คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : รักในตลาดสด(2)
“หวานจ๋า! มีอะไรให้พี่ช่วยอีกไหมจ๊ะ”
จ่อยยกมือขึ้นปาดเหงื่อเมื่อแบกลังผลไม้เป็นลังที่สามวางไว้ข้างแผง แต่ยังไม่วายถามสาวน้อยวัยกระเตาะลูกสาวเจ้าของแผงผลไม้เสียงหวาน
“หมดแล้วละ ขอบใจพี่มากเลยนะเกรงใจพี่จ่อยจริงๆมาตลาดทีไรก็ช่วยยกของให้ทุกทีเลย”
น้ำหวานบอกอย่างเกรงใจพร้อมกับหลบตาอย่างเขินอายเมื่อเห็นอีกฝ่ายส่งสายตาหวานเชื่อม
“ ไม่เป็นไร สำหรับหวานแล้วพี่จ่อยเต็มใจบริการ คราวหน้าพี่มาช่วยอีกนะ แม่หวานคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม”พูดไปก็ยกชายเสื้อเช็ดเหงื่อตัวเอง
“ไม่ว่าหรอกจ้ะ กินน้ำเย็นๆให้หายเหนื่อยก่อน ดูสิเหงื่อท่วมเชียว”
สาวน้อยส่งแก้วน้ำแข็งจ่อยก็รีบรับมือหนาสัมผัสมือนุ่มของน้ำหวานอย่างจงใจ
“น้ำมันช่างหวานและเย็นชื่นใจ สมกับเป็นน้ำของน้ำหวานจริงๆเลยเชียว”จ่อยหยอดคำหวานจนสาวน้อยแก้มแดง มือไม้บิดไปมาอย่างกระดากอาย
ยิ่งเห็นแก้มแดงๆจ่อยก็อยากจะรู้ว่ามันจะหอมสักขนาดไหน ไหนจะปากอิ่มของหญิงสาวนั้น พาให้จินตนาการรสชาติของมันคงหวานไม่น้อยกว่าน้ำในมือของเขา คิดแล้วก็ยกหลอดดูดน้ำพร้อมกับหลับตาพริ้ม มโนเอาว่ากำลังได้ดูดลิ้มชิมรสเจ้าของน้ำหวานแก้วนี้
“ไอ้จ่อย! มาสาระแนอะไรอยู่ที่นี่”
เสียงแหวคุ้นหู พอลืมตาขึ้นก็เห็นหน้าถมึงทึงของเมี้ยน น้ำหวานชื่นใจที่กำลังจะกลืนลงคอถูกพ่นพรืดออกมาทันที ยังไม่ทันจะไอก็ต้องร้องลั่นเมื่อมือเหี่ยวๆของเมี้ยนยื่นมาบิดที่ใบหูของจ่อยจนหน้าหันไปตามแรง
“โอ๊ย! เจ็บจ้ะป้า”จ่อยแกล้งร้องเสียงดังเกินจริง
“แค่นี้ทำเป็นสำออยไอ้ตัวดี! แทนที่จะไปช่วยข้ากับคุณหนูถือของ กลับมาจีบแม่ค้าเสียนี่”เมี้ยนมองหน้าจ่อยสลับกับน้ำหวาน
“พี่จ่อยเขามีน้ำใจมาช่วยฉันยกผลไม้นะจ้ะ”น้ำหวานรีบออกรับเมื่อเห็นพี่จ่อยยอดดวงใจของเธอกำลังถูกตำหนิ จึงทำให้ถูกคนปากไวเล่นงานไปด้วยอีกคน
“เอ็งก็เหมือนกัน เพิ่งจะเป็นสาวไม่กี่วันปล่อยให้ผู้ชายยืนจีบอยู่ได้ แล้วนี่แม่เอ็งไปไหน”
“แม่ไม่อยู่...ออกไปธุระ”น้ำหวานตอบไม่เต็มเสียง
“ถึงว่าสิ ไอ้จ่อยถึงมาป้วนเปี้ยนแถวร้านเอ็ง ปล่อยให้ข้าหิ้วของจนแขนจะหักเอาของพวกนี้ไปเก็บไว้ที่รถ”เมี้ยนยื่นถุงที่พะรุงพะรังในมือให้หลานชาย
“ป้าซื้อของเสร็จแล้วเหรอ”จ่อยทำหน้าแหยรับของ จากนั้นก็หันซ้ายขวามองหาคุณหนูของเมี้ยน
“แล้วพี่กุ้งนางไปไหน ไม่ได้มากับป้าหรอกเหรอ”
“คุณหนูเดินไปซื้อไข่ที่ร้านตาแฉะ เอ็งรีบเอาของไปเก็บแล้วตามไปช่วยคุณหนูถือของอย่างด่วนเลย”
“ได้จ้ะ พี่จ่อยไปก่อนนะน้องหวานจ๋า”
จ่อยหันไปบอกคนรักอย่างเสียดาย นานๆจะมีโอกาสเหมาะแบบนี้ เพราะตั้งใจจะคิดค่าแรงเป็นหอมแก้มแดงๆนั้นสักฟอด นึกแล้วก็เคืองคนเป็นป้า‘อดเลยกู’จ่อยคิดอย่างเซ็งๆ แต่ไม่ได้เอ่ยออกมา
“วันหลังพี่จ่อยมาช่วยน้ำหวานยกของอีกนะ สวัสดีนะจ๊ะป้าเมี้ยน ” น้ำหวานยกมือไหว้เมี้ยนก่อนจะโบกมือให้จ่อย
