คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Code Love [16.10.2014]
เคยลงในหน้าฟิค Love is
OS ChanBaek
Code love : รหัสลับรหัสรัก
Auther : momyoda
16.10.14 Incheon Airport
รถตู้สีดำของสมาชิกวง EXO เดินทางมาจอดที่ฝั่งตรงข้ามของทางเข้าสนามบินอินชอนวันนี้หนุ่มๆมีตารางงานที่เซี่ยงไฮ้นั่นคือ คอนเสิร์ต SM TOWN ช่วงเวลาสายๆเวลาเดิมๆที่ไอดอลวงนี้มักจะเดินทางเป็นประจำ เท้าเล็กที่สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวลงจากรถเมื่อเมเนฯฮยองเปิดประตูรถออกให้
แบคฮยอนออกมาจากรถปุ๊บก็ยืนบิดขี้เกียจอยู่ตรงนั้นเลยซึ่งมันขวางทางสมาชิกที่กำลังจะลงรถต่อขากเขาอย่างมากและเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้ตัวเลยจนเมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้นนั่นแหล่ะ
“ฮยองลงแล้วก็หลบดิเกะกะนะเนี่ย” เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครนอกเสียจากมักเน่ของวง
“จิ๊!”
“มาจิ๊มาจ๊ะเดี๋ยวจับปล้ำ”
ผลั้วะ!
“เกะกะ” เสียงทุ้มของอีกคนดังแทรกขึ้นมาหลังจากพร้อมๆกับแรงผลักที่ศีรษะ
“ที่ตบผมนี่คือเพราะผมเกะกะหรือที่ผมบอกว่าจะจับแบคฮยอนฮยองปล้ำวะฮยอง” เซฮุนถามหน้ากวน รู้ทันอีกคนหรอกน่าว่าที่เมื่อกี๊เอามือสะกิดศีรษะเขาจนหน้าเกือบทิ่มนี่เพราะอะไรทำมาเป็นฟอร์ม โด่ววว ป๊อด! ชานยอลฮยองแม่งป๊อด!!!
ในระหว่างที่สองร่างสูงประจำวงกำลังทำสงครามประสาทกันคนที่เป็นต้นเรื่องก็ไม่ได้รับรู้อะไรเลยเพราะวันนี้แบคฮยอนมีของเล่นใหม่ที่เพิ่งได้รับมาจากบ้านไซน์ของตัวเอง สิ่งของที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้สำหรับคนที่รักเทคโนโลยี
Iphone 6+ !!!
“เลิกเล่นแป๊บนึงได้ไหม นายเล่นมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ” เสียงทุ้มกระซิบบอกในขณะที่เขาและเหล่าสมาชิกยืนรอเพื่อข้ามฝั่งเข้าไปในสนามบิน
“แป๊บนึงงง” บอกเสียงงุ้งงิ้งไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอ ชานยอลล่ะอยากจะกระชากเครื่องมือสื่อสารนั่นมาเก็บไว้กับตัวเองซะเหลือเกินแต่ไม่ดีกว่า ไม่อยากเสี่ยงให้อีกคนอารมณ์เสียเพราะถ้าแบคฮยอนโมโหขึ้นมาเมื่อไหร่คนที่เดือดร้อนก็ไม่ใช่ใช่ใครอื่นไกลหรอก ก็ปาร์คชานยอลคนนี้นี่แหล่ะ!
“แหม่ได้ของใหม่ไม่สนโลกเลยนะหมา” เพื่อนซี้อย่างจงแดเดินเข้ามากอดคอคนขี้เห่อแบคฮยอนหันไปยิ้มให้เล็กน้อยแล้ววินาทีนั้นก็คิดอะไรดีๆออก
ไอโฟนหกพลัสสีขาวถูกเจ้าของยกขึ้นแนบหูแล้วทำท่าคุยใบหน้าก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เท่านั้นแหล่ะคิมจงแดอดจะหมั่นไส้กับความเห่อความอยากอวดของมันไม่ได้จริงๆ
และการกระทำดังกล่าวก็ตกอยู่ในสายตาของร่างสูงที่เดินตามมาติดๆ เห็นแบบนั้นแล้วชานยอลก็ส่ายหัวและยิ้มออกมาน้อยๆ แบคฮยอนนี่มันเด็กจริงๆเลยให้ตายสิ
เหมือนจะรู้สึกตัวว่ามีใครกำลังมองอยู่ ดวงตาเรียวรีภายใต้กรอบแว่นกันแดดยี่ห้อดังหันไปมองก็พบสบเข้ากับอีกคนพอดี คิ้วสวยยักขึ้นลงเล็กน้อยแล้วอมยิ้มไม่พูดอะไรแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูอีกครั้ง ท่าทางอารมณ์ดีแบบนั้นชานยอลก็คร้านจะพูดอะไรต่อได้แต่เดินตามและมองดูอยู่ใกล้ๆ
