'ปลื้มคนโปรด' (Yaoi) [สนพ.Deep Publishing]
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ นิยายวาย Tags : ปลื้มคนโปรด, นิยายวาย
ผู้แต่ง : ★Aelisma/Avery Pie ★
My.iD :
https://my.dek-d.com/nicharee-33/writer/
ตอนที่ 11 : ปลื้มคนโปรด 10 : เรียนรู้ทีละนิด [100%]
ปลื้มคนโปรด 10 : เรียนรู้ทีละนิด
#ปลื้มคนโปรด
“นั่นคือคำชวนเหรอครับ ?” น้องเอียงคอมองอย่างจับผิด “พี่อยากให้ผมไปดูพี่แสดงขนาดนั้นเลย ?”
“กูไม่ได้บอกสักหน่อยว่าให้มึงมาดูกูแสดง กูแค่บอกว่าของจริงมันสนุกกว่า” รีบกินมาม่ากลบเกลื่อน พร้อมกับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น “ถ้ามึงมาไม่ได้ก็แล้วแต่มึงละกัน กูบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว”
“แย่จัง ถ้าพี่บอกว่าอยากให้ผมไปดู ผมก็จะรีบหาวันหยุดแท้ๆ”
“อะ...”
“เสียดายจังนะครับ” ความหมายแฝงไปหลายนัยทำเอาปลื้มหันกลับมามองหน้า คนโปรดเลยยิ้มขำ เป็นครั้งแรกที่ทำอีกคนเหวอได้แม้จะไม่ได้แสดงออกมาก็ตาม แต่คำพูดนั้นก็บอกใบ้ไปหลายอย่าง งานเฟรชชี่ไนท์ส่วนใหญ่คือการไปทำความรู้จัก ทั้งจากคนปีเดียวกัน คนต่างปี ต่างคณะ
ทว่าสำหรับคนโปรดแล้ว เหตุผลเดียวที่จะทำให้เขาไปดูก็คือคนตรงหน้า
แค่นี้ก็บอกชัดแล้วว่าชอบมากขนาดไหน
“ถ้ากูชวนไปมึงจะไป ?”
“ถ้าผมไปได้นะครับ” ไหวไหล่ตอบกลับ ยังไงสุดท้ายแล้วก็ต้องทำงานหนักอยู่ดี เสียดายที่ปลื้มไม่มีเลาคิดนัก จู่ๆ มือถือน้องก็ดังขึ้นมา ส่งผลให้เจ้าตัวต้องเดินไปรับสายในห้อง คุยกับเพื่อนเรื่องประตูที่ออกไปไม่ได้นิดหน่อย รวมถึงฝากให้จดประเด็นสำคัญที่คุยกันเรื่องรับน้องกลับมาด้วย
พอคุยเสร็จ ต่างคนก็ต่างก้มหน้ากินมาม่าต่อ คนโปรดมีงานต้องทำ ส่วนปลื้มก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือไป
ไม่ลืมส่งไลน์บอกเพื่อนว่าคงไปเรียนบ่ายไม่ทัน
และก็ไม่แปลกถ้าเพื่อนคนนึงจะสนใจการหายตัวไปของเพื่อนตัวเองนัก
เสือ ไม่มีก. : ติดสาวเหรอวะ
เสือ ไม่มีก. : หรือมึงแอบไปนอนกับสาวที่ไหน
เสือ ไม่มีก. : เมื่อวานไอ้เจษบอกว่ามึงพาไอ้โปรดไปส่งร้าน
เสือ ไม่มีก. : คือจีบสาวที่นั่นหรือจีบเฮดว๊ากปีสามวะ ?
“คิดเรื่องดีๆ กับกูไม่ได้เลยไอ้เพื่อนเวร” ปลื้มขมวดคิ้วแน่น ไอ้ที่ว่าเขาไปจีบสาวก็ยังพอเข้าใจ แต่ไอ้ที่บอกว่าจีบเฮดว๊ากปีสามนี่หมายความว่าไง
เขาไม่ได้ชอบผู้ชายสักหน่อย
ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะโยนมือถือลงกับโซฟา คนโปรดอยู่ในห้อง พิมพ์รายงานไม่ก็ทำอะไรสักอย่าง ถ้าเขารู้ว่าตัวเองจะมีติดอยู่ที่นี่ก็คงเอาโน้ตบุ๊คติดมาด้วยจะได้ทำงานค้าง
และในเมื่อไม่มีไรทำ เขาก็เลยลุกขึ้นเดินสำรวจรอบห้องฆ่าเวลา
“ไม่มีอะไรให้เล่นเลยเหรอวะเนี่ย” พึมพำอย่างเบื่อหน่าย มองไปทางไหนก็มีแต่หนังสือ ถึงห้องจะไม่รก ทว่ามันก็ไม่ได้ใหญ่ชนิดที่ว่าจะซื้ออะไรดีๆ เข้าห้องมาได้ แถมตอนกลางคืนก็ยังมืดพอๆ กับบ้านผีสิง เขาก็เข้าใจว่าคนโปรดเลือกที่นี่เพราะราคาคงเซฟสุดสำหรับคนที่ต้องใช้เงินอย่างเขา
แต่ไม่คิดจะเลือกทำเลที่ตั้ง หรือหอพักที่สภาพมันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง
ขนาดประตูยังเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย นั่นทางออกเดียวเลยนะ
“เบื่อเหรอครับ ?”
