ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิดา

    ลำดับตอนที่ #27 : 27

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      4
      30 เม.ย. 58

    วันนี้เป็นวันอาทิตย์ แต่นิดานุชไม่ได้นั่งทำการบ้านหรืออ่านหนังสืออย่างที่เคยทำ วันนี้เป็นวันแต่งงานของชลิตกับโฉมพิลัย เธอช่วยป้าบัวและเจ้าหน้าที่จากบริษัทรับจ้างจัดงานแต่งงานตั้งแต่เมื่อวันศุกร์
    โดยเมื่อวานเป็นพิธีหมั้น มีป้าบัวที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว และคุณเกษมกับคุณภิรมย์ฤดีเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว
    นิดานุชเตรียมของอยู่ในครัว เธอแต่งตัวเรียบร้อยๆแบบที่เธอแต่งอยู่ทุกวัน เพราะไม่มีชุดสวยๆใส่ และถึงเธอมีชุด เธอก็ไม่ใส่อยู่ดี เพราะชลิตไม่ได้บอกใครนอกจากวัฒนาว่าเธอเป็นน้องสาวของเขา เธอไม่จำเป็นที่จะต้องออกไปให้ใครเห็นหน้า เธอขอทำหน้าที่ที่เธอต้องทำอยู่ในครัว และอวยพรพี่ชายและพี่สะใภ้ของเธออยู่ในใจ
    งานแต่งงานของชลิตจัดขึ้นที่คฤหาสน์ของตระกูลวัชราธรณ์ สำหรับคนทั่วไป คงอยากจะมาอยู่ในบ้านหลังใหญ่โตหลังนี้ แต่สำหรับนิดานุช มันคือนรกบนดินดีๆนี่เอง
    โฉมพิลัยใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวราคาแพง สวยงามราวกับชุดเจ้าหญิงในเทพนิยาย ชายกระโปรงยาว เธอใส่มงกุฎดอกไม้สีขาว ถักเปียอย่างเรียบร้อย งานนี้เธอทุ่มเทมาก เธอหวังว่า งานนี้ เธอจะต้องสวยและสง่างามที่สุดในงานแต่งงาน
    ชลิตใส่ชุดทักซิโด้สีขาว ผูกหูกระต่ายสีชมพู ดูเป็นที่อ่อนโยน
    มีแขกมาร่วมงานมากมาย ส่วนใหญ่มากจะเป็นคนใหญ่คนโตที่มีตระกูลและยงยศฐาบรรดาศักดิ์อันสูงส่ง คนมีหน้ามีตาในงานสังคม แต่ละคนก็ใส่เครื่องเพชรราคาแพงๆมาอวดรัศมีกันใหญ่ มีเพื่อนๆร่วมรุ่นของชลิ
    ตและโฉมพิลัยตั้งแต่วัยเรียน บางคนก็มาจากต่างประเทศ พนักงานที่บริษัท แขกเหรื่อมากมายนับไม่ถ้วน
    อาหารก็จัดไว้รับรองแขกไม่ขาดทั้งของคาวและของหวาน เครื่องดื่มสารพัด
    ชลิตกับโฉมพิลัยทยอยเดินขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมเป็นสักขีพยานตามโต๊ะอาหารที่มีมากมายเรียงรายเป็นแถวๆ แต่ผู้จัดการของบริษัทจัดงานแต่งงานการเดินเข้ามาเขาทั้งสองคนซะก่อน
    "เอ่อ เรียนเชิญคุณโฉมพิลัยกับคุณชลิตด้านนี้หน่อยนะครับ"
    ''มีอะไรหรอครับคุณผู้จัดการ"