เห็นแบคฮยอนยิ้มได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แค่นี้ชานยอลก็มีความสุขแล้ว
“ฮ้าววว นัดซ้อมกี่โมงอ่าชานยอล” ร่างบางเดินนวยนาดมาทิ้งตัวนอนแผ่ที่เตียงกว้างขนาดหกฟุตของโรงแรมที่พัก
คนถูกถามยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา
“หกโมงเย็น”
“งืมๆ”
“นอนมาตลอดทางยังง่วงอยู่อีกหรอ?” ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ แบคฮยอนนอนหลับตาทั้งๆที่เสื้อโค้ดตัวยาวก็ยังไม่ถอด แว่นตาก็ยังคาอยู่ที่กรอบหน้าสวยมือหนากลัวว่าอีกคนจะอึดอัดเลยถอดมันออกให้
เปลือกตาสีมุกเปิดขึ้นหลังจากที่อีกคนเอาแว่นออกไป รอยยิ้มหวานๆระบายออกมาให้คนที่จ้องตัวเองตาไม่กระพริบ หัวกลมๆเล็กๆย้ายจากพื้นที่นุ่มๆบนเตียงไปเป็นหน้าตักของคนที่นั่งอยู่
“ปวดไหล่อ่าชานยอล” บอกน้ำเสียงอ้อนๆ ไม่บ่อยนักที่เมนวอยซ์จอมโวยวายของวงจะอ้อนแบบนี้
“ไหนดู นวดให้” และก็ไม่บ่อยนักที่แฮปปี้ไวรัสของวงจะยอมให้อีกคนอ้อนและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มละมุนน่าฟัง
สิ่งที่ทั้งคู่ปฏิบัติต่อกันไม่เคยแสดงออกมาให้ใครได้เห็นเลยแม้แต่เมมเบอร์ด้วยกันเองเพราะบางที ชานแบคก็อยากสร้างโมเมนท์หวานๆให้กันและกันบ้าง >////<
หน้ากล้องหรือเมื่ออยู่ในสายตาของสาธารณะชนทั้งชานยอลและแบคฮยอนจะมีภาพลักษณ์ที่สดใส ร่าเริง ขี้เล่น เสียงดังและโวยวายตามประสาผู้ที่ได้รับหน้าที่ด้านวาไรตี้ของวง แต่เมื่อทั้งคู่อยู่ด้วยกันความหวานมันก็จะเกิดขึ้นมาเองโดยที่ไม่รู้ตัว
แบคฮยอนหลับไปแล้วทั้งที่ยังนอนซบอยู่ที่ตักของชานยอลแบบนั้น มือหนาสอดเข้าที่คอเล็กค่อยๆช้อนอย่างระมัดระวังขยับให้อีกคนหนุนลงที่หมอนดีๆ ชานยอลค่อยๆถอดเสื้อโค้ดของอีกคนออกอย่างเบามือระวังมากที่สุดที่ไหล่ฝั่งขวาเพราะเห็นเจ้าตัวบ่นว่าปวดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เสื้อโค้ดตัวยาวถูกนำไปแขวนเก็บเข้าตู้อย่างดีผ้าห่มผืนหนาลากคลุมขึ้นมาถึงหน้าอกบางป้องกันความเย็นจากเครื่องปรับอากาศของห้อง
แม้จะเหนื่อยหรือเพลียจากการเดินทางมาแค่ไหนแต่ชานยอลก็ไม่คิดจะนอนตามอีกคน เขาเลือกที่จะออกไปคุยกับเมมเบอร์ที่อยู่แต่ละห้องโดยปล่อยให้ร่างบางนอนพักไปก่อนถึงเวลาแล้วค่อยมาปลุกไปซ้อม
“แบคฮยอนล่ะ?” พอเปิดประตูเข้ามาในห้องของลีดเดอร์ที่ตอนนี้มีเลย์ฮยองอยู่ด้วย เจ้าของห้องก็เอ่ยถาม
“หลับ” เดินมานั่งข้างๆเลย์ที่กำลังเกากีตาร์โปร่งที่พกมาด้วย บนตักก็มีสมุดที่เจ้าตัวพกติดตัวประจำเพราะถ้าอารมณ์ดีเมื่อไหร่ก็จะได้หยิบมันขึ้นมาเขียนเนื้อเพลงลงได้
“มันก็นอนมาตลอดทางแล้วนี่หว่า” ซูโฮฮยองถามด้วยความแปลกใจ
“เห็นบ่นว่าปวดไหล่อ่ะ คงเพลียเครื่องไม่หายด้วยล่ะมั้ง” พี่ชายสองคนพยักหน้ารับรู้แล้วทั้งสามก็คุยกันเรื่อยเปื่อยตามประสาบ้างกสอดแทรกการซ้อมของวันนี้ไปด้วย ช่วงหลังก็ยังมีจงแดและเซฮุนที่เดินเข้ามาสมทบอีกที
17.20 น.