“อ๊ะ !” ปลื้มสะดุ้งตอนถูกทักจากด้านหลัง หันไปมองคนที่กะพริบตาด้วยความสงสัย
“ถ้าพี่เบื่อ เอาโน้ตบุ๊คผมไปเล่นก่อนไหม หรือจะดูหนังก็ได้ เครื่องเล่นดีวีดีผมก็มี”
“กูไม่ค่อยอยากดูหนังเท่าไหร่ และมึงก็ต้องใช้คอมทำงานไม่ใช่หรือไง ?”
“ตอนนี้ผมยังไม่ได้ใช้ ถ้าพี่จะใช้ก็เข้าไปในห้องผมได้เลยนะ” ยักไหล่เป็นเชิงให้คลายความกดดัน ก่อนจะก้าวเดินไปหยิบน้ำมากิน “อีกสักพักช่างคงมา เดี๋ยวผมไปเร่งป้าแมวให้”
“ไม่ต้องหรอก ยังไงวันนี้กูก็ไม่ได้จะไปไหน”
“แล้วปกติเวลาพี่อยู่บ้าน พี่ทำอะไร ?”
“สนใจ ?”
“ครับ” ขานรับง่ายๆ เพราะไม่ใช่คนปากแข็ง เล่นเอาปลื้มขมวดคิ้วแรง ถึงอย่างนั้นก็ครุ่นคิดหาคำตอบให้
“ส่วนใหญ่ก็เล่นเกม นอนแล้วก็ทำงาน”
“ไม่ออกไปไหน ?”
“ก็ไปเล่นบอล” คนโปรดพยักหน้า เขารู้ว่าอีกฝ่ายชอบเล่นบอลขนาดไหน “แล้วมึงอ่ะ ชอบทำไร ?”
“นอกจากทำงานที่สมัครไว้ ก็ทำงานค้างและนอนครับ” เป็นกิจวัตรง่ายๆ สมกับตัวเอง ธรรมดากลับบ้านมาก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด จะชอบนอนมากๆ มันก็ไม่แปลก ติดแค่เป็นคนที่รู้ว่างานตัวเองมีมากน้อยแค่ไหน ถ้าวันไหนหยุดก็รีบมาเคลียร์งานที่ค้างไว้ แล้วก็หลับยาวไปเรื่อยๆ
จนกว่าร่างกายจะรู้สึกว่าพอ
“ไม่ออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าง ?”
“ถ้ามีคนชวนก็ไป อยู่ที่ว่าวันนั้นว่างไหมด้วย” กระดกน้ำขึ้นดื่มแล้วค่อยเอาเก็บเข้าที่เดิม ต่างจากปลื้มที่พยักหน้าให้ การใช้ชีวิตของคนโปรดธรรมดากว่าที่เขาคิดไว้
นั่นก็มีเหตุมาจากสถานะทางครอบครัว
“ว่าแต่เมื่อกี้พี่บอกว่าไม่อยากดูหนังใช่ไหม ?”
“ใช่”
“งั้นเล่นเกมกันไหมครับ ?” ร่างสูงเลิกคิ้ว ทำหน้าไม่เชื่อว่าห้องนี้มีเกมที่เขาเล่นได้ “เห็นอย่างนี้ผมก็เล่นเกมเหมือนคนทั่วไปนะ จะในคอมหรือในโทรศัพท์ผมก็เล่นได้”
“มึงเอาเวลาที่ไหนมาเล่นเกม ?”
“เวลาว่าง แล้วก็ตอนนี้ที่อยู่กับพี่ไง”
“…”
“พี่อยากเล่นเกมไหนล่ะ” ว่าพร้อมเดินไปหยิบมือถือตัวเองออกมาจากห้อง เพราะดูไอจีสตอรี่ของอีกคนบ่อยก็เลยรู้ว่าเล่นเกมไหนบ้าง แน่นอนว่าเขาโหลดมาเล่นตามทุกอัน บางอันก็เล่นไม่ค่อยเก่ง บางอันก็พอเล่นได้ ส่วนใหญ่ก็แค่อยากลองเล่นไว้เผื่อจะเข้าใกล้อีกคนสักนิดนึง
ต่อให้จะไม่เคยชวนเล่นก็ตาม
“ผมมี ROV PUBG FREEFIRE”
“ไม่ยักรู้ว่ามึงเล่นเกมแบบนี้ได้”
“งั้นก็รู้ไว้สิครับ” ไหวไหล่อย่างกวนประสาท ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนปลื้มตบหัวสั่งสอนไปแล้ว “เล่นพับจีกันไหม พี่น่าจะเล่นเก่ง”
“มึงเคยเห็นกูเล่น ?”