    "คือ นักดนตรี ที่ทางบริษัทของเราจัดไว้ให้เพือมาแสดงในงานนี้ ระหว่างการเดินทาง เกิดอุบัติเหตุ เข้าโรงพยาบาลกันทุกคนเลยครับ"
    "คุณว่าไงนะ บริษัทของคุณออกจะใหญ่โตมีชื่อเสียง มีนักดนตรีแค่ชุดเดียวรึไง ยังไงมันก็ต้องมีสำรองบ้างแหละ"
    "ทางเราต้องขอโทษจริงๆนะครับ วันนี้เป็นวันฤกษ์ดีมากๆ มีคนจัดงานแต่งงานกันเยอะจริงๆครับ นักดนตรีเราเลยไม่มีสำรองซักชุดเลย ถาจะมี ก็มีแต่วงกลองยาวน่ะครับ"
    "นี่คุณจะบ้ารึไง ฉันจัดงานอลังการขนาดนี้ มีแต่ผู้ดี จะให้มาโชว์กลองยาวเนี่ยนะ" โฉมพิลัยโวยวาย เพราะงานแต่งงานในฝันของเธอไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
    "โฉม คุณใจเย็นๆก่อนนะครับ"
    ''คุณผู้จัดการครับ คุณพอจะมีไวโอลินซักตัวมั้ยครับ"
    "มีสิครับ ทางบริษัทได้นำเครื่องดนตรีมาเตรียมไว้แล้ว ขาดแต่นักดนตรีเท่านั้นครับ"
    "ชลิต คุณคิดอะไรอยู่คะ"
    "ผมว่า ผมหานักดนตรีได้แล้วล่ะ"

    นิดานุชนั่งพักลงบนเก้าอี้ในห้องครัวอย่างเหน็ดเหนื่อย เธอยังไม่ได้พักดื่มน้ำซักแก้ว เธอใช้มือเล็กๆของเธอปาดเหงื่อบนใบหน้า แต่ชลิตก็มาดึงข้อมือของเธอออกไปจากครัวก่อน
    ชลิตจูงมือเธอเข้ามาในห้องนอนของเธอแล้วล็อกประตู นิดานุชตกใจมาก จนทำอะไรไม่ถูก
    "นิดา ฉันมีอะไรให้แกทำ" นิดานุชทำหน้าสงสัย ชลิตจึงยื่นกระเป๋าไวโอลินสีดำให้เธอ เพียงแค่เห็นกระเป๋า นิดานุชก็หน้าซีด
    "นักดนตรีของบริษัทมาเล่นดนตรีไม่ได้ แกต้องเล่นไวโอลินแทน"
    เพียงได้ยินแค่คำว่าไวโอลินนิดานุชก็ส่ายหน้า เธอคืนกระเป๋าไวโอลินให้ชลิตแล้ววิ่งหนี แต่ชลิตก็คว้าแขนเธอไวก่อน ชลิตวางกระเป๋าไวโอลินไว้ทพื้น ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างของเขาบีบข้อมือของนิดานุช 
    ''ไม่เอา หนูไม่เล่น" นิดานุชร้องไห้ เธอพยายามสะบัดมือออกจากชลิต แต่สะบัดยังไงก็ไม่หลุด เพราะแรงเธอน้อยเหลือเกิน เธอพนมมือขอร้องอ้อนวอนชลิต
    "พี่ชลิต หนูไม่อยากเล่นมันอีกแล้ว ไวโอลินของหนูมันพังไปแล้ว หนูไม่อยากกลับไปเล่นมันอีกแล้ว"
    "แกไม่มีสิทธิปฏิเสธ อย่าลืมสิว่าแกต้องทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง ถ้าแกไม่เล่น ฉันจะตีแกให้ตายเลยอีเด็กไม่รักดี"
    "ตีสิ พี่อยากทำอะไรหนูก็ทำเลย ยังไงหนก็สู้พี่ไม่ได้อยู่แล้ว"
    ชลิตโมโหมาก เขาไม่คิดว่านิดานุชจะพูดคำคำนี้กับเขา ชลิตจึงเอื้อมมือไปหยิบมีดคัตเตอร์บนโต๊ะญี่ปุ่นที่นิดานุชใช้ทำการบ้าน