ร่างบางที่หลับไปก่อนหน้านี้ค่อยๆตื่นลืมตาขึ้นมาเมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อน เปลือกตากระพริบให้ชินกับแสงค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่งแต่คงลืมไปว่าตัวเองเจ็บช่วงไหล่ขวาอยู่เลยเผลอลงแรงค้ำเตียงไปซะแรงผลที่ได้ก็คือ
“โอ๊ยย”
“แบคฮยอน” ชานยอลเปิดประตูเข้ามาได้ยินเสียงร้องโอดโอยของอีกคนพอดีก็รีบเดินเข้ามาหา ใบหน้าเหยเกมือซ้ายกุมที่ไหล่ขวาไว้แสดงออกว่าเจ็บบริเวณไหน
“ทำไมมันเจ็บกว่าเดิมวะ” อดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ช่วงนี้ซ้อมหนักพราะใกล้คัมแบคเต็มทีแล้วร่างกายมันก็เลยเจ็บปวดไปแบบนี้
“ไปหาหมอก่อนไปซ้อมไหม เดี๋ยวฉันไปบอกเมเนฯฮยองให้” เป็นห่วงอีกคนไม่น้อย
“ไม่เป็นไรอ่ะ เดี๋ยวสายไปกันเหอะ” แม้จะเจ็บป่วยมากแค่ไหนถ้ามันยังพอทนได้ก็ทนไปงานยังไงงานก็สำคัญที่สุดนะตอนนี้
พอเห็นอีกคนยืนยันแบบนั้นชานยอลก็ไม่เซ้าซี้ให้อีกคนรำคาญได้แต่มองและดูแลอยู่เงียบๆ เชื่อเถอะว่าหลังจากนี้เขาจะไม่ปล่อยให้แบคฮยอนคลาดสายตาเลย
สถานที่จัดคอนเสิร์ต
สมาชิก EXO เดินทางมาถึงที่ซ้อมได้ทันช่วงเวลาขึ้นซ้อมของวงพอดีผู้จัดการเวทีและเมเนฯเจอร์รวมไปถึงสมาชิกแค่ละคนคุยกันเรื่องบล็อคกิ้งและคิวเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก็ถึงเวลาซ้อมจริงๆเสียที
ซ้อมไปได้หนึ่งรอบก็ได้หยุดพักระหว่างนั้นชานยอลก็เดินไปหาทีมงานเพื่อขอผ้าเย็นและผ้าประคบน้ำแข็งมาให้แบคฮยอนที่ยืนให้จงแดนวดไหล่ทั้งสองข้างให้อยู่
“เอานี่ประคบไปก่อนเผื่อจะดีขึ้น” ส่งผ้าขนหนูที่ห่อน้ำแข็งให้จงแดแล้วเอาผ้าเย็นซับไปที่หน้าของร่างบางที่หลับตาให้อีกคนเช็ดโดยไม่ขัดขืน
“ชานยอลฮยอง!” ระหว่างที่ยืนอยู่นั้นก็มีเสียงเรียกจากน้องชายผิวเข้มที่ยืนอยู่อีกฝั่งของเวทีข้างกันมีเซฮุนและเลย์อยู่ด้วย
“ไปเหอะ คงคุยเรื่องบล็อคกิ้งอ่ะ” แบคฮยอนลืมตาขึ้นบอก เพราะตอนที่ชานยอลหายเข้าไปที่หลังเวทีไคก็เดินตามหาชานยอลอยู่พอดี
“มันดีขึ้นไหมเนี่ย” ดีโอเดินเข้ามาหาแล้วถาม ตอนนี้เมมเบอร์ทุกคนรู้แล้วว่าแบคฮยอนมีอาการเจ็บที่ไหล่และช่วงเอวซีกขวา
“ก็ดีอ่ะ แต่ถ้าขยับมากๆแม่งก็ปวดอีก”
“เมื่อเช้าก่อนขึ้นเครื่องก็ยังปกติเลยนี่หว่าไม่เห็นแสดงออกว่าเจ็บอะไร” จงแดพูด จำได้ว่าก็ยังเล่นยังคุยขยับตัวอะไรได้ปกติแล้วตอนนี้ทำไมมาเป็น
“จริงๆมันเจ็บมาตั้งแต่เมื่อวานละ แต่ไม่มากเท่าวันนี้ว่ะและมันก็มาหนักขึ้นตอนที่ลงจากเครื่อง” นึกโมโหร่างกายตัวเองไม่น้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมมันต้องมาเจ็บอีตอนที่ต้องทำงานด้วย
ระหว่างนั้นชานยอลก็เดินหน้าเครียดเข้ามาพอดี ทั้งสามก็อดสงสัยไมได้ว่าคนตัวสูงเป็นอะไร
“มีอะไรหรือเปล่าหน้าเครียดมาเชียว” เป็นดีโอที่เอ่ยทัก
“พวกนั้นจะให้นายเต้นแทนตำแหน่งที่หายไป” ปากตอบดีโอนะแต่สายตามองที่แบคฮยอน เป็นอันรู้กันว่า ‘นาย’ ที่ชานยอลเอ่ยถึงคือใคร
“อ่าว นายไม่ได้บอกพวกนั้นหรอว่าแบคฮยอนมันเจ็บอ่ะ”
“ไม่บอกมันก็รู้ ทุกคนก็รู้” จงแดว่า
“รู้แล้วยังให้เต้น พวกเรามีกันตั้งหลายคน”
“ช่างเหอะ ฉันเต้นก็ไม่เห็นเป็นไรนี่” เจ้าตัวเขาว่าแบบนั้น ไม่เคยคิดจะเกี่ยงอยู่แล้วก็มันเป็นงาน
“เพลงไรเนี่ย?”
