คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : รักในตลาดสด(1)
ตลาดสดของอำเภอกำลังจอแจไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าและผู้คนที่มาจับจ่าย รวมทั้งหญิงสาวที่มีรูปหน้าสวยจนทำให้ใครหลายคนต้องสะดุดตา โดยมีสาวใหญ่ที่อายุล่วงเลยเข้าสู่วัยทองอีกคน เมื่อทั้งคู่เดินผ่านร้านผักคนที่อ่อนวัยกว่าก็เอ่ยขึ้น
“อยากกินแกงส้มชะอมไข่ เย็นนี้ป้าช่วยทำให้กินหน่อยนะคะ”กุ้งนางหันไปบอกเมี้ยนเมื่อเห็นยอดชะอมอวบๆ
“ได้สิค่ะ เย็นนี้ป้าจะจัดให้สุดฝีมือเลย ว่าแต่คุณหนูอยากได้อะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า”หลังจากได้ยอดชะอมมากำใหญ่เมี้ยนก็ถามขึ้น
“พอแค่นี้ก่อนดีกว่า ทั้งป้าทั้งฉันไม่มีมือจะหิ้วอะไรแล้ว”หญิงสาวยกมือที่มีข้าวของพะรุงพะรังทั้งสองข้างให้ดู
“จริงด้วยสิ โธ่แม่คุณสงสัยจะหนักแย่เลย ว่าแต่ไอ้จ่อยมันหายหัวไปไหนนะ เผลอเป็นอู้แทนที่จะมาช่วยกันหิ้วของ คงจะหลบไปจีบสาวอีกแน่เลย”
“ไม่เป็นไรหรอกป้า ไม่ได้หนักหนาอะไร ฉันว่านะบางทีไอ้จ่อยของป้าอาจจะไปรอที่รถแล้วก็ได้”
ป้าหลานคู่นี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาแต่ไหนแต่ไร พอได้บ่นหลานชาย ป้าเมี้ยนของเธอของต้องขึ้นทุกครั้งไป ถ้าไม่ชวนเปลี่ยนเรื่องมีหวังคงบ่นยาวกลับถึงบ้านก็คงไม่หยุดบ่น
“ถ้าอย่างนั้นเราก็กลับกันเลยดีกว่า แต่..เดี๋ยวก่อนนะป้าเพิ่งนึกออกว่าไข่หมด คุณหนูรอตรงนี้นะคะป้าจะเดินกลับไปซื้อไข่ไก่ก่อน”
“ฉันเดินไปร้านตาแฉะเองดีกว่า ป้าไปรอที่รถเถอะ”
"แบบนั้นก็ได้ค่ะคุณหนูรีบไปรีบมาละ ป้าจะไปดูไอ้จ่อยมันด้วย ไม่รู้ว่าไปแอบหลีแม่ค้าร้านไหน”
หลังจากแยกกับเมี้ยนหญิงสาวก็ข้ามถนนไปร้านขายไข่เจ้าประจำ ตอนขากลับต้องเดินผ่านคิวรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จึงทำให้เธอเจอกับคู่อริ
“ไปไหนมาหรือจ๊ะน้องกุ้งนาง ดูสิหิ้วอะไรมาเยอะแยะเชียวให้พี่เป้ช่วยถือนะ”
คนที่แทนตัวว่า ‘พี่เป้’ เป็นลูกชายของกำนันอีกตำบลและเป็นเจ้าของสัมปทานคิวรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
เป้มีนิสัยเกเรไม่สนใจทำงานและมักมีปัญหากับคนทั่วไป จึงทำให้ได้ฉายา ‘มาเฟียเสื้อวิน’ เขาปาดเข้าหาหญิงสาว มือหยาบแย่งถุงในมืออย่างวิสาสะไม่สนใจสายตาดุๆของเจ้าของ
“นึกว่าไปซื้ออะไรมาที่แท้ก็ชมพู่นี่เอง”ไม้จิ้มฟันในมือถูกโยนทิ้งเปลี่ยนมาหยิบผลไม้สีแดงเข้มออกจากถุงหูหิ้ว
“ถ้าอยากกินก็เอาไปยกให้...ถือว่าทำทาน”
หญิงสาวไม่อยากเสวนาด้วย รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการหาเรื่องและกวนโทสะจึงเดินหลีกไปอีกทาง