“เคยเห็นเวลาลงในไอจีน่ะครับ”
“นี่มึงฟอลกูด้วยเหรอ ทำไมกูไม่เห็น”
“สงสัยพี่คงไม่สังเกต ผมฟอลพี่มานานแล้ว...แล้วก็ฟอลไอจีพี่ว๊ากคนอื่นด้วย” ตอบเลี่ยงๆ เพื่อไม่ให้รู้ตัวซะก่อน ทำเอาปลื้มต้องรีบเดินไปหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาดูคนฟอล ด้วยความที่เขาค่อนข้างป็อปและเป็นที่รู้จักเลยมักไม่สนใจว่าจะมีใครมาฟอลไอจีเขาบ้าง
เขาสนใจเฉพาะคนที่เขาอยากคุยด้วย หรือเพื่อนสนิทเท่านั้น ขนาดเพื่อนในสาขาบางคนเขายังไม่ฟอลกลับเลย
“ไหนไอจีมึงวะ ?” เขาถาม ขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วเปิดผู้ติดตามให้อีกฝ่ายดู “มึงคือคนไหน ?”
“พี่จะรู้ไอจีผมไปทำไม ผมไม่ได้ลงอะไรอยู่แล้ว”
“แต่มึงฟอลกู รู้เรื่องของกู ทำไมกูจะฟอลมึงกลับไม่ได้ ?”
“เพราะผมคิดว่ามันไม่จำเป็นไง พี่ฟอลคนอื่นอาจจะมีประโยชน์มากกว่า”
“กูจะฟอลก็ต่อเมื่อกูอยากฟอลเท่านั้น”
“พี่ปลื้ม”
“เอาไอจีมึงมา แล้วกูจะตัดสินใจเองว่าจะฟอลหรือไม่ฟอล”
คนโปรดนิ่งไปชั่วณะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้ฟอลแต่ในไอจีเขามีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับอีกฝ่าย ถึงจะไม่ได้เด่นชัดชนิดที่ดูแล้วจะจับได้ แต่ถ้าเห็นก็คงจะมีระแคะระคาย เว้นแต่ว่าอีกฝ่ายไม่คิดอะไร
ไม่คิดแบบไม่คิดเลย
“เอามา” ปลื้มกดเสียงต่ำ สบตากับคนโปรดที่พยายามเลี่ยงหนี “หรือว่าไอจีมึงลงรูปใครไว้ ถึงให้กูรู้ไม่ได้”
‘ลงรูปหลังของพี่ไง’
มีอยู่รูปนึงที่แอบถ่ายไว้ มันไม่ค่อยชัดหรอกเลยไม่ค่อยมีคนรู้ว่าเป็นใคร
ทว่าหากพี่เขาไปเห็นคอมเม้นที่แซวกันไว้...
ชิบหายแน่นอน
“คนโปรด”
“ผม...”
“พี่บอกให้เอาไอจีมา”
“..!!”
“อย่าดื้อกับพี่ดิวะ พี่ไม่ชอบคนดื้อ” หัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำเมื่อสรรพนามถูกเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันด้วยความอยากรู้ เล่นเอาคนโปรดถึงกับตัวตั้งตรง ใบหน้าเห่อร้อนไม่คิดว่าพี่เขาจะมาแทนตัวแบบนี้ ถึงมันจะเป็นคำว่า ‘พี่’ แบบที่ใครๆ ก็พูดกัน แต่พี่ปลื้มไม่เคยแทนตัวเองแบบนั้น
ไม่เคยเลยสักครั้งตั้งแต่ที่เราคุยกัน
แถมยังมาดุว่าห้ามดื้ออีก คำพูดแบบนั้นถ้าเป็นผู้หญิงคงละลายไปต่อหน้า
ติดแค่ว่าคนโปรดเป็นผู้ชาย
เป็นผู้ชายที่แอบชอบเขาและไหวหวั่นเหมือนกัน
“...ก็ได้ครับ” ตอบกลับเสียงแผ่ว พยายามหลบซ่อนไม่ให้เห็นว่าใบหน้าตัวเองขึ้นสีแบบไหน คนโปรดเปิดไอจีตัวเองให้พี่ปลื้มเห็นและเสริช์ชื่อตามไป นัยน์ตาสวยกวาดมองพลางกระตุกยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกคนก็อัพรูปมากมาย “มันไม่ค่อยมีอะไร...”
ติ้ง !