“อือรือรอง”
“เฮ้ยฉันเต้นก็ได้นะเว้ย” จงแดบอกออกมา ตอนนี้สมาชิกทั้งสิบคนก็เดินมารวมกันทั้งหมดแล้ว
“ไม่เป็นไร ฉันเต้นไหวน่าไม่ต้องห่วง” ยิ้มออกมาเพื่อให้ทุกคนสบายใจและไม่ต้องห่วงตัวเองนัก
“แล้วแต่ฮยองนะ ผมไม่บังคับเพราะพวกเราก็เต้นกันได้ทุกคน” มาถึงจุดนี้ก็ไม่มีใครมาคิดหรอกว่าใครเต้นเก่งไม่เก่ง พออยู่บนเวทีพวกเราก็มีความสามารถและสปิริทเท่าๆกัน
“เฮ้ยได้ ได้เว้ยฉันเจ็บก็จริงแต่ไหวไม่ต้องห่วง” แบคฮยอนยังยืนยันว่าจะทำหน้าที่แทนตำแหน่งที่ขาดไป
พอตกลงกันได้ก็ถึงเวลาซ้อมครั้งสุดท้ายเสียทีหลังจากนี้ก็จะได้กลับโรงแรมไปพักผ่อนเอาแรงขึ้นแสดงในวันพรุ่งนี้
“ไหวแน่นะ” แบคฮยอนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้นเพราะมัวแต่ยืนเหม่อ
“อื้อ ไม่ต้องห่วง” ตบแขนอีกคนเบาๆ ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ชานยอลก็ยังห่วงอยู่ดี
ระหว่างทางกลับโรงแรมด้านหลังสุดของรถตู้ที่สมาชิกนั่งกันอยู่แบคฮยอนเอียงหัวซบกับไหล่หนาของคนที่อยู่ข้างๆ พอรับรู้น้ำหนักที่ส่งมาชานยอลก็ละสายตาจากมือถือก้มลงมองอีกคน
“เป็นไง”
“เพลียว่ะ”
“ปวดมากไหม” แรงขยับขึ้นลงสองสามทีของศีรษะคือคำตอบ
“กลับไปถึงแล้วอาบน้ำเลยนะ เดี๋ยวฉันไปขอยาจากนูน่ามานวดให้”
“อื้อ”
กลับถึงห้องปุ๊บแบคฮยอนก็คว้าผ้าเช็ดตัวและชุดนอนเดินเข้าห้องน้ำปั๊บตามที่อีกคนบอกก่อนหน้านี้ทันทีไม่ใช่ว่าเชื่อฟังอีกคนหรอกแต่เป็นเพราะเขาอยากจะนอนเต็มแก่แล้วตัวก็รุมๆเหมือนจะมีไข้ด้วย
“เดี๋ยวฉันมาไปเอายาก่อน” ชานยอลเดินมาเคาะประตูห้องน้ำบอก ร่างบางตะโกนรับว่าเป็นอันรับรู้ออกมาจากห้องน้ำ ขายาวจึงก้าวออกจากห้องของตัวเองไปตรงไปที่ห้องพักของทีมงานเพื่อขอยาคลายความเนื้อและยาแก้ปวดมาระหว่างทางกลับก็แวะห้องน้องชายสุดซี๊อย่างเซฮุนและจื่อเทาซักหน่อย
“ฮยองเอามือถือมาป่าว”
“เออ ทำไม?”
