ตอนที่ 23 : เศษส่วนความเหงา 22
เศษส่วนความเหงา 22
ตอนคุณเลือกใครให้มาเป็นเหตุผลของชีวิต
คุณควรเลือกคนที่จะรักคุณตลอดไปแทนคนที่เป็นเหตุผลสำรองของคุณ
เช้าวันนี้มีกลิ่นนิโคติน
แสงแดดไล่เลียกายเช่นทุกวันปลุกผมจากความฝันที่หลับใหล เมื่อคืนนี้ผมกับหมอกทำกันจนไม่รู้ว่าใช้เวลานานแค่ไหน แต่มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากสำหรับผม ราวกับว่าได้ปลดปล่อยทุกความรู้สึกอันทุกข์ระทมแล้วกอบโกยเอาทุกความรักที่เขามีให้เขามา
ผมยังจำเสียงทุ้มต่ำตอนเรียกขื่อผมได้ เสียงของเขาที่กระซิบบอกว่ารักผมแค่ไหน และเสียงขอโทษที่บอกว่าเวลาเราหายไป
ผมไม่แน่ใจว่าประโยคสุดท้ายก่อนหลับตาลงไปเป็นเพียงความฝันหรือเรื่องจริง
“หมอก”ผมปรือตา เรียกชื่อคนที่ควรจะนอนอยู่ด้านข้าง กลิ่นนิโคตินลอยเข้ามากระทบจมูกผม ทำให้ผมย่นคิ้วน้อยๆ เพราะไม่ได้กลิ่นมันมาพักใหญ่
ไหนเขาบอกว่าจะเลิกสูบแล้วไง ทำไมถึงกลับมาสูบอีก
“หมอก” เรียกอีกครั้งแต่คิดว่าคงไม่ได้ยิน เสียงของผมแหบแห้ง หนำซ้ำยังร่างกายยังเจ็บหน่วงไปหมด ปวดร้าวไปทุกส่วนเพราะเมื่อคืนเราทำกันหนัก ถึงอย่างนั้นมันก็ดีมาก ผมพยายามยันกายขึ้นมานั่ง ฝืนความเจ็บปวดก่อนจะพบว่าผมถูกเปลี่ยนชุดให้
มันคือเสื้อผ้าของหมอกที่ผมเคยใส่ กลิ่นของเขารั้งผมให้ก้มลงไปสูดเข้ามาในปอด
รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏก่อนจะกวาดตามองหาเจ้าของห้อง บางทีหมอกอาจจะไปทำอาหารที่ห้องผม เนื่องจากเราใช้ครัวเดียวกัน ผมกำลังจะลุก ทุกการเคลื่อนไหวทำให้ต้องนิ่วหน้า ถึงอย่างนั้นก็พยายามช่วยตัวเองให้ยืนขึ้นมา
ผมอยากไปหาหมอก
ครืน
“หืม ?”ผมเลิกคิ้ว เสียงบางอย่างสั่นไหวทำให้ผมหันไปมองบางอย่างที่วางไว้บนโต๊ะ คิ้วสวยขมวดกันเป็นปมมันคือสิ่งของที่ผมไม่ได้ใช้มาเกือบอาทิตย์แล้วนับแต่ที่คุยกับพี่อิชเป็นครั้งสุดท้าย
มือถือของผม
ผมแปลกใจที่หมอกเอามาวางไว้ตรงนี้ ผมนึกว่าเขาจะเอาไปซ่อนให้ไกลจากผมซะอีก ถึงผมจะไม่มีทางกลับไปคุยกับอิชิอีกแล้วก็ตาม ผมก้าวขา เดินไปหามันมาถือไว้ มีข้อความจากแชทไลน์ปรากฏบนหน้าจอ นาทีแรกมันทำให้หัวใจของผมสั่นคลอน กลัวว่าจะเป็นคนที่ผมหวาดหวั่น