คำพูดของเขาถูกกลืนลงคอไป เมื่อพบว่าไอจีเขามีแจ้งเตือนใหม่
“เอาไว้ส่อง” ยกยิ้มสนุกผิดกับคนโปรดที่อ้ำอึ้งด้วยความตกใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ได้
วันที่พี่ปลื้มฟอลโล่เขากลับ
“พี่...จะฟอลผมทำไม”
“ไม่มีเหตุผล”
“…”
“อยากฟอลก็ฟอล” ยักไหล่เป็นการยียวนกวนประสาท “ส่วนตอนนี้มึงก็เข้าเกมได้ละ กูขอดูฝีมือมึงหน่อยว่าจะขนาดไหน”
“ผม...ผมเล่นไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่”
“แบบนี้กูก็ต้องช่วยมึงดิ เป็นภาระจัง” คนพี่ทำหน้าหน่ายใจก่อนจะหลุดขำ “แต่เอาเถอะ กูเคยเป็นแทงก์แบกรับมาก่อน มึงคนเดียวทำไมจะช่วยไม่ไหว”
“ไอ้ตั้มก็เคยพูดแบบนี้ พอผมทำมันตาย มันก็มาหัวร้อนใส่”
“กูจะไม่หัวร้อนหรอก เว้นมึงโง่ไปให้เขายิงตาย”
“ผมไม่...”
“แต่กูดูแลมึงได้ กูจะปกป้องมึงเอง คนโปรด” คำพูดนั้นโคตรมีอิทธิพลเล่นงานหัวใจคนโปรดให้เต้นแรงอย่างหนัก ยิ่งถูกปิดท้ายด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน ก็รู้สึกเหมือนว่าเขากำลังเข้าใกล้พี่ปลื้มไปอีกก้าว เจ้าตัวดึงแขนเขาให้มาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยกัน ต่างกดเข้าเกมและเริ่มเชื่อมต่อกัน
การเข้าเกมแข่งขันในแต่ละครั้งทำให้ค่าความเป็นเพื่อนเพิ่มขึ้นทีละนิด
เมื่อเริ่มเกมทุกอย่างดูกดดัน ปลื้มคอยสอนน้องให้รู้วิธีการใช้ปืน ใช้ระเบิด รวมถึงไอเทมต่างๆ ที่เขาเชียวชาญกว่าอีกคนมาก เนื่องจากเล่นทุกวัน
ตอนแรกคนโปรดก็งุนงงไปหมด ประสบการณ์ที่เล่นมาคล้ายกลายเป็นศูนย์ ทว่าพอเล่นไปสักพักก็เริ่มจับจุดได้ จากคนที่เคยโดนยิงจนพี่ปลื้มต้องเข้ามาช่วยทุกครั้ง กลายเป็นว่าสามารถเป็นเกราะกำบัง และเป็นกำลังให้พี่ปลื้มได้
“ทางซ้ายมีคนนึง อีกคนวิ่งไปทางขวา”
“พี่เก็บซ้ายนะ ผมเก็บขวาเอง”
“เค” พี่พยักหน้ารับใช้กล้องซูม 6X เพื่อขยายหาคนจากทีมอื่น คนโปรดเองก็ทำแบบนั้น ในเกมทั้งสองหลบอยู่ที่หลังก้อนหินใหญ่ เป็นครั้งแรกที่เล่นจนเหลือสี่คนสุดท้าย
พวกเขาสองคนจากทีมเดียวกันกับอีกฝั่งที่ไม่รู้ว่าทีมเดียวกันไหม
รู้แค่ว่านี่คือนาทีชีวิตหลังจากไม่ได้เหยียบ Top 10 มานาน
“กูปาระเบิดแล้วมึงยิงเลยนะ”
“ครับ” โปรดตอบรับจับจ้องมือถือตัวเองพร้อมกับรีโหลดกระสุนใส่ ปลื้มเม้มปากแน่น นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ขณะที่กดขวางระเบิดควันไป ไม่นานนักก็มีควันสีขาวลอยปกคลุมไว้ พวกเขาใช้โอกาสนั้นในการแฝงกาย...
และยิงคนที่ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ไหนจนได้แชมป์มาครอง !
ปังๆๆ !
‘ไชโย ! เย็นนี้กินไก่ !’
“ชนะแล้วโว้ย !!!” พี่ปลื้มตะโกนเสียงดังต่างจากคนโปรดที่หัวเราะอย่างสนุก คนพี่เขาจริงจังมากทำเอาคนน้องอดกดดันไปด้วยไม่ได้ ตอนเล่นเกมก็เครียดมากแทบไม่หายใจ พอชนะทีก็เหมือนเด็กที่ได้ของขวัญมาใหม่ ซึ่งน้องก็ดีใจไปด้วยแค่ไม่ได้เล่นใหญ่แบบพี่ก็เท่านั้น “กูนึกว่าจะตายตอนจบเหมือนตาก่อน ลุ้นจนแทบจะเข้าไปยิงเอง”
“ผมเห็นแล้ว ตาพี่นี่ถ้าสิงจอได้ก็คงทำ”
“ก็มันลุ้นนี่หว่า แต่ก็โคตรสนุกเหมือนกัน”
น้องยิ้มขำ
“แต่มึงก็เก่งมากนะ ตอนแรกก็ไก่กาอยู่หรอก แต่หลังๆ นี่ยิงหัวกระจายเลยหนิ”
“เพราะพี่สอนเทคนิคต่างหากเลยเล่นได้”
“มันอยู่ที่ว่ามึงจำและนำไปปรับใช้ได้มากแค่ไหน แต่กูเห็นชัดเลยนะว่ามึงโคตรพยายาม” โปรดพยักหน้ารับ เพราะอยากให้พี่ปลื้มสนุกระคนมีความสุขตอนเล่นด้วยกัน ก็เลยพยายามเล่นให้ดีมากๆ ขนาดตอนเล่นกับเพื่อนยังไม่ตั้งใจเท่านี้มาก่อน
ซึ่งก็บอกเลยว่าผลลัพธ์มันคุ้มค่า การได้ยินเสียงหัวเราะ รวมถึงความดีใจของพี่เขา...
