ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหลี่ยมรักเสน่ห์ร้าย

    ลำดับตอนที่ #49 : สุขใดจะเท่าได้แกล้งคุณ(2)

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 65


     ชอบให้ขับช้าๆเดี๋ยวพ่อจัดให้ 

    ความเร็วของเครื่องยนต์ลดลงเรื่อยๆ แม้แต่มอเตอร์ไซด์ที่ตามหลังสามารถวิ่งแซงไปได้ ธนายังลดกระจกปิดแอร์วิ่งเหมือนกำลังขับรถชมทิวทัศน์ข้างทางเสียอย่างนั้น

    ความเร็วของรถยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ครั้นตอนที่วิ่งผ่านสุนัขตัวหนึ่งที่นอนอยู่ข้างทาง เขาก็แกล้งขับเฉียดบีบแตรใส่มันเสียงดังลั่น 

    ไอ้เจ้าตูบคงแค้นมันเห่าวิ่งไล่รถของเขา เสียงเห่าของสุนัขด้านนอกนั้นน่ารำคาญก็จริงแต่ยังไม่เท่าเสียงผิวปากของโชเฟอร์ในรถ

    “ปลัด! แกล้งฉันใช่ไหม”หลังจากพยายามใจเย็นมาหลายอึดใจก็ต้องถามเขาอย่างเหลืออดอีกครั้ง

    “เธอว่าไงนะ”เพราะเสียงเจ้าดำที่ไล่เห่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยดังแข่งกับเสียงของหญิงสาว ทำให้ธนาต้องแคะหูถามซ้ำอีกครั้ง

    “โอ้ย!ไอ้หมาบ้าจะเห่าอะไรกันนักหนา ช่วยปิดกระจกก่อนได้ไหม” หญิงสาวหันไปเอ็ดเจ้าดำจากนั้นก็หันมาสั่งธนา

    “ให้ฉันทำอะไรนะ”คนหูตึงตะโกนถามหญิงสาวแข่งกับเสียงสุนัขข้างทาง

    “ฉันบอกให้ปิดกระจก ต้องตะโกนให้หูแตกก่อนหรือไง”กุ้งนางตะโกนใส่เขาเสียงดัง

    “อ้อ! เข้าใจแล้วปิดกระจกบอกกันดีๆก็ได้ ทำไมต้องตะโกนเสียงดังด้วยล่ะ ไม่อายหมอฟ้าหรือไง”คนตัวโตหันไปตำหนิหญิงสาวที่นั่งหน้างอ

    “คุณแกล้งฉัน! คุณแกล้งฉัน!”เห็นว่าเขากดเลื่อนกระจกขึ้น กุ้งนางที่เหลือทนก็ตะโกนต่อว่าเขาอย่างคนขาดสติ

    หากกลายร่างเป็นยักษ์ได้ คงหักคอจับร่างบึกบึนนั้นฉีกออกเป็นชิ้น กลืนกินเขาลงท้องให้หายแค้น 

    “มีเหตุผลอะไรถึงคิดว่าฉันแกล้งเธอ”เขาถามอย่างพาซื่อแต่ใจกลับมีความสุขที่เห็นหญิงสาวเกือบมีอาการเต้นแร้งเต้นกา

    “ฉันไม่ได้โง่ คุณขับรถช้าเหมือนเต่าคลาน จงใจให้หมามันไล่เห่า เป็นเพราะคุณตั้งใจแกล้งฉันต่างหาก”

    “เรื่องแค่นี้ก็คิดว่าฉันแกล้ง ใครกันกลัวรถจะคว่ำ หาว่าฉันจะไปตามควาย แกล้งให้หมาไล่เห่ามั่งละ บอกตามตรงไอ้หมาตัวนั้นฉันก็ไม่รู้จักกันมาก่อนเดาไม่ถูกว่ามันตั้งใจเห่าใคร เอาใจเธอไม่ถูกแล้วเนี่ย”

    “ไม่มีใครจะบ้าขับรถแบบคุณอ้อ! แล้วไอ้ดำตัวนั้นฉันก็ไม่รู้จักเหมือนกัน”คนตัวเล็กโมโหจนเดือดปุด ลืมไปว่ายังมีประกายฟ้านั่งดูมวยสดอยู่ที่เบาะหลังอีกคน

    ‘หรือมันมันจะเห่าฟ้า’

    คุณหมอสาวทำหน้าบ้องแบ๊ว นึกอยากถามขึ้นมากลางปล้องแต่ก็เลือกที่จะสงบปาก 

    “ก็เธอให้ขับช้าๆก็ช้าแล้วไง”ธนายังเถียงข้างๆคูๆ

    “ฉันหมายถึงให้คุณลดความเร็วลง แต่ไม่ใช่คลานจนจักรยานยังแซงรถบุโรทั่งของคุณได้ แบบนี้ไม่เรียกว่าแกล้งแล้วเรียกว่าอะไร”

    “ไม่คิดว่าตาลุงนั้นอาจจะแข็งแรงมีแรงเยอะจนปั่นจักรยานแซงรถฉันไปได้เหรอ”เขายังคงแกล้งยั่ว แม้แต่คุณหมอที่นั่งมาด้วยอ่อนใจกับลีลาของพี่ชาย

    “จะแกล้งเซ่อไปถึงไหน จอดรถตีกันก่อนดีกว่าไหม” 

    พูดจบกำปั้นก็ทุบไปหลังไหล่ของปลัดหนุ่มอย่างเหลืออด คนตัวโตแกล้งร้องโอดโอยยกมือขึ้นปัดป้อง 

    “เกิดของขึ้นหรือไง ฟ้าจ๋า! ช่วยด้วยคนใจร้ายจะฆ่าพี่”เขาทำเสียงอ่อนหันไปฟ้องน้องสาวที่นั่งอมยิ้มที่เบาะหลัง

    ‘ฟ้าไม่กล้าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงหรอกค่ะ อยากกวนดีนักโดนเสียมั่งก็ดี’ ประกายฟ้านั่งนิ่งคิดในใจ ไม่วายนึกสมน้ำหน้าพี่ชาย

    พอโดนทุบหลายที่เข้าชายหนุ่มก็หักพวกมาลัยจอดรถข้างทางมือใหญ่รวบข้อมือนุ่ม

    “มือหนักนักนะ ทุบให้มั่งอย่าร้องขอความปราณี”คนตัวโตขู่คนตัวเล็กแววตาเป็นประกาย

    “กล้าทำผู้หญิงก็เอาสิ” 

    “ทำไมจะไม่กล้าแต่บอกไว้ก่อนฉันไม่ใช้มือทุบหรอก เนื้อนิ่มๆอย่างเธอมันต้องใช้ปากหรือไม่ก็จมูก”

    เขาออกแรงดึงคนตัวเล็กเข้าหาตัวก้มหน้าชิดใบหน้าหวานที่กำลังทำตาดุขู่เขา

     

    ฝากผลงาน ภรรยาไร้เงา

       ความผิดพลาดในวันนั้น ทำให้เธอ ด้อยค้า ยังถูกเขาตราหน้าและด่าว่าเสียๆ หายๆ

     

               เธอตัดสินใจออกจากชีวิตของเขาพร้อมกับเลือดเนื้อเชื้อไขที่เขาไม่ยอมรัย โดยไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งจะกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง 

                       เพื่อตอกย้ำว่าเธอคงเป็นได้แค่ ภรรยาที่ไร้เงา !

    กดลิ้งค์ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1503241

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×