พลันชื่อที่ปรากฏนั้น ก็ทำผมยกยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
หมอก : สุขสันต์วันเกิด
หมอก : กูรักมึงนะ ชิน
“ตกใจหมดไอ้บ้านี่”ผมผ่อนลมหายใจ แอบเสยผมด้วยความกังวล ผมพบว่าแชทของพี่อิชโดนลบและไม่มีชื่อเขาอยู่ในรายชื่อเพื่อนของผม คาดว่าหมอกน่าจะเป็นคนจัดการให้ ซึ่งก็ดีแล้วที่เขาทำ ผมคงทำเองไม่ไหวต่อให้อยากทำแค่ไหนก็ตาม ผมส่ายหน้าย่นคิ้วเล็กน้อยที่หมอกไม่ได้ส่งอะไรมาก่อนหน้า
เขาส่งมาแค่คำอวยพรและคำบอกรัก
เหลือบมองเวลาที่ส่งมาก็พบว่ามันผ่านมาเกือบชั่วโมงแล้ว
“ตื่นไวจังวะ”ผมพึมพำ ก่อนจะเปิดประตูเชื่อมเพื่อไปหาเขา ดวงตาสวยกวาดมองทั่วห้อง ทว่าหาเท่าไหร่ก็ไม่พบคนที่บอกรัก มีเพียงแค่มื้อเช้าที่ถูกเตรียมไว้ให้ ตรงนั้นมีเค้กช็อกโกแลตปอนด์ใหญ่ ปักป้ายอวยพรวันเกิดเอาไว้ แถมยังมีการ์ดแนบอีก ความสงสัยทำให้ผมหยิบขึ้นมาอ่าน
‘มีความสุขมากๆ นะ อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย’
“กะทำเซอร์ไพรส์หรือไง” ผมเลิกคิ้ว แปลกใจกับการตื่นมาไม่เจอเขา หันซ้ายหันขวาเผื่อว่ามันจะโผล่มากอดผมไว้แบบที่ชอบทำ แต่ยืนรอเท่าไหร่ก็ไม่เจอเขา ไม่รู้ว่าลงไปซื้อของด้านล่างหรือว่าออกไปส่งงานก่อนโดยไม่บอกผม
เขาคงคิดว่ากว่าผมจะตื่นคงอีกนาน เพราะประจำวันเกิดผมน่ะ...
ผมแทบไม่อยากให้มาถึงเลย
“อย่างน้อยก็น่าจะโทรมาบอกกัน” ผมยู่ปาก ผมอยากตื่นมาเจอหน้าเขามากกว่าของที่เขาทำให้ เดินไปรดน้ำเจ้าแคดตัลที่ซื้อมานิดหน่อยพลางนั่งคอยว่าเมื่อไหร่อีกฝ่ายจะกลับ
หมอกไม่เคยไปไหนแล้วไม่บอกผม ประจำจะโทรไม่ก็ปลุกให้มารับรู้ก่อน นี่ผมโทรหาเขาก็ไม่รับสาย ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ
ผมไม่รู้ว่าหมอกไปไหน แต่การที่เขาไม่ตอบอะไรเลยมันทำให้ผมหงุดหงิดใจ
“ไม่รับสายหน่อยเหรอวะ” ผมย่นคิ้วถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดที่หมอกไม่รับสาย บ้างก็บอกสายไม่ว่าง บ้างก็พูดเหมือนปิดเครื่องหนีไป ผมโทรหาเป็นสิบๆ สายเพื่อจะได้รู้ว่าเขาอยู่ไหน ทว่าทุกสายก็เหมือนโทรหาเบอร์ที่ไม่มีใครเปิดใช้ หัวใจของผมสั่นจู่ๆก็ใจไม่ดีที่มันขาดการติดต่อไป
หรือว่ามันไปเตี๊ยมเซอร์ไพรส์ผมกับชิชา ?
