ตอนที่ 1 : อสรพิษเสพติดรัก 0 : เลื้อยพันรัด [100%]
อสรพิษเสพติดรัก 0 : เลื้อยพันรัด
#อสรพิษเสพติดรัก
อสรพิษ คือ สิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดหวั่น
เนื้อตัวเลื้อยยาวเข้าคู่กับเกล็ดมันวาวยามเคลื่อนไหว ชูคอโค้งมน แลบลิ้นยาวพลางส่งเสียงขู่ให้รู้ว่าอย่าเข้ามาใกล้ และยามใดจะจับเหยื่อก็จะพุ่งถลาฝังคมเขี้ยวที่ซ่อนไว้ ปลดชีวิตผู้อื่นด้วยพิษจากภายใน มองดูอีกฝ่ายทรมานช้าๆ ก่อนจะโอบรัดไว้
พลันกลืนกิน
ด้วยรูปร่างปราดเปรียวที่ไม่ทันสังเกตก็คงโดนจู่โจมในทันที เขาเลยว่าอสรพิษเป็นสัตว์น่าพิศวง ถึงอย่างนั้นบนโลกใบนี้ก็มีงูหลายชนิดที่คนให้ความนิยม บ้างเลี้ยงไว้ชื่นชม บ้างเพาะพันธุ์ไว้ขายกับคนมีตังค์
ทว่าขณะเดียวกันกลุ่มอื่นกลับทำร้ายจนชีวิตมันดับ
มองดูร่างยืดยาวที่แน่นิ่ง หัวบี้แบนกับพื้นเพราะเขาว่ากันว่าถ้าจะตีงูให้ตายต้องตีที่หัว ไม่งั้นมันจะแว้งกัดโดยไม่ได้สนใจถึงความน่าสงสารของสิ่งมีชีวิตที่แค่ต้องการปกป้องตัวเองจากความใจร้ายของคนเรา
โดยเฉพาะอสรพิษที่มีฤทธิ์มากเกินจะคาดเดามักตกเป็นเป้าของคนใจมารเสมอ
รวมถึงอสรพิษที่มีหนึ่งเดียวบนโลก
มันยิ่งตกเป็นเป้าสายตา
ซี่ !
เสียงหายใจยามเคลื่อนที่ดังท่ามกลางป่าไม้อันยิ่งใหญ่ บรรยากาศช่วงกลางดึกเหมาะแก่การล่าเหยื่อเป็นไหนๆ เวลานี้พวกสัตว์มากมายจะออกมาหาอาหารกิน เช่นเดียวกับอสรพิษตัวนึงที่ครั้งหนึ่งเคยขดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
ดวงตาสีแดงสดกวาดมองความมืดพลางแลบลิ้นรับรสมากมาย
ชูคอเล็กน้อยเพื่อดูว่าเหยื่ออยู่ทางไหนก่อนจะเลื้อยคลานตามไป
แล้วจู่โจมเข้าให้ตามสัญชาตญาณ
“อึดๆ !”
“ฟ่อ !” ขู่ฟ่อเสียงดังหลังโอบรัดเจ้ากระรอกตัวใหญ่ เขี้ยวงามฝังลึกเข้าไปข้างใน ฉีดพิษร้ายที่ตายได้ในทันทีส่งผลให้กระรอกตัวนั้นดิ้นอึดๆ ร้องเสียงหลงก่อนจะสิ้นชีพ นาทีนั้นอสรพิษสวยได้แต่ยกยิ้ม มื้อค่ำวันนี้คงประทังชีวิตไปได้อีกหลายวัน
เพราะสำหรับงูอย่างเรา หากกินอิ่มก็จะต้องนอนอยู่เฉยๆ เพื่อย่อยแล้วค่อยออกล่าใหม่ แต่หากถูกรุกรานขณะที่ย่อยอยู่ก็ต้องคายสิ่งที่กินเข้าไป
เพื่อให้ตัวเองมีแรงเลื้อยหนี
‘ได้กลิ่นมนุษย์’
ลิ้นชื้นที่แลบขึ้นฟ้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอันตรายที่ใกล้เข้ามาอย่างน่าหวาดหวั่น ส่งผลให้อสรพิษเผือกพันธุ์หายากต้องยอมทิ้งอาหารอันโอชะเพื่อหลีกหนี เดาว่าค่ำคืนนี้คงมีนายพรานที่เข้าป่ามาหาของกิน เดี๋ยวนี้พื้นที่ในป่าเริ่มน้อยลงทุกที สัตว์ป่าที่มีก็ถูกฆ่าตายเพิ่มขึ้นทุกวัน
หนำซ้ำพื้นที่บางส่วนยังถูกสร้างเป็นตึกราบ้านช่อง อาคารใหม่ๆ ถูกสร้างขึ้นด้วยรูปทรงประหลาด เจ้าของดวงตาสีแดงฉานได้แต่เฝ้ามองมัน พลางคิดว่าชีวิตนี้จะอยู่รอดได้อีกนานแค่ไหน
เป็นถึงสายพันธุ์หายากลำพังใช้ชีวิตปกติก็เสี่ยงตาย ทั้งต้องหลบหลีกสัตว์ใหญ่ ทั้งต้องหากินไม่ลุกล้ำดินแดนใคร บางครั้งพอหลงเข้าไปในเมืองใหญ่ก็ถูกมนุษย์ทุบตีด้วยความหวาน ตอนเกิดมาก็ถูกพวกเดียวอาฆาตกลืนกินตั้งแต่ยังเล็ก
งูบางชนิดกินพวกเดียวกันเอง
อาทิเช่น
จงอางสีดำ
ซี่ !