“อัพไอจีหน่อยดิ มานั่งนี่” ตบเตียงปุปุบอกพี่ชาย
“ก็นายก็มี หกพลัสเลยนิทำไมไม่เอาของตัวเองวะ” ปากว่าแบบนั้นแต่ก้นนี่ถึงเตียงแล้วเรียบร้อย มือก็สไลด์เข้าฟังก์ชั่นกล้องเปลี่ยนโหมดเป็นถ่ายวิดีโอ
“ฮ่าๆๆ นี่เราทำบ้าอะไรวะฮยอง” พอดูคลิปที่ถ่ายเมื่อครู่จบ มักเน่ก็หัวเราะออกมาอย่างถูกใจกับความบ้าขอของตัวเองและพี่ชาย
“ไปละเดี๋ยวแบคฮยอนรอนาน”
“เออฮยองเขาเป็นไงบ้างอ่ะ” เทาเงยหน้าจอมือถือขึ้นมาถาม ตอนที่อยู่ในลิฟต์ระหว่างขึ้นมาก็ถามไปแล้วรอบนึงแบคฮยอนก็บอกว่ายังปวดๆอยู่
“ก็ปวดอยู่นะแล้วก็เหมือนจะมีไข้หว่ะ”
“อ้าวตายล่ะ ถ้าป่วยไปนี่กร่อยเลยนะฮะ ไปเลยฮยองรีบไปดูแลด่วนๆ” เซฮุนดันหลังพี่ชายออกจากห้องพักของตัวเองแล้วบอกให้ไปดูแลคนสวยประจำวงให้ดีๆ
“มาแล้ว”
“ช้าหว่ะ จะหลับละเนี่ย” บ่นให้ซะเลย แค่ไปเอายาไปเป็นชาติ =_=
“อ่ะกินนี่แล้วเดี๋ยวนอน” ส่งยาแก้ปวดให้สองเม็ด
“แหม่ให้นอน แหกตาดูด้วยว่าผมยังไม่แห้ง” เจ็บไหล่นี่เนอะไม่ได้เจ็บปาก แล้วเมื่อบ่ายนี่ใครอ้อนเขาวะ? ใช่คนเดียวกันป่ะทำไมปากคอเราะร้ายเพียงแค่เวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง
ตาคู่กลมของคนที่เอาผ้าขนหนูพาดไหล่เพื่อเตรียมตัวจะอาบน้ำมองไปเห็นความยากลำบากในการใช้ผ้าผืนเล็กซับผมของตัวเองของแบคฮยอนแล้วก็อดสงสารไม่ได้จัดการวางผ้าขนหนูไว้ที่เดิมแล้วเดินเข้ามาหาแย่งผ้าผืนเล็กไปถือไว้เอง
แบคฮยอนตวัดสายตามอง
“นั่งนิ่งๆไปเดี๋ยวเช็ดให้” แรงซับผมที่นุ่มนวลและแผ่วเบาทำเอาคนนั่งเคลิ้มเสียอย่างนั้นแต่ในความรู้สึกนั้นมันก็มีความรำคาญปนอยู่ด้วยเพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ผมจะแห้งหรือเปล่าถ้าชานยอลยังเบามือและชักช้าอยู่แบบนี้
“ชานยอลลล ง่วงแล้วเช็ดเร็วๆดิ” บอกน้ำเสียงติดจะงอแง ร่างสูงก็เริ่มหมั่นเขี้ยวขึ้นมาแล้วนะตามอารมณ์ไม่ทันด้วยคิดได้ดังนั้นก็พลิกตัวร่างบางให้หันหน้ามาแล้วดันไหล่ลงที่เตียงอย่างรวดเร็วแล้วขึ้นคร่อมจนแบคฮยอนตั้งตัวไม่ทัน
“เฮ้ยนี่!”
“โวยวายจริง จับจูบเลยดีไหมหืม?” ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆจนลมหายใจอุ่นๆปะทะแก้มใส
“อื้อออ ง่วงงง” ดันไหล่หนาให้ลุกออกไปจากตัวเองเสียที ตาจะปิดแล้วอีกคนก็แกล้งอยู่นั่นแหล่ะ!
“ง่วง? นี่เพิ่งสี่ทุ่ม”
“ก็เห็นนี่ว่าวันนี้เหนื่อยแค่ไหนอ่า ลุกออกไปนะ” หมอนี่มันจะตัวใหญ่ไปไหนดันเท่าไหร่ก็ไม่ขยับเลยโว๊ะ!!!
“ไม่ลุกจะทำไม” ยักคิ้วกวนประสาทใส่อีกคน แบคฮยอนกัดปากฉับเมื่อเห็นแบบนั้นในหัวก็คิดหาวิธีที่จะทำให้อีกคนเลิกแกล้ง
“ชานยอล~”
O_O!
“ชานยอล…ลุกเถอะน๊า…แบคง่วงแล้วอ่า” สายตาหวานเยิ้มบอกกับน้ำเสียงออดอ้อนของอีกคนทำเอาแร๊ปเปอร์หนุ่มลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่แต่แล้วหลังจากนั้นรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ก็ผุดออกมาจนแบคฮยอนหรี่ตามองด้วยความไม่ไว้ใจ
ใบหน้าหล่อโน้มลงใกล้เรื่อยๆแบคฮยอนก็ย่นคอหนีเมื่อแก้มของทั้งสองแตะผ่านกันเบาๆ
“คิดว่าอ้อนเสียงหวานแล้วจะยอมปล่อยให้นอนหรอ หืม” เสียงทุ้มเปลี่ยนเป็นเสียงพร่ากระซิบบอกที่หูเล็กแถมด้วยการขมเม้มเบาๆที่ติ่งหูจนแบคฮยอนขนลุกซู่
“ยะ…อย่า!” ร้องห้ามเมื่อจมูกโด่งฝังลงที่ซอกคอหอมกรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำยิ่งไปกว่านั้นมันคือกลิ่นประจำกายของแบคฮยอนที่ไม่ว่าครั้งใดที่ชานยอลได้สูดดมเข้าไปก็เป็นอันหลงจนโงหัวไม่ขึ้นและยากที่จะหยุด
“ขอได้ไหม” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงอันมีเสน่ห์ร้องขอออกมาตรงๆ ริ้วสีแดงแต้มข้างแก้มมือบางกำเสื้อกล้ามสีดำแน่นด้วยความประหม่า
“แบค~”
“พะ…พรุ่งนี้มีคอน…นะ” ตอบได้ไม่เต็มเสียงนักเพราะชานยอลยังไม่ละใบหน้าออกไปจากซอกคอเลย เจ้าตัวก็ปัดป้องได้ไม่มากนักนอกจากเอียงคอหนี
“จะทำเบาๆ……..”