แต่แบบนั้นก็ไม่น่าจะเอาเค้กออกมาวางให้เห็นไหม มันคิดอะไรอยู่กัน
“รับสายสิ ชิชา”ผมกัดปากเดินวนอยู่ในห้องตอนต่อสายพี่สาว ถ้าเกิดเธอไม่รับแปลว่าทั้งสองคนอาจจะหายไปด้วยกัน และอีกชั่วโมงต่อมาผมก็ต้องแกล้งตกใจกับของขวัญเขาเหมือนทุกปี ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงดี ผมคงจะมีความสุขไม่น้อยที่วันเกิดปีนี้มันแตกต่าง
ก็ผมกับหมอกเราจะไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกัน สถานะเราจะมากกว่านั้นหลังจากวันนี้เป็นต้นไป
ทว่าในตอนที่ผมกำลังคิดอะไรอยู่เพลินๆ ชิชาก็กดรับสาย
[ชิน โทรหาพี่แต่เช้าเลย มีอะไรเหรอ]
“ชิชา”ผมหลุดจากภวังค์ หัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำตอนได้ยินเสียง “พี่อยู่ไหนน่ะ หมอกอยู่กับพี่หรือเปล่า”
[พี่อยู่บ้านกำลังจะขับรถไปหาเรา]
“แล้วหมอกล่ะ”
[เอ่อ...]
“พวกพี่วางแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดผมใช่ไหม”ผมพยายามคิดในแง่บวกแม้เสียงของชิชาจะอึกอัก บางทีเธออาจจะแกล้งผมอยู่ก็ได้ คงเห็นว่าผมเครียดมานานก็เลยอยากจะทำอะไรให้มันมีสีสัน
หมอกเองก็คงจะทำเหมือนกัน ผมว่ามันต้องลงไปซื้อของมาให้ผมแน่ๆ
“ถ้าพี่วางไว้ผมจับได้แล้วนะ บอกหมอกด้วยมันจะได้รีบกลับมา”
[ชินพูดอย่างนี้แปลว่าหมอกไม่ได้บอกชินสินะ]
“หืม ?”ผมครางในลำคอ คิ้วขมวดกันแน่นเป็นปมใหญ่ “พี่หมายความว่าไง มันจะบอกอะไรผม”
[ก็เรื่องที่เขาจะไปเรียนต่ออเมริกาไง]
“หา...”
[วันนี้เขาจะไปแล้วนะ ชิน]
-MOK PART-
ผมอยู่ที่สนามบินมาชั่วโมงกว่า
มองผู้คนที่เดินพลุกพล่านเตรียมเดินทางไปตามสถานที่ที่จองตั๋วไว้ บ้างไปเรียนต่อ บ้างไปทำงาน ไม่ก็พักผ่อนหย่อนใจ ผมอยู่ในประเภทแรกที่วางแผนว่าจะไปเรียนต่อ เป็นแพลนที่วางไว้นานเกินที่พ่อจะรอไหว เขาอยากให้ผมไปเรียนต่อแทบจะขาดใจจะได้มาเป็นหัวศิลป์ให้บริษัท
แรกเริ่มเขาอยากให้ผมไปตั้งแต่ปีหนึ่งด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นผมกำลังสนุกที่ได้เข้ามหาลัยพร้อมชิน นานวันเข้าคำขอของพ่อก็กลายเป็นอดีตจนวันที่ชินตัดสินใจไปจากอิชิ มันถึงกลายมาเป็นเรื่องจริงอีกครั้ง
ผมกับชินจะไม่ได้พบกันสี่ปี
ช่วงเวลาที่นานขนาดนั้นทำให้ผมคิดว่าผมจะมีชีวิตยังไงโดยไม่มีเขา เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เป็นเพื่อนกันมาสิบสามปี และเรากำลังมีความสัมพันธ์ดีๆ ที่อาจเลื่อนขั้นเป็นคนรักกันได้ แต่แล้วความสุขที่ผมสร้างไว้ก็พังทลายเมื่อผมรู้ว่าผมต้องเดินทางวันนี้
วันเกิดของเขา
ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ทำให้เขาคิดว่าผมลงไปซื้อของแบบไม่มีวันกลับ ผมทำใจบอกเขาไม่ได้ว่าผมกำลังจะไปจากเขานะ ผมกลัวว่ามันจะทำให้ชินคิดมาก และกลายเป็นเชือกที่เหนี่ยวรั้งเราทั้งสองไว้
ผมไม่ได้อยากให้ชินมีคนใหม่ ผมอยากขอร้องให้เขาเก็บความรู้สึกที่มีต่อผมไว้
แต่ในระยะเวลาสี่ปีมันเป็นไปไม่ได้...
