ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ไอ้ด้านชา!!!!
หลังจากผ่านไป 5 นาที กับการจัดการเดซีสให้เหลือเพียงแต่ร่างไร้วิญญาณก็ทำให้เควินเปลี่ยนความคิดใหม่กับที่ว่า ‘เอริสผู้ใสซื่อบริสุทธิ์’ ( มั้ง ) เอริสก็กลับกลายเป็นสาวน้อยใสซื่อบริสุทธิ์ตามเดิม แล้วเดินไปหารุ่นพี่เควิน
“ ไปกันรึยังค่ะใกล้ประชุมแล้วเห็นเค้าบอกว่ามีการหอด้วย ” เอริสยิ้มเหยียดหวานจนเควินรู้สึกหวั่นกลัวกับรอยยิ้มพิมพ์ใจนั้น
“ แล้วเดซีสหล่ะ ” เควินกล้าๆกลัวๆกับการที่จะถามแม่เจ้าประคุณดีมั้ย
“ อ้อ เดี๋ยวก็ฟื้น ไปกันเถอะค่ะ ” เอริสไม่รีรอคำตอบควงแขนของเควินแล้วเดินไปปล่อยให้ความคิดของเควิน
หลนอยู่กับคำถามว่า ‘ถ้าไอ้เดซีสมันไม่ฟื้นหล่ะ จะทำยังไงหล่ะเนี่ย’
ก่อนเริ่มประชุมครึ่งชั่วโมง เควินขอไปฝากงานกับเพื่อนๆก่อนแล้วปล่อยให้เอริสนั่งอยู่กับพวกปี 1 อายุรุ่นราวคราวเดียวกันที่เงียบดุจป่าช้าและแล้วความอดทนก็มาถึงขีดสุดด้วยความที่เอริสไม่เคยอยู่เฉยนาน 2 นาทีมาก่อนทำให้เส้นความอดทนขาดผึง
โว้ย!!!!!!
“ พวกแกจะนั่งเงียบเป็นป่าช้ากันอีกนานมั้ย ” เอริสโวยวายกับชายหนุ่มอีก 2 คนและหญิงสาวอีก 1 คนที่นั่งอยู่รวมกันเป็นกลุ่มกับเธอ
“ ก็ในเมื่อไม่มีใครรู้จักกันมาก่อน แล้วจะคุยกันได้ไงหล่ะ ” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข็ม ตาสีน้ำตาลอ่อนเปรยขึ้นมา
“ งั้นก็ทำความรู้จักกันซะสิ ฉันชื่อ เอริส ” เอริสแนะนำตัวเอง
“ เราชื่อ มิเนอร์ว่าจ๊ะ เรียกว่า มิว่า เฉยๆก็ได้นะจ๊ะ ส่วนนี่ เกีร์ย และ ไคล์จ๊ะ ” มิเนอร์ว่าแนะนำเกีร์ยที่ยิ้มรับกับไคล์ที่แค่พยักหน้าเพียงเล็กน้อย
“ มิว่ารู้จักกับเกีร์ยและไคล์หรอ ” เอริสถามด้วยความงุนงงเพราะตอนแรกเกีร์ยบอกว่าไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนนินา
“ ป่าวหรอก เรามีตาทิพย์หน่ะ ” หญิงสาวเจ้าของชื่อ ‘มิเนอร์ว่า’ ผมสีชมพู ตาสีน้ำตาล เอ่ยขึ้น พลางยิ้มหวานในแบบฉบับ ‘ยิ้มยั่วสวาด’ ของมารยาหญิง
“ เอาหล่ะเรามาเริ่มคุยกันดีกว่า ” ถึงแม้ว่าเอริสจะหวั่นๆกับหญิงสาวที่ชื่อ มิว่า แต่คนชวนคุยก็ยังคงพยายามคุยต่อไป
“ พวกเรารู้จักชื่อของแต่ละคนแล้วจะคุยอะไรอีกหล่ะ ” ไคล์เปรยขึ้นอย่างเย็นเยือกเพราะมาขัดจังหวะในการอ่านหนังสือของเค้า
“ แล้วพวกเธอ ทำไมถึงอยากเข้าโรงเรียนนี้ ” เอริสยังถามต่อไปเหมือนคนที่กำลังหาเพื่อน ทำให้มิว่าและเกีร์ยยิ้มน้อยๆกับการต้องการเพื่อนของเอริส
“ เราอยากเข้าสังคมจ๊ะ และการเข้าสังคม..... ” เอริสรีบหยุดก่อนที่มิว่าจะเล่ายาวยืดจนหลับแล้วหลับอีกก็ยังไม่จบทำให้เอริสรู้เลยว่ามิว่าเป็น ‘คนพูดมากส์’ ขนาดหนักถ้าไม่หยุดเอาไว้ก่อน
“ เราตามไคล์มา ” เกีร์ยเปรยขึ้นพลางยิ้มเพราะรู้ว่าเอริสกำลังจะถามอะไร ทำให้เอริสถึงกับยิ้มแหยๆเป็นคำตอบ
“ แล้วนายหล่ะ ” เอริสถามขึ้นเพื่อให้คนที่พูดน้อยที่สุดได้พูดมั่ง
“ เรื่องของฉัน ” คำตอบห้วนๆ ที่เอริสไม่คาดฝัน ทำให้คนถามอย่างเอริสเดือดดาล