เสียงหายใจที่แว่วเข้ามาทำเอาต้องขดตัวเป็นก้อน หลบมุมอยู่ใต้เงาจันทร์คอยระวังฝีเท้าของพวกนักล่า ทว่าเวลานี้ที่ซ่อนกลับถูกลุกเข้ามา อสรพิษน้อยได้กลิ่นอันตรายของสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันแค่ต่างสายเลือดเท่านั้น
และถ้าเกิดพบหน้ากันมีหวังคงโดนกินเช่นที่แล้วมา
พวกจงอางขึ้นชื่อว่าเป็นงูกินงู แม้สายพันธุ์เดียวกันก็ยังกินเลยบางครั้ง พวกมันชอบรุกรานถิ่นฐาน กัดกินงูสายพันธุ์อื่นตั้งแต่อยู่ในไข่ ทั้งที่โลกนี้มีสัตว์มากมายในล่ามันกลับวุ่นวายกินพวกเดียวกันซะได้
พวกพ้องของเขาก็ถูกกินไป
เหลือเขาตัวสุดท้ายของเผ่าพันธุ์
‘กลิ่นนี้มัน...’
คิดในใจพลางเลื้อยคลานหนี ไวท์แมมบ้าตัวสุดท้ายของโลกต้องรีบกุลีกุจอไม่ให้ถูกจงอางตัวใหญ่จำได้ หากแต่อีกฝ่ายก็มีสัมผัสที่ไวพอได้กลิ่นเนื้อตัวที่ฝากไว้ตามพื้นก็คล้ายจะตามกลิ่นมาเสียให้ได้ ดวงตาสีทับทิมกวาดมองขณะที่พยายามหลบเลี่ยงอันตราย
หากแต่ในระหว่างที่คลานหนีอสรพิษผู้ยิ่งใหญ่
“เฮ้ยดูนั่น ! งูเผือก !”
‘แย่แล้ว !’
สบถในใจเมื่อแสงไฟในมือพรานหันมาหา มัวแต่หนีอสรพิษยักษ์เลยไม่ทันสังเกตว่าเข้ามาในอาณาเขตนักล่า พอเห็นว่าถูกมองมาก็รีบเลื้อยหนี ติดแค่ว่าเนื้อตัวปราดเปรียวมันถูกสังเกตเห็นได้ง่ายในเวลานี้ ทั้งยังตัวยาวและสีขาวทั้งตัวมีเหรอว่าจะหลบหลีกสายตาได้
เสียงฝีเท้าวิ่งไล่หลังดังตามมาพร้อมกับหน้าไม้
อีกคนพยายามใช้ไม้ตีเขาทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไร
‘บ้าเอ้ย ! จะตามมาทำไม !’