ขณะที่ตลาดอีกด้านเหตุการณ์ดูคล้ายกับว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งกำลังจะถูกจิ๊กโก๋ในตลาดรุมรังแก เป้แสยะยิ้มอย่างย่ามใจเมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะจนมุม เขาจะเอาคืนหญิงสาวหลังจากที่ต้องเจ็บตัวด้วยน้ำมือของหล่อน วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสเหมาะเพราะหญิงสาวมาคนเดียว เป้จะขอกู้ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายสักที
ร่างผอมเก้งก้างเอามือล้วงกระเป๋าก้าวขาช้าๆตรงเข้าหาหญิงสาวอย่างคนเป็นต่อ ไม่นึกแคร์สายตาหลายคู่ที่มองอย่างตำหนิ
แม้จะเรียกความสนใจของผู้คนที่ผ่านไปมา แต่ก็แค่หยุดมองดูอยู่ห่างๆโดยไม่มีใครคิดจะเข้ามาสอดเพราะไม่อยากเดือดร้อนกับเรื่องที่ไม่ใช่ธุระของตัวเอง ยกเว้นบุรุษร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม
“คุณปลัดจะทำอะไรหรือครับ”
คนอาวุโสกว่าถามขึ้นเมื่อเห็นปลัดหนุ่มหน้าคมเข้มที่มีสถานะเป็นถึงผู้บังคับบัญชาของเขากำลังลุกขึ้น หากพร้าวเดาไม่ผิด ปลัดหนุ่มที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่ถึงสองวันคงจะเดินไปยังจุดที่มีแม่สาวน้อยผู้น่าสงสารคนนั้น
“ลุงพร้าวไม่เห็นหรือไง เล่นหมาหมู่กับผู้หญิงคนเดียว”
ธนาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงมองไปฝั่งตรงข้ามที่สาวน้อยกำลังถูกพวกจิ๊กโก๋คุกคาม
“ผมว่าปลัดใจเย็นนั่งลงดูอะไรดีๆก่อนดีกว่าครับ”
คนสูงวัยเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น เพราะรู้จักไอ้พวกนั้นและหญิงสาวเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมั่นใจว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเหตุการณ์ต้องพลิกผันกลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังมือ
พร้าวยกกาแฟขึ้นซดทำปากขยุกขยิกก่อนจะกลืนลงท้อง พลางเลื่อนกาแฟเย็นที่แปะไล้เพิ่งยกมาให้ธนา
ปลัดหนุ่มยังไม่ทันได้ดูดกาแฟเสียด้วยซ้ำ ก็ได้ยินเสียงเอะอะจากฝั่งตรงข้าม
คนที่ขอกู้ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายด้วยการยกพวกรุมรังแกผู้หญิงคนเดียว กำลังร้องจ๊ากเหมือนลิงถูกกินสมอง เพราะไข่จำนวนหลายฟองลอยมากระทบหน้าจังๆจนมันไหลเลอะเทอะไปทั้งตัว
“นังกุ้งนาง! เอ็งทำหน้าหล่อๆของข้าเลอะไปหมดแล้ว”
เป้ลูบเปลือกไข่ที่ติดตรงหัวคิ้วก่อนจะตะโกนเอะอะเพราะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น
“แค่นี่ก็กลัวแน่จริงก็เข้ามาสิ”กุ้งนางท้าเหยงๆหัวเราะร่าเมื่อเห็นสภาพของอีกฝ่าย
“อย่าท้านะโว้ย! พวกเอ็งจับกุ้งนางไว้วันนี้ล่ะข้าจะขอจูบล้างอายสักทีหนึ่ง”
ศักดิ์กับแดงพยักหน้าแล้วตรงปรี่หมายจะฉุดยึดหญิงสาว แต่ทั้งสามยังไม่ทันได้แตะเธอแม้แต่ปลายเล็บก็ต้องส่งเสียงร้องดังไปถึงฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง
“ โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย!”เสียงร้องสามครั้งดังขึ้นติด
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีหมาหมู่ ทั้งส้มทั้งมังคุดที่หิ้วอยู่ในมือถูกใช้เป็นอาวุธจนเป้และพรรคพวกต้องล่าถอยไม่เป็นขบวน
คนที่ทำตัวเป็นพระเอกเมื่อครู่ต้องหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ เปลี่ยนใจขอนั่งดูพิษสงของหญิงสาวตาไม่กระพริบ
“เป็นไงครับปลัด จริงอย่างที่พูดไหม”พร้าวถามขึ้นพร้อมกับหัวเราะฮึ!