    เขาใช้นิ้วดันใบมีดจนสุด นิดานุชกลัวมาก ชลิตเดินเข้ามาชิดตัวเธอมากข้นจนนิดานชเดินถอยหลังไปติดกำแพง 
    "แกจะเล่นไม่เล่น" ชลิตเลื่อนมีดคัตเตอร์ลงมาที่เอวของนิดานุช
    "ฉันถามว่าแกจะเล่นไม่เล่น" ชลิตตะคอกนิดานุชจนนิดานุชตัวสั่นไปหมด
    "หนูยอมแล้ว เล่น เล่นก็ได้ค่ะ" นิดานุชพูดด้วยความกลัวเหมือนคนไร้สติ ชลิตปล่อยเเขนเธอ แล้วเอาคัตเตอร์ไปเก็บ จนเธอล้มลงไปนั่งร้องไห้กับพื้นด้วยความกลัว
    "แล้วทำไมแกแต่งชุดนี้ งานแต่งนะไม่ใช่ไปตลาด เปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้เลย" 
    ชลิตเดินไปที่ราวแขวนเสื้อผ้าของนิดานุช เขาเจอแต่ชุดนักเรียนกับเสื้อผ้าเก่าๆ ไม่มีชุดเดรสสวยๆเหมือนที่เด็กผู้หญิงทั่วๆไปใส่กันแม้แต่น้อย
    "นี่แกบ้ารึเปล่า เสื้อผ้าแกนี่ ใสแบบนี้จะไปบวชชีเลยมั้ย"
    "ถ้าหนูใส่เสื้อผ้าสวยๆ เดี๋ยวพี่ก็ด่าว่าหนูแรดอีก แล้วจะให้หนูทำยังไงล่ะคะ" นิดานุชยังไม่หยุดร้องไห้ เธอตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
    "เดี๋ยวนี้แกกล้าเถียงฉันแล้วหรอ อยากโดนรึไง" ชลิตดึงแขนนิดานุชให้ลุกขึนมาเเล้วเงื้อมือจะตบไปที่ใบหน้าของเธอ
    "หนูขอโทษ พี่อย่าตีหนูเลยนะคะ"
    ชลิตดึงเเขนนิดานุชออกไป เธอเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าไวโอลินเเล้วเดินตามชลิตขึ้นไปบนห้องของโฉมพิลัย
    "เอาชุดโฉมไปใส่ก่อนก็แล้วกัน" ชลิตเลือกเสื้อผ้าในตู้ของโฉมแล้วหยิบชุดเดรสสีชมพูให้นิดานุช
    "ไม่เอาอ่ะ ชุดพี่โฉมมีแต่โป๊ๆทั้งนั้นเลย หนูไม่ใส่หรอกค่ะ"
    "อย่าเยอะ มีอะไรให้ใส่ก็ใส่ คนอย่างแกได้ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมมันก็ดีเท่าไหร่แล้ว ถ้าดื้อมาก ฉันจะเปลี่ยนให้ มานี่" ชลิตดึงตัวนิดานุชแล้วปลดกระดุมเสื้อของเธอ 
    "หนูเปลี่ยนเองกได้ค่ะ" ชลิตหยิบชุดเดรสสีชมพูให้เธอ 
    ''รีบเปลี่ยนชุดแล้วล้างหน้าล้างตาด้วย" นิดานุชยกมือไหว้ชลิตก่อนรับชุดเเล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป
    นิดานุชเข้าไปเปลี่ยนชุดไม่นน เธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอสวยมาก ผิวเธอขาวเหมือนสำลี ปกติเธอใส่กระโปรงยาวคลุมเข่า ใสเสื้อแขนยาวตลอด ไม่เคยใส่เสื้อผ้าโชว์เนื้อหนังมังสาให้ชลิตเห็นซักครั้ง