“ถ้าเอาไปขายคงได้หลายตังค์” เหมือนอ่านความคิดงูออก หนึ่งในนายพรานพูดแบบนั้น “เดี๋ยวอ้อมไปด้านหลังแล้วกดคอมัน ฉันจะเข้าไปรวบมันเอง”
“ระวังมันมีพิษล่ะ งูเผือกแบบนี้ยังไม่รู้ว่ามันพันธุ์ไหน”
“พันธุ์ที่ทำเงินได้ไง ถึงตายก็ยอมวะ” อสรพิษขาวผ่องได้แต่หยุดชูคอขู่ฝ่อใส่นายพรานที่ล้อมเขาไว้ ทั้งหน้าไม้ ทั้งไม้ใหญ่หากตีทีเดียวคงตายโดยไม่ทันได้หนี นาทีหัวใจเขาเต้นถี่ ขนาดชูคอเผยให้เห็นเขี้ยวพิษอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมผละถอย
พอมองคนหน้าก็ต้องคอยมองคนหลังจะเลื้อยหนีก็ถูกดักไว้ไม่มีคอย
ได้แต่มองแสงจันทร์ที่สาดส่องพลางคิดว่าคืนนี้ช่างไม่เหมาะกับการล่า ใครจะคิดว่าหนีงูใหญ่มาเจอของใหญ่กว่า ไม่ว่าจะทางไหนก็ตายเหมือนกัน
“เอาล่ะฉันจะจับหัวมัน จากนั้นแกก็...!”
“โอ๊ย !!!!!”
“เฮ้ย !!!” ทว่าในตอนที่พรานกำลังจะยกไม้ตี จู่ๆ พรานอีกคนก็กรีดร้องลั่นแล้วล้มลงกับพื้นเสียงดัง สองมือกุมเข้าที่ขาข้างขวาเปิดโอกาสให้อสรพิษขาวได้หนีออกจากตรงนั้น เจ้าของนัยน์ตาสีแดงได้แต่เบิกตากว้าง เขาหลบออกมาดูอยู่ห่างๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนั้น
เขาถกขากางเกง มีรูสองรูปรากฏเอาไว้ ดูเหมือนเขาจะถูกงูกัดทั้งที่ตรงนั้นไม่น่ามีงูตัวอื่นได้
“เฮ้ยจงอาง !” พรานที่ช่วยเพื่อนยกนิ้วชี้ไปที่พุ่มไม้ใหญ่ มันสั่นไหวแสดงให้เห็นว่ามีบางสิ่งอยู่ข้างในก่อนที่ดวงจันทร์จะอาบไล้ให้ได้เห็น มันคลานออกมาเผยตัวให้ได้ยำเกรง เกล็ดสีดำมันวาวที่แตกต่างจากสายพันธุ์ของตัวเอง ซ้ำยังตัวใหญ่ยาวราวสามสิบเมตร แลบลิ้นขู่ให้หวาดกลัวกัน
นาทีนั้นไวท์แมมบ้าน้อยได้แต่ขดตัวอยู่ใต้เงาจันทร์ จงอางตัวนั้นคือสิ่งที่เขาพยายามหนีหน้า ความน่ากลัวของมันแผ่ซ่านเช่นเดียวกับพิษของมัน
นายพรานยกไม้ขึ้นเตรียมตีหากแต่ก็ช้ากว่ามัน
เพียงพริบตาเขี้ยวขาวก็ฝังลึกฉีดพิษลงที่คอของเขา รวดเร็ว ว่องไวสมกับเป็นสัตว์ที่ใครก็หวาดหวั่น ชั่วพริบตาเดียวนายพรานคนนั้นก็ชักดิ้นชักงออยู่ข้างเพื่อนของเขา ในป่ามืดแบบนี้ไม่มีที่ให้พักพิงเมื่อถูกทำร้ายเช่นนี้ก็ทำได้แค่รอความตายเท่านั้น
คนที่โดนตอนแรกก็เริ่มอ่อนแรง พิษจงอางแล่นเร็วมากจนต้องยอมรับ
พลันดวงตาสีดำก็ตวัดมาสบกัน
ไวท์แมมบ้าน้อยสะดุ้งพลันรีบคลานหนีออกจากตรงนั้นด้วยความรวดเร็ว ผ่านแม่น้ำ ผ่านโขดหิน คิดแค่ว่าตัวเองจะต้องไม่ถูกกินแบบที่พวกนายพรานถูกจัดการ แปลกใจเหมือนกันที่จงอางตัวนั้นเลือกที่จะจู่โจมมนุษย์ทั้งที่ตัวเองสามารถหลบซ่อนหนีไปช้าๆ ราวกับจงใจช่วยให้เห็นหน้า
‘จะหนีไปไหน’
‘!!!!’