“พูดแบบนี้ หาว่าพี่เป็นขอทานหรือจ๊ะ”เป้ตามมาดักหน้าพร้อมลูกกะเบ๊อีกสองคน
“แล้วแต่จะคิด ถ้าทำตัวเหมือนพวกเปรตอดอยาก คอยขอส่วนบุญก็รับไป”ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชายถึงสามคน แต่อย่าคิดว่าคนอย่างเธอจะนึกกลัว
“หลีกไปไม่มีอะไรทำหรือไง ถึงได้สะเออะมายืนเกะกะคนอื่น”เห็นเป้ทำตาวาวแต่ยังยืนนิ่งหญิงสาวก็ยิ่งเอือมระอา เบื่อที่ต้องทะเลาะกับอีกฝ่ายทุกครั้งที่เจอหน้ากัน
“จะรีบไปไหนล่ะอยู่คุยกับพี่ก่อนสิ ว่าแต่ชมพู่นี่มันน่ากินไม่ใช่เล่นเนอะ สีแด๊งแดงเหมือนแก้มเจ้าของ”แม้จะระคายหูกับถ้อยคำของอีกฝ่าย แต่เป้ก็ยังทำหน้าหนายื่นหน้าเข้าใกล้หญิงสาว
“พวกเอ็งว่าระหว่างชมพู่กับน้องกุ้งนางของข้า ใครมันจะหวานกว่ากันวะ”
เป้หันไปถามลูกน้องพร้อมกับโยนชมพู่ในมือให้เจ้าศักดิ์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“อยากรู้ว่าอะไรหวานกว่า พี่เป้ก็ชิมดูก่อนสิ”ศักดิ์รับผลไม้สีแดงมาโยนเล่นแล้วหันไปบอกลูกพี่ของเขา
“จริงด้วยสิเป็นความคิดที่ดีว่ะ”
คนที่กำลังกวนประสาทคนอื่นถูกใจกับความคิดของลูกสมุน จึงหยิบชมพู่อีกลูกมาเช็ดกับเสื้อตนเองแบบลวกๆ จากนั้นกัดคำโตเคี้ยวเสียงดังก้วมๆ
“อือ..หือ หวานจริงๆด้วยแฮะ อยากรู้จังว่าน้องกุ้งนางจะหวานเหมือนชมพู่ด้วยหรือเปล่า”เขายื่นหน้ามาใกล้หญิงสาวอีกครั้งพร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้ม
“ถอยออกไปนะ”
หญิงสาวผงะจนต้องถ้อยหนีพร้อมกับทำตาพอง แต่ยิ่งทำให้อีกฝ่ายลอยหน้าลอยตาอย่างถูกใจ
“แหม! พอมาคนเดียวเข้าหน่อยถึงกับถอยเลยหรือจ๊ะ สงสัยจะกลัวล่ะซิ มา..มะเดี๋ยวพี่เป้ไปส่งบ้านให้เอง”
เป้โยนชมพู่ในมือทิ้งยกมือขึ้นเสยผมให้เข้ารูปก่อนจะขยับทำเป็นจัดปกเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีแดงสดของตนให้เข้าที่
“ไม่ต้อง! ฉันมีปัญญากลับเองได้”กุ้งนางแสยะยิ้ม
“น่า..นะอย่าเล่นตัวนักเลย ปากร้ายๆแบบนี้มีใครที่ไหนจะกล้าจีบ นอกจากพี่เป้คนนี้คนเดียว”
คนฟังถึงกับตาลุกวาว เป้คงไม่รู้ตัวว่าคำพูดนั้นมันกระแทกตรงกลางใจดำของหญิงสาวอย่างจัง รู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมายังไงพิกล ‘ไอ้พวกปากแมวๆแบบนี้คงต้องหาอะไรเกาแก้คันแล้วล่ะมั้ง’
“เอาเวลาไปทำมาหากินหรือทำประโยชน์ให้ส่วนรวมจะดีกว่ามั้ง”เธอส่งสายตาขุ่นเขียว
“แต่เวลาอันมีค่าของพี่มีไว้ให้น้องกุ้งนางคนเดียวด้วยสิ”
คำพูดเลี่ยนๆยิ่งทำให้หญิงสาวโมโหจนหน้าแดง “ฉันบอกให้หลีกไป”