    "มานั่งนี่ เร็วๆ" ชลิตเรียกเธอให้ไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง 
    แล้วแกะผมของเธออกมาหวี ผมนิดานุชยาวจนถึงเอว เรือนผมของเธองามยิ่งนัก
    ชลิตถักเปียให้นิดานุชอย่างรวดเร็ว
    "นี่แกจะไว้ผมยาวไปถึงไหน หัดไปตัดออกบ้างนะ"
    นิดานุชไม่พดอะไรเพราะกลัวโดนดุ เธอจงหยิบไวโอลนออกมาตั้งสายคั่นเวลา
    "แล้วเล่นเพลงอะไรได้บ้าง"
    "หลายเพลงค่ะ"
    ''อย่ามากวนฉันนะ อยากผมแหว่งรึไง"
    "เล่นสองเพลงพอมั้ยคะ" นิดานุชถามด้วยความกลัว
    "เล่นเพลงที่มันเหมาะสมละกัน ถ้าแกสีธรณีกรรแสงออกมา ฉันฆ่าแกแน่ เสร็จแล้ว ลงไปได้แล้ว"
    นิดานุชเดินตามชลิตลงไปที่งาน ก่อนจะเจอโฉมพิลัยและผู้จัดการที่ยืนรออยู่ 
    "ได้นักดนตรีแล้วหรอครับคุณชลิต"
    "ครับ โฉม ผมใหนิดายืมชุดคุณใส่ก่อนนะครับ"
    "ขอบใจมากเลยนะน้องนิดาที่มาเล่นดนตรีให้พี่ ไม่งั้นพี่แย่เเน่เลย ชุดนี้พี่ยกให้เป็นรางวัลละกันนะจ๊ะ" โฉมพิลัยเล่นบทนางเอก 
    'อีใบ้นะอีใบ้ ชุดตัวโปรดฉันซะด้วย ใครเค้าจะกล้าเอามาใส่ต่อ ติดเสนียดเปล่าๆ'
    "ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านครับ เรามีโชว์สุดพิเศษ เป็นการโชว์ไวโอลินที่แสนจะไพเราะ เพื่อเป็นการขอบคุณทุกๆท่านที่มาร่วมงานมงคลสมรสของคุณชลิตและคุณโฉมพิลัย ขอเชิญรับชมและรับฟงได้เลยครับ"
    "นิดา ยิ้ม" ชลิตจ้องตานิดานุช นิดานุชกลัวจนยิ้มไม่ออก
    "ฉันบอกให้ยิ้มไง เวลานี้ทำเป็นยิ้มไม่ออก ทีเวลาอยู่กับไอกรนี่ยิมจนปากจะฉีก" นิดานุชจึงยิ้มให้ชลิตแลวเดินขึ้นเวทีไป
    เธอยกมือไหว้ผู้แขกผู้มีเกียรติ ก่อนที่จะยกไวโอลินขึ้นมาสีเพลงบุพเพสันนิวาสและเพลงพรหมลิขิต เพลงรักอมตะที่ใครๆก็ต่างรู้จัก
    เธอสีได้เพราะราวกับนักดนตรีมืออาชีพ แม้วาเธอจะไม่ได้เล่นมาเป็นเดือน
    สิ้นสุดการโชว์ นิดานุชเดินลงมาจากเวที เธอรีบคืนไวโอลินให้ชลิตเเลวรีบกลับไปที่ห้องนอนของเธอ
    เธอล้มตัวลงนอนบนเสื่อผืนเก่าๆ ภาพในอดีตวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ ตอนที่โฉมพิลัยพังไวโอลินของเธอ ภาพนั้นมันมาหลอกหลอนเธอแทบทุกครั้งที่เธอหลบตาลงนอน เธอร้องไห้อีกแล้ว เธอต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ เหมือนเป็นหุ่นให้เค้าเชิด เมื่อไหร่เธอจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมเสียที
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×