เพราะแค่สองเดือนยังเปลี่ยนใจเขามาแล้วเลย
“พี่หมอก จะไม่โทรบอกพี่ชินจริงๆเหรอ”
กึก !
“ถ้าพี่ชินมารู้ทีหลัง พี่ชินอาจจะโกรธพี่มากก็ได้นะ”เสียงน้องสาวดึงผมออกจากภวังค์ ตั้งแต่ที่ผมมาสนามบิน ผมเหม่อลอยและเคว้งคว้าง เวลานี้ผมควรจะอยู่บนเตียง กอดร่างที่หอมกรุ่น ทำอาหารให้อีกคนกินแล้วไปรับไปส่งเขาที่มหาลัยเช่นทุกวัน
ไม่ใช่ปล่อยเขาให้เผชิญกับความเหงาของวันเกิดที่จะไม่มีผมอีกต่อไป
ผมหวังเพียงให้คำอวยพรพวกนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะเก็บเกี่ยวมันไว้
หลังจากนี้คงไม่มี
“ไม่เป็นไรหรอก มันไม่รู้น่ะดีแล้ว”
“…”
“ไม่งั้นมันต้องงอแงแน่ๆ”ผมยีหัวใหม ยกยิ้มเบาบางที่คล้ายกับคนที่จะหมดแรงให้ได้ เธอรู้ดีว่าผมสนิทกับชินแค่ไหน บางครั้งยังเป็นเพื่อนปรึกษาหัวใจให้ผมอีก “พี่ไม่อยากเห็นมันร้องไห้ วันนี้วันเกิดมัน มันควรจะมีความสุข”
“แต่เพราะมีพี่ไม่ใช่เหรอ พี่ชินถึงมีความสุข”
“อะ...”
“โทรไปหาบอกพี่ชินหน่อยนะพี่ ใหมไม่อยากให้พี่ชินเป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องนี้” เธอขอ ทำผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ที่ผมไม่บอกมันเพราะผมทำใจไม่ได้ ผมรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันจะไม่ต่างจากเมื่อคืนที่ผมร้องไห้ตอนกอดมัน
ผมเจ็บปวดที่จะไม่ได้ดูแลมัน
เจ็บที่บอกมันไม่ได้ว่ากำลังจะไปไหน
เจ็บที่สุดท้ายแล้วผมกลับทำร้ายมันมากกว่าใครๆ
ทั้งๆที่เป็นคนบอกว่าเสียมันไปไม่ได้ พอถึงคราวที่มันเสียผมไปไม่ได้บ้าง ผมกลับเป็นฝ่ายทอดทิ้งมันเอง
ผมเจ็บที่ผิดสัญญา
ผมพยายามฝืนยิ้มให้น้องสาว ก่อนหน้านี้ผมโทรไปบอกชิชาแล้วว่าจะไปไหน ตอนแรกเธอตกใจมาก เอาแต่ถามว่าบอกชินหรือยัง ผมเงียบ ไม่ได้ตอบรับ แค่ฝากให้ไปหาและดูแลชินจนกว่าผมจะขึ้นเครื่อง อย่างน้อยถ้าเธอเก็บความลับอยู่จนตอนที่ผมบินไปแล้ว ชินก็จะตามผมมาไม่ได้
และผมก็จะได้ไม่เห็นน้ำตาเขา
เหมือนตอนนี้
“หมอก !”
“ชิน...!” ผมเบิกตากว้างมองคนที่ยืนหอบอยู่ไม่ไกล ชินยืนอยู่ตรงนั้นใบหน้าเปรอะเปื้อนน้ำตาไม่ต่างจากวันนั้นที่เขาร้องไห้ เขามองผมด้วยความเสียใจ ก่อนจะออกตัววิ่งมาหาผม ที่ยืนขึ้นสบตาเขา ชินสะอื้นเสียงดังโผเข้ากอดจนเกือบหงายหลัง ดีที่ผมตั้งตัวได้
วงแขนเล็กโอบรอบกายขณะที่ผมตกใจ ไม่เข้าใจว่าเขามาที่นี่ได้ยังไง
จนเหลือบไปเห็นชิชา
“ชิชา...”