“ นาย!!! อย่าอยู่เลย ตาย ” ว่าแล้วซาตานในร่างเจ้าหญิงผู้ใสซื่อก็เผยให้เห็นเป็นรอบที่ 2 ของวันนี้ ก็กระโจนเข้าหาไคล์ที่ถูกเอริสประณามว่า ‘ไอ้ด้านชา’ และแล้วสงครามเล็กๆก็เกิดขึ้น
“ เฮ้ย หยุดนี่มันในห้องประชุมนะเฟ้ย ” ผู้ที่ได้ฉายาใหม่ว่า ‘ไอ้หน้าอ่อน’ ที่เอริสเพิ่งแต่งตั่งให้สดๆร้อนๆโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว ก็ตะโกนให้เอริสและไคล์หยุดสงครามลงได้แต่ก็ต้องหวั่นกลัวกับสายตาที่สงมาอย่างรวดเร็วของเอริสเป็นเชิงว่า ‘ห้ามทำไม กำลังสนุกเชียว’ กับอีกคนที่สือสายตาอีกอย่างหนึ่งว่า ‘ห้ามก็ดีแล้ว ไม่งั้นไอ้นี่แหลกคามือฉันแน่’ เกีร์ยถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอเมื่อเห็นสายตาอำมหิตของทั้งสอง แล้วเกีร์ยก็เข้าไปจับเอริสลุกขึ้นที่นั่งคร่อมอยู่บนตัวไคล์แต่ด้วยความซุ่มซ่ามเป็นอันดับหนึ่งที่ไม่รองใครของเจ้าหญิงตัวแสบ ทำให้สดุดขาตัวเองก่อนที่จะล้มลงไปทับไคล์เจ้าเก่าอีกรอบ
“ โอ้ย โทษที.......... ” เอริสพูดอย่างหงุดหงิดเพราะกำลังรอคำตอบรับจากอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายกลับใช้ดวงตาสีฟ้าครามมองมาอย่างเงียบเฉยเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วไคล์ก็ลุกขึ้นแล้วกำลังเดินออกไป เมื่อเห็นดังนั้นเอริสจึงตัดสินใจลองพูดดูอีกครั้งเพื่อเมื่อซักครู่นี้อีกฝ่ายมีอาการหูตึงขึ้นมากระทันหันจึงไม่สามารถได้ยินคำของโทษของเธอ
“ ขอโทษ....... ” แต่ก็ไร้เสียงตอบรับจากเลขหมายปลายทางที่ท่านเรียกอีกเช่นเดิม ความใจเย็นที่มีอยู่น้อยนิดจากความอดทนที่หมดไปแล้วก็ขาดผึง ทำให้ปากที่ได้รูปของเอริสเริ่มทำงานอีกครั้ง
“ นี่นาย พูดมั่งก็ได้นะไม่มีใครเค้าจะจับหรอกนายหรอก หรือว่าอมอะไรไว้รึเปล่าในปากน่ะ เอ๊ะ หรือว่าเค้านิยมอดดอกพิกุลกัน อืม หรือว่าเมื่อเช้าไม่ได้แปลงฟันมา ปากเหม็นจัดกันพูดมากไม่ได้ ” เอริสเว้นวรรคทำหน้าทะเล้นก่อนที่จะเริ่มพูดอีกครั้งที่ในสายตาของไคล์กลับทำให้น่ารักน่าเอ็นดูแต่เค้าก็ต้องเปลี่ยนความคิดในทันทีเพราะด้วยความปากจัดของเธอที่ไม่ว่าเจ้าหญิงองค์ไหนๆก็คงไม่มีมัน
“ แล้วก็อีกอย่างนะ นายจำใส่หัวอันหล่อเหลาของนายเอาไว้ด้วยว่าเวลาฉันขอโทษใครฉันชอบให้มีการตอบรับกลับมาด้วย ไม่ใช่ยืนเป็นเสาหินแบบนี้ ” ไคล์หรี่ตองมองเอริสด้วย แววตาหงุดหงิดเล็กน้อยเป็นประกาย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เมื่อเห็นเอริสเดินจากไปพร้อมมิว่าเพื่อนสาวเพื่อไปนั่งที่อื่นก็ถอนหายใจเหือกใหญ่ก่อนสะบัดหน้าหนีแล้วนั่งอ่านหนังสือตามเดิม แต่หารู้ไม่ว่าเกีร์ยมองด้วยแววหาเจ้าเล่ห์ทุกกิริยาที่ไคล์กระทำอยู่เมื่อกี้นั้นทำให้ไคล์มองด้วยเกีร์ยอย่างสงบเช่นกัน เมื่อเกีร์ยรู้สึกตัวจากการจ้องกลับของไคล์จากแววตาเจ้าเล่ห์ก็พลันเปลี่ยนเป็นแววตาหยั่งรู้เช่นเคย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น