“แต่….”
“…….นะครับ”
“อื้ออ!”
---ฉากไม่เหมาะสม---
On bio twitter @momyoda
Click SF Chanbaek ---> (Code love : รหัสลับรหัสรัก)
เพี๊ยะ!
“เอ้า! ตีทำไม?” เลิกคิ้วถามเมื่อถูกฟาดอย่างแรงที่ต้นแขนซ้าย ดวงตาสวยค้อนขวับเข้าให้
“ถ้าจะปล่อยใน จะหยิบถุงยางมาใส่ทำไมไม่ทราบ!!!” แว้ดใส่อีกคน ทั้งที่ชานยอลยังไม่ถอดกายออกไป
“เออหว่ะ” ยิ้มแหยๆให้อีกฝ่าย แบคฮยอนกัดปากฉับ
“ลุก! จะไปอาบน้ำ” ดันไหล่อีกคนออกเพื่อให้ถอนกายออกไปซักที จะคาอยู่อีกนานไหมอยากรู้
ชานยอลไม่ขัดใจค่อยๆขยับกายออกช้าๆ แต่เหมือนมันจะช้าไปหน่อยมือบางเลยดันไลห่หนาออกแรงๆจนส่วนนั้นหลุดออกไป
“อ๊า!”
ยกมือปิดปากแทบไม่ทัน ริ้วสีแดงฉายชัดขึ้นอีกครั้งเพราะระหว่างที่ดันออกมาเสียวเสียจนกลั้นเสียงครางไว้ไม่อยู่
“ฮ่าๆๆ”
“ไอ้บ้า!” ดึงหมอนใบใหญ่มาปาใส่หน้าคนขี้แกล้งแรง รวมผ้าห่มผืนหนามาพันๆที่ช่วงตัวแล้วเดินดุ่มๆเข้าห้องน้ำไป
ทิ้งให้อีกคนนอนหัวเราะไปแบบนั้น เสียงประตูปิดซะดังจนชานยอลต้องมองตามแล้วยิ้มขำออกมา ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวของตัวเองก่อนหน้านี้มาพันกายไว้แล้วกลับมาจัดการเคลียที่นอนใหม่ ดีที่มันไม่เลอะมากยังพอนอนได้แค่ตบๆให้มันเรียบหน่อยก็นอนได้แล้ว
ผ่านไปห้านาทีแบคฮยอนก็ออกจากห้องน้ำมาพร้อมใบหน้าบูดบึ้งโมโหอีกคนเพราะดันปลดปล่อยด้านในมันลำบากในการทำความสะอาด
“นี่!” แว้ดใส่เมื่อโดนโฉบแก้มไปหนึ่งที ชานยอลเดินฮัมเพลงเข้าห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดีที่แกล้งอีกคนได้
ออกมาจากห้องน้ำก็เห็นคนที่แว้ดๆเมื่อครู่หลับไปแล้ว สงสัยจะเพลียมากทั้งเดินทางและซ้อมเต้นไหนจะมารองรับความแต่ใจของเขาอีก
ล้มตัวลงข้างๆกายดึงร่างเข้ามากอดไว้จูบที่หน้าผากเป็นการบอกฝันดีไปหนึ่งแล้วเพียงไม่นานชานยอลก็หลับตาแบคฮยอนไปติดๆ
-วันคอนเสิร์ต-
ท่าทางเหนื่อยล้าของอีกคนที่ชานยอลเห็นทำให้ความรู้สึกผิดพุ่งเข้ามาที่อกทันทีตั้งแต่ตื่นนอนมาแล้วที่แบคฮยอนแสดงออกให้เห็นเลยว่าเพลียมากแค่ไหน ดีที่ไม่ได้มีไข้อย่างที่คิดไว้แต่อาการเจ็บนี่ยังไม่หายไปแน่นอนสังเกตจากตอนนี้ที่แบคฮยอนนั่งให้บรรดานูนาทั้งหลังผลัดเปลี่ยนกันนวดให้อยู่
“ไหวแน่นะแบคฮยอน” ซูโฮถามน้องชาย อีกไม่กี่ชั่วโมงคอนเสิร์ตก็จะเริ่มแล้วพอเห็นอาการของแบคฮยอนก็อดจะถามไม่ได้
“ไหว ไม่ต้องห่วงน่าทุกคนนั่นแหล่ะผมไม่เป็นไร” เพราะสายตาของสมาชิกมองมาหลังจากคำถามของลีดเดอร์จบไป
พอเจ้าตัวยืนยันแบบนั้นก็ไม่มีใครถามอะไรต่อไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกับการเหวี่ยงวีนที่จะตามตาม การซ้อมครั้งสุดท้ายผ่านไปหลังจากนั้นเหล่าสมาชิกก็เดินเข้าหลังเวทีเพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวแต่งหน้าทำผม บนเวทีก็มีเหล่าศิลปินกำลังต่อคิวซ้อมกันอยู่