“ไม่น่าเชื่อ แม่นยังกับจับวางแล้วจะทำยังไงต่อของทุ่นแรงหมดแล้ว”
ปลัดหนุ่มถามพร้าวขณะที่ตายังมองไปที่หญิงสาว เมื่อมังคุดลูกสุดท้ายในมือถูกปาออกไป
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เดี๋ยวก็มีคนมาช่วย”
พร้าวพยักหน้าให้ธนามองตามไปอีกหัวมุมของถนนทำให้เห็นเด็กหนุ่มรูปร่างผอมกระหร่องกำลังวิ่งตรงไปยังจุดเกิดเหตุ
“เจ็บนะโว้ย! นังตัวแสบ”เป้เบี่ยงตัวหลบมังคุดลูกสุดท้ายแต่ก็ไม่พ้นแถมยังซ้ำตรงมุมปากที่แผลเดิม
“ดี! สมน้ำหน้าอยากปากดีนัก”กุ้งนางยืนท้าวเอวหายใจเข้าออกถี่ๆ
“เกิดอะไรขึ้นพี่กุ้งนาง”จ่อยเห็นลูกพี่กำลังมีเรื่องกับอริเก่ารีบวิ่งเข้ามายืนขวางระหว่างกลาง
“ไอ้พวกนี่มันหิว แต่แม่จัดเต็มให้เต็มคราบ...คงจะอิ่มแปล้กันแล้วมั้ง”
จ่อยมองสภาพแต่ละคนแล้วหัวเราะ โดยเฉพาะไอ้ตัวหัวโจกที่ยืนเอามือกุมปากเจ่อๆของมัน อยากจะสมน้ำหน้าแต่เมื่อเห็นว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายคนจึงสะกิดลูกพี่สาวแสบให้เตรียมตัวเผ่น
“ท่าจะหมดเรื่องแล้ว เตรียมเผ่นกันดีกว่า”
จ่อยหันมาจะคว้าของในมือของหญิงสาวที่ป้าเมี้ยนสั่งนักหนาให้มาช่วยหิ้ว แต่ก็คว้าได้แต่ถุงเปล่าเพราะลงไปแตกกระจายเลอะเทอะตามพื้นหมดแล้ว
แต่เหลือบไปเห็นรองเท้าผ้าใบที่แสนคุ้นตาข้างหนึ่งกำลังนอนตะแคงอยู่บนขอบถนนก็พอเดาเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้ เขารีบคว้ารองเท้าข้างนั้นส่งให้กุ้งนาง
“เดี๋ยวสิ เล่นหนีกับแบบนี้ ไม่แน่จริงนี่”สงสัยยังไม่เข็ดเป้ยังกล้าโดดเข้าขวางหญิงสาว
“เอ็งจะเอายังไง เจอเบอร์สามสิบสี่ไปไม่สะใจ อยากลองเบอร์ใหญ่กว่าใช่ไหม”จ่อยปรี่เข้าไปผลักอกเป้ ยกขาวางพาดกับเก้าอี้ใกล้ๆ
อีกฝ่ายมองต่ำลงไปแล้วถึงกับถอย เพราะรองเท้าของจ่อยมันใหญ่กว่าซ้ำร้ายตอนนี้เริ่มรู้สึกถึงสายตาของชาวบ้านที่กำลังมองเขาอยู่
“เออ! ฝากไว้ก่อนเถอะวันนี้ข้าจะยกให้สักวัน”คนเสียหน้าแต่ยังอยากรักษาฟอร์มตะโกนไล่หลัง
เมื่อทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกันไป กลุ่มไทยมุงก็สลายตามไปด้วย รวมทั้งคนที่เกือบได้เป็นพระเอกก็ไม่วายมองตามร่างบางไปจนลับตา
ความคิดเห็น