คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : รักในตลาดสด(3)
วันต่อมา...
“ไอ้จ่อย! อยู่ไหนเนี่ยเรียกจนคอจะแตกแล้วยังไม่โผล่หน้ามาอีก”
เสียงโหวกเหวกของชายวัยใกล้เกษียณในชุดสีกากียืนท้าวเอวที่หน้าระเบียงอย่างหงุดหงิด
“เรียกจนคอจะแตกก็หยุดตะโกนสิจ้ะพ่อ ต้องหัดเกรงใจคนจะหลับจะนอน”
ไอ้จ่อยที่ ‘แสน’ หรือ ‘กำนันแสน’ ของชาวบ้านแถบนั้นตะโกนหาจนคอแห้งแต่กลับไม่โผล่หัวมา
กำนันแสนหันหลังมาที่ต้นเสียง เห็นลูกสาวยืนผมยุ่งอ้าปากหาวอย่างไม่คิดจะรักษากิริยาผู้หญิงก็รู้สึกขัดลูกกะตาพิกล
“ข้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจใคร นี่มันไม่ใช่เวลานอนแหกขี้ตาดูสิว่ามันสายโด่งขนาดไหนแล้วแม่กุ้งนาง”
“ก็คนมันนอนดึกมันก็ต้องตื่นสายเป็นธรรมดา คุณพ่อจ๊ะคุณพ่อจ๋าจะอะไรกันนักกันหนา”
หญิงสาวเดินกระเง้ากระงอดไปนั่งที่เก้าอี้รับแขก คนเป็นพ่อก็เดินมานั่งด้านฝั่งตรงข้าม อดที่จะเหน็บแนมหญิงสาวไม่ได้
“เป็นสาวเป็นนางนอนตื่นสายจนตะวันแยงก้น รู้ไปถึงไหนก็อายไปถึงนั่น”
“ถึงว่าสิตอนฉันตื่นถึงรู้สึกแสบๆคันๆ...ยังไงชอบกล” หญิงสาวแกล้งเอามือตบสะโพกตนเองเว้นช่องไฟไว้ให้คนเป็นพ่อคิดเอาเอง
กาแฟที่กำลังซดคล่องคอเกือบสำลัก กำนันแสนกระแทกถ้วยในมือลงบนโต๊ะถลึงตาใส่บุตรสาวอย่างปรามๆ แต่หญิงสาวกลับทำหน้าทะเล้นหัวเราะคิก
“กุ้งนาง! จะพูดจาหรือทำอะไรหัดรักษากิริยาให้สมกับเป็นผู้หญิงไว้บ้าง”
“ก็ใครเป็นคนเริ่มก่อน ว่าแต่พ่อจะไปไหนแต่เช้าแต่งซะเต็มยศ”หญิงสาวเฉไฉรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อเห็นว่าบิดาหน้าตึงขึ้นมาจริงๆ
“วันนี้มีประชุมอำเภอ ว่าแต่ไอ้จ่อยทำไมยังไม่โผล่หัวมาอีก”
“มันคงตื่นสายมั้ง”
“อุตส่าห์สั่งไว้แล้วว่าจะไปแต่เช้า ไอ้นี่! ชักเอาใหญ่แล้ว”
“เมื่อคืนกว่าบอลจะเลิกก็เกือบสว่างแล้วส่งสารจ่อยมั้งเถอะพ่อจ๋า”
“เจริญกันจริงๆ ทั้งลูกพี่ลูกน้องบอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้ารู้ว่ามีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะเจอดีแน่”
กำนันแสนชี้หน้าหญิงสาวอย่างคาดโทษ ท่าทางจริงจังจนคนเป็นลูกรู้สึกหวาดๆขึ้นมา
“เกลียดนักไอ้ผีพนันมีแต่จะพากันลงเหว”คนเป็นพ่อบอกเสียงเข้ม
“ไม่หรอกพ่อ รับรองได้ฉันกับจ่อยก็ดูๆให้สนุกไปอย่างนั้น ใครจะกล้าไปแทงมันผิดกฎหมาย”กุ้งนางบอกน้ำเสียงจริงจัง