ระหว่างที่ทำผมแบคฮยอนก็หยิบไอโฟนเครื่องใหม่ออกมาเล่นเพื่อรอเวลา ร่างสูงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินมานั่งข้างๆพร้อมกับโคดี้นูนาอีกคน
“กินยาไปหรือยัง” เสียงทุ้มถาม แบคอยอนหันมามองแล้วสนใจไอโฟนต่อ
“ยังเลย”
“เฮ้ออ นูนาครับผมขอยาแก้ปวดหน่อยสิ” ชานยอลเงยหน้าบอกนูนาที่ยืนซ้อนด้านหลังตัวเองอยู่ หนึ่งนาทีผ่านไปยาแก้ปวดสองเม็ดพร้อมน้ำหนึ่งขวดก็ถูกส่งมาให้
“นี่จ้ะ ว่าแต่แบคฮยอนกินอะไรไปหรือยัง” ด้วยห่วงว่าไม่อยากให้กินยาตอนท้องว่างก็เลยถาม
“ผมกินขนมไปนิดหน่อยแล้วครับ”
“อ่ะยา” แบคฮยอนวางไอโฟนลงที่ตักแล้วรับยากับน้ำมากิน ส่งยิ้มขอบคุณไปให้แล้วเอาไอโฟนมาเล่นต่อ
ถึงเวลาที่ EXO ต้องขึ้นแสดงแล้วจบเพลงตามคิวที่รันไว้เหล่าสมาชิกก็มายืนเรียงกันตามตำแหน่งและในระหว่างที่แร็ปเปอร์ตัวสูงแนะนำตัวอยู่นั้น
“โยดาๆ ๆ ๆ” สายตาหันไปมองพร้อมกับอมยิ้ม ไม่แค่นั้นชานยอลยังเดินผ่านหน้าสมาชิกไปหาคนที่แซวฉายาของเขาอยู่ ไมค์ที่ถือในมือแตะเบาๆที่ไหล่ข้างที่เจ็บพร้อมส่งสายตาว่า ‘ระวังจะโดนไม่ใช่น้อย’ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของแฟนๆด้านล่าง
แบคฮยอนอมยิ้มส่งท้ายที่แกล้งอีกคนได้ แต่ก็ต้องหน้าเสียเมื่อความเจ็บที่ไหล่มันโถมเข้ามาอีกแล้วระหว่างที่เมมเบอร์พูดคุยทักทายแฟนๆมือบางก็ยกขึ้นนวดเบาๆที่ไหล่และเอวฝั่งขวาของตัวเอง
“เจ็บอีกแล้วหรอ” เพราะเทายืนอยู่ใกล้ๆถึงได้ถามพี่ชายออกไป คนถูกถามพยักหน้า
“นิดนึงอ่ะ”
หมดช่วงแรกไปบรรดาเมมเบอร์ก็ลงไปเปลี่ยนชุดเพื่อรอขึ้นในคิวถัดไป และระหว่างที่แบคฮยอนกำลังจะเดินเข้าห้องเปลี่ยนชุดก็มีใครอีกคนเดินแทรกเข้ามาด้วย
“อื้อออ” แรงกดจูบทำให้ร้องออกมา
“ชู่วว” เสียงทุ้มว่า ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากชานยอล
“ทำอะไรเนี่ย”
“เมื่อกี๊แซวอ่อ”
“แกล้งนิดหน่อยเอง ทำไม? ไม่ได้หรอ?” ยื่นหน้ายื่นตาทำหน้ากวนใส่ ว฿งมันทำให้ชานยอลหมั่นเขี้ยวอีกคนเป็นที่สุด
“เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยนะ”
“คิดว่ากลัว?” ท้าทายอีกคนยิ้มๆ
“ก็ละ…”
“เฮ้ยๆ ข้างในอ่ะเสร็จแล้วก็ออกมาคนรอใช้ห้องอยู่นะครับ” เป็นจงอินนั่นเองที่เดินผ่านมาพร้อมกับดีโอเพื่อจะมาเปลี่ยนชุดเหมือนกัน
ชานยอลจิ๊ปากขัดใจแล้วเปิดม่านออกมา
“ไปห้องอื่น แบคฮยอนยังเปลี่ยนไม่เสร็จ” ระหว่างนั้นคนด้านในก็เปลี่ยนไปโดยมีคนยืนเฝ้าหน้าห้องให้ พอแบคฮยอนออกมาชานยอลก็เข้าไปเปลี่ยนบาง
พอถึงคิวของ EXO ทั้งหมดก็ขึ้นไปร้อง เต้นและเล่นกับแฟนๆกันอีกครั้งระหว่างที่แสดงกันอยู่เป็นจังหวะที่ชานยอลและแบคฮยอนจะเดินผ่านกันพอดี เหมือนจะรู้กันมือขวาของทั้งคู่ยื่นออกไปข้างหน้าและ
เป่า ยิง ฉุบ!