มันโคตรคอมพรีทในฐานะคนแอบชอบเลย
“ทำได้ดีมากคนโปรด เก่งกว่ากูเล่นกับไอ้เสืออีกมั้ง”
“พี่เสือชอบบอกว่าผมเล่นกาก”
“มันน่ะกากตัวพ่อเลย” เจ้าตัวกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย “เล่นกับมึงสนุกกว่ามึงเยอะเลยจะบอกให้”
“แบบนี้พี่ต้องชวนผมเล่นทุกวันแล้วสิ”
“พูดเหมือนมึงมีเวลา” ผลักหัวน้องเบาๆ แสดงความหมั่นไส้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้ “เดี๋ยวก็ทำงานหามรุ่งหามค่ำอีก จะมีเวลาเล่นกับกูที่ไหน”
“ก็ถ้าว่างผมก็เล่นได้”
กึก
“ผมก็อยากพักบ้างเหมือนกัน” ปลื้มทำหน้าไม่เชื่อ พลันก็ระบายยิ้มขำ เขาไม่เคยรู้สึกสนุกเวลาที่ได้เล่นเกมกับใครขนาดนี้มาก่อน ขนาดกับเพื่อนยังมีบางช่วงที่หัวร้อน พอเป็นคนโปรดกลับด่าไม่ลง เมื่อเห็นความตั้งใจที่ฉายออกมาขนาดนั้น
แถมเวลาพูดเสียงดังก็จะพยักหน้ารับ ไม่สวนกลับเหมือนพวกเพื่อนเขาเลยสักนิด
เป็นคนที่พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา
“แต่ผมก็ไม่คิดเลยนะว่าพี่จะจริงจังกับเกมขนาดนี้ แล้วก็รู้เรื่องไอเทมเยอะเป็นบ้า”
“นี่ถ้าไม่ติดวิศวะ กูไปเรียนเขียนโปรแกรม ทำเกมขายไปแล้ว” น้องกลอกตาใส่ พี่เลยบีบจมูกเข้าให้ด้วยความมันเขี้ยว “นี่ถ้าไม่ติดว่าแบตกูจะหมด คงเล่นต่ออีกรอบ”
“ให้ผมได้ทำงานบ้างเถอะครับ” ร่างสูงยิ้มขำ ยีหัวน้องด้วยความเอ็นดูเช่นเดียวกับน้องที่ยิ้มด้วยความดีใจ ไม่คิดเลยว่าการได้อยู่ใกล้กับคนที่ชอบ มันจะดีมากขนาดนี้
การได้เล่นเกมได้ใกล้ชิดสำหรับคนโปรดแล้วไม่เพียงแค่ทำให้ค่าความสัมพันธ์ในเกมเพิ่มขึ้น
มันยังทำให้ความตึงเครียดกับบรรยากาศรอบด้านพวกเขาผ่อนคลายลงอีกด้วย
เป็นสัญญาณที่ดี
ก็อกๆ !
“หนูโปรด อยู่ในห้องไหม ?”
“นั่นใคร ?”
“น่าจะป้าแมว” ทั้งสองชะงักเมื่อบานประตูถูกเคาะเรียกจากด้านหลัง เสียงที่คุ้นเคยรั้งให้คนโปรดรีบลุกขึ้นจากโซฟา ตรงไปหาทางออกเดียวที่ถูกปิดตายอยู่ “ป้าแมวใช่ไหมครับ ?”
“ใช่จ้า ป้าเอง ป้าพาช่างมาแล้วเลยมาเรียกเราก่อนจะได้รู้ว่าอยู่ไหม” คนโปรดเงี่ยหูฟังเนื่องจากประตูค่อนข้างหนาเลยไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นก็ดังพอที่จะรู้ว่าพูดอะไร “เดี๋ยวป้าให้เขาซ่อมประตูให้นะลูก”
“ครับป้า” เจ้าตัวขานรับแล้วผละถอยมาให้ห่าง พี่ปลื้มที่เห็นก็เดินมาอยู่เคียงข้างรอดูว่าช่างจะซ่อมยังไงให้ประตูกลับมาใช้ได้ตามเดิม อีกส่วนก็คือตื่นเต้นที่ได้จะกลับบ้านหลังจากคลุกตัวอยู่ที่นี่ทั้งวัน
หนำซ้ำเพิ่งจะเห็นว่าปล่อยเวลาเลยผ่าน นี่มันสี่โมงกว่าแล้ว
ครืนๆ
“เขาไม่ได้จะพังห้องมึงใช่ไหมวะ ?” หันมาถามตอนได้ยินเสียงอะไรสักอย่างที่ดังสนั่นจนปวดหู “หรือว่าเขาตั้งใจจะพังห้องมึง ?”