“เป็นอย่างนั้นได้ก็ดี ไม่เฉพาะแต่บอลนะรวมทั้งการพนันทุกชนิด ถ้ารู้ว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดนแพ่นกบาลแน่”กำนันแสนชี้หน้าบุตรสาวพลางนึกในใจ
‘ลำพังแค่แก่นกะโหลกกระโดกกระเดกก็พอทน ถ้ายังขืนอุตริหัดเป็นเซียนพนันอีกอย่าง มีหวังข้าคงกลุ้มใจตายแน่’
“พ่อกำนันจ๋าอย่าขู่กันนักเลย ลูกบ้านกลัวจนตัวสั่นแล้ว”เสียงหวานแกล้งทำเสียงเล็กเสียงน้อยจนคนเป็นพ่อหมั่นไส้ค้อนให้วงใหญ่
“หัดเอาเวลามาสนใจงานบ้านงานครัว เวลาออกเรือนไปจะได้ไม่มีใครตำหนิได้”
เพราะรู้ว่าลูกสาวของตนไม่เอาไหนในเรื่องการบ้านการเรือน แม้แต่ทอดไข่ดาวยังไหม้เป็นต่อตะโก
คนเป็นลูกต้องกลั้นยิ้มเมื่อเห็นผู้ชายตัวใหญ่อายุเลยวัยทองนั่งค้อนตาเหลือกตาคว่ำ กิริยานั้นดูไปแล้วก็ไม่ต่างจากผู้หญิงวัยเดียวกันสักเท่าไร
“พ่อจ๋าอย่าบ่นนักเลย ถึงเวลาแล้วมันก็เป็นเองแหละ ยังไงฉันก็เป็นลูกสาวคนเดียวจะขออยู่ดูแลพ่อจนแก่ตาย”ไม่พูดเปล่าแต่ยังขยับมานั่งเก้าอี้ตัวติดกันกอดแขนเอียงศีรษะซบลงที่ไหล่คนเป็นพ่อด้วยท่าทางประจบประแจง
กำนันแสนถึงกับถอนหายใจอย่างยอมแพ้ พอเจอไม้นี้ทีไรจากที่ตั้งใจจะว่ากล่าวสั่งสอนเป็นต้องใจอ่อนเออออตามน้ำไปทุกที
จะโทษใครได้นอกจากตนเอง เพราะตั้งแต่ที่เมียรักตายจากไป เขาก็ครองตัวเป็นโสดเลี้ยงลูกคนเดียว เขาเองก็ไม่รู้วิธีที่จะสอนลูกสาวให้เป็นกุลสตรีเหมือนกับลูกสาวบ้านอื่น กว่าจะรู้สึกได้กุ้งนางก็โตขึ้นมาพร้อมกันความแก่นแก้ว แสบ ซน
“เราก็เป็นอย่างนี้ทุกที ว่าแต่วันนี้ไม่ไปทำงานหรือไงสายป่านนี้แล้ว”
กำนันแสนลูบศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปเท่าไรแต่ในความรู้สึกของคนเป็นพ่อ ลูกก็ยังเป็นเด็กเล็กอยู่วันยังค่ำ
“วันนี้เป็นเวรหยุด ฉันกะว่าจะลากยาวเสียหน่อยก็ต้องมาตื่นเพราะเสียงพ่อเนี่ยแหละจ้ะ” กุ้งนางผงกศีรษะถอยออกจากแสนแกล้งทำเง้างอนใส่
“อ้อ! เป็นความผิดของข้าสินะ ไงถึงเป็นงั้นไปได้ ว่าแต่เวรหยุดแบบนี้หวังว่าคงจะอยู่บ้านไม่ออกไปก่อเรื่องที่ไหนอีก” คนเป็นพ่อสั่งความอย่างรู้ทัน ไม่สนใจกิริยาของลูกสาว
"รับรองจ้ะ วันนี้ฉันอยู่บ้านจะนอนให้ท้องขึ้นไปเลย”คนเป็นลูกส่งยิ้มรับปากอย่างแข็งขันแต่ในใจกลับคิดไม่ตรงกับปาก
ความคิดเห็น