“หมอก” เธอเรียกผมตอนเดินเข้ามาใกล้ แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย แต่เด่นชัดสุดคือความเสียใจและสงสาร “โทษทีนะหมอกที่พี่บอกชินก่อนหมอกจะไป แต่พี่...พี่ไม่อยากเห็นชินร้องไห้”
“…”
“พี่ไม่อยากให้ชินเจ็บ”ผมส่ายหน้าไปมาอย่างไม่อยากเชื่อ การที่ผมขอให้ชิชาเก็บเรื่องนี้ไว้เพราะผมก็ไม่อยากให้ชินเจ็บเหมือนกัน ถ้ามันไปรู้ทีหลัง ยังไงมันก็ทำใจได้ดีกว่าการมาลาผมต่อหน้า ผมเลียปาก หลุบตาคนที่กอดผมไว้แน่น สะอื้นตัวโยนอย่างน่าสงสาร
วินาทีนั้นหัวใจของผมเคล้าน้ำตา มันส่งผ่านมาเอ่อคลอด้วยตาผมไปหมด
“มึงมาทำไม มึงต้องอยู่กินเค้กที่กูซื้อให้ดิ”
“แล้วก็ปล่อยมึงทิ้งกูไปน่ะเหรอ”
“…”
“ทำไมมึงไม่บอกกูวะ”เขาตัดพ้อเงยหน้ามองผมทั้งน้ำตาที่เปื้อนหน้าเขา “ไหนมึงบอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปไง แล้วนี่มันคืออะไรอะ มึงทิ้งกู มึงไม่แม้แต่จะบอกกูว่ามึงจะไป”
“…”
“ไหนมึงบอกว่ามึงขาดกูไม่ได้ไง แล้วนี่อะไรวะ มึงผิดสัญญา ฮึก มึงผิดสัญญากับกูได้ไง” ถ้อยคำเสียดแทงหัวใจผม ทำผมกัดปากแน่นสะกดอารมณ์ไว้ ถ้าโลกนี้จะมีคนที่เปลี่ยนใจผมได้ ผมขอยกตำแหน่งให้กับชินเพราะเขาเปลี่ยนใจผมมาตลอด “เพราะกูตอบรับความรู้สึกมึงช้าไปเหรอ เพราะกูทำเลวกับมึงเหรอหมอก ฮือ”
“ไม่ใช่...”
“หรือเพราะมึงต้องการคำตอบ ถ้ากูบอกรักมึงเร็วกว่านี้มึงก็จะไม่ทิ้งกูไปใช่ไหม”
“ไม่เกี่ยวกันเลย ที่กูไปเพราะกูต้องไป”
“แล้วทำไมมึงไม่บอกกูอะ ฮึก อย่างน้อยกูก็ได้เตรียมใจ”
“มึงคิดว่าการบอกมึงมันเป็นเรื่องง่ายเหรอวะ”
“อะ...”
“มึงคิดไหมว่ากูทำใจได้หรือเปล่าตอนบอกมึงว่ากูจะไป” ผมถามมัน เสียงสั่นขณะที่น้ำตาไหล “กูรักมึงมากนะเว้ย “แค่คิดว่าจะห่างกับมึงกูก็เจ็บแทบตาย เพราะงั้นกูบอกมึงไม่ได้หรอก กูไม่กล้า มึงได้ยินไหม กูไม่กล้า !”