“เขากำลังช่วยเราอยู่ พี่ก็คิดไปเรื่อย” น้องส่ายหัวอย่างหน่ายใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงนี้ คราวก่อนสิที่โคตรตกใจ ก็ไม่รู้ว่าช่างซ่อมประตูอีท่าไหน เพดานด้านนอกถึงกลายเป็นรูโหว่จนนึกว่าเอาค้อนมาทุบ ทว่าระหว่างที่พวกเขาซ่อมกันอยู่ มือถือของปลื้มก็ดังขึ้นเลยต้องปลีกตัวไปรับสาย
คนโปรดเลยยืนมองประตูสั่นอยู่เพียงลำพัง
ใช้เวลาไม่นานประตูก็ถูกเปิดเข้ามาด้านใน
“ป้าแมวสวัสดีครับ”
“สวัสดีจ้าคนโปรด ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?”
“ผมสบายดีครับ ขอบคุณที่พาช่างมาให้” โปรดยกมือไหว้เจ้าของหอ รวมถึงช่างที่มาซ่อมประตูให้ตามมารยาท ยกยิ้มบางๆ ให้รู้ว่าไม่ถือสาที่หอนี่เริ่มจะตั้งแง่กับคนโปรดขึ้นเรื่อยๆ “และก็ขอโทษนะครับที่รบกวน ถ้าผมติดอยู่คนเดียวก็คงรอได้”
“ไม่เป็นไรๆ ยังไงป้าก็ต้องดูแลคนในหออยู่แล้ว เรื่องแค่นี้สบายมาก” ป้าปัดมือไปมาเป็นเชิงไม่ให้สนใจ “เอ้าๆ พวกแกไปดูลูกบิดสิว่ามันเป็นอะไร ซื้ออันใหม่มาเปลี่ยนให้แล้วไม่ใช่เหรอ รีบทำสิ”
“ครับเจ๊” ช่างรีบทำตามสั่ง ช่วยดูลูกบิดและดูขอบประตูให้ คนโปรดโล่งใจที่คราวนี้เขาซ่อมให้ดีกว่าคราวก่อน และหวังว่ามันจะอยู่ได้นานพออย่างที่หวังไว้
ประจวบเหมาะที่ปลื้มคุยกับปลายสายเสร็จพอดีถึงเดินกลับมา
“เรียบร้อยแล้วเหรอวะ ?”
“ครับ” โปรดขานรับ “ช่างเขาเปลี่ยนลูกบิดใหม่แล้วก็ดูตัวลงกลอนให้”
“ค่าเสียหายเท่าไหร่ ?”
“ป้าแมวเขาออกให้ครับ” ปลื้มพยักหน้ากะว่าถ้าช่างมาจะคุยเรื่องทำลูกบิดใหม่ ถ้ามันต้องเสียเงินเขาก็ยินดีจะจ่าย ดีกว่าให้ไอ้ตัวเท่าหัวไหล่อยู่กับความไม่ปลอดภัยนี่ไปเรื่อยๆ
เกิดวันดีคืนดีในห้องมีปัญหา แล้วประตูดันมาติดแบบนี้อีกจะทำไง
จะไปหวังพึงปีนห้องข้างๆ ก็คงไม่ได้ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
“พี่จะกลับเลยไหมครับ ผมจะได้ไปเอาชุดให้”
“อือ เอามาเลยก็ได้ กูจะได้เปลี่ยนเลยไม่ต้องเอาชุดมึงไป”
“ได้ครับ...”
“วันหลังหาชุดที่มันตัวใหญ่ๆ หน่อยได้ไหม อึดอัดจะตายห่า” โปรดหลุดขำเพิ่งสังเกตว่าชุดนี้ทำให้เห็นกล้ามอกพี่ปลื้มแน่นขนาดไหน ดีนะที่กางเกงมันหลวมเลยใส่สบาย มีแค่ช่วงบนนั้นแหละที่เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้
ว่าจะไม่สนใจแล้วนะ พี่เขาดันพูดขึ้นมาเอง
พลันก็ต้องหยุดคิดใหม่
“พูดงี้หมายความว่าไง พี่จะมาห้องผมอีกเหรอ ?”
