ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จิตวิปลาส

    ลำดับตอนที่ #4 : เถ้าแก่

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 51


    3

                แผ่นป้ายสีเหลืองติดอยู่ที่ตู้ขายน้ำหน้าร้านขายของชำ เขียนด้วยตัวหนังสือสีแดงตัวเป้งว่า กรุณานำขวดแก้วมาคืนด้วย

     

            ชานนท์สงสัยทุกครั้งที่เดินมาซื้อของที่ร้านของเถ้าแก่ เถ้าแก่มีผ้าพันแผลพันอยู่ที่มือเพราะเป็นแผลแหวะหวะ แก่ไม่อยากให้ใครเห็น  ร้านเถ้าแก่เป็นร้านที่ใกล้บ้านของยายมากที่สุด และน่าสงสัยว่าเถ้าแก่จะเอาขวดไปทำอะไร ยายก็ตอบเขาว่าเอาไปให้พวกที่มาส่งน้ำให้แก มาส่งทีไรก็เอาขวดกลับไป คงจะเอามาใช้ใหม่

     

     

                นั้นคลายความสงสัยไปได้เพียงเล็กน้อยเพราะเขาไม่เคยเห็นขวดมันอยู่เต็มลังเลยซักครั้ง เกือบครึ่งมันหายไปไหนกันนะ...ว่าแต่ว่าเหม็นปลาเค็มชะมัด...ขายของชำแล้วยังจะขายปลาเค็มอีก เฮ้อ เถ้าแก่นี่ขยันจริงๆ ...นนท์คิด

     

                หลังบ้านของเถ้าแก่มีขวดแก้วที่ไร้น้ำอัดลมบรรจุอยู่มากมาย วางเรียงซ้อนกันราวปราสาทแก้วเจียระไน ยิ่งมันกระทบกับแสงแดดร้อนยามเที่ยงยิ่งชวนปวดตายิ่งนัก แต่มันก็ดูดีทีเดียวเลยไม่ใช่หรือ

     

                เถ้าแก่เก็บขวดเอาไว้ทีละนิดวางเรียงเอาไว้หลังบ้าน เพราะแกต้องการนำขวดแก้วพวกนั้นไปใช้ประโยชน์...บางอย่าง

     

                วันนี้ชานนท์ก็มาซื้อขนมที่ร้านเถ้าแก่อีกแต่ปรากฏว่าวันนี้ร้านปิด เขาจึงเดินคอตกกลับบ้านไป แต่ก็ยิ้มใหม่ได้อีก ก็ตอนนี้เขามีสิ่งที่อยากทำแล้วนี่...

     

                เถ้าแก่ที่วันนี้ปิดร้าน ยืนสูดอากาศและยืดเส้นยืดสายอยู่หลังบ้าน.... เสียงแก้วที่แตกทีละใบ ทีละใบ สร้างความเปรมปรีดิ์แก่เถ้าแก่มิใช่น้อย ผ้าพันแผลชุ่มด้วยเลือด เปื้อนผ้าพันแผลของแก

     

                เสียงแก้วที่แตกว่าไพเราะแล้วแต่เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานเพราะยิ่งกว่า เถ้าแก่สูดหายใจลึกๆ แล้วยังคง ฟาดขวดแก้วให้แตกต่อไป เถ้าแก่ หัวเราะอย่างคนชอบใจในอารมณ์อย่างที่สุด

     

                จนเมื่อขวดหมดนั้นแหละแก่ถึงจะเลิก เถ้าแก่กลับเข้ามาในบ้าน เปลี่ยนผ้าพันแผลที่ใช้ปกปิดแผลที่เกิดจากไฟคอกมือตั้งแต่ยังเด็ก แกยิ้มแล้วเดินไปหยิบไม้กวาดและกระโถนมาเก็บกวาดซากเศษแก้วที่แตกกระจาย

     

                แกกลับมาหลังบ้านอีกครั้งมองดูมือของแกที่พันด้วยผ้าพันแผลแล้วมองเลือดที่สาดกระจายอยู่เต็มพื้น แก่ยิ้มอีกครั้ง ดวงตาที่หยี่ยามยิ้มทำให้ดูเหมือนอาแปะใจดีของเถ้าแก่...

     

                เถ้าแก่ใจดี แกใส่ถุงมือแล้วค่อยๆถอนขนนุ่มๆของเจ้าพวกสวะที่ชอบมาขโมยปลาตากแห้งที่แกทำขายอยู่ทุกวัน เถ้าแก่หยิบเศษเนื้อของลูกแมวสิบกว่าตัวใส่ถุงพลาสติก ทีละตัว ทีละตัว จนครบ

    เลือดที่สาดกระเซนของมันเถ้าแก่ก็ฉีดน้ำล้าง ตามด้วยน้ำยา ด้วยความสบายใจ แต่ก็ยังอดนึกถึงตอนที่บรรดาลูกแมวทั้งหลายกรีดร้อง เสียงแหลมด้วยความทรมานที่โดนขวดตีหัวและ เศษแก้วทิ่มแทงตามเนื้อตัว แกยิ้มอีกครั้ง

     

    ใครจะรู้เวลาที่เถ้าแก่ยิ้มคือเวลาที่แกนึกถึงเสียงครวญครางของเจ้าแมวน้อยหลายสิบตัวในช่วงสิ้นเดือน และวันนี้ก็วันสิ้นปี เลยมากเป็นพิเศษ...

     

    อ้อ! เถ้าแก่มีธุระอีกอย่างที่ต้องทำวันนี้ แกแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อย หิ้วถุงพลาสติกที่ใส่เนื้อแมวเอาไว้ ใส่ตะกร้ารถจักรยานแล้วขี่มันออกไป...ออกไปเอาเนื้อในถุงไปขายให้แก่ภัตตาคารหมู่บ้านฝั่งตรงข้ามไงล่ะ หึหึหึ ในตอนนี้ผมก็รู้ความลับของเถ้าแก่แล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×