กุ้งนางตะโกนออกไปอย่างเหลืออด แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจของเหล่ามาเฟียเสื้อวินกลับมา
คนที่ยืนหน้าตึงตั้งแต่แรกผ่อนลมหายใจเข้าออกยาวๆเพื่อระงับโทสะ แต่มันก็ยากเย็นเสียเหลือเกิน บอกตัวเองว่าอย่าให้มีเรื่องโดยเฉพาะในที่สาธารณะมีคนพลุกพล่านแบบนี้
“จุ๊..จุ๊พูดไม่เพราะเลย เรียกพี่สิจ้ะ พูดจาหมาไม่แดกแบบนี้ เดี๋ยวก็หาผัวไม่ได้กันพอดี”
คำพูดของลูกพี่มาเฟียเสื้อวินมันช่างเป็นที่ถูกอกถูกใจของบรรดาลูกน้องจนทำให้เกิดเสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นอีกครั้ง
หารู้ไหมว่ายิ่งทำให้คนที่พยายามระงับโทสะเกิดตบะขาดผึง จากที่ตั้งใจจะไม่ให้มีเรื่องเหมือนกับครั้งก่อนๆคงต้องพักไว้ เพราะมันดูจะผิดธรรมเนียมไปสักหน่อย
เสียงหัวเราะลั่นมีอันต้องเงียบเมื่อร้องเท้าผ้าใบข้างหนึ่งลอยหวือออกจากเท้าของกุ้งนางไปกระแทกปากหัวหน้ามาเฟียเข้าอย่างจัง
“โอ๊ย!”
เป้ยกมือขึ้นลูบปากตนเอง รู้สึกได้ว่ามันบวมเจ่อขึ้นมาทันที และเหมือนจะมีเลือดซึมแต่อะไรก็ไม่เท่าที่ต้องเสียหน้าที่ถูกรองเท้าผู้หญิงกระแทกปาก
“กุ้งนาง! มันจะมากไปแล้วนะ”เสียงห้าวแผดดังขึ้น
“ไงล่ะเห็นว่าอยากชิมนักชิมหนา เป็นไงคอนเวิร์สของฉันหวานถูกปากหรือเปล่า”
หญิงสาวเป็นฝ่ายลอยหน้าลอยตาถามอีกฝ่ายพร้อมกับท้าวเอวหัวเราะชอบใจ
“นังกุ้งนาง อย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไร”
เมื่อยามเลือดตกยางออกสรรพนามก็เริ่มเปลี่ยนไป นักเลงขี้หลีตรงปรี่เข้าหาหญิงสาวหวังจะสั่งสอนให้หลาบจำ แต่กลับเป็นฝ่ายร้องเสียงหลงขึ้นอีกครั้ง
“เจ็บนะโว้ยนังตัวแสบ”
ร่างผอมเก้งก้างของเป้เซลงไปนั่งจุกกับพื้น เพราะถูกฝ่าเท้าของกุ้งนางยันเข้าเต็มๆที่หน้าท้องก่อนที่เป้จะถึงตัวกุ้งนางเสียด้วยซ้ำ
“เป็นยังไงมั้งพี่”ศักดิ์เข้าไปประคองลูกพี่
“ก็เจ็บสิว่ะ มึงลองบ้างไหมล่ะ”เป้ตะคอกอย่างหัวเสีย โมโหตัวเองที่ไม่เคยเอาชนะหญิงสาวได้สักครั้ง
“คราวนี้จะเอายังไงต่อ”แดงเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาประคองลูกพี่ของตัวอีกข้าง
“จะเอายังไงงั้นเหรอ เสือกถามมาได้แบบนี้ก็ต้องรุมสิมึง”
เมื่อตัวต่อตัวสู้ไม่ได้เขาก็ต้องจำใจใช้วิธีหมาหมู่ ทั้งสามจึงย่างสามขุมเข้าหาคนตัวเล็ก
แม้บริเวณนั้นจะมีคนผ่านไปมา มีหลายคนที่หยุดดูแต่กลับไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามายุ่งเพราะไม่อยากหาเรื่องเดือดร้อน ส่วนกุ้งนางนั้นกำลังถ้อยหลังสองสามก้าวไปตั้งหลัก เพื่อเตรียมรับมือกับพวกอันธพาล
ความคิดเห็น