“เอ่อ...” พี่ปลื้มอึกอัก เมื่อกี้พูดไปก็ไม่ทันคิด “ก็แค่เผื่อไว้ เกิดวันไหนรถติดจะได้แวะ...มาหลบฝนที่นี่”
“ถึงขั้นเปลี่ยนชุดก็ไม่น่าจะแค่หลบนะพี่”
“อย่ามาเซ้าซี้น่า ไปเอาชุดมา กูจะกลับแล้ว” เต๊ะท่าโหดคืนโหมดพี่ว๊ากใส่ ส่งผลให้คนโปรดได้แต่โคลมหัวไปมาคล้ายระอาใจ ปลื้มเลยดันไหล่น้องให้ไปเอาชุดนักศึกษาเขาที่ผึงไว้มาให้ จะได้เปลี่ยนชุดกลับบ้านซะที “ว่าแต่มึงต้องไปทำงานไหม ถ้าไปเดี๋ยวกูไปส่ง”
“ไปส่งผมเดี๋ยวก็ติดฝนอีกหรอก ผมไปเองน่าจะดีกว่า”
“ทำไมวะ ก็ทางผ่านอยู่แล้ว จะไปส่งมันผิดตรงไหน”
“ก็ผมเกรงใจพี่ไง พี่ช่วยผมมาเยอะแล้วครับ” ระบายยิ้มบางตอนส่งเสื้อนักศึกษาให้ “อีกอย่างวันนี้ผมก็ทำให้พี่โดนเช็คขาด เมื่อวานก็เป็นภาระพี่อีก ถ้าให้พี่ไปส่งอีก มีหวังสำนึกผิดไม่ทัน”
“ก็กูเต็มใจ มึงไม่ได้บังคับกูให้ทำสักหน่อย”
“เพราะงั้นผมถึงควรจะเกรงใจให้มาก และตอนนี้ผมก็เกรงใจจนไม่รู้จะเกรงใจยังไง”
“เวลาคนเขาหยิบยื่นน้ำใจให้แปลว่าเขาเต็มใจที่จะช่วยมึงไอ้ตัวเท่าหัวไหล่”
“อะ...”
“เพราะงั้นเรื่องอะไรที่ไม่จำเป็นต้องแบกรับไว้ ก็ให้คนอื่เขาแบ่งเบาไปบ้างก็ได้ อย่าทำเป็นเก่งตลอดเวลานักเลย” เป็นถ้อยคำตำหนิที่รับรู้ได้ถึงความจริงใจที่มอบมาให้ “กูจะไปส่งเพราะงั้นไปเปลี่ยนชุด พอส่งเสร็จกูก็จะกลับ มึงจะได้ไม่ต้องเกรงใจ”
“แต่...”
“อย่ามาดื้อกับกูเข้าใจไหม กูเต็มใจไปส่งมึง” ตัดจบแค่นั้นแล้วหยิบเสื้อเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เล่นเอาคนโปรดได้แต่กะพริบตามองปริบๆ ยกมือขึ้นกุมหัวใจที่เต้นแรงของตัวเองนิดหน่อย เขารู้สึกว่าวันนี้ตัวเองได้รับการฮีลลิ่งจากคนที่ชอบ มันทำให้ทุกความเหนื่อยล้าแลดูจะหายวับไปกับตาทั้งที่มันสะสมมานานยิ่งกว่าดินบนภูเขา
ราวกับว่าพี่ปลื้มกำลังชดเชยช่วงเวลาที่เขาสูญเสียไปให้
และด้วยความที่ถูกหมัดมือชก คนโปรดเลยต้องเดินกลับเข้าไปในห้อง เปลี่ยนชุดสำหรับทำงาน จากนั้นก็เดินออกมาหาคนที่ยืนรออยู่ ปลื้มสั่งให้น้องเช็คลูกบิดประตูอีกรอบ กันไว้ก่อนเผื่อว่ากลับมาแล้วเข้าห้องไม่ได้
แบบนั้นคงต้องมีคนนอนนอกห้องโดยสมบูรณ์
“วันนี้ทำร้านพี่ง่วงเหรอ ?”
“ครับ” ร่างโปร่งตอบรับเมื่อพี่เขาขับรถมาส่งที่หน้าร้าน เวลานี้คนยังไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้อีกคนก็พาเข้าเซเว่นไปหาอะไรกินมา
เป็นการกินแบบไม่ได้มองหน้า ต่างคนต่างหยิบกินเท่านั้น
“แล้วเลิกกี่โมง เที่ยงคืนแบบวันนั้น ?”
“ถ้าคนไม่เยอะก็ประมาณนั้นครับ ถ้าคนเยอะก็ดึกหน่อย”
“ไม่บอกให้พี่ง่วงรับคนเพิ่มวะ คนมันดูน้อยๆ”
“นี่ก็เยอะแล้วนะครับ แค่ลูกค้าเยอะกว่าเอง”
“กวนตีน” โปรดหัวเราะก่อนจะหยิบกระเป๋าเตรียมลงจากรถไป
“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง แล้วก็ขอโทษด้วยที่รบกวน”
“บอกว่าไม่ได้รบกวนไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอวะ” ย่นคิ้วใส่ฉายถึงความหงุดหงิด “ถ้ามึงคิดว่ากูลำบากใจอีก กูจะต่อยปากมึงให้ช้ำต่อ”
“ต่อยเสร็จก็ซื้อยากับนมมาให้ด้วยนะครับ”
“ไอ้...”