อสรพิษน้อยชะงักเมื่อเบื้องหน้าปรากฏภาพของงูที่โตกว่า จงอางหนุ่มชูคอขึ้นสูง ข่มงูน้อยที่เล็กกว่าตัวเองไม่เท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าเล็กมากเมื่อต้องมาอยู่ข้างใต้ นาทีนั้นเขาหวั่นใจคิดว่าตัวเองคงไม่รอดจากการเป็นมื้อค่ำ
ได้แต่ชูคอยอมสู้กลับแม้จะไม่อยากเจอหน้ากัน
‘ถอยไป ผมไม่อยากมีเรื่องกับคุณนะ !’
‘ขู่ทั้งที่ตัวสั่น ไม่สมกับเป็นแมมบ้าเลย’ เหมือนเห็นอีกฝ่ายกระตุกยิ้ม ทั้งที่ความจริงแค่แลบลิ้นเพื่อดมกลิ่น ‘นายติดคำขอบคุณฉัน ฉันช่วยให้นายรอดตายเมื่อกี้นี้’
‘ช่วยเหรอ ?’ ทวนคำนั้น ‘ใครขอกัน’
‘ฉันเห็นตัวนายสั่น แค่นั้นก็บอกแล้วไหมว่ากลัวตาย’ จ้องมองอีกฝ่ายนิ่ง จะคลานหนีก็ถูกดักทางไว้ ซ้ำยังถูกเลื้อยทับให้เกล็ดสีนิลเบียดกับเกล็ดเผือกคล้ายจะร่วมรักกันให้ได้ พวกงูจะเข้าพัวพันกันหากถึงฤดูกาลที่กำหนัดยิ่งกว่าอะไร แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงฤดูนั้นและเราเองก็เป็นเพศชาย
หากแต่จงอางตัวนี้กลับเกี่ยวกระหวัดเขา เบียดเสียดให้ยินยอมพร้อมใจ
‘ปล่อยนะ ! จะทำอะไร’
‘ขอค่าตอบแทนไง’
‘อ๊ะ !’
‘เสียวใช่ไหม’
‘อื้ออ’
‘ร่วมรักกันสักยกนะ :)’
ไม่ทันให้ตอบรับร่างกายก็ถูกพันธนาการในความมืด ถูกรัดตึงให้กลายเป็นหนึ่งโดยมีแสงจันทร์เป็นพยานความใคร่ อสรพิษน้อยได้แต่ส่งเสียงร้อง หากแต่ไม่รับความเห็นใจ กลับกันความรู้สึกแห่งราคะมากมายก็จู่โจมเข้าให้กลายเป็นสมยอมไปในตัว
ทั้งที่อยากปฏิเสธกลับไม่สามารถหยุดแรงตัณหา ทั้งที่อยากบ่ายเบี่ยงกลับถูกฉีดพิษอัดร่างเข้าไป
ถูกกลืนกินทั้งที่ไม่อยากได้
เสพติดรักทั้งที่ไม่รู้ตัว
*บทนำมาแว้ววว มาแบบเสียวๆ ให้จินตนาการต่อ
เรื่องเต็มยังไม่รู้จะมาได้เมื่อไหร่เพราะงานแน่นเหมือนขนาดตัว
ยังไงก็ขอฝากติดตามรอและอย่าลืมส่งฟีดแบ็กเด้อ*
LOADING 100 PER
เลื้อยพันรัดที่มาขอความสยองเตรียมตัวให้พร้อมมันอยู่รอบตัวคุณ
เปิดศักราชใหม่ของจักรวาลเอเวอรี่พาย ถึงเวลาพาสัตว์เลื้อยคลานเข้ามาย่างกาย
ให้รู้ว่าแท้จริงแล้วโลกใบนี้ยังมีอะไรอีกมากที่ซ่อนตัวไว้
อสรพิษเป็นหนึ่งที่ควรเฝ้าระวังไม่ให้มันเข้ามาใกล้ไม่อย่างนั้นอาจถึงคราวตาย
ถูกเลื้อยหนักรัดพันตัว :)
สกรีมลงแท็กหวีดการเสพติดของเรื่องนี้
#อสรพิษเสพติดรัก
เพจ Avery Pie
ทวิต ael_2543
หรือจิ้มที่รูปนะงับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ถูกจริต ชอบแนวนี้ รออยู่นะค่าาาา
ฟหกด่าสวว แม่เปิดมาเค้าก็รักสักยกแล้วววว ฮืออ รอนัคะ
รอนะคะ~~