“หมอก”
“เพราะกูรู้ว่ากูทำผิดสัญญา และกูรับไม่ได้ที่ทำให้มึงเสียใจ” ผมกัดปาก ไม่อาจจะเก็บความเสียใจไว้ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ผมไม่อยากให้มันมาส่ง ผมไม่อยากร้องไห้ ไม่อยากแสดงความอ่อนแอว่ามันสำคัญกับผมแค่ไหน ชินมองหน้าผม เบียดแก้มลงกับอกเป็นการขอร้องไม่ให้ผมไป
ผมพยายามจะดันมันออก คราวนี้ผมปฏิเสธพ่อไม่ได้ มันถึงเวลาแล้วที่ผมควรจะทำตัวเป็นลูกที่ดีให้ท่าน
อย่างน้อยท่านก็จะได้ยอมรับในเรื่องของเรา
มันคือการเดิมพัน
“มึงกลับไปเหอะ กูต้องไปแล้ว”
“ไม่เอาอะ ฮึก กลับก็กลับด้วยกัน”
“มึงอย่ามางี่เง่าได้ป่ะ ก็บอกแล้วไงว่ากูกลับไปไม่ได้ !”
“แค่มึงบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีกูอะ”
“…”
“ตอนนี้กูก็อยู่ไม่ได้เหมือนกันถ้าไม่มีมึง” ผมสะอื้นเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ไม่มากคนที่แทบจะทรุดฮวบลงไปกับพื้น เมื่อคืนผมอุตส่าห์ทำรุนแรงกับมัน หวังเพียงแค่ให้ปวดร่างจนขยับไปไหนไม่ได้ แต่มันก็ยังดื้อด้านที่จะมา แล้วผลสุดท้ายมันเป็นไง
มันก็เจ็บกันทั้งคู่ป่ะวะ
“ขอร้องหมอก ถ้ามึงไปเพราะกูทำผิดต่อมึง มึงให้โอกาสกูเถอะ”
“…”
“กูจะมีชีวิตยังไงถ้าไม่มีมึง มึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กูอยากมีชีวิตแล้วอะ แล้วมึงจะทิ้งกูไปได้ไงอะ ไหนมึงบอกว่าอยากได้ชีวิตกูไง ได้ไปแล้วจะทิ้งอย่างงี้เหรอ มึงจะทำเหมือนที่พี่อิชทำกับกูเหรอ”
“กูไม่เหมือนเขา อย่าเอากูไปเทียบกับมัน”
“แต่มึงกำลังจะทิ้งกูเหมือนที่เขาทำ”
“เขาทิ้งมึงเพราะเขาไม่ได้รัก”
“ฮึก”
“แต่กูรัก รักมากด้วย”เสียงของผมแผ่วลง อ่อนแอคล้ายกับตายลงตรงนี้ ผมแอบคิดว่าถ้าวันนั้นผมบอกเขาว่าเราจะไม่ได้เจอกันสี่ปี ชินจะยังไปหาพี่อิชหรือเปล่า เขาจะเลือกผมที่ดูแลเขาแทนผู้ชายคนนั้นไหม หรือว่ายังไงก็จะไป แล้วทิ้งผมไว้ไม่ต่างจากที่เกิดขึ้น คิดมาตลอดถึงได้นอนร้องไห้วันที่เขานั่งรถหนีไปจนวันที่เขากลับมาผมก็ยังคิดอยู่ว่ามันจะเป็นยังไง
ชินจะรักผมบ้างไหม ถ้ารู้ว่าเราจะห่างไกลกัน
“ไปเถอะ กลับบ้าน กลับไปใช้ชีวิต”
“ไม่เอา ฮึก หมอก”
“มึงทำได้ มึงผ่านช่วงที่ไม่มีพี่อิชมาแล้ว ก็ต้องผ่านตอนนี้ได้เหมือนกัน” เขาส่ายหน้าสาดน้ำตาใส่หัวใจผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า “มึงมีแคดตัลที่กูซื้อให้เป็นของเตือนใจว่ากูรักมึงมากแค่ไหน มึงต้องเข้มแข็งให้เหมือนกระบองเพชรที่เราซื้อมาดิ”
“ที่กูผ่านมาได้ก็เพราะมีมึงไง ฮึก”
“แต่หลังจากนี้ มึงก็ต้องลองแบบที่ไม่มีกูบ้าง”
“หมอก”
“ตอนนี้กูอาจจะเป็นทุกอย่างให้มึง แต่สักวันมึงอาจจะลืมกูไปก็ได้” เขาปฏิเสธผมเลยประคองใบหน้าคนตัวเล็กมาทาบหน้าผาก ในเมื่อเรื่องมันเป็นอย่างนี้แล้วก็คงทำอะไรไม่ได้มาก
สุดท้ายแล้วก็ต้องบอกลากันอยู่ดี
“กูจะกลายเป็นความทรงจำของมึง เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่มึงมีกูอยู่”
“ฮึก ฮือ”
“พอเวลาผ่านไป หัวใจมึงดีขึ้น มึงก็อาจจะรู้สึกดีที่มึงไม่มีกูอยู่ตรงนี้แล้ว”
“ไม่จริง ไม่มีวัน” เขาเถียงกัดปากจนห้อเลือดอย่างน่าสงสาร “การมีมึงอยู่ในชีวิตมันโคตรมีค่า ถ้าไม่มีมึงแล้ว กูจะมีค่ากับใคร”
“กับชิชาไง”
“หมอก...”