มันเป็นการเล่นประจำที่ทั้งคู่ชอบเล่นกันระหว่างที่แสดงอยู่ไปแล้ว แต่ครั้งนี้การออกอาวุธมันต่างออกไปตรงที่ชานยอลดันเอานิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วก้อยขึ้นมา แบคฮยอนนิ่งไปมือบางแบออกเป็นอันว่าเขาออกกระดาษแก้มเนียนแดงระเรื่อแต่ด้วยความรวดเร็วมือเล็กก็จับเข้าที่ข้อมือโดยเอาแขนเล็กๆของตัวเองบังไว้ไม่ให้แฟนๆมือเร็วและตาดีเห็นสิ่งที่ชานยอลส่งมาให้
แต่มีหรอว่าสิ่งที่ชานยอลส่งไปให้แบคฮยอนน่ะจะไม่มีคนตาดีเห็น การกระทำดังกล่าวของทั้งคู่ถูกบันทึกไว้หมดแล้วทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
ช่วงท้ายของคอนเสิร์ตทั้งชานยอลและแบคฮยอนก็ยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆกันตลอดเพราะร่างสูงเป็นห่วงอาการเจ็บของอีกคน
เรียกได้ว่าเต็มอิ่มทั้งศิลปินและแฟนคลับชานแบคจริงๆ ภาพความใกล้ชิดและความห่วงใยที่แสดงออกมาทำเอาหลายๆคนหุบยิ้มไม่ได้แม้แต่เจ้าตัว
ตาคู่กลมมองหลังร่างบางที่ถูกน้องเล็กของวงจูงมือเดินไปรอบๆเวทีอยู่ เซฮุนเองก็เป็นห่วงพี่ชายไม่น้อยและมันก็อดแกล้งไอ้พี่หูกางไม่ได้เลยยึดแบคฮยอนมาไว้กับตัวเอง
แต่จนแล้วจนรอดคนที่มาอยู่ข้างกายในช่วงท้ายก็เป็นชานยอลอยู่ดี ทั้งคู่เดินออกมาไกลจากบรรดาศิลปินมาพอทุกคนจะโค้งลาแฟนๆชานยอลก็วิ่งนำออกไปก่อนแต่ก็ไม่ลืมหันมามองร่างบางที่วิ่งตามมาติดๆ พอถึงที่หมายชานยอลก็ยื่นแขนตัวเองไปให้อีกคนจับแล้วโค้งขอบคุณแฟนๆ
เสียงหอบของคนข้างๆทำให้เขาหันไปมองแบคฮยอนก็มองกลับมาเช่นๆกัน ร่างบางแสนขี้เล่นกำข้อมือขวาของอีกคนไว้แล้วส่งจุ้บให้พร้อมกับขยิบตา
ชานยอลได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเมื่ออีกคนทำแบบนั้น ได้แต่บอกใจว่า อดทนไว้นี่มันบนเวที ><
จากที่คิดว่าจะกลับมาชำระความคนขี้แกล้งและอารมณ์ดีผิดปกติก็เป็นอันต้องพับเก็บไป เพราะเมื่อถึงห้องปุ๊บแบคฮยอนก็ตรงเข้าอาบน้ำแล้วมาล้มตัวนอนที่เตียงแล้วหลับไปทันที
“เด็กจริงๆ” ขยี้ผมสีอ่อนของคนหลับ เจ้าของปัดป่ายอย่างนึกรำคาญแต่ก็ไม่ตื่นขึ้นมา
ชานยอลยิ้มอบอุ่นให้แม้อีกคนจะไม่เห็น ก้มลงหองแก้มเนียนหนึ่งทีพร้อมกระซิบถ้อยคำธรรมดาแต่เจือน้ำเสียงอบอุ่น
“ฝันดี…”
สุดท้ายแล้วระยะเวลาสามวันที่อยู่เซี่ยงไฮ้ชานยอลก็ยังคงอยู่ใกล้ๆแบคฮยอนไม่ห่างไปไหนตั้งแต่วันมาจนวันที่กลับ ที่สนามบินก็เหมือนกันแฟนๆก็ยังคงเห็นแร็ปเปอร์ตัวสูงเดินตาเมนโวคอลไม่ห่าง
แค่นี้มันก็ทำให้คนที่ได้เห็นยิ้มไปกับความสนิทสนมของทั้งคู่ได้มากแล้ว…
…END…
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ^^
ความคิดเห็น