเหมือนคนอกหักมายืนอยู่ที่ระเบียงริมทะเลเลยอ่ะ"

    "คิดมากนะเราอ่ะ เราแกหักรึไง หืม"

    "ก็ป่าว"

    "อย่าเครียดมากสิครับ เรื่องที่เราพูดกันอยู่มันเป็นเรื่องในอนาคตนะ ถ้าแบมสอบไม่ติดก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมาร์คให้แบมจ้างแบมเอง จ้างตลอดชีวิตเลย จะได้ไม่ต้องเครียดเรื่องหางาน"

    "พูดง่ายเนอะ"

    "เครียดอีกแล้ว ไม่เครียดดิ่ มาทะเลทั้งที นานๆจะมาเที่ยวด้วยกัน ยิ้มสิ ยิ้ม"

    "ยิ้มแล้วได้อะ... อื้อออออ"

    "แบบนี้ไง"

    "ทะลึ่ง"

    "ยิ้มแล้วๆๆ ชอบอ่ะดิ่"

    "ชอบอะไรเล่า"

    "เขินรึไง"

    "แบมไม่ได้หน้าหนาขนาดนั้นนะ ไม่เขินได้ไงหล่ะ"

    "สงสัยจะไม่ได้ทำบ่อยมั้ง เลยเขิน คงต้องทำบ่อยๆแล้วมั้งเนี่ยจะได้เลิกเขินสักที"

    "ทำ...ทำไร >//<"

    "ทำแบบนี้ไง"

    ไม่ต้องทำก็ได้มั้ง แค่แกล่งโง่ไปงั้นแหละ >//<

    "ขอนะ"

    "ขออะไรพี่มาร์ค เฮ้ยยยยยยย ปล่อยนะ ปล่อยๆๆ"

    "สัญญา"

    "สัญญาอะไร ปล่อยลงไปเดี๋ยวนี้นะ"

    "สัญญาว่าจะไม่รุนแรง"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    -----------จบ-------------

     

    TALK

    จบไปเเล้วเนอะ สเปเชี่ยลสั้นๆ(หร๊าาาาา) ใช้เวลาเเต่ง 50% ท้ายๆนานอยู่ เพราะกำลังจะเปิดเรื่องใหม่เเหละ คิคิ ถึงเเม้เรื่องเก่ายังไม่จบเเละลบออกไป 1 เรื่อง ฮาาาาาาาาา มีอารมณ์ว่าเเบบอยากเเต่งก็เลยเเต่ง เพราะตอนเเรกว่าจะเเต่งเรื่องเก่าต่อ เเต่มันตันจริงๆอ่ะ เลยตัดสินใจลบเรื่องนั้นไป เเต่คิดว่าเรื่องใหม่ที่จะเปิดคงให้อามรมณ์คล้ายกัน (หร๊าาาาาา) นั้นคือเรื่องของการดองฟิคนั้นเอง ฮ่าๆ เอาหล่ะ พูดมากไปเเล้ว จบเถอะเนอะ เเล้วพบกันใหม่นะจ๊ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×