“กับตัวมึงเองด้วย” ผมเลียปากพยายามสะกดอารมณ์ตัวเองไม่ให้เสียงสั่น “บางครั้งเราก็เอาตัวเองไปผูกมัดกับคนอื่นมากไป จนเราคิดว่าเรามีค่าได้ก็เพราะเขา แต่มันไม่จริง มึงรู้ไหม”
“…”
“มึงมีค่าในตัวมึงเองอยู่แล้ว แค่มึงไม่มองเองก็เท่านั้น”
“…”
“หลังจากนี้มึงต้องให้ความสำคัญกับตัวเองให้มากนะ เพราะกูอยู่ให้ค่ามึงไม่ได้แล้ว”
“แต่กูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมึง”เขาย้ำ เหมือนเทปกรอซ้ำที่สมองสั่งให้พูดแบบนั้น “อยู่ไม่ได้จริงๆ”
“กูเองก็อยู่ไม่ได้”
“งั้น...”
“แต่กูต้องอยู่ให้ได้ ชิน”เหมือนกับกำแพงพังทลายคนตรงหน้าปล่อยโฮจนทรุดลงไปนั่ง เขาคงรู้แล้วว่าต่อให้รั้งยังไงผมก็คงกลับไปไม่ได้ ผมหลุบตามอง อยากกอดเขาแทบขาดใจ แต่ถ้าทำแบบนั้นมันก็จะไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะยังไงผมก็ต้องไป
สี่ปี
“กูรักมึงนะชิน”
“ฮือ”
“ดูแลตัวเองด้วยนะ”
“หมอก ! หมอก !! หมอก ฮือ !!!!”ผมหมุนตัวคว้ากระเป๋าแล้วเดินเข้าเก็ท ทิ้งให้คนตัวเล็กตะโกนเรียกผมสุดเสียง ผมไม่หันไป ตัดใจแล้วว่าจะไม่หันไปให้ความหวังมันอีก ต่อให้หัวใจดวงนี้จะแหลกสลายไม่มีชิ้นดีก็ตาม ผมภาวนาขอให้มันไม่วิ่งตามผมมาอีก ขอให้ชีวิตในวัยยี่สิบสองปีของมันมีแต่เลือกดีๆ
และขอให้วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่มันจะเสียใจแทบบ้าได้
หลังจากนี้และตลอดไป...
“มึงต้องมีความสุขมากๆนะ ชิน”
-MOK PART END-
#เศษส่วน52HZ
อีกสองตอนจบแล้วนะคะ
ทวิต ael_2543
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อดทนไว้ชิน 4ปีถ้าชินยังเข้มแข็ง รักหมอกจริงๆ หมอกก็จะกลับมาเพราะคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน
เป็นอีก1ขัเนที่ชินต้องยืนหยัดพิสูจน์ความเข้มแข็งของตัวเอง
รักจริงก็ต้องรอเท่านั้น
คิดถึงกันก็โทรหาก็ได้ แต่จะรู้สึกคิดถึงมากกว่าเดิมหน่อย
อยากให้ทั้งสองมีความสุขจริงๆ เป็นของตัวเองสักที
ชินไม่เคยบอกรักหมอกเลย...