“ถ้าไม่ซื้อมา เดี๋ยวผมไม่มีแรงปากเก่งกับพี่นะ”
“สงสัยกูต้องลองสักหมัดแล้ว”
“ไว้หลังเลิกงานนะครับ ตอนนี้ผมต้องไปแล้ว” ห้ามทัพไว้ก่อนแม้จะรู้ว่าอีกคนไม่ทำจริงก็ตาม “ยังไงก็กลับบ้านดีๆ นะครับ ขอบคุณอีกครั้งที่มาส่ง”
“อย่าลืมกินยาด้วยอะ แล้วก็หาอะไรติดบ้านไว้กินหน่อย”
“รู้แล้วครับ ผมไปนะ”
“อือ” พยักหน้านิ่งๆ มองน้องที่เปิดประตูลงจากรถไป คนโปรดก้มมองนาฬิกาข้อมือตัวเองนิดหน่อยพบว่าอีกไม่นานเขาต้องไปแสตนบายเตรียมเข้าทำงานแล้ว ทว่าในตอนที่กำลังจะเดินต่อ คนในรถกลับบีบแตรใส่
ส่งผลให้คนโปรดหันมาขมวดคิ้วเข้าให้ พี่ปลื้มเลยลดกระจกลงมาเพื่อให้เจ้าตัวก้มมาคุยกัน
“อะไรครับ ผมลืมอะไรเหรอ ?”
“เปล่า แค่กูจะขอเบอร์โทร”
“หา ?”
“เอาไว้ชวนเล่นเกม” พูดพร้อมส่งมือถือมาให้น้อง ทำเอาคนโปรดนิ่งชะงัก ชั่วจังหวะนึงกลายเป็นปลื้มที่ต้องเบือนหน้าหนีเพราะดันเขินกับการกระทำนี้ทั้งที่คนโปรดควรจะรู้สึกแบบนั้น
“มีไอจีไม่พอเหรอครับ ในเกมพี่ก็แอดผมไว้แล้วนะ”
“ก็มึงดูไม่ค่อยเล่นไอจีอ่ะ แล้วเกมกว่ามึงจะเข้ามาตอบกูก็คงเลิกเล่นไปแล้ว” กลบเกลื่อนตามประสา ก่อนจะเปลี่ยนมาย่นคิ้วใส่ “บอกให้เอาเบอร์มาก็เซฟให้หน่อยจะเป็นไร ยังไงก็ต้องคุยกันเรื่องรับน้องอีก”
“แล้วมาเจอกันไม่ดีกว่าเหรอครับ พี่บอกว่าเจอของจริงมันดีกว่าหนิ”
“ก็ถ้าไม่โทรนัดกันแล้วจะเจอตัวจริงไหม”
“…”
“แล้วเผื่อมีเหตุฉุกเฉินอะไร จะได้ติดต่อกันได้ไง เข้าใจหน่อยดิคนโปรด”
LOADING 100 PER
เรียนรู้ทีละนิด ให้ใกล้ชิดทีละน้อย
การเปลี่ยนแปลงเริ่มเปลี่ยนไปทีละหน่อย อย่าเพิ่งใจร้อนของแบบนี้ต้องใช้เวลา
ให้เขาเรียนรู้กันไปทีละน้อยนะ เพราะมันสำคัญกว่าอะไรที่ไปเร็วกว่ามาก
มาคอยลุ้นคอยเชียร์ไปด้วยกัน
สวัสดีปีใหม่นะคะ :)
สกรีมลงแท็กเมื่อหวีดความปลื้มคนโปรด
#ปลื้มคนโปรด
ติดตามนักเขียนได้ที่
เพจ Aelisma / Avery Pie
ทวิต ael_2543
หรือจิ้มที่รูปนะงับ
///น้องโปรดดด ห้าม ห้าม ห้ามดื้อกับพี่เขาบ่อยนักสิ่ลูกกก ดื้อเก่งจังเลยคะคนนี้เนี่ยยย //ละลายเวลาพี่มันเรียกน้องว่า"คนโปรด"อ่ะ โอ่ยยยยยยยย อ่านเเล้วใจบางงงงงงงง เป็นเค้านะเค้าคงละลายติดอยู่กับพื้นอ่ะ งื๊ออออออออ พี่มันนั๊ลคั๊คคคค
รู้ตัวไหมว่าทำฉันเขินหนักมาก เขินกับการกระทำที่ขัดกับคำพูดมากกก
คนเค้าเริ่มมีใจอะ เข้าใจหน่อย5555
ต้องขอบคุณไรท์ นอกจากจะฟินกับนิยายแล้วดันฟินกับคู่จิ้นคริสสิงโตด้วย ถามว่าทำไม พี่น้อง7ปี พี่จำน้องได้เพราะรอซ้อมว๊าก แอร๊ยยย น้องเล่นเกมเพราะพี่ติดเกม แอ่กๆ รีดเชื่อมโยงเก่งง ผั่วะ! โอ๊ย! ใครตบหัว?
ใครสักคน:พื้นที่หวีดนิยายเว้ยยย ไม่ใช่หวีดคริสสิงงง
--เค้าขอโทษ //เผ่นไปแล้ว
จาวววว